นายเพชร cop 03
เพชรสัมผัสได้ถึงแรงสั่นสะเทือนจากกายของอรุชาที่แอบซ่อนอยู่ แต่เขาก็ยังคงแกล้งทำเป็นไม่รู้ตัว ใบหน้าของเขายังคงเต็มไปด้วยความอิ่มเอมใจจากบทรักที่เพิ่งจบลงกับศรีนวล ศรีนวลเองก็ยังคงซบหน้าอยู่กับอกของเพชร ลมหายใจของเธอยังคงหอบถี่เล็กน้อย"เหนื่อยหรือไม่ศรีนวล?" เพชรถามเสียงนุ่ม พลางลูบไล้เรือนผมของเธออย่างอ่อนโยน
"ไม่เจ้าค่ะ... ข้ารู้สึกดีเหลือเกิน" ศรีนวลตอบเสียงแผ่ว ใบหน้าของเธอแดงก่ำด้วยความเขินอายแต่ก็เปื้อนรอยยิ้มแห่งความสุข
เพชรค่อย ๆ พยุงศรีนวลให้ลุกขึ้น เขานั่งลงข้าง ๆ เธอ จัดแจงเสื้อผ้าให้เรียบร้อย และช่วยเธอสางผมที่เปียกชื้นเล็กน้อย ศรีนวลมองเพชรด้วยความรักใคร่ เธอรู้สึกปลอดภัยและเป็นที่พึ่งอย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน
"เอาล่ะ เราไปกันเถอะ" เพชรกล่าว เขามองไปยังทิศทางที่อรุชาบอกว่าเจ้าหญิงซ่อนตัวอยู่ แววตาของเขาเปลี่ยนจากความหลงใหลในความสุขทางกาย มาเป็นความมุ่งมั่นและเปี่ยมด้วยแผนการ
ทั้งสองลุกขึ้นยืน จัดเสื้อผ้าให้เรียบร้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพชรเหลือบมองไปยังพุ่มไม้ที่อรุชาซ่อนตัวอยู่เป็นครั้งสุดท้าย ก่อนจะหันหลังเดินนำศรีนวลมุ่งหน้าเข้าสู่ป่าลึก โดยที่อรุชายังคงนอนนิ่งอยู่กับที่ ไม่กล้าแม้แต่จะขยับตัว หรือส่งเสียงใด ๆ ออกมา เธอได้แต่เฝ้ามองแผ่นหลังของเพชรกับศรีนวลที่ค่อย ๆ ห่างหายไปในหมู่ไม้ ความรู้สึกมากมายถาโถมเข้าใส่เธอ ทั้งความร้อนรุ่มที่ยังไม่จางหาย ความสับสนในจิตใจ และความปรารถนาอันรุนแรงที่ถูกปลุกให้ตื่นขึ้นมาอย่างคาดไม่ถึง
อรุชาทิ้งตัวลงนอนหอบหายใจอยู่ตรงนั้นอีกครู่ใหญ่ ก่อนจะรวบรวมสติและพยุงตัวเองลุกขึ้นยืน เธอใช้มือปาดคราบน้ำตาและน้ำรักที่เปื้อนเปรอะตามเรียวขา และพยายามจัดชุดนักรบให้เรียบร้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ ใบหน้าของเธอยังคงแดงก่ำ แต่แววตากลับมีความคิดบางอย่างที่ซ่อนเร้นอยู่
เพชรกับศรีนวลเดินลึกเข้าไปในป่าอีกพักใหญ่ ก่อนที่อรุชาจะตามมาสมทบด้วยท่าทีสงบ ราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น เธอไม่ได้พูดถึงเรื่องที่แอบเห็น และเพชรก็แกล้งทำเป็นไม่รู้เรื่องเช่นกัน
"ทางนี้เจ้าค่ะ" อรุชาเอ่ยเสียงเรียบ พลางชี้ไปทางปากถ้ำแห่งหนึ่งที่ถูกพรางไว้ด้วยเถาวัลย์และพุ่มไม้หนาแน่น
เพชรพยักหน้า ก่อนจะนำศรีนวลตามอรุชาเข้าไปในถ้ำ ภายในถ้ำนั้นมืดสลัวและชื้นแฉะ แต่เมื่อเดินลึกเข้าไปอีกเล็กน้อย พวกเขาก็พบกับกลุ่มคนประมาณสิบกว่าชีวิต ที่กำลังซ่อนตัวกันอย่างหวาดกลัว
และตรงกลางของกลุ่มนั้น มี สตรีสูงศักดิ์นางหนึ่งในชุดที่เคยเป็นอาภรณ์อย่างดี แต่ตอนนี้เต็มไปด้วยคราบสกปรกและขาดวิ่น กำลังนั่งอยู่กับพื้น ใบหน้าของเธองดงามหมดจด แม้จะซีดเซียวและอ่อนล้า แต่ดวงตาคู่นั้นยังคงแฝงไว้ซึ่งศักดิ์ศรีของเชื้อพระวงศ์
"ท่านหญิง!" ศรีนวลอุทานด้วยความดีใจ เธอรีบถลาเข้าไปกอดสตรีผู้นั้นทันที
สตรีผู้นั้นเงยหน้าขึ้นมองศรีนวลด้วยความประหลาดใจระคนดีใจ "ศรีนวล! เจ้าปลอดภัยดีหรือนี่! ข้าเป็นห่วงเจ้าแทบแย่"
จากนั้นท่านหญิงก็หันมามองเพชรด้วยความสงสัย อรุชารีบเข้ามาอธิบายอย่างรวดเร็ว "ท่านหญิงเพคะ นี่คือท่านเพชรเพคะ ท่านเป็นผู้ช่วยชีวิตหม่อมฉันไว้จากพวกพม่า เขาเก่งกาจยิ่งนักเพคะ และศรีนวลก็หนีมากับท่านเพชร"
เพชรย่อกายลงคำนับอย่างสุภาพ "กระหม่อมเพชร ขอถวายบังคมท่านหญิงพ่ะย่ะค่ะ"
ท่านหญิงมองสำรวจเพชรด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความระแวงและหวัง เพชรรู้ดีว่าการจะได้รับความไว้วางใจจากเชื้อพระวงศ์ในสถานการณ์เช่นนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย
อรุชาพยุงร่างท่านหญิงให้ลุกขึ้นเล็กน้อย ท่านหญิงมองสำรวจเพชรด้วยสายตาที่คมกริบแต่แฝงไว้ด้วยความอ่อนล้า
"ข้าคือเจ้าหญิงอุษา" ท่านหญิงกล่าวแนะนำตัวด้วยน้ำเสียงที่ทรงอำนาจแฝงความเหนื่อยอ่อน "เจ้ามีนามว่าเพชร... แล้วเจ้ามีสิ่งใดจะมาช่วยข้าในยามนี้เล่า? ข้าเห็นเจ้าดูแปลกไปจากบุรุษชาวสยามทั่วไป"
เพชรสัมผัสได้ถึงความไม่ไว้วางใจในแววตาของเจ้าหญิงอุษา รวมถึงสายตาหวาดระแวงของข้าหลวงและนางในคนอื่นๆ ที่จับจ้องมาที่เขา ศรีนวลเองก็มองเพชรอย่างให้กำลังใจอยู่ข้างๆ
"กระหม่อมทราบดีว่าสถานการณ์ในตอนนี้วิกฤตเพียงใดพ่ะย่ะค่ะท่านหญิง" เพชรกล่าวด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่นและจริงใจ "กรุงศรีฯ กำลังจะล่มสลายจริง แต่หากเรายอมแพ้ ทุกสิ่งก็จะจบสิ้นลง"
เขาชี้ไปยังปืนคาบศิลาและมีดพกขนาดสองคืบที่ได้มาจากทหารพม่าเมื่อครู่ "อาวุธเหล่านี้... แม้จะเป็นของศัตรู แต่ก็สามารถเป็นประโยชน์แก่เราได้" เพชรหยิบมีดพกขึ้นมา พลางใช้มีดพับอเนกประสงค์ของตนเอง สาธิตการลับคมมีดพม่าให้คมกริบยิ่งขึ้น อย่างรวดเร็วและแม่นยำ ทุกคนในถ้ำต่างมองด้วยความทึ่ง ไม่เคยเห็นผู้ใดสามารถลับคมมีดได้เร็วและคมขนาดนี้มาก่อน
"และนี่คือสิ่งประดิษฐ์ของกระหม่อมพ่ะย่ะค่ะ" เพชรหยิบที่จุดไฟแบบแท่งแมกนีเซียมออกมาอีกครั้ง เขาสาธิตการจุดไฟโดยใช้แท่งแมกนีเซียมขูดกับแท่งเหล็กเล็กๆ เพียงไม่กี่ครั้ง ประกายไฟก็พุ่งออกมาทันที ก่อให้เกิดไฟเล็กๆ ขึ้นอย่างง่ายดาย สร้างความประหลาดใจให้กับทุกคนในถ้ำ
"สิ่งเหล่านี้อาจดูเล็กน้อย" เพชรกล่าว "แต่ด้วยความรู้ที่กระหม่อมมี กระหม่อมสามารถประดิษฐ์อาวุธและกับดักที่เหนือกว่าพม่าได้หลายเท่าตัว กระหม่อมสามารถเปลี่ยนไม้ไผ่ธรรมดาให้เป็นหลาวที่แทงทะลุเกราะได้ เปลี่ยนก้อนหินให้เป็นระเบิดที่สร้างความสับสนวุ่นวาย และเปลี่ยนป่าแห่งนี้ให้กลายเป็นป้อมปราการที่ศัตรูไม่อาจล่วงล้ำเข้ามาได้"
เขาเว้นจังหวะเล็กน้อย ก่อนจะกล่าวต่อด้วยน้ำเสียงที่เปี่ยมด้วยความมุ่งมั่น "กระหม่อมไม่เพียงแต่จะปกป้องพวกท่านให้รอดชีวิต แต่จะนำพาพวกท่านไปสู่หนทางในการต่อสู้เพื่อทวงคืนบ้านเมืองของเราพ่ะย่ะค่ะ"
เจ้าหญิงอุษาจ้องมองเพชรอย่างพินิจพิจารณา ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยความสับสน แต่ในแววตาก็เริ่มฉายแววความหวังที่ไม่เคยมีมาก่อน อรุชาเองก็ยืนมองเพชรด้วยความชื่นชมระคนประหลาดใจในความสามารถที่เหนือมนุษย์ของเขา
"ฟังดูเหมือนความฝันลมๆ แล้งๆ นะบุรุษ" เจ้าหญิงอุษาเอ่ยเสียงเรียบ แต่ก็ไม่ได้ปฏิเสธทันที "เจ้าจะทำได้อย่างไร? กำลังของเราน้อยนัก มิหนำซ้ำยังเป็นสตรีและเด็กเสียส่วนใหญ่"
"กระหม่อมไม่ได้ต้องการเพียงแค่กำลังพลพ่ะย่ะค่ะ" เพชรตอบ "แต่กระหม่อมต้องการ ความร่วมมือและความเชื่อมั่น จากพวกท่าน"
เขาหันไปมองทุกคนในถ้ำ "พวกท่านทุกคนมีความสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นสตรีที่เก่งกาจในการใช้สมุนไพร หรือผู้ที่เคยทำงานในวังหลวงมีความรู้ด้านต่างๆ ทุกคนมีบทบาทที่จะช่วยให้เราฟื้นคืนชีพขึ้นมาได้อีกครั้ง"
เจ้าหญิงอุษานิ่งเงียบไปครู่หนึ่ง เธอพิจารณาคำพูดของเพชรอย่างถี่ถ้วน ก่อนจะถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ "ข้าไม่รู้ว่าเจ้าเป็นใคร มาจากที่ใด และมีวิชาใดกันแน่"
"แต่ในยามนี้... เราไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว" ท่านหญิงอุษากล่าวด้วยน้ำเสียงยอมรับชะตากรรม "หากเจ้าสามารถทำได้อย่างที่ปากว่าจริง... ข้า ยอมที่จะร่วมมือกับเจ้า แต่มีข้อแม้..."
ท่านหญิงอุษาสบตาเพชรอย่างแน่วแน่ "หนึ่ง... เจ้าต้องให้คำมั่นว่าจะปกป้องคุ้มครองผู้รอดชีวิตทุกคนในที่นี้อย่างสุดความสามารถ และสอง... ทุกแผนการที่เจ้าจะทำ จะต้องผ่านความเห็นชอบของข้า และข้าจะยังคงเป็นผู้นำของกลุ่มนี้"
เพชรยิ้มเล็กน้อย เขารู้ว่านี่เป็นเงื่อนไขที่จำเป็นสำหรับเจ้าหญิงที่จะรักษาศักดิ์ศรีและความเป็นผู้นำของเธอไว้ได้ และเขาก็ไม่ได้ต้องการแย่งชิงอำนาจ แต่ต้องการความร่วมมือ
"กระหม่อมรับปากพ่ะย่ะค่ะท่านหญิง" เพชรกล่าวด้วยน้ำเสียงหนักแน่น "ทุกชีวิตของพวกท่าน จะอยู่ภายใต้การดูแลของกระหม่อม และแผนการทุกอย่างจะถูกนำเสนอให้ท่านหญิงพิจารณา"
เจ้าหญิงอุษาพยักหน้าอย่างช้าๆ ใบหน้าของเธอคลายความกังวลลงเล็กน้อย อรุชาและข้าหลวงคนอื่นๆ ต่างถอนหายใจด้วยความโล่งอก การมีผู้นำที่เข้มแข็งอย่างเพชรและเจ้าหญิงอุษามารวมกัน ถือเป็นสัญญาณที่ดีสำหรับผู้รอดชีวิตเหล่านี้
หลังจากได้รับคำมั่นจากเจ้าหญิงอุษาแล้ว เพชรก็ไม่รอช้า เขาเห็นแสงแห่งความหวังที่ริบหรี่ แต่ก็มากพอที่จะจุดประกายให้กลุ่มผู้รอดชีวิตเหล่านี้
การฝึกฝนและการสร้างฐานที่มั่น
"เอาล่ะทุกคน!" เพชรกล่าวเสียงดังฟังชัดเมื่ออยู่ท่ามกลางกลุ่มผู้รอดชีวิตในถ้ำ "พวกเราจะไม่อยู่เฉยให้ชะตากรรมกำหนดอีกต่อไป"
เขาเริ่มด้วยการสอนหลักการพื้นฐานในการเอาชีวิตรอดและการป้องกันตัวให้กับทุกคน ไม่ว่าจะเป็นชาย หญิง หรือเด็ก แม้จะมีกำลังพลไม่มาก แต่เพชรก็เน้นย้ำถึง ความสำคัญของไหวพริบและภูมิประเทศ
"จำไว้ว่าป่าคือมิตรของเรา" เพชรสอน "เราจะใช้ป่าเป็นอาวุธ"
เขาเริ่มฝึกให้ทุกคน ใช้หลาวไม้ไผ่ ที่เขาเหลาคมกริบ ให้แทงได้อย่างแม่นยำและรุนแรง สอนวิธีการปัก กับดักหลุมพราง ที่ซ่อนเร้นอย่างแนบเนียน และสร้าง กับดักไม้ดีด ที่สามารถโจมตีศัตรูจากระยะไกลได้ เพชรยังใช้ทักษะจากมีดพับอเนกประสงค์ของเขาในการปรับปรุงธนูที่มีอยู่ ให้มีแรงดีดและแม่นยำยิ่งขึ้น รวมถึงการเหลาปลายลูกธนูให้แหลมคมกว่าเดิม
พร้อมกันนั้น เพชรก็เริ่มวางแผน สร้างฐานที่มั่นชั่วคราวให้แข็งแกร่งขึ้น โดยใช้ภูมิประเทศของถ้ำและพุ่มไม้โดยรอบเป็นปราการ เขาออกแบบระบบเตือนภัยแบบง่ายๆ ด้วยเชือกและกระดิ่งที่ทำจากไม้ไผ่ เพื่อให้รู้ทันการเคลื่อนไหวของศัตรู และสั่งให้รวบรวมเสบียง น้ำ และวัตถุดิบต่างๆ ที่หาได้ในป่า เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการอยู่รอดในระยะยาว
ไอ้สินและพรรคพวกที่กลับมาจากการลาดตระเวน ต่างก็ช่วยเพชรในเรื่องเหล่านี้ พวกเขาร่วมกันฝึกฝน และเมื่อเห็นผลลัพธ์ที่น่าทึ่งจากคำแนะนำของเพชร ความเชื่อมั่นก็เริ่มก่อตัวขึ้นในหมู่ผู้รอดชีวิตอย่างช้าๆ
หน่วยสอดแนมและข่าวกรองใหม่
เมื่อฐานที่มั่นเริ่มเป็นรูปเป็นร่าง เพชรก็เริ่มให้ความสำคัญกับการหาข่าวกรอง
"ท่านสิน" เพชรเรียก "ข้าต้องการให้ท่านนำนักรบที่เชี่ยวชาญการเคลื่อนไหวอย่างเงียบเชียบ ออกไปสอดแนมความเคลื่อนไหวของพวกพม่า และจงระวังภัยจากทุกทิศทาง"
ไอ้สินพยักหน้ารับ "พวกข้าจะระวังตัวขอรับท่านเพชร"
"และจงสังเกตสิ่งผิดปกติใดๆ ที่ไม่ใช่ทัพพม่าด้วย" เพชรกำชับ "บางทีอาจมีผู้รอดชีวิตกลุ่มอื่น หรือ... สิ่งแปลกปลอมอื่น ๆ ก็เป็นได้"
เพชรต้องการทราบสถานการณ์ที่แท้จริงรอบกรุงศรีฯ รวมถึงเส้นทางที่พม่าใช้ในการลำเลียงเสบียงและกำลังพล เพื่อใช้ในการวางแผนโจมตีแบบกองโจรในอนาคต
ระหว่างที่หน่วยสอดแนมของไอ้สินออกปฏิบัติการ และเพชรกำลังช่วยเจ้าหญิงอุษาดูแลเรื่องการจัดระเบียบในถ้ำ จู่ๆ เสียงสัญญาณเตือนภัยที่เพชรติดตั้งไว้ก็ดังขึ้น!
แก๊ง! แก๊ง! แก๊ง!
ทุกคนในถ้ำต่างพากันตกใจและเตรียมพร้อมรับมือ เพชรรีบคว้าอาวุธที่เตรียมไว้ แล้ววิ่งออกไปสำรวจพร้อมกับอรุชาและนักรบอีกสองสามคน
สิ่งที่พวกเขาเห็นทำให้ทุกคนต้องประหลาดใจ ไม่ใช่ทัพพม่า แต่เป็น ขบวนของทหารเขมรกลุ่มหนึ่ง ที่กำลังเคลื่อนที่ผ่านแนวป่า ทหารเขมรเหล่านี้แต่งกายด้วยเครื่องแบบที่ไม่คุ้นตา ใบหน้าเคร่งเครียด และที่น่าจับตาคือ ใจกลางขบวน มีราชรถขนาดเล็กคันหนึ่ง ซึ่งปกคลุมด้วยผ้าแพรอย่างดี และมีทหารเขมรคุ้มกันอย่างแน่นหนา
อรุชาหรี่ตาลง "ทหารเขมร... พวกมันมาทำอะไรแถวนี้?"
เพชรรู้สึกถึงลางไม่ดี เขานำทหารทั้งหมดหลบซ่อนตัวในพุ่มไม้และเฝ้าสังเกตการณ์อย่างเงียบเชียบ
"ช่วงนี้เขมรแข็งข้อเพราะเห็นอยุธยาอ่อนแอ" อรุชาพึมพำ "พวกมันคงคิดจะฉวยโอกาส... แต่มาทำอะไรกันตรงนี้?"
ขณะนั้นเอง เสียงพูดคุยของทหารเขมรก็ดังแว่วมาให้ได้ยิน
"นี่เป็นเส้นทางที่ใกล้ที่สุดที่จะนำองค์หญิงไปบรรณาการแก่พระเจ้าบุเรงนอง" ทหารเขมรนายหนึ่งกล่าวเสียงดัง "จงเร่งฝีเท้าเข้า! อย่าให้มีสิ่งใดมาขัดขวางได้!"
คำพูดนั้นทำให้เพชรถึงกับเบิกตากว้าง "องค์หญิง... บรรณาการบุเรงนอง!"
เพชรยังคงเฝ้าสังเกตการณ์อย่างถี่ถ้วน เขานับจำนวนทหารเขมรอย่างละเอียด ประเมินความแข็งแกร่งและเส้นทางการเคลื่อนที่ของพวกเขา ขบวนเขมรไม่ได้มีจำนวนมากนัก ประมาณยี่สิบกว่าคนเท่านั้น แต่วินัยในการเดินทัพดูแข็งแกร่ง
หลังจากรวบรวมข้อมูลได้คร่าวๆ แล้ว เพชรก็รีบย้อนกลับไปที่ถ้ำอย่างรวดเร็ว เพื่อรายงานสถานการณ์ให้เจ้าหญิงอุษาและไอ้สินทราบ
"ท่านหญิง! ไอ้สิน!" เพชรเรียกด้วยน้ำเสียงจริงจัง เมื่อทุกคนมารวมกัน เขาก็เริ่มเล่าถึงสิ่งที่เห็นอย่างละเอียด "ข้าพบขบวนทหารเขมร พวกมันกำลังนำองค์หญิงไปบรรณาการให้บุเรงนองพ่ะย่ะค่ะ"
เจ้าหญิงอุษาและไอ้สินต่างมองหน้ากันด้วยความประหลาดใจระคนไม่สบายใจ
"เขมรนี่มันฉวยโอกาสยิ่งนัก!" ไอ้สินสบถ "แล้วเราจะทำอย่างไรขอรับท่านเพชร?"
เพชรหันไปมองเจ้าหญิงอุษา "ท่านหญิงพ่ะย่ะค่ะ หากเราปล่อยให้องค์หญิงเขมรผู้นี้ไปถึงบุเรงนองได้ อาจเป็นภัยใหญ่หลวงในภายหน้า พม่าจะได้กำลังจากเขมรเพิ่มขึ้น"
เจ้าหญิงอุษานิ่งคิดอยู่ครู่หนึ่ง "แต่เราจะทำอย่างไร? กำลังของเรายังน้อยนัก"
"กระหม่อมคิดว่านี่คือโอกาสพ่ะย่ะค่ะ" เพชรเสนอ "เราจะเข้าโจมตีขบวนทหารเขมรนี้! ชิงตัวองค์หญิงเขมรมาเป็นตัวประกัน หรืออย่างน้อยก็เพื่อขัดขวางไม่ให้เธอไปถึงบุเรงนองได้ หากทำสำเร็จ เราอาจได้กำลังคนเพิ่ม หรือได้ข้อมูลสำคัญจากองค์หญิงเขมรผู้นั้น และยังเป็นการแสดงแสนยานุภาพของเราให้พม่าและเขมรเห็นว่า แม้กรุงศรีฯ จะอ่อนแอ แต่ก็ยังมีผู้ที่พร้อมจะต่อสู้!"
ทุกคนมองเพชรด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความหวาดหวั่นและตื่นเต้นในเวลาเดียวกัน การโจมตีขบวนทหารเขมรที่จัดทัพมาอย่างดีไม่ใช่เรื่องง่าย แต่คำพูดของเพชรก็ปลุกเร้าจิตใจให้ฮึกเหิมขึ้นมา
การตัดสินใจอันห้าวหาญของเพชรถูกเปิดเผยแล้ว
หลังจากฟังคำอธิบายของเพชร เจ้าหญิงอุษาก็ยังคงนิ่งเงียบ แววตาเต็มไปด้วยความกังวล ส่วนไอ้สินและนักรบคนอื่นๆ ก็แสดงท่าทีลังเลอย่างเห็นได้ชัด
"ท่านเพชร" เจ้าหญิงอุษาเอ่ยขึ้น "ข้าเข้าใจในความมุ่งมั่นของท่าน แต่การเข้าโจมตีทัพเขมรนั้นเสี่ยงเกินไป กำลังของเรายังน้อยนัก และเราไม่รู้ภูมิประเทศข้างหน้าดีพอ"
"ใช่ขอรับท่านเพชร" ไอ้สินเสริม "พวกเขมรคงเตรียมพร้อมรับมือกับการเดินทาง หากเราผลีผลามไปอาจเสียท่าได้ง่ายๆ"
เพชรรู้ดีว่าการโน้มน้าวให้คนเหล่านี้ที่เพิ่งผ่านความบอบช้ำมาอย่างหนักให้ลุกขึ้นสู้เป็นเรื่องยาก แต่เขาก็มีแผนอยู่ในใจ
"กระหม่อมเข้าใจถึงความกังวลของทุกท่านพ่ะย่ะค่ะ" เพชรกล่าวด้วยน้ำเสียงที่นุ่มนวล แต่แฝงไว้ด้วยความมั่นใจ "แต่เราไม่ได้จะบุกโจมตีอย่างเปิดเผย สิ่งที่เราจะทำคือ การใช้กลยุทธ์กองโจร และการสร้างความได้เปรียบจากสิ่งที่ศัตรูไม่คาดคิด"
เขาหันไปมองอรุชาที่ยืนอยู่ใกล้ๆ "ท่านอรุชา" เพชรเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงที่ทำให้เธอรู้สึกแปลกๆ "ข้าอยากจะขอให้ท่านช่วยบางอย่าง"
อรุชาเลิกคิ้วเล็กน้อย "สิ่งใดหรือเจ้าคะท่านเพชร?"
"ข้าต้องการให้ท่านไปช่วย หาพืชบางชนิดในป่า พืชเหล่านี้มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อแผนการของเรา และต้องการความเชี่ยวชาญในการแยกแยะจากท่าน" เพชรกล่าวพลางส่งยิ้มบางๆ ให้กับอรุชา ใบหน้าของอรุชาฉายแววประหลาดใจระคนสงสัยเล็กน้อย แต่ด้วยความที่เธอเป็นนักรบและต้องการช่วยเหลือ ทำให้เธอรับปาก
"ได้เจ้าค่ะ ท่านเพชร" อรุชาตอบ "ข้าจะไปกับท่าน"
เพชรพยักหน้า ก่อนจะหันไปหาเจ้าหญิงอุษาและไอ้สินอีกครั้ง
"ส่วนแผนการโจมตีขบวนเขมรนั้น" เพชรกล่าวต่อ "กระหม่อมจะอธิบายให้ละเอียดหลังจากที่เราได้พืชเหล่านั้นแล้ว ขอเวลาให้กระหม่อมได้เตรียมการเล็กน้อย ขอให้ทุกท่านเชื่อมั่นในตัวกระหม่อม และเตรียมพร้อมไว้เสมอ"
เจ้าหญิงอุษากับไอ้สินมองหน้ากันอีกครั้ง แม้จะยังไม่คลายความกังวลทั้งหมด แต่ท่าทีที่มั่นใจของเพชรก็ทำให้พวกเขาต้องคล้อยตาม
"ก็ได้... ข้าจะรอฟังแผนการของเจ้า" เจ้าหญิงอุษาเอ่ย
เพชรเดินนำอรุชาเข้าสู่ป่าลึก ห่างจากถ้ำที่พักพอสมควร อรุชาเดินตามเขาไปอย่างเงียบๆ คอยสังเกตพืชพรรณรอบตัวตามคำบอกเล่าของเพชร แต่ในใจก็อดสงสัยไม่ได้ว่าทำไมเพชรถึงเลือกเธอให้มาช่วยหาพืชเหล่านี้เป็นการส่วนตัว
"พืชข้าต้องการนั้น มันมีลักษณะพิเศษท่านอรุชา" เพชรอธิบายไปพลางชี้ให้เธอดูต้นไม้ใบหญ้าต่างๆ "มันจะต้องมีลำต้นที่เหนียวแน่น แต่มีใบที่ให้กลิ่นฉุนเมื่อถูกบดขยี้"
แท้จริงแล้ว พืชเหล่านั้นเป็นเพียงข้ออ้าง เป้าหมายที่แท้จริงของเพชรคืออรุชาต่างหาก เขารับรู้ถึงแรงปรารถนาที่ซ่อนอยู่ในตัวอรุชาตั้งแต่เมื่อครั้งที่เธอแอบมองบทรักของเขากับศรีนวล และเพชรตั้งใจที่จะปลุกเร้ามันให้ปะทุขึ้นมาอย่างเต็มที่
เพชรเดินลึกเข้าไปในป่า จนกระทั่งมาถึงบริเวณที่ค่อนข้างลับตาคน มีธารน้ำเล็กๆ ไหลเอื่อยๆ และมีพุ่มไม้หนาทึบเหมาะแก่การซ่อนเร้น
"อ่า... พืชชนิดนี้อยู่แถวนี้แหละ" เพชรแกล้งทำเป็นมองหา ก่อนจะค่อยๆ หันกลับมาเผชิญหน้ากับอรุชา
อรุชามองเพชรด้วยความงุนงง "แต่ข้าไม่เห็นมีอะไรผิดปกติเลยนะเจ้าคะ"
ในจังหวะนั้นเอง เพชรก็ชิงจังหวะคว้ามือของอรุชาเข้ามาหาอย่างรวดเร็ว ดวงตาของเขาทอประกายแห่งความปรารถนาที่ซ่อนเร้น อรุชาถึงกับสะดุ้งด้วยความตกใจ ใบหน้าของเธอแดงก่ำขึ้นมาทันที
"ท่าน... ท่านเพชร!?" อรุชาอุทาน
เพชรไม่ตอบ เขาดึงอรุชาเข้าหาตัวอย่างอ่อนโยนแต่หนักแน่น ก่อนจะก้มลงจุมพิตริมฝีปากของเธออย่างดูดดื่ม อรุชาพยายามขัดขืนอยู่ครู่หนึ่ง แต่ความรู้สึกเร่าร้อนที่ถูกปลุกเร้าขึ้นมาตั้งแต่เมื่อครั้งแอบดูเพชและศรีนวลเย็ดกัน ยังคงวนเวียนอยู่ในหัวก็ทำให้ร่างกายของเธออ่อนระทวยลง และตอบรับจุมพิตของเขาอย่างเงอะงะ
เพชรถอนจูบออกช้าๆ มองใบหน้าของอรุชาที่เต็มไปด้วยความสับสน แต่ก็แฝงด้วยความปรารถนาที่ไม่อาจปฏิเสธได้
"ท่านอรุชา" เพชรกระซิบเสียงพร่า "ท่านรู้ดีว่าเกิดอะไรขึ้นกับท่านที่ลำธารระหว่างที่ข้ากับศรีนวลเย็ดกัน ท่านไม่จำเป็นต้องโกหกตัวเอง"
อรุชาหลบสายตา เธอรู้สึกอับอายอย่างที่สุด แต่ก็ไม่อาจปฏิเสธสิ่งที่เพชรพูดได้ หัวใจของเธอเต้นระรัวราวกับจะหลุดออกมาจากอก
เพชรยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ เขารู้ว่าอรุชาได้ตกหลุมพรางที่เขาวางไว้แล้ว
เพชรจุมพิตริมฝีปากของอรุชาอย่างอ่อนโยนแต่ลุ่มลึก อรุชาที่เคยเป็นนักรบผู้กล้าหาญ บัดนี้กลับอ่อนปวกเปียกในอ้อมกอดของเขา ลมหายใจของเธอเริ่มหอบถี่ขึ้นเรื่อย ๆ ร่างกายที่เคยแข็งแกร่งกำลังสั่นระริกด้วยความรู้สึกที่ไม่คุ้นเคย
"ท่านอรุชา" เพชรกระซิบเสียงพร่ารดใบหูของเธอ "ท่านไม่ต้องอาย... ความปรารถนาเป็นเรื่องธรรมชาติของมนุษย์ทุกคน"
เขามองลึกลงไปในดวงตาคมเข้มของเธอที่เต็มไปด้วยความสับสนและความต้องการที่ถูกปลุกให้ตื่นขึ้น เพชรใช้นิ้วเกลี่ยเส้นผมที่ปรกหน้าของอรุชาออกอย่างอ่อนโยน ก่อนจะค่อยๆ โน้มใบหน้าลง จูบไล่ตั้งแต่หน้าผาก ลงมาที่เปลือกตา แก้ม และหยุดลงที่ริมฝีปากของเธออีกครั้ง จูบนี้เนิ่นนานและลึกซึ้งกว่าเดิม ลิ้นร้อนของเพชรแทรกเข้าไปในโพรงปากของอรุชา ชักนำให้เธอตอบรับอย่างไม่ประสีประสา
อรุชาหลับตาพริ้ม สติของเธอพร่าเลือนไปกับสัมผัสอันเร่าร้อนที่ถาโถมเข้าใส่ เธอรู้สึกราวกับร่างกายกำลังลุกเป็นไฟ ความปรารถนาที่ซ่อนลึกมาทั้งชีวิตกำลังปะทุขึ้นอย่างรุนแรงจนไม่อาจต้านทานได้ อรุชาโอบแขนรอบคอเพชรอย่างสัญชาตญาณ ตอบรับจูบของเขาอย่างร้อนแรงตามประสาคนที่เพิ่งลิ้มรสความหอมหวานของกามารมณ์
เพชรผละจูบออกช้า ๆ ดวงตาของเขาทอประกายแห่งความพึงพอใจเมื่อเห็นว่าอรุชาเริ่มคล้อยตามแล้ว
"ตามข้ามาเถิดอรุชา" เพชรเอ่ยเสียงกระซิบ เขาจับมือของเธอไว้และเดินนำเข้าไปในพุ่มไม้ที่หนาทึบยิ่งกว่าเดิม ห่างไกลจากสายตาของผู้คน และลับตาจากโลกภายนอก
อรุชาเดินตามเพชรไปอย่างว่าง่าย ร่างกายของเธอยังคงร้อนผ่าวและสั่นสะท้านไปทั้งตัว เมื่อมาถึงมุมที่เงียบสงบและมิดชิด เพชรก็หันกลับมาเผชิญหน้ากับเธออีกครั้ง
"ท่าน... ท่านจะทำสิ่งใดเจ้าคะ" อรุชาถามเสียงแผ่ว ใบหน้าแดงก่ำไปถึงใบหู
เพชรยิ้มอย่างอบอุ่น เขาใช้มือลูบไล้ไปตามใบหน้าของอรุชาอย่างแผ่วเบา "ข้าจะมอบสิ่งที่ท่านปรารถนา... สิ่งที่ท่านไม่เคยรู้ว่าท่านต้องการมันมากเพียงใด"
เขาก้มลงจูบอรุชาอีกครั้ง จูบนี้เต็มไปด้วยความอ่อนโยนแต่แฝงไว้ซึ่งความเร่าร้อนที่รอวันปลดปล่อย มือของเพชรเริ่มปลดเครื่องแต่งกายของอรุชาออกอย่างช้าๆ ทีละชิ้น อรุชาพยายามจะห้ามปราม แต่ร่างกายของเธอกลับไร้เรี่ยวแรงที่จะขัดขืน ความรู้สึกต้องการที่พุ่งพล่านอยู่ภายในทำให้เธอปล่อยเลยตามเลย
เมื่อเครื่องแต่งกายหลุดร่วงไปกองกับพื้น เผยให้เห็นเรือนร่างของอรุชาที่งดงามสมส่วนตามแบบฉบับนักรบ เพชรมองสำรวจด้วยสายตาชื่นชม อรุชารู้สึกเขินอายอย่างที่สุด เธอหลบสายตาและพยายามใช้มือปิดบังหน้าอก แต่เพชรก็จับมือเธอออกอย่างแผ่วเบา
"ท่านงดงามยิ่งนักอรุชา" เพชรกล่าว ก่อนจะก้มลงจูบซับตามซอกคอ ไหล่ และเนินอกของเธอ สัมผัสที่เร่าร้อนของเพชรทำให้กายของอรุชาสั่นสะท้าน เธอหลับตาแน่น กัดริมฝีปากเพื่อกลั้นเสียงครางที่กำลังจะเล็ดลอดออกมา
เพชรค่อยๆ พยุงร่างของอรุชาให้นอนลงบนพื้นหญ้าที่นุ่มนวล โดยมีพุ่มไม้สูงช่วยบดบังสายตาจากภายนอก เขาโน้มตัวลงทาบทับร่างของเธอ สัมผัสผิวกายที่อบอุ่นและเนียนนุ่มของอรุชา มือของเขาเริ่มลูบไล้ไปทั่วเรือนร่างของเธออย่างเชื่องช้า สำรวจทุกส่วนโค้งเว้าของนักรบสาวผู้ไม่เคยต้องมนต์เสน่หาของผู้ใดมาก่อน
อรุชาสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ความรู้สึกแปลกใหม่ที่เพชรมอบให้มันช่างหอมหวานและเร่าร้อนเกินกว่าที่เธอจะจินตนาการได้ เธอตอบรับสัมผัสของเขาด้วยสัญชาตญาณ ปล่อยให้ความปรารถนาอันรุนแรงนำพาไปสู่ห้วงแห่งความสุขสมที่ไม่เคยรู้จักมาก่อน
เพชรก้มลงจูบซับตามซอกคอ ไหล่ และเนินอกของอรุชา สัมผัสที่เร่าร้อนของเพชรทำให้กายของอรุชาสั่นสะท้าน เธอหลับตาแน่น กัดริมฝีปากเพื่อกลั้นเสียงครางที่กำลังจะเล็ดลอดออกมา เพชรค่อยๆ เลื่อนใบหน้าลงต่ำ สัมผัสปลายจมูกเข้ากับเนินอกที่กระเพื่อมขึ้นลงตามจังหวะหายใจของอรุชา ก่อนจะดูดเม้มยอดอกสีชมพูระเรื่ออย่างอ่อนโยนแต่เร่าร้อน อรุชาแอ่นอกขึ้นรับสัมผัส มือของเธอจิกเกร็งไปบนแผ่นหลังของเพชรด้วยความเสียวซ่าน
จากนั้น เพชรก็เลื่อนริมฝีปากลงต่ำไปอีก เขาค่อยๆ เลียไล้ไปตามหน้าท้องแบนราบที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามเนื้อจากการฝึกฝน ก่อนจะหยุดลงที่เนินสามเหลี่ยมด้านล่าง กลิ่นกายสาวบริสุทธิ์ผสมกับกลิ่นอายดินและป่าไม้ ทำให้เพชรยิ่งรู้สึกเร่าร้อน
เพชรใช้ปลายลิ้นแตะลงบนกลีบกุหลาบของอรุชาอย่างแผ่วเบา อรุชาถึงกับสะดุ้งเฮือก ร่างกายเกร็งกระตุกด้วยความตกใจระคนเสียวซ่าน เธอไม่เคยมีประสบการณ์เช่นนี้มาก่อนในชีวิต และความรู้สึกใหม่นี้ก็ทำให้เธอสับสนและปรารถนาอย่างรุนแรง
เพชรเริ่มไล้เลียกลีบกุหลาบอย่างช้าๆ ดูดเม้มกลีบและแคมอ่อนนุ่มอย่างดูดดื่ม ลิ้นของเขาไล้ไปตามรูร่องที่หอมหวาน สลับกับการใช้ปลายลิ้นดุนดุนไปที่เม็ดแตดเล็กๆ อย่างแผ่วเบา อรุชาเริ่มครางออกมาเสียงแผ่วๆ เธอแอ่นสะโพกขึ้นรับสัมผัสของเพชรอย่างไม่รู้ตัว มือของเธอกำเข้าหากันแน่น พยายามกลั้นเสียงครางที่ดังระงมอยู่ในลำคอ
เพชรเร่งจังหวะการเลียให้เร็วและรุนแรงขึ้น ลิ้นร้อนของเขาสอดแทรกเข้าไปในร่องหี ดูดดื่มน้ำหวานฉ่ำที่เริ่มเอ่อล้นออกมา และใช้ปลายลิ้นดุนดุนเม็ดกระสันอย่างไม่หยุดยั้ง ความเสียวซ่านที่พุ่งพล่านจากจุดเล็กๆ นั้น ทำให้ร่างกายของอรุชาบิดเร้าไปมาอย่างควบคุมไม่ได้
"อ๊า... ท่านเพชร... อ๊าาาา" อรุชาครางออกมาด้วยความทรมานระคนสุขสม เธอไม่สามารถกลั้นเสียงครางของตัวเองได้อีกต่อไป ร่างกายของเธอเกร็งกระตุกอย่างรุนแรง
เพชรผละใบหน้าออกมาเล็กน้อย เลื่อนขึ้นไปจูบที่ต้นขาด้านในของอรุชา ก่อนจะเลียไล้ขึ้นไปจนถึงบั้นท้ายกลมกลึง เขาใช้ลิ้นเลียไปตามร่องก้นอย่างช้าๆ และดูดเม้มช่องทางรักด้านหลังอย่างแผ่วเบา ขณะที่นิ้วแข็งแรงค่อยๆสอดเข้ารูหีที่คับแน่นขยับเข้าออกช้าๆ อรุชาถึงกับสะดุ้งเฮือกอีกครั้ง เธอไม่เคยคิดว่าร่างกายของเธอจะมีความรู้สึกตอบสนองต่อสัมผัสเช่นนี้ได้
และในขณะที่เพชรกำลังดูดเม้มช่องทางรักด้านหลังอย่างดูดดื่มนั้นเอง ร่างกายของอรุชาก็แข็งทื่อ ความรู้สึกเสียวซ่านที่รุนแรงเกินกว่าจะรับไหว พุ่งพล่านจากทุกจุดที่เพชรสัมผัสทั้งนิ้วที่สอดเข้าออกรูหีและลิ้นที่เหมือนมีชีวิตไล้เลียเข้าร่องก้น เธอเกร็งกระตุกไปทั้งร่าง ครางเสียงดังลั่นก่อนที่ห้วงน้ำรักจะพุ่งทะลักออกมาจากช่องทางเบื้องล่างอย่างไม่อาจควบคุมได้ อรุชานอนหอบหายใจด้วยความเหนื่อยล้า แต่ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยความสุขสมและอิ่มเอมอย่างที่สุด ดวงตาที่ปรือปรอยจ้องมองเพชรด้วยแววตาที่ผสมผสานทั้งความอาย ความปรารถนา และความรู้สึกที่ลึกซึ้งเกินกว่าจะอธิบายได้
เพชรผละออกมาจากอรุชา เขามองเธอด้วยรอยยิ้มที่อ่อนโยน แววตาของเขาทอประกายแห่งความพอใจที่ได้ปลุกเร้าความปรารถนาที่แท้จริงในตัวนักรบสาวผู้นี้ให้ตื่นขึ้น
อรุชานอนหอบหายใจด้วยความสุขสมปนสับสน เพชรมองเธอด้วยรอยยิ้มที่อ่อนโยน แววตาของเขาทอประกายความพึงพอใจที่ได้ปลุกเร้าความปรารถนาที่แท้จริงในตัวนักรบสาวผู้นี้ให้ตื่นขึ้น
เพชรจับท่อนควยของตนเองที่ยังคงแข็งขืนและเปียกชื้นเล็กน้อยมาวางบนหน้าท้องแบนราบของอรุชา อรุชาเบิกตากว้างเล็กน้อยมองควยขนาดใหญ่และยาว 7x9นิ้วที่อยู่ตรงหน้าด้วยความประหลาดใจระคนอยากรู้อยากเห็น
"ลองจับมันดูสิอรุชา" เพชรเอ่ยเสียงกระซิบ มือของเขาจับมือของอรุชามาประคองท่อนควยของตนเองไว้ช้าๆ "นี่คือสิ่งที่ทำให้เจ้าสุขสม... และมันจะทำให้เจ้าสุขสมได้มากกว่านี้อีก"
อรุชากำรอบท่อนควยนั้นอย่างเก้ๆ กังๆ สัมผัสถึงความร้อนและแข็งของมัน เธอยังไม่คุ้นชิน แต่เพชรก็ค่อยๆ สอนให้เธอ รูดขึ้นรูดลง อย่างช้าๆ สอนให้เธอรู้จักจังหวะและน้ำหนักในการกระทำ อรุชาเริ่มเรียนรู้ เธอรูดมันขึ้นลงอย่างแผ่วเบา สลับกับการใช้ปลายนิ้วคลึงไปตามลำควย
"ลองเลียดูสิอรุชา" เพชรเอ่ยชวน "มันมีรสชาติที่หอมหวานยิ่งนัก"
อรุชาลังเลอยู่ครู่หนึ่ง แต่ความอยากรู้อยากเห็นและความปรารถนาที่พลุ่งพล่านก็เอาชนะความเขินอายไปได้ เธอค่อยๆ โน้มใบหน้าลง ใช้ปลายลิ้นแตะลงบนหัวควย ที่ยังคงชุ่มฉ่ำด้วยน้ำรักของเพชร อรุชาเบิกตากว้างเล็กน้อยเมื่อลิ้นได้สัมผัสกับรสชาติที่แปลกใหม่ แต่กลับรู้สึกดีอย่างประหลาด
เพชรค่อยๆ สอนให้เธอดูดและเลียหัวควยนั้นอย่างช้าๆ สอนให้เธอใช้ริมฝีปากและลิ้นดูดดึงและเลียไล้ไปตามส่วนหัวของอวัยวะเพศนั้น อรุชาเริ่มทำได้ดีขึ้นเรื่อยๆ เธอใช้ปากค่อยๆครอบหัวควย ดูดเม้มเบาๆ สลับกับการใช้ลิ้นเลียไปรอบๆ หัวควย และขยับปากขึ้นลงอย่างช้าๆ
พลางนึกไปถึงภาพที่ศรีนวลเคยดูดควยให้เพชรตอนที่เธอเคยแอบดู อรุชาเริ่มเข้าใจแล้วว่าทำไมศรีนวลถึงทำได้ดีเช่นนั้น และทำไมศรีนวลถึงดูมีความสุขกับมันมากเพียงนั้น รสชาติมันดีเช่นนี้เอง และความสุขมันเป็นแบบนี้เองหรือนี่! อรุชากลายเป็นคนเสพติดรสสัมผัสที่ได้รับอย่างรวดเร็ว เธอเร่งจังหวะในการดูดดึงและเลียให้เร็วและรุนแรงขึ้นกว่าเดิม ไม่ใช่แค่ส่วนหัวควย แต่ปากของเธอก็กวาดลงไป ดูดดื่มลำควยใหญ่ 9นิ้วของเพชร และเล่นกับถุงอัณฑะอย่างหลงไหล มืออีกข้างของเธอก็กำรอบโคนควย รูดขึ้นรูดลงไปพร้อมกัน
ในขณะที่อรุชากำลังดูดดื่มท่อนควยของเขาอย่างเมามันนั้น เพชรก็ พลิกตัวกลับลงไปเลียหีของอรุชา ที่ยังคงฉ่ำแฉะอยู่ด้านล่าง ลิ้นร้อนของเขาไล้เลียไปตามกลีบกุหลาบ ดูดเม้มเม็ดแตดอย่างดูดดื่ม สลับกับการสอดลิ้นเข้าไปในช่องทางรักอย่างไม่หยุดยั้ง และในขณะเดียวกัน มืออีกข้างของเขาก็ขยำเคล้นหน้าอกของอรุชา ที่ชูชันอย่างเต็มที่
ความสุขสมจากสัมผัสที่รุนแรงและเร่าร้อนจากทั้งสองทาง ทำให้ร่างกายของอรุชาเกร็งกระตุกไปทั้งร่าง เธอไม่สามารถควบคุมเสียงครางของตัวเองได้อีกต่อไป เสียงครางดังระงมไปทั่วพงไพร
เพชรยังคงดูดดื่มเลียหีของอรุชาไม่หยุด เขาเร่งจังหวะการเลียให้เร็วและรุนแรงขึ้นอีก เพื่อพาอรุชาไปถึงจุดสูงสุดอีกครั้ง อรุชาครางออกมาอย่างรุนแรง เธอแอ่นสะโพกขึ้นรับสัมผัส มือของเธอจิกเกร็งไปบนพื้นดินด้วยความเสียวซ่านที่ท่วมท้น
และเพียงไม่นานนัก ร่างกายของอรุชาก็เกร็งกระตุกอย่างรุนแรงอีกครั้ง น้ำรักสีใสพุ่งทะลักออกมาจากช่องทางเบื้องล่างอย่างไม่อาจควบคุมได้ อรุชานอนหอบหายใจด้วยความเหนื่อยล้า แต่ในดวงตาที่ปรือปรอยนั้นเต็มไปด้วยความสุขสมและอิ่มเอมอย่างที่สุด เธอได้ค้นพบโลกใบใหม่แห่งความปรารถนาที่เพชรมอบให้
เพชรผละใบหน้าออกจากอรุชา เขามองเธอด้วยรอยยิ้มที่อ่อนโยน อรุชายังคงหอบหายใจและมองเพชรด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความรู้สึกที่หลากหลาย เพชรค่อยๆ ประคองร่างของอรุชาขึ้นมาครึ่งตัว แล้วเขาก็ค่อยๆ ขยับตัวอยู่ระหว่างขาของเธอจับสองสาเรียวดันโย้ไปข้างหน้าเขาใช้ท่อนควยที่ยังคงแข็งขืน ถูไถไปตามกลีบแคมและร่องหีของอรุชาอย่างอ่อนโยน พยายามจะแทรกส่วนหัวเข้าไปในช่องทางรักอย่างช้าๆ
อรุชาสะดุ้งเฮือกอีกครั้ง ความรู้สึกอุ่นร้อนและแข็งขืนของท่อนควยที่สัมผัสกับร่องหีของเธอทำให้ร่างกายของเธอเกร็งขึ้นมาทันที
เพชรรู้ดีว่าอรุชายังไม่เคยผ่านการร่วมรักมาก่อน ความคับแน่นที่สัมผัสได้นั้นบ่งบอกชัดเจนว่าเธอยังบริสุทธิ์ เขาจึงยิ่งต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ
เขาค่อยๆ ถูไถหัวควยไปตามร่องหีของอรุชา สลับกับการใช้ปลายนิ้วเกลี่ยไปที่ เม็ดแตด และ ร่องก้น ของเธอ เพื่อให้ร่างกายของอรุชาผ่อนคลายและน้ำรักไหลออกมามากขึ้น น้ำรักที่เอ่อล้นออกมาทำให้บริเวณนั้นเปียกเยิ้มไปหมด แต่แม้จะเปียกชุ่มเพียงใด การจะสอดใส่เข้าไปก็ยังคงเป็นเรื่องยาก
เพชรพยายามดันหัวควยเข้าไปอีกครั้งอย่างช้าๆ แต่ก็ยังคงเจอความคับแน่นแบบขั้นสุด หัวควยของเขาเข้าได้เพียงแค่ปลายเท่านั้น อรุชาครางออกมาด้วยความเจ็บปวดระคนเสียวซ่าน เธอจิกเล็บลงบนต้นขาของเพชรอย่างไม่รู้ตัว
"อย่าเกร็งนะอรุชา" เพชรกระซิบเสียงนุ่ม พลางจูบซับที่หน้าผากของเธอ "ผ่อนคลาย... แล้วมันจะดีเอง"
เพชรให้อรุชาใช้ปลายนิ้วแบะแคมหี ของตนเองให้แหกออก เพื่อให้ช่องทางเปิดกว้างขึ้นเล็กน้อย อรุชาทำตามอย่างว่าง่าย ทั้งที่ยังรู้สึกอายอย่างที่สุด
เพชรพยายามดันหัวควยเข้าไปอีกครั้งอย่างช้าๆ แต่ก็ยังคงติดอยู่ที่ความคับแน่น ความบริสุทธิ์ของอรุชานั้นแน่นหนาเกินกว่าที่เขาจะสอดใส่เข้าไปได้ง่ายๆ เพชรรู้ดีว่าเขาต้องใช้ความอ่อนโยนและเวลามากกว่านี้ หากไม่ต้องการทำให้อรุชาเจ็บปวดจนเสียความรู้สึก
เพื่อช่วยให้อรุชาผ่อนคลายและเตรียมพร้อมสำหรับการสอดใส่ เพชรค่อยๆ กระเด้าสั้นๆ ถี่ๆ โดยยังคงให้ปลายหัวควยเสียดสีอยู่บริเวณปากช่องทางทางรัก แรงกระแทกเพียงน้อยนิดแต่ละครั้งทำให้ น้ำเงี่ยนของเพชรและน้ำรักของอรุชาไหลออกมาโชลมท่อนควยและร่องหีของเธอจนเปียกชุ่ม การกระทำนี้ไม่เพียงช่วยหล่อลื่น แต่ยังเป็นการกระตุ้นเร้าความรู้สึกของอรุชาให้เพิ่มขึ้นอีกด้วย ทำให้อรุชาเริ่มผ่อนคลายและรับรู้ถึงความสุขที่กำลังจะมาถึง
ระหว่างที่เพชรกระเด้าสั้นๆ ถี่ๆ เพื่อหล่อลื่นอยู่นั้นเอง ร่างกายของอรุชาก็เกร็งกระตุกอีกครั้ง เธอเงยหน้าขึ้น ครางเสียงแผ่วก่อนที่ น้ำรักสีใสจะพุ่งทะลักออกมาอีกครั้ง เป็นการปลดปล่อยความสุขสมครั้งที่สามในเวลาอันสั้น น้ำเงี่ยนของทั้งคู่ไหลปะปนกันไปทั่วบริเวณนั้น อรุชานอนหอบหายใจ ใบหน้าแดงก่ำจากความสุขสมที่ท่วมท้น แต่ในแววตากลับฉายแววความต้องการที่รุนแรงขึ้นกว่าเดิม
เพชรรู้ว่าถึงเวลาแล้ว เขาค่อยๆ ยันกายขึ้นเล็กน้อย ก่อนจะกดท่อนควยใหญ่ที่ชุ่มฉ่ำไปด้วยน้ำเงี่ยนและน้ำรัก แทงเข้าไปในช่องทางรักของอรุชาอย่างช้าๆ และมั่นคง อรุชาเบิกตากว้างด้วยความเจ็บปวดระคนกับความรู้สึกแปลกใหม่ที่รุนแรงกว่าครั้งไหนๆ เธอเม้มปากแน่น พยายามอดทน
การฉีกขาดของเยื่อพรหมจารีย์ ตามมาด้วยความเจ็บปวดที่คมกริบ อรุชาเกร็งไปทั้งร่าง มือของเธอจิกเข้าที่แผ่นหลังของเพชรอย่างแรง แต่เพชรก็ไม่หยุด เขาค่อยๆ ดันเข้าไปทีละน้อย จนกระทั่ง ท่อนควยใหญ่ของเขาสอดใส่เข้าไปในช่องทางรักที่คับแน่นของอรุชาได้จนสุดลำ
อรุชาครางออกมาด้วยความเจ็บปวดและสุขสมปนกัน เธอหลับตาแน่น หายใจหอบถี่ รู้สึกถึงความเต็มแน่นที่ไม่เคยสัมผัสมาก่อนในชีวิต และความเจ็บปวดที่เริ่มแปรเปลี่ยนเป็นความอิ่มเอมอย่างประหลาด น้ำตาเม็ดเล็กๆ ไหลซึมออกมาจากหางตาของเธอด้วยความรู้สึกที่ท่วมท้น
เพชรหยุดนิ่งอยู่ครู่หนึ่ง เพื่อให้อรุชาได้ปรับตัวเข้ากับความรู้สึกใหม่ เขาก้มลงจูบริมฝีปากของอรุชาอย่างอ่อนโยน เช็ดน้ำตาที่คลอหน่วยให้เธอ
"ไม่เป็นไรนะอรุชา... ท่านเก่งมาก" เพชรกระซิบปลอบโยน
เมื่อเห็นว่าอรุชาเริ่มผ่อนคลายและรับรู้ถึงความสุขที่ซ่อนอยู่หลังความเจ็บปวด เพชรก็เริ่ม ขยับกายอย่างช้าๆ และอ่อนโยน เพื่อมอบความสุขสมอย่างเต็มที่ให้กับนักรบสาวผู้กล้าหาญ จังหวะแรกๆ ของเขาเต็มไปด้วยความนุ่มนวล เพื่อให้อรุชาได้คุ้นชินกับการเคลื่อนไหว และไม่ให้เธอเจ็บปวดมากเกินไป
เพชร จับสองขาเรียวของอรุชาดันไปข้างหน้าจนเกือบชิดยอดอกสวย ทำให้ช่องทางรักเปิดกว้างออกมากขึ้น และทำให้เขามองเห็นภาพเบื้องล่างได้อย่างชัดเจน เขาก้มลงมองดูภาพที่ปรากฏตรงหน้า ร่องหีที่บวมเป่งจากการร่วมรัก กำลังอมรัดท่อนควยของเขาไว้ทั้งลำอย่างแน่นหนา เป็นภาพที่สวยงามและเร้าอารมณ์อย่างที่สุด
เพชรเริ่มขยับสาวท่อนควยเย็ดอรุชาอย่างอ่อนโยน ไม่เร่งรีบ แต่ทุกครั้งที่เขา ถอนควยออกจนเกือบสุด อรุชาก็จะ ผวาตาม ด้วยความรู้สึกโหวงเหวงที่ไม่อยากให้มันจากไป และทุกครั้งที่เขา ดันควยกลับเข้าไปจนสุดโคน สัมผัสกับจุดกระสันภายในอย่างเต็มที่ อรุชาก็จะ ตัวงอด้วยความเสียวซ่าน ครางออกมาอย่างสุดกลั้น ความสุขสมที่ถาโถมเข้ามาจากทุกทิศทางทำให้เธอไม่สามารถควบคุมตัวเองได้อีกต่อไป
อรุชาจิกเล็บลงบนต้นขาของเพชรอย่างแรงด้วยความเสียวซ่าน เธอกระตุกเกร็งไปทั้งร่าง เสียงครางระงมบ่งบอกถึงความอิ่มเอมที่เธอไม่เคยรู้จักมาก่อนในชีวิตนี้.
เพชรยังคงเย็ดอรุชาอย่างอ่อนโยนแต่หนักแน่น ท่ามกลางเสียงครางหวานหูของนักรบสาวผู้เพิ่งได้ลิ้มรสสวาทครั้งแรก
เพชรค่อยๆ จับอรุชาพลิกตัว ให้เธอคว่ำหน้าลงกับพื้นหญ้าที่นุ่มนวล จากนั้นเขาก็ ดึงสะโพกของอรุชาให้แนบชิดกับกายของเขา เผยให้เห็น ร่องหีที่สวยงาม และเชิญชวน เพชรไม่รอช้า แทงควยเข้าไปในหีนั้นจนสุดโคนอย่างช้าๆ อรุชาสะดุ้งเฮือกเล็กน้อย แต่ความเจ็บปวดนั้นแฝงด้วยความสุขสมที่รุนแรงกว่าเดิม
เพชรเริ่ม กระเด้าควยเข้าออกอย่างช้าๆ เพื่อให้อรุชาได้ปรับตัวเข้ากับท่าทางใหม่ แต่เมื่อเห็นว่าอรุชาตอบรับอย่างดี เขาก็ จับสะโพกของอรุชาอย่างมั่นคง แล้วเร่งเอวกระเด้าควยเข้าออกเร็วขึ้น เสียงเนื้อกระทบกันดังสนั่นเคล้าไปกับเสียงหอบครางของอรุชา อรุชารู้สึกว่าควยของเพชรเข้าลึกมาก ลึกจนถึงจุดที่ไม่เคยมีใครเข้าถึงได้ ความสุขสมที่พุ่งพล่านจากภายในกายนั้นรุนแรงเกินกว่าที่เธอจะทานทนได้ พอจับจังหวะได้อรุชาก็ดันสะโพกสวนท่อนควยใหญ่เพิ่มความเสียวให้กับร่องรูหีจนเสียววาบซาบซ่านแบบที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อนในหัวของอรุชาขาวโพลนไปหมด อรุชาเกร็งกระตุกไปทั้งร่าง ปลดปล่อยน้ำรักออกมาอีกครั้ง เป็นครั้งที่นับไม่ถ้วน สารความสุขท่วมท้นจนร่างกายของเธออ่อนระทวยไปหมด
เพชรเองก็ไม่ต่างกัน ความคับแน่นของอรุชา และความร้อนรุ่มที่โอบรัดท่อนควยของเขาทำให้เพชรถึงกับทนความเสียวไม่ไหว เขากระตุกเกร็งไปทั้งร่าง ก่อนจะชักควยออกมาจากช่องทางรักของอรุชา แล้วปลดปล่อยน้ำรักสีขาวขุ่นออกมาอย่างรุนแรง กระจายไปทั่วสะโพกงอนสวยบางส่วนกระเด็นไปตามร่องก้นและแคมหีไหลหยดไปตามขาขาวนั้นเป็นทาง
อรุชานอนหอบหายใจอยู่บนพื้นหญ้า แต่สายตาของเธอจับจ้องไปที่ท่อนควยของเพชรที่ยังคงชุ่มฉ่ำไปด้วยน้ำรักของเขา เธออยากกินน้ำควยนั้น... เหมือนที่ศรีนวลเคยทำ ความปรารถนาที่เพิ่งได้รู้จักทำให้เธออยากสัมผัสกับทุกสิ่งที่เพชรมอบให้
เพชรรับรู้ถึงความต้องการในแววตาของอรุชา เขายิ้มอย่างอ่อนโยน ก่อนจะประคองใบหน้าของอรุชาให้เงยขึ้น เขาค่อยๆ จับท่อนควยที่ยังชุ่มฉ่ำนั้นมาจ่อที่ริมฝีปากของเธอ
"ลองดูสิอรุชา" เพชรบอก "มันจะทำให้เจ้ามีความสุข"
อรุชาลังเลอยู่ครู่หนึ่ง แต่ความอยากรู้อยากเห็นและความปรารถนาอันรุนแรงก็เอาชนะความเขินอาย เธอค่อยๆ อ้าปากออก แล้วใช้ปลายลิ้นแตะลงบนหัวควยของเพชรอย่างช้าๆ ลิ้นเล็กๆ ของเธอเริ่มเลียไล้ไปตามส่วนหัว ดูดซับน้ำรักของเขาอย่างไม่ประสีประสา
เพชรค่อยๆ สอนให้เธอรู้จังหวะในการดูดและเลีย สอนให้เธอใช้ลิ้นกวาดไปตามลำควย และดูดดื่มน้ำรักของเขาอย่างเสียวซ่าน อรุชาเริ่มเข้าใจรสชาติ... รสชาติที่หอมหวานและเค็มปร่าเล็กน้อย ผสมกับความรู้สึกสุขสมที่ยังคงค้างอยู่ในกายของเธอ เธอรู้สึกราวกับได้ดื่มด่ำกับเพชรอย่างแท้จริง และ เธอชอบมัน... ชอบที่จะเลียกินจนหมดสิ้น เธอเลียทำความสะอาดท่อนควยของเพชรอย่างไม่เหลือคราบใดๆ
วันนี้ อรุชาน้ำแตก จนร่างกายของเธออ่อนเปลี้ยไปหมด ขาของเธออ่อนแรงจนไม่อาจทรงตัวได้ เพชรต้อง กอดประคองร่างของอรุชาไว้แน่น อรุชาซบหน้าเข้ากับอกแกร่งของเพชร สัมผัสถึงความอบอุ่นและปลอดภัยที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน
หลังจากที่ความเร่าร้อนสงบลง อรุชานอนซบหน้ากับอกของเพชรอย่างเงียบงัน ลมหายใจของเธอยังคงหอบถี่ แต่ในแววตาที่ปรือปรอยนั้น กลับเต็มไปด้วยความรู้สึกที่หลากหลาย ทั้งความสุขสม ความอิ่มเอมใจ ความเขินอาย และความสับสนที่ไม่เคยรู้จักมาก่อน
อรุชาเงยหน้าขึ้นมองเพชร ดวงตาคมเข้มที่เคยเต็มไปด้วยความมุ่งมั่นและความแข็งกร้าว บัดนี้กลับอ่อนโยนลงอย่างเห็นได้ชัด
"ท่านเพชร..." อรุชาเอ่ยเสียงแผ่ว ใบหน้าของเธอแดงก่ำ แต่ดวงตากลับมองเพชรอย่างแน่วแน่ "ข้า... ข้าไม่เคย... ไม่เคยรู้สึกเช่นนี้มาก่อนในชีวิต"
เธอเว้นจังหวะเล็กน้อย หายใจเข้าลึกๆ ก่อนจะกล่าวต่อด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือแต่เต็มไปด้วยความจริงใจ
"ข้าอุทิศชีวิตให้กับการฝึกฝนการรบมาโดยตลอด ไม่เคยคิดถึงเรื่องบุรุษเพศ ไม่เคยคิดว่าความรู้สึกเช่นนี้จะมีอยู่จริง" อรุชาเม้มปากแน่น "แต่ท่าน... ท่านทำให้ข้าได้รู้จักกับความปรารถนา... ความสุขสม... และความรู้สึก... ที่ข้าไม่เคยรู้ว่าตัวเองต้องการมันมากเพียงใด"
อรุชาหลุบตาลงเล็กน้อยด้วยความอับอาย "ข้าไม่รู้ว่าสิ่งนี้เรียกว่าอะไร... แต่ข้ารู้สึก... รู้สึกผูกพันกับท่านเหลือเกิน"
เธอเงยหน้าขึ้นมองเพชรอีกครั้ง ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความสับสนและความหวัง "ท่านเพชร... ท่านคิดอย่างไรกับข้าบ้าง"
เพชรกระชับอ้อมกอดแน่นขึ้น เขาจูบลงบนเรือนผมของอรุชาอย่างอ่อนโยน
"ข้าก็รู้สึกเช่นเดียวกันอรุชา" เพชรตอบด้วยน้ำเสียงทุ้มนุ่มจริงใจ "ท่านคือสตรีที่แข็งแกร่งและงดงามที่สุดเท่าที่ข้าเคยพบเจอมา ความรู้สึกที่เกิดขึ้นระหว่างเรานั้น... มันคือความผูกพันที่ลึกซึ้งเกินกว่าที่คำพูดจะอธิบายได้"
เขาลูบไล้แผ่นหลังของอรุชาอย่างแผ่วเบา "ข้าดีใจที่ได้เป็นผู้เปิดเผยโลกใบใหม่ให้กับท่าน และข้าสัญญาว่าข้าจะปกป้องท่านและมอบความสุขให้ท่านตราบเท่าที่ข้ายังหายใจ"
คำพูดของเพชรทำให้อรุชาตัวสั่นเทิ้มด้วยความตื้นตันใจ เธอซบหน้าเข้ากับอกของเขาแน่นขึ้นอีกครั้ง ปล่อยให้ความรู้สึกอบอุ่นและปลอดภัยโอบล้อมเธอไว้ ความผูกพันที่เพิ่งก่อกำเนิดขึ้นนี้ ทำให้โลกของอรุชาเปลี่ยนไปตลอดกาล
เมื่อความเร่าร้อนสงบลงและอรุชาได้พักผ่อนพอสมควร เพชรก็พยุงอรุชาให้ลุกขึ้นแต่งกายอย่างเรียบร้อย แม้จะรู้สึกอิดโรยแต่ใบหน้าของอรุชาเปล่งปลั่งด้วยความสุขที่ได้สัมผัส เขาพาอรุชากลับไปยังถ้ำที่พัก โดยที่ความสัมพันธ์ที่เพิ่งเกิดขึ้นระหว่างทั้งสองยังคงเป็นความลับระหว่างพวกเขา
เนื่องจากช่วงนี้เป็นเวลาค่ำ และขบวนเขมรก็ไม่ได้เคลื่อนที่ต่อไปไกลนัก พวกเขาจึงพักค้างแรมอยู่ในป่าไม่ไกลจากที่เพชรอยู่ สถานการณ์นี้ทำให้เพชรมีเวลาวางแผนการโจมตีอย่างละเอียดมากขึ้น
ทันทีที่กลับถึงถ้ำ เพชรก็เรียกเจ้าหญิงอุษาและไอ้สิน รวมถึงนักรบคนสำคัญอื่นๆ มารวมตัวกัน
"บัดนี้ถึงเวลาแล้วที่เราจะต้องแสดงให้พวกเขมรและพม่าเห็นว่า กรุงศรีฯ ยังไม่สิ้นคนกล้า" เพชรกล่าวด้วยน้ำเสียงที่เด็ดเดี่ยว "ข้าได้สังเกตการณ์ขบวนเขมรมาแล้ว พวกมันพักค้างแรมอยู่ไม่ไกลจากที่นี่ และนั่นคือโอกาสของเรา"
เพชรเริ่มกางแผนที่ที่เขาวาดขึ้นอย่างคร่าวๆ จากการสังเกตการณ์
"เราจะใช้ความมืดมิดและภูมิประเทศที่ได้เปรียบโจมตีพวกมันในยามวิกาล" เพชรอธิบาย "ขบวนของพวกเขมรนั้นมีทหารประมาณยี่สิบกว่านาย แม้จะไม่มาก แต่ก็จัดทัพมาอย่างดี"
เขาหันไปมองอรุชา "อรุชา เจ้ามีความรู้เรื่องเส้นทางในป่าแถบนี้ดีที่สุด เจ้าจะเป็นผู้นำทางกลุ่มจู่โจมหลัก พร้อมกับไอ้สินและนักรบที่ได้รับการฝึกมาแล้ว"
อรุชาพยักหน้ารับอย่างแข็งขัน แววตาของเธอเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น แม้จะเพิ่งผ่านเรื่องราวส่วนตัวมา แต่หน้าที่และการแก้แค้นยังคงเป็นสิ่งสำคัญที่สุดสำหรับเธอ
"เราจะแบ่งกำลังออกเป็นสามส่วน" เพชรอธิบายต่อ "ส่วนแรก นำโดยอรุชาและไอ้สิน จะลอบเข้าใกล้ค่ายของเขมรจากทางปีกซ้าย ใช้ธนูและหลาวไม้ไผ่ที่เคลือบพิษจากพืชที่ข้าให้หามา (แต่เขาไม่ได้บอกว่าเป็นพืชชนิดไหน และแท้จริงแล้วมันเป็นแค่สารสกัดที่ทำให้มึนงง ไม่ใช่พิษร้ายแรงถึงตาย) โจมตีในระยะไกล เพื่อสร้างความสับสนวุ่นวาย"
"ส่วนที่สอง นำโดยท่านหญิงอุษาและกลุ่มสตรีและเด็กที่สามารถใช้กับดักได้ จะสร้างกับดักหลุมพรางและกับดักไม้ดีดบริเวณเส้นทางหลบหนีที่คาดว่าพวกเขมรจะใช้หลบหนี เพื่อสกัดกั้นการเคลื่อนไหวของพวกมัน"
"ส่วนสุดท้าย ซึ่งเป็นกำลังหลัก นำโดยข้าเอง จะเข้าโจมตีจากด้านหน้าในจังหวะที่พวกมันกำลังสับสน เราจะมุ่งเป้าไปที่ราชรถเพื่อชิงตัวองค์หญิงเขมรผู้นั้นมา"
เพชรมองไปยังทุกคนในถ้ำด้วยสายตาที่เปี่ยมด้วยความหวัง "นี่คือโอกาสของเราที่จะแสดงให้โลกเห็นว่า แม้จะเหลือเพียงเศษซาก แต่คนไทยก็ยังไม่ยอมแพ้!"
ความมืดมิดในยามค่ำคืนเป็นม่านคุ้มกันที่ดีเยี่ยม เสียงจักจั่นเรไรก้องกังวานไปทั่วป่า เสริมสร้างบรรยากาศอันลึกลับน่าขนลุก เพชร อรุชา และเหล่านักรบผู้ภักดี เคลื่อนไหวอย่างเงียบเชียบราวกับเงาที่กลืนหายไปในความมืด พวกเขามุ่งหน้าสู่ค่ายพักแรมชั่วคราวของขบวนเขมรที่อยู่ห่างออกไปไม่ไกลนัก
อรุชานำทางกลุ่มจู่โจมหลักได้อย่างไร้ที่ติ เธอรู้จักเส้นทางป่าแห่งนี้ดีกว่าใคร พาไอ้สินและเหล่านักรบอีกจำนวนหนึ่งลัดเลาะไปตามพุ่มไม้และก้อนหินได้อย่างคล่องแคล่ว มือของอรุชาประคองธนูที่อาบด้วยสารสกัดที่ทำให้มึนงง แววตาคมกริบจับจ้องไปยังแสงไฟริบหรี่ของค่ายข้าศึก
อีกด้านหนึ่ง เจ้าหญิงอุษาและกลุ่มสตรีผู้รอดชีวิตต่างช่วยกันวางกับดักอย่างเงียบเชียบ หลุมพรางที่ซ่อนอยู่ใต้ใบไม้แห้ง กับดักไม้ดีดที่ซ่อนเร้นตามทางเดิน ล้วนถูกจัดวางอย่างประณีตเพื่อสกัดกั้นการหลบหนีของศัตรูหากเกิดความวุ่นวายขึ้น
เมื่อทุกอย่างพร้อม เพชรให้สัญญาณ ทุกคนประจำที่ รอคอยจังหวะที่เหมาะสม
การโจมตีอันอุกอาจ
ธนูดอกแรกพุ่งแหวกอากาศออกไปอย่างเงียบกริบ ตามมาด้วยอีกหลายดอก สารสกัดที่เคลือบปลายธนูเริ่มออกฤทธิ์อย่างรวดเร็ว ทหารเขมรที่เฝ้ายามเริ่มมีอาการมึนงง ทรงตัวไม่อยู่ ล้มลงไปกองกับพื้นอย่างเงียบๆ เสียงปืนและดาบยังคงนิ่งสงบ เพราะไม่มีใครคาดคิดว่าจะมีผู้กล้าบุกโจมตีในยามวิกาลเช่นนี้
นี่คือจังหวะของอรุชาและไอ้สิน พวกเขากระโจนเข้าใส่กลุ่มทหารที่เหลืออย่างรวดเร็ว หลาวไม้ไผ่พุ่งเข้าใส่ร่างศัตรูอย่างแม่นยำ หลายคนล้มลงโดยไม่ทันได้ส่งเสียงร้อง สารสกัดทำให้พวกเขาล้มลงอย่างรวดเร็ว บางคนพยายามยกอาวุธขึ้นป้องกัน แต่ร่างกายที่อ่อนแรงก็ไม่สามารถต้านทานการโจมตีอันรวดเร็วของอรุชาและพรรคพวกได้
เสียงอึกทึกครึกโครมจากทางปีกซ้าย ทำให้ทหารเขมรที่อยู่ด้านหน้าแตกตื่น เพชรไม่รอช้า เขาให้สัญญาณโจมตีทันที พร้อมกับเสียงคำรามก้อง "บุก!" เพชรนำกำลังส่วนที่เหลือพุ่งเข้าใส่ค่ายจากด้านหน้าอย่างดุดัน ดาบในมือของเขาฟาดฟันเข้าใส่ศัตรูอย่างรวดเร็วและแม่นยำ ไม่เปิดโอกาสให้ใครได้ตั้งตัว
ความอลหม่านเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ทหารเขมรบางส่วนที่พยายามหลบหนีก็ต้องเผชิญหน้ากับกับดักที่เจ้าหญิงอุษาและสตรีวางไว้ เสียงร้องโหยหวนดังขึ้นจากหลุมพรางและกับดักไม้ดีด ท่ามกลางความมืดมิดและความสับสน ทหารเขมรไม่อาจจัดทัพเพื่อต่อต้านได้อย่างมีประสิทธิภาพ
เพชรพุ่งตรงไปยังราชรถที่จอดอยู่ใจกลางค่าย ทหารที่เฝ้าราชรถพยายามต่อต้านอย่างสุดกำลัง แต่ก็ไม่อาจต้านทานความแข็งแกร่งและว่องไวของเพชรได้ เขากระโดดขึ้นบนราชรถ เปิดประตูออก และพบกับร่างของ องค์หญิงเขมร ที่ถูกมัดปากและมือไว้ ดวงตาของเธอกลมโตด้วยความหวาดกลัว
เพชรไม่รอช้า เขาปลดพันธนาการให้องค์หญิง พร้อมกับส่งสัญญาณให้พรรคพวกถอนกำลัง เมื่อภารกิจลุล่วง พวกเขาไม่ต้องการสร้างความสูญเสียที่ไม่จำเป็น
ผลลัพธ์และการควบคุมสถานการณ์
การโจมตีครั้งนี้ประสบความสำเร็จอย่างงดงาม องค์หญิงเขมรถูกพาตัวมา ได้อย่างปลอดภัย โดยไม่มีใครได้รับบาดเจ็บสาหัส ทหารเขมรส่วนใหญ่ล้มลงด้วยฤทธิ์ของสารสกัดที่ทำให้มึนงง มีเพียงบางส่วนที่พยายามต่อสู้จนถึงที่สุดและต้องจบชีวิตลง
เพชรสั่งให้เหล่านักรบควบคุม ทหารเขมรบางส่วนที่ไม่ตาย และไม่ได้บาดเจ็บมากนัก ให้รวมกลุ่มกัน จากนั้นเขาจึงนำทั้งหมดกลับมายังถ้ำที่พักของพวกเขา
ภายในถ้ำ ไฟถูกจุดให้สว่างขึ้น องค์หญิงเขมรนั่งตัวสั่นอยู่มุมหนึ่ง ดวงตาจ้องมองเพชรและอรุชาด้วยความหวาดระแวง ส่วนทหารเขมรที่ถูกจับมา ก็ถูกมัดมือมัดเท้าและเฝ้าจับตาดูอย่างเข้มงวด
"ท่านเพชร แผนของท่านสำเร็จแล้วเพคะ" อรุชากล่าวด้วยรอยยิ้มแห่งชัยชนะ ใบหน้าของเธอเปื้อนเปรอะไปด้วยคราบดินและเหงื่อ แต่ดวงตากลับเป็นประกาย
เพชรพยักหน้า เขามองไปยังองค์หญิงเขมรที่ยังคงหวาดกลัว ก่อนจะหันไปทางทหารเขมรที่ถูกจับ
"พวกเจ้า... พวกเจ้าจะเลือกสู้เพื่อความตาย หรือจะเลือกมีชีวิตรอดเพื่อวันข้างหน้า?" เพชรเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงที่ทรงอำนาจ "หากพวกเจ้าภักดีต่อเรา พวกเจ้าจะมีชีวิตรอด และอาจมีโอกาสกลับไปเห็นแผ่นดินเกิดอีกครั้ง แต่หากไม่... ก็จงรู้ไว้ว่าเส้นทางนี้ไม่มีทางถอย"
การเจรจาและการขยายกำลังพล
เพชรเดินเข้าไปหาองค์หญิงเขมรอย่างช้าๆ ใบหน้าของเขามีแววอ่อนโยนลง เมื่อมองใกล้ๆ เขาก็ต้องตะลึงในความงามขององค์หญิง เขานึกถึงภาพแกะสลักนางอัปสราในวิหารนครวัดที่เคยเห็นในหนังสือประวัติศาสตร์ เพชรพบว่านางอัปสราในรูปปั้นที่งดงามนั้นมีอยู่จริง ดวงตากลมโต ใบหน้ารูปไข่ จมูกโด่งรั้น และริมฝีปากอิ่มเอิบ ช่างคล้ายกับภาพแกะสลักเหล่านั้นเสียเหลือเกิน
"อย่าได้กลัวเลยองค์หญิง" เพชรกล่าวด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล "เรามิได้มีเจตนาร้ายกับท่าน เราเพียงต้องการความร่วมมือจากท่านเท่านั้น"
องค์หญิงเขมรยังคงตัวสั่นเทาเล็กน้อย แต่ก็กลั้นใจเงยหน้าขึ้นมองเพชร
"เจ้า... เจ้าต้องการอะไรจากข้า?" เสียงของเธอแผ่วเบา แต่ก็แฝงไว้ด้วยความหยิ่งทะนงของเชื้อพระวงศ์
"เราต้องการความร่วมมือจากท่าน ในการต่อต้านกองทัพพม่าที่กำลังย่ำยีแผ่นดินของเรา" เพชรอธิบาย "ข้าทราบดีว่าแผ่นดินของท่านก็ตกอยู่ภายใต้อำนาจของพม่าเช่นกัน เรามีศัตรูร่วมกัน"
เพชรเริ่มอธิบายสถานการณ์และแผนการของเขาอย่างละเอียด พยายามโน้มน้าวให้องค์หญิงเห็นถึงผลประโยชน์ร่วมกันในการรวมกำลังกันต่อต้านพม่า แม้จะต้องใช้เวลา แต่ด้วยเหตุผลและคำพูดที่จริงใจของเพชร องค์หญิงเขมรก็เริ่มคลายความหวาดกลัวลงทีละน้อย เธอรับฟังทุกถ้อยคำอย่างตั้งใจ
ขณะเดียวกัน เพชรก็หันไปจัดการกับทหารเขมรเชลย เขาให้ไอ้สินและอรุชาช่วยกันพูดคุยและโน้มน้าว อรุชาใช้ความเฉียบขาดแบบนักรบในการพูดคุยกับทหารด้วยกัน ในขณะที่ไอ้สินใช้ความเข้าใจในภาษาและวัฒนธรรมของเขมรในการสื่อสารกับพวกเขา
"พวกเจ้าเห็นแล้วมิใช่หรือว่าพวกพม่าไม่เห็นค่าชีวิตของพวกเจ้า" อรุชากล่าวด้วยน้ำเสียงหนักแน่น "หากพวกเจ้าร่วมมือกับเรา เราจะให้โอกาสพวกเจ้าได้แก้แค้นให้แผ่นดินของตนเอง และได้มีชีวิตรอดกลับไป"
นักรบเขมรบางคนลังเล แต่เมื่อเห็นความเด็ดขาดของเพชรและความหวังที่จะได้รอดชีวิต หลายคนก็เริ่มยอมจำนนและแสดงความภักดี
เพชรและอรุชาเริ่มฝึกฝนทหารเชลยเหล่านั้นทันที โดยเน้นการฝึกที่รวดเร็วและเน้นการใช้งานอาวุธที่พวกเขาคุ้นเคย รวมถึงการสอนให้ใช้ธนูและหลาวไม้ไผ่ที่เคลือบสารสกัด อรุชาใช้ความสามารถในการเป็นนักรบนำการฝึกฝนด้วยตัวเองอย่างเข้มข้น ส่วนเพชรก็ถ่ายทอดความรู้ทางยุทธวิธีที่ทันสมัยกว่าให้พวกเขา การมีกำลังพลเพิ่มขึ้น แม้จะไม่มากนัก แต่ก็ถือเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่งสำหรับกลุ่มผู้รอดชีวิตที่กำลังต่อสู้กับศัตรูที่แข็งแกร่งกว่าหลายเท่า
สนุกมากครับ ขอบคุณ สนุกมากครับ นิยายพีเรียดที่สนุกและมีความสุข อ่านสนุกครับ เสียว{:5_120:} ขอบคุณมากๆเลยนะคะ ขอบคุณมากๆเลยนะคะ ขอบคุณครับ สนุกมากครับ ขอบคุณครับ {:5_119:}
หน้า:
[1]