Peaze โพสต์ 2025-10-3 00:06:36

ผม, พี่, พี่พี, แล้วก็ใครอีกนะ?? ตอนที่ 12

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Peaze เมื่อ 2025-10-3 00:06




          เช้าวันนี้ผมอยู่ในครัวตั้งแต่ตีห้าครึ่ง ทำแกงเลียงกะทิใส่ฟักทองและวุ้นเส้นเมนูโปรดของพี่พี นอกนั้นก็ยังมีปลานิลทอด กินกับน้ำปลาพริก และตับหวาน ผมจัดอาหารทั้งหมดลงในสำรับ ส่วนหนึ่งก็แบ่งเอาไว้ให้พวกคนงานในสวน ควันยังลอยกรุ่นส่งกลิ่นเชิญชวนให้น้ำลายสอ ทุกเมนูที่ผมทำนั้นได้เรียนรู้มาจากแม่ตุ๊ แม่สามีที่รักของผมเอง นี่ถ้าแกยังอยู่ แกจะรู้สึกยังไงนะที่ผมทำทุกอย่างที่แกสอนให้กับลูกชายของแก ในฐานะ “เมีย”
          หวังว่าแกจะภูมิใจ
          ผมละจากในครัว ออกมาตามพี่พีไปกินข้าวเช้า เห็นสามีอันเป็นที่รักกำลังง่วนอยู่กับการทำความสะอาดรถตู้
“มีแขกจะเช่ารถหรอพี่?”“เปล่า! วันศุกร์นี้เราจะไปทะเลกันไง พี่ก็เลยทำความสะอาดเตรียมเอาไว่”“ทะเล? ใครจะไปนะ?”“อ้าว! ยังไม่รู้หรอ?” ผมขมวดคิ้วส่ายหน้าตอบ “ไอ้ทีนจะพาพวกแฝดไปเที่ยวทะเล ก็เลยให้พี่เตรียมรถไว้”“เราจะไปด้วยหรอ?”“ก็ต้องไปสิ นินไม่อยากไปหรอ?”“ก็อยาก แต่ผมไม่เห็นรู้เรื่องเลย”“พี่นึกว่าไอ้ทีนมันบอกนินแล้ว พวกเด็ก ๆ ตื่นเต้นกันใหญ่”“อ๋อ มิน่าล่ะ วันก่อนรบเร้าให้ผมซื้อแว่นตาดำน้ำให้” พี่พีหัวเราะ “ไงก็เถอะ มากินข้าวก่อน กำลังร้อน ๆ เลย เดี๋ยวเย็นชืดหมด”
พี่พีละจากรถตู้ เดินตรงมาแล้วโน้มตัวหอมผมอย่างทุกครั้ง พอเห็นว่ากับข้าวที่ผมเตรียมไว้ให้เป็นของโปรดตัวเอง ก็ฉีกยิ้มจนแก้มแทบปริ รีบนั่งลงที่โต๊ะกินข้าว แล้วตักน้ำแกงซดอย่างคนหิวโหย
“พี่คิดมาตลอดเลยว่าแม่พี่สอนถูกคนจริง ๆ”“หืม?”“ก็…คนที่แม่พี่สอนทำกับข้าวในวันนั้น ได้มาเป็นเมียพี่ในวันนี้ไง” พี่พีกล่าวออดอ้อน เอี้ยวตัวมาโอบผม กระซิบข้างหู “แม่พี่ต้องภูมิใจในตัวนิน”“ผมก็หวังอย่างนั้น…”
          หลังกินข้าวเสร็จผมก็มาช่วยพี่พีล้างรถต่อจากที่ค้างเอาไว้ จนกระทั่งช่วงสาย ๆ พี่อ่อนก็เข้ามาที่บ้านเพื่อเอากับข้าวที่ผมเตรียมเอาไว้สำหรับคนงาน พี่อ่อน ชายหนุ่มวัยสามสิบห้า ผิวคมเข้ม หน้าตาจัดว่าดีประมาณหนึ่ง แกเป็นลูกชายของป้าจันทร์ ป้าแม่บ้านที่ทำงานที่โฮมสเตย์ของพี่พีมาตั้งแต่เริ่มเปิดแรก ๆ
          ถึงพี่อ่อนจะดูดีในสายตาผม แต่ไม่! ผมไม่คิดอะไรกับแกหรอก และดูเหมือนว่าแกเองก็ไม่ค่อยชอบผมสักเท่าไหร่ แม้ว่าแกจะไม่เคยแสดงออกตรง ๆแต่ผมอ่านสายตาเวลาที่แกมองผมออก มองอย่างรังเกียจ… อาจจะเพราะว่ายังคงเกรงใจพี่พีที่เป็นเจ้านายอยู่ แกก็เลยไม่เคยยุ่มย่ามกับผม ไงก็เถอะตราบใดที่แกยังทำงานดี ผมก็ไม่มีปัญหาอยู่แล้ว

          ช่วงบ่าย ผมนั่งเคลียร์บัญชีรายรับรายจ่ายอยู่ในคาเฟ่ เวลาไปเที่ยวจะได้ไม่มีงานอะไรค้างคา แต่ยังทำไม่ทันเสร็จ พี่ทีนก็พาพวกตัวป่วนมาฝากไว้เพราะต้องพาพี่แอนไปโรงพยาบาล มีรอยคราบน้ำตาปรากฏบนแก้มของทั้งคู่ เดาว่าคงร้องตามแต่พี่ทีนไม่ให้ไปด้วย ผมต้องใช้เวลาปะเหลาะอยู่พักใหญ่กว่าทั้งสองคนจะอารมณ์ดี
         ผมมองหลาน ๆ แล้วก็นึกเป็นห่วง พักหลังมานี้พี่ทีนกับพี่แอนทะเลาะกันบ่อยขึ้น พวกเด็ก ๆ ถึงขนาดเป็นคนพูดกับผมเองว่าพ่อกับแม่เสียงดังใส่กันทุกวัน ผมยังไม่มีโอกาสได้คุยกับพี่เรื่องนี้ อาจจะดูเหมือนเข้าไปก้าวก่ายครอบครัวมัน แต่ผมไม่อยากให้หลานจำภาพแย่ ๆ แบบนั้นไปจนโต
          ระหว่างเคลียร์งานกับดูแลเด็ก ๆ ไปด้วย ที่คาเฟ่ก็มีลูกค้าเข้ามาใช้บริการประปราย จนกระทั่งลูกค้าคนหนึ่งเปิดประตูร้านเข้ามา เด็กวัยรุ่นชายประมาณม.ปลาย สวมเสื้อยืดสีขาวกับกางเกงนักเรียนสีดำ สะพายกระเป๋าใบใหญ่ เด็กคนนั้นมองหน้าผมครู่หนึ่ง ไม่รู้ว่าเพราะอะไร แต่แววตาของเขาทำผมรู้สึกเศร้าลึก ๆ ในใจ
          เขาละสายตาจากผม มองกวาดไปทั่วแล้วเดินช้า ๆ มาที่หน้าเคาน์เตอร์ ก้มลงดูเมนู
“อะ…เอาโกโก้เย็นแก้วนึงครับ” เขากล่าวด้วยน้ำเสียงประหม่า เหลือบตามองไปยังเค้กในตู้แช่“โกโก้หวานปกตินะครับ?”“เอ่อ ครับ…” เขาตอบ ควักแบงค์ยี่สิบที่ยับยู่ยี่สองใบออกจากกระเป๋าแล้ววางบนเคาน์เตอร์“นั่งรอที่โต๊ะก่อนเลย เดี๋ยวพี่ทำให้” ผมบอกพลางหยิบเงินนั้นใส่เครื่องแล้วยื่นใบเสร็จให้เขา เด็กหนุ่มรับเอาไว้โดยที่ยังคงหลบสายตา จากนั้นจึงเดินไปนั่งที่โต๊ะเพื่อรอเครื่องดื่ม
หลังทำตามออเดอร์เสร็จผมก็ยกไปเสิร์ฟให้เขา พร้อมกับเค้กมะพร้าวอีกหนึ่งชิ้น
“เอ่อ อันนี้ผมไม่ได้สั่ง!” เด็กคนนั้นรีบบอก“อันนี้พี่แถมให้”“เอ่อ…ขะ…ขอบคุณครับ” เขากล่าวอ้อมแอ้ม
มันมีความรู้สึกที่อธิบายไม่ได้ก่อตัวขึ้นในใจตอนที่ผมมองเขา เด็กคนนี้มีอะไรบางอย่างที่ทำให้ผมนึกถึงตัวเองตอนเด็ก เขาเหมือนจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ก็ถูกขัดด้วยเสียงตวาดแว้ดของเจ้าหลานชายคนโต
“เอามา!!” ไนซ์ ดึงตัวต่อเลโก้ออกจากมือของไนน์ และทำท่าง้างหมัดจะต่อย “ไนซ์!!” ผมส่งเสียงดุเพื้่อห้าม “ไอ้ไนน์มันเอาของไนซ์ไป!”“อันนั้นของไนน์ ของพี่ไนซ์อยู่ตรงโน้น!” น้องไนน์พูดเสียงสั่นพร้อมกับชี้ไปด้านหลังของคนเป็นพี่ ตัวต่อหุ่นทหารเจ้าปัญหานอนแอ้งแม้งอยู่ข้างหลังของไนซ์จริง ๆ พอเจ้าตัวเห็นแบบนั้นก็เลยโยนตัวต่อหุ่นตำรวจคืนน้อง “ไนซ์! เมื่อกี้อาเห็นนะ ทำท่าจะต่อยไนน์หรอ? เราเป็นพี่น้องกันนะ ทำแบบนั้นไม่ได้รู้มั้ย?” เจ้าไนซ์หน้ามุ่ย ไม่ยอมขอโทษผมเดินไปนั่งลงตรงหน้าเด็กทั้งสอง จับมือของทั้งคู่คนละข้าง “อย่าทำแบบนั้นอีกนะ รู้มั้ย? เป็นพี่น้องกัน ต้องรักกันมาก ๆ”“ขอโทษ…” เจ้าไนซ์พูดอ้อมแอ้ม น้องไนน์ไม่ได้ตอบอะไร แต่ใช้มืออีกข้างมาจับมือพี่ชายไว้
เหมือนจะจบลงด้วยดี แต่มันทำให้ผมฉุกคิดอย่างนึ่ง ว่าที่ไนซ์มีพฤติกรรมแบบนี้ เป็นเพราะเลียนแบบจากพี่ทีนมารึเปล่า? ผมคงต้องคุยกับพี่จริงจังแล้ว เพราะถ้าสองคนนั้นทะเลาะกันถึงขั้นลงไม้ลงมือให้เด็กเห็นผมก็คงเฉยไม่ได้
          ผ่านไปจนถึงช่วงเย็น หลานทั้งสองสลบไสลเพราะเพิ่งกินอิ่ม แม้ตอนตื่นจะชอบตีกัน แต่พอตอนนอนทั้งคู่ชอบที่จะใช้แขนขาก่ายกันอยู่เสมอ ซึ่งเป็นภาพที่มองกี่ครั้งก็ไม่เบื่อ
          ผมช่วยพี่ทีนอุ้มเด็ก ๆ กลับไปส่งที่บ้านขณะที่ทั้งสองคนยังหลับอยู่ สีหน้าพี่ดูกรุ้มกริ่มผิดปกติ ผมจึงลองถามถึงสิ่งที่กำลังสงสัย
“พี่แอนท้องหรอ?”“เฮ้ย! รู้ได้ไง?” “พี่เพิ่งกลับมาจากโรงพยาบาล แต่ท่าทางดูดีอกดีใจอะไรจนออกนอกหน้าแบบนี้”“ขนาดนั้นเลยหรอ?”“แล้วเจ้าไนซ์บอกว่าเห็นแม่อ้วกตั้งแต่เมื่อวาน ผมก็เลยคิดว่าน่าจะแพ้ท้อง”“โธ่ พี่อุตส่าห์จะเก็บไว้เซอร์ไพรส์ตอนไปเที่ยวซะหน่อย” “กี่เดือนแล้วหรอ?”“สองเดือนแล้ว”“ไงก็ยินดีด้วยนะพี่” ผมบอกพลางขยับไหล่ชนพี่อย่างเย้าแหย่ “ครั้งนี้ทุกอย่างต้องโอเคแน่”“อืม ก็หวังอย่างนั้น หมอบอกว่ายังไม่มีอะไรน่าห่วง”

      หลังจากส่งหลานทั้งสองเข้านอนเสร็จแล้ว ผมก็นั่งคุยกับพี่อยู่พักนึงจนฟ้าเริ่มมืด จึงกลับบ้าน ระหว่างทางก็พบกับเด็กม.ปลายเมื่อกลางวันอีกครั้ง ท่าทางดูวิตกกังวล
“อ้าว น้อง! ยังไม่กลับหรอ? มีอะไรให้ช่วยเปล่า?” เขาดูตกใจเล็กน้อยก่อนจะตอบ “เอ่อ เปล่าครับ”“แล้วนี่…อยู่แถวนี้หรอ? ไม่เคยเห็นหน้าเลย”“เปล่าครับ ผมมาเที่ยว”“หรอ? พักที่นี่เหรอ?”“เอ่อ…เปล่าครับ”“อ่อ…” เรานิ่งเงียบกันทั้งคู่จนบรรยากาศเริ่มอึดอัด “งั้น ถ้ามีอะไรให้ช่วยก็บอกได้นะ ” ผมกล่าวพร้อมรอยยิ้มอย่างเป็นมิตรและกำลังจะเดินจากไป “เอ่อ… พี่!” ผมหันหลังกลับตามเสียงเรียก เด็กหนุ่มหลบสายตาก่อนจะพูดต่อว่า “ถ้าผมจะขอค้างที่นี่คืนนึงต้องจ่ายค่าห้องเท่าไหร่หรอครับ?” เขาล้วงมือลงไปในกระเป๋ากางเกง ควักเงินออกมา “ผมมีแค่นี้…” เด็กคนนั้นกำเงินแล้วแบบออกให้ผมดู ราว ๆ สี่ร้อยบาท
“เดี๋ยวพี่ดูห้องว่างให้ เรื่องค่าที่พักไม่เป็นไรหรอก”“ไม่เป็นไรพี่ ผมเกรงใจ” เขารีบปฏิเสธ“ไม่เป็นไร แถวนี้ก็มีแค่ที่นี่แล้วที่นายจะพักได้ ห้องเช่าที่ใกล้ที่สุดก็อยู่ห่างไปอีกสิบกิโล มืดแล้วด้วย ค้างที่นี่เถอะ”“แต่ว่าผม…”“ไม่ต้องคิดมากหรอก ปล่อยนายเดินออกไปตอนนี้พี่ก็คงคาใจไม่หาย”
เด็กหนุ่มดูลังเล แต่ก็เดินตามมาช้า ๆ ผมคิดว่าบางทีเขาอาจจะระแวง หรือคิดว่าผมคาดหวังบางอย่างจากเขา ก็นะ จู่ ๆ ใครก็ไม่รู้เสนอที่พักให้ฟรี ๆ ถ้าเขาจะคิดไปในทางนั้นก็คงไม่แปลก แต่ผมไม่คิดจะทำอะไรแบบนั้นหรอก ไม่มีในหัวเลย เจ้าหนุ่มนี่เด็กเกินกว่าที่ผมจะรู้สึกอะไรด้วย อย่างเดียวที่ผมรู้สึกก็แค่เป็นห่วง เพราะท่าทางของเขาดูเหมือนกำลังเดือดร้อน มันคงทำให้ผมคาใจจนนอนไม่หลับแน่ ๆ ถ้าไม่ได้ช่วยเอาไว้
          ระหว่างทางผมพาเขาเดินมาถึงบ้านพักหลังเล็กที่ยังว่างอยู่ ลักษณะเป็นบ้านไม้ยกพื้นกับหลังคากระเบื้องสีดำ มีห้องนอนและห้องน้ำในตัว ผมเลือกหลังที่อยู่ไม่ไกลจากบ้านผมมากนัก เพื่อที่จะได้คอยช่วยเหลือหากเขาต้องการอะไร
“นี่กุญแจ น้ำกับขนมในตู้แช่กินได้เลยนะ ไม่ต้องเกรงใจ หรือถ้าอยากกินข้าวก็โทรสั่งได้เลย เดี๋ยวพี่บอกแม่บ้านเอาไว้ให้ว่าให้ลงบิลชื่อพี่”“อืม ขอบคุณนะพี่… เดี๋ยวผมหาเงินมาจ่ายคืนให้นะ”“ไม่ต้องหรอก ปกติหลังนี้ก็ไม่ค่อยมีลูกค้าพักอยู่แล้ว นายอยู่ได้ตามสบายเลย”“ผมคงไม่อยู่นานขนาดนั้นหรอก…”“เอาเบอร์พี่ไว้นะ ถ้าขาดเหลืออะไรก็บอกได้เลย” ผมกำลังจะหยิบมือถือขึ้นมากดเบอร์ แต่พอคลำดูที่กระเป๋ากางเกงทั้งสองข้างก็ไม่เจอ คิดว่าคงจะลืมไว้ที่บ้านพี่ทีน “เอ่อ เหมือนพี่จะลืมมือถือไว้ ไงก็เถอะ ข้างในนั้นมีเบอร์ติดต่ออยู่ ถ้ามีปัญหาอะไรโทรมาได้” ผมบอกก่อนจะเดินออกมาเพราะไม่อยากให้เจ้าเด็กหนุ่มอึดอัด “เอ่อ…พี่นิน…ขอบคุณนะครับ”
ผมยิ้มตอบเบา ๆ พอจะนึกออกแล้วว่าทำไมผมถึงอยากช่วยเขา เด็กคนนี้ทำให้ผมนึกถึงตัวเอง ตอนที่เพิ่งจบม.6 และกำลังจะเข้ามหาลัย
          ตอนนั้นผมทั้งสับสนและเคว้งคว้าง หาทางไปไม่ถูก เพราะเป็นช่วงที่ต้องเลิกกับทองเอกและทะเลาะกับพี่ทีน…
          หลังจบม.6 พี่อยากให้ผมไปเรียนใกล้ ๆ เพื่อที่จะได้พักด้วยกัน เพื่อประหยัดค่าใช้จ่าย แต่ผมดื้อรั้นอยากเรียนอีกมหาลัยนึงที่ตัวเองสอบติด เพราะผมคิดว่า ถ้าผมยังอยู่กับพี่ ผมจะไม่มีวันโต ผมคงจะเป็นน้องชายที่เอาแต่พึ่งพาพี่ไปตลอด เพราะงั้นผมถึงเลือกที่จะออกไปใช้ชีวิตคนเดียว พอผ่านทุกอย่างมาได้ ผมก็รู้สึกขอบคุณตัวเองที่เลือกแบบนั้น


“ขอบคุณมากนะคะ ถ้าไม่ได้พี่ช่วยไว้คงแย่เลย” เสียงหวานแว่วกล่าวพลางหัวเราะระริกระรี้ หญิงสาวสองนางหน้าตาสะสวย ส่งยิ้มแววตาหยาดเยิ้มใส่ชายหนุ่มผิวคมเข้ม ร่างกายกำยำ ชายผู้เป็นสามีอันเป็นที่รักของผม“ไม่เป็นไรครับ ถ้ามีอะไรโทรเบอร์ที่อยู่ในห้องได้เลย เดี๋ยวผมส่งช่างมาช่วยดูให้”“พี่มาดูเองไม่ได้หรอคะ? ถ้าเป็นพี่ เรารู้สึกอุ่นใจกว่าน่ะค่ะ” หนึ่งในนั้นกล่าวพลางยกมือขึ้นมาลูบแขนพี่พีเบา ๆ “เอ่อ… ที่นี่เรามีช่างเฉพาะทางคอยดูแลอยู่ครับ เก่งกว่าผมเยอะ” พี่พีอึกอักตอบ
ความรู้สึกขุ่นมัวปะทุขึ้นในใจ ผมแกล้งเดินลากเท้ากับพื้นเพื่อให้เกิดเสียงดัง ทันทีที่พี่พีเห็นผมก็รีบปรี่มาหาผม ทิ้งสาว ๆ พวกนั้นยืนงงงันกันอยู่ที่เดิม
“ไปไหนมา? พี่ไปหาที่คาเฟ่ก็ไม่เจอ”“ไปส่งพวกแฝดมา” ผมตอบเสียงเรียบ สายตาเหลือบไปมองสาว ๆ พวกนั้นที่ยังคงมองตามพี่พีไม่ลดละ “ขัดจังหวะรึเปล่า?”พี่พีถอนหายใจ สอดมือเข้ามาโอบเอวผมโชว์สาว ๆ พวกนั้น ก่อนจะโน้มมาหอมที่แก้มเบา ๆ
มันก็ดีอยู่หรอกที่พี่พีกล้าแสดงความรักกับผมต่อหน้าสาว ๆ พวกนั้น เหมือนเป็นการบอกอย่างชัดเจนว่าตนมีเมียอยู่แล้ว แต่ทำไมไม่รู้จักปฏิเสธไปซะตั้งแต่แรกล่ะ? ยิ่งตอนที่พวกนั้นถึงเนื้อถึงตัว แต่พี่พียังนิ่ง ทำเอาผมอดสงสัยไม่ได้ว่าถ้าผมไม่ได้มาเจอก่อนพี่พีจะจัดการกับสถานการ์แบบนี้ยังไง?



static/image/hrline/line3.png




          หลังมื้อค่ำ ขณะที่ผมกำลังล้างจานอยู่ พี่พีก็ยกถ้วยชามที่เหลือมาให้ ผมจึงแกล้งแซวด้วยการทำเสียงเลียนแบบสาว ๆ พวกนั้น “ขอบคุณมากนะคะ ถ้าไม่ได้พี่ช่วยไว้คงแย่เลย”พี่พีหัวเราะขบขันพลางตีตูดผมเบา ๆ อย่างหยอกล้อ
“อะไร? อย่ามาแซว” ผมเบะปากใส่ด้วยความหมั่นไส้ “นี่คงไม่คิดว่าพี่จะชอบสาว ๆ พวกนั้นหรอกนะ”“แล้วชอบมั้ยล่ะ?”พี่พีสวมกอดจากด้านหลัง วางคางตัวเองเกยไว้บนไหล่แล้วหอมแก้มผม“ก็มีเมียอยู่แล้วทั้งคน พี่จะไปชอบคนอื่นได้ไง”“เหอะ!” “อะไร?”“เปล่า! ก็แค่เห็นพวกนั้นอ่อยพี่แล้วมันรู้สึกหมั่นไส้”“ฮ่า ๆ ใครก็อ่อยพี่ไม่ได้หรอก นอกจากเมียพี่คนเดียว” พูดจบพี่พีก็จับผมพลิกตัวแล้วอุ้มขึ้นนั่งบนซิงค์ล้างจาน ซุกหน้าตัวเองลงที่ซอกคอแล้วสูดหอมทำเอาผมเสียวสะท้าน “ไม่ต้องคิดเลยว่าพี่จะไปมองใคร ไม่มีใครทำให้พี่มีความสุขได้เท่านินอีกแล้ว”“ทำไมอ่ะ? จริง ๆ สองคนนั้นก็สวยอยู่นะ หน้าอกตู้ม ๆ เลย พี่ไม่ชอบหรอ?”“ไม่อ่ะ” “ผมถามตรง ๆ นะ พี่ยังชอบผู้หญิงอยู่มั้ย?” ผมถามสีหน้าจริงจัง“พี่ไม่ชอบใครเลย นอกจากนินคนเดียว”“แหวะ ไม่ต้องมาเลี่ยงคำถามเลย” “เอ้า! ก็จริง เมียพี่ทั้งขยัน ทั้งทำกับข้าวเก่ง เรื่องเซ็กส์ก็ไม่มีใครเทียบ พี่จะไปมองใครอีกทำไม” พูดจบพี่พีก็จับมือผมเลื่อนไปกุมท่อนลำที่แข็งเป็นหินของมัน “เห็นมั้ย? ถึงเราจะคบกันมานาน แต่นินพี่ก็ทำให้มีอารมณ์ได้ตลอดเลย”“ขนาดนั้นเลยหรอ?”“ขนาดนั้นเลยแหละ”
ผมโน้มศีรษะไปจูบพี่พีเป็นรางวัลที่พูดจาเข้าหู มือยังคงกำและรูดควยเบา ๆ ผ่านนอกกางเกงจนพี่พีครางเสียงทุ้มต่ำในลำคอ “อืมมม อืออ” เสื้อของผมหลุดลอยลงไปกองที่พื้นอย่างรวดเร็ว พี่พีใช้ปลายลิ้นชุ่มโชกละเลงเลียหน้าอกและหัวนมผมอย่างหิวกระหาย ทำเอาผมเสียวซ่านจนดีดดิ้น
ไม่ช้าเสื้อผ้าทุกชิ้นก็ถูกถอดออก แม้เราสองคนจะเปลือยเปล่าต่อหน้ากันมาเป็นพันครั้ง แต่ความรู้สึกหลงใหลในตัวของกันและกันก็ไม่เคยลดลง ผมโลมเลียหุ่นทรงของคนตรงหน้าด้วยสายตา แผงอกอบอุ่นแต่แข็งแกร่ง หน้าท้องกล้ามเนื้อเป็นลอนชัด หยดเหงื่อผุดตามตัวไล่ลงไปที่ท่อนลำขนาดกว่าแปดนิ้วที่แกว่งไกวไปมาตอนพี่พีขยับตัวเยื้องย่าง
พี่พีจับผมที่นั่งอยู่บนซิงค์กางขาออกก่อนจะแทรกตัวเข้ามาประคองตัวผม ปากของเราทั้งสองคนประกบกันอีกครั้ง พี่พีค่อย ๆ สอดนิ้วที่ชะโลมด้วยเจลหล่อลื่นเข้ามาทีละนิ้ว “อืออ อืมมม” ผมร้องครางด้วยความเสียว สองมือปัดป่ายลูบไล้ไปทั่วแผ่นหลังพี่พี
“อืออ พี่พี… เสียว… อือออ” จากหนึ่งเป็นสอง จากสองเป็นสามพี่พีค่อย ๆ ซอยนิ้วเข้าออกช้า ๆ ขณะเดียวกันก็คว้านไปมาเพื่อนวดให้รูของผมผ่อนคลายและพร้อมรับลำควยแท่งโต “พี่จะเย็ดแล้วนะ” พี่พีกระซิบ แล้วค่อย ๆ ดันหัวควยตัวเองเข้ามาช้า ๆ “อูยย ทั้งแน่นทั้งอุ่น บอกแล้วว่าเมียพี่เนี่ยที่สุดแล้ว ซี๊ดส์” “อืออ ควยผัวก็แน่นคับรูเมียไปหมดเลย อ่าห์” “อูยย จะสุดลำแล้ว อย่าเกร็งสิ รูนินมันตอดควยพี่เสียวจนจะแตกเลย”เราสองคนมองหน้ากัน แววตาหยาดเยิ้มนั้นยังคงทำผมหลงรักในทุก ๆ วัน เมื่อแท่งทวนสอดแทรกเข้ามาจนสุดลำ “อื้อ อืออ~” ผมถลากอดซบพี่พีด้วยความเสียวปริ่มจะขาดใจ
เรากอดกันอยู่ครู่หนึ่ง จนรูสวาทผมเริ่มคุ้นชินกับดุ้นเอ็นลำโต สองมือลูบไล้ไปตามแผ่นหลังของพี่พี พลางเกร็งขมิบรูก้นเป็นจังหวะถี่ ๆ “อูยย อย่าแกล้งกันสิ!”   พี่พีสอดแขนเข้ามาใต้ขาแล้วอุ้มผมตัวลอยขณะที่ควยยังคาอยู่ในรู ขยับเอวโยกเย็ดผมในท่าอุ้มแตง “อื้อ อ่าห์ อ่าห์ พี่พี…” “อ่าส์ พี่รักนินนะ รักเมียพี่คนเดียว รูเมียตอดควยผัวไม่หยุดเลย อ่าส์ อ่าส์” เสียงคำพร่ำรักเคล้ากับลมหายใจหนักหน่วง ปลุกอารมณ์ผมให้พุ่งขึ้นไปอีก เสียงเนื้อหนักหน่วงกระทบกันสนั่นห้อง พั่บ พั่บ พั่บ พี่พียืนเย็ดผมอยู่ในท่านั้นราว ๆ ห้านาทีก่อนจะถอนควยออก จากนั้นจึงจับผมพลิกให้อยู่ในท่าหมอบคลาน สองมือหนาลูบไล้สะโพกไล่เรื่อยลงมาแล้วแหวกก้นผมออก พี่พีจ่อควยแล้วเสียบเข้ามาพรวดเดียว มันเสียวจนแทบหยุดหายใจ ความรู้สึกคล้ายกับตอนที่เราดำน้ำนาน ๆ จนใกล้จะหมดลมแล้วโผล่ขึ้นมาเหนือน้ำเพื่อสูดอากาศ
“ฮึก!! ”“ซี๊ดดส์ ขนาดเย็ดแทบทุกวันรูเมียพี่ยังฟิตแน่นเหมือนวันแรกอยู่เลย จะไม่ให้พี่หลงได้ยังไง?”“แต่ควยพี่ใหญ่กว่าวันแรกที่เย็ดผมเยอะมากเลยนะ”“แล้วชอบมั้ย? ชอบควยใหญ่ ๆ ของผัวมั้ย?” พี่พีโน้มตัวมากระซิบข้างหูผม“ชะ…ชอบ!!”“วันนี้พี่ขอเย็ดแรง ๆ นะ”“เอาเลย วันนี้ผมก็อยากโดนพี่เย็ดแรง ๆ เหมือนกัน” ผมพูดพลางกางขาออกเล็กน้อย ก้มหน้าหมอบแนบลงกับพื้น ตั้งท่าพร้อมรับแรงกระแทกแบบเต็มสูบ พี่พีจูบที่หลังผมก่อนจะใช้สองมือประคองที่สะโพกผมแน่บแน่น แล้วก็เริ่มซอยเอวกระแทกควยใส่ผมอย่างรุนแรง แรงกระแทกกระทั้นหนักหน่วงจนตัวผมโยกคลอน แท่งทวนเสียดสีกับผนังลำไส้ร้อนระอุไปทั้งร่างกาย เสียงกระทบกึกก้องพร้อมกับเสียงครางของเราทั้งคู่ดังระงม
“อ่า! อ่าา! อ่าาห์! เสียวควยฉิบหาย! เมียจ๋า ผัวจะแตกแล้ว!! อูยย น้ำควยผัวจะแตกแล้ว!!!”
ผมโยกตัวตอบรับรสสวาทสุดเสียวที่ผู้เป็นสามีมอบให้ ในทุกจังหวะที่ลำควยของพี่พีสอดกระทุ้งเข้ามา สร้างความสุขสมจนของเหลวสีขาวขุ่นของผมพวกพุ่งออกมาโดยที่ไม่ต้องสัมผัสเลย “อ๊าาห์ พีพี ผมแตกแล้ว!! ผัวเย็ดเมียแรง ๆ เลย” ผมคำราม น้ำควยสาดกระเซ็นเป็นสายตามแรงกระแทกกระทั้น นองไปทั่วพื้น
“อ๊าา แตกแล้ว!! แตกแล้ว!!! โอ้วว” สิ้นเสียงพี่พีก็ดันลำควยเข้ามาจนสุดและค้างเอาไว้ ฉีดน้ำกามอัดเข้ามาในตัวผมจนอุ่นวาบไปทั้งลำไส้ ควยพี่พียังคงกระตุกหงึก ๆ และพ่นน้ำออกมาอีกหลายระลอก
เราทั้งคู่หอบแฮ่ก พี่พีสอดแขนเข้ามากอดผมแล้วจับผมหงายขึ้นนอนบนตัวโดยที่ควยยังคาอยู่แบบนั้น ผมขยับหัวขึ้นไปจูบพี่พีอย่างดูดดื่ม
“เห็นมั้ย? เมียพี่เด็ดขนาดนี้ จะให้พี่ไปชอบใครอื่นก็บ้าแล้ว”
ผมหัวเราะเบา ๆ โดยไม่ได้ตอบอะไร เรานอนอิงแอบกอดกันอยู่อย่างนั้นครู่ใหญ่ ก่อนจะพากันไปอาบน้ำอีกรอบ พอกลับออกมาเสียงมือถือก็ดังขึ้น นั่นทำให้ผมแปลกใจนิดหน่อย เพราะจำได้ว่าลืมเอาไว้ที่บ้านพี่ทีน





static/image/hrline/5.gif







          ก่อนอื่น ขอโทษที่หายไปนาน เพราะไม่มีเวลาเลย ตอนนี้ผมทำงานเป็นพนักงานร้านสะดวกซื้อ พอเลื่อนตำแหน่งเป็นผู้ช่วยแล้วภาระงานมันค่อนข้างเยอะ จนแทบไม่มีเวลาเลย
ความเครียดเกี่ยวกับงานในแต่ละวัน กับการที่ต้องรับมือกับบรรดาลูกค้าสารพัดแบบ บอกตรง ๆ ค่อนข้างหนักเอาการเลย ทำเอาผมหมดไฟ หัวสมองตัน เขียนนิยายไม่ออกไประยะนึงเลย
ยังรู้สึกขอบคุณนักอ่านทุกคนที่แวะเวียนมาถามไถ่ถึงนิยายเรื่องนี้ในข้อความ มันรู้สึกดีจริง ๆ กับการที่ได้รู้ว่ามีคนรอนิยายของเราอยู่
จริง ๆ สำหรับเรื่องนี้ ผมมีวางแพลนเอาไว้อีกหลายตอนเลย แต่ไม่รู้ว่าจะสามารถเขียนได้จนจบตามที่ตั้งใจไว้มั้ย
ในท้ายที่สุดแล้วอย่างน้อยก็อยากจะเขียนเรื่องนี้ให้จบแบบไม่ค้างคา
ขอบคุณทุกกำลังใจครับ


ปล. หลังจากที่ห่างหายจากการเขียนมานาน ขนาดผมเองยังรู้สึกเลยยว่าสำนวนตัวเองมันไม่ลื่นไหลเหมือนแต่ก่อน แพ้แล้วแก้อีกหลายรอบมาก เพราะอยากให้งานออกมาให้ดีก่อนจะเผยแพร่ ถึงอย่างนั้น ตอนนี้ ผมก็ยังรู้สึกว่ามันยังไม่ค่อยดีเท่าไหร่ แต่กลัวว่าคนอ่านจะรอนานเกินไป ก็เลยลงให้ก่อน
สำหรับตอนต่อไป อาจจะไม่ต้องรอนานเท่ากับตอนนี้ เพราะผมพิมพ์ส่วนนึงเอาไว้แล้ว (จริง ๆ ก็กะจะลงในตอนนี้แหละ แต่กลัวมันจะยาวไปแล้วต้องมานั่งแก้อีกจนไม่ได้ลงตอนใหม่ซะที ก็เลยตัดแบ่งซะเลย)



kuminum โพสต์ 2025-10-3 00:33:22

ขอบตุณมากครับ

Bankparin โพสต์ 2025-10-3 00:49:25

ขอบคุณมากครับ นึกว่าจะไม่ได้อ่านต่อซะแล้ว คิดถึงเรื่องนี้มาก ผมกลับมาอ่านซ้ำบ่อย จะรอติดตามผลงานต่อไปนะครับ ขอบคุณมาก

Yang0098 โพสต์ 2025-10-3 01:32:37

I like that

Kamimuraone โพสต์ 2025-10-3 01:50:50

ขอบคุณนะครับ รอมาตั้งนาน จนผมคิดว่า ไม่น่าจะได้อ่านต่อ ซะแล้ว

montree254 โพสต์ 2025-10-3 02:08:07

ขอบคุณครับ

guwin001 โพสต์ 2025-10-3 02:16:57

ขอบคุณครับ

Mat28 โพสต์ 2025-10-3 04:29:47

ขอบคุณมาก

eg1 โพสต์ 2025-10-3 04:36:53

ขอบคุณครับ

mojimaru โพสต์ 2025-10-3 06:14:07

รอตอนต่อไปอยู่นะครับ

premakung โพสต์ 2025-10-3 06:22:41

โห้ยยยคิดถึงมากกกก

Eakkadoor โพสต์ 2025-10-3 06:46:36

ขอบคุณครับ

lekthai โพสต์ 2025-10-3 06:54:39

แต๊งกิ๊ว

nuangnut1996 โพสต์ 2025-10-3 07:10:55

คิดถึงเรื่องนี้จัง

youfme โพสต์ 2025-10-3 07:59:47

หายไปนานเลย ขอบคุณครับที่มาต่อ

auto101 โพสต์ 2025-10-3 08:59:31

ขอบคุณครับ

มันอ้อย โพสต์ 2025-10-3 10:46:40

โอ้วววว มาแล้ว ๆ คิดถึงมากกก คิดว่าคุณจะไม่มาเขียนต่อแล้วเสียอีก
และก็ดีใจจังที่คุณบอกว่าเรื่องนี้มีแพลนเขียนต่ออีกหลายตอน :"D

ส่วนเรื่องงานล้นนี่มันจังหวะชีวิตจริง ๆ นะ บางช่วงคือเยอะมากจนทำอะไรไม่ไหว
คิดอะไรไม่ออกไปเลยจริง ๆ แต่เดี๋ยวมันก็จะผ่านไป พร้อมกับเราที่แกร่งขึ้นกว่าเดิม

ใดใด คุณไม่สนใจเอาเรื่องนี้เข้าตลาดหลักทรัพย์ดูเหรอครับ (ลงใน รอร) ให้เป็นรายได้อีกทาง
มันอ้อยว่า เรื่องนี้มีศักยภาพดูเป็นไปได้อยู่นะ ติดเหรียญได้ฉ่ำเลยเพราะมี NC กรุบกริบทุกตอน
(เปิดเรื่องด้วยปกสวยดึงดูดไปเลยนะ รอร มันร้าย ถ้าเราเปิดตุ้บใน 2 สัปดาห์แรก หลังจากนั้นนิยายเราก็จะหลุมไปเลย)
Cheers!


thai_boys โพสต์ 2025-10-3 18:00:07

ขอบคุณมากๆนะครับ

Witthawat55 โพสต์ 2025-10-3 19:23:14

ขอบพระคุณครับ

xoman โพสต์ 2025-10-3 19:42:44

ขอบคุณมากครับ
หน้า: [1] 2 3
ดูในรูปแบบกติ: ผม, พี่, พี่พี, แล้วก็ใครอีกนะ?? ตอนที่ 12