เมื่อผมดิลลับกับไรเดอร์
ผมเป็นฟรีแลนซ์ที่ทำงานเกี่ยวกับกราฟิกเป็นหลัก ด้วยความที่ WFH ตลอดเวลา เลยแทบไม่ได้ออกจากห้องไปไหน นอกจากจะสั่งอาหารผ่านแอปพลิเคชัน ซึ่งกลายเป็นกิจวัตรประจำวันของผมไปโดยปริยาย มีร้านโปรดที่ผมสั่งประจำ และไรเดอร์ที่คอยรับออเดอร์ก็หน้าเดิมๆ จนผมเริ่มคุ้นเคยวันหนึ่ง ผมอ่านเจอบทความเกี่ยวกับ "ดีลลับ" ระหว่างลูกค้ากับไรเดอร์ บางคนเล่าว่ามีการเสนองานเสริมแบบลับๆ ซึ่งเป็นมากกว่าการรับส่งอาหาร บทความนั้นทำให้ผมเริ่มคิดตาม แม้ว่ามันจะเป็นเรื่องที่หลายคนมองว่าไม่เหมาะสม แต่มันก็จุดประกายความอยากรู้อยากลองในใจผม
"เซ็กซ์กับความรักมันต้องมาคู่กันเสมอเหรอ?" ผมถามตัวเอง บางทีเราก็อาจจะสนุกกับมันได้โดยไม่ต้องผูกพัน ผมไม่เคยลองอะไรแบบนี้มาก่อน แต่บทความนั้นทำให้ผมเริ่มสนใจ แม้จะยังไม่มีความกล้ามากพอ
ช่วงเย็นของวันหนึ่ง ขณะที่ผมสั่งอาหารร้านประจำ ผมสังเกตว่าไรเดอร์ที่รับงานไม่ใช่คนที่ผมเคยเห็นมาก่อน ดูจากรูปโปรไฟล์ในแอป แม้มันจะเบลอเล็กน้อย แต่ก็พอดูหน้าตาได้คร่าวๆว่า หน้าไทยๆ บ้านๆ มีเสน่ห์ในแบบของเขา
อยู่ๆผมก็นึกถึงบทความนั้น มันทำให้ใจผมเต้นแรงด้วยความอยากลอง เลยเอาชื่อของเขาในแอพไปเสิร์ชในกูเกิลเพื่อดูว่าเจอเฟซบุ๊กหรืออะไรเพิ่มเติมหรือเปล่า และผมก็เจอจริงๆ แม้จะมีรูปแค่ไม่กี่รูป แต่ก็มากพอให้ผมรู้สึกสนใจ
เขาดูดีในแบบเรียบง่าย หุ่นกำลังดี ไม่ผอมเกินไปและไม่อ้วนจนเกินไป เหมือนคนที่ทำงานใช้แรง แต่สิ่งที่ทำให้ผมลังเลคือ ชื่อที่ใช้ในแอปกับชื่อบนเฟซบุ๊กจะตรงกันไหม สงสัยนิดๆว่าเขาอาจใช้บัตรประชาชนคนอื่นสมัครหรือเปล่า เพราะบางทีรูปในแอปเป็นผู้ชายแต่คนมาส่งจริงๆเป็นผู้หญิงก็มี
"ลองดูหน่อยจะเป็นอะไรไป" ผมคิดในใจ ก่อนส่งข้อความในแอปไปหาเขา
"พี่รับงานเสริมไหมครับ?"
ข้อความถูกส่งไป ผมรู้ว่ามันเป็นคำถามที่เสี่ยง แต่ในใจลึกๆอยากรู้ว่าเขาจะตอบว่าอะไร สักพักหนึ่ง เขาอ่านข้อความแต่ไม่ตอบ ทิ้งไว้พักใหญ่จนผมเริ่มคิดว่าเขาคงไม่สนใจ
แต่ไม่นาน เขาก็ตอบกลับมาสั้นๆ
"งานอะไรครับ"
ผมหยุดนิ่งไปชั่วครู่ ก่อนจะตัดสินใจส่งข้อความกลับไป "1 น้ำ 500 บาทครับ"
เขาอ่านแล้วตอบกลับมาทันที "ไม่ครับ"
ข้อความนั้นก็ชัดเจนพอให้รู้ว่าเขาไม่สนใจ ผมไม่ได้รู้สึกแย่ เพราะรู้ดีว่านี่เป็นสิ่งที่ไม่ใช่ทุกคนจะยอมรับ และก็ดีที่คอนโดของผมมีจุดวางอาหาร ทำให้ผมไม่ต้องลงไปเผชิญหน้ากับเขา
หลังจากนั้น ผมยังคงสั่งอาหารร้านประจำ และบางครั้งเขาก็ยังเป็นคนมาส่ง ผมไม่ได้คิดถึงเรื่องนั้นอีก เพราะคิดว่ามันจบไปแล้ว แต่สิ่งที่ผมไม่คาดคิดคือ วันหนึ่งก็มีข้อความเด้งขึ้นมา
"ใช่คนที่เคยถามเรื่องงานเสริมไหมครับ"
ข้อความนั้นมาจากเขา ทำเอาผมเอะใจ และคิดในใจว่าเขารู้ได้ยังไงว่าเป็นผม หรือระบบแอปมันแสดงข้อมูลอะไรที่ผมไม่รู้? หรือเขาจำได้จากเมนูอาหารที่ผมสั่งประจำและที่อยู่
ตอนแรกผมลังเล กลัวว่าเขาจะด่า แต่สุดท้ายผมก็ตัดสินใจตอบกลับไป
"ใช่ครับ"
หลังจากตอบข้อความว่า ใช่ครับ
เขาก็ตอบกลับมาแค่
"โอเค"
ความเงียบของการสนทนาทำให้ความตื่นเต้นในตัวผมพุ่งทะยานขึ้น
โอเคหมายถึงอะไร...แล้วยังไงต่อ
ผมได้แต่คิด แล้วเขาก็ไม่ได้พิมพ์อะไรมาอีก
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น เขาโทรมาผ่านแอปพลิเคชัน เสียงทุ้มต่ำพูดเพียงว่า "ถึงแล้วครับ" ทำให้ผมสะดุ้งเล็กน้อย
ปกติเวลามีไรเดอร์มาส่งของที่ตึก เขาจะวางในจุดส่งของเดลิเวอรี่ ยกเว้นคนที่จ่ายเป็นเงินสดที่จะต้องลงมารับของพร้อมจ่ายเงินกับไรเดอร์
ผมที่จ่ายเงินตัดผ่านบัตรเครดิตอยู่แล้ว ปกติจะให้ไรเดอร์วางอาหารไว้ที่จุดส่งของแล้วค่อยลงไปเอา
และทุกครั้งที่เขามาส่ง เขาก็จะวางไว้และถ่ายรูปอาหารส่งมาให้ แต่รอบนี้เขาโทรมาบอกว่าถึงแล้ว เหมือนต้องการให้ผมลงไปรับอาหารเอง ทั้งๆที่ก็วางไว้ได้
ผมกดลิฟต์ลงไปทันทีด้วยหัวใจที่เต้นรัว มือเย็นเฉียบอยู่ในลิฟต์ ความคิดวนเวียนอยู่ในหัว
เมื่อเดินออกไปถึงหน้าประตู ภาพตรงหน้าคือชายหนุ่มในชุดฟอร์มไรเดอร์สีเขียว แขนยาวที่มาพร้อมถุงมือ กางเกงขายาว และรองเท้าผ้าใบ ผ้าปิดหน้าที่เขาใช้กันแดดเหลือเพียงดวงตาที่มองตรงมาทางผม
เขายืนนิ่งเหมือนรูปปั้น ไม่มีคำพูดใดๆหลุดออกจากปากเขา ผมมองตาเขาและจังหวะนั้นก็รู้สึกได้ถึงความเย็นยะเยือกในอากาศ แต่ขณะเดียวกันก็มีบางอย่างที่ทำให้บรรยากาศดูร้อนระอุ
ผมพยักหน้าเบาๆ เพื่อเป็นสัญญาณให้เขาเดินตามผม เขาขยับตัวตามมาโดยไม่พูดอะไร
ภายในลิฟต์ กลิ่นกายของเขาที่ลอยอวลอยู่ในอากาศกลับดึงดูดให้ผมเผลอสูดลมหายใจลึก กลิ่นแดดและเหงื่อที่ติดมาจากการขับรถของเขาตลอดวันชัดเจน มันไม่ได้เหม็น แต่มันกลับมีเสน่ห์แบบดิบๆ ที่ผสมผสานระหว่างกลิ่นของแรงงานและความเป็นชาย
แอร์เย็นฉ่ำภายในลิฟต์ไม่ได้ช่วยให้ความตึงเครียดในอากาศลดลง ผมเหลือบมองเขาเป็นระยะโดยไม่ตั้งใจ สายตาไล่สำรวจจากหัวไหล่ที่ดูกว้าง ไปยังลำแขนที่ดูแน่นกระชับ ข้อมือที่สวมถุงมือยังคงเปื้อนรอยจางๆ ของการทำงานทั้งวัน
เขายืนนิ่ง สายตาที่แสดงออกมานั้นทำให้ผมรู้สึกเหมือนกำลังถูกจับจ้อง ความสูงที่ต่างกันเล็กน้อยทำให้ผมต้องเงยหน้ามองบางครั้ง ความรู้สึกอึดอัดไม่ได้มาจากคำพูดใดๆ แต่มาจากความนิ่งเงียบที่เหมือนจะพูดอะไรบางอย่างอยู่ตลอด
ประตูห้องเปิดออก ผมแสกนบัตรและดันประตูให้เปิดกว้าง เขายืนนิ่งที่หน้าประตูเหมือนลังเล ผมจึงชี้ไปที่มุมวางรองเท้าโดยไม่ได้พูดอะไร
เขาก้มลงวางของที่ถือมาอย่างช้าๆ ก่อนถอดรองเท้าออก เสียงรองเท้าผ้าใบกระทบพื้นดังเบาๆ แต่กลับเหมือนส่งเสียงดังก้องในความเงียบของห้องเล็กๆ นี้
เขาเดินเข้ามาในห้องอย่างระมัดระวัง ท่าทางเหมือนคนที่ไม่คุ้นชินกับสถานที่ใหม่ๆ ดวงตาของเขาสำรวจไปทั่วห้อง ผมสังเกตเห็นเขาหันมองไปรอบๆ ไม่ว่าจะเป็นโซฟาหนังสีเข้มที่ตั้งชิดกำแพง หรือโต๊ะทำงานที่เต็มไปด้วยของใช้จำเป็น
แสงไฟสีอุ่นจากเพดานที่ผมตั้งใจเปิดไว้เพื่อให้ห้องดูผ่อนคลายกลับทำให้บรรยากาศเงียบนี้ยิ่งขับเคลื่อนความตึงเครียดให้ชัดเจน
เขานั่งลงบนโซฟา แขนทั้งสองข้างวางบนหัวเข่าท่าทางดูประหม่า
ผมเดินไปที่ครัว หยิบน้ำในแก้วสูงออกมาเพื่อวางไว้บนโต๊ะตรงหน้าเขา
เขาเงยหน้ามองผมเป็นครั้งแรก ดวงตานั้นนิ่งสนิท แต่กลับเหมือนกำลังพูดอะไรบางอย่างออกมา
ผมวางแก้วน้ำลงตรงหน้าเขา เสียงกระจกแก้วกระทบโต๊ะเบาๆ กลับเหมือนเสียงสะท้อนก้องในหัวผม
ในจังหวะนั้น ผมสัมผัสได้ถึงความเงียบที่ไม่ปกติ ความเงียบที่เหมือนกำลังบอกว่า ไม่มีใครกล้าพูดอะไร แต่ต่างฝ่ายต่างกำลังเฝ้ารอ
เขาเอื้อมมือมาหยิบแก้วน้ำ ดวงตาของเขายังคงจับจ้องมาที่ผมเหมือนกำลังรออะไรบางอย่าง
จังหวะที่เขาวางแก้วน้ำลง ผมเห็นมือของเขาวางบนเข่า ความนิ่งนั้นเหมือนการท้าทายให้ผมเป็นคนเริ่ม
ผมสูดลมหายใจลึก ก่อนจะเดินไปหยุดอยู่ตรงหน้าเขา นั่งขยับเข้าไปใกล้เขาอย่างเงียบๆ ปล่อยให้บรรยากาศพาไปทีละนิด
เขายังคงนิ่ง ตัวตรง ใบหน้าที่ปิดครึ่งหนึ่งยังคงดูนิ่งเงียบ ความเป็นชายแบบบ้านๆ ที่ไม่ได้ประดิษฐ์ทำให้ทุกอย่างรอบตัวเขาดูมีแรงดึงดูดแบบไม่อาจหลีกเลี่ยง
ผมเลือกที่จะเงียบ ปล่อยให้การกระทำเป็นตัวเล่าเรื่อง กลัวว่าหากพูดอะไรออกไป เสียงของผมจะทำให้เขาลุกขึ้นแล้วเดินออกไปจากประตู ความเงียบนี้มันอึดอัด แต่ขณะเดียวกันมันก็เต็มไปด้วยแรงดึงดูดที่ยากจะต้านทาน
ปลายนิ้วเลื่อนไปแตะเบาๆ บนเป้ากางเกง ความแน่นตึงที่รู้สึกได้ผ่านผ้ายีนส์ทำให้ลมหายใจแทบสะดุด ผมลูบขึ้นลงช้าๆ ราวกับกำลังลองเชิง เขายังคงนั่งนิ่ง ตัวแข็ง แต่การที่เขาไม่หลบหนีทำให้ผมรู้ว่ามันคือการยอมรับในแบบของเขา
ผมเลื่อนมือไปที่ขอบกางเกงยีนส์ ค่อยๆ ปลดกระดุมทีละเม็ด เสียงโลหะของกระดุมดังก้องในความเงียบ กางเกงยีนส์ถูกดึงลงจนถึงหัวเข่า กลิ่นความเป็นชายแบบดิบๆ ของเขาก็ลอยเตะจมูก
กลิ่นเหงื่อจางๆ ผสมกับกลิ่นแดดจากการทำงานทั้งวัน มันเป็นกลิ่นที่ไม่ผ่านการปรุงแต่งใดๆ เป็นกลิ่นของชายที่ใช้แรงงานแบบแท้ๆ มันไม่ได้ทำให้ผมรังเกียจ ตรงกันข้าม มันทำให้ความรู้สึกบางอย่างในตัวผมตื่นขึ้น
กางเกงในสีขาวบางที่ดูเรียบง่ายแนบชิดกับแก่นกายที่ซ่อนอยู่ เป้าตุงที่ตึงแน่นจนมองเห็นรูปทรงชัดเจน ผ้าบางๆ เผยให้เห็นรอยหัวหยักของปลายแก่นกายที่เริ่มตอบสนองต่อสัมผัส
ผมเลื่อนสายตาลงต่ำ ไล่สำรวจจากต้นขาที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อแน่นกระชับ ไรขนที่เรียงตัวสวยงามตามธรรมชาติ และเอวที่คอด ทุกส่วนของเขาเหมือนถูกสร้างมาเพื่อกระตุ้นความรู้สึกของผม
ผมค่อยๆยื่นมือออกไป ลูบไล้เบาๆ ที่ต้นขาแกร่งของเขา ความร้อนจากผิวกายแผ่ซ่านมาที่ปลายนิ้ว ผมลากนิ้วขึ้นไปแตะที่เป้ากางเกงใน สัมผัสถึงความแน่นและความร้อนที่เริ่มสะสมอยู่ข้างใน
น้ำใสๆ ที่ซึมออกมาตรงปลายหัวบานทำให้เนื้อผ้าบางนั้นเปียกชื้น ผมใช้นิ้วแตะตรงจุดนั้นก่อนจะวนเบาๆ รอบปลายหัวที่แสดงรูปร่างชัดเจน เสียงลมหายใจของเขาชัดเจนขึ้นทุกครั้งที่ผมกดน้ำหนักเพิ่ม
ผมเปลี่ยนจากปลายนิ้วเป็นฝ่ามือ วางลงบนแก่นกายของเขาเต็มๆ ความอุ่นร้อนที่แผ่ออกมาทำให้แทบหยุดหายใจ ผมบีบเบาๆ ก่อนจะคลึงมือขึ้นลงตามแนวลำเนื้อ
เขายังคงนิ่ง แต่ร่างกายกลับตอบสนองแทนคำพูด ลำแก่นกายเริ่มขยายตัว พองโตจนผ้าที่บางแนบชิดแทบจะไม่สามารถปกปิดได้อีกต่อไป
ผมลากนิ้ววนรอบปลายหัวบานที่เปียกชื้น เสียงลมหายใจของเขาดังขึ้นในจังหวะเดียวกับที่ผมเพิ่มน้ำหนักการสัมผัส เขากำมือแน่นที่เข่าทั้งสองข้าง ก่อนจะคลายออกเหมือนพยายามควบคุมตัวเอง
กลิ่นกายและความอุ่นร้อนในห้องเริ่มเข้มข้นขึ้น ความเงียบไม่ใช่ความสงบอีกต่อไป มันกลายเป็นพื้นที่ที่เต็มไปด้วยอารมณ์ที่เร่าร้อนและความดิบเถื่อนที่ยากจะห้าม
น้ำใสๆ ที่ซึมออกมาจากปลายหัวบานเปียกจนกางเกงในสีขาวบางกลายเป็นดวงชัดเจน เนื้อผ้าบางแนบสนิทจนแทบมองทะลุเห็นรูปทรงของหัวควยที่บานใหญ่ ผมมองมันด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความตื่นเต้น
มันเสียวขนาดนั้นเลยเหรอ
ผมคิดในใจ ตัวผมเองไม่ได้เก่งอะไร นี่คือครั้งแรกของผม แค่สัมผัสไปตามใจที่อยากเท่านั้น แต่การตอบสนองของเขามันเกินคาด ท่อนลำที่สู้มือจนแทบล้นออกมา ความเกร็งของเขาเหมือนกับคนที่กำลังต่อสู้กับตัวเอง ทั้งที่ไม่สบายตัวเพราะความกังวล แต่กลับยอมให้ผมทำทุกอย่างต่อไป
ไหนๆ ก็จะเสียเงินแล้ว...
ผมพึมพำในใจ ตัดสินใจที่จะจัดเต็มในแบบที่ตัวเองอยากทำ
ผมค่อยๆ เอื้อมมือไปจับขอบกางเกงในสีขาวของเขา นิ้วของผมสั่นเล็กน้อยจากความตื่นเต้น กางเกงในที่ถูกดันจนตึงเพราะแก่นกายข้างในทำให้การดึงออกนั้นไม่ง่าย มันแน่นตึงจนต้องออกแรงดึง
จังหวะที่ผมค่อยๆ ดึงกางเกงในลง ท่อนลำที่ถูกกดไว้อยู่ภายในก็เด้งผึงออกมาอย่างแรง หัวบานที่ชุ่มน้ำใสกระเซ็นหยดเล็กๆ กระเด็นออกมา เหมือนการดีดตัวครั้งแรกที่อิสระ
น้ำใสเหนียวๆ ที่ติดปลายหัวลากออกมาเป็นเส้นบางๆ คล้ายกับเส้นใยแมงมุมที่ดูเย้ายวน มันหยดลงมาตามแก่นลำยาวใหญ่จนผมอดไม่ได้ที่จะจ้องมอง
ผมใช้นิ้วแตะเบาๆ ตรงกลางรอยแยกของหัวบาน น้ำใสที่เอ่ออยู่ตรงร่องเหมือนจะเรียกร้องให้สัมผัสมากขึ้น ผมลากนิ้ววนช้าๆ เกลี่ยน้ำใสให้ทั่วหัวบานที่ใหญ่เกินกว่าที่ผมเคยเห็น
เสียงลมหายใจของเขาเริ่มถี่ขึ้น ผมรับรู้ได้ถึงแรงสะท้อนในร่างของเขา ทุกครั้งที่ปลายนิ้วผมลากผ่านตรงรอยหยักหรือกลางหัว เสียงสูดลมหายใจเบาๆ จากไรเดอร์ทำให้ผมรู้ว่าเขากำลังเคลิ้มมากขึ้น
ผมจับแก่นลำที่ใหญ่เต็มมือ ความร้อนจากท่อนลำที่ผมกำไว้แผ่ซ่านผ่านฝ่ามือทุกนิ้ว ก่อนจะค่อยๆ ลูบไปมาช้าๆ ลากขึ้นลงเบาๆ ด้วยสัมผัสที่ตั้งใจให้แนบแน่น
ผมพยายามคุมจังหวะให้ช้าและมั่นคง เพราะอยากสำรวจมันให้มากที่สุด ลากมือจากส่วนโคนขึ้นไปจนถึงหัวที่เปียกชื้น ก่อนจะรั้งท่อนเอ็นลงมาจนสุด รอยหยักที่โผล่พ้นออกมาเผยให้เห็นรูปทรงหัวบานที่สมบูรณ์แบบ
ดุ้นใหญ่ยาวประมาณ 7 นิ้วครึ่งของเขาช่างดูเย้ายวนและน่าดูด หัวบานที่ยังปล่อยน้ำใสซึมออกมาเหมือนจะเชิญชวนให้สัมผัสมันมากขึ้น
ผมกำมือแน่นขึ้น ก่อนจะเริ่มสาวท่อนลำขึ้นลงอย่างช้าๆ ผิวเนื้อที่แน่นกระชับของเขาเคลื่อนผ่านฝ่ามือของผมในจังหวะที่เนิบนาบ ผมพยายามทำให้ทุกสัมผัสเต็มไปด้วยความตั้งใจ ให้ทุกครั้งที่มือลากผ่านเป็นเหมือนคลื่นที่กระตุ้นทุกความรู้สึก
กลิ่นอุ่นของตัวเขาและไอร้อนจากแก่นกายที่ผมกำไว้ลอยขึ้นมาผสมกับอากาศในห้อง เสียงลมหายใจลากยาวจากเขาเพิ่มความเข้มข้นให้บรรยากาศจนผมรู้สึกเหมือนห้องทั้งห้องกำลังลุกเป็นไฟ
น้ำใสๆ ที่ซึมออกมาจากปลายหัวหยดลงมาตามลำยาว เปียกมือผมจนลื่นไปหมด มันทำให้ทุกสัมผัสลื่นไหลและชัดเจนมากขึ้น
แม้จะใช้เพียงมือ แต่การตอบสนองจากเขาชัดเจนจนผมรู้สึกถึงแรงต้านในทุกครั้งที่ผมลากมือขึ้นลง ท่อนลำที่ดันตัวสู้มือเหมือนกับต้องการมากกว่าสิ่งที่ผมกำลังทำอยู่
นี่ขนาดเพิ่งเริ่ม ยังไม่ทันได้ทำอะไรที่มากไปกว่านี้ แต่เขากลับตอบสนองอย่างล้นหลามจนผมเองยังรู้สึกแปลกใจ
มือของผมยังคงลูบไล้ไปตามความยาวของแก่นกายที่กำลังเต้นตุบๆ ในอุ้งมือ ความร้อนที่แผ่ซ่านจากผิวเนื้อแข็งเกร็งส่งผ่านปลายนิ้วทุกขณะ น้ำใสที่ซึมออกมาจากปลายหัวหยักเคลือบฝ่ามือให้ลื่นขึ้น ผมใช้นิ้วเกลี่ยไปตามร่องกลางหัวบาน วนเบาๆ ซ้ำแล้วซ้ำเล่า ปล่อยให้สัมผัสนี้ซึมซาบลึกลงไปในร่างของเขา
ร่างแกร่งที่เคยนั่งนิ่งกระตุกเบาๆ ทุกครั้งที่ผมลากนิ้วผ่านจุดอ่อนไหว ต้นขาแน่นขยับเล็กน้อยเหมือนพยายามเก็บอาการ แต่นั่นยิ่งทำให้ผมรู้ว่าเขากำลังรู้สึกมากแค่ไหน ลมหายใจหนักๆ ที่หลุดรอดผ่านผ้าปิดปากบ่งบอกถึงอารมณ์ที่เริ่มปะทุขึ้นทีละนิด
ผมลดตัวลงช้าๆ ใช้ริมฝีปากแตะไปตามแนวลำเนื้อร้อนฉ่า ความแน่นของกล้ามเนื้อใต้ผิวหนังสัมผัสได้ผ่านปลายลิ้น แล้วเริ่มลากปลายลิ้นไล่ชิมรสจากโคนไปจนถึงปลายหยัก ความชื้นแฉะและความลื่นทำให้ทุกการสัมผัสดูเย้ายวนขึ้น น้ำใสที่ซึมออกมายิ่งทำให้รสชาติของเขาติดปลายลิ้นอย่างชัดเจน
ไรเดอร์หนุ่มที่เคยนั่งนิ่งเริ่มกำหมัดแน่น ปลายนิ้วจิกลงไปกับต้นขาตัวเอง เสียงหายใจหนักขึ้นเป็นจังหวะ ผมเงยหน้ามองเขา ดวงตาที่คมเข้มยังคงนิ่ง แต่ภายในนั้นเต็มไปด้วยความร้อนแรงที่พุ่งพล่าน ผมจ้องสบตากับเขาขณะที่ปลายลิ้นตวัดไล้ไปตามรอยหยัก
จังหวะที่ริมฝีปากค่อยๆ กลืนกินเขาเข้าไป ผมรับรู้ถึงแรงสั่นสะเทือนจากร่างกายของเขา ท่อนเนื้อแข็งพองตัวเต็มปาก เส้นเลือดที่ปูดโปนสัมผัสได้ผ่านลิ้นที่แนบไปตามลำเนื้อ ผมดูดเม้มเบาๆ ก่อนจะขยับศีรษะขึ้นลงช้าๆ อย่างจงใจ ปล่อยให้ทุกสัมผัสค่อยๆ บดขยี้ความอดกลั้นของเขาให้แตกสลายไปทีละนิด
แม้ว่าเขาจะพยายามรักษาท่าทีให้นิ่งที่สุด แต่นิ้วมือที่กำแน่นจนข้อนิ้วซีดบ่งบอกทุกอย่าง ร่างกายของเขาตึงเครียด ต้นขาแกร่งเกร็งแน่นเหมือนพยายามควบคุมตัวเองไม่ให้เผลอขยับเข้าหาสัมผัสที่กำลังเผาผลาญสติของเขาทีละน้อย
ผมปล่อยให้ลิ้นทำงานต่อไป ไล่โลมเลียไปตามแนวเส้นเลือดทุกเส้น ก่อนจะรูดริมฝีปากลงไปลึกขึ้นทีละนิด ความแน่นของลำเนื้อที่เต็มคอทำให้ดวงตาของผมพร่าเบลอไปครู่หนึ่ง ผมกลืนน้ำลายช้าๆ ให้ลำเนื้อสัมผัสกับทุกส่วนในช่องปาก ก่อนจะรูดขึ้นแล้วกดลงไปอีกครั้งในจังหวะที่แนบแน่นกว่าเดิม
ไรเดอร์หนุ่มกัดฟันแน่น เสียงครางทุ้มต่ำลอดออกมาเบาๆ จากลำคอ ผมรับรู้ได้ถึงแรงสั่นสะเทือนที่ไหลผ่านลำตัวเขา ทุกครั้งที่ผมเร่งจังหวะขึ้น ปลายหัวบานที่ถูกกดลึกลงไปสัมผัสได้ถึงการตอบสนองที่เด่นชัดมากขึ้น ผมเพิ่มแรงดูดเข้าไปเล็กน้อย ขณะที่มือของผมบีบเคล้นไปที่โคนแน่นๆ รั้งดึงความเสียวให้เขาต้องกลั้นลมหายใจจนอกกระเพื่อมขึ้นลง
แม้เขาจะไม่ยอมแตะต้องผมหรือแสดงออกอย่างชัดเจน แต่การที่ร่างกายของเขาตึงเปรี๊ยะ ลมหายใจติดขัด และต้นขาที่กระตุกเป็นจังหวะ มันก็บอกได้ชัดว่าเขากำลังใกล้ถึงขีดจำกัดของตัวเอง
ผมเร่งจังหวะขึ้น ดูดดุนปลายหัวบานอย่างหิวกระหาย ลิ้นหมุนวนรอบยอดเนื้อที่ชุ่มไปด้วยน้ำใสก่อนจะกดริมฝีปากลงไปลึกสุด โพรงปากร้อนฉ่ารัดแน่นทุกสัดส่วน เสียงสูดหายใจเฮือกของเขาดังขึ้นเมื่อผมขยับศีรษะขึ้นลงเป็นจังหวะ รุกล้ำหนักขึ้น ลึกขึ้น
ร่างของเขาเกร็งแน่นจนเส้นเลือดขึ้นตามมือ กำหมัดแน่นเหมือนกำลังอดกลั้นบางอย่างไว้ เสียงกลืนน้ำลายของผมดังชัดในบรรยากาศอันเงียบงัน มีเพียงเสียงลมหายใจร้อนๆ ที่ติดขัดเป็นช่วงๆ ของไรเดอร์หนุ่ม
ผมขยับแรงขึ้น ดูดเน้นจังหวะหนักสลับเบา ใช้ปลายลิ้นตวัดเลียใต้รอยหยักที่ไวต่อสัมผัส มือบีบกระชับโคนแน่น รั้งให้เขาอยู่ในกำมือของผมอย่างสมบูรณ์
ไรเดอร์หนุ่มพยายามกลั้นเสียงคราง แต่ร่างกายกลับซื่อตรงยิ่งกว่าคำพูด ต้นขาที่สั่นระริกทุกครั้งที่ผมกดริมฝีปากลงไปสุดจนลำเนื้อแข็งตึงสัมผัสได้ถึงความอุ่นลึกในคอผม
เสียงหายใจของเขาแรงขึ้น รุนแรงขึ้น ความร้อนที่แผ่กระจายจากร่างแกร่งทำให้บรรยากาศรอบตัวอึดอัดขึ้นทุกขณะ ผมรู้ดีว่าตอนนี้เขากำลังใกล้ถึงจุดที่ไม่มีทางย้อนกลับ ร่างกายของเขาตึงเกร็งไปหมด กล้ามเนื้อทุกมัดสั่นไหวอย่างควบคุมไม่อยู่
ริมฝีปากของผมยังคงทำงานต่อไป ดูดกลืนความแข็งแกร่งของเขาให้ลึกที่สุด รุกเร้าอย่างหิวโหยจนเขาต้องกลั้นเสียงร้องไว้ในลำคอ แต่มันก็หลุดออกมาเป็นเสียงครางต่ำๆ ที่ทำให้ผมยิ่งได้ใจ เร่งจังหวะขึ้นอีก
ลิ้นร้อนฉ่าของผมค่อยๆ ลากไปตามรอยแยกกลางหัวบาน เปียกชื้นไปด้วยน้ำใสที่ไหลซึมออกมาไม่ขาดสาย ผมแตะปลายลิ้นลงเบาๆ กดค้างไว้ให้สัมผัสนี้แทรกซึมเข้าไปในทุกเส้นประสาท ก่อนจะตวัดวนเป็นวงช้าๆ ไล่สำรวจทุกร่องรอยอย่างละเมียดละไม
เสียงหายใจหนักหน่วงของไรเดอร์แผ่วกระเส่า สั่นระริกอยู่เหนือร่างผม ผมรู้ว่าเขากำลังพยายามควบคุมตัวเอง แต่ทุกครั้งที่ปลายลิ้นของผมไล้วนรอบขอบหยัก ร่างกายเขากลับกระตุกเบาๆ อย่างไม่อาจต้านทาน
ผมเปลี่ยนเป็นตวัดลิ้นเร็วขึ้น กดแนบลงไปกับขอบหัวบานเป็นพิเศษ สลับกับการลากวนไปรอบๆ อย่างต่อเนื่อง ใช้ปลายลิ้นไล้ขึ้นลงทีละน้อย เหมือนกำลังค่อยๆ ชิมรสชาติของเขาอย่างจงใจ
“อึก…” เสียงสูดลมหายใจสะดุดดังขึ้น
สะโพกแกร่งกระตุกวูบ เผลอขยับเข้าหาปากของผมโดยไม่รู้ตัว มันเป็นการตอบสนองที่ไร้การควบคุมของร่างกาย และผมก็รู้ดีว่าเขากำลังเริ่มพ่ายแพ้ให้กับสัมผัสของผมแล้ว
ผมจงใจลากลิ้นไปรอบๆ หัวหยัก วนซ้ำๆ อยู่อย่างนั้น ร่างสูงดูร้อนรุ่มขึ้นทุกขณะ ขณะที่ริมฝีปากของผมค่อยๆ ดูดเม้มปลายหัวอย่างหนักหน่วง
"อึก...อ่า..."
เสียงทุ้มต่ำหลุดออกจากไรเดอร์เป็นครั้งแรก น้ำเสียงแหบพร่าเต็มไปด้วยความอัดอั้นที่กำลังเอ่อล้น
ลิ้นร้อนของผมลากลงมาตามแนวเส้นเลือด ปาดเลียขึ้นลงอย่างยั่วเย้า ก่อนจะตวัดกลับขึ้นไปดูดดุนตรงปลายหัวหยักใหม่ซ้ำๆ ผสมกับแรงดูดที่หนักแน่นเป็นช่วงๆ จนเสียงเฉอะแฉะดังสะท้อนในห้องเงียบๆ
"อึก..." ไรเดอร์หนุ่มกระตุกแรงขึ้น ขาทั้งสองข้างของเขาแยกออกจากกันมากขึ้นโดยไม่รู้ตัว
ผมรู้ว่าเขาใกล้เต็มที
ริมฝีปากของผมเลื่อนครอบลึกลงไปอย่างรวดเร็ว กลืนกินท่อนลำร้อนฉ่าเข้าไปเกือบสุดแล้วถอนออกมาเหลือแค่ปลายหัว ก่อนจะตวัดลิ้นซ้ำไปมาจุดเดิมแบบไม่หยุด กดแนบลิ้นกับรอยหยักแน่นๆ แล้วลากขึ้นลงซ้ำๆ เล่นกับเส้นประสาทอ่อนไหวจนร่างแกร่งสั่นสะท้าน
สะโพกของไรเดอร์สะดุ้งขึ้นแรง ก่อนที่เขาจะกัดฟันแน่นเพื่อควบคุมตัวเอง แต่ทุกอย่างสายไปแล้ว เพราะผมเร่งจังหวะขึ้นอีกครั้ง ดูดเม้มแรงกว่าเดิมจนรู้สึกถึงแรงสั่นสะเทือนของร่างกายเขา
เสียงหายใจหนักหน่วงขึ้นทุกที ผมได้ยินเสียงกลืนน้ำลายของเขา มันชัดเจนว่าเขากำลังพยายามฝืนตัวเอง แต่ร่างกายกลับซื่อตรงยิ่งกว่าคำพูด
มือที่กำแน่นของเขาเริ่มคลายออก ขณะที่สะโพกของเขาเริ่มขยับตามจังหวะริมฝีปากของผม ร่างกายเขากำลังร้องขอมากขึ้น แม้ว่าเขาจะยังพยายามเก็บอาการไว้ก็ตาม
ริมฝีปากร้อนของผมครอบลึกลงไปอีกครั้ง ลากลิ้นจากโคนถึงปลายอย่างหนักหน่วง ดูดเม้มแรงขึ้นจนร่างสูงสะดุ้งเฮือก หัวบานสั่นกระตุกในปาก ร่างกายแข็งขืนจนแทบระเบิด
ไรเดอร์หนุ่มเม้มปากแน่น กรามขึ้นเป็นสัน ดวงตาดูพร่าเบลอเต็มไปด้วยความต้องการที่กำลังถึงขีดสุด
เสียงลมหายใจของไรเดอร์หนักขึ้นเรื่อยๆ ทุกครั้งที่ปลายลิ้นของผมตวัดไล้ไปตามรอยแยกกลางหัวหยัก กล้ามเนื้อตรงท้องน้อยของเขาจะกระตุกเป็นจังหวะ สะโพกที่เคยนั่งนิ่งตอนนี้เริ่มสั่นไหว เผลอขยับเล็กน้อยทุกครั้งที่ปลายลิ้นของผมสัมผัสลงไปตรงจุดอ่อนไหวที่สุด
ริมฝีปากร้อนครอบลงไปครึ่งหนึ่งก่อนจะถอนออก ใช้ปลายลิ้นตวัดวนไปรอบหัวหยักอย่างจงใจ ซ้ำแล้วซ้ำเล่า ปาดเลียเส้นเลือดที่เต้นตุบๆ อย่างหนักหน่วง ความลื่นจากน้ำใสที่ซึมออกมาทำให้ทุกสัมผัสร้อนเร่าขึ้นไปอีก
“อ่าาา…”
เสียงครางต่ำในลำคอของไรเดอร์ดังขึ้น สั่นระริกเหมือนพยายามอดกลั้น
เอวของเขากระตุกอีกครั้ง กล้ามเนื้อทุกมัดแข็งเกร็ง ขณะที่ลำเนื้อร้อนฉ่ากำลังเต้นตุบ ๆ อยู่ในอุ้งมือของผม
ผมรู้ดีว่าตอนนี้เขากำลังจะแตกแล้ว
ริมฝีปากของผมไม่หยุดเคลื่อนไหว ลิ้นร้อนตวัดเลียรอบขอบหัวหยักเป็นวงซ้ำๆ อย่างหนักหน่วง พร้อมกับมือที่กำแน่นรอบลำเนื้อร้อนจัด กระชับแน่นขึ้นทุกครั้งที่รูดขึ้นลงเป็นจังหวะ
แรงบีบจากมือผสมกับสัมผัสเปียกลื่นจากปลายลิ้นทำให้ไรเดอร์สะดุ้งแรง ร่างกายของเขากระตุกเกร็งอย่างหนัก
"อึก... อ๊า...!"
เสียงครางแตกพร่า เสียงหอบกระเส่าของไรเดอร์ดังขึ้นอย่างไม่อาจควบคุมได้อีกต่อไป
สะโพกของเขากระตุกเฮือก ร่างกายของเขาตึงเปรี๊ยะถึงขีดสุด หัวคิ้วขมวดแน่น ริมฝีปากที่อยู่ใต้ผ้าเผยอออกเล็กน้อย หอบหายใจหนัก สั่นสะท้านจากแรงเสียวที่พุ่งขึ้นจุดสูงสุด
"อึก...!!"
ทันทีที่ร่างเขากระตุก น้ำขาวข้นก็พุ่งทะลักออกมาเต็มแรง
มันพุ่งเป็นสายอุ่นหนืด กระแทกลงบนปลายลิ้นที่ตวัดไล้วนไปมาไม่หยุดรอบหัวควยบานใหญ่ ผมรับรู้ถึงแรงสั่นสะเทือนของลำร้อนที่กระตุกดันตัวออกมาอย่างไม่อาจต้านทาน ทุกครั้งที่ลิ้นของผมหมุนวน น้ำข้นก็พุ่งตามจังหวะของแรงกระตุก รุนแรงออกมาเป็นสายต่อเนื่อง
ลิ้นร้อนเปียกลื่นยังคงตวัดเลียไม่หยุด หมุนวนไปมารอบหัวหยักที่ยังคงปลดปล่อยน้ำเชื้อข้นๆ ออกมา ผมไล้ลิ้นซ้ำๆ ตวัดไปทั่ว ปาดรับหยาดน้ำขาวขุ่นที่พุ่งออกมาทีละระลอก กระชากความเสียวของเขาให้พุ่งทะยานจนถึงที่สุด
"อ่า... อ่า...!!"
เสียงครางต่ำพร่าหลุดออกมา เอวของเขากระตุกซ้ำแล้วซ้ำเล่า ทุกครั้งที่ลิ้นผมแตะสัมผัสลงบนหัวบานที่ยังคงปล่อยของเหลวออกมา
แรงพุ่งของน้ำกระทบปลายลิ้นที่หมุนวนอยู่นั้นอย่างจัง แต่ผมกลับยิ่งเร่งลิ้นให้เร็วยิ่งขึ้น ไล้ไปทั่วปลายหัวที่ไวต่อสัมผัส ลิ้นของผมลากตวัดปาดผ่านรอยแยกกลางหัวบาน ก่อนจะกดแนบลงไปแน่นๆ จนหยาดขาวเอ่อออกมาทะลักล้น
มันพุ่งแรงจนไหลหยดจากปลายหัวลงมาตามลิ้นของผม เคลือบผิวลิ้นเปียกชุ่มเป็นคราบ
"อ่าาาา...!"
เสียงทุ้มต่ำของไรเดอร์แตกพร่า ขาของเขาสั่นระริก มือกำแน่นจนเส้นเลือดปูด สะโพกขยับขึ้นเป็นจังหวะตามแรงกระตุก เหมือนร่างกายกำลังปลดปล่อยอย่างสุดขีด
ลิ้นของผมยังคงหมุนวนรอบหัวหยัก ตวัดซ้ำไปซ้ำมา ปาดเลียหยาดขาวที่ยังคงหลั่งออกมาไม่ขาดสาย ทุกครั้งที่ลิ้นร้อนลากผ่าน น้ำขาวข้นก็ยิ่งพุ่งออกมาแรงกว่าเดิม ทุกครั้งที่ปลายลิ้นปาดผ่าน น้ำก็ยังพุ่งไม่หยุด
ผมใช้ลิ้นเกลี่ยวนรอบปลายหัว ดูดซับหยาดอุ่นที่เปื้อนปลายลิ้น ก่อนจะลากลิ้นลงไปตามลำหนาที่เต้นตุบๆ กลืนรสชาติของเขาลงไปอย่างไม่รีบร้อน
แม้ว่าร่างกายของไรเดอร์จะเกร็งแน่นจากแรงกระตุกสุดท้าย แต่ของเหลวอุ่นยังคงไหลซึมออกมาเรื่อยๆ ผมปาดเลียมันทั้งหมดด้วยลิ้นร้อนที่ยังคงลากผ่านช้าๆ ซ้ำแล้วซ้ำเล่า ไม่ปล่อยให้เสียไปแม้แต่หยดเดียว
เสียงลมหายใจหนักหน่วงยังคงดังต่อเนื่อง ลมหายใจของไรเดอร์กระตุกเป็นจังหวะ แขนแกร่งที่เคยเกร็งแน่นตอนนี้คลายออก ร่างสูงใหญ่พิงหลังลงกับพนักโซฟา หอบหายใจหนัก
เขาถูกดูดกลืนจนหมด ทุกหยาดหยดที่เขาปลดปล่อย ถูกลิ้นร้อนของผมไล้ตวัดซับไปจนหมด
เสียงหายใจของไรเดอร์ยังคงหนักหน่วง แรงเสียวที่เพิ่งผ่านไปทำให้ร่างสูงใหญ่ยังคงสั่นสะท้านอยู่เล็กน้อย เขาพิงศีรษะไปกับพนักโซฟา กล้ามเนื้อทุกมัดคลายลงเหมือนร่างกายกำลังค่อยๆ ปรับตัวให้กลับมาเป็นปกติ
เขาสูดลมหายใจเข้าลึก ก่อนจะรีบลุกขึ้นทันที
ผมมองตามเงียบๆ เห็นแผ่นหลังกว้างที่กำลังตึงเครียด ไรเดอร์รีบแต่งตัวใส่กลับไปอย่างลวกๆ มือของเขาสั่นเล็กน้อยตอนรูดซิบ เหมือนกำลังพยายามดึงตัวเองให้กลับมาอยู่ในโลกของความเป็นจริง
บรรยากาศเงียบสนิท ผมยังคงนั่งอยู่ที่เดิม มองเขาแต่งตัวอย่างเร่งรีบโดยที่ไม่มีแม้แต่คำพูดใดๆ หลุดออกจากปากของเขา
จากนั้น ไรเดอร์ก้าวไปที่โต๊ะเล็กข้างโซฟา หยิบเงินที่ผมวางไว้ ผมมองการกระทำนั้นด้วยสายตาสงบนิ่ง ไม่ได้พูดอะไรออกไป แต่กลับรู้สึกถึง ความว้าวุ่นบางอย่างที่แฝงอยู่ในท่าทางของเขา
มือใหญ่กำเงินแน่นก่อนจะยัดมันลงในกระเป๋ากางเกง โดยไม่สบตาผมเลยแม้แต่น้อย
แล้วเขาก็เดินไปที่ประตู หยุดยืนอยู่ตรงนั้นเงียบๆ
ผมไม่พูดอะไร แต่ก็ไม่ปล่อยให้เขายืนรออยู่ตรงนั้นนานเกินไป ผมลุกขึ้น เดินนำเขาออกไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ประตูค่อยๆ ถูกเปิดออก และผมก็เดินนำเขาไปยังลิฟต์
เสียงฝีเท้าของเราสองคนก้องอยู่ในโถงทางเดินเงียบๆ
ผมกดลิฟต์ลงไปชั้นล่าง ไรเดอร์ยืนข้างๆ แต่ยังคง หลบตาผมตลอดเวลา
ผมเองก็ไม่รู้จะพูดอะไรเหมือนกัน แค่ปล่อยให้บรรยากาศนี้ดำเนินต่อไป
เมื่อมาถึงชั้นล่าง ลิฟต์เปิดออก ผมเดินนำหน้าออกไปเพื่อเปิดประตูให้เขา ไรเดอร์ก้าวตามหลังมาเงียบๆ
จากนั้นเขาก็เดินจากไป
ขอบคุณครับน่าลองบ้าง {:5_120:}{:5_120:}{:5_120:} บรรยายดีมากครับ ชอบเลย ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ เสียวโคตรเลยครับ บรรยายดีมากครับ บรรยายได้ดีครับ
ตรงส่วนพรรณาโวหารนี่เป็นเหมือนดาบ 2 คม
มากเกินไปก็ไม่ชวนติดตาม
บรรยากาศของเรื่อง ถูกสื่อออกมาได้รู้สึกอึดอัดตามไปด้วย มากกว่ามีอารมณ์ร่วม
น่าจะเป็นไปตาม ค.รู้สึกของตัวละคร ที่คงต่างฝ่ายต่างอึดอัด มากกว่ามีอารมณ์เงี่ยน เหมือนกัน
ขอบคุณที่เอามาแชร์ค้าบบ ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ ขอบคุณมากครับ ขอบคุณครับ เสียว มีได้ต่อมั้ยครับ ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ ชอบเลย เสวแทร่ทรู สนุกมากครับ ขอบคุณครับ