คืนระทึก ณ แดนยุทธหัตถี
ย้อนกลับไปเมื่อ เดือน เมษายน 2546 ซึ่งเป็นเดือนที่แสนร้อน...วันนั้น พวกเรา เหล่านักศึกษา จำนวน 30 ชีวิต จาก หลาย ๆ สถาบัน
ได้มีโอกาสมาทำงานร่วมกันในโครงการณ์หนึ่ง
ชื่อโครงการ "เรียนรู้ร่วมกัน สรรสร้างชุมชน"
ผมมีชื่อว่า เอ็ม ครับ ก็เป็น 1 ในนั้นด้วย
เราทุกคน รวมถึง อาจารย์ผู้ดูแล ได้เข้าไปทำงานเกี่ยวกับโครงการ
ในพื้นทีี่ ต.เกาะตะเภา อ.บ้านตาก จ.ตาก
ในพื้นที่ที่ทำงานนี้ ทางด้านหนึ่ง
จะประกอบไปด้วยวัดขนาดใหญ่ ชื่อ "วัดพระฐาตุ"
และตรงข้ามวัดนั้นมีเจดีย์เก่าแก่มาก ๆ
ชื่อว่า "เจดีย์ยุทธหัตถี"
"เจดีย์ยุทธหัตถี"
เป็นเจดีย์ที่สร้างขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติให้แก่ พ่อขุนรามคำแหง
ที่เอาช้างเข้าขวาง ระหว่าง พระบิดา กับขุนสามชน และชนช้างจนชนะ
พระบิดาจึงดำริให้สร้างขึ้น
พวกเราทุกคน พักในโรงเรียนแห่งหนึ่งที่อยู่ริมแม่น้ำปิง
ลักษณะโรงเรียน เป็นโรงเรียนอกแตก
ที่เรียกแบบนั้นเพราะมีถนนผ่ากลางโรงเรียน ทำให้โรงเรียนแบ่งเป็น 2 ฟาก
คือฟากติดแม่น้ำปิง และฟากที่ไกลออกไปอีกฝั่งถนน...
เรื่องมันเกิดขึ้นในคืนสุดท้ายของโครงการ...
คืนวันที่ 30 เมษายน 2546
วันนั้นเป็นวันที่ฝนตกกลางฤดูร้อน
"อากาศมันเป็นไงวะ ร้อนอยู่ดี ๆ ฝนก็ตก"เพื่อน คนหนึ่งพูดขึ้น
"เออหน่า ไม่เป็นไรหรอก วันนี้มีเลี้ยงอำลาพวกเราในโรงอาหาร ไม่เป็นไรหรอก" เพื่อนอีกคนนึงบอก
วันนี้พวกเราและอาจารย์ได้ตกลงกันว่าจะจัดงานเลี้ยงอำลาพื้นที่
เพื่อกลับไปทำงานด้านเอกสารต่อที่วิทยาลัย
โดยเชิญแค่ผู้ใหญ่บ้าน กำนันมาเป็นพิธี
พอเขากินกันสักพัก ก็กลับ เพราะรู้ว่า เด็ก ๆ จะสนุกกัน
"วันนี้ป้าที่ดูแลสถานที่ไปไหน"เพื่อนหญิงคน นึงถามขึ้น
"ไม่สบาย พวกเธอดูแลตัวองละกัน" อาจารย์ตอบแทรกขึ้นมา
เวลาผ่านไปไกล้เที่ยงตืน เพื่อนหลายคนกินกันสนุกสุดเหวี่ยง เต้น ร้อง เสียงดัง
บางคนก็กินกันเป็นกลุมเล็ก ๆ เฉพาะเพื่อนสนิท บางคนก็นอน
แต่...มีเพื่อนคนนึงนั่งอยู่ในมุ้ง ขณะที่คนอื่นกำลังสนุกสนาน
นั่งนิ่ง ๆ เพื่อนเข้าใจว่า น่าจะนั่งสมาธิ...
มีผู้หญิงคนนึงไปตะโกนเรียก
"นี่มาสนุกกันสิ ทำอะไรอยู่....
อ้าวนั่งสมาธิเหรอ โทษทีไม่รู้ เสร็จแล้วก็มานะ"
เสร็จแล้วเธอก็เดินกลับไปกินกับเพื่อนต่อ
ที่ห้องนอนรวมของเธอห้องแรก
ที่มีผู้หญิง ชาย รวมกันประมาณ 6-7 คน
ชายคนนั้นไม่ตอบ แต่....
เขาล้มลง และลุกขึ้นในขณะที่เธอกลับไปถึงนอนแล้ว
เขายืนและเดิน...นัยตาเขาเปลี่ยนไป...
และเขาไม่ยอมพูออะไร
เขาเดินออกจากห้องนอนรวมห้องที่สามที่เขานั่งสมาธิอยู่
ผู้หญิงคนนั้นได้ยินเสียงฝีเท้าที่เดินตามมาไกล ๆ จึงโผล่หน้าไปดูว่าใครเดิน
และแล้วเธอก็ต้องตกใจเมื่อ...
ภาพที่เธอเห็นไม่เหมือนเพื่อนเธอที่เธอรู้จัก
จากคนที่ยิ้มง่าย อารมณ์ดี คุยเก่ง
กลายเป็น คนที่หน้าดุ ไม่พูด และนัยตาแข็งกร้าว
เธอวิ่งกลับเข้าห้องไปอย่างรวดเร็วนั่งสั่นอยู่ที่มุมห้อง เพื่อนถามก็ไม่ตอบ
ชายคนนั้นเดินตามเธอมาในห้อง เพื่อนคนนึงยื่นแก้วเหล้าให้
"กินไหมวะ" ชายคนนั้นไม่ตอบ แต่โบกมือเชิงปฏิเสธ และเขาก็มองไปรอบห้อง
"เฮ้ย แกเป็นไรวะ"เพื่อนคนนึงถาม
นิ่ง...เงียบ แต่นัยตากลับดุดันอย่างประหลาด
ผู้หญิงหลายคนเริ่มกลัวกับสิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้า
"กูว่าไม่ไช่แล้วหล่ะ" เพื่อนหญิงคนนึงที่อายุมากกว่าพูดขึ้น
"ไอ้นี่ปกติมันเป็นคนมีเซนท์ เออ...ท่านต้องการอะไรคะ"
เหมือนเป็นคำถามที่ถูกต้องและต้องการคำตอบ
ชายคนนั้นเริ่มเปิดปากและพูดขึ้นมา
"ปิด"
"อะไรนะคะ"
"ปิด"
"ปิดอะไรคะ ไม่เข้าใจ"
"ปิดเสียงซะ ไม่ชอบ"เสียงที่ออกมาเป็นการแผดเสียง ที่ดังอย่างประหลาด
นัยตาที่แข็งกร้าว กับเสียงที่ดังก้อง ทำให้ผู้หญิงในห้องเริ่มสั้นกลัว
และหญิงใจกล้าที่ถามขึ้นมาก็ไปแจ้งสถานการณ์ผิดปกตินี้แก่คนข้างนอกและปิด เสียงดนตรีทันที
"เฮ้ยไอ้...ถูกผีเข้าวะ" เพื่อนคนนึงพูดและเสียงก็เซ็งแซ่วิจารย์กันว่าจริงหรือไม่
คนเริ่มมามุงดู อาจารย์เริ่มมาดูว่าเกืดอะไรขึ้น
ตอนนี้ทุกอย่างเริ่มตึงเครียดเพราะมีคนกลุ่มนึงอยู่ ในห้องไม่กล้าออกมา
เพราะเพื่อนคนที่ถูกสิงยืนขวางประตูอยู่ และกวาดสายตามองทุกคนอย่างแข็งกร้าว
และคนอีกกลุ่มอยู่หน้าประตู และเริ่มอยากรู้้ว่า เกิดอะไรขึ้น
จู่ ๆ เพื่อนคนนั้นก็ล้มลงนอนหงาย
พร้อมกับพูดขึ้นว่า "ผมลุกไม่ได้..."นี่เป็น เสียงของเขาเองไม่ผิด
ราวกับว่า เจ้าของร่าง กับ ผู้สิงสู่กำลังแย่งร่างกายอยู่
อาจารย์ถามว่า "เป็นอะไร เกิดอะไรขึ้น"
เด็กที่นอนตรงหน้าอาจารย์ก็ตอบว่า"ไม่ชอบเสียงดัง เขาคุมไม่ได้"
ราวกับภาพเหตุการณ์เมื่อครั้ง ที่ขุนสามชน เกณฑ์ทหารมารบที่บริเวณนั้น
และได้รบทัพจับศึกกับทัพของขุนศรีอิทราทิตย์ ผู้คนล้มตายเป็นจำนวนมาก
ได้ยินเรียกคนกรีดร้องในกองไฟ กรีดร้องใต้คมดาบ
เสียงนั้นช่างคล้ายกับเสียงกรีดร้องของเหล่านักศึกษาที่กำลังสนุกสุดเหวี่ยง เมื่อกี้
"เสียงนี้ ปลุกให้วิญญาณไม่สงบ คุมไม่ได้ ไม่ชอบ"
อยู่ ๆ อาจารย์ก็เอามือแตะที่ท้องของคนที่นอนอยู่...
"ปล่อย ผม" ราวกับชายคนนั้นโดนไฟไหม้ ร่างกายเด้งขึ้นลงราวกับจะตาย
"ปล่อยครูปล่อยผม...."
"ปล่อย....."เสียงสุดท้ายได้กลายเป็นเสียงที่แข็ง กร้าวอีกครั้ง
จนอาจารย์ตกใจปล่อยมือ
เขาลุกขึ้นยืนเร็วจนทุกคนตกใจ...
มีคนไปตามป้าที่ดูแลสถานที่มา บางคนก็ไปไหว้พระพุทธรูปประจำโรงเรียน....
แต่เขาก็ยังไม่ไป และมองออกไปที่ริมน้ำด้วยสายตา โกรธเกรี้ยว
จนคนที่ขวางสายตาอยู่หนีหลบสายตาอย่างรวดเร็ว
ชายคนนั้นมองดูสูงใหญ่กว่าตัวจริง และใบหน้าดุดัน
"ท่านต้องการอะไรคะ" หญิงใจกล้าคนเดิมถามขึ้น...
"ขอขมา"สั้น ๆ แต่มีความหมาย
"แต่พวกเราก็ไหว้ขอขมาแล้วนะคะ"
"ไม่ไช่ ขอขมาฝั่งนั้น"
ฝั่งที่เราอยู่เป็นที่ตั้งของพระพุทธรูป แต่อีกฝั่งนึงเป็นศาลเจ้าที่ใต้้ต้นไม้...
"แล้วต้องการอะไรอีกไหมคะ"คนเดิมถามขึ้น...
"สาวบริสุทธิ์...." ทุกคนเริ่มเงียบอีกครั้ง บางคนเริ่มคิดว่าต้องการอะไร ชีวิต เลือด
ทุกคนนตกอยู่ในความกลัวอีกครั้ง อะไรที่ท่านต้องการกันแน่
ถ้าเป็นเลือดยังง่าย ถ้าเป็นชีวิตละ จะทำไงกันดี
"เอาสาวบริสุทธิ์ไปขอขมา" ทุกคนเริ่มร้องอย่างโล่งใจ....
สักพักป้้าก็เอาธูปไปแจกให้กับสาวบริสุทธิ์
(งานนึ้เลยรู้หมดว่าใครบริสุทธิ์ หรือ เสียไปแล้ว เพราะกลัวจนไม่มีใครกล้าโกหกเลย)
สาวบริสุทธิ์ กับป้าก็ไปไหว้ขอขมา
ส่วนชายคนนั้น ก็เดินกลับห้องของตัวเองไป และกลับไปนั่งในมุ้งที่เดิมอีกครั้ง
มีผู้ชาย อีก 8 - 9 คนซึ่งส่วนใหญ่ก็สร่างเมาแล้วตามไปเพื่อถาม
ชายที่ตามไปลงไปนั่งพับเพียบเรียบร้อยหน้ามุ้งนั้นและประนมมือถาม
"เออท่าน..."
ก่อนที่ชายคนนั้นจะถามกลับมีเพื่อนอีกคนนึงเปิดมุ้งขึ้นแล้วถามว่า
"เฮ้ย เป็นอะไรวะ"ด้วยน้ำเสียงที่เมา
"ปิด" เพื่อนไม่ปิด
"ปิด" ดังขึ้น แต่เพื่อนก็ยังไม่ปิด
"ปิดดด" เป็นการแผดเสียงที่ดังมากจนเขาตกใจปิดมุ้ง
"มึงมันพูดไม่รู้ฟังพรุ่งนี้ไปขอขมาที่ศาลตอนเช้า" เพื่อนยกมือไหว้ และอีกหลายคนก็รุมตบหัว
"เออ ท่านเป็นใครครับ"
"เจ้าที่ที่นี่ เสียงดังพวกนี้ทำให้พวกที่อยู่ที่นี่ไม่สงบ คุมไม่ได้"
"ที่นี่เคยเป็นสนามรบมาก่อน มีเยอะ"
............................
ชายคนนั้นนั่่งนิ่ง ๆ สักพัก ก็หยิบพระมาและไหว้.....
นั่งสมาธิสักครู่นึง แล้วลืมตา พร้อมกับบอกว่า ....
"เขาไปแล้ว"
ตอนนี้ทุกคนนั่งในโรงอาหาร ไม่มีใครกล้าลุกเข้าห้องน้ำ หรือ แม้แต่ไปนอน
พอเพื่อนคนนั้นเดินมา เพื่อนผู้หญิงมองหน้า แล้วก็ร้องไห้เข้ากอด....
"เป็นมึงแล้วไช่ไหม" เธอถาม เขายิ้มแทนคำตอบ....
คืนนั้นทุกคนพูดถึงสิ่งที่เกิดขึ้น เหตุการณ์ผิดปกติตั้งแต่เช้า
มีเพื่อนหลาย ๆ คน ขนลุกทั้งที่แดดเปรี้ั้้ยง
ป้าที่ดูแล และลุงแฟนป้า อยู่ ๆ ก็ไม่สบายจนไม่ได้มาจุดธูปไหว้ศาลตอนเย็น
ฝนตกทั้งที่แดดออก ตกจนค่ำแล้วจึงหยุด
ปกติเพื่อนจะใส่พระไว้เส้นนึง แต่วันนนี้ไม้ได้ใส่
อีกคนนึงไม่เคยใส่พระแต่รู้สึกแปลก ๆ เลยหยิบพระมาแขวนคอ
และเพื่อนก็ถูกผีเข้า...
ทุกอย่างเหมือนมีอะไรดลให้เกิดขึ้นอย่างประหลาด....
...............................................
และตอนเช้าทุกคนก็ไปขอขมาอีกครั้ง และแยกย้ายกันกลับ....
...............................................
ต่อมาอีก 1 ปี มีนักศึกษาไปทำงานพื้นที่นั้นอีก และ ได้ข่าวว่าเกิดประวัติศาสตร์ซ้ำรอย
มันเกิดอะไรขึ้น!!!
คุณอาจไม่เชื่อในสิ่งที่ผมเล่า
แต่ผมอยากให้คุณเชื่อ...
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
เพราะคนที่ถูกเจ้าที่สิง คือ ผมเอง ขอบคุนค้าบ บบ บ* ขอบคุนมากมายคราบ ขอบคุณคับผมที่แบ่งปัน ขอบคุณมากคับ ตอบกระทู้ หนุ่มบ้านนา ตั้งกระทู้
ขอบคุณครับ ชอบๆ น่ากลัวครับ ขอบคุงจากใจนะ ขอบคุณครับ ขอบคุณมากนะครับผมที่แบ่งปัน เจอมากับตัวเลยหรอครับนี่ เรื่องจริงประสบการณ์จริง ขอบคุณนะคร้าบ
หน้า:
[1]