รัก แรกหนุ่มแดนปลาดิบ New coming soon อ่านรายละเอียดได้ข้างในนี้ครับ
พอดีเรามีแต่โหลดอ่าน ไม่เคยส่งให้เพื่อน ๆ บ้าง เราเห็นเรื่องนี้น่าประทับใจมาก ๆ เพื่อน ๆ ลองสังเกตดูนะครับว่า ไม่ว่าจะเป็นลูหครึ่ง หรือว่าคนญี่ปุ่นนี้มีลูกเล่นอะไรมากมาย ลองอ่านเรื่องนี้ดูนะครับประทับใจมาก ไม่มีเซ็กส์ในครับ
เนื่องจากอีกไม่นานก็จะถึงเทศกาลลอยกระทงแล้วทำให้ผมนึกถึงรักแรกของผม เมื่อปีที่แล้วกับเด็กญี่ปุ่นคนนึง เลยอยากเล่าให้เพื่อนๆ ฟัง มันไม่มีเรื่องโป๊ๆ หรอกนะเพราะผมยังซิงอยู่ แต่ไหนๆ ก็เข้ามาแล้วอ่านให้จบๆ เหอะ ชอบไม่ชอบจะเขียนคอมเมนท์ก็ไม่ว่ากัน
ผมเป็นคนจ. นครปฐมครับ เรียนอยู่มหาลัยชื่อดังประจำจังหวัด ที่บ้านทำขนมขาย ชีวิตเรียบง่ายธรรมด๊า ธรรมดา เช้าไปเรียน เย็นเล่นบอล แต่บางทีผมก็ชอบไปเดินซื้อของตามห้างคนเดียวเหมือนกัน จนวันนึงขณะที่ผมนั่งเล่นอยู่หน้าห้างสรรพสินค้า ก็มีผู้ชายใส่เสื้อกล้ามดำ กางเกงยีนส์ สะพายเป้ใบใหญ่ ท่าทางคล้ายนักท่องเที่ยวเดินเข้ามาถามผมว่าแถวนี้มีร้านแว่นมั๊ยเป็นภาษาปะ กิด
ผมถึงกะช็อคไปเลยเพราะคนที่เข้ามาถามหล่อมากกกกก ทั้งหน้าตาทรงผมถอดแบบจาก วิค F4 เลย เขาบอกผมว่าเมื่อกี้ลืมแว่นไว้ในรถโดยสาร พอจะหาร้านแว่นให้เค้าได้มั๊ย โชคดีที่ตอนอยู่ม.ปลายตั้งใจเรียนอิงลิชมาก เลยสื่อสารกันเป็นภาษาปะกิดรู้เรื่อง บอกให้คุณๆ เข้าใจเลยนะว่าตั้งแต่ต้นจนจบผมใช้ภาษาปะกิดคุยกะเค้า ผมก็พาเค้าไปร้านแว่น แต่เค้าซื้อคอนแทคใส่แทนเพราะขี้เกียจรอตัดแว่น พอเค้าใส่คอนแทคเสร็จก็ขอบคุณผมเป็นการใหญ่ แล้วก็แนะนำตัวว่าเค้าเป็นคนญี่ปุ่นชื่อซาโตชิ อาคาซากิ อายุแค่18เอง แต่สูงสัก185ได้ หน้าเค้าออกไปทางคนเกาหลีไต้หวันมากกว่า เพราะเค้าเหมือน วิค F4 มากๆ ว่าแล้วเค้าก็ขอรบกวนผมอีกเรื่องคือช่วยบอกวิธีไปพระปฐมเจดีย์ให้หน่อย ครึ่งปีที่แล้วเค้ามาไหว้กับพ่อแม่ เค้าบนไว้ว่าถ้าสอบติดมหาลัยที่เลือกไว้จะกลับมาไหว้ที่นี่อีกครั้ง แล้วก็สอบติดจริงๆ เลยจะมาไหว้ แต่ทางบ้านเห็นเป็นเรื่องงมงายเลยปล่อยให้พ่อรูปหล่อคนนี้มาคนเดียว ใจกล้าอะไรขนาดนี้ ผมนับถือความเด็ดเดี่ยวของเค้าเลยอาสาเป็นไกด์พาไปถึงที่เลย อิอิอิ คิดดูดิมีคนหน้าเหมือนนายวิคมาอยู่ข้างๆ พอเค้าไหว้เสร็จก็ขอตัวลาผมไปหาห้องพักนอน ผมเป็นห่วงก็เค้าคนญี่ปุ่นตัวคนเดียวกลัวโดนเอาเปรียบ หน้าก็หล่ออาจโดนฉุดไปฆ่าข่มขืนได้ เลยบอกเค้าว่าถ้าไม่รังเกียจจะค้างบ้านผมก็ได้ แล้วผมจะได้เป็นไกด์พาเที่ยวด้วย ทีแรกเค้าก็กลัวๆ แต่คิดไปคิดมาตั้งแต่เค้าลงจากเครื่องก็มีแค่ผมแหละที่คุยกะเค้ารู้เรื่อง
อายุ ก็เท่ากัน ถูกชะตากันด้วย ต่างคนต่างไว้ใจเลยตอบตกลง ผมดีใจมากๆๆๆๆ รีบโทรบอกที่บ้านว่ามีเพื่อนมาค้าง
แต่พอถึงประตูบ้านผมก็เพิ่งนึกขึ้นได้ว่าอีตานี่เป็นญี่ปุ่น เฮ้ยๆ ทำไงดี ผมเลยจำใจโกหกคนทั้งบ้านว่าซาโตชิเป็นเพื่อนที่แช็ทเว็บต่างประเทศจนรู้จัก กัน (โกหกได้มีคลาสมาก) เท่านั้นแหละเฮกันทั้งบ้านตามประสาคนบ้านนอก พ่อแม่ตายายชื่นชมผมใหญ่ที่หาเพื่อนเป็นชาวต่างชาติ ไม่เสียแรงที่ส่งให้เรียนสูงๆ ถ้าเค้ารู้ว่าซาโตชิเป็นคนแปลกหน้าผมตายแน่ แต่สงสัยผมจะโกหกสำเร็จเพราะไม่มีใครเข้าใจภาษาที่ผมใช้คุยกับซาโตชิรู้ เรื่องสักคน ก็ตาสีตาสาละนะ ยายผมคลั่งขนาดขอจับมือซาโตชิด้วย เค้าก็งงๆยิ้มๆด้วยความเขิน แล้วผมก็หาข้าวมาเลี้ยงต้อนรับเค้า พอกินเสร็จก็อาบน้ำนอนเตียงเดียวกัน ผมใจเต้นตึ๊กๆ ทั้งคืนเลย
วันรุ่งขึ้นผมก็จะพาซาโตชิไปเที่ยวในตัวเมือง ยายผมรีบไปคุยอวดชาวบ้านว่าหลานชายมีเพื่อนเป็นคนญี่ปุ่น คนเกือบทั้งหมู่บ้านก็เลยแห่มาที่บ้านผมเพื่อขอดูหน้าซาโตชิ ผมอ๊ายอายในความบ้านนอกเหลือเกิน แต่ซาโตชิเค้าก็น่ารักนะ เค้าไม่รังเกียจหรือหยิ่งเลย ถึงจะพูดไทยไม่ได้แต่เค้าก็ส่งยิ้มให้กับชาวบ้านทุกคน พอเราไปเดินชอปปิ้งกันก็มีผู้หญิงมาขอเบอร์เค้าเพียบเลย ส่วนมากเป็นเด็กนักเรียน ก็อย่างว่าคนมันหล่อยังกะ F4 ซาโตชิมีอาการตื่นคนมากๆ อาจเป็นเพราะที่บ้านเค้าไม่มีผู้หญิงคนไหนวิ่งพรวดเข้ามาขอเบอร์ผู้ชายแบบ นี้ (ผมอายม๊ากมาก เฮ้อ ประเทศไทย) ผมเลยต้องออกตัวให้แทนว่าเค้าเป็นญี่ปุ่น เด็กพวกนี้เลยต้องถอดใจกันเป็นแถบๆ เพราะไม่มีปัญญาคุยกะเค้ารู้เรื่องซักภาษาทั้งยุ่นทั้งปะกิด
เราซื้อของได้มาเพียบเลย กินพิซซ่ากันด้วย วันนี้สนุกมาก พอกับถึงบ้านแม่ผมก็เอาพวงมาลัยมาคล้องคอซาโตชิเฉยเลย ยายผมบอกเดี๋ยวจะเลี้ยงฉลองต้อนรับซาโตชิ มีเพื่อนบ้านมากินเลี้ยงเยอะแยะ บางคนก็แค่มาดู บ้าจริงๆ ทำยังกะเค้าเป็นตัวประหลาด ผมสุดจะอายๆๆๆ ซาโตชิเค้าก็หัวเราะแล้วก็ยิ้มๆ จนเมื่อเข้าห้องนอนคืนนี้ผมก็สอนให้เค้าหัดพูดไทย เช่น สวัสดีครับ,ขอบคุณครับ อะไรทำนองเนี้ย แล้วก็สอนให้เค้าเขียนด้วย เค้าก็ถามว่า “ไอเลิฟยู” ในภาษาไทยเขียนยังไง ผมก็เขียนคำว่า “ผมรักคุณ” ให้เค้าดูแล้วก็เขียนตาม เขียนซ้ำซากอยู่ได้ ผมรักคุณๆๆๆๆ จนเต็มหน้ากระดาษ ถ้าใครไม่รู้ว่าอีตานี่เป็นญี่ปุ่นหัดเขียนไทยคงนึกว่าปัญญาอ่อนหรือสติไม่ ดีแน่ๆ จากนั้นผมก็เขียนชื่อเค้าเป็นภาษาไทยให้ดู ซอโซ่, สระอา, สระโอ, ตอเต่า, ชอช้าง, สระอิ เค้าหัวดีมากเขียนให้ผมอ่านรู้เรื่องได้ พอดึกมากๆ เราก็ปิดไฟนอนกัน (สนุกมั่กๆ วันนี้)
วันนี้เป็นคืนสุดท้ายก่อนเค้าจะกลับญี่ปุ่น เช้ามาเค้าก็เห็นแม่ผมทำขนมเตรียมส่งขาย เค้าก็อยากลองทำบ้าง แม่ผมเลยสอนทำเค้กกล้วยหอมให้ โดยมีผมเป็นล่ามแปลให้อยู่ข้างๆ วันนี้ผมบอกให้เค้าอยู่บ้านออมแรงไว้เที่ยวงานลอยกระทงตอนกลางคืน ผมขายหน้าซาโตชิเรื่องความบ้านนอกมาเยอะแล้ว คืนนี้ผมจะให้เค้าได้เห็น unseen in Thailand ลอยกระทงเป็นการแก้ตัวก่อนเค้ากลับญี่ปุ่น อิอิ วันนี้แม่ใจดี๊ใจดีให้ผมเอารถขับออกไปเที่ยวได้คืนนึง ไหนๆ ก็คืนสุดท้ายแล้วต้องเอาให้เลิศที่สุด ผมเลยขับรถพาเค้ามาพัทยาเมืองที่นักท่องเที่ยวใฝ่ฝัน
พอมาถึงเราก็เดินเที่ยวซื้อของกันอย่างหนุกหนาน มีคนขอเบอร์ซาโตชิอีกแล้วผมรำคาญจริงๆ นี่เป็นคืนสุดท้ายของเราแล้ว ผู้หญิงพวกนี้จะยุ่งอะไรเวลาอันมีค่าแบบนี้ จนเค้าเองก็ทนไม่ไหวต้องซื้อแว่นปลอมมาใส่เพื่อลดความหล่อบนใบหน้า แต่ผมว่าใส่แว่นแล้วยิ่งน่ารักเข้าไปอีก พอดึกๆหน่อย ผมก็ซื้อกระทงให้ซาโตชิ บอกให้เค้าเอาไปลอยในทะเลเป็นการขอบคุณพระแม่คงคา ผมใส่ตังค์ลงไปในกระทง แต่เค้าควักเป๋าตังค์หยิบรูปขึ้นมาใบนึง เป็นรูปของนักเรียนหญิงที่สวยมากๆ เค้าใส่รูปลงในกระทงแล้วลอยไปกับทะเล ผมถามเค้าว่าคนในรูปคือใคร เค้าบอกว่าเป็นแฟนเก่าที่เพิ่งเลิกกันไปได้ไม่นาน เพราะสอบติดคนละที่ ขอทิ้งอดีตรักนี้ลอยไปกับทะเลเมืองไทยก็แล้วกัน ผมมองหน้าซาโตชิดูเค้าเศร้าๆ ผิดกับนิสัยขี้เล่นของเค้าเลย แสงเทียนจากกระทงของเราค่อยๆจางลงในความมืดมิด.........
ตอนเช้าก่อนผมจะไปส่งซาโตชิที่ดอนเมือง ชาวบ้านยกขบวนอำลาแห่กันมาส่งถึงหน้าหมู่บ้าน มีกลองยาวด้วย บ้ากันเข้าไปทำยังกะงานบวชงานโกน แม่กับยายเอาขนมฝากซาโตชิเยอะแยะ แค่สัมภาระที่เค้าแบกก็หนักจะแย่อยู่แล้วยังจะไปเพิ่มน้ำหนักให้เค้าลำบาก อีก ซาโตชิยกมือไหว้คนทั้งหมู่บ้านแล้วพูดว่า “ขอบคุณครับ” ชัดถ้อยชัดคำ ทุกคนอดยิ้มไม่ได้ที่เห็นเด็กญี่ปุ่นยกมือไหว้คนไทยแบบนี้ หลังจากที่อำลากันเสร็จผมก็เดินทางกับเค้าไปยังสนามบิน เมื่อถึงที่หมายผมก็อดใจหายไม่ได้ ก็เรากำลังจะจากกันแล้ว......
ก่อนจะไปเค้าก็บอกกับผมว่า ขอบคุณสำหรับทุกสิ่งทุกอย่าง ถึงจะเป็นเวลาไม่นานแต่เค้าก็สนุกมาก คนไทยใจดีกับเค้าทุกคน ถ้ามีโอกาสกลับมาเมืองไทยอีกจะมาหาผมเป็นคนแรก แล้วเค้าก็ถอดสร้อยกางเขนของเค้าให้ผม บอกว่าเป็นของรักของเค้าใส่มาหลายปีแล้วขอให้ผมรับไว้แทนคำขอบคุณด้วย จากนั้นก็ล้วงเข้าไปในเป้ หยิบเค้กกล้วยหอมที่แม่ผมสอนให้เค้าทำให้ผม บอกว่านี่ฝีมือเค้านะ กินให้หมดอย่าให้เหลือแม้แต่คำเดียวแล้วจะเซอร์ไพรส์ ผมรับของไว้ทุกชิ้น แล้วเค้าก็โบกมืออำลาส่งยิ้มสุดท้ายให้ผมพร้อมกับเดินหายไปในช่องตรวจผู้ โดยสาร เป็นภาพสุดท้ายที่ผมจำติดตาจนทุกวันนี้ น้ำตาผมไหลอาบแก้มโดยไม่รู้สึกตัว
คืนนั้นผมนอนไม่หลับเลย ร้องไห้ไม่หยุดด้วยทำไมนะรู้จักแค่3,4วันแต่รู้สึกผูกพันกันขนาดนี้ นี่เป็นรักแรกของผม แถมรักเค้าข้างเดียวด้วย เหลือแต่สร้อยกางเขนกับเค้กกล้วยหอมที่เค้าทำเองทิ้งไว้ดูต่างหน้า นี่ก็2วันแล้วถ้าไม่รีบทานเค้กจะแข็ง ผมเลยหยิบมากิน เค้าบอกผมไว้ว่าถ้ากินหมดจะมีเรื่องเซอร์ไพรส์ แต่ผมกินตั้งนานก็ไม่เห็นจะเซอร์ไพรส์ตรงไหน จะว่าอร่อยมันก็เฉยๆ หรือว่าเค้าใส่แหวนแต่งงานไว้ในเค้ก จะบ้าเหรอนี่ไม่ใช่ละครนะ ท่าทางซาโตชิเค้าคงไม่เป็นเกย์ด้วย แล้วเซอร์ไพรส์ยังไง จนผมกินหมดแล้วก็ไม่เห็นผิดปกติอะไรเลย
หรือว่า....แอบใส่ยาพิษ เฮ้ยๆ เพ้อเจ้อกันใหญ่แล้ว คิดอะไรฟุ้งซ่าน ผมถอนหายใจอย่างหมดหวังแล้วเดินไปหาถังขยะตรงมุมห้อง.....
แล้วผมก็สะดุ้งเฮือก สาธุ! ถ้าปาฏิหารย์มีจริงขอให้ผมกับซาโตชิได้พบกันอีกครั้งด้วยเถอะ จะกี่วันกี่เดือนกี่ปีผมก็จะรอการกลับมาของเค้า ผมรู้แล้วว่าทำไมเค้าต้องกำชับให้ผมกินหมดอย่าให้เหลือ ก็ถ้าผมกินไม่หมดจะไม่มีทางรู้เลยน่ะสิ ว่าก้นถ้วยกระดาษห่อเค้กชิ้นนี้มีข้อความที่ผมเคยสอนให้เค้าเขียน....
**** Hidden Message ***** ขอบคุณกะเรื่องราซึ้งๆจ้า ขอบคุณคับ:victory: ขอบคุน:Dคับ อ่านค๊าบบบบบบบบบ ขอบคุณครับ อ่านด้วยคนนะครับ หนุกดีคับชอบๆ ขอดูหน่อยนะครับ ขอบคุณนะคับที่โพส น่าสนุกนะครับ ขอบคุณ ขอบคุณคับขอบคุณคับขอบคุณคับ จบเรื่องมั้ยอ่ะคับ
หรือว่ามีต่อเรื่อยๆ ขอบคุนมากนะคับ ขอบคุณมากครับ -vขอบใจมากครับหนุ่มแดนปลาดิบ คราฟคุงมากคราฟผม
เรื่องผมว่ามันเข้ากับตัวผมมากเลยน่ะคราฟ
คราฟคุณสำหรับเรื่องดีๆๆน่ะคราฟผม
คราบบบบบบบบบ ขอบคุนมากมายคราบ sogood......................sogood............ ขอขอบคุณมากๆนะครับผม เป็นกำลังใจให้คับ