เสือจิ่ง ตอน เสือกลายเป็นแมว (แนวโจรดิบเถื่อน) 7
เสียงนกร้องแว่วลอดมากับลมยามเช้า แสงแดดจาง ๆ ส่องรอดผ่านช่องไม้ไผ่ของหลังคากระท่อมร้างกลางป่า ทาบลงบนร่างเปลือยเปล่าของเสือจิ่งที่นอนแผ่อยู่บนพื้นกระสอบฟางเก่า ๆ
เปลือกตาค่อย ๆ กระพริบเปิดขึ้น พร้อมกับความรู้สึกปวดหน่วงนิด ๆ ที่ช่วงเอวกับบั้นท้าย จนต้องนิ่วหน้าเบา ๆ …เมื่อคืนแม่งเอาซะเกือบแย่
เขานอนนิ่งอยู่สักพัก ก่อนจะหันข้างไปช้า ๆ …แล้วก็ต้องเบิกตากว้างเมื่อเห็นว่าคนข้างกายยังนอนหลับอยู่
เสือจิ่งเงียบ ไม่กล้าขยับตัวแรง มองใบหน้าด้านข้างของอีกฝ่ายชัด ๆ เป็นครั้งแรกในชีวิต
แสงแดดที่ลอดลงมากระทบปลายจมูกคม ทำให้เห็นชัดเลยว่า ไอ้เหี้ยนี่…มันหล่อแบบไม่ปราณีจริง ๆ
ทำไมกูไม่เคยสังเกตเลยวะ…
มิน่าล่ะ ทำไมสาว ๆ ถึงได้รุมมันนัก…
เสือจิ่งเผลอก้มหน้าเข้าไปใกล้ขึ้นเรื่อย ๆ …อยากจะสังเกตให้ชัดกว่านี้อีกนิด
ยังไม่ทันแตะอะไรเลย…
ฟึ่บ!
ดวงตาคมคู่นั้นก็ลืมขึ้นมาทันที จ้องตรงกลับมาด้วยแววตาง่วง ๆ แต่เจือรอยยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์
“แอบดูหน้ากูเหรอ?”
“เหี้ย—!!”
เสือจิ่งตกใจแทบสะดุ้ง หน้าร้อนวูบจนจะถอยหนี แต่ยังไม่ทันได้ผละตัวออกไปไกล...
หมับ!
แขนแกร่งของภูผาก็คว้าตัวเขาไว้แน่น กอดกระชับเอวเปลือยเปล่าแล้วดึงเข้าไปแนบอก
“แอบมองหน้ากูแต่เช้าเลยเหรอ”
“...ไอ้เหี้ย ปล่อยกูเดี๋ยวนี้เลยนะ”
“เมื่อคืนยังครางชื่อกูอยู่เลย ตอนนี้จะหนี?” มันพูดหน้าด้าน ๆ แล้วฝังจมูกลงข้างแก้มเขาแรง ๆ อย่างหมั่นเขี้ยว
จ๊วบ
“อ๊ากกก! ไอ้สัตว์! หอมทำเหี้ยอะไรแต่เช้า!!”
“ก็หอมของกู กูจะหอมตรงไหนก็เรื่องของกูปะวะ”
“กูจะกัดลิ้นมึง!”
“เมื่อคืนก็ไม่กัดนี่…”
เสือจิ่งด่าไปหมด แต่ร่างก็ยังถูกกอดแน่น หน้าร้อนผ่าวจนอยากมุดดินหนี ปากขยับจะด่าอีก แต่หัวใจก็เต้นแรงฉิบหาย
เพราะสุดท้าย…เขาก็ไม่ได้ผลักมันออก
หลังจากผลัดกันด่าผลัดกันหอมอยู่พักใหญ่ เสือจิ่งก็เริ่มเหนื่อยจะเถียง หน้าก็ยังแดง หัวใจก็ยังเต้นไม่เป็นจังหวะ พอหยุดดิ้นหยุดด่าลงได้บ้าง ภูผาก็แอบยิ้มแล้วเอามือหนา ๆ มาแนบหน้าผากของเขาช้า ๆ
“...วัดไข้?”
“อือ ดูซิเมื่อคืนกูเล่นแรงไปหรือเปล่า”
เสือจิ่งทำหน้านิ่ง แต่ก็ไม่ขัดขืน…ยอมนอนนิ่งให้ไอ้บ้านี่วัดไข้ด้วยมือตัวเองอยู่แบบนั้น
ภูผานิ่งไปครู่หนึ่ง ก่อนจะเอียงหน้าเข้าใกล้มากกว่าเดิม กระซิบเบา ๆ “ไม่มีไข้ แต่ตัวอุ่นนิด ๆ สงสัยจะร้อนเพราะคิดถึงกูมั้ง”
“กูจะถีบยอดหน้ามึงเนี่ย”
“กล้าเหรอ เดี๋ยวกูจะจับอ้าขาอีก”
“ไอ้เหี้ย—!”
แต่เขายังไม่ทันดิ้นแรงอะไร ภูผาก็เปลี่ยนเรื่องทันที วาดมือไปหยิบผ้าพันแผลเก่า ๆ ที่พันข้อแขนไว้ แล้วค่อย ๆ แกะออกอย่างระมัดระวัง
เสือจิ่งเงียบลง ปล่อยให้มันทำต่อโดยไม่ว่าอะไร
ผิวใต้ผ้าพันแผลเผยให้เห็นรอยช้ำจาง ๆ แต่ไม่มีรอยแผลเปิดอีกแล้ว สีผิวเริ่มกลับเป็นปกติ แม้จะยังแดงอยู่บ้าง แต่ก็ดูดีขึ้นเยอะ
ภูผาเอานิ้วแตะเบา ๆ พลางพึมพำ
“ดีขึ้นเยอะแล้ว…ร่างกายแม่งก็ถึกเหมือนปากเลยนะมึง”
เสือจิ่งเบ้หน้าใส่
ภูผาหัวเราะเบา ๆ ก่อนจะละมือออกจากแผล แล้วมองใบหน้าของอีกฝ่ายที่ตอนนี้เริ่มเงียบลง ดวงตาใต้ขนตายาวดูเหนื่อยกว่าเดิม ริมฝีปากก็เม้มไว้แน่นอย่างพยายามกลั้นความรู้สึก
“หลายวันแล้วนะ…” ภูผาพูดเสียงเบา “คนของมึง คงตามหากันวุ่นเลย”
เสือจิ่งเงียบ ไม่ตอบคำใด ๆ
สายตาเขาเหม่อออกไปนอกผนังกระท่อม หูได้ยินแต่เสียงแมลงป่ากับเสียงลม ไม่มีเสียงฝีเท้า ไม่มีเสียงม้า ไม่มีเสียงแตรสัญญาณใด ๆ จากพวกพ้องที่เคยอยู่เคียงข้าง
“มึงแบกไว้เยอะเกินไปแล้วนะ…”
“อะไรของมึง…”
“ศักดิ์ศรี หัวหน้าโจร…ความเข้มแข็ง ความโหดเหี้ยม…แต่จริง ๆ มึงก็แค่ลูกแมวตัวเล็ก ๆ ขี้อ้อนที่ชอบซุกอกคนตอนกลางคืน”
เสือจิ่งหันขวับ “มึงว่าใครเป็นลูกแมววะ ไอ้—”
ยังไม่ทันได้ด่าจบ ปากก็โดนจูบเบา ๆ เข้าที่หน้าผาก
“...น่ารักจะตาย” ภูผาพึมพำ แล้วรวบคนตรงหน้าเข้ากอดอีกครั้ง
เวลาล่วงเลยจากช่วงเช้ามาสู่สายวัน แสงแดดที่ส่องลอดช่องไม้เริ่มแรงขึ้น อากาศในกระท่อมก็อุ่นจนเหงื่อเริ่มผุดตามไรผม
พอแดดแรงเข้า ภูผาก็ค่อย ๆ ขยับตัว ลุกขึ้นอย่างเงียบเชียบ
เสือจิ่งปรือตามองเล็กน้อย ยังง่วงอยู่ แต่ก็ไม่ได้ถามอะไร ปล่อยให้อีกฝ่ายเดินออกไปนอกร่มไม้กระท่อม
สักพัก กลิ่นควันไฟบาง ๆ ก็ลอยมาแตะจมูก พร้อมกลิ่นหอมไหม้ของอะไรบางอย่าง
จนกระทั่งภูผากลับเข้ามาอีกครั้ง พร้อมกับมันป่าหัวโตที่ผิวเกรียมเพราะถูกเผาจนสุก
“เมื่อวานกูขุดได้หลายหัว ลองเผาดู ร้อน ๆ น่าจะพอกินได้อยู่”
มันพูดพลางนั่งลงข้าง ๆ แล้วเป่ามันเผาในมือช้า ๆ ไล่ไอร้อนออก ก่อนจะใช้มือเปลือยแกะเปลือกดำ ๆ ออกอย่างใจเย็น เหลือแต่เนื้อในเหลืองนวลน่ากิน
“เอ้า ร้อนนิด ๆ กินได้แล้ว” มันยื่นมาให้ตรงหน้า
เขายื่นมือไปรับโดยไม่พูดอะไร แต่ในใจ…
แม่ง...ทำอย่างกับกูเป็นเมียมันเลยอย่างนั้น
เป่าให้หายร้อน แกะเปลือกอย่างดี...กูก็ลูกผู้ชายอกสามศอกเหมือนกันนะเว้ย ไม่เห็นต้องมาเอาอกเอาใจขนาดนี้
ทำเป็นป้อน ทำเป็นดูแล…หรือมันจะแอบมีใจให้กูจริง ๆ
ใบหน้าเริ่มร้อนวูบขึ้นมาเองแบบไร้เหตุผล ทั้งที่อากาศในป่าก็ไม่ได้ร้อนอะไรขนาดนั้น
ภูผานั่งลงข้าง ๆ ล้มตัวพิงกำแพงไม้ไผ่พลางหันมามองแบบยิ้ม ๆ
“มองหน้าอะไร” เสือจิ่งพูดเสียงห้วน
“ก็เห็นมึงทำหน้าเหมือนจะเขิน เลยดูว่าใช่รึเปล่า”
“เขินพ่อง! กูหิวต่างหาก”
ภูผาหัวเราะเบา ๆ แล้วหยิบอีกหัวมาปอกต่ออย่างใจเย็น “ก็หิวได้ แต่ห้ามด่าคนทำ”
“มึงก็อย่าทำตัวเหมือนผัว กูจะได้ไม่ต้องรู้สึกแปลก ๆ ไง”
“หืม…แค่ปอกมันเผาให้กินนี่นะ?”
“เออ!”
“แล้วถ้ากูอาบน้ำให้ ป้อนข้าวให้ นวดหลังให้ล่ะ...จะเรียกกูว่าอะไรดี?”
“ไอ้เหี้ยภูผา!!”
ถึงจะปากเสีย แต่เสือจิ่งก็กินมันเผาไปหมดโดยไม่เหลือซาก แถมยังแอบมองมันเผาหัวใหม่ที่ถูกยื่นมาให้อีกด้วยสายตาหงุดหงิดแบบหิว ๆ
ส่วนภูผาก็แค่ยิ้ม แล้วพูดเบา ๆ
“อยากให้กูปอกอีกก็พูดดี ๆ สิ เดี๋ยวกูทำให้”
“...ไอ้เวรเอ๊ย” เสือจิ่งพึมพำ แต่ก็ยอมยื่นมือไปรับอยู่ดี
ในใจ…ก็รู้ตัวดี ว่าตัวเองเริ่มชินกับการมีมันอยู่ข้าง ๆ แล้ว
หลังจากที่มันเผาหัวสุดท้ายหมดลง เสือจิ่งก็ลูบท้องเบา ๆ พลางถอนหายใจ เหมือนจะเรียกแรงกลับคืนมาได้บ้าง ถึงแม้ความปวดตึงที่ช่วงเอวจะยังหลอกหลอนอยู่ทุกครั้งที่ขยับตัวแรง ๆ
ภูผานั่งเงียบอยู่ข้าง ๆ สายตามองเจ้าหัวหน้าโจรที่พยายามทำเหมือนแข็งแรงปกติ ทั้งที่เมื่อคืนโดนกระหน่ำไปแทบลุกไม่ขึ้น
“มึงเดินไหวมั้ย” เขาถามเสียงนิ่ง ๆ ไม่ได้แหย่ “ถ้าไม่ไหว กูจะแบกมึงขึ้นหลัง”
เสือจิ่งหันควับ “มึงเลิกทำเหมือนกูอ่อนแอได้มั้ย เดินแค่นี้เอง ทำไมกูจะเดินไม่ไหว”
ภูผาชะงักไปนิด ก่อนพยักหน้าช้า ๆ “เออ”
ไม่อยากเถียงให้เสียหน้า แม้จะรู้อยู่เต็มอกว่าอีกฝ่ายเพิ่งรอดจากการ ‘ถูกจับกิน’ มาทั้งคืน แค่ลุกได้นี่ก็บุญแล้ว
พวกเขาเก็บข้าวของที่ไม่มากอะไร ผ้าห่มเก่า ๆ กับอาวุธพก ก่อนจะพากันมุ่งหน้าเดินขึ้นเขา หวังจะหาทางกลับเส้นทางใหญ่ที่พอจะนำทางสู่หมู่บ้านได้
ภูผาเดินนำหน้า มือถือมีดสั้นกรีดเถาวัลย์เบา ๆ ขณะบริกรรมคาถาเสียงเบา ท่องรัวแต่กระชับ ฟังแทบไม่ทัน
เสือจิ่งเลิกคิ้วอย่างระแวง เดินตามหลังไปไม่กี่ก้าวก็ตัดสินใจเอ่ยถาม
“เฮ้ย เมื่อกี้มึงพึมพำอะไร”
“...เปล่า” ภูผาหันมาตอบไวเกิน จนดูผิดปกติ
เสือจิ่งจ้องเขม็ง “มึงว่าคาถาใช่มั้ย?”
“….”
“เมื่อกี้กูได้ยินชัดเลยนะ ว่ามึงกำลังว่าคาถา…มึงเรียนวิชามาด้วยเหรอ ไหนพ่อครูเคยบอกว่ามึงไม่สนใจไง?”
ภูผาหัวเราะแห้ง ๆ กลบเกลื่อน แล้วเบือนหน้าหนีไปอีกทาง
“เอาน่า อย่าไปบอกพ่อกูเลย กูแค่…เคยได้ยิน ก็เลยจำมาใช้เฉย ๆ บางทีในป่ามันก็ต้องมีอะไรไว้พึ่งบ้าง”
“เคยได้ยิน? นี่มึงร่ายได้คล่องกว่าหมอผีประจำหมู่บ้านอีกนะ”
“ก็แค่กันเหนียว มึงไม่เห็นเหรอ ทางที่เราเดินมา แม่งโล่งฉิบหาย ไม่มีหนาม ไม่มีงู ไม่มีอะไรเลย…”
เสือจิ่งมองรอบตัวแล้วก็ต้องยอมรับ เส้นทางป่าที่ควรจะรกกลับโล่งผิดปกติ ราวกับมีใครเปิดทางไว้ให้
เขาเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะปรายตามองอีกฝ่ายอย่างจับผิด “อย่าบอกนะว่ามึงมีของดีอะไรติดตัวไว้แต่ไม่ยอมบอกใคร”
“ของดีอะไรล่ะ…กูก็มีแค่นี้แหละ มีมือ มีขา มี—”
“พอ ไม่ต้องพูดต่อ กูไม่อยากฟัง”
…
แสงแดดสาดเฉียงมาตามแนวต้นไม้สูง ร่มไม้ที่ทอดเงาอยู่ทั่วไปช่วยให้ป่าเย็นลง แม้จะเป็นบ่ายแก่ ๆ แล้วก็ตาม
ภูผาหยุดเดินตรงใต้ต้นไม้ใหญ่ต้นหนึ่ง ก่อนจะหันไปบอกเสือจิ่ง
“นั่งพักหน่อยดิ”
เสือจิ่งไม่ตอบ แต่ก็ยอมนั่งลงข้างโคนไม้แต่โดยดี ร่างกายที่ระบมแทบทุกส่วนทำให้เขาเผลอครางฮึ่มในลำคอเบา ๆ ตอนทิ้งตัวลงนั่ง
ภูผาหยิบกระบอกไม้ไผ่ที่ใส่น้ำสะอาดออกมา แล้วเปิดฝาแล้วยื่นไปให้ “จิบหน่อย แก้กระหาย”
เสือจิ่งรับมาดื่มอึกหนึ่งก่อนจะคืนให้ มือยังสั่นเล็กน้อยแต่ไม่แสดงออกชัดนัก
“เหนื่อยมั้ย?” ภูผาถามเสียงเรียบ
“ไม่” เสือจิ่งตอบเร็ว “เดินอีกนิดก็ถึงแล้วใช่มั้ย”
“อือ ใกล้ละ”
เสือจิ่งกระดกคอพิงต้นไม้ หลับตานิ่ง แต่ในใจ...กำลังด่าตัวเองไม่หยุด
ไม่เหนื่อยพ่อง...
ขาระบมยังกะโดนช้างเหยียบ บ่าไหล่ก็เหมือนลากถุงปุ๋ยขึ้นเขา
เท้านี่แทบจะแตกอยู่แล้ว มึงมันโง่…เสือจิ่งเอ๊ย
สภาพร่างกายไม่ต่างจากคนกลิ้งตกเขามาสามวันสามคืน แต่ปากยังต้องเก๊กว่าไหว ทั้งที่ใจอยากนอนร้องไห้บนตักสาวอยู่เต็มที
จังหวะนั้นเอง ภูผาก็นั่งลงข้าง ๆ ก่อนจะเอ่ยเสียงเบากว่าทุกที
“ถ้าถึงหมู่บ้านแล้ว...มึงจะทำเป็นไม่รู้จักกูต่อไปใช่มั้ย”
เสือจิ่งลืมตาขึ้น หันไปมองอีกฝ่ายช้า ๆ ก่อนหัวเราะในลำคออย่างขื่น ๆ
“แล้วกูจะให้คนอื่นรู้ได้ไงล่ะ ว่ามึงกับกูเคยทำเรื่องอย่างว่าด้วยกัน”
“...”
“ทำตัวเหมือนเดิมนั่นแหละดีแล้ว” เขาว่าต่อ “อีกอย่าง กูกับมึงก็ไม่ได้เป็นอะไรกันอยู่แล้ว”
น้ำเสียงยังคงเรียบ เย็น และไม่มีความลังเล
“ก็แค่สนุกกันชั่วครั้งชั่วคราว ไม่เห็นต้องคิดมาก ออกจะดีด้วยซ้ำ จะได้ไม่มีใครผูกมัดใคร”
ภูผาเงียบไปนาน ไม่ตอบกลับทันที
ลมวูบหนึ่งพัดผ่านยอดไม้ ใบไม้ไหวเบา ๆ เหมือนเป็นเสียงที่ดังพอจะกลบความเงียบอึดอัดในใจคนพูดได้พอดี
เสือจิ่งเบือนหน้าหนี มองไปยังทางเดินที่ทอดลึกเข้าไปในเงาไม้
เขาไม่รู้ว่าไอ้ประโยคนั้น มันพูดออกมาเพื่อกันตัวเอง...หรือกันความรู้สึกของอีกฝ่าย
แต่ที่แน่ ๆ ตอนนี้มันก็ยังไม่มีใครเป็นของใครจริง ๆ นั่นแหละ
...ใช่มั้ย?
----------------------------------------
แวะมาอัพให้แล้วนะครับ
ขอกำลังใจหน่อยน้าาา
ขอบคุณครับ สนุกมากครับ ขอบคุณสำหรับการแบ่งปันครับ{:5_119:} ปากแข็งแล้วอย่างอื่นจะแข็งตามไหมน้ออ เสือจิ่งเอ้ยย555 ดีมาก เลิฟไงครับ ขอบคุณครับ {:5_123:} ขอบคุนครับ ขอบคุณครับ มาต่อแล้ว มีแอบหวานๆ ด้วย
เสือจิ่งจะปากตรงกับใจเมื่อไหร่นะ 😊
ขอบคุณนะครับ โมเม้นน่ารักก แต่เสือจิ่ง ทำเสียเรื่องละ สงสารภูผา ขอบคุณครับ 👍👌👍👌👍👌👍
หน้า:
[1]