AwayG-Boy โพสต์ 6 ชั่วโมงที่แล้ว

บันทึก..ผู้ชายขี้อ่อย 1

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย AwayG-Boy เมื่อ 2025-11-22 12:50

ผมขอลองเขียนหน่อยนะครับ ชอบไม่ชอบยังไงก็ติชมกันได้ ตอนแรกๆอาจจะยังไม่ฉาก NC ใครไม่ชอบก็ผ่านได้ครับ

เสียงลมยามค่ำพัดผ่านแนวเขตชายแดนเย็นเฉียบ อากาศกลิ่นดินชื้นปะปนกลิ่นสนทำให้ร้อยโท “ภาคิน” ทหารหนุ่มวัย 30 ปีหล่อคมเข้ม ผิวแทน สูง 185 ซม. มีกล้ามพร้อมซิกแพคสุดหล่อแห่งกองกำลังผาเมือง หายใจลึก ๆ อย่างเคยชิน เขาประจำการอยู่ที่หน่วยลาดตระเวนมานานหลายปี ชินกับความเงียบ ความมืด และความรับผิดชอบที่หนักอึ้งบนไหล่ แต่ชีวิตที่สงบเย็นชานั้นต้องถูกสะบัดให้สั่นคลอน เมื่อคำสั่งด่วนจากส่วนกลางส่งมายังฐานทัพ “ภาคิน ถูกเรียกตัวเข้ากรุงเทพฯ เพื่อควบคุมพื้นที่การชุมนุมของนักศึกษา”
เขาอ่านคำสั่งซ้ำสองครั้ง ความรู้สึกอึดอัดจุกกลางอก ไม่ใช่เพราะกลัวเหตุการณ์จะรุนแรง แต่เพราะเขาไม่ชอบการใช้กำลังกับประชาชน โดยเฉพาะเด็กวัยมหาวิทยาลัยที่ควรจะกำลังสนุกกับชีวิต แต่คำสั่งก็คือคำสั่ง เขาเก็บกระเป๋า เสียบปีกทหารที่หน้าอก และเตรียมกลับสู่เมืองที่เขาห่างหายไปนาน

ในอีกมุมหนึ่งของกรุงเทพฯ “นที” นักศึกษานิติศาสตร์ปีสามกำลังยืนบนเวทีชั่วคราวกลางลานมหาวิทยาลัย ผมสีดำถูกเซ็ตลวก ๆ อย่างไม่ตั้งใจ แววตาคมแพรวพราวแบบคนเจ้าเสน่ห์ นทีเป็นคนช่างพูด และที่ใคร ๆ จำได้มากกว่าคือ…เขา อ่อยคนเก่ง ไม่ว่ารุ่นพี่ รุ่นน้อง หรือแม้แต่เพื่อนร่วมคณะต่างก็ถูกเขาโปรยเสน่ห์ใส่มาแล้วทั้งนั้น แต่เขานั้นยังไม่เคยที่จะคบหาจริงจังกับใคร เขาแค่บริหารเสน่ห์ไปเรื่อยๆแบบไม่มีจุดหมาย แต่ในวันนี้ เขาไม่ได้ใช้เสน่ห์เพื่อเล่นสนุก เขากำลังพูดถึง “สิทธิของประชาชน” ที่ไม่ควรถูกละเมิด

เสียงปรบมือดังขึ้นทั่วลาน นทียิ้ม—ไม่ใช่ยิ้มเจ้าชู้แบบที่หลายคนคุ้น แต่เป็นรอยยิ้มจริงใจ รอยยิ้มที่โชคชะตาจะพาไปพบคนที่เขาไม่คิดว่าจะตกหลุมรักได้

คืนวันแรกที่ภาคินประจำการในเมืองหลวง เขาถูกส่งไปยืนเฝ้าหน้าประตูมหาวิทยาลัยพอดีกับวันที่นักศึกษานัดชุมนุมอีกครั้ง เมื่อเวลาค่ำลง แสงไฟจากโทรศัพท์ที่ถูกยกขึ้นเป็นดั่งดวงดาวเล็ก ๆ เต็มลาน เสียงตะโกนสลับเสียงหัวเราะราวกับงานเทศกาล ภาคินยืนเรียงแถวกับทหารคนอื่น ๆ อยู่ด้านหน้า เขามองผู้ชุมนุมด้วยสายตาที่พยายามรักษาความเป็นกลาง

ทันใดนั้นเอง เสียงโห่ฮาของกลุ่มนักศึกษาก็แตกดังขึ้นและเขาเห็นคนหนึ่งกำลังเดินตรงมาทางแนวทหารเด็กคนนั้น…ยิ้มให้เขา ยิ้มแบบ…ยิ้มหวานเกินเหตุ ภาคินชะงัก “นี่มันอันตรายนะครับ ถอยไปหน่อย” เขาพูดเสียงเข้ม แต่นทีกลับเลิกคิ้ว “อ๋อ…ทหารหล่อ ๆ แบบนี้หรอครับที่จะมาขู่ผม” รอยยิ้มขี้อ่อยทำเอาทหารด้านข้างขยับหน้าไปซ่อนหัวเราะ

ภาคินหน้าแข็ง “ผมไม่ได้ขู่ แค่บอกให้ระวัง”นทีทำตาวิ้ง “ถ้าผมระวังตัวมากกว่านี้ ผมก็ไม่มีความสุขน่ะสิครับ” ภาคินไม่รู้จะตอบอะไร เด็กคนนี้…อันตรายกว่าผู้ชุมนุมทั้งหมดรวมกันอีก
เหตุการณ์ผ่านไปด้วยดี การชุมนุมสลายตัวอย่างสงบ แต่ภาพรอยยิ้มของนทีก็ยังติดอยู่ในหัวภาคิน
เขาพยายามไล่ออกไป แต่กลับคิดถึงมันมากขึ้นราวกับถูกสาป
รอบต่อมา เมื่อนักศึกษานัดอีกครั้ง ภาคินก็ได้เจอนทีอีก—ไม่ใช่บังเอิญ เพราะเด็กคนนั้นเดินมาหาเขาโดยตรง
“วันนี้ไม่มีเพื่อนไปด้วย เลยมาหาคุณทหารที่ผมไว้ใจที่สุดครับ”
ภาคินกลั้นใจ แล้วตอบกลับด้วยเสียงที่เข้ม “ผมไม่ได้มีหน้าที่คุยเล่นนะ” “อ้าวเหรอครับ แต่ผมนึกว่าคุณมองผมบ่อย ๆ นี่” ภาคินหน้าแดงเล็กน้อย วิทย์เพื่อนทหารคนสนิทกระแซะกระซิบ “เขามองจริงเว้ย ฮ่า ๆ ๆ”

นทีหัวเราะ “ถ้าคุณไม่อยากให้ผมเข้ามาใกล้ ผมจะถอยนะครับ แต่อย่างน้อยบอกชื่อผมก็ได้ไหม เผื่อวันหนึ่งคุณจะเรียกผมโดยไม่ต้องใช้คำสั่ง” ภาคินนิ่ง “…นที” เขาตอบสั้น ๆ เด็กคนนั้นยิ้มกว้าง “ผมนทีครับ แต่คุณเรียกทีเฉย ๆ ก็ได้ ถ้าสนิทกันมากขึ้น”

สนิทกันมากขึ้นเหรอ?ภาคินหลบสายตา พยายามทำใจให้ว่างเปล่า แต่ในอกกลับไม่ว่างเลยแม้แต่นิดเดียว

หลังการชุมนุมครั้งที่ห้า ภาคินถูกมอบหมายให้คุ้มกันพื้นที่ด้านหลัง ซึ่งเป็นมุมที่เงียบและทหารอยู่น้อย
นทีแอบเดินอ้อมมาหาเขาเหมือนเป็นกิจวัตร “คุณกินข้าวหรือยังครับ?” “ยัง” “ดีเลย ผมมีโจ๊ก ซื้อเผื่อคุณด้วย”

ภาคินตกใจปนความสงสัย ถึงแม้เขาเองจะเริ่มมีความรู้สึกดีๆให้ชายหนุ่มตรงหน้าเขา แต่ก็ยังคงเอ่ยเสียงเข้มออกมา “คุณเอามาให้ผม?” “ก็คุณทำหน้าหิวทุกครั้งที่ผมเจอ…ผมก็ซื้อเผื่อสิครับ” นทีเอ่ยทีเล่นทีจริง น้ำเสียงทำให้ภาคินคิดไปไกล แต่ก็สลัดความคิดไร้สาระนั้นออกไปแล้วเขารับถุงโจ๊กจากนทีโดยไม่พูดอะไร แต่สัมผัสของถุงอุ่น ๆ ทำให้อกของเขาอุ่นตาม นทีนั่งลงข้าง ๆ แบบไม่เกรงใจ
“คุณภาคิน…ผมรู้ว่าคุณไม่อยากมาอยู่ตรงนี้หรอกใช่ไหมครับ”
ภาคินชะงัก “ทำไมคิดแบบนั้น” “สายตาคุณไม่เคยมองนักศึกษาเป็นศัตรูเลย คุณมองพวกเขาเหมือน…เป็นคนที่ต้องปกป้อง”

ภาคินไม่ได้ตอบ แต่คำพูดนั้นแทงเข้าไปลึก นทีเอียงหน้าเล็กน้อย “ผมชอบคุณนะครับ”

ภาคินสะดุ้ง เสียงหัวใจดังชัดจนคิดว่าคนข้าง ๆ ต้องได้ยิน “คุณจะอ่อยใครก็ตามใจ แต่ผม—”
นทีขัดขึ้น “ผมไม่ได้อ่อยคุณครับ ผมบอกตรง ๆ ว่าชอบ” เขายิ้มแบบอ่อนโยนที่สุดตั้งแต่เคยเห็น
“แต่คุณไม่ต้องตอบตอนนี้หรอก ผมรอได้” คำว่า รอได้ ทำเอาภาคินนิ่งไปนานมาก

คืนหนึ่งเกิดเหตุชุลมุนขึ้นเล็กน้อย ผู้ชุมนุมบางส่วนผลักดันแนวแผงกั้น ภาคินรีบไปควบคุมสถานการณ์
และทันใดนั้นเอง เขาเห็นนทีอยู่ท่ามกลางฝูงชนพลุกพล่าน เด็กคนนั้นเกือบถูกดันล้ม ภาคินสวมหมวกกันน็อก วิ่งฝ่าคนเข้าไปดึงตัวนทีออกมาก่อนจะถูกเหยียบ นทีถูกรั้งเข้ามาชิดตัวเขา หน้าแนบหน้าอกเกราะของทหาร เสียงหัวใจภาคินเต้นแรงจนเขารู้สึกอาย
“คุณเจ็บตรงไหนไหม!” นทีส่ายหัว แต่ตาแดง
“ผมกลัวว่าคุณจะไม่ได้อยู่ตรงนี้อีก…กลัวว่าผมจะไม่ได้เจอคุณแล้ว”

ภาคินหมดความอดทนกับความรู้สึกของตัวเอง เขาจับไหล่นทีแน่น “ที ฟังนะ…ผมไม่ควรรู้สึกแบบนี้กับคุณ แต่มันก็หยุดไม่ได้เหมือนกัน” นทีมองตาลึก “งั้นคุณก็ไม่ต้องหยุดสิครับ”

ลมกลางคืนพัดผ่าน เสียงโกลาหลด้านหลังเหมือนห่างไกลออกไปทุกขณะ ภาคินดึงนทีเข้ามากอดแน่น
เป็นกอดที่เขาไม่เคยยอมให้ใจตัวเองทำมาก่อน “หลังจากนี้อาจมีเรื่องยาก แต่…ผมอยู่ข้างคุณนะที”
นทียิ้มทั้งน้ำตา “ผมก็อยู่ข้างคุณเหมือนกันครับ คุณทหารของผม”


สมพร โพสต์ 6 ชั่วโมงที่แล้ว

ขอบคุผฃณมาก

kuminum โพสต์ 5 ชั่วโมงที่แล้ว

ขอบคุณมากครับ

Yaiyra โพสต์ 3 ชั่วโมงที่แล้ว

ต่อๆๆ

popn โพสต์ 3 ชั่วโมงที่แล้ว

ขอบคุณครับ

nuangnut1996 โพสต์ 1 ชั่วโมงที่แล้ว

สนุกมากครับ

basic55 โพสต์ 1 ชั่วโมงที่แล้ว

สนุกมากครับ

possto_01 โพสต์ ครึ่งชั่วโมงที่แล้ว

เขียนบรรยายดีมากครับ
หน้า: [1]
ดูในรูปแบบกติ: บันทึก..ผู้ชายขี้อ่อย 1