--lll--o-- โพสต์ 2012-8-2 12:56:13

ถึงเวลาล้อยุคใหม่ "ไม่ต้องเติมลม"

ล้อรถเหมือนอย่างที่เราเห็นกันอยู่ในเวลานี้ เป็นหนึ่งในสิ่งประดิษฐ์ที่น่าสนใจเพราะล้อแบบเดียวกันนี้ถูกใช้งานมายาวนานมากตั้งแต่เมื่อครั้ง โรเบิร์ต ทอมสัน นักประดิษฐ์ชาวสก๊อต คิดค้นมันขึ้นมาแล้วจดทะเบียนสิทธิบัตรเมื่อปี ค.ศ.1845 หรือเมื่อ 167 ปีก่อน แล้วก็เป็นการใช้ล้อในแบบเดียวกันทั้งหมดในยานยนต์ทุกรูปแบบตั้งแต่ 2 ล้อ, 4 ล้อ ไปจนกระทั่งถึง 18 ล้อ

ล้อแบบที่เรารู้จักกันดีหรือที่ถูกจดทะเบียนในชื่อ "นิวเมติคไทร์" ใช้งานกันมากและยาวนานขนาดนั้นเพราะมีจุดอ่อนอยู่ไม่กี่อย่าง แต่ก็ยังมีจุดอ่อนอยู่ ที่สำคัญก็คือมันระเบิดได้ และมันแฟบได้ และอาจสร้างปัญหาให้กับผู้ขับขี่อยู่ที่เผลอไผลได้บ่อยครั้งเช่นกัน

วิศวกรของ บริดจ์สโตน เชื่อว่าสามารถแก้ปัญหาเรื่องลมยางได้ การแก้ปัญหาเรื่องนี้ได้จะช่วยลดทอนปัญหามากมาย ตั้งแต่เรื่องศูนย์ถ่วง เรื่องการเสียการทรงตัวหากเกิดยางระเบิดเมื่อขับขี่ และยังไม่ต้องระแวดระวัง ตรวจสอบลมยางอยู่ทุกๆ 2-3 วันอย่างที่เป็นอยู่ บริดจสโตน นำแนวความคิดเรื่องนี้มาพัฒนาเป็นยางไร้ลม ที่เรียกว่า "แอร์เลส คอนเซ็ปต์ ไทร์" ที่ในความเป็นจริงก็คือการใช้ยางมาหุ้มซี่ล้อ "เธอร์โมพลาสติก" ที่สานเป็นโครงข่ายเป็นระเบียบแผ่ออกจากวงล้อตรงกลางที่ทำจากอะลูมิเนียม

ล้อไม่มีลมยางแบบใหม่นี้ ทิ้งเรื่องการดีดตัว ความหนักแน่น ที่เรารู้สึกเมื่อใช้ยางนิวเมติคให้ไปอยู่ที่ "ซี่ล้อ" ไม่ใช่ที่ตัวล้อเหมือนที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน ซี่ล้อที่ทำจากเธอร์โมพลาสติกของบริดจสโตนจึงต้องแข็งแกร่งมากพอที่จะไม่เกิดอาการสั่นของตัวรถ แต่ในขณะเดียวกันก็ต้องนุ่มนวลมากพอที่จะอำนวยให้เกิดความสบายในการขับขี่ วิศวกรของบริดจสโตนใช้แบบจำลองคอมพิวเตอร์ช่วยในการคำนวณสิ่งเหล่านี้ให้ซี่ล้อของตัวเอง

ด้วยความช่วยเหลือของแบบจำลองดังกล่าว พวกเขาได้ซี่ล้อที่ขึ้นรูปเป็นตาราง ซึ่งแข็งแรงพอที่จะรองรับน้ำหนักของรถได้ แต่ในเวลาเดียวกันก็ยังสามารถ "ให้ตัว" ได้เมื่อขับขี่ขึ้นบนอุปสรรค (เช่นก้อนหินหรือเนิน) การออกแบบช่วยลดแรงเสียดทานในการหมุนของล้อ ซึ่งทำให้ประหยัดพลังงานมากขึ้น นอกจากนั้นทั้งหมดยังง่ายต่อการรีไซเคิล เพราะเธอโมพลาสติกที่เป็นส่วนประกอบหลักของล้อ สามารถหลอมละลายเพื่อนำกลับมาใช้ใหม่ได้ง่ายกว่ายางรถยนต์ทั้งเส้นหลายเท่าตัว

วิศวกรของบริดจสโตน กำลังอยู่ระหว่างการทดสอบการใช้งานจริงของล้อไร้ลมยางขนาด 8 นิ้ว ด้วยการติดตั้งมันใช้กับยานยนต์ทางอุตสาหกรรมที่ใช้ความเร็วต่ำอย่างเช่นรถโฟล์กลิฟต์ รถลาก และกำลังอยู่ระหว่างการพัฒนาล้อขนาดใหญ่ที่สามารถใช้กับรถยนต์นั่ง เพื่อนำมาใช้ทดสอบในการใช้งานจริง แต่ก็ยอมรับว่า ยังคงมีอุปสรรคที่ท้าทายอีกหลายอย่าง ตั้งแต่การทำให้มันทนทานใช้งานได้ทั้งในภาวะอากาศร้อนจัดและเย็นจัด นอกจากนั้นยังต้องหาทางป้องกันไม่ให้หิน หรือดินโคลน เข้าไปติดในซี่ล้อ ซึ่งจะทำให้วงล้อเสียสมดุลได้อย่างง่ายดายเป็นต้น

แต่ที่สำคัญที่สุดบริดจสโตน อาจจำเป็นต้องทำงานหนักมากเพื่อทำให้ผู้บริโภคเชื่อว่า ล้อรุ่นใหม่ที่ไม่ต้องเติมลมนี้ สามารถทดแทนล้ออัดลมแบบเดิมได้ไม่มีผิดเพี้ยน แล้วยินยอมเปลี่ยนมาใช้งานมันแทนที่ล้อแบบเดิม!
หน้า: [1]
ดูในรูปแบบกติ: ถึงเวลาล้อยุคใหม่ "ไม่ต้องเติมลม"