Red Tag : ออฟฟิศนี้มีพวกผม ep.7
Red Tag : ออฟฟิศนี้มีพวกผม/7/
ฮอลล์ศูนย์ประชุมกลางเมืองร้อนอบอ้าวกว่าปกติแม้แอร์จะทำงานจนลมเย็นรอบสแตนด์บูธ
เสียงประกาศตามไมค์ลอยในงาน Job Fair ที่บรรดานักศึกษามหาวิทยาลัยรัฐชื่อดังให้ความสนใจยังตัดกับเสียงเท้าเดินสวนกันของนักศึกษาจบใหม่ที่เดินเลือกใบสมัครในมือ
บูธสีเทา-เงินของ บริษัท SPIRIT CORPORATE ยืนเด่นอยู่ริมทางเดินหลัก โลโก้สวย เงาสะท้อนไฟ LED ส่องชื่อ SPIRIT จนขาวนวลเหมือนไม่มีมุมมืด แต่คนที่เดินผ่านแทบทั้งหมดไม่ได้มองแค่โลโก้
ข้างโต๊ะประชาสัมพันธ์ HR — แถวป้ายแดงจริง 3 คนยืนเรียงกัน พีทยืนหัวแถว ดิวอยู่ข้างหลัง และอีกคนเป็นเด็กใหม่ที่เพิ่งถูกเรียกชื่อเข้ามาจากสำนักงานเช้านี้ ทุกคนใส่ชุดพนักงานสำหรับออกงานอีเว้นท์ — เสื้อเชิ้ตสีอ่อนพับแขน ท่อนล่างเป็นกางเกงขาสั้นผ้าเนื้อบางกว่าทั่วไป ป้ายชื่อสีแดงเด่นคอห้อยชัดให้ทุกคนเห็น
หัวหน้า HR ยืนข้างเวทีบูธ มือถือไมค์ลอยพูดเสียงใส
“วันนี้เราอยากแนะ SPIRIT ของเรา อยากให้ทุกคน เห็น ว่าสวัสดิการเราพิเศษแค่ไหน — ทั้งค่าตอบแทน ความยืดหยุ่น และบรรยากาศทีมเวิร์ก”
เสียงหัวเราะแผ่วจากแถวเด็กหนุ่มเด็กสาวปีสุดท้ายที่มุงดู
สายตาส่วนใหญ่ไม่ได้จับอยู่บนสไลด์เงินเดือนในจอทีวีข้างหลัง แต่จับอยู่ตรงแนวขอบขากางเกงของป้ายแดงที่ยืนเรียงตัวตรง ไม่กล้าขยับหนี
“นี่คือทีม Support ของเราหรือพนักงานป้ายแดงค่ะ จะคอยสร้างสีสันในออฟฟิศเพื่อดูแลบรรยากาศให้คนเก่งทำงานกันได้ยาวนาน”
เสียง HR ย้ำประโยคนี้เหมือนสคริปต์ที่ซ้อมมา แต่สายตาผู้ชมบางส่วนอ่านได้ว่า มันไม่ได้แค่คำว่า Support ปกติ เธอไม่ได้ลงรายละเอียดว่าการดูแลบรรยากาศที่ว่าครอบคลุมถึงขนาดไหน แต่ของแบบนี้คนที่รู้ก็รู้ รุ่นพี่จากมหาลัยต่างๆ ที่เป็นพนักงานป้ายม่วงของบริษัทย่อมมีช่องทางการกระจายข่าวไปยังรุ่นน้องระดับหัวกระทิ ส่วนคนที่ไม่รู้ก็หมายความว่าคุณไม่มีคุณสมบัติพอที่บริษัทจะสนใจ การที่ HR มาออก Job Fair ครั้งนี้ก็เพื่อโชว์ตัวพนักงานป้ายแดงของบริษัทให้เด็กจบใหม่เห็นถึงคุณภาพแบบชัดๆ เพื่อกระตุ้นให้ตัดสินใจยื่นใบสมัคร
พีทยืนนิ่ง พยายามก้มมองเท้าเพื่อเลี่ยงมุมกล้องมือถือที่เด็กมหาลัยบางคนแอบยกขึ้นถ่าย ดิวอยู่ข้างหลังยังพอหันขำกลบเขิน แต่ขนแขนลุกเพราะรู้ว่าขอบขากางเกงบางจนเห็นแนวขนขาและต้นขาขาวชัดภายใต้ไฟสปอต
เสียงหัวหน้า HR ตบมือเบา ๆ “เอาล่ะ ไหนลองแนะนำตัวให้ผู้สนใจงานบริษัทเราฟังหน่อยสิคะ”
ดิวหายใจลึก ก้าวมาหนึ่งก้าว ขยับไมค์ “ผม…ดิวนะครับ อยู่ Support เกือบสามปีแล้ว สวัสดิการดีมากครับ อยู่สบาย มีอะไรพิเศษก็บอกพี่ ๆ Talent ได้เลย…”
เสียงหัวเราะจากนักศึกษาบางคนแถวหน้า “จริงเหรอพี่ ขนาดนั้นเลย?”
เสียงเพื่อนข้าง ๆ แซวตาม “ทำไมใส่ขาสั้นอ่ะพี่ บริษัทนี้ไม่มีชุดพนักงานเต็มตัวเหรอ?”
HR ยิ้มหวานแล้วตอบแทน “Support ของเราต้องโปร่งใสค่ะ บางวันเราจะมี Session ตรวจร่างกาย ตรวจสุขภาพกันในออฟฟิศต่อหน้าเพื่อน ๆ เพื่อความเชื่อมั่น — ทุกคนสมัครใจค่ะ ใครรับได้ก็อยู่กันได้ยาว”
เสียงหัวเราะหวิวแทรกเป็นคลื่น บางคนหยิบมือถือขึ้นมาอัดคลิปตรง ๆ
พีทเม้มปากแน่นเมื่อหัวหน้า HR โบกมือเรียกเขาออกมาข้างหน้า
มือเล็ก ๆ ของนักศึกษาใหม่ถือใบสมัครงานแกว่งไปมาเหมือนตั้งใจยั่ว
เด็กใหม่หัวเราะใส่ “พี่ พี่โชว์หน่อยดิ Spirit แท้ ๆ เขาทำยังไง?”
คำถามที่เหมือนเล่นแต่รอยยิ้ม HR บอกชัดว่าห้ามปฏิเสธ ดิวเอื้อมมือไปดึงขอบเสื้อเชิ้ตพีทให้ปลดกระดุมบนหนึ่งเม็ด มือพีทสั่นแต่ก็ทำตาม ใต้ไฟตรงเวทีแสงตกบนแนวอกบางกับเส้นขนหน้าท้องที่ซ่อนใต้ขอบกางเกงบาง ๆ
เสียงแชะมือถือดังซ้ำ ทุกแฟลชกดซ้ำภาพเดียว: เด็กป้ายแดงในบูธบริษัทที่บอกเป็นนัยว่า “สวัสดิการ” คือร่างกายพนักงานเอง
หัวหน้า HR พยักหน้า “Spirit ของเราคือความจริงใจค่ะ ใครพร้อมใจ ใครกล้าอยู่ด้วย ใครไม่ชินก็จะชินในไม่ช้า”
เสียงประกาศ Job Fair จากไมค์กลางดังแทรก
แต่ภาพของพนักงานป้ายแดงที่ยืนท่ามกลางไฟแฟลช กับเสียงหัวเราะของผู้สมัครใหม่ จะติดหูติดตาไปนานกว่าใบสมัครเงินเดือนที่พวกเขาหยิบกลับบ้าน
เสียงประกาศหางเสียงแหบของไมค์กลาง Hall ดังแข่งกับเสียงหัวเราะเงียบ ๆ ตามมุมบูธรับสมัครงาน บูธของ SPIRIT CORPORATE มีคนยืนมุงหนากว่าบูธธนาคาร บูธสายไอที หรือแม้แต่บูธบริษัทเงินเดือนสูงกว่ากันเท่าตัว — เพราะคนยืนแถวหน้าสุด ไม่ได้ยืนแค่ด้วยสูทและเรซูเม่ แต่ยืนด้วยร่างกายเกือบเปลือยกว่าครึ่ง
พีท ดิว และป้ายแดงอีกหนึ่งคนยืนเรียงใต้ป้าย Backdrop โลโก้ SPIRIT ชัด เสียงแฟลชมือถือดังเป็นจังหวะ เสียงซุบซิบจากนักศึกษาปีสุดท้ายที่ผ่านไปมาผสมเสียงหัวเราะสั้น
หัวหน้า HR กดไมค์เสียงนุ่ม “วันนี้ ใครสนใจดู Spirit Session สั้น ๆ ของเราบ้างคะ?”
เสียงนักศึกษากลุ่มหนึ่งหัวเราะกันเองแล้วตะโกน “โชว์ดิพี่! Spirit เขาทำยังไง!”
ดิวถอนหายใจ ขยับปลดกระดุมเม็ดบนของเสื้อเชิ้ตตัวเองตามสคริปต์ ชายเสื้อปลิ้นจนเห็นแนวขนหน้าท้องเหนือขอบกางเกงสั้น ตั้มโดน HR โบกมือเรียกให้ทำตาม — เขายังก้มหน้าเหมือนคนเพิ่งรับสภาพได้ครึ่งเดียว แต่ก็ปลดตามจนรอยแผงอกบาง ๆ โผล่ให้กล้องมือถือแถวหน้าถ่าย
กลุ่มนักศึกษาชายอีกแก๊งในชุดช็อปวิศวะเดินผ่าน หัวเราะดังเกินบูธอื่น หนึ่งในนั้นกระโดดเข้ามาแตะหัวไหล่พีท
“พี่ ๆ Spirit โหดปะ? ถ้าพวกผมสมัครผ่านจะได้ดูชัดๆ ทุกวันเลยใช่ไหม”
เสียงเพื่อนอีกคนแทรก “ลองให้พี่เขาก้มแตะเท้าหน่อยดิ๊ จะได้รู้ว่าขอบกางเกงมันร่นแค่ไหน ฮ่าๆ”
หัวหน้า HR ทำเหมือนจะห้าม แต่รอยยิ้มริมปากบอกว่าทั้งหมดนี้คือ การตลาด
เสียงหัวเราะของนักศึกษาพวกนั้นดังเกินพอให้คนที่เดินผ่านหันมามุงมากขึ้น
พีทก้มตัวตามที่โดนแซว มือกำขอบขากางเกงแน่น รู้ดีว่าถ้าก้มแรงไปอีกนิดจะเห็นเนินก้นครึ่งบนพร้อมรอยแยกใต้แสงไฟ LED ชัดกว่าป้ายชื่อที่ห้อยอยู่
คู่รักนักศึกษาคู่หนึ่งที่เดินผ่านบ่นใส่กันเบา ๆ
“เฮ้ย ดูดิ…เขาจ้างคนมาโชว์จริงเหรอวะ”
“บ้าดิ ใครจะยอม…หรือมันได้เยอะ?”
“แล้วดูหน้าเขาดิ เหมือนเต็มใจมั้ย…”
กลางเวที มีบอร์ดรีวิวชีวิตจริง — HR ดึงตั้มที่เพิ่งก้มหน้าก้มตาทำตามคำสั่งไปนั่งบนเก้าอี้ตัวเตี้ย แล้วเชิญผู้สมัครใหม่ขึ้นมาลอง “แนะนำ Spirit” ด้วยการ เขียนคีย์เวิร์ด ลงบนหน้าท้องพนักงานป้ายแดงด้วยปากกาไวท์บอร์ด
นักศึกษาหญิงสองคนผลักกันหัวเราะแล้วอาสา บรรยากาศเหมือนโชว์น่ารัก แต่สายตาของพีทที่กัดปากแน่นตรงขอบกางเกงขาสั้นมันเล่าอีกเรื่อง
กลุ่มเด็กนิเทศปี 4 ที่ถ่าย Vlog เดินเข้ามาล้อม
“ขอถ่ายสัมภาษณ์หน่อยครับ! อยากรู้ว่า Spirit จริง ๆ เป็นยังไง”
ดิวขำในคอ แต่เสียงหัวเราะมันเหมือนฝืน “ก็…ก็แค่ดูแลคนในบริษัท ให้พี่ ๆ Talent ทำงานได้สบายขึ้น…”
เสียงเด็กในกล้องแซว “แล้วมันสบายมั้ยพี่?”
ดิวสบตากล้อง เหงื่อซึมตามไรผม แม้แอร์จะเย็นจัด
ระหว่างนั้นเอง มีเสียงเรียกสั้น ๆ จากแถวหลัง
“เฮ้ย…พีท?”
พีทหันไปช้า ๆ เห็นหน้าเพื่อนสมัยมหาลัยที่เข้ามาทำงานในกรุงเทพเหมือนกันเพิ่งเลิกงานแล้วแวะมาเดินดูบรรยากาศเล่น
เพื่อนทำหน้าพิลึกยกคิ้วเหมือนจะถามว่า นี่ใช่งานที่พีทเคยคุยโวตอนเลี้ยงรุ่นจริงเหรอ?
“นี่…คือ…” พีทพยายามยิ้ม แต่ข้อมือที่กำป้ายชื่อสีแดงมันรัดแน่นจนหลังมือซีด
เสียงเพื่อนถามเบาแต่เจ็บกว่าเสียงแซวของนักศึกษาที่มุงอยู่ข้างหน้า “นี่คือ ‘งานดี ๆ’ ที่มึงเล่าใช่มั้ย?”
พีทได้แต่ก้มหน้า เหงื่อบนแนวขนหน้าท้องมันเหนียวหนึบเหมือนโซ่เส้นเล็กที่มัดคำโกหกทั้งหมดเอาไว้ เสียงโห่ดังรอบใหม่
นักศึกษาที่มุงรอบเวทีหัวเราะแห้งแต่เสียงมือถือแชะไฟล์ยังรัวไม่หยุด
เสียงเบสตื้ดตื้ดจากบูธบริษัทเกมฝั่งข้าง ๆ ดังจนพื้นบูธสะเทือน แสงไฟ LED วูบวาบตามจังหวะดนตรี Mascot รูปหมีใส่ชุดเอี้ยมสีฟ้าเต้นเด้งเอวอยู่กลางเวที ล้อมด้วยนักศึกษากลุ่มใหญ่ที่หัวเราะถ่าย TikTok กันเต็มมือ
หัวหน้า HR ของ SPIRIT CORPORATE ยืนกอดอกมองจากมุมบูธตัวเอง แววตาไม่พอใจ — เพราะเสียงโห่ร้องในงานที่เมื่อครู่ยังรุมล้อมป้ายแดงของบริษัท ตอนนี้ถูกดึงไปทาง Mascot เต้นหมด
เสียงหัวหน้า HR ดังสั้น ๆ “พวกเธอ…ออกไปข้างหน้าเลยสิ”
พีท ดิว ตั้ม หันขวับเหมือนได้ยินผิด ดิวขมวดคิ้ว “ไปทำอะไรครับพี่?”
หัวหน้า HR ยิ้มบางแต่เสียงกดต่ำ “Mascot ยังเต้นได้ ทำไม Red Tag จะเต้นไม่ได้? ออกไป โชว์ Spirit หน่อย”
เสียงหัวเราะของป้ายม่วงที่ยืนมุงอยู่ข้างในดังกว่าไฟเบสตื้ดตื้ดนั่นอีก
“เด้งดี ๆ ล่ะ อย่าให้แพ้หมี ฮ่าๆ”
พีทหน้าแดง มือกำป้ายชื่อแน่น ตั้มถอนหายใจเหมือนคนทำใจได้ครึ่งเดียว ดิวแกล้งหัวเราะกลบแต่ปลายนิ้วก็กำขอบกางเกงขาสั้นแน่นเพราะรู้ดีว่ามันจะเด้งยังไงต่อหน้าคนทั้งฮอลล์
คราวนี้ HR ชี้มือไปที่ลานว่างหน้า Backdrop บูธ SPIRIT
“ตรงนั้นเลย พอคนมุงค่อยแจกใบสมัครต่อ!”
สามคนเดินออกไปทีละก้าว — กลางเสียงหัวเราะกึ่งเชียร์จากนักศึกษาที่เริ่มมุงอีกรอบ
“โอ้ย จริงดิพี่! บริษัทนี้ให้พนักงานเต้นเองเลยเหรอวะ!”
พีทกัดฟัน ดิวหันไปสะกิดไหล่ “ทำ ๆ ไปเหอะ กูไม่อยากโดนเรียกเข้า Spirit Room ซ้ำ”
เสียงหัวเราะรอบข้างโอบวงแน่นกว่าเพลงเบส
เสียงมือถือดังแชะเป็นระยะ — กล้องส่องแนวเอวกับต้นขาของพีทที่เด้งตามจังหวะเพลง
ตั้มยังลังเลแต่ไฟสปอตจากบูธข้าง ๆ ส่องมาเต็มใบหน้า
เขาสูดลมหายใจแล้วขยับตาม — เอวเด้งช้า ๆ มือแตะหัวเข่า ย่อตัวนิด ๆ จนขอบกางเกงขาสั้นร่นขึ้นพ้นแนวขนขารั้งเป้านูนเด่น เมื่อหันไปทางพีทก็เห็นอีกฝ่ายเด้งหน้าเด้งหลังร่างกายท่อนล่างเร็วรัวจนลำเนื้อข้างในแกว่งกระแทกตาตามเสียงเชียร์กึ่งสั่งจาก HR และป้ายม่วงที่ตามมาคุม
เสียงเด็กกลุ่มหนึ่งตะโกนขำ “โหฝั่ง Red Tag เขามีของว่ะ Mascot หมีจืดไปเลย!”
เสียงเพื่อนเก่าของพีทยังมองจากมุมไกล — แววตายิ่งชัดว่าทุกคำคุยโวของพีทเมื่อคืนเลี้ยงรุ่นที่ต่างจังหวัด…มันก็แค่คำลวงกลบความจริง
พีทหลุบตา มือกำป้ายชื่อแน่นเหมือนกำโซ่ เงาไฟสปอตเต้นบนแนวสะโพกที่กระตุกตามจังหวะเพลง
เสียงหัวหน้า HR ยืนหลังบูธกดมือถือ ถ่ายภาพคลิปซ้ำ เหมือนเก็บเป็นไฟล์หลักฐานซ้ำอีกชั้น
เสียงหัวเราะก้อง Hall — เบส Mascot ดังแซม — แต่ภาพป้ายแดงสามคนที่เด้งเอวเรียกลูกค้ากลางบูธโลโก้ SPIRIT นั้น…ดังในหัวพวกเขามากกว่าเสียงเพลง
คืนนี้ Spirit ยังไม่จบ — แค่ย้ายจากไฟห้องประชุม มาลองเต้นไฟกลางศูนย์ประชุมแทน
เสียงประกาศ Job Fair ปิดท้ายดังแทรกกลางแสงแฟลช
แต่ภาพของป้ายแดงที่ยืนในไฟเจิดจ้าใต้ชุดขาสั้น รอยยิ้มฝืด ชายเสื้อสั้นหลุดรุ่ยเห็นเส้นขนหน้าท้องเปียกเหงื่อ และท่อนลำอวบที่ขยับไปมาตามจังหวะเต้น จะยังติดตาเด็กจบใหม่อีกหลายคน
เหมือนข้อความในสัญญาจ้างที่เล็ดลอดผ่านช่องโหว่ของกฎหมาย กลายมาเป็นพันธนาการผ่านป้ายชื่อสีแดงสดที่คล้องคอ
สนุกมากครับ ขอบคุณนะครับ เพื่อนรู้ความจริงแล้ว ต่อไปจะโดนอะไรบ้างนะ ขอบคุณ
หน้า:
[1]