NOOFONG โพสต์ 2025-10-25 11:28:21

เสือจิ่ง ตอน เสือกลายเป็นแมว (แนวโจรดิบเถื่อน) 7





เสียงนกร้องแว่วลอดมากับลมยามเช้า แสงแดดจาง ๆ ส่องรอดผ่านช่องไม้ไผ่ของหลังคากระท่อมร้างกลางป่า ทาบลงบนร่างเปลือยเปล่าของเสือจิ่งที่นอนแผ่อยู่บนพื้นกระสอบฟางเก่า ๆ


เปลือกตาค่อย ๆ กระพริบเปิดขึ้น พร้อมกับความรู้สึกปวดหน่วงนิด ๆ ที่ช่วงเอวกับบั้นท้าย จนต้องนิ่วหน้าเบา ๆ …เมื่อคืนแม่งเอาซะเกือบแย่


เขานอนนิ่งอยู่สักพัก ก่อนจะหันข้างไปช้า ๆ …แล้วก็ต้องเบิกตากว้างเมื่อเห็นว่าคนข้างกายยังนอนหลับอยู่


เสือจิ่งเงียบ ไม่กล้าขยับตัวแรง มองใบหน้าด้านข้างของอีกฝ่ายชัด ๆ เป็นครั้งแรกในชีวิต


แสงแดดที่ลอดลงมากระทบปลายจมูกคม ทำให้เห็นชัดเลยว่า ไอ้เหี้ยนี่…มันหล่อแบบไม่ปราณีจริง ๆ


ทำไมกูไม่เคยสังเกตเลยวะ…


มิน่าล่ะ ทำไมสาว ๆ ถึงได้รุมมันนัก…


เสือจิ่งเผลอก้มหน้าเข้าไปใกล้ขึ้นเรื่อย ๆ …อยากจะสังเกตให้ชัดกว่านี้อีกนิด


ยังไม่ทันแตะอะไรเลย…


ฟึ่บ!


ดวงตาคมคู่นั้นก็ลืมขึ้นมาทันที จ้องตรงกลับมาด้วยแววตาง่วง ๆ แต่เจือรอยยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์


“แอบดูหน้ากูเหรอ?”


“เหี้ย—!!”


เสือจิ่งตกใจแทบสะดุ้ง หน้าร้อนวูบจนจะถอยหนี แต่ยังไม่ทันได้ผละตัวออกไปไกล...


หมับ!


แขนแกร่งของภูผาก็คว้าตัวเขาไว้แน่น กอดกระชับเอวเปลือยเปล่าแล้วดึงเข้าไปแนบอก


“แอบมองหน้ากูแต่เช้าเลยเหรอ”


“...ไอ้เหี้ย ปล่อยกูเดี๋ยวนี้เลยนะ”


“เมื่อคืนยังครางชื่อกูอยู่เลย ตอนนี้จะหนี?” มันพูดหน้าด้าน ๆ แล้วฝังจมูกลงข้างแก้มเขาแรง ๆ อย่างหมั่นเขี้ยว


จ๊วบ


“อ๊ากกก! ไอ้สัตว์! หอมทำเหี้ยอะไรแต่เช้า!!”


“ก็หอมของกู กูจะหอมตรงไหนก็เรื่องของกูปะวะ”


“กูจะกัดลิ้นมึง!”


“เมื่อคืนก็ไม่กัดนี่…”


เสือจิ่งด่าไปหมด แต่ร่างก็ยังถูกกอดแน่น หน้าร้อนผ่าวจนอยากมุดดินหนี ปากขยับจะด่าอีก แต่หัวใจก็เต้นแรงฉิบหาย


เพราะสุดท้าย…เขาก็ไม่ได้ผลักมันออก


หลังจากผลัดกันด่าผลัดกันหอมอยู่พักใหญ่ เสือจิ่งก็เริ่มเหนื่อยจะเถียง หน้าก็ยังแดง หัวใจก็ยังเต้นไม่เป็นจังหวะ พอหยุดดิ้นหยุดด่าลงได้บ้าง ภูผาก็แอบยิ้มแล้วเอามือหนา ๆ มาแนบหน้าผากของเขาช้า ๆ


“...วัดไข้?”


“อือ ดูซิเมื่อคืนกูเล่นแรงไปหรือเปล่า”


เสือจิ่งทำหน้านิ่ง แต่ก็ไม่ขัดขืน…ยอมนอนนิ่งให้ไอ้บ้านี่วัดไข้ด้วยมือตัวเองอยู่แบบนั้น


ภูผานิ่งไปครู่หนึ่ง ก่อนจะเอียงหน้าเข้าใกล้มากกว่าเดิม กระซิบเบา ๆ “ไม่มีไข้ แต่ตัวอุ่นนิด ๆ สงสัยจะร้อนเพราะคิดถึงกูมั้ง”


“กูจะถีบยอดหน้ามึงเนี่ย”


“กล้าเหรอ เดี๋ยวกูจะจับอ้าขาอีก”


“ไอ้เหี้ย—!”


แต่เขายังไม่ทันดิ้นแรงอะไร ภูผาก็เปลี่ยนเรื่องทันที วาดมือไปหยิบผ้าพันแผลเก่า ๆ ที่พันข้อแขนไว้ แล้วค่อย ๆ แกะออกอย่างระมัดระวัง


เสือจิ่งเงียบลง ปล่อยให้มันทำต่อโดยไม่ว่าอะไร


ผิวใต้ผ้าพันแผลเผยให้เห็นรอยช้ำจาง ๆ แต่ไม่มีรอยแผลเปิดอีกแล้ว สีผิวเริ่มกลับเป็นปกติ แม้จะยังแดงอยู่บ้าง แต่ก็ดูดีขึ้นเยอะ


ภูผาเอานิ้วแตะเบา ๆ พลางพึมพำ


“ดีขึ้นเยอะแล้ว…ร่างกายแม่งก็ถึกเหมือนปากเลยนะมึง”


เสือจิ่งเบ้หน้าใส่


ภูผาหัวเราะเบา ๆ ก่อนจะละมือออกจากแผล แล้วมองใบหน้าของอีกฝ่ายที่ตอนนี้เริ่มเงียบลง ดวงตาใต้ขนตายาวดูเหนื่อยกว่าเดิม ริมฝีปากก็เม้มไว้แน่นอย่างพยายามกลั้นความรู้สึก


“หลายวันแล้วนะ…” ภูผาพูดเสียงเบา “คนของมึง คงตามหากันวุ่นเลย”


เสือจิ่งเงียบ ไม่ตอบคำใด ๆ


สายตาเขาเหม่อออกไปนอกผนังกระท่อม หูได้ยินแต่เสียงแมลงป่ากับเสียงลม ไม่มีเสียงฝีเท้า ไม่มีเสียงม้า ไม่มีเสียงแตรสัญญาณใด ๆ จากพวกพ้องที่เคยอยู่เคียงข้าง


“มึงแบกไว้เยอะเกินไปแล้วนะ…”


“อะไรของมึง…”


“ศักดิ์ศรี หัวหน้าโจร…ความเข้มแข็ง ความโหดเหี้ยม…แต่จริง ๆ มึงก็แค่ลูกแมวตัวเล็ก ๆ ขี้อ้อนที่ชอบซุกอกคนตอนกลางคืน”


เสือจิ่งหันขวับ “มึงว่าใครเป็นลูกแมววะ ไอ้—”


ยังไม่ทันได้ด่าจบ ปากก็โดนจูบเบา ๆ เข้าที่หน้าผาก


“...น่ารักจะตาย” ภูผาพึมพำ แล้วรวบคนตรงหน้าเข้ากอดอีกครั้ง


เวลาล่วงเลยจากช่วงเช้ามาสู่สายวัน แสงแดดที่ส่องลอดช่องไม้เริ่มแรงขึ้น อากาศในกระท่อมก็อุ่นจนเหงื่อเริ่มผุดตามไรผม


พอแดดแรงเข้า ภูผาก็ค่อย ๆ ขยับตัว ลุกขึ้นอย่างเงียบเชียบ


เสือจิ่งปรือตามองเล็กน้อย ยังง่วงอยู่ แต่ก็ไม่ได้ถามอะไร ปล่อยให้อีกฝ่ายเดินออกไปนอกร่มไม้กระท่อม


สักพัก กลิ่นควันไฟบาง ๆ ก็ลอยมาแตะจมูก พร้อมกลิ่นหอมไหม้ของอะไรบางอย่าง


จนกระทั่งภูผากลับเข้ามาอีกครั้ง พร้อมกับมันป่าหัวโตที่ผิวเกรียมเพราะถูกเผาจนสุก


“เมื่อวานกูขุดได้หลายหัว ลองเผาดู ร้อน ๆ น่าจะพอกินได้อยู่”


มันพูดพลางนั่งลงข้าง ๆ แล้วเป่ามันเผาในมือช้า ๆ ไล่ไอร้อนออก ก่อนจะใช้มือเปลือยแกะเปลือกดำ ๆ ออกอย่างใจเย็น เหลือแต่เนื้อในเหลืองนวลน่ากิน


“เอ้า ร้อนนิด ๆ กินได้แล้ว” มันยื่นมาให้ตรงหน้า


เขายื่นมือไปรับโดยไม่พูดอะไร แต่ในใจ…


แม่ง...ทำอย่างกับกูเป็นเมียมันเลยอย่างนั้น


เป่าให้หายร้อน แกะเปลือกอย่างดี...กูก็ลูกผู้ชายอกสามศอกเหมือนกันนะเว้ย ไม่เห็นต้องมาเอาอกเอาใจขนาดนี้


ทำเป็นป้อน ทำเป็นดูแล…หรือมันจะแอบมีใจให้กูจริง ๆ


ใบหน้าเริ่มร้อนวูบขึ้นมาเองแบบไร้เหตุผล ทั้งที่อากาศในป่าก็ไม่ได้ร้อนอะไรขนาดนั้น


ภูผานั่งลงข้าง ๆ ล้มตัวพิงกำแพงไม้ไผ่พลางหันมามองแบบยิ้ม ๆ


“มองหน้าอะไร” เสือจิ่งพูดเสียงห้วน


“ก็เห็นมึงทำหน้าเหมือนจะเขิน เลยดูว่าใช่รึเปล่า”


“เขินพ่อง! กูหิวต่างหาก”


ภูผาหัวเราะเบา ๆ แล้วหยิบอีกหัวมาปอกต่ออย่างใจเย็น “ก็หิวได้ แต่ห้ามด่าคนทำ”


“มึงก็อย่าทำตัวเหมือนผัว กูจะได้ไม่ต้องรู้สึกแปลก ๆ ไง”


“หืม…แค่ปอกมันเผาให้กินนี่นะ?”


“เออ!”


“แล้วถ้ากูอาบน้ำให้ ป้อนข้าวให้ นวดหลังให้ล่ะ...จะเรียกกูว่าอะไรดี?”


“ไอ้เหี้ยภูผา!!”


ถึงจะปากเสีย แต่เสือจิ่งก็กินมันเผาไปหมดโดยไม่เหลือซาก แถมยังแอบมองมันเผาหัวใหม่ที่ถูกยื่นมาให้อีกด้วยสายตาหงุดหงิดแบบหิว ๆ


ส่วนภูผาก็แค่ยิ้ม แล้วพูดเบา ๆ


“อยากให้กูปอกอีกก็พูดดี ๆ สิ เดี๋ยวกูทำให้”


“...ไอ้เวรเอ๊ย” เสือจิ่งพึมพำ แต่ก็ยอมยื่นมือไปรับอยู่ดี


ในใจ…ก็รู้ตัวดี ว่าตัวเองเริ่มชินกับการมีมันอยู่ข้าง ๆ แล้ว


หลังจากที่มันเผาหัวสุดท้ายหมดลง เสือจิ่งก็ลูบท้องเบา ๆ พลางถอนหายใจ เหมือนจะเรียกแรงกลับคืนมาได้บ้าง ถึงแม้ความปวดตึงที่ช่วงเอวจะยังหลอกหลอนอยู่ทุกครั้งที่ขยับตัวแรง ๆ


ภูผานั่งเงียบอยู่ข้าง ๆ สายตามองเจ้าหัวหน้าโจรที่พยายามทำเหมือนแข็งแรงปกติ ทั้งที่เมื่อคืนโดนกระหน่ำไปแทบลุกไม่ขึ้น


“มึงเดินไหวมั้ย” เขาถามเสียงนิ่ง ๆ ไม่ได้แหย่ “ถ้าไม่ไหว กูจะแบกมึงขึ้นหลัง”


เสือจิ่งหันควับ “มึงเลิกทำเหมือนกูอ่อนแอได้มั้ย เดินแค่นี้เอง ทำไมกูจะเดินไม่ไหว”


ภูผาชะงักไปนิด ก่อนพยักหน้าช้า ๆ “เออ”


ไม่อยากเถียงให้เสียหน้า แม้จะรู้อยู่เต็มอกว่าอีกฝ่ายเพิ่งรอดจากการ ‘ถูกจับกิน’ มาทั้งคืน แค่ลุกได้นี่ก็บุญแล้ว


พวกเขาเก็บข้าวของที่ไม่มากอะไร ผ้าห่มเก่า ๆ กับอาวุธพก ก่อนจะพากันมุ่งหน้าเดินขึ้นเขา หวังจะหาทางกลับเส้นทางใหญ่ที่พอจะนำทางสู่หมู่บ้านได้


ภูผาเดินนำหน้า มือถือมีดสั้นกรีดเถาวัลย์เบา ๆ ขณะบริกรรมคาถาเสียงเบา ท่องรัวแต่กระชับ ฟังแทบไม่ทัน


เสือจิ่งเลิกคิ้วอย่างระแวง เดินตามหลังไปไม่กี่ก้าวก็ตัดสินใจเอ่ยถาม


“เฮ้ย เมื่อกี้มึงพึมพำอะไร”


“...เปล่า” ภูผาหันมาตอบไวเกิน จนดูผิดปกติ


เสือจิ่งจ้องเขม็ง “มึงว่าคาถาใช่มั้ย?”


“….”


“เมื่อกี้กูได้ยินชัดเลยนะ ว่ามึงกำลังว่าคาถา…มึงเรียนวิชามาด้วยเหรอ ไหนพ่อครูเคยบอกว่ามึงไม่สนใจไง?”


ภูผาหัวเราะแห้ง ๆ กลบเกลื่อน แล้วเบือนหน้าหนีไปอีกทาง


“เอาน่า อย่าไปบอกพ่อกูเลย กูแค่…เคยได้ยิน ก็เลยจำมาใช้เฉย ๆ บางทีในป่ามันก็ต้องมีอะไรไว้พึ่งบ้าง”


“เคยได้ยิน? นี่มึงร่ายได้คล่องกว่าหมอผีประจำหมู่บ้านอีกนะ”


“ก็แค่กันเหนียว มึงไม่เห็นเหรอ ทางที่เราเดินมา แม่งโล่งฉิบหาย ไม่มีหนาม ไม่มีงู ไม่มีอะไรเลย…”


เสือจิ่งมองรอบตัวแล้วก็ต้องยอมรับ เส้นทางป่าที่ควรจะรกกลับโล่งผิดปกติ ราวกับมีใครเปิดทางไว้ให้


เขาเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะปรายตามองอีกฝ่ายอย่างจับผิด “อย่าบอกนะว่ามึงมีของดีอะไรติดตัวไว้แต่ไม่ยอมบอกใคร”


“ของดีอะไรล่ะ…กูก็มีแค่นี้แหละ มีมือ มีขา มี—”


“พอ ไม่ต้องพูดต่อ กูไม่อยากฟัง”









แสงแดดสาดเฉียงมาตามแนวต้นไม้สูง ร่มไม้ที่ทอดเงาอยู่ทั่วไปช่วยให้ป่าเย็นลง แม้จะเป็นบ่ายแก่ ๆ แล้วก็ตาม


ภูผาหยุดเดินตรงใต้ต้นไม้ใหญ่ต้นหนึ่ง ก่อนจะหันไปบอกเสือจิ่ง


“นั่งพักหน่อยดิ”


เสือจิ่งไม่ตอบ แต่ก็ยอมนั่งลงข้างโคนไม้แต่โดยดี ร่างกายที่ระบมแทบทุกส่วนทำให้เขาเผลอครางฮึ่มในลำคอเบา ๆ ตอนทิ้งตัวลงนั่ง


ภูผาหยิบกระบอกไม้ไผ่ที่ใส่น้ำสะอาดออกมา แล้วเปิดฝาแล้วยื่นไปให้ “จิบหน่อย แก้กระหาย”


เสือจิ่งรับมาดื่มอึกหนึ่งก่อนจะคืนให้ มือยังสั่นเล็กน้อยแต่ไม่แสดงออกชัดนัก


“เหนื่อยมั้ย?” ภูผาถามเสียงเรียบ


“ไม่” เสือจิ่งตอบเร็ว “เดินอีกนิดก็ถึงแล้วใช่มั้ย”


“อือ ใกล้ละ”


เสือจิ่งกระดกคอพิงต้นไม้ หลับตานิ่ง แต่ในใจ...กำลังด่าตัวเองไม่หยุด


ไม่เหนื่อยพ่อง...


ขาระบมยังกะโดนช้างเหยียบ บ่าไหล่ก็เหมือนลากถุงปุ๋ยขึ้นเขา


เท้านี่แทบจะแตกอยู่แล้ว มึงมันโง่…เสือจิ่งเอ๊ย


สภาพร่างกายไม่ต่างจากคนกลิ้งตกเขามาสามวันสามคืน แต่ปากยังต้องเก๊กว่าไหว ทั้งที่ใจอยากนอนร้องไห้บนตักสาวอยู่เต็มที


จังหวะนั้นเอง ภูผาก็นั่งลงข้าง ๆ ก่อนจะเอ่ยเสียงเบากว่าทุกที


“ถ้าถึงหมู่บ้านแล้ว...มึงจะทำเป็นไม่รู้จักกูต่อไปใช่มั้ย”


เสือจิ่งลืมตาขึ้น หันไปมองอีกฝ่ายช้า ๆ ก่อนหัวเราะในลำคออย่างขื่น ๆ


“แล้วกูจะให้คนอื่นรู้ได้ไงล่ะ ว่ามึงกับกูเคยทำเรื่องอย่างว่าด้วยกัน”


“...”


“ทำตัวเหมือนเดิมนั่นแหละดีแล้ว” เขาว่าต่อ “อีกอย่าง กูกับมึงก็ไม่ได้เป็นอะไรกันอยู่แล้ว”


น้ำเสียงยังคงเรียบ เย็น และไม่มีความลังเล


“ก็แค่สนุกกันชั่วครั้งชั่วคราว ไม่เห็นต้องคิดมาก ออกจะดีด้วยซ้ำ จะได้ไม่มีใครผูกมัดใคร”


ภูผาเงียบไปนาน ไม่ตอบกลับทันที


ลมวูบหนึ่งพัดผ่านยอดไม้ ใบไม้ไหวเบา ๆ เหมือนเป็นเสียงที่ดังพอจะกลบความเงียบอึดอัดในใจคนพูดได้พอดี


เสือจิ่งเบือนหน้าหนี มองไปยังทางเดินที่ทอดลึกเข้าไปในเงาไม้


เขาไม่รู้ว่าไอ้ประโยคนั้น มันพูดออกมาเพื่อกันตัวเอง...หรือกันความรู้สึกของอีกฝ่าย


แต่ที่แน่ ๆ ตอนนี้มันก็ยังไม่มีใครเป็นของใครจริง ๆ นั่นแหละ


...ใช่มั้ย?


----------------------------------------
แวะมาอัพให้แล้วนะครับ
ขอกำลังใจหน่อยน้าาา


reawreaw โพสต์ 2025-10-25 13:42:39

ขอบคุณครับ

nuangnut1996 โพสต์ 2025-10-25 13:51:10

สนุกมากครับ

เลโกชิ โพสต์ 2025-10-25 15:21:26

ขอบคุณสำหรับการแบ่งปันครับ{:5_119:}

คำปุ้ย โพสต์ 2025-10-25 17:17:58

ปากแข็งแล้วอย่างอื่นจะแข็งตามไหมน้ออ เสือจิ่งเอ้ยย555

view99 โพสต์ 2025-10-25 18:42:27

ดีมาก

lekthai โพสต์ 2025-10-25 20:16:56

เลิฟไงครับ

mojimaru โพสต์ 2025-10-25 23:19:22

ขอบคุณครับ

BB5599 โพสต์ 2025-10-26 09:44:46

{:5_123:}

bo69dy โพสต์ 2025-10-26 18:17:24

ขอบคุนครับ

Nestle โพสต์ 2025-10-27 04:44:34

ขอบคุณครับ

GuN009 โพสต์ 2025-10-27 10:05:07

มาต่อแล้ว มีแอบหวานๆ ด้วย
เสือจิ่งจะปากตรงกับใจเมื่อไหร่นะ 😊
ขอบคุณนะครับ

freezz6969 โพสต์ 2025-10-28 05:44:38

โมเม้นน่ารักก   แต่เสือจิ่ง ทำเสียเรื่องละ   สงสารภูผา

guwin001 โพสต์ 2025-11-1 11:07:35

ขอบคุณครับ

Ton8Ton โพสต์ 2025-11-3 13:05:08

👍👌👍👌👍👌👍
หน้า: [1]
ดูในรูปแบบกติ: เสือจิ่ง ตอน เสือกลายเป็นแมว (แนวโจรดิบเถื่อน) 7