ถ้าหากว่า...ฉัน....นาย(นิยายไม่รัก)
ถ้าหาก....ฉันฉัน...เป็นคำเรียกสรรพนามของตัวเอง หากว่าฉันเป็นเด็กหนุ่มสิ้นคิดแห่งปี เด็กหนุ่มที่ไม่มีอะไรดีสักอย่างในสายตาผู้ใหญ่ เด็กหนุ่มแสนซนหัวดื้อหัวแข็ง ชอบเจ็บตัว และหาหาใส่หัวตลอดเวลา หากคำว่าฉันมันหมายถึงผม....คนนี้......นายเหล้าเล่า?
หากว่าผมเป็นบุรุษคนเดียวที่รอดชีวิตจากอุบัติเหตุเครื่องบินโหม่งพื้นโลกเหมือนกับนิยายแนวผจญภัยเรื่องใดเรื่องหนึ่งล่ะ?...โลกจะยินดีกับผมไหม?ญาติที่อยู่แสนไกลเขาจะมีสีหน้าอย่างไรบ้าง?
ถ้าหาก....นาย
นาย...เป็นคำสรรพนามที่ใช้เรียกคู่สนทนาซึ่งเป็นเพศชาย หากว่านายเป็นเด็กหนุ่มรุ่นราวคราวเดียวกัน แต่มีความเป็นผู้ใหญ่สูง ทำอะไรก็ดีไปหมด ผู้หลักผู้ใหญ่ให้ความไว้วางใจ ไม่มีท่าทีว่าจะเป็นเด็กเหลวไหลแต่อย่างใด หากคำว่านายหมายถึงศัตรู...คนนั้น....นายอูเค่อ!!
หากว่าอูเค่อมันดันเป็นคนดวงแข็งไม่แพ้ผมอีกคน...ผมก็จะไม่ใช่คนเดียวที่รอดชีวิตใช่หรือไม่?
ผมจะไม่ฟันธงว่ามีแค่นายเหล้ากับนายอูเค่อเท่านั้นบนเกาะร้างแห่งนี้....ผมจะค้นหาคนอื่นๆไม่มีทางที่เราสองคนจะอยู่ร่วมเกาะกันสองต่อสองอย่างแน่นอน!
"นายทำหน้าอย่างนั้นคงผิดหวังละซีที่จะได้ครองตำแหน่งหนึ่งเดียว..."อูเค่อส่งรอยยิ้มเปิดศึก คนฉลาดรอบรู้อย่างเขาการติดอยู่บนเกาะร้างจะต้องเสาะหาเรื่องที่อยู่อาศัย ความปลอดภัยและอาหารการกินเป็นอันดับแรกอยู่แล้ว ไม่ได้เจ้าสำราญอย่างผมที่จะเอ้อระเหยลอยชายเดินไปตามริมหาดราวกับมาพักร้อน
"......"ผมมองเพิงเล็กๆที่สร้างจากใบไม้และกิ่งไม้ หากอูเค่อไม่ได้นั่งเครื่องบินลำเดียวกันผมก็เข้าใจว่าเขาต้องตกลงมาก่อนผมสักครึ่งวันเพราะเขาสามารถสร้างเพิงได้เร็วมาก ถ้าหากว่าเขาไม่ใช่ยอดฝีมือด้านการก่อสร้างก็จะต้องมีคนอีกจำนวนหนึ่งที่รอดมาด้วยเหมือนกัน
"ถูก...มีคนรอดมาพร้อมฉันอีกห้าคนตอนนี้พวกเขาออกไปสำรวจพื้นที่อยู่ฉันอาสาเฝ้าเพิง"อูเค่อวางมาดและพูดขึ้นมาราวกับอ่านจิตใจผมออก
"งั้นหรอ?..."ผมยิ้มปนขำ ผมไม่ได้สนใจซะหน่อยว่าจะมีซากคนตายพร้อมกับเครื่องบินไหม้ๆกี่คนและมีคนรอดกี่คน...เขาจะบอกผมทำไม?
"เรารวบรวมข้าวของที่เรามีด้วยกัน คิดว่าใช้อาศัยอยู่บนเกาะนี้ได้นานพอสมควร"
"สองสามวันก็เหลือแหล่...เผลอๆที่เกาะนี้อาจจะไม่ใช่เกาะร้างก็ได้..."ผมหัวเราะร่วนก่อนจะเดินจากไป
"แต่ถ้าหากว่ามันเป็นเกาะร้างล่ะ?นายจะเอาตัวรอดอยู่ที่นี่ได้ถึงสองสามวันไหมล่ะ?"อูเค่อสบประมาทในตอนท้ายชวนให้ผมหันขวับไปจ้องเขาด้วยความเดือด
"นายไม่เคยได้ยินว่าฉันเป็นไอ้บ้าสินะ..."
"ฉันได้ยินแค่นายเป็นไอ้ขี้เมาจอมมั่ว"
"ช่างเถอะ...ฉันไม่สนใจเล่นขายของกะนายหรอกนะ...ฉันจะรอเรือ"ผมส่งยิ้มเย้ยให้เขาจังหวะนั้นเองมีกลุ่มคนเดินออกมาจากป่า ผมกวาดสายตามองก็พบว่าเป็นชายห้าคนจำนวนเดียวกับที่อูเค่อบอก
"หวัดดี...หมอนี่ก็รอดมาหรือไงห๊ะ?"ชายหนุ่มเจ้าของรอยยิ้มสุขุมทักทายผมราวกับผมเป็นเด็กหลงทางมา เขาเป็นผู้ใหญ่กว่าผมและอูเค่อพอสมควรและดูเหมือนว่าจะเป็นผู้นำกลุ่มด้วยเพราะในกลุ่มนั้นมีเด็กหนุ่มอีกสี่คนซึ่ง ดูเด็กทั้งนั้น
"เป็นยังไงบ้างครับพี่เจษ?เป็นเกาะร้างจริงๆไหม?"อูเค่อถามทันทีเขาคงจะถามเผื่อผมด้วย...ผมรู้ทันหรอกน่า...
"จริงๆ...ร้างและก็ป่ารกมากสำรวจไม่หมดเลยกลัวมืดซะก่อน"เจษกวาดสายตามองเด็กๆทั้งหลายแต่ละคนมีสภาพที่ดูไม่ได้มีเพียงอูเค่อและผมเท่านั้นที่ดูไม่รู้สึกรู้สาอะไรกับการติดเกาะร้าง
"น้ำทะเลเป็นยังไงบ้าง?"เจษถามผมเพราะเขาสังเกตว่าผมสะอาดสะอ้านเนื่องจากผมตกลงที่ชายหาดและถือโอกาสเล่นน้ำทะเลก่อนใคร
"ก็เค็มปกติดีครับ..."ผมตอบกวนประสาท
"ดี...ไม่มีอะไรอันตรายก็ดี...สถานที่ปลอดภัยที่สุดก็คือที่โล่งแจ้งอย่างชายหาดนี่แหละ...ในป่าไม่รู้ว่ามีสัตว์ร้ายอะไรไหม...เราควรจะอยู่กันที่นี่"เจษสรุป
"จะมีเร้อ...สัตว์ป่ามันสูญพันธุ์หมดแล้ว...อย่างสัตว์ป่าจริงๆก็ไม่พ้นแค่พวกงู"ผมขัดขึ้นมาลอยๆ
"เกาะร้างที่คิดว่าไม่น่าจะมีหลงเหลืออยู่มันก็มีให้เรามาติด...นับประสาอะไรกับป่ารกชัฏจะไม่มีสัตว์ป่า"เจษตอบโต้ผมทันที
"น่าเบื่อ..."ผมรีบเดินห่าง
"หมอนี่มันบ้าจริงๆ..."เจษบ่น
"ผมชื่อเหล้าครับ..."
"เออๆ..."เจษส่ายหน้า
"พี่อูเค่อ...เราจะปล่อยให้พี่เขาไปคนเดียวจริงๆหรอครับ?"เด็กหนุ่มขี้สงสารนั้นก็พลอยห่วงคนที่เพิ่งจะพบเห็นหน้า
"ทำไม?หรือนายสงสารเขา?สงสารไอ้บ้านั่น...มันก็เหมือนแมลงสาบนั่นแหละ...ไม่ยอมสูญพันธุ์ไปเสียทีไม่ตายง่ายๆหรอกน่า"อูเค่อเน้นคำว่าแมลงสาบให้ผมได้ยินก่อนที่ผมจะไปไกลเกินกว่าที่จะได้ยินเสียงคนคุยกัน
ผมไม่สนใจหรอก......ผมเบื่อขี้หน้าอูเค่อจะตายไป.........หมอนั่นพยายามจะเอาชนะผมทุกแมตช์ไม่เว้นแม้กระทั่งเล่นเกม
ผมไม่ชอบนิสัยผู้หญิงของเขาเลย....แต่ไม่รู้ทำไมผมจะต้องเจอกับเขาอยู่เรื่อยไป
ยังไม่จบหรอกนะครับ(นี่เพิ่งจะเริ่มต้นเรื่อง..อยากให้อดทนกับการอ่านนะครับสู้ๆผมเป็นกำลังใจให้) ขอบคุณครับ
หน้า:
[1]