พักร้อน พักใจ (เรื่องยาว) P 10.
ถ้าหากว่าซ้ำต้องขออภัยนะครับและขอโทษเจ้าของเรื่องด้วยนะครับเพราะว่าคัดลอกมาอีกที
พักร้อน พักใจ (เรื่องยาว) P 10.
“ไอ้พี่ปันบ้า...ปล่อยนะ...”ผมก็ได้แต่ดิ้นให้พี่ปันปล่อย พอมาถึงเตียงพี่ปันก็โยนผมลงบนเตียงทันที
“พูดจาไม่เพราะเลยนะเรา...”พี่ปันกระโดดขึ้นมาคร่อมทับผมอยู่
“พี่ปันครับ...ปล่อยไปป์นะ...ไปป์หิวข้าวจะแย่อยู่แล้วนะ...”ผมก็พยายามจะอ้อนพี่ปันให้ได้มากที่สุด ซึ่งก็เป็นผมพี่ปันคลายกอดผมออกแต่ก็ยังทับผมอยู่แถมยังก้มลงมาประกบจูบปากผม จนผมไม่ได้ตั้งตัวเลยลิ้นที่สอดเค้ามาในโพรงปากทำให้ผมครางอยู่ในลำคอ จนผมรู้สึกจะขาดอากาศหายใจอยู่แล้วจึงทุบหน้าอกพี่ปันเบาๆเป็นสัญญาณว่าจะไม่ไหวแล้ว
พี่ปันก็ค่อยๆถอนริมฝีปากออกมาอย่างอ้อยอิ่งแต่ก็ยังคลอเคลียริมฝีปากอยู่ที่ใบหน้าและลำคอผมอยู่ไม่ห่างจนลมหายใจอุ่นๆรดต้นคอผมอยู่
“ลามกจริงๆเลย แฟนใครเนี่ย”ผมก็แหวใส่ทันทีที่พี่ปันผลักออก
“ก็แฟนไปป์ไง...”พี่ปันก็ได้แต่ตอบออกมาหน้าตาเฉย
“ทะลึ่ง ลามก หื่นกาม...ชิ”ผมก็พูดใส่พี่ปันอย่างไม่ยอม
“ก็ไปป์บอกแล้วแต่พี่จะกินอะไร...ก็พี่จะกินไปป์ไง”พี่ปันยังคงหน้าด้านหน้าทนพุดออกมาอย่างไม่สนใจผมที่ตอนนี้โกรธจนหน้าแดงแล้ว ที่เถียงไม่ขึ้นสักที
“เอาเป็นอาหารซิ...ไปป์ไม่ใช่อาหารสักหน่อย”ผมก็พูดไปอย่างอนๆ ซึ่งพี่ปันก็รู้แล้วว่าผมงอน จึงดึงผมมาโอบทันที
“ไปป์หนะเป็นอาหารใจของพี่รู้มั้ย...ถ้าพี่ไม่มีไปป์ก็เหมือนพี่ไม่มีอากาศหายใจยังไงหละ”คำพูดที่หวานเลี่ยนทำเอาผมแทบอ้วก แต่ก็เขินจนหน้าแดง
“จะอ้วก...ไปหัดพูดมาจากไหนเนี่ย”ผมก็แซวพี่ปันเล่นบ้าง หลังจากที่หายงอนแล้ว (หายเร็วนะ)
“555...เพราะรักหรอกถึงพูดไป”พี่ปันก็พูดกระซิบเบาๆแต่ผมก็ได้ยินอย่างชัดเจน
“ไปกินข้าวเหอะ...สรุปจะกินอะไร”ผมก็เบี่ยงประเด็นอื่นแล้วถามพี่ปัน
“กินไปป์...555ล้อเล่นไปกินข้างนอกกันก็ได้ครับ”พี่ปันพูดติดตลอด ก่อนที่ผมจะเอาหมอนข้างมาฟาดให้ผมจึงเตรียมตัวลงไปข้างกับพี่ปันทันที โดยสรุปไปกินข้าวข้างนอก
“เอ่อนี่...ไปป์เตรียมตัวรึยัง”พี่ปันถามผมที่ขณะขับรถ
“เตรียมตัวอะไรเหรอ...งง”ผมก็ถามไปงงๆก็ยังไม่รู้เรื่องเลยหนิ
“ก็อาทิตย์หน้า...พ่อแม่พี่จะบินมาหาแล้วนะครับ...ไปป์ต้องไปหาท่านด้วย”พี่ปันก็อธิบายออกมา
“อ๋อ...ครับๆ...............เฮ้ย...อะไรนะไปหาพ่อแม่พี่ปัน”คำตอบพี่ปันทำเอาผมทำอะไรไม่ถูกจริงๆอะไรมันจะเร็วขนาดนั้นรู้สึกว่าเพิ่งคุยเรื่องนี้กัน 2-3 วันเอง เตรียมตัวไม่ทันจริงๆ
“ทำไมเร็วจังหละครับไปป์เตรียมตัวเตรียมใจไม่ทันจริงๆนะ”ผมก็พูดออกไปอย่างหงอยๆจนพี่ปันหัวเราะออกมา
“ทำไมต้องเตรียมตัวเตรียมใจด้วยหละ “พี่ปันหันมาถามผมขณะรถติดอยู่ไฟแดง
“ก็ไปป์กลัวนิ...ช่วงนี้ก็ไม่ค่อยดูดีเลยแล้วพ่อแม่พี่จะชอบผมหรอ”ผมก็พูดออกไปตามตรงมันก็จริงๆนิเค้าจะรับได้หรอที่แฟนลูกชายเค้าเป็นผู้ชาย
“พี่บอกแล้วไง...พ่อแม่พี่ใจดีจะตายไป”พี่ปันพูดก่อนจะเคลื่อนรถออกไปต่อ ผมก็ได้แต่นั่งคิดอะไรเงียบอยู่คนเดียวพี่ปันที่เห็นว่าดูเงียบจึงเปิดเพลงเบาๆในรถ
จนในที่สุดพวกผมก็ถึงร้านอาหารแล้วซึ่งมันอยู่แถวๆย่านทองหล่อ (ของกิน ร้านอาหารเยอะมากๆ)พี่ปันก็เดินนำหน้าผมเข้าไปในร้านอาหารร้านนึงเป็นอาหารไทย-จีนผมเห็นพี่ปันคุยอะไรกับพนักงานก็ไม่รู้ พนักงานจึงพาพวกผมไปยังชั้นสองซึ่งถ้าเป็นชั้นแรกจะเป็นโต๊ะธรรมดา แต่พอขึ้นมาจะถูกแบ่งเป็นห้องๆภายในห้องก็เหมือนเป็นห้องคาราโอเกะอ่าคัฟมีโซฟา ทีวี โต๊ะอาหารห้องสีขาวดูสบายตาดี
“ไปป์กินอะไร...สั่งเลย หรือจะให้พี่สั่งให้”พี่ปันที่พลิกดูเมนูเงยขึ้นมาถามผม
“พี่สั่งให้ผมด้วย ผมกินได้หมดแหละ”ผมก็ตอบออกไป ขี้เกียจดูเมนูอาหาร แฮะๆ
“ได้ครับ คุณแฟน”พี่ปันแซวผมทำเอาหน้าแดงเลย ดีนะที่พนักงานยังไม่มารับออเดอร์ ไม่งั้นขายหน้าแย่เลยเราสักพักพนักงานก็เข้ามารับออเดอร์ พี่ปันก็สั่งนู้นสั่งนี่ไป กับข้าว 3 - 4 อย่างและข้างโถหนึ่ง ผมสังเกตพี่ปันสั่งแต่พวกหมู-ไก่ทั้งๆที่มีพวกอาหารทะเลก็มี แต่พี่ปันก็ไม่ได้สั่ง ผมจึงสั่งผัดกระเพาะปลาทะเลมาจานนึงให้พี่ปัน เพราะพี่ปันชอบมากเมนูนี้แล้วพนักงานก็เดินออกไป
“ไปป์...สั่งเพิ่มทำไมมันอาหารทะเลนะนั้น”พี่ปันถามผมแบบงงๆ
“ก็ให้พี่ทานไงผมอยากตามใจพี่บ้างไม่ได้อยากให้พี่ตามใจผมตลอดนิ”ผมก็เอ่ยออกไปพี่ปันก็ดูจะยิ้มมีความสุข
“แฟนใครเนี่ย...น่ารักจังเลย”พี่ปันก็เขยิบตัวมาโอบผม
“ก็แฟนพี่แหละ...แต่ไปป์ออกจะหล่อ ไม่เห็นน่ารักเลย”ผมก็เอ่ยยออกไป รู้สึกไม่ชอบคำนี้เท่าไหร่ มันดูเป็นผู้หญิงๆยังไงก็ไม่รู้
“น่ารักอ่าดีแล้ว...ตัวขาวๆเนียนๆปากชมพูๆถึงจะสูงแต่ก็ดูตัวเล็กอยู่ดี ออกจะน่ารัก”พี่ปันก็เอ่ยสรรพคุณออกมาจนผมเขินหน้าแดงเลย
“ปากหวานจริงๆนะ”ผมก็อายเลยว่าออกไปแก้เขิน
“555...แต่ไปป์หวานทั้งตัวเลยนะ”พี่ปันยังคงแกล้งผมไม่เลิก
“พี่ปัน...เพี๊ยะ” จนผมต้องฟากแขนไปทีนึงเพื่อให้หยุด
แล้วสักพักพนักงานก็เดินนำอาหารเข้ามาเรื่อยจนครบทุกอย่าง ผมกับพี่ปันก็นั่งทานกันอย่างเอร็ดอร่อยนานแล้วที่ไม่ได้ออกมาทานอาหารข้างนอกกันแบบนี้เพราะส่วนใหญ่ผมจะทำกินกันในห้องซะมากกว่า พี่ปันก็คอยตักนู้นตักนี่ให้ผม
“พอแล้วพี่...เดี๋ยวไปป์ก็อ้วนกันพอดี”ผมบอกเพราะมันจะล้นจานแล้ว
“อะไรกัน...กินเยอะซิ...แค่นี้ไม่อ้วนหรอก”พี่ปันก็บอกพลางคะยั้นคะยอให้ผมกินต่อ
“ก็ไปป์อิ่มแล้วหนิ”ผมก็บอกพลางทำหน้ามุ้ย
“เดี๋ยวนี้ไปป์ ผอมลงไปตั้งเยอะพี่ว่าเราต้องฝืนกินหน่อยแล้วนะ ผอมไปมันไม่ดีหรอก เชื่อพี่ซิ”พี่ปันพูดพลางกุมมือผมไว้ อย่างห่วงใย ผมก็ได้แต่ยิ้มจางๆแล้วตักอาหารใส่เข้าปากไปจนหมดจาน พี่ปันก็ดูจะแฮปปี้มากๆเช่นกัน
“อิ่มจังเลยพี่ปัน”ผมพอกินเสร็จก็รู้สึกว่ามันจะถึงคอแล้ว เพราะปกติผมก็กินน้อยอยู่แล้วแต่วันนี้โดนสั่งให้กินเยอะจึงฝืนกิน
“พี่ว่าไปป์ ไปหาหมอหน่อยมั้ย”พี่ปันถามผม
“หาหมอ ทำไม”ผมถึงกับงงเลยเพราะอยู่ดีจะให้เราไปหาหมอ ก็ผมก็สบายดีนิ
“ก็พี่ว่าไปป์ไม่ค่อยเจริญอาหารเท่าไหร่...จะเป็นอะไรรึเปล่าก็ไม่รู้”พี่ปันพูดอย่างห่วงๆ
“คิดมากนะพี่...ผมไม่เป็นอะไรหรอก สบายใจได้”ผมก็ตอบออกไป พลางฉีกยิ้มไปให้พี่ปัน ซึ่งทำหน้าเครียดๆอยู่ได้
“คนรักพี่ทั้งคน ไม่ห่วง ไม่คิดมากก็บ้าแล้ว”พี่ปันพูดก่อนจะดึงผมให้ไปซบอยู่ที่อกอุ่นๆของพี่เค้าผมก็ก็กอดรับเป็นอย่างดี รู้ว่าเป็นห่วง แต่ผมก็สบายดีไม่ได้เป็นอะไรซักหน่อยพี่ปันจึงจัดการจับหน้าผมให้ไปมองหน้าพี่เค้า แล้วค่อยก้มลงมาจุมพิตผมเบาๆ ก่อนจะเริ่มเป็นหนักหน่วงขึ้นผมถึงกับสะดุ้งทำตาโตเลย แต่พี่ปันดันผมให้นอนราบไปกับโซฟาผมก็ขืนตัวเบาๆจนพี่ปันค่อยๆถอนจูบออกมา
“ทำอะไรหนะ...พี่ปัน”ผมแหวใส่ทันทีก็นี่มันร้านอาหารนะ ถ้าใครเปิดประตูเข้ามาเห็นจะทำไง
“ก็ไปป์ ทำตัวน่ารัก”คำตอบสั้นทำเอาผมแทบจะเป็นลมแต่พี่ปันก็ก้มลงมานัวเนียที่คอผม อย่างไม่ลดละ ผมถึงกับผลักพี่ปันออกไปอย่างแรง
“พี่ปัน...ต้องไม่ใช่ตรงนี้นะ”ผมพูดแค่นั้นก็ลุกขึ้นหยิบกระเป๋าตังออกจากห้องไปทันที คนอะไรทำได้ทุกที่ทุกเวลาผมเดินออกมาก็เห็นพนักงานจึงบอกให้เก็บเงิน แล้วจ่ายเงินไป ให้นำใบเสร็จไปให้คนในห้องด้วยผมก็เดินลงมายังนอกร้าน รู้สึกขุ่นเคืองอารมณ์จริงๆสักพักพี่ปันก็วิ่งตามผมมาจนได้
“ไปป์...รอพี่ด้วยซิ...โกรธพี่เหรอ”พี่ปันรีบฉุดมือผมไว้ทันที
“เปล่า...ไม่ได้โกรธ...แต่ไม่ชอบที่พี่ปันทำเมื่อกี้”ผมก็หันไปตอบแบบห้วนๆ แสดงความไม่พอใจออกมา
“พี่ขอโทษนะ...พี่แค่แกล้งเล่นๆเอง”พี่ปันยังคงตื้อผมอยู่ แต่ก็เปิดประตูรถดันผมเข้าไปในรถ
“ถึงจะแกล้งก็เถอะ...ไปป์ก็ไม่ชอบอยู่ดี...”ผมบอกไปแต่ก็หันหน้าไปทางกระจก
“พี่ขอโทษนะครับไปป์...ไม่ได้ตั้งใจนะครับ”พี่ปันจับผมมือแน่นมากๆ
“ไปป์ไม่ได้รังเกียจสัมผัสของพี่ปัน...แต่ไปป์แค่ไม่ชอบที่พี่ทำเมื้อกี้มันเหมือนไปป์ไม่มีคุณค่าเอาซะเลย จะทำตรงไหน ที่ไหนก็ได้ งั้นเหรอ”ผมก็พูดออกไปแบบเรียบ เพราะจะควบคุมให้ใจเย็นลง
“ไปป์...ไปป์มีคุณค่ามากๆสำหรับพี่เสมอนะครับ...ยกโทษให้พี่นะครับ”พี่ปันพูดอ้อนๆ พลางเอามือผมไปแนบกับหน้าพี่ปัน
“อืม...ก็ได้”ผมตอบออกไปแค่นั้นพี่ปันก็ดูร่าเริงอีกครั้ง
“แล้วไปป์จะไปไหนต่อรึเปล่า...”พี่ปันถามผมผมจึงดูนาฬิกาก็ประมาณบ่าย 3 โมงแล้ว อากาศก็ร้อนเกิน
“กลับห้องกันดีกว่ามั้ย”ผมเสนอไป
“ไม่ซื้ออะไรแล้วใช่มั้ยครับ”พี่ปันถามผมอีกที
“อื้ม...อยากกลับห้องและ ร้อนๆ”ผมก็บอกเพราะมันก็แดดแรงจริงๆ
“แหม...อยากกลับไป...ก็ไม่บอก”พี่ปันก็แซวผมอีกและอุตส่าหายโกรธไปแล้วนะ
“พี่ปัน...”ผมแหวใส่ทันที
“ครับๆ...กลับก็กลับ”พี่ปันยิ้มแฮะๆ ก่อนจะเคลื่อนรถออกไปผมลืมตาตื่นขึ้นมาในเช้าของวันพุธ เพราะแสงแดดเข้ามาแยงตาผมจนต้องเบือนหน้าหนี แต่หันมาอีกข้างก็เห็นเจ้าชายแสนรูปหล่อนอนหลับพริ้มอยู่มือกอดเอวผมไว้แน่น ผมถึงกับอมยิ้มออกมาแล้วค่อยลุกขึ้นไปเข้าห้องน้ำเพื่อทำธุระส่วนตัว จนเสร็จพอออกจากห้องน้ำพี่ปันก็ยังคงนอนหลับอยู่บนเตียง
ผมจึงเดินไปแต่งตัว แล้วออกมานั่งโซฟาอยู่ข้างนอกใจผมก็กำลังคิดว่าอีก 2 - 3วันข้างหน้าเราจะได้เจอพ่อแม่ของพี่ปันแล้วจะวางตัวยังไงดี ตื้นเต้นจังผสมกับความกลัวด้วยผมก็นั่งคิดนู้นคิดนี่ไปเรื่อยจนไม่ได้สนใจเลยว่ามีคนเดินมาอยู่ข้างหลังผม
“ฟอด...ตื่นแต่เช้าเลยนะไปป์”พี่ปันหอมแก้มผมจากทางด้านหลังแล้วจึงพูดขึ้นผมถึงกับสะดุ้งโหยงเลย พี่ปันจึงเดินมานั่งข้างๆผม
“ไม่เช้าแล้วนะ...นี่ 9 โมงแล้วนะพี่ปัน”ผมหันไปบอก พี่ปันซึ่งหน้าตายังงัวเงียอยู่ คงยังไม่ได้อาบน้ำแปรงฟันแน่ๆ
“ก็พี่ยังง่วงอยู่เลย...”พี่ปันพูดไปก็หาวไปแล้วล้มตัวนอนที่ตักผมทันที
“ง่วงก็เข้าไปนอนในห้องซิ...ไปป์หนักนะ”ผมบิดตัวหนี สะกิดให้พี่ปันลุกขึ้น
“ไม่เอา...จะนอนกอดไปป์ตัวหอมๆ”พี่ปันก็คว้าเอวผมไว้แน่นเลยผมได้แต่ส่ายหน้าเอือมๆ ใครกันแน่ที่เป็นเด็กน้อย...ชิทำเลยได้แต่ปล่อยเลยตามเลยไป จึงหยิบรีโหมดทีวีมาเปิด แต่ก็หรี่เสียงให้เบาเพื่อจะไม่ให้รบกวนคนที่หลับอยู่ที่ตักผม ผมก็นั่งดูนู้นดูนี่ไปเรื่อยๆแล้วโทรศัพท์ผมก็ดังขึ้น
“ฮัลโหลครับแม่...”ผมกล่าวทักแม่ไปเพราะดูเบอร์ที่เมมเอาไว้ ก่อนจะกดรับสาย
“ไปป์...ตื่นยังเนี่ยลูก”แม่ถามผม
“นานแล้วครับแม่...มีอะไรรึเปล่า”ผมถามไปด้วยความสงสัย เพราะพ่อ แม่ พี่ชายผมเพิ่งกลับมาเมื่อวานนี่เอง
“ก็แค่จะบอกว่าให้มาเอาของฝากพี่ปันที”แม่พูดแบบร่าเริงทันทีที่พูดถึงพี่ปัน ก็ลูกรักแม่เค้านิ...ชิ
“อ้าว...แล้วของไปป์หละ”ผมถามแบบงอนๆ
“ไม่มี...ได้เยอะแล้วเรานะ มาเอาด้วยนะ แค่นี้นะลูก”แม่ผมพูดเสร็จก็วางสายไปทันที ปล่อยให้ผมงงๆอยู่คนเดียวทีของลูกตัวเองไม่มี แต่ของพี่ปันหละมี ชิชะ งอนๆ
ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ ขอบคุณนะครับ 555555 น่าสงสารไปป์
หน้า:
[1]