Red Tag : ออฟฟิศนี้มีพวกผม ep.9 ตรวจ 5ส
Red Tag : ออฟฟิศนี้มีพวกผม ep.9 ตรวจ 5ส
/9/
ช่วงบ่ายวันศุกร์ พีทยืนเกาะขอบโต๊ะทำงานตัวเอง มือยังมีรอยเปื้อนฝุ่นจากงานยกของจัดของที่โดนใช้ให้ทำมาตั้งแต่เช้า ไม่รู้ทำไมวันนี้เพื่อนร่วมงานป้ายแดงคนอื่นไม่มีใครมาช่วยเลยทั้ง ๆ ที่ปกติก็มีน้ำใจกันดี เขาทำอยู่คนเดียวจนเหงื่อออก ไฟโถงออฟฟิศชั้นหกสะท้อนเหงื่อที่ซึมตามไรผม ก้านคอ และแนวกระดูกไหปลาร้า
เสียงหัวเราะกับเสียงพูดคุยดังเป็นระยะเมื่อทีมผู้บริหารฝ่ายป้ายม่วงเดินตรวจ 5ส โซนรอบออฟฟิศ ตามมาด้วยกลุ่มผู้ติดตามที่ห้อยป้ายม่วงเหมือนกัน พวกเขาจดโน้ตในมือถือ หยุดตรงโต๊ะใครก็ไล่เช็กขอบเก้าอี้ ลิ้นชัก ฝุ่นตามมุม ขยะที่ซ่อนในช่องวางไฟล์
พีทยืนตัวแข็ง ไม่เห็นรู้เลยว่าวันนี้จะมีการตรวจ 5ส อะไรเนี่ย แต่ด้วยความที่เขาก็เก็บข้าวของเป็นระเบียบอยู่แล้วเลยไม่กังวลนัก
ผู้ติดตามไล่รายการให้หัวหน้าฟัง เขาเริ่มจาก “สะสาง” และ “สะดวก”— เปิดลิ้นชัก ดึงแฟ้ม ดูซองเอกสาร ใบเสร็จ ซองเก็บของ — พลิกทีละแผ่นแล้วโยนลงตามลิ้นชักเหมือนจับตาดูว่าแอบเก็บขยะหรือไม่
ถัดมา “สะอาด” คู่กับ “สุขลักษณะ” — นิ้วหัวหน้าแตะขอบจอ ลากไปตามแนวแล้วเช็กฝุ่นที่ปลายนิ้ว พลิกใต้เก้าอี้ ลากดูซอกมุมราวกับหากระดาษทิ้งซุกซ่อนเช็กน้ำดื่มส่วนตัวของพีทว่ามีรอยคราบหรือเปล่า
สุดท้าย “สร้างนิสัย” — ผู้ติดตามคนหนึ่งยกมือถือขึ้นถ่ายภาพโต๊ะพีททุกมุม บันทึกเป็นไฟล์ “ตัวอย่าง” ว่าตามคู่มือ 5 ส ต้องมีสภาพยังไง
ทุกอย่างเหมือนจะผ่านฉลุย จนหัวหน้าฝ่ายทำจมูกฟุดฟิดแล้วพูดเบา ๆ ว่า “แต่ได้กลิ่นเหม็นจาง ๆ ลองดูในลิ้นชักล่างสุดซิ”
ผู้ติดตามเลื่อนมือเปิดลิ้นชักล่างสุดของโต๊ะพีทที่ติดป้ายว่า “ของส่วนตัว” เสียงรางเลื่อนฝืดนิด ๆ เพราะความเก่าของรางเหล็กทำให้ทุกคนที่ยืนมุงต้องก้มหน้ามาดูตาม
ในลิ้นชักมีแฟ้มเอกสารเก่า ๆ วางกดทับถุงผ้าบางอย่างที่ถูกพับยัดไว้จนยับ หัวหน้าฝ่ายหยิบมันขึ้นมาแล้วกางออกกลางแสงไฟ ทุกคนเห็นพร้อมกัน — Fundoshi สีขาวซีดที่ยังมีรอยยับตรงขอบคล้ายผ่านการใส่มาแล้ว
เสียงฮือรอบวงขยับทันที ผู้ติดตามคนหนึ่งหัวเราะในลำคอ มือหัวหน้าฝ่ายจับชายผ้าเบา ๆ แม้จะดูสะอาดแต่เขาก็พลิกดูอย่างละเอียดจนรอยตะเข็บคลี่ออก เผยให้เห็นขนหงิกงอเส้นยาวติดค้างอยู่ที่ขอบเย็บข้างใน
เขาโยนสายตากวาดกลับไปทางพีทแล้วหันไปสั่งเสียงเรียบ “ถ่ายเก็บ บันทึกไว้เลย ข้อ 3 สะอาด และ ข้อ 4 สุขลักษณะ ไม่ผ่าน มีคราบ มีขน ไม่ซัก”
มือถืออีกเครื่องในกลุ่มผู้ติดตามยกขึ้นมาถ่ายซูมใกล้ เหงื่อบนหลังพีทซึมขึ้นอีกระลอกเมื่อเห็นแฟ้มเช็กถูกติบันทึกลงในช่อง ข้อบกพร่อง
ระหว่างนั้น มีรุ่นพี่ป้ายม่วงอีกคนในกลุ่มหยิบผ้าเตี่ยวผืนนั้นจากมือหัวหน้าไปถือเล่น สอดนิ้วดึงขอบดูเหมือนจะเช็กเนื้อผ้า แต่กลับยกขึ้นชิดจมูก สูดลมหายใจเข้าเบา ๆ พร้อมหัวเราะหึในลำคอแล้วก็กระซิบดังพอได้ยิน
“กลิ่นยังอยู่เลย ฮ่าๆ”
หัวหน้าฝ่ายพยักหน้าเหมือนพูดกับเอกสาร “ไม่สร้างนิสัยเลยเนอะ ใช้แล้วไม่ซัก หมกกลิ่นไว้เต็มลิ้นชัก”
บรรยากาศตรงนั้นร้อนขึ้นทั้งที่แอร์เย็นจัด พีทยืนนิ่ง มือแนบต้นขาแน่นจนป้ายแดงบนคอแกว่งเบา ๆ เหมือนย้ำว่าเรื่องเล็กแค่ 5ส ก็พาไปเจอเรื่องลึกได้ขนาดนี้หัวหน้าฝ่ายป้ายม่วงยังถือแฟ้มเช็กมาตรฐาน 5 ส ไว้ในมืออีกข้าง พีทยืนตัวตรง เหงื่อยังซึมไรผม มือสองข้างกอดไว้ข้างลำตัวราวกับหาที่เกาะในความอับอายไม่เจอ
“กลิ่นติดผ้ายังขนาดนี้ แล้วกลิ่นตามตัวล่ะ” เสียงป้ายม่วงที่คนเดิมพูดกับหัวหน้าราวกับจงใจ
อีกฝ่ายยิ้มเหมือนไม่ใช่เรื่องร้ายแรง “งั้นก็ตรวจให้ละเอียดอีกหน่อยมั้ย เดี๋ยวจะได้แก้ 5ส ให้ถูกจุด”
พีทยกมือจะพูดอะไรสักอย่างแต่ถูกกันออกด้วยมือหนึ่งจากทีมติดตามที่เดินเข้ามาด้านหลัง
“ถอดเสื้อก่อน” คำสั่งสั้น ๆ แต่กดต่ำจนพีทต้องหายใจเข้าแรงก่อนขยับมือแกะกระดุม เขาถอดเสื้อเชิ้ตสีซีดออกช้า ๆ เผยแนวไหล่ แผ่นอกได้รูปกับกล้ามท้องที่ยังมีคราบเหงื่อทั้งเก่าทั้งใหม่เปียกสะท้อนไฟชัดขึ้นทุกที
ผู้ติดตามคนหนึ่งเดินเข้ามาประชิด ยกนิ้วชี้ให้พีทอ้าปาก “ตรวจช่องปากหน่อย” นิ้วสว่างในไฟกวาดสายตามองฟัน เหงือก ลมหายใจ
“ปากไม่เหม็นนะ โอเคเลย ฟันสวยดีด้วย…”
อีกคนยื่นหน้าเข้ามาใกล้ ลูบเรือนผมสั้นเหนือหูพีทแล้วขยี้เบา ๆ เหมือนหากลิ่นเหงื่อ “หัวก็ยังหอมแชมพูอยู่…ไหนดูจมูกกับหูหน่อย” มือเย็น ๆ สอดมาตามแนวข้างแก้ม เลิกใบหู ตรวจซอกแล้วก้มสูดดมเบา ๆ พีทเผลอกัดฟันเมื่อสัมผัสมันเย็นกว่าแอร์
“โอเค รูจมูกก็พอได้ ไม่มีน้ำมูก” เสียงหัวเราะคิก “แต่กลิ่นรักแร้ไม่รู้เป็นไง…ยกแขนซิ”
พีทยกแขนอย่างช้า ชายเสื้อยังพาดแขนข้างหนึ่ง พอลากออกหมดแนวรักแร้ชื้นจนขนเปียกลู่ก็ปรากฏตรงหน้า สายตาในกลุ่มผู้ติดตามสว่างขึ้นทันที
“เหงื่อเยอะจริงว่ะวันนี้ ไปทำอะไรมาเนี่ย?” ใครสักคนก้มดมใกล้จนปลายจมูกเกือบแตะแนวขน พีทหลับตาแน่น กัดริมฝีปากระงับเสียงข้างใน
เสียงฮือหัวเราะ “ตรงนี้พอได้กลิ่นเหงื่อนะ”
พีทหายใจแรงกว่าเดิมตอนคำสั่งต่อมาหล่นลงจากหัวหน้า “ถอดถุงเท้าออกดิ จะได้เช็กเท้าด้วย”
พีทยกขาช้า ๆ นั่งย่อตัวถอดถุงเท้าด้วยมือที่ยังสั่น เท้าเปลือยเปล่าแตะพื้นแอร์เย็นจนรู้สึกเหมือนโดนแช่ เขายกเท้าขึ้นวางบนขอบเก้าอี้ตัวเล็กข้างโต๊ะทำงาน เสียงหัวเราะจากกลุ่มป้ายม่วงดังขึ้นจากการเกี่ยงกันว่าใครจะเป็นคนพิสูจน์กลิ่น หัวหน้าฝ่ายหันไปกวักมือเรียกป้ายแดงอีกคนให้เข้ามาใกล้ “ดมให้พี่หน่อยว่ายังมีเหงื่อแรงรึเปล่า”
ป้ายแดงรุ่นพี่คนนั้นขยับเข้ามา แต่ท่าทางชัดว่าฝืนใจ ไหล่เกร็ง ดวงตาหลบต่ำก่อนก้มหน้าลงใกล้ปลายเท้าพีท แทนที่จะเอาจมูกแตะ เขากลับหยุดแค่ระยะห่าง ๆ สูดลมหายใจแผ่วเหมือนกลัวกลิ่นจริงจะติดจมูก
เสียงฮือรอบวงดังขึ้นแทบพร้อมกัน “เอ้า ดมจริงดิ๊ ไม่ใช่ดมลม”
หัวหน้าป้ายม่วงหัวเราะหึ ก้าวเข้ามาด้านหลังป้ายแดงคนนั้น มือหนาแตะท้ายทอยแล้วกดหัวเขาลงแรงกว่าที่ใครทันตั้งตัว จมูกของเขาเลยปะทะเข้ากับเท้าเปลือยของพีทเต็ม ๆ
เสียงหัวเราะแตกขึ้นรอบห้อง เสียงมือถือที่ถ่ายคลิปอยู่ใกล้ชิดเก็บภาพชัดตั้งแต่ปลายนิ้วเท้าไปจนถึงใบหน้าของป้ายแดงที่โดนบังคับก้ม
“ดมให้เต็มปอดดิ๊ จะได้รู้ว่าถอดถุงเท้าแล้วกลิ่นมันแรงมั้ย ฮ่าๆ”
พีทขยับขาเล็กน้อยเพราะความรู้สึกแปลกๆ ที่จมูกอีกฝ่ายแนบกับสันเท้า ความร้อนของเหงื่อกับอากาศเย็นในห้องยิ่งทำให้กลิ่นชัดขึ้นกว่าเดิม
“ดมพอแล้วครับพี่ มันก็กลิ่นเท้าปกติ กลิ่นที่แรงๆ เหมือนมาจากตรงอื่นมากกว่า…” ป้ายแดงรุ่นพี่รีบตอบเพื่อให้ตัวเองจบเรื่องไป แต่มันกลับทิ้งประเด็นใหม่ให้กับพีท
เสียงฮือรอบวง “งั้น…ถอดกางเกงด้วย”
พีทชะงักไปครู่แต่ก็รู้ว่าปฏิเสธไม่ได้ มือที่เคยดึงถุงเท้าก็ล้วงปลดขอบเข็มขัด รูดกางเกงสแลคลงช้า ๆ กางเกงในสีซีดเผยแนวโคนขาหนีบที่เปียกเหงื่อชัดเจน
ผู้ติดตามหนึ่งคนก้มมอง ใบหน้าเลื่อนต่ำจนแนบชิดแนวสะโพก มือเย็นลูบโคนขาด้านใน พีทกลั้นหายใจเฮือกสุดท้าย
“ตรงนี้ว่ะ เหงื่อขาหนีบแรงจัด กลิ่นนี่แหละ”
เสียงหัวเราะแทรกในกลุ่มเหมือนม้วนฟิล์มหมุนกลับไปในหัวพีท เขายืนเปลือยช่วงล่าง มีแค่กางเกงในผ้าบางบังจุดอับ พยายามไม่ขยับหนีขณะที่มือผู้ติดตามยังลูบเช็กเนื้อแน่น แม้แต่ตอนที่มือนั้นดึงขอบกางเกงในเขาถ่างออก แล้วล้วงเข้าไปจับอวัยวะของเขาดึงขึ้นมาพ้นขอบกางเกงในแล้วปลิ้นหนังหุ้มออกจนเผยส่วนหัวอวบใหญ่สีชมพูต่อหน้าสายตาคนที่มุงดูอยู่
“มีคราบขาวตรงใต้หัวครับหัวหน้า” เมื่อได้ผลที่พอใจป้ายม่วงคนนั้นก็ยอมปล่อยมือจากกางเกงในของพีท
พีทละล่ำละลักอธิบาย ”สงสัยแป้งเด็กที่ผมทาครับ” แต่ไม่มีใครฟัง
หัวหน้าฝ่ายปรายตามองพีทซ้ำ รอยยิ้มบางที่ดูเหมือนไม่ใช่ยิ้มจริง “ถ้าล้างไม่ดี มันจะมีกลิ่น มีคราบหมักหมม กลายเป็นขี้เปียก หรือที่ภาษาแพทย์เขาเรียกว่า สแม็กมา รู้จักมั้ย?”
พีทส่ายหัวเบา ๆ ความหมายคือมันแค่แป้งเด็ก แต่เสียงซุบซิบรอบข้างเริ่มดังขึ้น มีใครสักคนหัวเราะเบา ๆ “อ้าว ไม่รู้จักหรอ ถึงว่า เดี๋ยวผมขอสอนเด็กมันด้วยนะพี่ จะได้ล้างกันถูก”
ป้ายม่วงคนนั้นกดเสิร์ชในมือถืออย่างรวดเร็วแล้วเงยหน้าขึ้นมาเล่าเสียงดัง “หมอบอกว่า สแม็กมา มันคือคราบไขมันปนเซลล์ผิวเก่า ถ้าล้างไม่ดีมันจะหมักใต้หนังหุ้มปลาย ทำให้เกิดกลิ่นแรง ติดกางเกงในติดผ้า ถ้าจะล้างต้องดึงหนังออกให้สุด ใช้น้ำอุ่นกับสบู่อ่อน ๆ ถูให้หมดทุกซอก พอเสร็จต้องเช็ดให้แห้ง ไม่งั้นอับชื้นอีก”
เสียงหัวหน้าเสริมทันควัน “ฟังไว้พีท ครั้งหน้าอย่าให้ใครเจอคราบ กลิ่น หรือขนคาไว้แบบนี้อีก เข้าใจ?”
พีทยืนก้มหน้า ป้ายแดงห้อยคอไหวเบา ๆ เหมือนปลอกคอหมาที่ทุกคนสลับกันออกคำสั่ง ใบหูร้อนจัดเมื่อได้ยินเสียงหัวเราะแทรกกับเสียงซุบซิบคำว่าขี้เปียกยังคงลอยวนรอบตัวพีทเหมือนกลิ่นซึ่งไม่มีอยู่จริงที่เขาล้างยังไงก็ยังไม่ออก
เสียงหัวหน้าพูดชัดแต่เรียบ เหมือนกำลังบอกข้อกำหนดสำนักงานธรรมดา
“จากนี้ไป…นายต้องดูแลความสะอาดร่างกายตัวเองให้ดีกว่านี้นะ อย่าให้มีกลิ่นรบกวนคนอื่น เข้าใจ?”
พีทพยักหน้าเล็ก ๆ เสียงตอบแห้งเหมือนลมหายใจติดฝุ่น “ครับ…”
“จัดการเลยดิ เช็ดตรงนี้เลย วันนี้จะได้ไม่ส่งกลิ่นรบกวนใครอีก”
พีทเบือนหน้าหนีมือที่ยื่นกระดาษเปียกซองเล็ก ๆ มาให้ เขาจับมันไว้แน่นก่อนขยับมือไปเช็ดอย่างอับอายใต้ไฟสว่างชัดของออฟฟิศ ใบหน้าแดงจัดเมื่อได้ยินเสียงคนข้างหลังวิจารณ์
พีทยกมือช้า ๆ เปิดซองกระดาษเปียก ใบหูร้อนจัดจนแทบไหม้ เขาเลื่อนนิ้วแตะขอบกางเกงในตรงโคนขาแล้วค่อย ๆ ดึงยืดออก เผยท่อนเนื้อเปลือยเปล่าลอดออกมาทางช่องเปิด รอยเปียกชื้นส่องสะท้อนเหมือนเหงื่อกำลังไหลออกมาใหม่ตรงนั้น
เสียงมือถือดังแชะใกล้มาก เสียงหัวเราะรอบวงดังกว่าเดิม “อู้หู ดูมันถู ดูมันล้าง”
“แรงอีกดิน้อง เช็ดเบามันจะหายเหม็นเหรอ”
มือพีทสั่นแต่ก็ฝืนกดกระดาษเปียกวนตามซอกหลืบของจุดซ่อนเร้น กลิ่นเฉพาะที่อบอยู่ใต้กางเกงตั้งแต่เช้าเริ่มฟุ้งออกมาปนกับกลิ่นน้ำยาฆ่าเชื้อในกระดาษ ต่อให้ไม่เหม็นอย่างที่โดนกล่าวหาแต่ก็คงไม่มีใครบอกว่าหอมอยู่ดี
“ปลิ้นออกมาทั้งหัวเลยดิ นั่นแหละ ฮ่าๆ”
เสียงคำสั่งลอยจากด้านหลัง พีทกัดฟันฝืนลูบต่อจนกระดาษชื้นแทบขาด แผ่นหลังเกร็งจนกล้ามเนื้อเด้งตามทุกครั้งที่มือกดแรงเกิน
เสียงสุดท้ายก่อนกลุ่มผู้ตรวจจะหัวเราะพร้อมกัน “ดีมาก โชว์ให้ดูไปเลยว่าถ้าหมักหมมกลิ่นไว้ ใครก็ช่วยไม่ได้ ฮ่าๆ”
เสียงหัวหน้าพูดชัดแต่เรียบ เหมือนกำลังบอกข้อกำหนดสำนักงานธรรมดา
“ฟังไว้พีท ครั้งหน้าอย่าให้ใครเจอคราบ กลิ่น หรือขนคาไว้แบบนี้อีก เข้าใจ?”
พีทยืนก้มหน้า ป้ายแดงห้อยคอไหวเบา ๆ เหมือนปลอกคอหมาที่ทุกคนสลับกันออกคำสั่ง ใบหูร้อนจัดเมื่อได้ยินเสียงหัวเราะแทรกกับคำพูด
เสียงหัวหน้าไล่ต่อ “ต่อไป HR จะเช็กด้วยนะ ใครจะเข้า 5ส รอบหน้า ถ้าใครมีกลิ่นหรือคราบไม่สะอาด ไม่ใช่แค่ตรวจโต๊ะ แต่ตรวจทั้งตัวอีกรอบ เข้าใจ?”
พีทก้มหน้า เสียงตอบสั้นเหมือนจะติดคอ “ครับ…”
หัวหน้าฝ่ายยิ้มบาง พยักหน้าให้ผู้ติดตามปิดแฟ้ม แล้วหันไปพูดลอย ๆ กับรุ่นพี่ป้ายม่วง
“จัดไฟล์นี้ไว้ในคู่มือ 5ส ด้วย จะได้สอนน้องใหม่ว่า สะสาง สะดวก สะอาด สุขลักษณะ สร้างนิสัย สำหรับป้ายแดง มันรวมถึงข้างในกางเกงด้วย”
เสียงหัวเราะเบา ๆ กระจายไปทั่วโต๊ะ พีทยืนนิ่ง หูร้อน ตัวสั่นเล็กน้อย ป้ายแดงบนคอยังคงแกว่งเหมือนย้ำว่าเขาคือใคร — และจะสะอาดหรือสกปรก กลายเป็นสิ่งที่ขึ้นอยู่คำตัดสินของคนอื่น
สนุกมากครับ ได้ควักควยมาเช็ดโชว์แบบนี้ ชอบเลยครับ เสียวมากครับ เสียวตามเลยครับ ฟินมากกก:lolตอนที่โดนสั่ง “ถอดถุงเท้าออกดิ จะได้เช็กเท้าด้วย” {:1_1:}{:1_1:}{:1_1:}{:1_1:}
ชอบมากๆๆๆ{:5_119:}
หน้า:
[1]