วันหยุดของผม ของคนชอบแก้ผ้า (ตอนที่ 5)
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Alaskan เมื่อ 2025-10-29 22:51ตอนที่ 5 นี้ เป็นเรื่องที่ต่อจากสี่ตอนแรก เล่าผ่านประสบการณ์ตรง ผ่านมุมมองของผมที่เป็นชอบแก้ผ้าอยู่แล้ว กลั่นกรองเรียงร้อยออกมาเป็นตัวหนังสือ ถึงความประทับใจและความรู้สึกของผมเอง ที่เป็น naturistที่มีความรู้สึกผูกพันธ์ เชื่อมโยงตัวเองกับธรรมชาติ หวังว่าผู้อ่านทุกท่านจะชื่นชอบเรื่องราวแนวนี้นะครับ โดยรูปทั้งหมดที่ผมนำมาประกอบเป็นการใช้ AI ในการแต่งรูปโดยยึดจากรูปจริง และสถานที่กับบุคคลจริงในเรื่องได้ถูก เสริม/ลดทอน รายละเอียด เพื่อไม่ให้เกิดการรบกวนสถานที่และบุคคลในเรื่องครับ
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
.
วันนี้ผมตั้งใจจะเดินสำรวจรอบๆ โฮมสเตย์อีกครั้ง หลังจากที่เมื่อวาน เดินแวะที่ลำธารตีนเขาได้ไม่นานก็ต้องรีบกลับ เพราะความเงี่ยนจนทนไม่ไหว แต่คราวนี้ผมอยากจะให้เวลาเต็มที่กับลำธารนั้น จะได้รู้จักมันจริงๆ สักทีว่าเป็นอย่างไร น่าค้นหาขนาดไหน
.
ก่อนก้าวออกไปสัมผัสโลกภายนอก ผมหยิบวิทยุสื่อสารขึ้นมา นิ้วสัมผัสปุ่มกดที่อุ่นจากแสงแดดเช้าที่ส่องผ่านหน้าต่าง เสียงคลื่นวิทยุดังแว่วเบาๆ ก่อนจะได้ยินเสียงของลุงเปี๊ยะตอบรับจากอีกฟากหนึ่งของภูเขา ผมแจ้งว่าวันนี้ไม่ต้องเตรียมอาหารเที่ยง เพราะจะเดินสำรวจด้านล่างและคงกลับขึ้นมาช่วงบ่ายๆ
.
หลังจากการสนทนาช่วงสั้นๆกับลุงเปี๊ยะจบลง ผมก็มายืนอยู่หน้ากระจกบานใหญ่ ผมเริ่มสวมเสื้อผ้าสาลูแขนสั้นสีขาว เนื้อผ้าบางเบาจนแทบโปร่งแสง ลื่นไหลเย็นฉ่ำเมื่อสัมผัสผิวหนัง ผมยกแขนสวมเสื้อขึ้น รู้สึกถึงผ้าที่พริ้วไหวปกคลุมไหล่กว้าง ห้อยลงมาแนบอก แนบหน้าท้อง เนื้อผ้าพอดีพอที่จะเห็นเงารูปร่างของกล้ามเนื้อใต้ผ้า แต่หลวมพอที่ให้อากาศไหลเวียนได้สะดวก
.
ส่วนด้านล่าง ผมสวมกางเกงลายช้างที่ซักจนนุ่มเนียน เนื้อผ้าฝ้ายซึมซับความชื้นได้ดีพอดีกับสะโพกและเอว เพราะผมชอบความรู้สึกอิสระที่ไม่มีสิ่งใดรัดรึง กางเกงวางแนบตามรูปทรงของต้นขา แต่หลวมพอที่ให้เคลื่อนไหวได้อย่างอิสระ
.
ส่วนภายใต้กางเกงช้างนั้นไม่มีอะไรข้างใต้—เพียงผ้าบางๆ ชั้นเดียวที่คลอเคลียไปกับทุกการเคลื่อนไหวของร่างกาย รู้สึกถึงอิสรภาพ ความโล่งอก และความเชื่อมโยงกับธรรมชาติอย่างใกล้ชิด ทุกก้าวเดินจะทำให้รู้สึกถึงผ้าที่พริ้วไหว ลมที่พัดสอดผ่าน การเคลื่อนไหวที่ไม่ถูกจำกัด
.
ผมตัดสินใจไม่สวมอะไรข้างใต้เลย—เพียงผ้าบางๆ ชั้นเดียวของกางเกงลายช้างที่คั่นกลางระหว่างผิวกายกับโลกภายนอก ความรู้สึกแรกเมื่อสวมใส่คือความอิสระอย่างแท้จริง ไม่มีชั้นผ้าซ้อนมารัดรึง ไม่มียางยืดมาบีบรัด ผิวหนังทุกส่วนได้สัมผัสกับเนื้อผ้าฝ้ายนุ่มนวลที่ซักจนเนียนลื่นอย่างโดยตรง ผิวที่ไม่มีขนที่ถูกโกนจนสะอาดหมดจดนั้นทำให้ทุกสัมผัสเข้มข้นขึ้นหลายเท่า ทุกครั้งที่เคลื่อนไหว ผ้าจะลื่นไถลไปมาบนผิวที่เนียนนวล คลอเคลียไปกับทุกส่วนของร่างกาย ผ้าจะแนบสนิทพอดี ไม่แน่นเกินไป ไม่หลวมจนรู้สึกไม่มั่นคง
.
เมื่อผมลองก้าวเดินไปมาบนบ้าน กางเกงผ้าที่เลื่อนไถล สัมผัสผิวเนียนลื่นด้วยแรงเสียดทานที่นุ่มนวล ร่วมกับลมเย็นยามเช้าที่พัดผ่านรูพรุนของเนื้อผ้า มาสัมผัสผิวที่อุ่น ทำให้รู้สึกตื่นตัวและสดชื่น ความเรียบเนียนของผิวที่ไร้ขนทำให้การเคลื่อนไหวลื่นไหล ไม่มีอะไรมาดึงรั้งหรือขัดขวาง ผ้าจะเลื่อนไถลอย่างสะดวกสบาย สร้างความรู้สึกที่ละเอียดอ่อนและเร้าใจในเวลาเดียวกัน โดยเฉพาะเวลาที่เนื้อผ้าเคลื่อนที่ผ่านหัวเงี่ยงของกระจู๋ ที่ถูกขลิบเอาหนังหุ้มปลายออกไปแล้วอย่างดี ยิ่งเพิ่มความเสียวกระสันต์ให้ผมทวีคูณขึ้นไปอีก ผมคิดในใจว่า นี่คือความรู้สึกของอิสรภาพอย่างแท้จริง—ไม่มีสิ่งใดมาขวางกั้นระหว่างร่างกายกับโลกที่รออยู่ข้างนอก
.
เมื่อได้เครื่องแต่งกายครบแล้ว ผมก็ได้จัดเตรียมกระเป๋าเป้แบบสะพายน้ำเล็กๆ ที่มีน้ำหนักเบาสบาย ใส่นมกล่องเย็นกับกล้วยหอม และกล้องถ่ายรูปที่พร้อมจะจับภาพทุกความงดงามที่จะพบเจอ โดยที่ไม่ลืมจะเตรียมขาตั้งกล้องไปด้วยเผื่อใช้เป็นไม้เท้าเสริมเวลาเดินลงเขา
.
สุดท้าย ผมสวมรองเท้าแตะรัดส้น พื้นยางยังเปียกชื้นจากหยดน้ำค้างยามเช้า สัมผัสเย็นเยือกแผ่ซ่านไปตามฝ่าเท้า ส้นเท้ารับรู้ทุกเส้นลายของพื้นหนัง ขณะที่สายรัดกอดข้อเท้าอย่างพอดี เมื่อทุกอย่างพร้อม ร่างกายผมรู้สึกเบา อิสระ และพร้อมจะดื่มด่ำกับทุกสัมผัสที่ธรรมชาติจะมอบให้
.
เมื่อเดินลงจากบ้าน ก็ได้กลิ่นดินชื้นจากหมอกในชามเช้า เสียงนกและไก่ขัน แทรกมากับลมอุ่น ผมได้เดินไปตามทางเดินผ่านทุ่งดอกไม้สีเหลือง โดยไม่ลืมที่จะแวะดูร่อยรอยน้ำกามที่เป็นคราบสีเหลืองอ่อนที่ติดอยู่บนเศษฟางและก้อนหินหน้าบ้าน จากปฏิบัติการสุดเสียวเมื่อวานเย็น
.
จากนั้นเผื่อผ่านทางทุ่งดอกไม้ ที่ค่อยๆเป็นทางลาด ไปยังทุ่งนาขั้นบันไดสีเขียวสดที่ได้รับการปลูกไปไม่นาน หัวของเจ้ายักษ์ใต้กางเกงเสียดสีไปกับผ้าฝ้าย ทำให้ผมรู็สึกเสียวมาก จนทำให้จู๋ของผมแข็งขึ้นมาตลอดเวลาที่เดิน พอยิ่งเดินก็ยิ่งเสียดสี ยิ่งหัวเงี่ยงโดนเสียดสี ก็ยิ่งแข็ง ผมก้มลงได้มองก็เห็นกระจู๋ที่พยายามจะดันตัวเองมาเป็นลำ พร้อมมีหยดน้ำเงี่ยนที่เรอะกางเกงเป็นวงๆ
.
เมื่อมาถึงลำธาร ผมได้เสียงน้ำไหลเบาๆ ดังก้องในอากาศ มันไม่กว้างนัก—เพียงสองสามเมตร—แต่เต็มไปด้วยชีวิตใสสะอาด น้ำไหลเอื่อยผ่านโขดหินขรุขระที่สะท้อนแดดระยิบ ลมเย็นจากหุบเขาพัดผ่านมาแตะผิวกายจนรู้สึกสดชื่น น้ำในลำธารใสจนมองเห็นก้อนหินและทรายด้านล่างได้ชัด ผมค่อยๆ เดินสำรวจไปตามทาง บางช่วงน้ำลึกถึงข้อเท้า ริมน้ำมีมอสส์และเฟิร์นขึ้นเขียวครึ้มสลับกับดอกไม้ป่าสีเหลืองเล็กๆ ดูเงียบสงบดี
.
ผมก้าวข้ามกอหญ้าและเศษกิ่งไม้แห้ง เพื่อจะสำรวจให้มากขึ้นตอนที่กำลังจะก้าวข้ามไปอีกฝั่ง ผมดันเหยียบหินก้อนหนึ่งที่ผิวลื่นเพราะตะไคร่น้ำ เสี้ยววินาทีนั้นเท้าผมลื่นไถลไป มือทั้งสองยันลงพื้นอย่างแรง เสียงน้ำกระเซ็นใส่เต็มแขนและชายเสื้อเย็นเฉียบ ความรู้สึกแรกคือเจ็บนิดๆ แต่ก็ตามมาด้วยความเย็นที่ซึมผ่านผ้าเข้าไปในตัว กางเกงก็เปียกชื้นจนแนบเนื้อไปหมด
.
ผมหัวเราะเบาๆ กับความซุ่มซ่ามของตัวเอง ก่อนจะมองหาที่นั่งพักใกล้ๆ บริเวณนั้นมีท่อนไม้ใหญ่ล้มอยู่พอดี ผมจึงเดินไปนั่งพักพลางบิดชายเสื้อให้หมาด แต่เมื่อรู้ว่าผ้าที่ใส่อยู่ชื้นไปทั้งตัว การนั่งพักเฉยๆ กลับยิ่งรู้สึกไม่สบาย สุดท้ายผมก็ตัดสินใจถอดเสื้อออก หาที่พาดไว้บนกิ่งไม้ให้แสงแดดยามสายส่องถึง ความอบอุ่นของแดดอ่อนๆ ทำให้ผิวรู้สึกผ่อนคลายขึ้น แต่กางเกงที่ยังเปียกอยู่ก็ทำให้รู้สึกอึดอัดเหมือนเดิม ผมเหลียวมองรอบๆ อีกครั้ง เงียบสงบมีเพียงเสียงน้ำและเสียงนก ไม่มีวี่แววของผู้คนเลย มีเพียงผมกับเสียงของธรรมชาติเท่านั้น
.
เมื่อแน่ใจว่าอยู่ลำพัง ผมจึงถอดกางเกงออกด้วยความระมัดระวัง แล้วพาดไว้ข้างๆ เสื้อ ให้ลมและแดดช่วยทำหน้าที่แทนผ้าเช็ดตัว ตอนนี้เหลือเพียงร่างเปล่าๆ ที่ได้สัมผัสกับอากาศและธรรมชาติอย่างแท้จริง ผมเอนหลังพิงท่อนไม้ ชันเข่าขึ้นหนึ่งข้าง เพื่อให้ช่วงต้นขาและขาหนีบได้สัมผัสกับอากาศ และใช้มื้อทั้งสองข้างสานกันเป็นหมอนหนุ่นหัว ผมสูดหายใจลึกๆ กลิ่นหญ้า กลิ่นดินเปียก และกลิ่นน้ำสะอาดของลำธารลอยมาแตะจมูก
.
ร่างกายผมตอนนั้นสัมผัสกับลมเย็นโดยตรง ผิวที่ยังมีหยดน้ำเกาะอยู่รู้สึกถึงความเย็นเฉียบไหลผ่าน ก่อนที่แสงอุ่นจากแดดจะค่อย ๆ ไล่ตามเข้ามา ความแตกต่างของสัมผัสนั้นทั้งสดชื่นและสงบในเวลาเดียวกัน เหมือนธรรมชาติกำลังปรับสมดุลให้ร่างกายและจิตใจ
.
เวลาผ่านไปโดยไม่รู้ตัว แดดเริ่มแรงขึ้นจนรู้สึกแสบผิวเล็กน้อย พอมองนาฬิกาก็เห็นว่าเกือบเที่ยงแล้ว ท้องเริ่มร้องจ๊อกๆ ผมจึงควานหาของกินในกระเป๋า หยิบกล้วยกับกล่องนมที่เตรียมไว้มากินรองท้อง พลางมองเสื้อผ้าที่กำลังแห้งทีละน้อยใต้แดดอุ่นๆ ความเรียบง่ายของช่วงเวลานั้นทำให้ผมรู้สึกสงบอย่างประหลาด เหมือนได้หลุดออกมาจากโลกที่วุ่นวายชั่วขณะหนึ่ง
.
แสงแดดยามเที่ยงเริ่มแรงจนรู้สึกแสบผิว ผมนั่งอยู่เงียบ ๆ รอให้เสื้อผ้าแห้งจนเริ่มร้อนผ่าวเป็นจุดๆตามที่โดนแดด จึงตัดสินใจลุกขึ้น เดินสำรวจไปตามแนวลำธาร เสียงน้ำไหลซู่เบา ๆ คล้ายเสียงกระซิบจากภูเขา พื้นหินเรียบชื้นเย็นใต้ฝ่าเท้าทำให้รู้สึกสดชื่นขึ้นมาทันที
.
ไม่นานผมก็พบแอ่งน้ำเล็ก ๆ ที่น้ำจากต้นธารไหลตกลงมารวมกัน ก่อนจะไหลต่อไปยังช่วงที่ต่ำกว่าเหมือนน้ำตกสองชั้น แอ่งนั้นกว้างพอดี ลึกประมาณเข่า น้ำใสจนเห็นก้อนหินข้างใต้เรียงตัวเป็นชั้นสวยงาม แสงแดดสะท้อนผิวน้ำระยิบระยับเหมือนเศษกระจกสีทอง ผมเอนตัวลงในแอ่งน้ำ น้ำเย็นจัดทันทีที่กระทบเท้า ไหลผ่านข้อเท้า ลูบไปตามน่องและหน้าขา รู้สึกถึงความสดชื่นที่ไหลเข้ามาแทนที่ความร้อนจากแดด ทุกการสัมผัสของน้ำเหมือนถูกประคองและลูบไล้ทุกอณูผิวจนผมรับรู้ถึงความเบาและผ่อนคลาย
.
จากนั้นผมจึงนั่งลงและเอนนอนลงไปทั้งตัว เมื่อผมหันหัวให้น้ำไหลผ่านร่าง กระแสน้ำเล็ก ๆ ลูบผ่านเส้นผม ไล่ลงตามต้นคอ บ่า แผ่นหลัง และเอว แต่ละหยดน้ำที่ไหลผ่านผิวกายเหมือนปลดปล่อยความตึงเครียดออกไป น้ำไหลซึมเข้าตามร่องกล้ามเนื้อและซอกผิวกายทุกส่วน ทำให้ร่างกายรู้สึกโปร่ง เบา และเย็นสดชื่นในเวลาเดียวกัน
.
ผมเอนตัวพิงก้อนหิน น้ำไหลรอบตัวอย่างต่อเนื่อง ลูบผ่านสะโพก เส้นเอ็น ท่อนเอ็น ผ่านหัวเงี่ยงขอกระดอ ที่โบกสะบัดตามกระแสน้ำที่พัดผ่าน น้ำไหลผ่านลงไปยังขา และปลายเท้า เสียงน้ำกระทบหินสม่ำเสมอเป็นจังหวะเหมือนหัวใจเต้นช้าๆ ร่างกายผมเหมือนถูกล้างทั้งความร้อน ความเมื่อยล้า และความกังวลออกไป เหลือเพียงความสงบและความสดชื่นที่ซึมลึกเข้าไปถึงจิตใจ
.
แดดอ่อนจากยอดเขาส่องลงมากระทบผิวน้ำเป็นประกายระยิบระยับ น้ำสะท้อนแสงเป็นลำแสงสีทองเล็ก ๆ กระทบผิวของผม ผิวที่ยังเย็นชุ่มน้ำเปล่งประกายราวกับตอบสนองต่อธรรมชาติที่ล้อมรอบ ลมพัดอ่อน ๆ ผ่านใบไม้และผิวกาย ส่งความสดชื่นอีกชั้นเข้ามา ทำให้ผมรู้สึกเป็นอิสระอย่างเต็มที่ ราวกับว่าโลกทั้งใบหยุดหมุนไว้ตรงนี้
.
ผมนอนนิ่งในน้ำ ปล่อยให้ร่างกายทุกส่วนสัมผัสกับกระแสน้ำและธรรมชาติ เสียงน้ำไหลและเสียงป่ารอบตัวกลายเป็นดนตรีช้า ๆ ที่ผ่อนคลายจิตใจ ผมเริ่มหลับตา ปล่อยให้ความสงบค่อย ๆ ซึมเข้าไปทุกอณูตัว รู้สึกเหมือนตัวเองกลายเป็นส่วนหนึ่งของลำธาร น้ำไหลผ่านผิวและผ่านหัวใจ ล้างความเหนื่อยล้าและความคิดวุ่นวายออกไปจนหมดสิ้น
.
ผมนอนนิ่งอยู่ในแอ่งน้ำ ปล่อยให้ความเย็นของน้ำและเสียงน้ำตกกล่อมตัวอยู่เหมือนเดิม แต่แล้วก็เริ่มได้ยินเสียงต๊อก ๆ ของก้าวเท้าใกล้เข้ามา เสียงไม้ไผ่เคาะโขดหินดังเป็นจังหวะช้า ๆ คล้ายกำลังหาสิ่งมีชีวิตเล็ก ๆ ในลำธาร เสียงนั้นใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ ทำให้หัวใจผมเต้นแรงทันที
.
ผมสะดุ้งตื่นตัวเมื่อรู้ว่าตัวเองอยู่ตามลำพังในแอ่งน้ำ แสงแดดสะท้อนบนผิวน้ำราวกับสปอตไลท์ส่องมาที่ร่างกาย ผมตกใจจนแทบขยับตัวไม่ได้ พยายามจุ่มตัวลงให้ลึกขึ้น หวังว่าน้ำจะช่วยปกปิดร่างไว้ แต่แอ่งน้ำตื้นเกินไป น้ำเย็นไหลผ่านผิวกายแต่ไม่ได้ทำให้รู้สึกปลอดภัย หรือดับความร้อนวูบวาบในใจที่กลัวว่าจะมีใครสักคนมองเห็นผมในสภาพนี้
.
ผมหลับตาแน่น แกล้งทำเป็นหลับ แล้วลืมตาแอบมองเล็กน้อยว่าเขาจะสังเกตเห็นไหม ยิ่งเขาเดินเข้ามาใกล้ หัวใจผมก็ยิ่งเต้นแรงขึ้น เสียงน้ำไหล เสียงใบไม้กรอบแกรบ เสียงทุกอย่างรอบตัวกลายเป็นสิ่งที่จับตาจับใจ
.
เมื่อเขามายืนข้างแอ่งน้ำ สายตาจ้องมองผมชั่วครู่ ผมเห็นเขาสะดุดเล็กน้อยก่อนจะนิ่งอยู่ตรงนั้น ผมเริ่มจินตนาการไปเองว่าเขาเห็นอะไร สายตาของเขาคงจับจ้องร่างกายที่นิ่งกลางน้ำ แสงสะท้อนบนผิว หยดน้ำที่เกาะระยิบระยับ น้ำทำหน้าที่เหมือนเลนส์ขยายทุกส่วนของร่างให้ชัดขึ้น ความคิดนี้ทำให้หัวใจผมเต้นรัวยิ่งกว่าเดิม
.
ความอายและตื่นเต้นท่วมท้นจนผมแทบหายใจไม่ออก ผมหลับตาต่อ แสร้งทำเป็นไม่รู้ตัวว่ามีคนยืนมองอยู่ พยายามดันตัวลงให้น้ำปกปิดร่าง แต่รู้ดีว่ามันไม่พอจะซ่อนผมจากสายตาของเขา น้ำใสราวกระจกสะท้อนทุกเส้นสายของร่างกาย แสงแดดทอดผ่านผิวน้ำลงมาเหมือนจงใจเน้นทุกรายละเอียด
.
ร่างกายตึงแข็งไปหมด หัวใจเต้นแรงจนแทบกระโดดออกมา ผมรู้สึกถึงสายตาของเขาที่ยังคงจับจ้องอยู่ ผมพยายามข่มอารมณ์ไว้ แต่ยิ่งหัวใจเต้นแรง เลือดก็ยิ่งสูบฉีดไหลแล่นไปทั่วร่าง จนเจ้ายักษ์ตาเดียวของผมที่นอนนิ่งเริ่มจะพองตัว ความร้อนวูบวาบขึ้นมาทั้งที่ร่างกายแช่อยู่ในน้ำเย็น ผิวกายเกร็งตึง แต่ร่างกายกลับตอบสนองในทางตรงกันข้ามกับที่ผมพยายามควบคุม ผมเกร็งตัวกดไว้จนแทบตะคริว พยายามหายใจให้ช้าลง หวังว่าจะช่วยระงับความรู้สึกที่กำลังพลุ่งพล่านออกมา
.
เวลาเหมือนหยุดนิ่งไปชั่วขณะ ก่อนที่เขาจะค่อย ๆ เดินจากไป เสียงฝีเท้าบนหินเปียกค่อย ๆ จางหาย ผมยังคงนอนนิ่ง หัวใจยังเต้นรัว ความตึงเครียดยังคงอยู่แม้เขาจะไปแล้ว ผมปล่อยให้ลมเย็นและน้ำไหลผ่านร่างกาย ค่อย ๆ ชะล้างความประหม่าและความตื่นเต้นที่ยังคงแทรกซึมอยู่ ใช้เวลาพักใหญ่กว่าที่ร่างกายจะค่อย ๆ คลายตัว และผมจะกลับมารู้สึกถึงความสงบอีกครั้ง
.
ผมค่อย ๆ ลุกขึ้นจากแอ่งน้ำ หยดน้ำไหลรินลงจากร่างกาย แสงแดดกระทบผิวเปียกจนแวววาว ผมเดินกลับไปยังจุดที่ตากเสื้อผ้าไว้ ลมเย็นพัดผ่านทำให้รู้สึกสดชื่นทุกฝีก้าว ผิวกายยังคงชุ่มฉ่ำด้วยน้ำที่ไหลรินอยู่ เมื่อก้มตัวจะหยิบเสื้อผ้า ผมนึกขึ้นได้ถึงกล้องถ่ายภาพในกระเป๋าเป้ที่วางอยู่ใกล้ ๆ ความคิดหนึ่งวาบขึ้นมาทำให้ผมยิ้ม ช่วงเวลาที่เพิ่งผ่านไป ความตื่นเต้น ความประหม่า และความรู้สึกปลดปล่อย ทุกอย่างน่าจะถูกบันทึกไว้
.
ผมหยิบกล้องขึ้นมา ตั้งมุมถ่ายด้วยความตั้งใจ บันทึกภาพบรรยากาศของลำธาร โขดหินที่เปียกชื้น และแสงแดดที่สะท้อนระยิบระยับบนผิวน้ำ ผมยืนเป็นฉากหน้า ร่างกายยังคงเปียกและเปลือยเปล่า ถ่ายทั้งภาพระยะใกล้ที่เห็นรายละเอียด และภาพระยะไกลที่เห็นทั้งตัวท่ามกลางธรรมชาติ แต่ละภาพเป็นความทรงจำที่ชัดเจน เป็นหลักฐานของช่วงเวลาที่กล้าหาญและปลดปล่อยนี้
.
ผมนั่งลงมองภาพในหน้าจอ กลิ่นดิน กลิ่นน้ำ และเสียงน้ำไหลยังคงอยู่ในหัว ความรู้สึกของช่วงเวลาที่เพิ่งเกิดขึ้น — ความตื่นเต้นเล็ก ๆ กับความอิสระ เมื่อได้ดูภาพถ่ายนูดที่ตัวเองแก้ผ้า ทำให้ผมเกิดอารมณ์หัวใจเต็นแรงขึ้น เมื่อเลื่อนซูมรูปไปเรื่อยๆ เห็นหัวเงี่ยง ที่โบกสบัดไปมาตามท่าทาง ทั้งในอากาศและใต้น้ำ กับท่าโก้งโค้งที่มองผ่านพวงไข่ลอดไปยังหัวกระดอ และท่วงท่าต่างๆ เห็นหยดน้ำเล็กๆเกาะตามหัวเหน่าที่เนียนเรียบและตามหัวกระดอที่แผ่ออกราวกับดอกเห็ด — น้ำที่เกาะตามตัว ราวกับได้ดูภาพนักแสดงที่มีกากเพชรประดับกาย
.
เมื่อผมเลื่อนภาพไปเรื่อยๆ ก็ทำให้อารมณ์เงี่ยนโพยพุ่ง กอปรกับเรื่องราวที่พึ่งผ่านมาสดๆร้อนๆ ผมจึงได้นั่งลงไปที่โขดหิน ใช้น้ำที่ไหลเอื่อยๆจากลำธารเป็นตัวช่วยหล่อลื่น ค่อยๆถู ไถๆ ใช้ทั้งฝ่ามือปั่น และใช้นิ้วกระตุ้นหัวกระดอที่กระดกหงึกๆอยู่ในมือ ผมใช้มืออีกข้างลูบไล้ตามร่างกาย ผ่านหัวนมที่ทำให้ผมเสียวสยิวจนตั้งชูชันไม่แพ้กับกระดอที่ตั้งตระหง่านอยู่ ในขณะนี้มือขวาผมก็สาละวนอยู่ที่กระดอ ลูบไล้ เขี่ย และถูกสาวขึ้นลง เนิ่บๆด้วยความเร็วคงที่สลับกับสาวอย่างรวดเร็วเป็นระยะๆ และมือซ้ายก็ได้เรื้อยวนลงไปยังพวงไข่ ผ่านไปยังด้านหลัง ค่อยๆแยง และถูวนเป็นเลขแปดไปยังรูก้นที่ฟิตและแน่นสนิท
.
ตอนนี้ผมอารมณ์พุ่งพล่านอย่างถึงที่สุด จึงได้คว้ากล้องกลับด้านหันขึ้นมาถ่ายวิดิโอ จากนั้นผมใช้ทั้งสองมือช่วยกันนวด บีบ คลึงกระดอและพวกไข่ และยิ่งมีกล้องบันทึกภาพเคลื่อนไหวผมยิ่งเงี่ยนขึ้นไปใหญ่ สุดท้ายผมได้ปล่อยน้ำกามสีขาวขุ่นออกมา แบบกลั้นไม่อยู่ พุ่งขึ้นไปถึงหัว เรอะหน้าผาก เข้าปาก และเปรอะเปื้อนตามอกตามตัวไปหมด ผมได้แต่หอบหายใจถี่ปล่อยให้น้ำเงี่ยนสายที่สาม สี่ ห้า พุ่งไหลลงไปยังลำธาร กลายเป็นก้อนวุ้นเล็กๆเคลื่อนที่ล่องลอยไปตามกระแสน้ำไหลออกไป
.
จากนั้นผมเดินกลับมายังแอ่งน้ำเล็ก ๆ ใต้แนวน้ำตกเดิม เสียงน้ำไหลกระทบหินดังเป็นจังหวะคุ้นหู ละอองน้ำกระเซ็นมาแตะผิวกาย ความเย็นฉ่ำทำให้รู้สึกสดชื่นตั้งแต่ยังไม่ได้ลงน้ำ ผมค่อย ๆ ก้าวลงไปในแอ่งน้ำ ความเย็นวาบวาบขึ้นมาตามแนวขา ผิวร่างกายที่ร้อนผ่าว ก็ค่อยๆคลายลงเมื่อจุ่มตัวลึกขึ้น
.
ผมวักน้ำลูบหน้า แล้วปล่อยให้น้ำเย็นไหลจากหัวลงมาช้า ๆ สัมผัสน้ำไหลผ่านต้นคอ แผ่ลงไปตามแผ่นอก แล้วแยกเป็นทางรอบลำตัว น้ำเย็นแตะต้องทุกส่วนของร่างกาย ผมใช้โอกาสนี้ชำระคราบน้ำเงี่ยนที่ยังคงติดเหนียวเป็นสายตามตัวล้างอย่างช้า ๆ มือลูบไล้ไปตามผิวที่เปียกชุ่ม ล้างเหนียวที่เกาะอยู่ตามคอ ตามไหล่ ลงมาที่หน้าอก รู้สึกถึงทุกเส้นสายของกล้ามเนื้อที่คลายตัวใต้ฝ่ามือ
.
มือผมเคลื่อนลงไปตามท้องอย่างช้า ๆ สัมผัสผิวที่ตึงแน่น น้ำเย็นไหลตามร่องของกล้ามเนื้อ ผมลูบคลำล้างทุกส่วนอย่างละเอียด มือเคลื่อนลงไปต่ำกว่านั้น ไล้ไปตามขาหนีบ ชำระตรงซอกเล็ก ๆ ที่มักถูกมองข้าม ก่อนจะค่อย ๆ เคลื่อนมาที่หัวเงี่ยนที่แดงฉาน ลูบล้างอย่างช้า ๆ ละเอียดถี่ถ้วน รู้สึกถึงทุกความรู้สึกที่แผ่ซ่านขึ้นมา น้ำเย็นกับมือที่อุ่นสร้างความแตกต่างที่ชัดเจน
.
ผมหลับตารับความสดชื่นที่แผ่ซ่านไปทั่วร่าง มือยังคงเคลื่อนช้า ๆ ล้างทุกส่วน ทุกซอก จนรู้สึกสะอาดและปลดปล่อยอย่างสมบูรณ์ จากนั้นจึงได้ลุกออกไปแต่งตัวเพื่อจะได้เข้าไปสำรวจป่าเมืองเหนือที่เป็นแหล่งต้นน้ำต่อไป
.
ขอบคุณมากครับ ขอบคุณครับ ตอนที่เหลือน่าจะมีเรื่องสนุกและเสียวมากแน่ๆ สนุกมากครับ มาต่อนะ ขอบคุณมากครับ ขอบคุณครับ สนุกครับ ชอบๆๆๆ
{:5_119:}
ขอบคุณมากๆๆๆ ครับๆๆๆฟ ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ ขอบคุณค่ะ ขอบคุณครับ งดงามมาก ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ เล่าได้ละมุนมาก เสียวตามเลย เสียวซ่าน ขอบคุนคับ ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ เหมือนได้ไปด้วยเลย เขียนดีมาก
หน้า:
[1]
2