แตน
ไฟลัม Arthropoda
ชั้น Insecta
อันดับ Hymenoptera
เป็นแมลงจัดอยู่ใน Class Insecta, Order Hymenoptera ต่อมีขนาดลำตัวยาว 1.5 ซ.ม. ขึ้นไป ส่วนแตน มีขนาดต่ำกว่า 1.5 ซ.ม. ต่อและแตนมีเหล็กไนอยู่ที่ส่วนปลายของลำตัว มีลักษณะคล้แตน จัดเป็นแมลงจำพวกผึ้ง เพราะว่ามีเหล็กในและการดำรงชีวิตที่คล้ายคลึงกันแตนเป็นแมลงเอวคอด ปีกบางสองคู่ และเป็นนักสู้ที่ไม่เคยยอมแพ้ใครแตนมีหลายชนิดสร้างรังรูปแบบแปลกๆๆ สวยงาม แตนบัว หรือแตนฝักบัวสร้างรังคล้ายกับฝักบัวคว่ำ รังนี้ยึดติดแน่นกับกิ่งไม้ ด้านล่างของรังที่หันลงดินแบ่งเป็นช่องสำหรับเป็นที่อยู่ของตัวอ่อน และเป็นทางเข้าออก แตนสร้างรังโดยการเคี้ยวไม้เก่าๆ ผสมกับน้ำลายซึ่งจะแปรสภาพเป็นเยื่อไม้แล้วเอาไปเรียงต่อกันเป็นห้องจนกลายเป็นรัง
ภายหลังผสมพันธุ์เสร็จ เมื่อแม่แตนสร้างรังหรือห้องได้บ้างแล้ว มันจะไปหาอาหารมาทิ้งวให้ลูกอ่อนกิน อาหารตัวอ่อนชอบกิน คือตัว
หนอนผีเสื้อ ซึ่งแม่แตนจะต่อยให้สลบแล้วนำมาใส่ไว้ในช่องที่เตรียมไว้เมื่อไข่ฟักเป็นตัวก็จะมีอาหารกิน
				
			
		กุ้งฝอย กุ้งที่อาศัยอยู่ในน้ำจืด ตามห้วย หนองคลอง บึง				
			
		แมงแสงตื๋น แมลงที่พบในมูลสัตว์				
			
		ชื่อ                  แมงหามผี ( พ่อมดผู้สันโดษ )
ชื่อวิทยาศาสตร์ Phasma
ชื่อสามัญ         phobaeticus
กลุ่ม               “Phasmids” 
วงศ์                  Phamatidae
ทางภาคอีสานเรียก แมลงชนิดนี้ว่า “แมงหามผี”
พบกระจายอยู่ทั่วโลก พบมากในเขตร้อน และ เขตอบอุ่นประเทศไทย และ พบกระจายอยู่เฉพาะแถบเอเซียตะวันออกเฉียงเหนือ วิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิต ที่ใช้เทคนิคการพรางตัว สุดยอดเพื่อความอยู่รอด
				
			
		ชื่อพื้นบ้าน   แมงม้า   , แมงนบ, แมงอีหมม่อม ,ตั๊กแตนโย่งโย่ (นักชกสีเขียว)
เป็นแมลงขนาดใหญ่ ที่กินแมลงชนิดอื่น หรือศัตรูพืชเป็นอาหาร
ขาหน้ามีขนาดใหญ่ใช้ในการจับเหยื่อ ขณะทำการจับเหยื่อทำท่ายกขาหน้าและโยกไปมา
โดยจะมองว่าคล้ายจะต่อยมวย หรือ คล้าย ม้าย่อง กำลังยกขาหน้า จึงได้ชื่อว่า” แมงม้า”
อนึ่ง ชาวอีสานบางพื้นที่ มองว่ามันกำลังยกมือสวดมนต์ภาวนาจึงเรียกมันว่า “แมงนบ” (พนมมือ)
ส่วนทางพื้นที่ จังหวัดขอนแก่น จนถึงจังหวัดหนองบัวลำภู เรียกแมลงชนิดนี่ว่า"แมงอีหม่อม" 
แมลงชนิดนี้พบกระจายทั่วโลกในเขตร้อนและเขตอบอุ่นมีประมาณ1800   สายพันธุ์
				
			
		แมงข้าวสาร คือแมมลงที่อาศัยอยู่ตามหนองน้ำในทุ่งนา				
			
		แมงจี่ซอน แมลงที่อาศัยอยู่ใต้ดินโคน				
			
		แมงสะดิ้ง คือแมลงที่ใช้เป็นอาหารทอด หรือคั่วมีรสชาติ มัน				
			
		แมงจั๊กจั่น แมลงที่มีเสียงร้องที่ไพเราะ				
			
		แมงแคง แมลงที่มีกลิ่นคล้ายกลิ่นแมงดาใช้ทำน้ำพริกรสชาติหอมอร่อย				
			
		แมลงโซ่ แมลงที่อาศัยในน้ำจืดตามทุ่งนา				
			
		แมลงหวี่ แมลงที่ชอบมาตอมเมื่อมีบาดแผล ตามร่างกายสัตว์หรือคน				
			
		แมลงทับขาเขียว (Sternocera aequisignata) และแมลงทับขาแดง (Sternocera ruficornis) แมลงทับทั้งสองชนิดนี้มีสีเขียวมรกตมันวาว บางตัวอาจมีสีเขียวเหลือบทอง น้ำเงิน หรือทองแดง ปกติพบแมลงทับเพียงปีละครั้งในช่วงฤดูเข้าพรรษา ระหว่างเดือน กรกฎาคม ถึง ตุลาคม แมลงทับทั้งสองชนิดพบแพร่กระจายทั่วทุกภาคของประเทศ 
				
			
		แมงมัน (อังกฤษ: The subterranean ants) เป็นชื่อเรียกของมดชนิดหนึ่งซึ่งทำหน้าที่เป็นมดราชินีสามารถนำมารับประทานเป็นอาหารได้ 				
			
		ชื่อพื้นบ้าน       เหลียก
ชื่อสามัญ buffalo-flies
ชื่อวิทยาศาสตร์ Tabanus sulcifrons
อันดับ       Diptera
อันดับย่อย        Brachycera
วงศ์ Tabanidae
เหลียก เป็นแมลงดูดเลือด ลักษณะคล้ายแมลงวัน แต่ตัวใหญ่กว่ามาก 
แมลงใน วงศ์ ( family ) นี้พบได้ทั่วโลก มีการพบแล้วประมาณ 4000 species ส่วนมากแล้ว
พบในทวีป แอฟริกาประเทศขี้บ่ก่น ทางการแพทย์ถือว่าเป็น สัตว์พาหะนำโรคชนิดหนึ่ง				
			
		ชื่อพื้นบ้าน แมงซ้างแมงค่อม
ชื่อภาษาไทยแมลงค่อมทอง
ชื่อสามัญGreen weevil
วิทยาศาสตร์ HypomecessquamosusFab
Class         Insecta
Inflaclass   Neoptera 
Superorder   Endopterygota
Order          Coleoptera
Suborder   Polyphaga
Family      Curculionidae
Genus         Hypomeces
ลักษณะทางกายภาพ
เป็นด้วงงวงสีสวย และเป็นสีเหลือง ลักษณะเป็นฝุ่น ตามตัวมีสีต่าง ๆ เช่น น้ำตาลปนเขียว 
เขียวปนสีทอง เขียวปนทองแดงและสีเทาดำ มีผู้พบว่าแมลงค่อมทองมีสีดำ 
เนื่องจากสีชั้นนอกสุดเป็นสีเขียว สีเหลือง หลุดออกง่าย เป็นขุยปีกชั้นในสุดเป็นสีดำ 
ส่วนหัวยื่นยาวออกไปเพียงเล็กน้อย ลำตัวยาว 1 2 ซม.				
			
		ชื่อพื้นบ้าน         แมงภู่
ชื่อภาษาไทย       แมลงภู่ภมร
ชื่อสามัญ          carpenterbees
ชื่อ วิทยาศาสตร์Xylocopa varipuncta
Phylum         Arthropoda
Subphylum   Hexapoda
Class            Insecta
Inflaclass      Neoptera 
Superorder   Endopterygota
Order            Hymenoptera
Suborder      Aprocrita
Family          Xylocopidae
หึย..ประสาแมงภู่ ซือ ๆพะนะลังคนอ่านแล้วกะดาย   แมงภู่กะสิว่า หึย..ประสาคนซือ ๆ
เพราะฉะนั้น ด้วยเหตุและผลเดียวกันเราจึงควรศึกษาทำความเข้าใจ จะได้รู้ว่าแมลงชนิดนี้
มีความเกี่ยวพันกับ วิถีมนุษย์ วิถีธรรมชาติอย่างไรอย่าให้แมงภู่ว่าให้เฮาได้ 
ว่าเกิดเป็นคนซือ ๆ				
			
		ชื่อพื้นบ้าน :แมงตด   ( อีสาน )แมงแต๊บ( เหนือ ) แมงขี้ตด ( ใต้ )
ชื่อสามัญBombardier beetles
ชื่อวิทยาศาสตร์Pherosophus
Phylum: Arthropoda
Class: Insecta
Order: Coleoptera
Family: Carabidae
ข้อมูลทั่วไป
กล่าวกันว่า แมงตด คือ เจ้าแห่งนักรบเคมีชีวะด้วยความสามารถเฉพาะตัวพ่นตดเป็น "ไฟเย็น"ได้
ส่วนมนุษย์ผู้ขี้คร้าน หรือ "ผู้นอนเว็น"ก็ให้ระวัง " ไฟเย็น"   สะเดิดโด่งเพราะเพื่อนๆ แกล้งเอา
โดยจำเพาะ ญาคูต้องแล่งฉันเพลแล้ว เรียนคาถา " กรนิน " ( อ่านว่า กอละนิน กินแล้วนอน )
มักสิถืกจัวน้อย "วางไฟเย็น" เป็นประจำอันนี้กะหยอกกันเล่นดอกครับ   สุมื้อนี้ เพิ่นเป็นฮอด ผอ.แล้ว
ไผสิกล้า แม่นบ่ครับ ท่าน ผอ.พระยืน 4				
			
		อันนี้บ่แม่น จั๊กจั่นเด้อ แต่เป็นสายพันเดียวกัน
ชื่อพื้นเมือง: แมงอี ,   แมงอี่
ชื่อสามัญ : Chorus cicada
ชื่อวิทยาศาสตร์: Ptatylomia radha
ชั้น : Insecta 
ลำดับ : Hemiptera 
#แก้ไข#
วงศ์ : Cicadidae ( วงศ์เดียวกัน กับจักจั่น) 
บางคนบางท่านเห็นภาพแล้ว “ นี่มันจักจั่นนี่นา “ครับผม ไม่ผิดเท่าใดนัก แมงอี เป็นแมลง วงศ์เดียวกันกับจักจั่น
แต่เป็นคนละพันธุ์กันแมงอี มีขนาดเล็กกว่า สั้นกว่า ลักษณะทั่วไปจากหัวจรดหาง มีรูปร่างเป็น สามเหลี่ยม
ซึ่งต่างจากจักจั่น ที่มีลักษณะเรียว   สีสัน ของแมงอี เท่าที่พบมีสีสวยงานั่นคือ มีสีเขียว และสีใบไม้แห้ง
เสียงร้องของมัน ร้อง “ อีอีๆๆๆๆๆ “ก้องกังวานป่านั่นคือที่มาของชื่อ“ แมงอี”
ส่วนมากพบในประเทศเขตร้อน ครับ				
			
		อันนี้บ่แม่น จั๊กจั่นเด้อ แต่เป็นสายพันเดียวกัน
ชื่อพื้นเมือง: แมงอี ,   แมงอี่
ชื่อสามัญ : Chorus cicada
ชื่อวิทยาศาสตร์: Ptatylomia radha
ชั้น : Insecta 
ลำดับ : Hemiptera 
วงศ์ : Cicadidae ( วงศ์เดียวกัน กับจักจั่น) 
บางคนบางท่านเห็นภาพแล้ว “ นี่มันจักจั่นนี่นา “ครับผม ไม่ผิดเท่าใดนัก แมงอี เป็นแมลง วงศ์เดียวกันกับจักจั่น
แต่เป็นคนละพันธุ์กันแมงอี มีขนาดเล็กกว่า สั้นกว่า ลักษณะทั่วไปจากหัวจรดหาง มีรูปร่างเป็น สามเหลี่ยม
ซึ่งต่างจากจักจั่น ที่มีลักษณะเรียว   สีสัน ของแมงอี เท่าที่พบมีสีสวยงานั่นคือ มีสีเขียว และสีใบไม้แห้ง
เสียงร้องของมัน ร้อง “ อีอีๆๆๆๆๆ “ก้องกังวานป่านั่นคือที่มาของชื่อ“ แมงอี”
ส่วนมากพบในประเทศเขตร้อน ครับ