ประสบการณ์ไปนอนแก้ผ้าห้องเพื่อนสัปดาห์นึงครับ
เผื่อสนใจอ่านกระทู้ที่ผมเคยโพสประสบการณ์นะครับ- แก้ผ้าถ่ายรูปในร้านขายของ: https://www.g4guys.com/thread-186357-1-1.html
- ประสบการณ์การกำจัดขนของผมครับ (เน้นเฉพาะตอนไปแว็กซ์): https://www.g4guys.com/thread-188588-1-1.html
- ผมไปนวดแก้ผ้ามาครับ: https://www.g4guys.com/thread-189091-1-1.html
- ประสบการณ์นอนแก้ผ้ากับเพื่อนครับ: https://www.g4guys.com/thread-190199-1-1.html
สวัสดีครับ หลังจากที่หายไปนาน ผมหาเวลามาอัพประสบการณ์ตอนผมไปค้างหอเพื่อนสัปดาห์นึงโดยไม่ได้เอาเสื้อผ้าติดไปด้วยได้แล้วครับ
เรื่องเริ่มจาก ตอนนั้นผมเพิ่งเรียนจบได้ไม่นาน ยังหางานไม่ได้เลยมีช่วงเวลาว่างค่อนข้างเยอะ ตอนนั้นผมค่อนข้างเครียดมากเรื่องการหางานเลยพยายามหาทางระบายความเครียดด้วยการออกไปเที่ยวบ้าง ไปใช้ชีวิตแบบ slow life ตามห้างบ้าง ไปเรื่อยครับ แล้วผมก็มานึกเพื่อนสมัยมหาวิทยาลัยขึ้นมาได้ครับ ว่าเพื่อนคนนี้ทำงานอยู่ต่างจังหวัดที่ผมยังไม่เคยไปเที่ยวมาก่อน ผมเลยติดต่อเพื่อนไปครับว่าสะดวกให้ผมไปค้างมั้ย ตั้งแต่วันอาทิตย์ถึงวันเสาร์เลย ตอนนั้นเพื่อนผมบอกว่าวันธรรมดาเพื่อนมีทำงาน แต่วันหยุดเพื่อนผมพาผมเที่ยวได้ ก็เลยตกลงว่าจะไปค้างที่หอเพื่อนครับ
เกริ่นก่อนว่า เพื่อนผมคนนี้เรียนคนละคณะกับผมครับ สมัยเรียนเคยเจอกันแค่ตอนปี 1 แล้วก็มาได้เจอกันอีกทีตอนสมัยที่เพื่อนผมเรียนจบแล้วแต่ยังไม่ย้ายไปทำงานต่างจังหวัดในขณะที่ผมยังเรียนต่อในระดับที่สูงขึ้นครับ ตอนนั้นมีนัดไปแช่ออนเซ็นกันอยู่ 2-3 ครั้ง ก็เคยเห็นกันหมดมาแล้วครับ ผมเคยบอกเพื่อนแล้วด้วยเหมือนกันครับว่าผมไม่ชอบใส่เสื้อผ้าเวลานอน (เพื่อนคนนี้คือคนละคนกับคนที่ผมเล่าในกระทู้ก่อนหน้านี้นะครับ)
พอนัดหมายกับเพื่อนเรียบร้อย ด้วยความที่เพื่อนผมทำงานที่จังหวัดที่อยู่ไกลมาก ผมต้องนั่งเครื่องบินไปลงที่สนามบินจังหวัดใกล้ ๆ แล้วให้เพื่อนขับรถมารับครับ ผมเลยบอกไปว่าผมเอาของติดตัวไปนิดหน่อยแล้วกัน จะได้มีแค่กระเป๋าถือขึ้นเครื่องใบเดียว เพื่อนผมก็ตกลงครับ ตอนจัดกระเป๋าผมคิดถึงเหตุการณ์ตอนที่ผมโดนเพื่อนอีกคนจับชักจนแตกที่ผมเล่าในกระทู้ก่อนหน้าครับ แล้วรู้สึกว่าตอนแก้ผ้าโชว์เพื่อนสนิทเสียวมากเลยนะ คราวนี้เลยว่าจะลองแก้ผ้าตลอดช่วงที่พักกับเพื่อนดูแล้วกัน ผมตัดสินใจเอาแค่ชุดกีฬาที่เป็นเสื้อกล้ามที่เว้าช่วงข้างลำตัวลึกมาก ๆ ผ้าตาข่ายที่ใส่แล้วก็มองเห็นข้างในได้ชัดเจน กับกางเกงรัดกล้ามเนื้อขาสั้นไปแค่นั้น แล้วก็มีผ้าขนหนูผืนเล็กที่พันไม่รอบตัวผม กับพวกของใช้ส่วนตัวนิดหน่อย ติดตัวไปแค่นั้นครับ
พอผมเดินทางไปถึงสนามบินแล้วนั่งรถเพื่อนผมไปถึงหอก็เป็นเวลาค่ำของวันอาทิตย์แล้วครับ ไม่มีเวลาไปเที่ยวที่ไหนต่อ เพื่อนผมพาไปกินข้าวเย็นแค่นั้นก็หมดวันแล้ว พอกลับมาถึงห้องเพื่อนหลังกินข้าว เพื่อนผมให้ผมไปอาบน้ำก่อนครับ ผมรู้สึกเลยว่าเป็นจังหวะที่ผมจะได้แก้ผ้าโชว์แล้ว ผมก็หยิบแค่ผ้าขนหนูกับแปรงสีฟัน ยาสีฟันเข้าห้องน้ำไปครับ อาบน้ำเสร็จเรียบร้อย เช็ดตัวด้วยผ้าขนหนูผืนเล็กจนแห้ง ผมก็เอาผ้าของผมไปตากที่ระเบียงห้องก่อนจะเดินแก้ผ้ากลับเข้ามาในห้องนอนเพื่อนครับ ตอนนั้นของผมนี่แข็งตัวเต็มที่มากด้วยความตื่นเต้น พอเพื่อนเห็นปุ๊บ เพื่อนผมถามครับว่าทำไมไม่ใส่เสื้อผ้า ผมเลยตอบไปว่าก็เคยบอกไปแล้วว่าปกติไม่ใส่อะไรนอน ผมชูชุดกีฬาที่อยู่ในกระเป๋าให้เพื่อนดูครับ แล้วอ้างไปว่า เห็นว่าวันธรรมดาไม่สะดวกพาเที่ยวเลยว่าจะออกไปวิ่งตรงสวนข้าง ๆ หอพัก กับคงแค่เดินเที่ยวแถวนี้ เพื่อนผมทำหน้าเหมือนเข้าใจครับ ด้วยเหตุว่าผมก็เคยบ่น ๆ ให้ฟังอยู่บ้างว่าผมอยากหาเวลาผ่อนคลายจากความเครียดเรื่องหางานยังไม่ได้ เพื่อนผมก็เลยให้กุญแจสำรองของห้องมาครับ บอกว่าก็พักไปแล้วกัน แล้วเดี๋ยววันเสาร์ค่อยพาผมเที่ยวก่อนขึ้นเครื่องบินกลับ คืนนั้นผมก็เลยได้นอนแก้ผ้าโชว์ควยแข็ง ๆ ให้เพื่อนดูตลอดคืนตามที่วางแผนไว้ครับ
วันที่สอง ผมตื่นหลังจากที่เพื่อนออกไปทำงานแล้วครับ ผมตัดสินใจว่าอยากลองออกไปโชว์สักหน่อยแล้วล่ะ ผมเลยเอาชุดที่ผมใส่มาวันแรกซักหมดเลยครับ ทั้งเสื้อ กางเกง กางเกงใน แล้วตากไว้ที่ระเบียงห้องเพื่อน พออาบน้ำเสร็จ ผมเหลือแค่เสื้อกล้ามกีฬากับกางเกงรัดกล้ามเนื้อขาสั้น ที่พอไม่ใส่กางเกงในแล้วก็มองเห็นข้างในชัดเจนมากทั้งรูปทรงและขนาด ผมหยิบโทรศัพท์มือถือกับกระเป๋าสตางค์ติดตัวไป 7-11 ใกล้หอเพื่อซื้ออาหารเช้ากิน ก่อนจะไปเดินเล่นในสวนครับ ผมพยายามทำตัวปกติเหมือนคนมาเดินวอร์มอัพก่อนออกกำลังกาย แต่คนรอบข้างหันมามองผมกันหมดด้วยว่าเสื้อกล้ามที่ใส่ก็เว้าลึกมากแถมเป็นผ้าตาข่ายที่ก็ปิดอะไรไม่ได้เลย กางเกงก็รัดรูปมากจนเห็นไปถึงไหนต่อไหนอีก ผมทำตัวไม่ใส่ใจแล้วก็เดินจนรอบสวนไปได้ 2-3 รอบ ก่อนจะออกตัววิ่งช้า ๆ ครับ พอเหงื่อออกหนักขึ้น คนในสวนเริ่มน้อยลง ผมตัดสินใจถอดเสื้อกล้ามออกเลยครับ แล้ววิ่งทั้งที่ใส่กางเกงแค่ตัวเดียวต่อ จำได้ว่าตอนนั้นรู้สึกเขินมาก ๆ แต่อีกใจก็อยากโชว์มาก ๆ ผมค่อนข้างมั่นใจว่าของผมแข็งตัวเต็มที่ภายใต้กางเกงรัดกล้ามเนื้อ แต่ผมพยายามไม่ใส่ใจคนรอบข้างแล้วโฟกัสแค่การวิ่งอย่างเดียวเลยครับ
หลังจากวิ่งโชว์จนผมรู้สึกว่าควรกลับได้แล้ว ผมก็เลยแวะไป 7-11 อีกรอบ แบบที่ยังไม่ได้ใส่เสื้อนั่นแหละครับ ไปซื้อของเตรียมไว้จนถึงวันถัดไปเลย ด้วยคิดว่าอยากจะนอนพักอยู่ในห้องเพื่อนทั้งวันบ้าง พอกลับถึงห้องเพื่อน ผมก็แก้ผ้าอาบน้ำ ซักชุดกีฬาเลยครับ แล้วก็อยู่แบบนั้นจนเพื่อนกลับมา เพื่อนกลัวผมเบื่อครับ ถามผมใหญ่เลยว่าได้ไปไหนบ้างหรือเปล่า ผมก็ตอบไปตามตรงครับ ว่าไปวิ่งออกกำลังในสวนมา แล้ววันรุ่งขึ้นตัดสินใจว่าจะพักอยู่ที่ห้อง เพื่อนผมก็เห็นด้วยครับ แต่ไม่วายมีการบอกอีกว่าถ้าเบื่อหรือเหงาก็ข้อความไปหาได้ตลอด (เพื่อนผมรู้ครับว่าช่วงนั้นผมเครียดมาก เลยไม่อยากให้จมไปกับความคิดฟุ้ง ๆ ของตัวเอง)
วันที่สามก็ไม่มีอะไรมากครับ ด้วยความที่ผมซื้ออาหารมาเตรียมไว้แล้ว ผมเลยแก้ผ้าอยู่ในห้องเพื่อนตลอดทั้งวันจนเพื่อนกลับมาจากที่ทำงาน คืนนั้นผมบอกเพื่อนไปครับว่าอยากจะลองวิ่งไปอีกทางดู เพราะเห็นว่าแถว ๆ ที่ทำงานเพื่อนมีแม่น้ำอยู่ ถ้าได้ไปวิ่งริมแม่น้ำก็น่าจะสบายดี เพื่อนผมก็ตามใจผมครับ มีการถามว่าจะออกไปแต่เช้าพร้อมเพื่อนเลยมั้ย จะได้ติดรถไปพร้อมกัน ผมปฏิเสธไปครับด้วยความขี้เกียจตื่นเข้าด้วย
วันที่สี่เป็นวันที่ผมตัดสินใจไปวิ่งริมแม่น้ำแถวที่ทำงานเพื่อนครับ ผมเอาเสื้อกล้ามตาข่ายกับกางเกงรัดกล้ามเนื้อมาใส่ แล้วค่อย ๆ เดินไปตาม GPS จนถึงที่ทำงานเพื่อน ก่อนจะอ้อมไปทางแม่น้ำครับ อากาศเย็นสบายมากจริง ๆ จนผมแอบรู้สึกว่ามันเย็นเกินไปด้วยซ้ำเพราะลมเย็น ๆ ที่พัดผ่านเสื้อกล้ามตาข่ายกระแทกเข้ากับร่างผมจัง ๆ จนผมรู้สึกได้เลยว่าหัวนมแข็งเป็นไตขึ้นมาครับ ผมออกตัววิ่งตามปกติไปตามริมแม่น้ำ คราวนี้เหมือนว่าจะไม่ค่อยมีใครสนใจหันมามองผมในชุดที่โชว์มากขนาดนั้นเท่าไหร่ ทุกคนที่วิ่งอยู่ตรงนั้นต่างโฟกัสกับการวิ่งของตนเองครับ ตลอดวันนั้น ผมหาของกินตามร้านข้างทางไปด้วย วิ่งไปด้วย เดินไปด้วย สลับไปสลับมาอยู่ริมแม่น้ำนั่นแหละครับ รู้สึกผ่อนคลายดีมาก จนผมรู้สึกว่าอยากโชว์ขึ้นมาแล้วล่ะ แต่ด้วยขณะนั้นคนที่วิ่งอยู่ริมแม่น้ำต่างก็ทยอยกลับกันไปแล้ว ตอนนั้นผมเหงื่อออกมาก ผมเลยถอดเสื้อออกแล้วเดินไปตามข้างทางจนเจอเนินริมถนนที่มีต้นไม้เยอะมาก ผมเดินตรงเนินแล้วพบว่าต้นไม้ที่ขึ้นเยอะนั้นทำให้การมองจากตัวถนนมาตรงที่ผมยืนอยู่ค่อนข้างลำบากครับ ถ้าไม่สังเกตดี ๆ คือจะไม่มีใครรู้เลยว่าผมยืนอยู่ตรงนั้น อยู่ ๆ ความเสียวผมก็เพิ่มขึ้น รู้สึกอยากลองทำอะไรเสี่ยง ๆ ดู ควยผมก็แข็งตัวเต็มที่อยู่ใต้กางเกงรัดกล้ามเนื้อแล้ว ผมเลยตัดสินใจถอดกางเกงออก ยืนแก้ผ้าอยู่ข้างทางที่มีแค่ต้นไม้บังในขณะที่มีรถขับผ่านไปมา ก่อนที่จะชักของตัวเองจนทนไม่ไหว ปล่อยให้น้ำแตกกระจายออกมาอยู่หลังต้นไม้ตรงเนินริมถนนที่มีรถผ่านอยู่ตลอดเวลา หลังจากแตกแล้ว ผมยืนแก้ผ้าอยู่ตรงนั้น ใจเต้นรัวด้วยความตื่นเต้น อีกส่วนหนึ่งก็หอบจากความเหนื่อยล้าที่เพิ่งแตกไป พอเวลาผ่านไปสักพัก ผมดูนาฬิกาแล้วพบว่าใกล้ถึงเวลาเลิกงานของเพื่อนแล้ว ผมเลยสวมกางเกงรัดกล้ามเนื้อและเสื้อกล้ามตาข่าย ก่อนที่จะเดินกลับไปทางที่ทำงานของเพื่อน ผมแวะห้องน้ำสาธารณะแถวนั้นเพื่อล้างคราบที่ติดตัวออก ล้างหน้าล้างตาอะไรให้เหมือนกับเพิ่งกลับมาจากไปวิ่ง ก่อนที่จะไปนั่งรอเพื่อนแถว ๆ ร้านสะดวกซื้อใต้ตึกที่ทำงานของเพื่อนครับ ดีว่าตรงนั้นมีคนที่ไปออกกำลังกายมานั่งพักกันอยู่บ้าง ผมก็เลยเนียน ๆ ไปกับพวกเขาได้ พอเพื่อนเลิกงานลงมาเจอผม เราก็กลับไปที่ห้องพร้อมกันครับ
วันที่ห้าเป็นอีกวันที่ผมตัดสินใจพักอยู่ที่ห้องของเพื่อนครับ ผมซักชุดกีฬาเรียบร้อย แล้วก็นอนแก้ผ้าอยู่ในห้องของเพื่อนจนถึงบ่ายกว่า ๆ เพื่อนผมข้อความมาบอกว่ามื้อเย็นจะสั่งอาหารมากินด้วยกันในห้อง ก็ลาภปากผมเลยครับที่เพื่อนจะเลี้ยงอาหารด้วย ผมนอนอยู่ที่เตียงในห้องนอนแล้วเผลอหลับไปจนเพื่อนกลับมาถึงพร้อมอาหารที่สั่งมาไว้กินพร้อมกันครับ ผมตื่นมาแล้วตกใจมากเมื่อเจอกับเพื่อนอีกคนด้วย เพื่อนคนที่สองนี้เป็นเพื่อนร่วมคณะกับเพื่อนคนที่ผมมาค้างด้วยครับ ผมรู้จักเพื่อนคนที่สองตั้งแต่ตอนปี 1 แล้ว แต่ไม่ได้สนิทกันเท่าไหร่ แล้วตั้งแต่จบปี 1 ก็ไม่ได้เจอเพื่อนคนนี้อีกเลยครับ ผมเพิ่งรู้ว่าเพื่อนทั้งสองคนทำงานที่เดียวกันเลย เพื่อนคนที่สองทักทายผมอย่างดีใจว่าไม่เจอผมนานมาก ก่อนที่จะพูดออกมาด้วยความประหลาดใจว่า เป็นครั้งแรกที่เห็นผมถอดเสื้อ เพราะตอนปี 1 ผมแต่งตัวค่อนข้างมิดชิดมาก ใส่ชุดนอนเวลานอนตลอดเวลา เพิ่งจะเริ่มแก้ผ้านอนก็หลังจากจบปี 1 ไปแล้ว ตอนนั้นผมมีผ้าห่มคลุมช่วงเอวลงไปอยู่ครับ ผมกับเพื่อนที่เป็นเจ้าของห้องก็ยิ้มแหย ๆ ก่อนจะหัวเราะแห้ง ๆ กลับไป ผมตอบเพื่อนคนที่สองไปว่า เวลาผ่านมานานแล้วก็ต้องมีเปลี่ยนบ้าง ผมทักไปว่า ก็เหมือนเพื่อนคนที่สองแหละ ที่ตอนปี 1 ใส่แต่กางเกงในตัวจิ๋วเวลานอน
พวกเราสามคนก็หัวเราะใส่กันก่อนจะพูดคุยถึงช่วงเวลาเก่า ๆ สมัยเรียนปี 1 ครับ สักพักเพื่อนที่เป็นเจ้าของห้องก็ออกไปเตรียมอาหารจัดเรียงบนโต๊ะตรงส่วนของห้องนั่งเล่นครับ ส่วนเพื่อนคนที่สองก็บอกว่าไปกินอาหารกันได้แล้ว แล้วลากผมออกมาจากเตียงนอน ทันใดนั้น ผ้าห่มที่ผมปิดช่วงเอวลงไปก็หลุดครับ ร่างเปลือยเปล่าของผมปรากฏต่อสายตาของเพื่อนคนที่สอง เพื่อนคนที่สองมองผมด้วยสายตาตกใจมาก พอเห็นแบบนั้น จากที่ควยผมกำลังสงบนิ่ง ผมตื่นเต้นและเขินมากจนควยผมค่อย ๆ แข็งตัวขึ้นจนชี้หน้าเพื่อนผมยิ่งทำให้เพื่อนผมตกใจหนักขึ้นไปอีกครับ สุดท้ายแล้วผมก็เลยสารภาพบอกเพื่อนคนที่สองไปว่าหลังจากจบปี 1 ผมเริ่มชอบนอนแก้ผ้า แล้วเพื่อนเจ้าของห้องก็รู้อยู่แล้ว เพื่อนเจ้าของห้องก็พูดเสริมครับว่าเห็นของผมจนชินแล้วด้วยเหมือนกัน เพื่อนคนที่สองของผมก็ขำก๊ากเลยครับ ไม่คิดว่าการได้เจอผมอีกครั้งจะอยู่ในรูปที่ผมแก้ผ้าควยแข็งชี้หน้าขนาดนี้ ผมก็โดนล้ออยู่บ้างแต่ก็ไม่มีอะไร พวกเราสามคนก็นั่งกินข้าวล้อมวงกันอย่างสนุกสนานครับ ทั้งวงที่สองคนแต่งตัวใส่ชุดทำงานอยู่และผมคนเดียวที่แก้ผ้าล่อนจ้อนนั่งควยแข็งครับ
วันที่หกเป็นอีกวันที่ผมไปวิ่งรอบสวนแถว ๆ หอที่เดิมครับ ไม่มีอะไรเป็นพิเศษ ผมยังคงตกเป็นเป้าสายตาของคนที่เดินเล่นในสวนเหมือนวันที่ผมมาวิ่งวันก่อน ด้วยว่าวันนี้อารมณ์อยากโชว์ผมลดลงเยอะแล้ว เหมือนสมองปลอดโปร่งขึ้นมากจากการได้มาผ่อนคลายนอกสถานที่ จากบ้านผมมาอยู่หอเพื่อนตลอดสัปดาห์ ผมเลยกลับไปที่ห้องเพื่อนเร็วกว่าปกติครับ ไปอาบน้ำ ซักชุดกีฬา รอแห้ง เก็บลงกระเป๋าอะไรไปตามเรื่อง แล้วคืนนั้นก็เป็นคืนสุดท้ายที่ผมได้นอนแก้ผ้าโชว์เพื่อนครับ
วันสุดท้ายของการมาอยู่กับเพื่อน เป็นวันหยุดครับ ผมก็แต่งตัวด้วยชุดเดิมที่ผมใส่ขามา เพื่อนผมก็พาผมไปตระเวนทำบุญ ไหว้พระ เข้าวัด รวมถึงพาไปร้านอาหารที่ค่อนข้างดังประจำจังหวัด จำได้ว่าวันนี้ มีผู้ร่วมทางเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งคน เป็นแฟนของเพื่อนผมครับ แฟนของเพื่อนผมเขาทำงานจังหวัดข้าง ๆ ที่ปกติจะมาเจอกับเพื่อนผมทุกวันหยุดอยู่แล้ว อีกอย่างคือ แฟนของเพื่อนผมเขาเป็นคนพื้นที่ที่ค่อนข้างรู้จักสถานที่ท่องเที่ยวหรือร้านอาหารในจังหวัดมากกว่าเพื่อนผมครับ พอใกล้ถึงเวลากลับ เพื่อนผมก็ขับรถไปส่งผมที่สนามบินก่อนจะอวยพรให้ผมได้งานทำเร็ว ๆ ผมก็ขอบคุณเพื่อนที่ดูแลตลอดสัปดาห์เป็นอย่างดี ก่อนจะแยกย้ายกันครับ
ประสบการณ์ที่ผมไปนอนแก้ผ้าห้องเพื่อนสัปดาห์นึงก็มีเท่านี้ครับ เพื่อนผมที่เป็นเจ้าของห้อง รวมถึงเพื่อนผมคนที่สองที่บังเอิญมาเจอผมต่างเป็นชายแท้ทั้งคู่ ปัจจุบันแต่งงานมีเมียมีลูกกันแล้ว หลังจากกลับจากค้างห้องเพื่อนตอนนั้นไม่นานผมก็ได้งานทำด้วย เลยไม่มีโอกาสได้ไปค้างที่ห้องเพื่อนอีก แต่ทุกวันนี้ก็ยังติดต่อกันบ้างทางข้อความ ทางโทรศัพท์อยู่ครับ
ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามอ่านถึงตอนนี้ ไว้มีโอกาสผมจะมาแชร์ประสบการณ์อื่น ๆ อีกนะครับ
ขอบคุณค่ะ ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ น่าร้ากกกก มาเล่าอีกนะ ได้ทำเนียน ๆ แก้ผ้าโชว์ให้เพื่อนได้เห็น มันเสียวมากเลยครับ ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ ขอบคุณมากครับ ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ รอติดตามครับ
หน้า:
[1]