vboy โพสต์ 2013-10-24 11:31:12

น้องๆ ม.ต้นที่รัก ตอน ตลุยค่ายอาสาพัฒนา3

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย vboy เมื่อ 2013-10-24 11:34

สายลมพัดผ่านต้นไผ่ไหวเอนเสียดสีกันเอียดอ๊าดดังผ่านเข้ามาทางหน้าต่างทำให้ผมรู้สึกตัวตื่นขึ้นมากลางดึก แสงจันทร์สาดส่องเป็นเงารางๆ เด็กหนุ่มกับเด็กน้อยทั้ง 2 คนยังคงนอนหลับสนิท ขนาบข้างผมอยู่ไอ้ตัวเล็กนี่ก็นอนแหกแข่งแหกขาได้ใจจริงๆเห็นไอ้ตัวเล็กมันแบบนี้ มันทำให้ผมก็รู้สึกทนไม่ไหว   ผมต้องปลดปล่อยอะไรออกมา จะอยู่เฉยๆแบบนี้ไม่ได้แต่ไม่สามารถ มันจะต้องปล่อยออกข้างนอกอย่างเดียว จะปล่อยข้างในไม่ได้ เพราะข้างในมันไม่มีจริงๆแล้วในตอนนี้ผมรู้สึกปวดฉี่มาก ห้องน้ำในบ้านก็ไม่มีห้องน้ำที่นี่อยู่นอกตัวบ้านถ้าผมจะฉี่ผมต้องออกไปนอกบ้านถ้าปล่อยข้างในนี้มันไม่ดีแน่นอน ผมเลยไม่สามารถปล่อยออกข้างในได้    (ผมแค่อยากจะเล่าว่า ผมตื่นมากลางดึกเพราะปวดฉี่ แค่นี้แหละ เล่าซะยาวเลย...เนอะ..!!!)ผมจึงต้องมุดมุ้งออกมาด้วยเสียงอันเบาที่สุดด้วยความเกรงใจไม่อยากทำอะไรให้เสียงมันดังถ้าผมจะออกหลังบ้านผมต้องเดินผ่านมุ่งของพี่สมรกะน้าชู ก็กลัวเขาจะตื่น ผมเลยตัดสินใจออกมาหน้าบ้าน นอกชานบ้าน ทำไมมันช่างมืดได้ขนาดนี้ถ้าเป็นกรุงเทพไม่มีวันมืดเป็นอันขาด อย่างน้อยก็ยังมีไฟถนนแต่ที่นี่ไม่มีไฟอะไรซักอย่างนอกจากแสงจันทร์ ที่ยังพอนำทางผมไปสู่ห้องน้ำได้พอเข้าห้องน้ำเสร็จความรู้สึกโล่งที่ได้ปลดปล่อยนี่มันมีความสุขจริงๆพอฉี่เสร็จความคิดพิเรนมันก็ผุดขึ้นมาในสมองผมอยากเดินแก้ผ้าอาบแสงจันทร์ กลางลานหน้าบ้านทามกลางต้นไม้ใบหญ้าดังนั้นผมจึงถอดกางเกงมาถือไว้ เดินกางขาแก่วงหำตัวเองไปทางคอกวัว(ของข้าก็ใหญ่ไม่แพ้ใคร จะแพ้ก็แต่เอ็งแหละว๊ะ ไอ้เจ้าวัว..)   ผมได้ยินเสียงแกกๆมาจากบนบ้าน ผมเลยต้องรีบวิ่งไข่แกว่งเข้ามาใต้ถุนบ้านอย่างเร็วที่สุด แล้วใส่กางเกง ทันทีทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้เดินขึ้นระเบียงบ้านมา แล้วเดินเข้ามาในบ้านน้าชูเอาไฟฉายส่องออกมาจากในมุ่งผมเลยรีบบอก“ผมเองครับ...ไปห้องน้ำมา”น้าชูเลยว่า“อ่าว...นึกว่าใคร”   ผมเลยต้องรีบมุดเข้าไปในมุ้งนอนต่อวันที่ 4    ความลับผมตื่นมาพร้อมกับแสงไปนิออนกลางบ้าน น้าชูกับพี่สมร เตรียมจัดข้าวของจะไปวัด ดูบรรยากาศออกไปทางหน้าต่างฟ้ายังมืดอยู่ ก็คงหน้าจะประมาณซักตี4 ตี5เจ้าอ้นกะเจ้าน้องอาร์มยังนอนหลับสนิทมันเป็นหลักแห่งอภิมหาสากลโลกที่ตอนเช้าตื่นมาต้องกระเจี๊ยวโด่ ถ้าไม่โด่ถือว่ามีความผิดปกติทางเพศต้องรีบหาทางแก้ไขเช่นเดียวกับเจ้าน้อง 2 คนที่นอนข้างผม โด่ทิ่มออกมา กางเกงแทบจะปริขาดของผมเองก็โด่สู้ไม่แพ้เจ้า 2 คนนี่มือขวาผมใช้3นิ้วปั่นกระเจี๊ยวของเจ้าอาร์ม มือซ้ายผมใช้มือกำชักของเจ้าอ้นใช้มือชักได้ไม่เท่าไหร่เจ้าอ้นมันก็ตื่นยกเข่าดันมือผมออกจากกระเจี๊ยวมันแล้วนอนพลิกตะแคงหันหลังให้ผมผมเลยหันมาเล่นกระเจี๊ยวเจ้าน้องอาร์มที่ยังหลับสนิทอยู่ผมสอดมือเข้าไปในกางเกง แม้มปากใช้มือปั่นกระเจี๊ยวเจ้าอาร์มด้วยความหมั่นเขี้ยว เจ้าน้องอาร์มันก็ตื่นบิดขึ้เกียดแอ่นเอวรับการปั่นกระเจี๊ยวมันจากผม แล้วมันก็พลิกตัวมาเอามือกอดเอาขาก่ายผม โดยที่มันไม่ได้สนใจมือผมที่ปั่นกระเจี๊ยวมันอยู่จากนั้นก็มีเสียงปลุกจากน้าชู“อ้าว...ตื่นๆๆๆๆ...ไปวัดกัน..ไปวัดกัน...”ผมเลยต้องรีบลุกขึ้นนั่งแล้วปลุกเจ้า 2 คนนี้ ผมต้องนั่งอยู่ในมุ้งซักพัก เพื่อให้ไอ้สิ่งที่อยู่ในกางเกงผมสงบลงซะก่อนไม่งั้นขืนเดินออกไปทั้งอย่างงี้ มันจะชี้หน้าใครต่อใครชวนทะเลาะเค้าไปทั่วแล้วพวกเราก็ลงมาทำธุระส่วนตัว อาบน้ำอาบท่า แกล้งเจ้าอาร์มมันเล่นชวนเจ้าอ้นมันคุยเจ้าอ้นมันก็พยายามมองหน้าผมผมก็ทำเป็นไม่รู้ไม่ชึ้ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นเมื่อคืนนี้ ที่ทำน้ำมันแตกคาปากผม ทำตัวตามปกติแล้วก็ขึ้นมาเปลี่ยนเครื่องแต่งตัว กินอะไรรองท้องคนละนิดละหน่อยแล้วพวกเราก็ออกเดินทางไปทำบุญที่วัดกันวัดนี้ก็อยู่เลยออกไปจากตลาดปากคลอง ที่ผมเคยมาซื้อของกันวัดนี้ก็เป็นวัดธรรมดาๆในชนบทก็มีชาวบ้านมาร่วมทำบุญกันมากมาย แล้วผมก็เจอพวกน้องๆนักศึกษาก็มาทำบุญกันด้วย บริเวณวัดและรอบๆนอกวัดก็มีการจัดเต้นมีร้านอาหาร ข้าวของยังวางกันอยู่อย่างระเกะระกะหลังจากทำกิจกรรมที่วัดกันเสร็จเราก็เดินทางกลับมาที่โรงเรียน พร้อมๆกับพวกนักศึกษาและไอ้ชาติวันนี้เราเริ่มงานก่อสร้างกันสายหน่อย แต่ก็เริ่มงานด้วยกับความอิ่มบุญผมชวนเจ้าอ้นให้มาช่วยงานที่โรงเรียนด้วยแต่มันก็ปฏิเสธ ผมก็ไม่ลดความพยายาม ตื้อมันจนมันใจอ่อนบอกผมว่าขอไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนเดี๋ยวมาผมเลยตามมันไปด้วยเพื่อไปเก็บเสื้อผ้าที่ซักเอาไว้และมันก็เป็นไปอย่างที่ผมคิด ผมไม่ได้กลับไปที่บ้านกับเจ้าอ้นแค่ 2 คนคือมันมีเจ้าน้องอาร์มที่เป็นเงาตามผม ตามมาด้วยในที่สุดผมก็ลากเจ้าอ้นมาช่วยงานที่โรงเรียนได้การก่อสร้างห้องน้ำนั้นเสร็จไปเกินกว่า70%แล้วหลังคาเสร็จแล้วกำลังก่อกำแพงกั้นห้องน้ำเป็นห้องๆและมีบางห้องที่ช่างเขากำลังฉาบปูบวันนี้เราช่วยงานทำห้องน้ำกันทั้งวันจนเย็นครูใหญ่ขับรถเข้ามาดูงาน ไอ้ชาติก็เลยออกไปต้อนรับครูใหญ่ไม่ได้มาคนเดียวมีลูกสาวกะลูกชายมาด้วยลูกชายที่วัยเดียวกับเจ้าอ้น พอเห็นเจ้าอ้นก็เลยเดินมาหาแล้วร้องทัก “เฮ้ย..ไอ้แหย!..มึงมาช่วยงานกะเค้าที่นี่ด้วยเหมือนกันหรอ” เจ้าอ้นก็ไม่ได้ตอบอะไรก็ได้แต่ยิ้มและมองหน้าแบบเจื่อนๆแต่ผมดันมาสดุจที่คำพูด ที่ลูกครูใหญ่เรียกเจ้าอ้นว่า ไอ้..แหย.. คงเป็นเพราะความที่เป็นคนเงียบๆติ๋มๆไม่สนใจใครเจ้าอ้นมันเลยได้ฉายานี้กระมัง...จากความใกล้ชิดจากการสังเกตพฤติกรรมบุคลิกท่าทาง ของเจ้าอ้น มันเหมือนมีอะไรหลบซ้อน และปิดบังอยู่ด้วยกับเซ้น!และสติปัญญาแบบจีเนียส (ที่แปลว่าอัจฉริยะอ่ะ แต่สะกดภาษาอังกิดไม่ถูกแล้วมันอัจฉริยะตรงไหนว๊ะกู สะกดไม่ถูกเนี่ย งงตัวเองเหมือนกัน) เอาเป็นว่า ผมรู้ว่าเจ้าอ้นเนี่ยไม่ใช่ผู้ชายเต็มร้อยเปอร์เซ็น มันมีเชื้ออยู่ แต่ไปในทิศทางไหนนั้นผมไม่แน่ใจจะด้วยกับอะไรไม่ทราบครอบครัว สังคม สิ่งแวดล้อม ที่เป็นชนบทการยอมรับมันเลยมีส่วนที่ทำให้เจ้าอ้น เป็นคนเงียบ ไม่ค่อยสุงสิงกับใครและเก็บความรู้สึกของจิตใจที่แท้จริงเอาไว้   อีกอย่างหนึ่งที่เจ้าอ้นเริ่มที่จะสนิทกับผมเพราะเจ้าอ้นอาจจะมองเห็นอะไรในตัวผมเหมือนกับที่ผมมองเห็นอะไรในตัวมัน (ที่เขาเรียกว่า ผีย่อมมองเห็นผีด้วยกัน)วันนี้หัวหน้าโครงการ(ไอ้ชาติ)อนุญาตให้เลิกงานไวจะได้ไม่เหนื่อยมาก เพราะคืนนี้พวกเราจะไปเที่ยวงานวัดกันไอ้ชาติมันถามผมว่าจะไปเที่ยวงานวัดด้วยกันไหมผมเลยบอกมันว่าผมจะไปกะน้าชูกะพี่สมรไอ้ชาติมันก็เลยไม่ได้ว่าอะไรแต่ใจจริงผมอยากไปกะเจ้าอ้นมากกว่าแต่ก็มีเจ้าน้องอาร์มพ่วงท้ายไปด้วยแน่ๆพอตกเย็นผมก็ไปเตรียมตัวที่บ้านน้าชูน้าชูกะพี่สมรจะออกไปวัดกันก่อน ผมกะอ้นบอกกะน้าชูว่าจะไปกันค่ำๆรอคนเยอะหน่อยแล้วค่อยไปใจจริงเราอยากจะแยกกันไปอยู่แล้ว จะได้เอารถไปคนละคัน เผื่อคืนนี้จะได้กลับดึกได้เจ้าน้องอาร์มก็ไม่วายจะตามผม ไม่ยอมไปกะน้าชูพอใกล้ค่ำเราก็เอารถออก เราไปกันด้วยรถมอร์ไซต์คนแถวนี้ส่วนใหญ่จะมีมอร์ไซต์กันทุกหลังผมเป็นคนขับเจ้าอ้นซ้อน เจ้าอาร์มนั่งข้างหน้าผมแต่เราต้องไปเติมน้ำมันกันก่อน แถวนี้ไม่มีปั้มน้ำมันเราเลี้ยวเข้าไปในบ้านของชาวบ้านหลังหนึ่งใต้ถุนบ้านเขาจะมีถังน้ำมัน เอาไว้ขาย เขาเรียกน้ำมันหลอดมีถังน้ำมัน มีที่หมุนปั้มดูดน้ำมันขึ้นมาที่หลอดแก้ว ที่หลอดแก้วจะมีขีดราคาบอก20 50100ไม่ยักกะบอกปริมาณว่า 20 เนี่ยได้ปริมาณเท่าไหร่แล้วก็มีสายยางปล่อยน้ำมันใส่ถังรถเรา
จากนั้นเราก็บึ่งรถไปที่งานวัดฟ้าเริ่มมืดแสงสีเสียงของงานวัดสว่างราวกับตอนกลางวันมหรสพดังสนั่นตั้งแต่ยังไปไม่ถึงวัดพอมาถึงมันช่างแตกต่างจากเมื่อเช้าที่มาทำบุญกันงานนี้มีทั้งในวัดและบริเวณรอบนอกวัดแต่งานจะอยู่โดยรอบวัดซะส่วนใหญ่ ในวัดก็จะมีพวกงานปิดทองฝังลูกนิมิตอะไรอย่างงั้นงานใหญ่มากๆไม่นึกว่าวัดเล็กๆจะจัดงานได้ใหญ่ขนาดนี้และคนก็เยอะมากด้วยไม่รู้มาจากไหนกัน ผมก็พยายามจะเดินดูให้ทั่วรอบๆบริเวณงานก่อน แล้วค่อยมาเริ่มต้นว่าเราจะเริ่มกันที่จุดไหนข้าวเย็นเราก็ไม่ได้กินกันมาก็กะจะมาซัดกันที่นี่แหละ กองทัพเดินด้วยท้อง เราเลยเริ่มหาอะไรกินกันก่อนเจ้าอาร์มมันก็เดินจูงมือผมไม่ได้ปล่อยเลย ปากมันก็พูด มือมันก็ชี้โน้นชี้นี่ไปเรื่อยเราเริ่มกันที่ร้านก๋วยเตี๋ยว แล้วก็นั่งมองดูคนที่มาร่วมงานและมองบริเวณโดยรอบก็มีชิงช้าสวรรค์ 2 วงมีรถไฟเหาะ แต่ก็ไม่ได้เหาะถึงขนาดของสวนสยามหรอกน๊ะ เหาะแค่พอสนุก มีรถบ้ำหลังจากเรากินกันแล้วก็ไปเริ่มกันที่ชิงช้าสวรรค์ เป็นคำรีเควส( แปลว่าไรหว่า...? ) มาจากน้องอาร์มและผมก็เห็นด้วย จะได้มองเห็นมุมสูงของบริเวณงานจากข้างบน มันก็ได้บรรยากาศที่แตกต่างไปอีกแบบราคาก็ไม่แพงเขาคิดแค่คนละ5บาท นั่งวน2รอบ

หลังจากลงจากชิงช้าเราก็ลงมาเล่นเกมส์เกือบทุกเกมส์ไม่ว่าจะเป็นปาโป่งยิงปืนด้วยจุกก๊อกโยนห่วงครอบปากแก้วโบว์ลิ่งลูกมะพร้าว   ช้อนปลาทองด้วยที่ตักที่ทำจากกระดาษ   ทุกกิจกรรมที่เราเล่นก็จะมีการท้าทายกันแข่งกันคุยข่มกัน หยอกล้อกันอย่างสนุกสนาน ตอนที่เราเล่นรถบ้ำชนกันนี่สุดยอด บริเวณโดยรอบมันก็จะมีกลิ่นควันเหมือนกลิ่นอ๊อกเหล็ก เสียงดนตรีจะดังสนั่น จะมีดีเจจะคอยพูดยั่วยวนท้าทายผมกะเจ้าอ้นเล่นกันคนละคัน น้องอาร์มจะนั่งอยู่กับผมเขาไม่ให้เด็กเล่นคนเดียวเพราะมันอันตรายเกินไป ที่รถมันจะมีสายคล้องที่ไหล่2ข้างเพื่อเวลาชนกันแล้วจะได้ไม่กระเด็นตกนอกรถ ผมกะเจ้าอ้นนี่ซัดกันต็มที่ ยิ่งมีสาวๆมาอยู่ในก้วนด้วยนี่ ผมจะส่งซิกกะเจ้าอ้น ให้ชนแบบอัดก๊อบปี้หน้าหลัง กระเด็งกระเด็นกันมันส์มาก ดูท่าทางเจ้าอ้นจะมีความสุขรวมทั้งเจ้าอาร์มที่เกาะผมอยู่ไม่เคยห่าง   หลังจากสนุกและเหนื่อยกันมาแล้วเราก็หาอะไรเล่นแบบซอฟๆ ยิ่งตอนนั่งช้อนปลาทองกัน เจ้าอาร์มก็จะมานั่งที่ตักผมอีก ก็มีแอบกอดแอบหอมแก้มมันไปบ้าง ซึ่งทุกสิ่งที่ผมทำก็จะอยู่ในสายตาของเจ้าอ้นมันตลอด

กิจกรรมเกมส์เล่นที่นี่ไม่แพงเลย เริ่มต้นที่ 5 บาท 10บาทแพงสุดก็ 20 บาทระหว่างที่เราเล่นเกมส์กันก็จะหาของกินเล่นกันไปด้วยเพราะอยู่ในงานนี้เราคุยกันแบบธรรมดาไม่ได้ ต้องพูดกันแบบกึ่งตะโกน เพราะเสียงในงานนี้ดังมาก ทั้งเสียงเพลงเสียงดนตรี เสียงของโฆษกประกาศเชิญชวนต่างๆนาๆหลายเจ้า เราเลยต้องหาน้ำอัดลมดื่มกันแก้คอแห้ง ไม่ว่าจะเป็นสายไหมข้าวโพดคั่วปลาหมึกย่างที่เอามาบดเป็นแผ่นยาวๆ มาจิ้มกับน้ำจิ้มที่มีถั่วลิสงป่นโรยอยู่ในถ้วยใบตองแห้ง   แล้วเราก็มาเจอขนมที่หน้าสนใจ อยู่อย่างหนึ่งหน้าร้านเขาเขียนว่าขนมโป๊งเหน่งผมเลยเดินเข้าไปดูมันเป็นลูกชิ้นเสียบอยู่ปลายไม้แท่งใหญ่แล้วเอามาชุบแป้งทอด พอสุกเหลืองเขาก็เอามาชุปแป้งแล้วก็เอาไปทอดซ้ำอีกที ทำอย่างนี้อยู่3-4ครั้ง จากขนาดตอนแรกลูกเท่าปิงปองชุปแล้วทอดซ้ำไปมาขนาดเท่าลูกเบสบอลได้(ใหญ่กว่าลูกเทนนิสหน่อยนึง) ขายอันละ 15บาทเองรสชาดก็อร่อยดีเหมือนกินแป้งทอดน่ะแหละมาตบท้ายด้วยลูกชิ้นหมูด้านในสุด

Medmayom โพสต์ 2013-10-24 15:00:02

{:5_119:} ขอบคุณครับ

Nikezero โพสต์ 2013-10-24 15:19:53

ขอบคุณนะครับ

din121 โพสต์ 2013-10-28 17:53:25

ขอบคุนครับ

siva โพสต์ 2013-11-9 09:15:30

ขอบคุณนะครับ

iamcutez โพสต์ 2014-11-3 20:40:54

ขอบคุณครับ{:5_136:}

tarot2526 โพสต์ 2014-11-5 06:18:36

ขอบคุณมากครับ

princelittel โพสต์ 2014-11-9 13:58:54

ขอบคุณครับ

theera โพสต์ 2014-11-9 14:12:16

ขอบคุณมากคับ

mcga โพสต์ 2014-11-9 19:47:17

ขอบคุณมากครับ

sodazaa12 โพสต์ 2015-4-24 19:20:26

ขอบคุนมากคับ

clarinett โพสต์ 2015-4-25 22:37:54

ขอบคุณครับ

tarot2526 โพสต์ 2015-8-23 04:36:43

ขอบคุณครับ

peckza_ha โพสต์ 2015-9-14 07:53:23

{:5_120:}ขอบคุงมากร้าบ

nukkungza01 โพสต์ 2015-9-15 14:40:16

ขอบคุณครับผม

CHaMPer โพสต์ 2015-9-15 16:39:51

ขอบคุณครับ

saban โพสต์ 2015-9-15 18:15:58

ขอบคุณครับ

khunnobi โพสต์ 2015-10-6 01:00:24

สนุกมากครับ

Ezakira โพสต์ 2015-10-7 17:44:17

ขอบคุณครับ

โยชิโย โพสต์ 2015-10-8 13:54:51

ขอบคุณครับ
หน้า: [1] 2 3 4
ดูในรูปแบบกติ: น้องๆ ม.ต้นที่รัก ตอน ตลุยค่ายอาสาพัฒนา3