ประธานทาสตกต่ำ (ตอนที่ 1 โซ่แรกแห่งการครอบงำ)
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Eic-Q2553 เมื่อ 2025-7-19 15:45** เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เเต่งขึ้นเท่านั้น โปรดใช้วิจารณญานในการอ่าน **
**ใครยังไม่อ่านตั้งเเต่ตอนเเรก ไปอ่านก่อนนะครับ เตือนเเล้วน้า เดี๋ยวจะไม่เข้าใจเอานะคับ**
■□■□■□■□■□■□■□■□■□■□■□■□■
เเนะนำตัวละครในเรื่อง ประธานทาสตกต่ำ
●ตัวละครหลัก●
• ธนากร วีรานนท์: ประธานบริษัทวัย 35 ปี หนุ่มหล่อคมเข้ม ผู้ครองอำนาจในโลกธุรกิจ จนกระทั่งถูกนทีครอบงำ
• นที: เด็กฝึกงานวัย 22 ปี หน้าตาดี มีเสน่ห์ลึกลับและเจ้าเล่ห์ ผู้วางแผนครอบครองธนากรทั้งร่างกายและจิตใจ
●ตัวละครรอง●
• วินัย: ผู้ช่วยส่วนตัวของธนากร วัย 40 ปี ซื่อสัตย์ พยายามปกป้องเจ้านาย แต่ถูกนทีใช้เป็นเครื่องมือ
• ริน: ผู้บริหารหญิงวัย 32 ปี ฉลาดและทะเยอทะยาน สงสัยในตัวนทีและพยายามขุดความลับ
• ศรันย์: เลขานุการหนุ่มของนที วัย 28 ปี ผู้ภักดีต่อนที มีบทบาทในการลงโทษและกดธนากรให้ต่ำลง
• เอก: นักสืบเอกชนวัย 45 ปี ที่ธนากรจ้างเพื่อสืบนที แต่ถูกนทีซื้อตัว
• มิว: เพื่อนสนิทของนที วัย 23 ปี หนุ่มลึกลับที่ช่วยนทีในแผนการครอบงำ
■□■□□■□■□■□■□■□■□■□■□■□■□■
**ตอนที่ 1:โซ่แรกแห่งการครอบงำ**
ใจกลางกรุงเทพฯ ตึกระฟ้าสูงตระหง่านของ **วีรานนท์ กรุ๊ป** ส่องแสงราวกับสัญลักษณ์แห่งอำนาจที่ไม่มีใครกล้าท้าทาย **ธนากร วีรานนท์ ** ประธานบริษัทวัย 35 ปี หนุ่มหล่อคมเข้ม ผมดำสนิทที่จัดทรงอย่างเป๊ะ สายตาเย็นชาคู่หนึ่งที่เหมือนจะกลืนกินทุกคนที่กล้ามองตรง เขาคือราชาแห่งโลกธุรกิจ ผู้ควบคุมทุกอย่างด้วยน้ำเสียงเด็ดขาดและท่าทางมั่นใจ เขาไม่เคยยอมให้ใครข้ามเส้น ไม่ว่าในห้องประชุมหรือในชีวิตส่วนตัว
ทุกการตัดสินใจของเขาคือคำสั่งที่ไม่มีใครกล้าขัดขวาง ชีวิตของเขาดูสมบูรณ์แบบ คอนโดหรูในย่านใจกลางเมือง, รถสปอร์ตที่จอดเรียงราย, และชื่อเสียงที่ทำให้ทุกคนในวงการยอมศิโรราบ
แต่ทุกอย่างเริ่มสั่นคลอนเมื่อเงาลึกลับปรากฏตัวในรูปของเด็กฝึกงาน ในห้องประชุมที่เงียบสงัด ผู้บริหารระดับสูงนั่งตัวตรงราวกับทหารที่รอคำสั่ง **ริน** ผู้บริหารหญิงวัย 32 ปี ผมสั้นสีน้ำตาลเข้ม สายตาคมกริบที่จับผิดทุกความเคลื่อนไหว
นั่งจดบันทึกด้วยปากกาสีเงิน ข้างๆ เธอคือ **วินัย** ผู้ช่วยส่วนตัววัย 40 ปีของธนากร ชายร่างท้วมที่ซื่อสัตย์และคอยดูแลเจ้านายอย่างใกล้ชิด สายตาของเขามักมองธนากรด้วยความกังวลเล็กๆ ขณะที่ธนากรกำลังนำเสนอแผนการลงทุนมูลค่าพันล้านเพื่อซื้อบริษัทคู่แข่ง เสียงนุ่มแต่แฝงด้วยความท้าทายดังขึ้นจากมุมห้อง
“ผมว่าแผนนี้มีจุดอ่อนนะครับ คุณธนากร” ทุกสายตาหันไปมอง **นที** เด็กฝึกงานวัย 22 ปี หนุ่มหน้าตาดี รูปร่างเพรียวบางแต่มีกล้ามเนื้อซ่อนอยู่ในสูทราคาถูก ผมสีน้ำตาลเข้มยุ่งเล็กน้อยจากพัดลมเพดาน ดวงตาคู่คมของเขาจ้องธนากรโดยไม่มีความกลัว ใบหน้าประดับรอยยิ้มที่เหมือนรู้ความลับบางอย่าง
“เด็กฝึกงานกล้าพูดแบบนี้ได้ยังไง?” ธนากรคิดในใจ ความโกรธผสมความสนใจทำให้เขายิ้มมุมปาก “น่าสนใจ... เด็กอย่างแกมีอะไรจะพูดต่อ?” เขาพูดด้วยน้ำเสียงเยาะเย้ย ห้องประชุมเงียบกริบ รินขมวดคิ้ว สายตาของเธอจับจ้องที่นทีราวกับพยายามอ่านตัวตนของเขา เธอจดอะไรบางอย่างในสมุดบันทึก ขณะที่วินัยมองนทีด้วยความระแวง
“ระวังตัวหน่อย เด็กคนนี้ไม่ธรรมดา” วินัยกระซิบกับตัวเอง นทีไม่สะทกสะท้าน เขาลุกขึ้น เดินไปที่จอโปรเจกเตอร์ด้วยท่าทางมั่นใจเกินตัว และชี้จุดบกพร่องในงบการเงินของแผน “ถ้าคุณยืนยันแผนนี้ คุณอาจเสียมากกว่าที่คิด” เขาพูด สายตาของเขาท้าทายธนากรโดยตรง สายตานั้นเหมือนมีพลังที่ทำให้หัวใจของธนากรเต้นผิดจังหวะ ธนากรรู้สึกถึงความโกรธที่พุ่งขึ้น แต่เขากลับรู้สึกถึงพลังงานแปลกๆ จากเด็กหนุ่มคนนี้ เขาตอบด้วยน้ำเสียงเย็นชา
“ขอบคุณสำหรับความเห็น แต่ที่นี่ ข้าคือคนตัดสินใจ” เขาย้ำคำว่า
“ข้า” เพื่อแสดงอำนาจ แต่รอยยิ้มของนทีไม่จางหาย เขานั่งลงอย่างผ่อนคลาย ขาไขว่ห้างราวกับเป็นเจ้าของห้องประชุม ผู้บริหารคนอื่นๆ มองหน้ากันด้วยความงุนงง แต่ไม่มีใครกล้าพูดอะไร รินจดบันทึกเพิ่มด้วยลายมือที่รวดเร็ว ขณะที่วินัยลอบมองนทีด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความไม่ไว้วางใจ หลังประชุม ธนากรเรียกนทีเข้าห้องทำงานส่วนตัว ห้องนั้นกว้างขวาง ตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์ไม้สีเข้ม กระจกบานใหญ่ที่สะท้อนแสงเมืองยามค่ำคืน และโต๊ะทำงานที่เป็นสัญลักษณ์ของอำนาจ ธนากรนั่งบนเก้าอี้หนังสีดำ มองนทีที่ยืนอยู่ตรงหน้าด้วยสายตาที่พยายามข่มขู่
“แกคิดว่าแกเป็นใครถึงกล้าท้าข้า?” เขาถามด้วยน้ำเสียงที่เหมือนจะบดขยี้ แต่ที่นทียิ้ม ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความมั่นใจที่เกินวัย เขาก้าวเข้ามาใกล้จนธนากรได้กลิ่นน้ำหอมอ่อนๆ ที่ทั้งเย้ายวนและกดดัน “ผมแค่เด็กฝึกงาน... แต่ผมรู้ว่าคุณไม่ได้ควบคุมทุกอย่างอย่างที่คิด” นทีตอบ มือของเขาวางบนโต๊ะของธนากรราวกับเป็นเจ้าของห้อง นทียื่นกำไลข้อมือโลหะสีเงินให้ธนากร มันดูเรียบง่ายแต่หนักแน่น มีตัวล็อกที่เหมือนกุญแจเล็กๆ ติดอยู่ “ลองสวมดูสิครับ” นทีพูดด้วยน้ำเสียงที่ทั้งนุ่มนวลและสั่งการ “มันจะบอกคุณว่าอำนาจที่แท้จริงคืออะไร” ธนากรหัวเราะเยาะ
“แกบ้าไปแล้ว” แต่ความรู้สึกแปลกๆ ที่พุ่งขึ้นในใจทำให้เขารับกำไลไว้ นิ้วของเขาสัมผัสโลหะเย็นๆ นั้น และรู้สึกถึงน้ำหนักที่ไม่ใช่แค่ร่างกาย แต่เหมือนรัดบางสิ่งในจิตใจ “เด็กอย่างแกจะมาสั่งข้าได้ยังไง?” ธนากรพูด แต่สายตาของเขากลับจับจ้องที่นที นทีเดินเข้ามาใกล้ยิ่งขึ้น มือของเขาสัมผัสขอบโต๊ะของธนากร “คืนนี้ ถ้าคุณอยากรู้ว่าเกมนี้จะพาคุณไปถึงไหน สวมมัน” เขากระซิบก่อนเดินจากไป ทิ้งกลิ่นน้ำหอมจางๆ และความรู้สึกที่ทั้งโกรธและสับสนในใจของธนากร
วินัยที่ยืนอยู่หน้าประตูห้องมองตามนทีด้วยสายตาระแวง “ผมไม่ไว้ใจเด็กคนนั้น คุณธนากร” เขาพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง “ผมจะสืบประวัติเขาให้” ธนากรโบกมือไล่ “จัดการงานของแกไป” เขาตอบ สายตายังจับจ้องที่กำไลในมือ เขารู้สึกถึงความหนักของมันราวกับมันกำลังรัดบางสิ่งในตัวเขา เมื่อธนากรกลับมาที่โต๊ะทำงานหลังจากนทีจากไป เขาพบว่าแฟลชไดรฟ์ที่เก็บข้อมูลลับของบริษัท—ข้อมูลเกี่ยวกับดีลลับที่อาจทำลายวีรานนท์ กรุ๊ปถ้ารั่วไหล—หายไปจากลิ้นชักที่ล็อกไว้ เขารีบสั่งทีมรักษาความปลอดภัยตรวจกล้องวงจรปิด และภาพที่เห็นทำให้หัวใจของเขาเต้นแรง
นทีเดินออกจากห้องของเขาในช่วงเวลาที่แฟลชไดรฟ์หายไป รอยยิ้มของเขาบนจอเหมือนกำลังเยาะเย้ย ธนากรรู้สึกถึงความหนาวเย็นที่พุ่งขึ้นตามกระดูกสันหลัง ความรู้สึกเหมือนถูกจับมัดด้วยโซ่ที่มองไม่เห็นเริ่มก่อตัว ธนากรตัดสินใจลองสวมกำไลที่ข้อมือขวาในคืนนั้นที่คอนโดของเขา ความอยากรู้และความโกรธผลักดันเขา เมื่อตัวล็อกปิดลง เขาได้ยินเสียง “คลิก” ที่ดังราวกับคำสัญญาแห่งพันธนาการ ขณะที่เขามองกำไลในแสงสลัวของห้อง เขาได้รับข้อความจากเบอร์ปริศนา: “กำไลนั้นคือจุดเริ่มต้น ถ้าอยากได้แฟลชไดรฟ์คืน มาหาผมที่คลับ Underworld เที่ยงคืน... และอย่าถอดมันออก”
ธนากรรู้สึกถึงน้ำหนักของกำไลที่เหมือนรัดแน่นขึ้น เขาพยายามถอดมันออกด้วยมีดและเครื่องมือต่างๆ แต่ตัวล็อกนั้นแข็งแกร่งเกินไป ความรู้สึกอัปยศผสมกับความกลัวเริ่มก่อตัวในใจ เขานึกถึงคำพูดของนที และรู้สึกถึงพลังงานที่ทั้งน่าสะพรกลัวและน่าหลงใหล เขาตัดสินใจขับรถไปที่คลับ Underworld โดยไม่รู้ว่าเขากำลังก้าวเข้าสู่กับดักที่ลึกยิ่งขึ้น
เมื่อธนากรมาถึงคลับ Underworld เขาเห็นนทีรออยู่ที่มุมส่วนตัวของคลับ แสงไฟสีแดงเข้มสาดส่องใบหน้าของเขา นทีโยนโซ่เงินบางๆ ที่มีตัวล็อกเล็กๆ มาให้ “สวมมันที่ข้อมืออีกข้าง แล้วเราจะคุยกัน” นทีพูดด้วยรอยยิ้มที่เหมือนจะกลืนกินเขา “นี่คือบทลงโทษแรกสำหรับความเย่อหยิ่งของคุณ” ธนากรรู้สึกถึงความโกรธ แต่ความกลัวว่าข้อมูลจะรั่วไหลทำให้เขายอมสวมโซ่ ความเย็นของโลหะทำให้เขาสะดุ้ง นทีเดินเข้ามาใกล้ กระซิบข้างหู “ดี... คุณเริ่มเรียนรู้แล้ว” ความร้อนจากลมหายใจของนทีทำให้ธนากรรู้สึกถึงพลังงานที่ทั้งน่าสะพรกลัวและยั่วยุ...
■□■□■□■□■□■□■□■□■□■□■□■□■
*โปรดติดตามตอนต่อไป* [เรื่องนี้ผมได้เขียนไว้จบแล้ว โดยจะทยอยลงเรื่อยๆนะครับ]
(สามารถให้กำลังใจโดยการ กดตรง (คะเเนน) เพื่อให้คะเเนน ผมได้นะครับ ขอบคุณค้าบบ)
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Eic-Q2553 เมื่อ 2025-7-19 15:17
เรื่องใหม่มาแล้วนะครับกับเรื่อง **ประธานทาสตกต่ำ** ฝากเข้ามาอ่านและติดตามกันด้วยนะคร้าบบ ปูเสื่อคอยตอนต่อไปครับ รอเลยครับ เรื่องเก่าก็ยังรอนะครับ สนุกมากครับ ชอบ ขอบคุณมากครับ ขอบคุณครับผม รออ่านต่อครับ{:5_137:} ขอบคุณครับ น่าติดตามมากครับ ขอบคุณมากครับ สนุกมากครับ ขอบคุณครับ อ่านแล้วสนุกดี ลุ้นเลยครับ โซ่เงินบางๆนั่น มีกลไกอะไรแฝงอยู่? ขอบคุณครับ สนุกมากครับ รอติดตามคับบ ขอบคุณครับ ลุ้นๆ
หน้า:
[1]