ช่วยผมด้วย..ผมโดนมาเฟียรุมข่มขืน!? ตอนพิเศษ 1.3 (เรนxเจบี)
ตอนพิเศษ 1.3หน้าร้อน🔥Day 3 เทศกาลดอกไม้ไฟที่โอซาก้า
"รู้ไหม เทศกาลเทนจินที่โอซาก้า...มีมาตั้งแต่พันกว่าปีก่อนแล้ว"
เสียงทุ้มต่ำดังขึ้นท่ามกลางเสียงลมหอบเบา ๆ ที่พัดผ่านแม่น้ำโอคาวะยามเย็น เรนพูดขึ้นเรียบ ๆ ขณะก้าวเดินเคียงข้างเจบีในเส้นทางที่เริ่มประดับไฟระยิบระยับทีละจุด
เจบีที่กำลังก้มหน้าก้มตาเดินชะงักนิดหนึ่ง เงยหน้าขึ้นสบตาเรนอย่างไม่ทันตั้งตัว
"เริ่มจากการสักการะเทพเจ้าเทนมังกู" เรนว่าต่อเสียงนิ่ง ๆ แต่จังหวะเอื้อนเอ่ยกลับเหมือนเล่าเรื่องเงียบ ๆ ให้ฟังเพียงแค่สองคน "แล้วก็ค่อย ๆ กลายเป็นงานใหญ่...ทั้งขบวนเรือทั้งดอกไม้ไฟ คนทั้งเมืองออกมาฉลองด้วยกัน"
บรรยากาศรอบตัวเริ่มคึกคักขึ้นเรื่อย ๆ ร้านแผงลอยริมแม่น้ำตั้งเรียงรายตลอดสองข้างทาง กลิ่นหอมของอาหารย่างลอยมาปะทะจมูกเป็นระยะ คลอไปกับเสียงหัวเราะของผู้คน
"คืนนี้...ทั้งแม่น้ำจะเต็มไปด้วยเรือโคมไฟ แล้วก็มีดอกไม้ไฟจุดขึ้นพร้อมกันทั้งสองฝั่ง"
เรนชะลอฝีเท้าให้พอดีกับจังหวะของเจบี ก่อนจะเอ่ยเสริมเบา ๆ เหมือนพูดเล่น แต่ในน้ำเสียงมีอะไรบางอย่างที่หนักแน่นกว่าคำหยอก
"สวยมาก...แต่ถ้ามีนายอยู่ด้วย คงสวยกว่านั้น"
คำพูดธรรมดา ๆ ลอยปะปนไปกับเสียงลม เจบีหลบสายตา รีบก้มหน้าลง มือที่ไถขอบเสื้อยืดไปมาเหมือนไม่รู้จะเก็บมือไว้ที่ไหน
เรนเดินเคียงข้าง มือหนึ่งล้วงกระเป๋าเสื้ออย่างสบาย ๆ อีกมือคอยกันไม่ให้เจบีโดนเบียดในฝูงชนโดยที่เจ้าตัวแทบไม่รู้ตัว
"อยากลองกินอะไรไหม" เรนถามขึ้นเรียบ ๆ ในขณะที่ดวงตากวาดมองแผงลอยข้างทาง
เจบีหันไปมองร้านปลาทองกระโดดที่กำลังมีเด็ก ๆ ล้อมวงอยู่ เขาลังเลเล็กน้อย ก่อนจะส่ายหน้าเบา ๆ
"อยากเดินดูก่อน..." เสียงตอบแผ่วเบา แต่แฝงความตื่นเต้นในที
เรนพยักหน้ารับ ก่อนจะก้าวช้าลงเพื่อให้เจบีได้เดินชมได้เต็มที่ เสียงรองเท้ากระทบพื้นถนนคละไปกับเสียงผู้คนที่ขวักไขว่ บางจังหวะมีแสงไฟสาดผ่านหน้าจากแผงขายหน้ากากหรือเกมปาโป่งที่แข่งกันส่งเสียงเรียกแขก
เรนเหลือบมองเจบีที่ก้าวไปข้างหน้าอย่างสนใจสิ่งต่าง ๆ รอบตัว ดวงตากลมโตสะท้อนแสงไฟระยิบระยับในยามค่ำคืน ทำให้เขาอดยิ้มตามไม่ได้
มือของเรนเลื่อนไปสัมผัสมือเจบีเบา ๆ เหมือนจงใจบังเอิญ ก่อนจะสอดประสานนิ้วเข้าด้วยกันอย่างแนบแน่น ท่ามกลางฝูงชนที่ไม่มีใครสังเกต
เจบีสะดุ้งนิด ๆ แต่ไม่ได้ดึงมือหนี มีเพียงแก้มที่ขึ้นสีแดงเรื่อเล็กน้อยในแสงไฟริบหรี่ของงาน
เมื่อเดินมาถึงร้านขายของที่ระลึกแห่งหนึ่ง แผงไม้เรียงรายไปด้วยสร้อยข้อมือ ถุงเครื่องราง และพวงกุญแจลายดอกไม้ไฟสีสด
เจบีชะโงกหน้าเข้าไปมองนิดหนึ่ง ก่อนจะถอยออกมาเงียบ ๆ อย่างไม่กล้าเข้าไปเลือก
เรนเหลือบตามอง ก่อนจะยกมือจับต้นแขนเจบีไว้เบา ๆ แล้วออกแรงดันให้อีกฝ่ายเข้าไปยืนหน้าร้านอย่างไม่ต้องคิดมาก
"เลือกเลย" เขาพูดเสียงนิ่ง ๆ แต่หนักแน่นเหมือนคำสั่งกลาย ๆ
เจบีอึกอัก กวาดตาไปรอบ ๆ อย่างลังเล
"ไม่เป็นไร...แค่เดินดูเฉย ๆ ก็พอแล้วมั้ง" เขาพึมพำเบา ๆ
เรนไม่สนใจคำปฏิเสธแม้แต่น้อย ล้วงมือเข้าไปในกระเป๋ากางเกง หยิบเงินสดออกมาพร้อมยื่นให้คนขายหน้าตาเฉย
"สองชิ้น" เขาว่าเสียงนิ่งราบเรียบ "อันหนึ่งของเขา...อีกอันของฉัน"
เจบีตาโตทันที รีบคว้ามือเรนไว้
"เฮ้ เดี๋ยวสิ ฉันยังไม่ได้เลือก—"
"เลือกเร็ว ๆ" เรนพูดแทรกเรียบ ๆ ยกคิ้วขึ้นนิด ๆ อย่างเอาแต่ใจจาง ๆ แบบที่เจบีเถียงไม่เคยชนะสักที
สุดท้ายเจบีก็ทำหน้าเหมือนคนยอมแพ้ ค่อย ๆ ชี้ไปที่สร้อยข้อมือเส้นบางที่ถักด้วยด้ายสีฟ้าอ่อน ประดับลูกปัดเม็ดเล็กสลักลายดอกไม้ไฟสีเงิน
เรนมองตามอย่างพอใจ ก่อนจะหยิบเส้นที่คล้ายกันในโทนเข้มกว่าให้ตัวเอง แล้วพยักหน้าเป็นเชิงให้คนขายห่อให้ทันที
ไม่ถึงนาที เจบีก็ถูกเรนดึงข้อมือขึ้นมาสวมสร้อยให้กลางร้านอย่างไม่ถามอะไรทั้งนั้น ปลายนิ้วของเรนเย็นนิด ๆ เพราะลมแม่น้ำ แต่สัมผัสกลับแผ่วเบา อ่อนโยน จนเจบีทำอะไรไม่ถูก ได้แต่ปล่อยให้เขาจัดการเหมือนเจ้าตัวเล็กที่ยอมให้จับแต่งตัวอย่างว่าง่าย
"คราวนี้..." เรนกระซิบเบา ๆ ขณะกระชับสร้อยที่ข้อมือเจบีให้เข้าที่ "จะได้รู้ว่านายเป็นของใคร"
เจบีหน้าแดงเถือกทันที รีบก้มหน้ามองมือที่มีสร้อยข้อมือเส้นใหม่แนบอยู่เหมือนจะซ่อนความเขิน
เรนหัวเราะเบา ๆ ในลำคอ หยิบสร้อยอีกเส้นขึ้นมาสวมให้ตัวเองบ้างอย่างไม่รีบร้อน ก่อนจะจับข้อมือเจบีเบา ๆ แล้วออกแรงลากให้ออกเดินต่อไปราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น
เสียงประกาศเบา ๆ ดังก้องไปทั่วบริเวณ เตือนว่าการแสดงดอกไม้ไฟจะเริ่มขึ้นในอีกไม่นาน ผู้คนรอบข้างเริ่มขยับหามุมที่ดีที่สุดริมแม่น้ำ บ้างนั่งลงบนผ้าปู บ้างก็จับกลุ่มอยู่หน้าร้านค้า รอชมแสงสีที่กำลังจะทอเต็มฟ้า
เรนกระชับมือเจบีแน่นขึ้นนิดหนึ่ง ก่อนจะโน้มตัวลงมากระซิบข้างหูด้วยน้ำเสียงต่ำเจือรอยยิ้ม
"รีบไปหาที่นั่งดี ๆ กันเถอะ"
ไออุ่นจากลมหายใจที่เฉียดข้างแก้มทำให้เจบีชะงักไปเสี้ยววินาที แต่ยังไม่ทันได้ตอบรับ อีกฝ่ายก็ออกแรงดึงให้เดินตามไปเสียแล้ว
เรนพาเขาลัดเลาะออกจากฝูงชน ผ่านกลุ่มเด็กที่วิ่งเล่นกับพ่อแม่ และแผงลอยที่เริ่มปิดไฟบางส่วนเพื่อให้แสงจากฟ้าคืนได้ทำงานของมัน
พวกเขาเดินมาหยุดตรงริมแม่น้ำที่คนยังไม่เยอะนัก ใต้ต้นซากุระที่แม้จะไม่มีดอกแล้ว แต่เงาใบก็พลิ้วตามลมได้อย่างเงียบสงบ
"ตรงนี้ดีไหม" เรนถามขึ้นเรียบ ๆ แต่ไม่ได้รอคำตอบ เขาค่อย ๆ นั่งลงก่อน ดึงเจบีให้นั่งลงข้างกันโดยไม่ปล่อยมือ
เจบีทรุดตัวลงบนพื้นผ้าใบที่ใครบางคนทิ้งไว้ให้เหมือนความบังเอิญ เขากำลังจะพูดขอบคุณ แต่กลับเงียบไปเมื่อสายตาของเรนมองตรงมาด้วยแววที่ไม่ต้องการคำใด ๆ
“เหนื่อยไหม?” เรนถามเบา ๆ
เจบีส่ายหน้านิด ๆ ก่อนจะตอบกลับอย่างแผ่วเบา “ไม่เลย…”
มือของเรนที่วางอยู่ข้างกันขยับมาแตะแขนเจบีเบา ๆ แล้วค่อย ๆ เลื่อนลงมาจับมือเขาไว้แน่น ราวกับไม่อยากให้ความรู้สึกนี้หลุดลอยไปกับสายลม
ทันใดนั้น เสียงดัง “ปัง” แรกก็เกิดขึ้นบนฟ้า
แสงสีทองพุ่งขึ้นกลางท้องฟ้ามืด ก่อนจะแตกตัวเป็นวงกว้างอย่างงดงาม
เจบีเงยหน้าขึ้นตามแสงนั้น ดวงตากลมโตฉายแสงวาวสะท้อนสีของดอกไม้ไฟที่เปล่งประกาย
ข้าง ๆ เขา เรนยังคงนั่งนิ่ง ไม่ได้มองฟ้า แต่กลับมองเจบีแทน
"...สวยใช่ไหม" เจบีถามโดยไม่ละสายตาจากท้องฟ้า
เรนตอบช้า ๆ ด้วยน้ำเสียงราบเรียบ แต่มั่นคง
"อืม...โดยเฉพาะตอนที่มีนายอยู่ตรงนี้"
เจบีหัวเราะเบา ๆ เหมือนจะดุ แต่ก็พูดอะไรไม่ออกนอกจากยิ้มเอียง ๆ อย่างพอใจ แล้วปล่อยให้มือของเขายังคงอยู่ในอุ้งมืออุ่น ๆ ของอีกฝ่ายต่อไป
เสียงดอกไม้ไฟลูกต่อไปทะยานขึ้นสู่ฟ้า แสงสีชมพูอ่อนระเบิดตัวกลางท้องฟ้าเป็นลายคล้ายดอกซากุระบาน
เจบีเงยหน้ามองภาพตรงหน้าด้วยแววตาเป็นประกาย ดวงตากลมโตสะท้อนแสงพลุอย่างตื่นตา พร้อมกับรอยยิ้มบาง ๆ ที่ผุดขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ
เขาไม่รู้ตัวเลยว่า ในจังหวะที่เอียงไหล่มาพิงกับต้นแขนของเรนเล็กน้อย หัวใจของใครอีกคนข้างตัวก็เต้นแรงขึ้นไปพร้อม ๆ กัน
แล้วในจังหวะที่ท้องฟ้าสว่างไสวที่สุด
เรนก็ก้มหน้าลงเล็กน้อย กระซิบเบา ๆ ข้างใบหูเจบีด้วยน้ำเสียงที่ฟังดูนิ่ง แต่กลับสัมผัสถึงแรงสั่นบางอย่างในถ้อยคำ
"ตอนแรกแค่อยากพามาดูดอกไม้ไฟ..."
เขาหยุดไปนิดหนึ่ง เหมือนกลั้นบางอย่างที่ยังไม่กล้าพูดเต็มปาก
แล้วจึงเอ่ยต่อด้วยเสียงเบากว่าเดิม
"แต่ตอนนี้...แค่นายอยู่ตรงนี้ อย่างอื่นก็ไม่มีความหมายอีกแล้ว"
เจบีชะงัก ดวงตากลมโตยังคงมองแสงสว่างเหนือศีรษะโดยไม่ตอบอะไร มือของเขายังถูกเรนกุมไว้แน่น
เสียงพลุดอกสุดท้ายพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้ายามค่ำ กลืนหายไปในเงามืดชั่วขณะ ก่อนจะระเบิดเป็นแสงสีทองเจิดจ้า กระจายตัวเป็นเส้นสายพร่างพรายกลางฟ้าอย่างช้า ๆ ราวกับหยุดเวลาไว้ชั่วครู่
ทุกสายตาแหงนมองขึ้นอย่างตื่นตา ยกเว้นเพียงคนหนึ่งที่ไม่ได้ละสายตาไปจากคนข้างกายแม้แต่น้อย
และในจังหวะที่แสงพลุระเบิดแผ่กว้างที่สุด สาดสีทองทาบไหล่และแก้มพวกเขาทั้งคู่ เรนก็ค่อย ๆ โน้มใบหน้าเข้ามา และแนบริมฝีปากลงบนริมฝีปากของเจบีอย่างแผ่วเบา
เจบีหลับตาลงช้า ๆ รับสัมผัสนั้นด้วยหัวใจที่เต้นแรงขึ้นจนตัวเองยังได้ยิน ขณะที่ดอกไม้ไฟค่อย ๆ มอดลง ทิ้งเพียงกลุ่มควันบาง ๆ บนฟ้า และความเงียบที่อบอวลอยู่ระหว่างพวกเขา ริมฝีปากผละออกอย่างอ้อยอิ่ง
ท้องฟ้ากลับมามืดสนิทอีกครั้ง
เรนไม่พูดอะไรอีก เพียงมองคนตรงหน้าที่หลุบตาต่ำ รอยแดงจาง ๆ ปรากฏบนแก้มขาวอย่างหลบไม่ทัน เจบีไม่ได้หลบตาเขาเหมือนเคย แค่ค่อย ๆ ยกยิ้มบาง ๆ มุมปาก ก่อนจะกระซิบกลับเสียงเบา
"…ฉันก็เหมือนกัน"
...
เสียงฝีเท้าของผู้คนเริ่มกลับมาอีกครั้งเมื่อพลุจบลง แสงไฟจากแผงลอยค่อย ๆ สว่างขึ้นอีกครั้งแทนที่ท้องฟ้า กลิ่นขนมหวาน กลิ่นเนื้อย่าง และกลิ่นปลาหมึกทอดเริ่มลอยมาตามลมเหมือนชวนเชิญ
เจบีก้มหน้ามองพื้นเล็กน้อย แต่หางตายังมองเงาของเรนข้างตัวอยู่ตลอด เขาไม่พูดอะไร แค่เดินตามแรงจูงที่อีกฝ่ายยังไม่ยอมปล่อย
พอเดินถึงร้านขนมที่มีแสงไฟกระพริบสีแดงอมชมพู เจบีหยุดมองโมจิถั่วแดงที่ถูกย่างจนผิวด้านนอกเกรียมนิด ๆ ดวงตากลมโตวาวขึ้นเล็กน้อยอย่างลืมตัว แบบที่เจ้าตัวเองก็คงไม่รู้ว่าเผลอมองนานแค่ไหนเรนเหลือบมองแค่นิดเดียว ก่อนจะเดินไปยื่นเงินให้โดยไม่เอ่ยถามสักคำ
"ฉันแค่มอง ยังไม่ได้จะซื้อเลย" เจบีพึมพำเสียงเบาเมื่ออีกฝ่ายยื่นถุงกระดาษใส่โมจิให้ตรงหน้า
“ลองกินดู อร่อยนะ” เรนตอบนิ่ง ๆ ขณะยื่นของให้ด้วยมือเดียว ไม่แม้แต่จะหันหน้ากลับมามองนาน
เจบีรับไว้ด้วยสีหน้าที่ดูเหมือนจะบ่นอีกครั้ง แต่ก็ทำไม่ได้จริงจังนัก สีหน้าเขายังแดงระเรื่ออยู่เหมือนยังไม่หายจากช่วงก่อนหน้า
พอเดินต่อถึงร้านน้ำผลไม้ เรนหยิบแก้วน้ำองุ่นเย็น ๆ มาอีกแก้วแล้วยื่นให้เหมือนเดิม คราวนี้เจบีไม่เถียงอะไร แค่รับไว้แล้วพูดเสียงแผ่ว
"...นายจะซื้อให้ฉันแบบนี้ไปตลอดเลยหรือไง"
เรนหันมามองแวบหนึ่ง เงียบไปนิด แล้วตอบเรียบ ๆ โดยไม่เปลี่ยนน้ำเสียง
“ถ้านายยังมองของกินด้วยสายตาแบบนั้น...ก็ใช่”
เจบีชะงักไปเล็กน้อยก่อนจะหลุบตาลง มุมปากขยับขึ้นนิดหน่อยเหมือนห้ามยิ้มไม่อยู่ เขาไม่พูดอะไรอีก แค่เดินต่อไปข้างกันเงียบ ๆ พร้อมถุงโมจิและน้ำองุ่นในมือ
ในขณะที่มืออีกข้าง...ยังคงถูกกุมไว้อย่างหลวม ๆ ไม่ได้ปล่อย
เรนพาเขาเลี้ยวออกจากถนนหลักของงานเทศกาล มุ่งหน้าไปยังพื้นที่เงียบ ๆ ใต้ต้นซากุระที่ไร้ดอก ริมศาลาริมน้ำที่คนไม่ค่อยเดินผ่าน มีเพียงแสงไฟจากงานด้านนอกที่ส่องเข้ามาพอให้เห็นเงาจาง ๆ ของกันและกันบนพื้น
เจบีนั่งลงก่อน ขยับตัวเล็กน้อยให้กระชับที่นั่ง แล้วหยิบโมจิขึ้นมากัดคำเล็ก ๆ แก้มขยับนิด ๆ ก่อนจะหลับตาพริมอยู่ครู่หนึ่งเพราะรสหวานของถั่วแดงกับกลิ่นไหม้กรุ่น ๆ จากการย่างมันเข้ากันเกินคาด
เรนเหลือบมองแล้วเผลอยิ้มตาม ก่อนที่เจบีจะหันมาทำหน้าเหมือนจะชวนใครเล่น แล้วยื่นถุงโมจิให้ตรงหน้า
“นายก็กัดสักคำสิ” เจบีพูดเสียงไม่ดังมาก แต่แฝงจังหวะอ้อนเบา ๆ แบบคนรู้ตัว
เรนเลิกคิ้วนิด ๆ มองเจ้าตัวแล้วก็ยื่นหน้ามากัดโมจิเข้าปากอย่างว่าง่าย ไม่พูดอะไรให้มากความ ลิ้มรสความนุ่มและหวานของขนมในมือ...พร้อมกับรสของช่วงเวลานี้ที่แอบอร่อยกว่า
เขากลืนลงแล้วพยักหน้าเบา ๆ
“อืม อร่อยจริง อร่อยมากด้วย”
สีหน้าเรนตอนพูดจริงจังเสียจนเจบีหลุดขำ เขาส่ายหน้าเบา ๆ แล้วอมยิ้ม
“พูดเหมือนเพิ่งกินโมจิครั้งแรกในชีวิตเลยนะ”
“ก็ของที่นายแบ่ง...มันอร่อยกว่าปกติ” เรนตอบพลางเอียงตัวพิงพนักเบา ๆ น้ำเสียงยังนิ่งเหมือนเดิม แต่แววตาไม่ใช่
เจบีเบือนหน้าหนีเล็กน้อยเพื่อไม่ให้เรนเห็นรอยยิ้มบนแก้ม เขาเคี้ยวขนมอีกคำ ก่อนจะหันกลับมามองเรน แล้วพึมพำ
“นายตัวสูงจังนะ...ฉันสงสัยตั้งแต่แรกแล้วว่านายเป็นลูกครึ่งรึเปล่า”
เรนกระพริบตาช้า ๆ เหมือนไม่ทันตั้งตัวกับคำถาม ก่อนจะตอบเรียบ ๆ
“เปล่า หรือนายหวังว่าอยากให้ฉันเป็น?”
“ก็แค่ถาม!” เจบีรีบสวน แก้มแดงขึ้นมาอีกระลอกทั้งที่ไม่มีดอกไม้ไฟแล้ว
“เพราะคนในกลุ่มขนนกสีเงิน...ตัวโต หน้าดี กันหมดเลย ฉันเริ่มสงสัยว่าต้องผ่านเกณฑ์รูปร่างก่อนหรือเปล่า…”
“อ๋อ ใช่” เรนพยักหน้าจริงจัง “มีขั้นตอนสัมภาษณ์ด้วยนะ ใครไม่สูงเกิน 180 เซนก็ต้องกลับบ้าน”
เจบีหลุดขำทันที “โกหก”
“ไม่เชื่อก็ลองไปถามเสี่ยวไป๋สิ” เรนว่าเรียบ ๆ ก่อนจะหันหน้าหนีแบบคนกลั้นขำไว้ในลำคอ
เจบีส่ายหน้าช้า ๆ แล้วก้มลงมองโมจิในมือที่เหลืออีกนิดเดียว ก่อนจะพูดเสียงเบาเหมือนตั้งใจพูดกับตัวเอง
“ดีจังเลยนะ...อย่างกับฝันเลย”
เรนหันมา ยิ้มบาง ๆ แล้วยกมือลูบผมนุ่มของเจบีอย่างแผ่วเบา ปลายนิ้วแตะเบา ๆ ตรงกลางศีรษะเหมือนคนไม่คุ้นชินกับการแสดงความรัก แต่พยายามจะทำให้ถูก
“ทำไมหรอ”
เจบียังไม่หันมา เขามองถุงโมจิในมืออย่างเงียบ ๆ ราวกับกำลังพยายามกลั่นคำพูดออกมาทีละนิด ก่อนจะเอ่ยเสียงเบา
“ฉันเคยคิดนะ...ว่าช่วงเวลาแบบนี้มันจะมีอยู่จริงมั้ย”
เขาหยุดเล็กน้อย แล้วค่อย ๆ หายใจเข้าลึก ราวกับกลัวว่าถ้าพูดเร็วเกินไป ใจจะตามไม่ทัน
“เพราะโลกที่ฉันเคยอยู่...มันโหดร้ายจนไม่เหลือที่ว่างให้ฝันอะไรแบบนี้เลย”
เรนนั่งเงียบ รับฟังอย่างตั้งใจ
เจบีค่อย ๆ ขยับตัวนิดหนึ่ง เหมือนยอมปล่อยความรู้สึกที่เคยกดไว้ให้ออกมาได้ทีละชั้น
“ฉันรู้สึกว่าตัวเองแตกสลายมานับครั้งไม่ถ้วน บางครั้ง...แค่ลมหายใจก็รู้สึกเหนื่อยแทบบอกไม่ถูก”
เสียงของเขายังคงนิ่ง แต่ฟังแล้วชัดเจนว่ามีรอยร้าวอยู่ทุกถ้อยคำ
“ทุกครั้งที่แทบจะถอดใจ แล้วคิดว่าจะหายไปจากโลกนี้ซะ ฉันก็มักจะวาดฝัน...ว่าถ้าเกิดปาฏิหาริย์ขึ้นมาได้ ฉันอยากจะโบยบินอย่างอิสระ เหมือนผีเสื้อ ที่ได้เชยชมดอกไม้ตามใจตัวเองสักครั้ง”
เรนค่อย ๆ ขยับตัวเข้าใกล้ เขาเอื้อมแขนโอบรอบไหล่เจบีช้า ๆ ก่อนจะดึงร่างนั้นเข้ามาแนบอกโดยไม่ต้องขออนุญาต
เจบีไม่ได้ขัดขืน เขาปล่อยตัวพิงอกอีกฝ่ายเงียบ ๆ เหมือนกำลังพยายามกลั้นบางอย่างไว้ในใจ
เสียงลมหายใจของเรนดังชัดเจนใกล้หู ขณะฝ่ามืออุ่น ๆ ลูบหลังเขาเบา ๆ อย่างระมัดระวัง ราวกับไม่อยากให้เจบีแตกสลายไปตรงหน้า
“ฉันก็เคยคิดนะ…”
เสียงของเรนดังขึ้นชิดข้างหู เป็นแค่คำพูดธรรมดา แต่ทิ้งน้ำหนักไว้ในอกอย่างชัดเจน
“...ว่าบนโลกนี้คงไม่มีรอยยิ้มที่เป็นของฉันอีกแล้ว”
เขาหยุดไปเล็กน้อย ลมหายใจร้อนเฉียดผ่านข้างแก้มเจบีขณะกระซิบช้า ๆ
“แต่นาย...ทำให้ฉันยิ้มได้อีกครั้ง”
...
หลังจากนั่งเงียบอยู่ข้างกันพักใหญ่ เจบีก็ยืดตัวขึ้นช้า ๆ ขยับไหล่เบา ๆ เหมือนพอจะกลับมามีแรงนิดหน่อย แม้จะยังไม่ได้พูดอะไร แต่แววตาของเขาก็ดูผ่อนคลายกว่าก่อนหน้านี้เล็กน้อย
เรนลุกขึ้นยืนเต็มความสูง มองเจบีที่ยังนั่งอยู่ แล้วเอ่ยขึ้นเรียบ ๆ
“ลุกไหวมั้ย”
เจบีพยักหน้า แต่ยังไม่ทันได้ขยับ เรนก็หันหลังให้แล้วโน้มตัวลงเล็กน้อย ก่อนจะพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเรียบ ๆ
“ขึ้นมา เดี๋ยวฉันแบก”
เจบีชะงัก “อะไรนะ?”
“ขี่หลังไง” เรนตอบนิ่ง ๆ อย่างคนพูดจริง
เจบีรีบส่ายหน้า “ไม่เอา จะบ้าเหรอ…”
“หรือจะให้ฉันอุ้ม” เรนว่าเสียงสบาย ๆ ไม่ทุกข์ร้อน
“ไม่ต้องเลย!” เจบีโพล่งตอบ แต่อาการเริ่มไม่ต่างจากหน้าแดง เขาหลุบตาลงนิดหน่อย ก่อนจะพึมพำเบา ๆ
“ก็ได้...แต่ห้ามแกล้งนะ”
เรนไม่ได้ตอบ แค่ยิ้มมุมปากเบา ๆ แล้วยืนนิ่งรอ เจบีถอนหายใจเล็กน้อย ยื่นแขนขึ้นพาดไหล่คนตรงหน้าแล้วค่อย ๆ ขยับตัวขึ้นบนแผ่นหลังของเรน
“หนักไหม”
“เบากว่าที่คิด” เรนตอบเรียบ ๆ แต่ในน้ำเสียงนั้นมีอะไรบางอย่างแอบขำเจืออยู่
เจบียื่นหน้ามากระซิบข้างหู “โกหกแน่เลย…”
เรนหัวเราะในลำคอ “งั้นก็กอดแน่น ๆ จะได้ไม่หล่น”
เจบีไม่ตอบอะไร แต่ขยับแขนกอดรอบคออีกฝ่ายแน่นขึ้นเล็กน้อยอย่างอัตโนมัติ แก้มแตะกับต้นคอของเรนอย่างหลบไม่พ้น
เรนค่อย ๆ ยืดตัวขึ้นเต็มความสูง พลางกระชับแขนที่ประคองต้นขาให้มั่นคง ก้าวเดินไปข้างหน้าอย่างสบาย ๆ เสียงฝีเท้าเบา ๆ กระทบกับพื้นหินดังเป็นจังหวะในยามค่ำคืน ผู้คนเริ่มซาลงแล้ว อากาศเย็นสบาย มีลมอุ่นพัดมาเป็นระยะ
ที่พักที่จองไว้ล่วงหน้าอยู่ไม่ไกลมากนัก
เรนเป็นคนจองเองหลายเดือนก่อน เพราะถ้ารอถึงช่วงเทศกาลจริง ๆ ก็คงไม่มีที่ว่างเหลือ
เมื่อเดินห่างจากพื้นที่หลักของเทศกาล เสียงจอแจเริ่มจางลง เหลือเพียงความเงียบระหว่างสองคน และเสียงลมหายใจที่ได้ยินชัดเจนกว่าเดิม
ทั้งทางมีเพียงความเงียบพอดี ไม่อึดอัด ไม่ต้องหาเรื่องคุย แต่เจบีก็ยังเอ่ยขึ้นมาเบา ๆ อยู่ดี
“เรน…”
เสียงนั้นแผ่วจนแทบจะกลืนไปกับลม
“…นายเคยคบใครจริงจังไหม”
เรนเดินอีกสองก้าว ก่อนตอบเรียบ ๆ “ไม่เคย”
“เพราะอะไรเหรอ”
“ก็ไม่เคยอยากมี” เขาพูดนิ่ง ๆ เหมือนแค่บอกความจริง
เจบีเงียบไปพักหนึ่ง ก่อนพูดเบา ๆ “งั้น…กับฉันล่ะ”
“ถึงจะไม่เคยคิดอยากมีใครมาก่อน แต่พอเป็นนาย...ฉันกลับอยากลองดูสักครั้ง”
เจบีหลบตา แม้จะอยู่บนหลังอีกฝ่าย
เขาไม่ได้พูดอะไร แค่หัวเราะแผ่ว ๆ เหมือนคนกลบเขินไม่มิด
“ฉันไม่รู้หรอกว่าคนอื่นจะมองยังไง” เรนพูดต่อช้า ๆ "แต่สำหรับฉัน...นายคือคนที่ฉันกล้าสาบานได้เลยว่าจะรักและปกป้องไปตลอดชีวิต"
เขาหยุดนิดหนึ่ง ก่อนจะพูดต่อด้วยน้ำเสียงจริงจังแต่แอบดื้อเล็ก ๆ
“เพราะงั้น…อยู่ข้างฉันนะ แค่นายคนเดียวก็พอ ในฐานะ ‘นายหญิง’ ของฉัน...แล้วก็ของตระกูลคุโรซาวะด้วย”
เจบีหน้าแดงทันที แม้จะอยู่บนหลัง เขาก็รู้สึกว่าหัวใจตัวเองเต้นแรงเกินไป
“ฉันเป็นผู้ชายนะ...”
“แล้ว?” เรนเลิกคิ้ว “ตำแหน่งนายหญิง ฉันแต่งตั้งเอง ไม่ต้องรอใครอนุมัติ”
เจบีหลุดหัวเราะแผ่ว ๆ เพราะความดื้อดึงแบบหน้าตายของอีกฝ่าย
“นี่มัน...ขอแต่งงานชัด ๆ เลยนะ”
“ผิดแล้ว” เรนพูดเรียบ ๆ พร้อมยักไหล่เบา ๆ “แต่งไปแล้วต่างหาก เหลือแค่เข้าหอเท่านั้นแหละ"
เจบียกมือขึ้นฟาดหลังเบา ๆ อย่างหมั่นไส้ “เร็นยะ!”
“ครับ นายหญิง” เรนรับคำหน้าตาย ก่อนจะเร่งฝีเท้าขึ้นนิดอย่างจงใจ เหมือนจะบอกว่าต่อให้โดนฟาดอีกกี่รอบ…เขาก็ไม่คิดเปลี่ยนใจ
Talk with me.
ตอนต่อไปเสิร์ฟ NC แล้วนะ
เตรียมใจไว้หรือยัง~
ฝากติดตามด้วยน้าา
รักคนอ่าน 💖
ขอบคุณขอนับ สนุกมากครับ หวานสวีทเลยครับ น่าไปย้อนรอยด้วย
ขอบคุณนะครับ
หน้า:
[1]