aggressiveorca โพสต์ 2025-7-2 09:35:30

ณัฐ กับ โลกใบใหม่ ตอนที่ 5

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย aggressiveorca เมื่อ 2025-7-2 09:48

บทที่ 5: เสียงกระซิบที่มองไม่เห็น





ผมวิ่ง...ผมไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองวิ่งกลับมาถึงบ้านและทิ้งตัวลงนอนบนเตียงได้ยังไง ความทรงจำสุดท้ายของผมคือคำพูดของลุงเมธที่ฝังตัวเองลงในโสตประสาทเหมือนเหล็กร้อนๆ ที่ถูกนาบลงบนผิวหนัง ผมซุกหน้าลงกับหมอน พยายามจะนอน แต่ภาพในหัวมันกลับชัดเจนยิ่งกว่าตอนที่ประสบพบเจอด้วยตัวเองเสียอีก

ภาพของเหล่าเขย...สายตาของลุงชัย...รอยยิ้มของพี่เจษ...และที่เลวร้ายที่สุด สัมผัสจากลำควยของอาบอยที่ผมเพิ่งใช้ปากปรนนิบัติให้เขายังคงติดอยู่ที่ปลายลิ้น แต่ทั้งหมดนั่นก็ยังเทียบไม่ได้กับเสียงทุ้มของคนคนนั้น...
"ตูดของณัฐน่ะ...ลุงจองไว้ก่อนนะ"
คำพูดนั้นมันอะไรกัน...มันคือการตีตรา คือการประกาศิตที่ทำให้ผมรู้สึกเหมือนถูกล่ามโซ่ แต่ลึกๆ ข้างใน...ผมปฏิเสธไม่ได้เลยว่ามันทำให้หัวใจของผมเต้นแรงราวกับจะหลุดออกมาจากอก ในที่สุดความเหนื่อยล้าก็ดึงสติของผมให้ดับวูบลง...
...ความฝันในคืนนั้นมันทั้งสมจริงและน่าอับอาย ผมฝันว่าตัวเองถูกเหล่าเขยในวงเหล้ารุมล้อม พวกเขาไม่ได้ทำอะไรผม แต่กลับพร้อมใจกันชักรูดลำควยแข็งๆ ของตัวเองแล้วฉีดพุ่งน้ำกามอุ่นร้อนใส่ร่างของผมจนชุ่มโชก...
"เฮือก!"
ผมสะดุ้งตื่นขึ้นมาสุดตัว! ร่างกายเปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อ ผมรีบก้มลงมอง...และหัวใจก็หล่นวูบ คราบน้ำกามสีขาวขุ่นเปรอะเปื้อนกางเกงและผ้าปูที่นอนเป็นวงกว้าง นี่คือ "ฝันเปียก" ครั้งแรกในชีวิตผม ความปรารถนาที่ผมพยายามกดมันไว้มันได้ระเบิดออกมาแล้ว...
ผมรีบจัดการกับหลักฐานทุกอย่างแล้วย่องไปอาบน้ำ แต่ความรู้สึกผิดและสับสนยังคงเกาะกินใจ ขณะที่กำลังจะเดินกลับขึ้นห้อง น้าอุษาก็เดินเข้ามาหา "อ้าว ณัฐ ตื่นเช้าจัง วันนี้น้าจะเข้าไปซื้อของในเมืองพอดี ไปด้วยกันไหม ไปหาซื้อของเตรียมเปิดเทอมไว้เลย จะได้ไม่เบื่ออยู่แต่ที่บ้านแบบนี้"
ข้อเสนอของน้าอุษาเหมือนแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ การได้หนีออกจากบรรยากาศอึดอัดที่นี่คือสิ่งที่ผมต้องการมากที่สุด "ไปครับ! ผมไปด้วยครับน้า!"
การเดินทางเข้าเมืองทำให้ผมรู้สึกผ่อนคลายอย่างน่าประหลาด หลังจากน้าอุษาขอแยกตัวไปคุยงาน ผมก็เดินอย่างไร้จุดหมายเข้ามาในโซนอุปกรณ์กีฬา ผมไม่ได้ตั้งใจจะมาที่นี่ แต่สายตาดันเหลือบไปเห็นร่างสูงในชุดวอร์มของตำรวจอาสาที่กำลังเลือกซื้อดัมเบลอยู่...พี่อดิศรเขาเป็นลูกชายของลุงยุทธ...และเป็นหนึ่งในคนที่อยู่ในวงเหล้าคืนนั้น
หัวใจผมกระตุกวูบ ผมรีบหันหลังกลับ ตั้งใจจะเดินหนีไปเงียบๆ แต่ดูเหมือนจะไม่ทันเสียแล้ว
"น้องณัฐ?" เสียงทุ้มๆ ดังขึ้นจากด้านหลัง ทำให้ผมตัวแข็งทื่อ ผมค่อยๆ หันกลับไปเผชิญหน้าเขา พี่อดิศรยิ้มให้ผมเล็กน้อย รอยยิ้มของเขาดู...รู้สึกผิดนิดๆ “พี่ไม่คิดว่าจะเจอเราที่นี่นะ?”
“อ่อ ผมมากับน้าอุษาครับ แต่ตอนนี้น้าอุษาไปคุยงานน่ะครับ”
พี่อดิศรพยักหน้ารับแบบเสีย
"เอ่อ...เรื่องเมื่อคืน...พี่ต้องขอโทษแทนพวกน้าๆ เขาด้วยนะ พอเหล้าเข้าปากแล้วก็คึกคะนองกันเกินไปหน่อย ณัฐโอเคใช่ไหม?"
คำขอโทษที่ไม่ได้คาดคิดทำให้ผมทำตัวไม่ถูก "เอ่อ...ครับ ผม...ผมไม่เป็นไร" ผมตอบเสียงอ่อย
"ดีแล้วล่ะ" เขามองผมด้วยสายตาที่อ่านไม่ออก มันมีความเอ็นดู แต่ก็มีความปรารถนาซ่อนอยู่จางๆ เหมือนที่ผมเห็นเมื่อคืน "ถ้ายังงั้น...ให้พี่เดินเป็นเพื่อนไหมล่ะครับ ถือว่าเป็นการไถ่โทษ" เขายิ้มอย่างมีเสน่ห์
ไม่รู้ว่าอะไรดลใจผมถึงพยักหน้าตอบตกลงไป เราเดินคุยกันอย่างถูกคออย่างน่าประหลาด จนกระทั่งเวลาล่วงเลยไปเกือบเย็น แดดยังคงความร้อนเหมือนช่วงกลางวัน และผมก็รู้สึกได้ถึงเหงื่อที่ซึมออกมาตามไรผม พี่อดิศรที่เดินอยู่ข้างๆ สังเกตเห็นท่าทางของผม เขาจึงหยุดเดินแล้วหันมาพูดด้วยรอยยิ้ม
"ดูท่าณัฐจะเหนื่อยแล้วนะ อากาศก็ร้อนด้วย ไปหาที่นั่งพักดื่มน้ำเย็นๆ กันก่อนดีไหม"
ผมกำลังจะพยักหน้า แต่เขาก็พูดต่อขึ้นมาก่อนด้วยน้ำเสียงที่นุ่มนวลและชวนให้คล้อยตามอย่างน่าประหลาด
"จริงๆ...พี่มีห้องพักอยู่แถวนี้พอดี ไม่ไกลหรอก ไปนั่งพักที่ห้องพี่ก็ได้นะ แอร์เย็นๆ มีน้ำให้ดื่ม...ดีกว่าไปนั่งร้านกาแฟคนเยอะๆ ตั้งเยอะ บรรยากาศเป็นส่วนตัวกว่าด้วย เราจะได้คุยกันต่อได้สะดวกๆ"
เขาพูดพลางยกมือขึ้นมาแตะที่แขนของผมเบาๆ สายตาของเขามองลึกเข้ามาในตาผมอย่างมีความหมาย มันคือคำเชิญชวนที่ไม่ได้พูดออกมาตรงๆ แต่ผมกลับเข้าใจมันได้อย่างชัดเจน
ผมรู้...ผมรู้ดีว่า "บรรยากาศที่เป็นส่วนตัว" นั้นมันหมายความว่าอะไร หัวใจผมเต้นแรงขึ้นมาทันที แต่ความอยากรู้อยากลองที่ถูกปลุกขึ้นมามันรุนแรงเกินกว่าจะต้านทานไหว ผมอยากจะรู้...ว่าถ้าไม่ใช่การบังคับขืนใจเหมือนเมื่อคืน...ถ้ามันเกิดขึ้นจากการถูกหลอกล่อและเต็มใจ...มันจะเป็นอย่างไร
ผมกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก ก่อนจะพยักหน้าช้าๆ
"ก็ได้ครับ"
ห้องพักของพี่อดิศรเป็นห้องสตูดิโอเล็กๆ ที่สะอาดสะอ้าน บรรยากาศที่เป็นส่วนตัวของห้องนี้ กับชายหนุ่มในเครื่องแบบที่อยู่ด้วยกันตามลำพัง...ผมรู้ดีว่าผมกำลังจะข้ามเส้นที่ไม่มีวันหวนกลับแล้ว
"นั่งก่อนสิ" เขาบอกพลางเดินไปหยิบน้ำในตู้เย็นมาให้ ผมทิ้งตัวลงนั่งที่ขอบเตียง เมื่อเขายื่นแก้วน้ำให้ มือของเราสัมผัสกันเพียงแผ่วเบา แต่มันกลับเหมือนมีกระแสไฟฟ้าวิ่งแล่นไปทั่วร่าง เขาไม่ได้เดินจากไปไหน แต่กลับนั่งลงข้างๆ ผมอย่างจงใจจนไหล่ของเราเบียดชิดกัน
"ยังโกรธพวกพี่อยู่รึเปล่า?" เขาถามเสียงเบา
"ไม่...ไม่โกรธครับ" ผมตอบตามความจริง ในใจผมมันมีแต่ความสับสนและตื่นเต้น ไม่มีความโกรธเจือปนอยู่เลย
"ดีแล้ว..." เขากระซิบ ก่อนจะยกมือหนาๆ ของเขาขึ้นมาลูบแก้มผมเบาๆ "...เพราะพี่รู้สึกผิดจริงๆ ที่ปล่อยให้คนน่ารักแบบณัฐต้องเจอเรื่องแบบนั้น"
สัมผัสที่อ่อนโยนนั้นทำลายกำแพงทั้งหมดของผม ผมค่อยๆ หลับตาลง เป็นการเชื้อเชิญโดยไม่ต้องเอ่ยคำพูดใดๆ พี่อดิศรเข้าใจสัญญาณนั้นดี เขาค่อยๆ โน้มใบหน้าลงมา ประทับริมฝีปากของเขาลงบนปากของผมอย่างนุ่มนวล
จูบของเขาแตกต่างจากเมื่อคืนโดยสิ้นเชิง มันอ่อนโยนและเปี่ยมไปด้วยการไถ่ถาม ผมจูบตอบอย่างกล้าๆ กลัวๆ ก่อนที่เขาจะค่อยๆ สอดลิ้นร้อนๆ เข้ามาในโพรงปากของผม ค้นหาและหยอกล้อกับลิ้นของผมอย่างชำนาญ ผมครางอื้ออึงในลำคอ ปล่อยให้เขาดันร่างผมนอนราบลงกับเตียง...
เสื้อผ้าของผมถูกถอดออกอย่างไม่เร่งรีบนัก พี่อดิศรจูบไล่ไปทั่วทุกส่วนของร่างกายผมอย่างอดทน เขาดูดเม้มยอดอกของผมจนมันแข็งเป็นไต ทำให้ผมบิดตัวเร่าด้วยความเสียวซ่านที่ไม่เคยสัมผัสมาก่อน "อื้อ...พี่อดิศร...ซี๊ดดดดดด" ผมรู้สึกเหมือนร่างกายกำลังจะหลอมละลายอยู่ใต้ริมฝีปากของเขา
เมื่อร่างกายของผมเปลือยเปล่า เขาก็ถอดเสื้อผ้าของตัวเองออกจนหมด ผมเบิกตากว้างเมื่อเห็นลำควยขนาดใหญ่ที่แข็งตึงจนปูดโปนของเขา มันคืออันเดียวกับที่เขาเคยจ่อปากผมเมื่อคืน แต่ครั้งนี้มันไม่มีกางเกงในขวางกั้น มันคือควยของจริงที่ตั้งตระหง่านอยู่ตรงหน้าผม
"ชอบไหม?" เขายิ้มอย่างรู้ทัน
ผมทำได้แค่พยักหน้าช้าๆ ความอยากรู้อยากลองมันรุนแรงจนเอาชนะความอายไปจนหมดสิ้น
"งั้นช่วยพี่หน่อยได้ไหมครับ" เขาพูดพลางคุกเข่าลงบนพื้นข้างเตียง ทำให้ลำควยแข็งๆ ของเขามาอยู่ตรงระดับใบหน้าของผมพอดีนี่คือสิ่งที่ผมจินตนาการถึงมาตลอด ผมยื่นหน้าเข้าไปใกล้ๆ แลบลิ้นออกไปแตะหยาดน้ำใสๆ ที่ปลายยอดเบาๆ "แผล็บ" รสชาติของมันเค็มปะแล่มๆ อย่างประหลาด ผมเงยหน้าขึ้นสบตาพี่อดิศร เขาหลับตาพริ้ม กัดริมฝีปากล่างเบาๆ เหมือนกำลังสะกดกลั้นอารมณ์
ผมมีความกล้ามากขึ้น ผมค่อยๆ อ้าปากออก แล้วครอบริมฝีปากของผมลงบนหัวบานฉ่ำของเขาอย่างนุ่มนวลที่สุดเท่าที่จะทำได้ ความอุ่นร้อนและสัมผัสหยุ่นๆ ของมันทำให้สมองผมขาวโพลนไปชั่วขณะ

"อ่าาาา...ใช่...อย่างนั้นแหละณัฐ...ดีมากกก" พี่อดิศรครางเสียงต่ำ เขาใช้มือขย้ำกลุ่มผมของผมเบาๆ แต่ไม่ได้บังคับ เป็นเหมือนการให้กำลังใจเสียมากกว่า
คำชมของเขาทำให้ผมได้ใจ ผมเริ่มใช้ลิ้นเลียวนรอบๆ ส่วนหัวที่บานได้ที่อย่างที่เคยเห็นในหนัง พยายามเลียนแบบลีลาของพวกดาราหนังโป๊ เสียงของผมที่ดูดดึงหัวควยของเขาดังขึ้นอย่างน่าอาย "จ๊วบ...จ๊วบ...แผล็บ..." ผสมกับเสียงครางในลำคอของพี่อดิศร
"ซี๊ดดดดดดด...ณัฐ...เก่งมาก...ลองดูดเข้าไปให้ลึกกว่านี้สิ...ใช่...ใช้ลิ้นของณัฐตวัดตรงเส้นสองสลึงของพี่...อ๊าาาาห์!" เขาสอนผมไปพลางครางไปพลาง
ผมทำตามที่เขาสอนอย่างว่าง่าย ผมพยายามดูดกลืนลำควยของเขาเข้าปากให้ลึกที่สุดเท่าที่จะทำได้ ลำควยอุ่นร้อนของเขาดุนดันเข้ามาในลำคอจนผมแทบจะสำลัก เสียง "อ๊อก...อ๊อก..." ดังขึ้นเบาๆ แต่ความรู้สึกเสียวซ่านที่แล่นไปทั่วร่างมันกลับมีมากกว่า ผมใช้ทั้งลิ้นและเพดานปากมอบความสุขให้เขา รูดรั้งขึ้นลงเป็นจังหวะ เสียง "จ๊วบ...จ๊าบ...จ๊วบ...จ๊าบ" ดังขึ้นอย่างต่อเนื่องและหยาบโลน ผมรู้สึกถึงลำควยของเขาที่กระตุกอยู่ในปากพร้อมกับปล่อยน้ำเงี่ยนออกมาเรื่อยๆลำตัวของมันพองโตและแข็งแกร่งขึ้นกว่าเดิมจนคับปากของผมไปหมด   ผมรู้ได้ทันทีว่าเขาใกล้จะทนไม่ไหวแล้ว
"พอ...พอก่อนณัฐ...อ่าาาห์...พอก่อน...เดี๋ยวพี่จะเสร็จก่อนได้ณัฐนะ..." เขาดึงตัวผมออกอย่างอ่อนโยน น้ำลายของผมยืดเป็นสายเชื่อมระหว่างปากของผมกับปลายควยของเขา
"คราวนี้...ตาพี่ดูแลณัฐบ้างนะ"
เขาพลิกร่างผมให้นอนหงายแล้วขึ้นคร่อม เขาก้มลงจูบผมอีกครั้งอย่างดูดดื่ม ขณะที่มือหนาก็ลูบไล้ไปทั่วร่างกายของผมอย่างช่ำชอง เขาบดขยี้ยอดอกของผมด้วยปลายนิ้ว สลับกับการใช้ริมฝีปากดูดดึงอย่างแรงจนผมแอ่นอกขึ้นรับอย่างลืมตัว "อ๊า...พี่...พี่อดิศร...ตรงนั้น...อื้อออ" ผมดิ้นพล่านไปมาด้วยความเสียวซ่านที่ควบคุมไม่ได้

จากนั้น...เขาก็จับผมพลิกให้นอนคว่ำหน้าลงกับเตียง จัดท่าให้ผมโก้งโค้งอยู่ในท่าที่น่าอายที่สุด ก่อนที่เขาจะโน้มตัวลงมา...ผมคิดว่าเขาจะสอดใส่...แต่สิ่งที่ผมรู้สึกกลับเป็นสัมผัสที่อุ่นและเปียกชื้นอย่างไม่น่าเชื่อ!
"อ๊ะ! พี่จะทำอะไร!" ผมร้องเสียงหลงเมื่อรู้ว่าเขากำลังทำอะไร
ลิ้นร้อนๆ ที่ชื้นแฉะของเขากำลังไล้เลียไปทั่วร่องก้นของผม! เสียง "แผล็บ...แผล็บ..." ดังขึ้นใกล้หูจนผมขนลุกไปทั้งตัว เขาค่อยๆ ใช้ปลายลิ้นสะกิดและเลียวนที่รูตูดของผมอย่างชำนาญ ความรู้สึกนี้มันแปลกใหม่...มันทั้งจั๊กจี้และเสียวซ่านจนผมต้องจิกผ้าปูที่นอนไว้แน่น
"อ๊าาาา...พี่...อย่า...ผม...ผมเสียว...ซี๊ดดดดด!" ผมครางไม่เป็นศัพท์ ร่างกายส่ายไปมาอย่างควบคุมไม่ได้ พี่อดิศรใช้มือข้างหนึ่งกดสะโพกผมไว้แน่น แล้วใช้ลิ้นรุกล้ำเข้ามาในรูตูดของผมอย่างไม่ออมแรงท!
"จ๊วบ...จ๊วบ!" เสียงดูดเลียที่น่าอายดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง ผมรู้สึกเหมือนสมองกำลังจะระเบิด ความเสียวซ่านมันพุ่งตรงจากบั้นท้ายขึ้นมาถึงกลางกระหม่อม มันรุนแรงจนลำควยของผมที่อยู่ด้านหน้ากระตุกอย่างแรง ปล่อยน้ำเงี่ยนออกมาเปรอะที่นอนโดยที่ผมไม่ได้สัมผัสมันเลย
เมื่อเขาปรนเปรอผมจนพอใจและรูตูดของผมคลายตัวลงจนพร้อมแล้ว เขาก็ชโลมเจลหล่อลื่นลงมาจนชุ่มฉ่ำ "พี่จะเข้าไปแล้วนะ" เขากระซิบชิดใบหูผม
เขาจับลำควยแข็งๆ ของเขาที่เปียกลื่นจ่อเข้าที่รูตูดของผม ผมรู้สึกได้ถึงหัวบานหยักที่กดบี้อยู่ตรงปากทาง มันทั้งแน่นและร้อนจนผมแทบบ้า ผมหลับตาปี๋ กำผ้าปูที่นอนไว้แน่น รอรับความเจ็บปวดและความสุขสมที่จะเกิดขึ้นในวินาทีต่อไป...นี่แหละ...ครั้งแรกของผมกำลังจะเกิดขึ้นกับผู้ชายคนนี้...
แต่แล้ว...ในวินาทีที่หัวบานของพี่อดิศรกดลึกเข้ามาที่ปากทาง...
ภาพใบหน้าคมคายแต่แฝงไปด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ของลุงเมธก็แวบขึ้นมาในหัว...
พร้อมกับเสียงทุ้มต่ำที่ดังก้องกังวานอยู่ในหูของผมเพียงคนเดียว...
"ตูดของณัฐน่ะ...ลุงจองไว้ก่อนนะ"
"ไม่!!!"
ผมกรีดร้องออกมาสุดเสียง! ร่างกายของผมสะดุ้งสุดตัว ผลักสะโพกของพี่อดิศรออกไปอย่างแรงตามสัญชาตญาณ! มันไม่ใช่การตัดสินใจ แต่มันคือปฏิกิริยาที่ผมควบคุมไม่ได้!
"อ๊ะ! ณัฐ! เป็นอะไรไป!" พี่อดิศรร้องออกมาด้วยความตกใจและเจ็บ เขากระเด็นถอยหลังไปเล็กน้อย
"ผม...ผม..." ผมพูดอะไรไม่ออก ร่างกายสั่นไปหมด ผมพลิกตัวกลับมามองเขาด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความสับสนและหวาดกลัว "ผมทำไม่ได้...ขอโทษครับ...ผมยังไม่พร้อม...ผมขอโทษจริงๆ ครับ!"
ผมไม่รอให้เขาได้พูดอะไรอีก รีบคว้าเสื้อผ้าของตัวเองที่กองอยู่บนพื้นขึ้นมาสวมอย่างลวกๆ แล้ววิ่งพรวดพราดออกจากห้องนั้นไปทันที ทิ้งให้พี่อดิศรนั่งเปลือยเปล่าอยู่บนเตียงตามลำพังกับความต้องการที่ค้างคา
ผมวิ่ง...วิ่งอย่างไม่คิดชีวิตอีกครั้ง วิ่งลงมาจากอพาร์ตเมนต์อย่างไร้ทิศทางจนมาถึงสวนสาธารณะแห่งหนึ่งแล้วทรุดตัวลงนั่งบนม้านั่งอย่างหมดแรง ผมนั่งหอบหายใจ ปล่อยให้น้ำตาไหลออกมาอย่างไม่อาจกลั้นได้ ผมไม่เข้าใจ...ไม่เข้าใจตัวเองเลย...ทำไม...ทำไมผมถึงทำแบบนั้น? ทั้งที่ร่างกายของผมมันต้องการเขาใจจะขาด แต่ทำไมจิตใจของผมกลับปฏิเสธ...ทำไมคำพูดของชายคนนั้นถึงได้มีอำนาจเหนือร่างกายและความปรารถนาของผมได้ถึงขนาดนี้...
ผมก้มลงมองเป้ากางเกงตัวเองที่ยังคงแข็งตึงจนปวดหนึบ ความทรมานที่ไม่ได้ปลดปล่อยมันบีบคั้นจนแทบบ้า ผมยกมือขึ้นกุมบั้นท้ายตัวเองเบาๆ...ความรู้สึกเหมือนมันถูก "ตีตรา" ไว้ด้วยคำพูดของใครคนหนึ่งนั้นมันช่างชัดเจนเหลือเกิน
ค่ำคืนนี้ผมได้เรียนรู้ความจริงข้อใหม่ที่น่ากลัวที่สุด...อิสระของผมอาจจะไม่ได้เป็นของผมอีกต่อไปแล้ว ตั้งแต่คืนนั้น...คืนที่ผมได้ยินเสียงกระซิบที่มองไม่เห็น…

ผมนั่งนิ่งอยู่บนม้านั่งในสวนสาธารณะที่แทบจะร้างผู้คนอยู่นานแค่ไหนก็ไม่รู้ ผมปล่อยให้น้ำตาไหลออกมาเงียบๆ ปล่อยให้ความสับสน ความอับอาย และความต้องการที่ยังคงคุกรุ่นอยู่ในร่างกายกัดกินความรู้สึกของผมจนแหลกละเอียด ผมไม่เข้าใจ...ผมไม่เข้าใจตัวเองเลยแม้แต่น้อย
ทำไม...ทำไมผมถึงผลักไสพี่อดิศรออกไปแบบนั้น? ทั้งที่ผมต้องการเขาใจจะขาด ร่างกายของผมมันตอบสนองต่อทุกสัมผัสของเขา ผมเสียวซ่านจนแทบจะสิ้นสติอยู่ใต้ร่างของเขาแล้วแท้ๆ แต่ในวินาทีสุดท้าย...เสียงของผู้ชายอีกคนกลับดังขึ้นมาในหัว...เสียงของลุงเมธ...
"ตูดของณัฐน่ะ...ลุงจองไว้ก่อนนะ"
คำพูดนั้นมันมีอำนาจเหนือผมถึงขนาดนี้เลยเหรอ มันเป็นเหมือนโซ่ที่มองไม่เห็นที่ฉุดรั้งผมไว้จากความสุขที่อยู่แค่เอื้อม ผมก้มลงมองเป้ากางเกงของตัวเองที่ยังคงแข็งขืนจนปวดหนึบ ความทรมานจากการที่ไม่ได้ปลดปล่อยมันบีบคั้นจนผมต้องยกมือกุมมันไว้แน่นอย่างน่าสมเพช ผมยกมืออีกข้างขึ้นสัมผัสบั้นท้ายของตัวเองเบาๆ...ความรู้สึกเหมือนมันถูก "ตีตรา" ไว้ด้วยคำพูดของใครคนหนึ่งนั้นมันช่างชัดเจนเหลือเกิน
ผมสูดหายใจเข้าลึกๆ พยายามรวบรวมสติที่กระจัดกระจาย ผมจะนั่งจมอยู่ตรงนี้ตลอดไปไม่ได้ ผมต้องกลับบ้าน...แต่จะกลับยังไง? ผมจะโทรหาน้าอุษาแล้วบอกว่าอะไร?
ผมหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาด้วยมือที่สั่นเทา กดเบอร์ของน้าอุษาแล้วรอสายด้วยใจที่เต้นระรัว
"ฮัลโหล ณัฐ ว่าไงลูก อยู่ไหนแล้ว" เสียงของน้าอุษาดังมาจากปลายสาย
"น้าอุษาครับ...คือ...ผม...ผมรู้สึกไม่ค่อยสบายน่ะครับ...ปวดหัวนิดหน่อย" ผมโกหกออกไปคำโต "ตอนนี้ผมอยู่ที่...เอ่อ...สวนสาธารณะหน้าห้างครับ น้ามารับผมได้ไหมครับ"
"ตายจริง! เป็นอะไรมากรึเปล่าลูก แล้วพี่อดิศรเขาไปไหนล่ะ ไม่ได้อยู่ด้วยกันเหรอ"
คำถามนั้นทำให้หัวใจผมหล่นวูบ "เอ่อ...พี่เขากลับไปแล้วครับ พอดีเขามีธุระด่วน"
"โอเคๆ รอน้าอยู่ตรงนั้นนะ เดี๋ยวรีบไปเดี๋ยวนี้เลย" น้าอุษาวางสายไปผมนั่งรออยู่บนม้านั่งตัวเดิม ความรู้สึกผิดถาโถมเข้ามาอีกระลอก ผมไม่ได้โกหกแค่น้าอุษา แต่ยังทำให้พี่อดิศรต้องเดือดร้อนไปด้วย ไม่รู้ว่าเขาจะโกรธหรือเกลียดผมไปเลยรึเปล่า...
ไม่นานนักรถของน้าอุษาก็มาจอดเทียบ ผมรีบเดินขึ้นรถไปอย่างรวดเร็ว "เป็นยังไงบ้างลูก หน้าซีดเชียวนะ" น้าอุษาถามด้วยความเป็นห่วง
"ผมไม่เป็นไรครับน้า แค่เพลียๆ นิดหน่อย" ผมตอบแล้วเอนหลังพิงเบาะ หลับตาลงทันทีเพื่อหลีกเลี่ยงการถูกซักถามไปมากกว่านี้
ตลอดทางกลับบ้าน ผมแกล้งทำเป็นหลับ แต่ในหัวกลับคิดฟุ้งซ่านไปหมด ผมจะทำยังไงต่อไป? ผมจะมองหน้าพี่อดิศรได้ยังไงถ้าเจอเขาที่บ้าน? และที่สำคัญที่สุด...ผมจะเผชิญหน้ากับลุงเมธได้อย่างไร? ชายผู้ซึ่งคำพูดของเขาสามารถหยุดยั้งผมได้แม้ตัวจะไม่ได้อยู่ตรงนั้น...
เมื่อรถเลี้ยวเข้าสู่หมู่บ้านทุ่งขจีไกล ผมก็ค่อยๆ ลืมตาขึ้น บรรยากาศที่คุ้นเคยไม่ได้ทำให้ผมรู้สึกสบายใจเหมือนเคย แต่มันกลับทำให้ผมรู้สึกเหมือนกำลังกลับเข้าสู่กรงขังที่มองไม่เห็น
ทันทีที่รถจอดสนิทที่หน้าบ้าน ผมก็แทบจะหยุดหายใจ...
ลุงเมธกำลังยืนรดน้ำต้นไม้อยู่ที่หน้าบ้าน เขาหันมามองที่รถพอดี ราวกับว่าเขารอการกลับมาของผมอยู่แล้ว สายตาคมกริบคู่นั้นมองตรงมาที่ผม มันดูเรียบเฉย...แต่ผมกลับรู้สึกเหมือนเขามองทะลุเข้ามาในใจของผมจนหมดสิ้น เขารู้...ผมรู้สึกได้ว่าเขารู้...
"ขอบคุณนะครับน้า" ผมรีบยกมือไหว้ขอบคุณน้าอุษา แล้วก้าวลงจากรถอย่างรวดเร็ว ตั้งใจจะรีบเดินเข้าบ้านไปให้เร็วที่สุดเพื่อหลบหน้าเขา
"เดี๋ยวก่อนสิณัฐ"
เสียงทุ้มต่ำที่คุ้นเคยดังขึ้นจากด้านหลัง ทำให้ฝีเท้าของผมต้องหยุดชะงัก ผมค่อยๆ หันกลับไปเผชิญหน้าเขาอย่างเลี่ยงไม่ได้
"ไปในเมืองเป็นไงบ้าง...ได้ของครบไหม" ลุงเมธถามด้วยน้ำเสียงปกติ แต่ดวงตาของเขากลับมีประกายบางอย่างที่ทำให้ผมใจสั่น
"คะ...ครบแล้วครับ"
"แล้วทำไมหน้าซีดอย่างนั้นล่ะ...ไม่สบายเหรอ" เขาถามต่อ พลางวางสายยางในมือลงแล้วเดินเข้ามาหาผมช้าๆผมถอยหลังไปหนึ่งก้าวโดยไม่รู้ตัว
"เปล่าครับ...แค่...เพลียแดดน่ะครับ"
ลุงเมธมาหยุดยืนอยู่ตรงหน้าผม เขายิ้มมุมปาก "เหรอ...ลุงก็นึกว่า...ไปเจออะไรสนุกๆ จนหมดแรงซะอีก"คำพูดแทงใจดำนั้นทำให้ผมหน้าชาวาบ ผมกำมือแน่นจนเล็บจิกเข้าที่ฝ่ามือ "ผม...ผมขอตัวก่อนนะครับ" ผมพยายามจะเดินเลี่ยง แต่เขากลับคว้าแขนผมไว้
"ใจเย็นสิ...จะรีบไปไหน" เขากระซิบเสียงเบาพอให้ได้ยินกันแค่สองคน "ทำไม...กลัวลุงเหรอ...หรือว่าไปทำอะไรผิดมา...หืม?"เขาจ้องลึกเข้ามาในตาผม สายตาของเขามันทั้งเย้ายวนและกดดันในเวลาเดียวกัน ผมรู้สึกเหมือนกำลังจะร้องไห้ออกมาอีกครั้ง
"ว่าไงล่ะ...ตอบลุงสิ" เขาย้ำ
ผมส่ายหน้าไปมา น้ำตาเริ่มคลอหน่วย
"เปล่าครับ...ผมไม่ได้ทำอะไร"
ลุงเมธหัวเราะในลำคอเบาๆ เขาปล่อยแขนผมออก ก่อนจะยกมือขึ้นมาลูบที่แก้มของผมอย่างแผ่วเบา สัมผัสของเขามันทำให้ผมสั่นไปทั้งตัว "ดีแล้ว..."
"...ดีแล้ว...ที่รู้ว่าของชิ้นไหนเป็นของใคร"
เขากระซิบประโยคสุดท้ายนั้นชิดริมหูของผม ก่อนจะตบแก้มผมเบาๆ สองที แล้วเดินผิวปากกลับไปรดน้ำต้นไม้ต่ออย่างสบายอารมณ์ ราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ผมยืนตัวแข็งทื่ออยู่ตรงนั้นเหมือนถูกสาป คำพูดสุดท้ายของเขามันคือการยืนยัน...เขารู้...เขารู้ทุกอย่าง...คำพูดของลุงเมธได้หยั่งรากลึกลงในใจของผมแล้วจริงๆ ผมไม่ได้มีอิสระอีกต่อไปแล้ว...ผมน่ะ...เป็นของเขาไปแล้ว...ทั้งที่ยังไม่เคยได้เป็นเลยด้วยซ้ำ

ผมยืนตัวแข็งทื่ออยู่ตรงนั้นเหมือนถูกสาปนานหลายนาทีหลังจากที่ลุงเมธเดินผิวปากกลับไปรดน้ำต้นไม้ต่อราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น คำพูดสุดท้ายของเขายังคงวนเวียนอยู่ในหัวผมเหมือนแผ่นเสียงตกร่อง...
"ดีแล้ว...ที่รู้ว่าของชิ้นไหนเป็นของใคร"
มันไม่ใช่คำขู่ ไม่ใช่คำด่าทอ แต่มันคือการประกาศที่เยือกเย็นและทรงอำนาจที่สุด มันคือการยืนยันว่าเขารู้...เขารู้ทุกอย่างเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่อพาร์ทเม้นท์ของพี่อดิศร รู้ว่าผมเกือบจะมอบ "ครั้งแรก" ของผมให้คนอื่น และรู้ว่าอะไรคือสิ่งที่หยุดผมไว้ ความคิดนั้นทำให้ขาของผมสั่นจนแทบจะทรุดลงไปกองกับพื้น ผมไม่ได้มีอิสระอีกต่อไปแล้ว...ผมน่ะ...เป็นของเขาไปแล้ว...ทั้งที่ร่างกายของเรายังไม่เคยสัมผัสกันในโลกแห่งความจริงเลยแม้แต่ครั้งเดียว
ผมรวบรวมเรี่ยวแรงทั้งหมดที่เหลืออยู่ ก้าวขาที่หนักอึ้งเหมือนมีโซ่ตรวนล่ามไว้เดินเข้าบ้าน ผมไม่กล้าสบตาใครทั้งนั้น รีบเดินตรงขึ้นไปยังห้องนอนของตัวเองแล้วปิดประตูลงกลอนทันที ห้องที่เคยเป็นที่พักพิงบัดนี้กลับให้ความรู้สึกเหมือนกรงขัง ผมทิ้งตัวลงบนเตียง จ้องมองเพดานห้องว่างเปล่า ปล่อยให้ความคิดและความรู้สึกที่หลากหลายถาโถมเข้ามา
ผมรู้สึก...กลัว...กลัวอำนาจที่มองไม่เห็นของลุงเมธที่สามารถควบคุมผมได้แม้ตัวจะไม่ได้อยู่ใกล้ๆ แต่ในขณะเดียวกัน...ลึกๆ ลงไปในใจ...ผมกลับรู้สึก "โล่งอก" อย่างน่าประหลาด ความสับสนวุ่นวายที่เคยมีมันเริ่มจางหายไป ความลังเลว่าผมควรจะทำอย่างไรกับความต้องการของตัวเองดี มันถูกแทนที่ด้วย "คำตอบ" ที่ชัดเจนซึ่งลุงเมธเป็นคนมอบให้ ผมไม่ต้องเลือกอีกต่อไปแล้ว...เพราะมีคนเลือกให้ผมแล้ว
ตลอดช่วงบ่ายของวันนั้น ผมขังตัวเองอยู่ในห้อง ไม่กล้าออกไปเผชิญหน้ากับใคร ผมได้ยินเสียงพูดคุยและเสียงหัวเราะดังมาจากชั้นล่างเป็นระยะๆ ทุกครั้งที่ผมได้ยินเสียงทุ้มๆ ของลุงเมธ หัวใจของผมก็จะกระตุกวูบและท้องน้อยก็จะปั่นป่วนขึ้นมาอย่างห้ามไม่ได้ ผมนอนพลิกไปพลิกมาบนเตียง ความปรารถนาที่ถูกจุดขึ้นมาอย่างรุนแรงที่ห้องของพี่อดิศรแต่ไม่ได้รับการปลดปล่อย มันยังคงคุกรุ่นอยู่ภายในร่างกายของผม ปลายลำควยของผมยังคงแข็งขืนเป็นพักๆ จนรู้สึกเจ็บหน่วงไปหมด ผมได้แต่นอนขดตัว กัดฟันข่มความทรมานนั้นไว้
เวลาผ่านไปอย่างเชื่องช้าจนกระทั่งความมืดโรยตัวเข้ามาปกคลุม เสียงจากชั้นล่างเริ่มเงียบลง ผมรู้ว่าทุกคนคงเหนื่อยจากงานและแยกย้ายกันพักผ่อนแล้ว ความเงียบนั้นมันน่ากลัวยิ่งกว่าเสียงจอแจเสียอีก มันคือความเงียบที่บอกว่า...ใกล้ถึงเวลาแล้ว
ผมพยายามข่มตาให้หลับ แต่ก็ทำไม่ได้ ทุกเสียงที่ดังขึ้นภายนอกทำให้ผมสะดุ้งสุดตัว เสียงลมพัด...เสียงกิ่งไม้เสียดสีกัน...เสียงหมาหอนไกลๆ...และแล้ว...
แอ๊ด.......................
เสียงบานประตูห้องของผมที่ไม่ได้ล็อกถูกเปิดออกอย่างช้าๆ และเงียบเชียบที่สุด
หัวใจผมหล่นไปอยู่ที่ตาตุ่ม ผมนอนนิ่งตัวแข็งทื่ออยู่ใต้ผ้าห่ม ไม่กล้าแม้แต่จะหายใจแรง ในความมืดสลัวของห้อง ผมเห็นเงาร่างสูงโปร่งของใครคนหนึ่งยืนอยู่ที่ประตู...เขาไม่ได้เปิดไฟ ไม่ได้ส่งเสียงเรียก แต่ผมรู้...ผมรู้ดีว่านั่นคือใคร
เขายืนนิ่งอยู่อย่างนั้นครู่หนึ่งเหมือนกำลังรอ...รอให้ผมขยับ รอให้ผมส่งเสียง แต่ผมก็ทำได้เพียงนอนตัวแข็งเป็นหิน ปล่อยให้ความกลัวและความตื่นเต้นบีบคั้นหัวใจจนแทบจะหยุดเต้น ในที่สุดเขาก็เคลื่อนไหว เขาปิดประตูลงอย่างแผ่วเบา เสียง "คลิก" ของลูกบิดดังขึ้นในความเงียบ ตัดขาดผมออกจากโลกภายนอกอย่างสมบูรณ์
เขาเดินเข้ามาหาเตียงของผมช้าๆ ทุกย่างก้าวของเขาหนักแน่นและมั่นคง ผมได้กลิ่นกายผู้ชายที่คุ้นเคยของเขาลอยมาแตะจมูก...กลิ่นที่ทำให้ผมแทบคลั่งเมื่อคืนก่อน...กลิ่นของลุงเมธ
เขาทรุดตัวลงนั่งที่ขอบเตียง น้ำหนักตัวของเขาทำให้เตียงยุบลงเล็กน้อย ผมรู้สึกได้ถึงไออุ่นจากร่างกายของเขาที่อยู่ใกล้เพียงแค่คืบ
"ยังไม่นอนอีกเหรอ" เขาถามเสียงเรียบ แต่ทรงพลัง
ผมไม่กล้าตอบ ได้แต่ส่ายหน้าเบาๆ อยู่ใต้ผ้าห่ม
เขายกมือขึ้นมาวางบนผ้าห่ม...ตรงตำแหน่งที่ตรงกับศีรษะของผมพอดีแล้วลูบเบาๆ "มัวแต่คิดเรื่องอะไรอยู่...หืม? เรื่องที่ไปทำอะไรไม่ดีมาในเมืองรึเปล่า"
คำพูดของเขาเหมือนมีดที่กรีดลงกลางใจผม ผมสะดุ้งเล็กน้อย
"ไม่ต้องกลัว...ลุงไม่ได้จะมาทำอะไร" เขากระซิบ น้ำเสียงของเขาอ่อนลงเล็กน้อย
"...แค่อยากจะมาทวงของ...ที่ลุง 'จอง' ไว้ก็เท่านั้น"
สิ้นคำพูดนั้น เขาก็ดึงผ้าห่มที่คลุมตัวผมอยู่ออกไปอย่างรวดเร็ว!
"อ๊ะ!" ผมร้องออกมาด้วยความตกใจ ร่างกายของผมที่สวมเพียงกางเกงขาสั้นตัวเดียวนอนขดตัวอยู่ภายใต้แสงจันทร์ที่สาดส่องเข้ามาทางหน้าต่างสายตาคมกริบของเขากวาดมองร่างกายผมตั้งแต่หัวจรดเท้า ก่อนจะมาหยุดอยู่ที่เป้ากางเกงของผมที่บัดนี้แข็งตึงจนนูนเด่นออกมาอย่างชัดเจน เขายิ้มมุมปาก
"ดูสิ...แค่ได้ยินเสียงลุง...ของของเราก็ตื่นซะแล้ว" เขากระซิบอย่างพอใจ
เขาไม่ได้พูดอะไรต่อ แต่กลับลุกขึ้นยืนแล้วพยักหน้ามาทางผม เป็นสัญญาณให้ผมลุกตาม ผมไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากค่อยๆ พยุงร่างที่สั่นเทาของตัวเองลุกขึ้นจากเตียงแล้วเดินตามแผ่นหลังที่แข็งแกร่งของเขาออกจากห้องไปอย่างเงียบเชียบ
เราไม่ได้ลงไปชั้นล่าง แต่เขากลับพาผมเดินไปยังบันไดหลังบ้านที่เชื่อมต่อกับสวนยางที่มืดมิด ผมเดินตามเขาไปในความมืดอย่างว่าง่าย เสียงใบยางแห้งที่อยู่ใต้ฝ่าเท้าดังกรอบแกรบไปตลอดทาง เราเดินลึกเข้าไปในสวนเรื่อยๆ จนกระทั่งมาถึงกระท่อมไม้หลังเล็กๆ หลังหนึ่งที่ซ่อนตัวอยู่กลางดงต้นยาง ลุงเมธไขกุญแจแล้วเปิดประตูเข้าไป ก่อนจะหันมาพยักหน้าให้ผมเดินตามเข้าไป
ภายในกระท่อมมีเพียงแสงจากตะเกียงน้ำมันก๊าดที่เขาเพิ่งจุดขึ้นส่องสว่างรำไร มันให้บรรยากาศที่ดิบและเป็นส่วนตัวอย่างถึงที่สุด กลิ่นไม้เก่าๆ ผสมกับกลิ่นดินและกลิ่นยางอ่อนๆ มันคืออาณาจักรของเขา...และคืนนี้...ผมคือกองบรรณาการที่ถูกนำมาถวาย
เขานั่งลงบนแคร่ไม้ไผ่เก่าๆ แล้วตบลงที่ว่างข้างๆ "มานั่งนี่สิ"
ผมเดินเข้าไปนั่งข้างๆ อย่างตัวสั่นงันงก เขาหันมาเผชิญหน้ากับผม จ้องลึกเข้ามาในดวงตาที่สั่นระริกของผม
"เกือบไปแล้วสินะวันนี้" เขาเปิดประเด็นด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย "ถ้าลุงไม่ 'จอง' ไว้ก่อน...ป่านนี้ตูดของเราคงเป็นของคนอื่นไปแล้ว"
ผมก้มหน้างุด ไม่กล้าสู้สายตา "ผม...ผมขอโทษ"
"ไม่ต้องขอโทษ" เขาเชยคางผมขึ้นมาให้สบตากับเขา
"มันเป็นเรื่องธรรมชาติที่ณัฐจะอยากรู้อยากลอง...แต่ลุงแค่อยากให้ณัฐรู้ไว้...ว่า 'ครั้งแรก' น่ะ...มันสำคัญ...และลุงอยากให้คนที่ได้มันไป...คือคนที่คู่ควร...ไม่ใช่ใครก็ได้ที่เจอในเมือง"
น้ำตาของผมเริ่มไหลออกมาอย่างห้ามไม่อยู่ ผมรู้สึกผิดและขอบคุณเขาในเวลาเดียวกัน
เขายกนิ้วโป้งขึ้นมาปาดน้ำตาที่แก้มของผมเบาๆ "ไม่ต้องร้อง...เด็กดี" เขากระซิบ "คืนนี้...ลุงจะสอนให้ณัฐได้รู้เอง...ว่าความรู้สึกของการเป็น 'ของใครสักคน' อย่างสมบูรณ์แบบ...มันเป็นยังไง"
สิ้นคำพูดนั้น...เขาก็โน้มใบหน้าลงมา...แล้วมอบจูบที่ผมรอคอยมาตลอดทั้งวัน มันไม่ใช่จูบที่อ่อนโยนเหมือนของพี่อดิศร และไม่ได้ร้อนแรงเหมือนในความฝัน แต่มันคือจูบที่เต็มไปด้วยอำนาจและการแสดงความเป็นเจ้าของที่ดูดกลืนสติสัมปชัญญะทั้งหมดของผมให้หายไป...



จูบของลุงเมธดูดกลืนสติสัมปชัญญะทั้งหมดของผมไปจนหมดสิ้น มันไม่ใช่จูบที่อ่อนหวานเพื่อปลอบประโลม แต่มันคือจูบที่เต็มไปด้วยอำนาจ การแสดงความเป็นเจ้าของอย่างที่ผมไม่เคยเจอมาก่อน ลิ้นร้อนของเขาสอดแทรกเข้ามาในโพรงปากของผมอย่างบ้าคลั่ง กวาดต้อนและหยอกล้อกับลิ้นของผมอย่างผู้คุมเกมส์ เขาทั้งดูดดึงและขบเม้มริมฝีปากของผมจนมันเจ่อบวม ผมครางอื้ออึงในลำคอ แขนทั้งสองข้างยกขึ้นโอบรอบลำคอที่แข็งแกร่งของเขาอย่างลืมตัว สมองของผมขาวโพลนไปหมด รับรู้ได้เพียงรสจูบที่ร้อนแรงและกลิ่นกายผู้ชายอันเป็นเอกลักษณ์ของเขาเท่านั้น
เขาค่อยๆ ถอนริมฝีปากออกอย่างอ้อยอิ่ง ปล่อยให้น้ำลายของเรายืดเป็นสายบางๆ เขามองลึกเข้ามาในดวงตาที่ฉ่ำเยิ้มของผม ก่อนจะกระซิบด้วยน้ำเสียงแหบพร่า "ถอดเสื้อผ้าของเราออกให้หมดสิ...ณัฐ"
มันเป็นคำสั่ง...แต่เป็นคำสั่งที่ผมเต็มใจจะทำตามอย่างที่สุด ผมค่อยๆ ปลดกระดุมเสื้อของตัวเองออกทีละเม็ด ทีละเม็ดด้วยมือที่สั่นเทา สายตาของเขายังคงจ้องมองผมไม่วางตา ทุกการกระทำของผมอยู่ในสายตาของเขาทั้งหมด เมื่อผมถอดเสื้อของตัวเองจนพ้นตัว และค่อยๆ ปลดกางเกงลงจนร่างกายของผมเปลือยเปล่าอย่างสมบูรณ์ภายใต้แสงตะเกียงที่ริบหรี่ เขาก็ยิ้มอย่างพึงพอใจ
แต่เขาไม่ได้ถอดเสื้อผ้าของตัวเอง เขายังคงนั่งอยู่บนแคร่ในชุดเดิม แล้วตบลงที่พื้นไม้ข้างๆ เท้าของเขาเบาๆ "มานี่สิ...แล้วช่วยลุงถอดด้วย"
หัวใจผมกระตุกวูบ ผมค่อยๆ คลานเข่าเข้าไปหาเขาบนพื้นกระท่อมที่เย็นเฉียบ ผมนั่งคุกเข่าอยู่ตรงหน้าเขา เงยหน้าขึ้นมองใบหน้าคมคายที่อยู่สูงกว่า ผมรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นทาสผู้ซื่อสัตย์ที่กำลังรอรับคำสั่งจากเจ้านาย มือที่สั่นเทาของผมค่อยๆ เอื้อมไปปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตของเขาอย่างช้าๆ ปลายนิ้วของผมเผลอสัมผัสกับแผงอกที่ร้อนผ่าวและแข็งแกร่งของเขาจนผมสะดุ้ง ผมปลดมันออกทีละเม็ด เผยให้เห็นมัดกล้ามหน้าท้องที่เรียงตัวสวยงามและแนวขนอ่อนที่ขึ้นเป็นทางสวยงามลงไปจนถึงขอบกางเกง
ผมเลื่อนมือลงไปปลดเชือกรัดกางเกงของเขาอย่างทุลักทุเล ก่อนจะรูดกางเกงของเขาลงช้าๆ แล้วค่อยๆ ดึงมันลงจากสะโพกสอบที่แข็งแรงของเขาพร้อมกับกางเกงในตัวสุดท้าย เผยให้เห็นลำควยขนาดใหญ่ที่แข็งขืนเต็มที่ผงาดขึ้นมาทักทายผมในระดับสายตาพอดี
"จำได้ไหม...ที่เคยทำกับไอ้บอยมันที่ข้างทาง" เขากระซิบเสียงพร่า "ไหนลองทำกับของลุงดูสิ...แต่ทำให้ดีกว่าเดิมนะ...ลุงจะคอยสอนให้"
ผมกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่ จ้องมองลำควยของเขาอย่างพินิจพิเคราะห์ มันมีขนาดใหญ่และยาว แต่รูปทรงกลับดูสวยงามและสะอาดสะอ้านกว่าของคนอื่นๆ ที่ผมเคยเห็นมา ส่วนหัวที่บานออกเป็นสีแดงเข้มกว่าลำตัว มีหยาดน้ำใสๆ ปริ่มออกมาที่ปลายยอด ผมค่อยๆ ยื่นหน้าเข้าไปใกล้ๆ แล้วแลบลิ้นออกไปแตะชิมหยาดน้ำนั้นเบาๆ "แผล็บ" รสชาติเค็มปะแล่มๆ อย่างประหลาดทำให้ร่างกายผมร้อนวูบขึ้นมาทันที
"อืมมม...ดี" เขาครางในลำคอเบาๆ "เริ่มต้นได้ดี...ทีนี้ลองใช้ปากครอบลงไปแค่ส่วนหัวก่อน...ช้าๆ นะณัฐ"
ผมทำตามอย่างว่าง่าย ค่อยๆ อ้าปากออก แล้วครอบริมฝีปากของผมลงบนหัวบานฉ่ำของเขา ความอุ่นร้อนและสัมผัสที่หยุ่นนุ่มทำให้สมองผมขาวโพลนไปชั่วขณะ ผมเริ่มดูดดึงมันเบาๆ อย่างไม่ประสา เสียง "จ๊วบ...จ๊วบ..." ดังขึ้นอย่างน่าอาย
"ซี๊ดดดดดดด...ใช่...อย่างนั้นแหละ...เก่งมาก" ลุงเมธครางเสียงต่ำ เขาใช้มือขย้ำกลุ่มผมของผมเบาๆ แต่ไม่ได้บังคับ เป็นเหมือนการให้กำลังใจเสียมากกว่า "ทีนี้ลองใช้ลิ้น...ลิ้นของเราน่ะ...เลียวนรอบๆ ร่องหยักตรงคอคอดของมัน...ใช่...อ๊าาาาห์...ตรงนั้นแหละที่ลุงชอบ"
ผมทำตามคำสอนของเขาอย่างตั้งใจ ใช้ปลายลิ้นตวัดเลียไปตามส่วนที่เขาบอกอย่างละเอียดลออ เสียงครางของเขายิ่งดังขึ้นเรื่อยๆ มันเป็นเหมือนรางวัลที่ทำให้ผมมีกำลังใจที่จะทำต่อไป
"เก่งมากณัฐ...ทีนี้ลองอมให้ลึกขึ้น...ดูดมันเข้าไปให้หมดทั้งลำเลย...ไม่ต้องกลัว...อ๊าาาห์...ใช่เลย...แบบนั้นแหละ!"
ผมดูดกลืนลำควยของเขาเข้าปากจนสุดความสามารถ ลำควยอุ่นร้อนของเขาดุนดันเข้ามาในลำคอจนผมแทบสำลัก เสียง "อ๊อก...อ๊อก...อ๊อก…อ๊อก" ดังขึ้นเบาๆ แต่เขากลับใช้มือประคองท้ายทอยของผมไว้เบาๆ ไม่ให้ผมผงะหนี "เก่งมากลูก...ค้างไว้...แล้วลองขยับหัวขึ้นลงช้าๆ...อื้มมมมมม!"
ผมเริ่มขยับหัวขึ้นลง รูดรั้งลำควยของเขาด้วยโพรงปากและลำคอของผม เสียง "จ๊วบ...จ๊าบ...จ๊วบ...จ๊าบ..." ดังขึ้นอย่างต่อเนื่องและหยาบโลน ผมรู้สึกถึงลำควยของเขาที่ขยายใหญ่กว่าเดิมพร้อมปล่อยน้ำเงี่ยนของลุงเมธที่รสชาติคาวอ่อนๆออกมา ผมเลือกที่จะไม่คายทิ้งแต่กลืนมันลงไปให้หมด น้ำของลุงเมธผมก็จะกลืนลงไปเช่นกัน ผมรู้สึกได้ถึงท่อนลำที่มันกระตุกมากขึ้นเรื่อยๆและพองขยายขึ้นจนคับปากจนแทบจะขยับไม่ได้แถมตัวของลุงเมธก็เริ่มสั่นไม่เป็นจังหวะผมเดาว่าเขาน่าจะใกล้เสร็จแล้ว
“ซี๊สสสส…อ่าาาาาา…พอ...พอก่อนณัฐ...อ่าาาห์...พอก่อน...เดี๋ยวผัวเสร็จก่อนจะเย็ดเมียนะ..." เขาดึงตัวผมออกอย่างอ่อนโยน น้ำลายของผมยืดเป็นสายเชื่อมระหว่างปากของผมกับปลายควยของเขาอย่างน่าอาย
"เพิ่งหัดดูดควยได้ไม่กี่ครั้งแต่ทำได้ถึงขนาดนี้...ถือว่าสอบผ่าน" เขายิ้มอย่างพอใจ "คราวนี้...ตาผัวดูแลเมียคืนบ้างนะ"
เขาช้อนร่างเปลือยเปล่าของผมขึ้นไปนอนบนแคร่อย่างง่ายดาย ก่อนจะขึ้นคร่อมทับผมไว้ เขาไม่ได้ทำอะไรต่อ แต่กลับจูบผมอย่างดูดดื่มอีกครั้ง ขณะที่มือหนาก็ลูบไล้ไปทั่วร่างกายของผมอย่างช่ำชอง เขาบดขยี้ยอดอกของผมด้วยปลายนิ้ว สลับกับการใช้ริมฝีปากดูดดึงอย่างแรงจนผมแอ่นอกขึ้นรับอย่างลืมตัวพร้อมครางเรียกลุงเมธว่าผัวตามที่เขาเรียกผมว่าเมียอย่างลืมตัว"อ๊ะ…อ๊า...ผัว...ผัวขา...ตรงนั้น...อื้อออ" ผมดิ้นพล่านไปมาด้วยความเสียวซ่านที่ควบคุมไม่ได้เขาก็ยังไม่หยุดจึงทำได้เพียงจับหัวเขาเอาไว้และพยายามดันออกแต่ยิ่งดันออกยิ่งกลายเป็นว่าหัวนมของผมถูกเขาดึงติดปากออกไปด้วยความเสียวของผมยิ่งทะยานอย่างไร้ขีดจำกัดทำให้ส่งเสียงครางออกมาอย่างห้ามไม่อยู่
“อื้อออ…อ๊ะ…อ๊าาาาาา…อู๊ยยย…ผะ…ผัว”
จากนั้น...เขาก็จับผมพลิกให้นอนคว่ำหน้าลงกับแคร่ จัดท่าให้ผมโก้งโค้งอยู่ในท่าที่น่าอายที่สุด แล้วเขาก็โน้มตัวลงมา...ผมคิดว่าเขาจะสอดใส่...แต่สิ่งที่ผมรู้สึกกลับเป็นสัมผัสที่อุ่นและเปียกชื้นอย่างไม่น่าเชื่อ!
"อ๊ะ! ผัวขา...จะทำอะไรครับ!" ผมร้องเสียงหลงเมื่อรู้ว่าเขากำลังทำอะไร
ลิ้นร้อนๆ ที่ชื้นแฉะของเขากำลังไล้เลียไปทั่วร่องก้นของผม! เสียง "แผล็บ...แผล็บ..." ดังขึ้นใกล้หูจนผมขนลุกไปทั้งตัว เขาค่อยๆ ใช้ปลายลิ้นสะกิดและเลียวนที่รูตูดของผมอย่างชำนาญ ความรู้สึกนี้มันแปลกใหม่...มันทั้งจั๊กจี้และเสียวซ่านจนผมต้องกำแคร่ไม้ไผ่ไว้แน่น
"อ๊าาาา...ผัว...อย่า...ผม...ผมเสียว...ซี๊ดดดดด!" ผมครางไม่เป็นศัพท์ ร่างกายส่ายไปมาอย่างควบคุมไม่ได้ ลุงเมธใช้มือข้างหนึ่งกดสะโพกผมไว้แน่น ล๊อคสะโพกผมแล้วใช้ลิ้นรุกล้ำเข้ามาในรูตูดของผมอย่างไม่ออมแรง! เสียง "จ๊วบ...จ๊วบ!" ดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง ผมรู้สึกเหมือนสมองกำลังจะระเบิด ความเสียวซ่านพุ่งขึ้นมาจากรูตูดผ่านแนวสันหลังและไหล่เข้ายังสมองผมอย่างจังผมคิดอะไรไม่ออกนาทีนั้นได้แต่นอนร้องครวญครางให้ลุงเมธเล่นงานผมไม่หยุดมันรุนแรงจนลำควยของผมที่แข็งอยู่แล้วกับแข็งขึ้นไปมากกว่าเดิมอีกพร้อมทั้งปล่อยน้ำเงี่ยนไหลออกมาเป็นสายจนแคร่ไม้เปียกเป็นดวงๆทุกหย่อมหญ้าเพราะยิ่งผมดิ้นหนีจากลิ้นของลุงเมธมากเท่าไหร่ ควยที่แข็งจนปวดพร้อมทั้งพ่นน้ำเงี่ยนออกมาไม่หยุดก็ส่ายไปมาอย่างไร้การควบคุมเช่นกัน
เมื่อเขาปรนเปรอผมจนพอใจและรูตูดของผมคลายตัวลงจนพร้อมแล้ว เขาก็ชโลมเจลหล่อลื่นลงมาจนชุ่มฉ่ำ พร้อมทั้งทาเจลหล่อลื่นไปที่ควยแล้วและชักจนเกิดเสียงดังแจ๊ะๆๆ "พร้อมรึยัง...ที่จะเป็นของผัวจริงๆ" เขากระซิบชิดใบหูผม
เขาจับลำควยแข็งๆ ของเขาที่เปียกลื่นจ่อเข้าที่รูตูดของผม ผมรู้สึกได้ถึงหัวบานหยักที่กดบี้อยู่ตรงปากทาง มันทั้งแน่นและร้อนจนผมแทบบ้า เขาไม่ได้กระแทกเข้ามา แต่กลับใช้ปลายนิ้วของเขาที่เปื้อนเจลสอดนำเข้ามาในรูของผมเบาๆ หนึ่งนิ้ว...แล้วตามด้วยนิ้วที่สอง
"อึก!" ผมเกร็งตัวทันที "ใจเย็นๆ ณัฐ...ผ่อนคลายหายใจเข้าลึกๆ" เขาสอนผม "หายใจเข้า…อ๊าาาา...แบบนั้นแหละ…ดี…ดีแล้วค่อยๆ ปล่อยลมออกมา...ใช่...ตอนที่เราปล่อยลมออกมา ให้เราผ่อนคลายกล้ามเนื้อตรงนี้ด้วย...อย่าเกร็งสู้...ยิ่งเราผ่อนคลาย...มันก็จะยิ่งรู้สึกดีนะเมีย…อีกอย่างถ้าเกร็งเมียจะเจ็บนะครับ"
ผมพยายามทำตามที่เขาบอก เขาค่อยๆ ขยับนิ้วเข้าออกอย่างเชื่องช้า คว้านนิ้วไปรอบๆ เพื่อเตรียมความพร้อมให้ผม "ดีมาก...เด็กดี...แบบนั้นแหละ" เมื่อเห็นว่าผมพร้อมแล้ว เขาก็ดึงนิ้วออก แล้วแทนที่ด้วยปลายลำควยของเขาที่กดเข้ามาอย่างช้าๆ...ช้ามากๆ...
"อึก! อ๊าส์..." ผมร้องครางออกมาทันที ความเจ็บแปลบแล่นวาบเข้ามาอย่างรุนแรง มันคือความเจ็บของการถูกเบิกทางเป็นครั้งแรกที่แท้จริง ร่างกายของผมเกร็งขึ้นมาทันที "เจ็บ...ผัวขา...ผมเจ็บ!!!"
"รู้แล้วครับ...อดทนนะคนดี" เขาพูดปลอบโยนอยู่ข้างหู ขณะที่ยังคงกดลำควยแช่ไว้อย่างนั้น "เชื่อใจผัวนะ"
“อื้อออ…อ๊าาาาาาา…หือออ”
ผมพยายามทำตามที่เขาบอก และเขาก็เริ่มดันลำควยเข้ามาต่ออย่างช้าๆ แต่ต่อเนื่อง ผมรู้สึกเหมือนร่างกายกำลังจะฉีกขาด แต่ในความเจ็บนั้นมันกลับมีความรู้สึกตึงและ "เต็ม" อย่างน่าประหลาด จนกระทั่ง...เข้าไปจนสุดลำ!
"อ๊าาาาาาาา! ผัว...มัน...มันลึก...อื้อออ" ผมร้องครางออกมาไม่ได้ศัพท์ ร่างกายกระตุกเกร็งอย่างรุนแรง น้ำตาไหลออกมาจากหางตา ผมรู้สึกถึงของเหลวอุ่นๆ ที่ไหลซึมออกมาจากรูตูด...เลือด...มันคือเลือดจางๆ ที่บ่งบอกว่าพรหมจรรย์ของผมได้ถูกทำลายลงแล้ว
เขาแช่ลำควยไว้อย่างนั้นครู่หนึ่ง ก่อนจะเริ่มขยับสะโพกอย่างช้าๆ และเนิบนาบที่สุด เสียง "พลั่บ...แฉะ...พลั่บ...แผล็บ..." ดังขึ้นอย่างเชื่องช้าและเปียกชื้น ความเจ็บเริ่มจางหายไป ถูกแทนที่ด้วยความเสียวซ่านที่ลึกล้ำจนผมแทบหยุดหายใจ "อื้อ...อืมมม...ผัวขา...มัน...รู้สึกเสียวดี...จัง" ผมพึมพำออกมาอย่างลืมตัว
คำพูดของผมเป็นเหมือนสัญญาณ เขาเริ่มขยับสะโพกเป็นจังหวะที่สม่ำเสมอแต่ลึกและทรงพลัง เขาเปลี่ยนท่าให้ผมนอนหงายแล้วยกขาของผมขึ้นพาดบ่า ทำให้ผมสามารถมองเห็นทุกการกระทำของเขาได้อย่างชัดเจน ผมเห็นลำควยใหญ่โตของเขากำลังวิ่งเข้าออกร่างกายของผมอย่างไม่หยุดหย่อน ผมเห็นใบหน้าที่เปี่ยมสุขของเขา...และผมเห็นตัวเองที่นอนครางอยู่ใต้ร่างของเขาอย่างสมยอม
"มองหน้าผัวสิเมีย" เขาสั่ง "มองตอนที่ผัวเย็ดเรา" เขากระแทกเน้นๆ เข้ามาหนึ่งที "แล้วบอกผัวมาสิ...ว่าวันนี้ที่ไปในเมืองน่ะ...ไปเจอใครมา...หืม?"
คำถามนั้นทำให้ผมชะงักไปทั้งตัว! ความสุขสมเมื่อครู่ถูกแทนที่ด้วยความตื่นตระหนก "เปล่า...เปล่านะครับ...ไม่ได้เจอใคร" ผมรีบปฏิเสธ
"โกหกผัวเหรอ?" เขาพูดเสียงเย็น แต่การกระทำของเขากลับร้อนแรงขึ้น! เขาเริ่มกระหน่ำซอยสะโพกเข้าใส่ผมอย่างบ้าคลั่ง! "ตั่บ! ตั่บ! ตั่บ! ตั่บ! ตั่บ!" เสียงเนื้อกระทบกันดังถี่รัวและรุนแรงจนผมจุกจนเผลอเอามือไปดันท้องน้อยของเขา มันไม่ใช่การกระแทกที่นุ่มนวลอีกต่อไป แต่มันคือการลงโทษที่แสนหวาน
"อ๊าาา! อ๊ะ! อ๊ะ! อ๊ะ! ผัวขา...หยุด...ผม...อ๊า!" ผมร้องเสียงหลง ร่างกายสั่นสะท้านไปทั้งตัวอย่างควบคุมไม่ได้ เขากระแทกย้ำๆ ไปที่จุดเดิมซ้ำๆ จนผมเสียวจนแทบจะขาดใจเสียงของผมขาดช่วงเหมือนคนจะขาดใจตาย
ในขณะที่เสียงหน้าขากระแทกกับสะโพกของผมจนดังลั่นไปทั่ว
“ตั๊บ…ตั๊บ…ตั๊บ…ตั๊บ”
"ตอบมาเร็ว!"
"ไปทำอะไรกับใครมา!"เขาคำราม
"พะ...พี่…พี่อดิศร...อ๊าาาาา!" ในที่สุดผมก็ทนไม่ไหว ครางชื่อนั้นออกมาพร้อมกับเสียงสะอื้นรอยยิ้มของผู้ชนะปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขา เขาชะลอจังหวะลง กลับมาเป็นการกระแทกที่ลึกและเน้นหนักอีกครั้ง "แล้วได้ทำอะไรกันรึเปล่า...ได้ให้มันเย็ดรึเปล่า!"
"มะ...ไม่...ไม่ได้ทำ...อ๊าส์...ผม...ผมทำไม่ได้...อื๊อออออ" ผมตอบเสียงสั่นเครือ
"ทำไมถึงทำไม่ได้?" เขากระแทกสวนเข้ามาอีกครั้งอย่างแรง
"เพราะ...เพราะตูดของเมีย...มันเป็นของผัว...อ๊าาาา!" ผมกรีดร้องคำตอบนั้นออกมาสุดเสียง
คำตอบนั้นเป็นเหมือนชนวนระเบิด เขาเร่งจังหวะสุดท้ายอย่างบ้าคลั่ง ผมรู้สึกได้ถึงความร้อนที่พุ่งเข้ามาในร่างกาย เขาปลดปล่อยน้ำกามทั้งหมดเข้ามาในตัวผมจนล้นทะลัก ขณะเดียวกันผมก็ทนไม่ไหวอีกต่อไป ร่างกายกระตุกเกร็งอย่างรุนแรง ปลดปล่อยน้ำกามของตัวเองออกมาเปรอะเปื้อนหน้าท้องจนขาวโพลนไปหมด
เราสองคนนอนหอบหายใจอยู่บนแคร่อย่างเหนื่อยอ่อน เขาดึงร่างที่หมดแรงของผมเข้ามากอดไว้ในอ้อมแขนอย่างหวงแหน จูบซับเหงื่อที่ขมับของผมเบาๆ
"เก่งมาก...เมียของผัว" เขากระซิบข้างหูของผม ก่อนจะเสริมประโยคสุดท้ายที่ตอกย้ำสถานะใหม่ของผมอย่างสมบูรณ์แบบ "จำไว้นะ...ณัฐเป็นของลุงแล้ว...เป็นของลุงคนเดียว"



ผมไม่รู้ว่าเราสองคนนอนกอดกันนิ่งๆ อยู่บนแคร่ไม้ไผ่ที่ชุ่มโชกไปด้วยหยาดเหงื่อและคราบน้ำกามของเรานานแค่ไหน สติของผมมันล่องลอยเคว้งคว้างอยู่ในห้วงของความว่างเปล่า ร่างกายของผมอ่อนเปลี้ยเพลียแรงจนแทบจะขยับไม่ได้ ทุกส่วนของร่างกายมันทั้งปวดร้าวและอิ่มเอมในเวลาเดียวกัน โดยเฉพาะช่องทางด้านหลังที่เพิ่งถูกเบิกทางเป็นครั้งแรก มันยังคงรู้สึกปวดหน่วงและร้อนผ่าว แต่ในขณะเดียวกันก็รับรู้ได้ถึงของเหลวอุ่นๆ ที่ลุงเมธได้ทิ้งไว้ข้างใน เป็นเหมือนรอยตราที่มองไม่เห็นซึ่งตอกย้ำว่าบัดนี้ผมไม่ได้เป็นของตัวเองอีกต่อไปแล้ว
ลุงเมธเป็นฝ่ายขยับตัวก่อน เขาค่อยๆ ถอนลำควยที่อ่อนตัวลงแล้วออกจากร่างกายของผมอย่างแผ่วเบาที่สุด ความรู้สึกว่างโหวงเข้ามาแทนที่ในทันที "เจ็บมากไหม" เขากระซิบถามพลางใช้ปลายนิ้วเช็ดคราบเลือดจางๆ ที่ซึมออกมาจากรูตูดของผมอย่างอ่อนโยน
ผมทำได้เพียงส่ายหน้าเบาๆ ไม่กล้าสบตาเขาด้วยความอับอาย
เขาหัวเราะในลำคอเบาๆ "โกหก...หน้าซีดขนาดนี้" เขาพูดพลางช้อนร่างที่หมดแรงของผมขึ้นมาในอ้อมแขนอย่างง่ายดายราวกับผมเป็นเพียงตุ๊กตาตัวหนึ่ง "ไป...เดี๋ยวผัวพาไปล้างตัว"
เขาอุ้มผมเดินไปยังโอ่งน้ำขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่หลังกระท่อม เขาวางผมลงอย่างนุ่มนวลก่อนจะตักน้ำที่เย็นเฉียบราดลงบนร่างกายของผมเพื่อชำระล้างคราบไคลต่างๆ ความเย็นของน้ำทำให้ผมสะดุ้งเล็กน้อย แต่ก็ช่วยให้ผมรู้สึกสดชื่นขึ้นมาบ้าง เขาทำความสะอาดร่างกายให้ผมทุกซอกทุกมุมอย่างพิถีพิถันและอ่อนโยนอย่างไม่น่าเชื่อ โดยเฉพาะที่ช่องทางด้านหลัง เขาค่อยๆ ใช้นิ้วสอดเข้าไปเพื่อคว้านเอาน้ำกามและคราบเลือดที่ตกค้างอยู่ออกมาอย่างแผ่วเบาที่สุด การกระทำที่ดูเหมือนจะหยาบโลน แต่กลับเต็มไปด้วยความใส่ใจนั้นทำให้หัวใจของผมเต้นแรงอย่างประหลาด
"จำความรู้สึกนี้ไว้นะณัฐ" เขาพูดขึ้นขณะที่กำลังทำความสะอาดให้ผม "นี่คือความรู้สึกของการถูกเย็ดครั้งแรก...ความรู้สึกของการเป็นเมีย...มันทั้งเจ็บและเสียวในเวลาเดียวกัน และต่อจากนี้ไป...ณัฐจะต้องเจอกับมันอีกหลายครั้ง"
คำพูดของเขาทำให้ผมหน้าแดงซ่านไปถึงใบหู "หมายความว่ายังไงครับ"
เขายิ้มมุมปาก "ก็หมายความว่า...เรื่องของเรามันเพิ่งจะเริ่มต้นน่ะสิ" เขาพูดพลางเช็ดตัวให้ผมจนแห้ง แล้วอุ้มผมกลับเข้าไปในกระท่อมอีกครั้ง เขาวางผมลงบนแคร่ไม้ไผ่ที่ตอนนี้ถูกปูด้วยผ้าผืนใหม่ที่สะอาดสะอ้าน
"นอนพักซะ...เดี๋ยวลุงอยู่เป็นเพื่อนตรงนี้" เขาสั่งเบาๆ ก่อนจะนั่งลงข้างๆ แล้วดึงผมเข้าไปกอดไว้ในอ้อมแขนที่แข็งแกร่งของเขา
ผมซบหน้าลงกับแผงอกที่อบอุ่นของเขา กลิ่นกายผู้ชายของเขามันทำให้ผมรู้สึกปลอดภัยอย่างน่าประหลาด ผมควรจะกลัวเขา...ควรจะเกลียดเขาที่พรากพรหมจรรย์ของผมไป แต่ผมกลับไม่รู้สึกอย่างนั้นเลยแม้แต่น้อย ตรงกันข้าม...ผมกลับรู้สึกเหมือนได้ค้นพบบ้าน...ที่พักพิงที่ผมตามหามาตลอด ผมผล็อยหลับไปในอ้อมกอดของเขาอย่างง่ายดาย
ผมไม่รู้ว่าตัวเองหลับไปนานแค่ไหน แต่เมื่อผมตื่นขึ้นมาอีกครั้ง แสงสีทองของรุ่งอรุณก็เริ่มสาดส่องเข้ามาในกระท่อมแล้ว ผมขยับตัวเล็กน้อยและรู้สึกเจ็บแปลบที่ช่องทางด้านหลังทันที มันคือเครื่องยืนยันว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนไม่ใช่ความฝัน ลุงเมธที่นอนกอดผมอยู่ก็ลืมตาขึ้นมาพอดี เขายิ้มให้ผมอย่างอ่อนโยนก่อนจะมอบจูบที่หน้าผากให้เป็นรางวัล
เราสองคนช่วยกันแต่งตัวและเก็บกวาดกระท่อมให้เรียบร้อยราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น บรรยากาศระหว่างเราไม่ได้อึดอัด แต่กลับเต็มไปด้วยความเงียบที่เข้าใจกัน ระหว่างทางเดินกลับบ้าน แสงแดดอ่อนๆ ยามเช้าส่องผ่านทิวต้นยางลงมาเป็นลำสวยงาม ผมเดินตามหลังเขาไปเงียบๆ มองดูแผ่นหลังที่กว้างและมั่นคงของเขาแล้วก็ได้แต่คิด...ชีวิตของผมหลังจากนี้จะเป็นอย่างไรต่อไปนะ?
เมื่อเราเดินมาเกือบจะถึงตัวบ้าน เราก็สวนเข้ากับลุงชัยที่กำลังจะออกไปสวนพอดี เขาสวมเพียงกางเกงขาสั้นตัวเดียว เผยให้เห็นท่อนบนที่กำยำและรอยสักที่แผงอก เขายืนกอดอกพิงต้นไม้ใหญ่อยู่ ราวกับกำลังรอเราอยู่แล้ว เขามองเราสองคนสลับกันไปมาด้วยแววตาพราวระยับที่อ่านยาก ก่อนจะยิ้มมุมปากแล้วเอ่ยทักขึ้น
"โอ้โห...ไปทำอะไรกันมาแต่เช้ามืดวะไอ้เมธ...ดูสิ...หลานเราหน้าตาดูอิ่มเอิบเหมือนได้กินของดีๆ มาเลยนะ" เขาพูดพลางปรายตามองมาที่ผมตั้งแต่หัวจรดเท้า สายตาของเขาทำให้ผมรู้สึกเหมือนถูกเปลื้องผ้าอีกครั้งจนต้องรีบก้มหน้างุด
"ก็พามาดูสวน...ของที่มันยังอ่อนๆ อยู่ ก็ต้องคอยดูแลรดน้ำพรวนดินบ่อยๆ...เดี๋ยวมันจะเฉาเอา" ลุงเมธตอบกลับอย่างเรียบเฉย แต่น้ำเสียงนั้นแฝงไปด้วยการประกาศอาณาเขตอย่างชัดเจน
"ฮ่าๆๆ! ขยันจริงนะมึง" ลุงชัยหัวเราะในลำคอ ก่อนจะเดินตรงเข้ามาหาผม เขาไม่ได้สนใจลุงเมธอีกต่อไป แต่กลับมายืนอยู่ตรงหน้าผมแล้วยกมือขึ้นลูบแก้มผมเบาๆ "แล้วเป็นไงเรา...โดนเขาพรวนดินไปซะหนักเลยเหรอ...ดูสิ...เดินยังขาถ่างๆ อยู่เลย"
ผมหน้าแดงก่ำไปจนถึงใบหู ทำอะไรไม่ถูก ได้แต่ยืนตัวแข็งทื่อ
"แต่ก็น่าจะดีนะ...ดินที่โดนพรวนไปแล้วมันจะนุ่ม...รับน้ำได้ดีขึ้นเยอะเลย" เขาพูดต่อพลางเลื่อนมือหนาๆ ของเขาจากแก้มลงมาตามลำคอของผม ผ่านแผงอก แล้วค่อยๆ เลื่อนลงต่ำไปทางด้านหลังอย่างจงใจ "ว่าแต่...ดินแปลงนี้มันจะรับปุ๋ยจากคนอื่นได้อีกรึเปล่านะ..."
มือของเขาเลื่อนมาหยุดอยู่ที่บั้นท้ายของผม! ก่อนที่เขาจะออกแรงบีบขย้ำมันอย่างแรงและเต็มไม้เต็มมือจนผมสะดุ้งสุดตัว!
"อ๊ะ!" ผมร้องออกมาด้วยความตกใจและเจ็บเล็กน้อย
"หืม...ดูท่าดินจะแน่นขึ้นจริงๆ ด้วยว่ะ" เขากระซิบชิดหูผมด้วยน้ำเสียงหื่นกระหาย มือของเขายังคงไม่ปล่อย แต่กลับบดคลึงบั้นท้ายของผมอย่างสนุกมือ "โดนพรวนไปซะจนบวมเลยนะ...ไว้ว่างๆ ลุงจะไปช่วยพรวนอีกแรง...รับรองว่าปุ๋ยของลุงน่ะ...ดีกว่าของไอ้เมธมันเยอะ!"
ผมยืนตัวสั่นด้วยความอับอายและตื่นตระหนก ผมเหลือบมองไปทางลุงเมธเพื่อขอความช่วยเหลือ แต่เขากลับยืนนิ่งมองมาด้วยสายตาที่เย็นชา
ลุงชัยเห็นสายตาของผม เขาก็หัวเราะร่วน ก่อนจะปล่อยมือออกจากบั้นท้ายของผม แล้วตบลงไปเบาๆ อีกทีเป็นการทิ้งท้าย "ไปเถอะ...ไปพักผ่อน...เดี๋ยวจะไม่มีแรงให้ลุงพรวนดินเอานะ" เขาพูดจบก็เดินหัวเราะจากไป
ทันทีที่ลุงชัยเดินลับสายตาไป ลุงเมธก็เดินเข้ามาหาผมแล้วคว้ามือผมไว้ เขากุมมือผมแน่นแล้วจูงเดินเข้าบ้านไปทันที โดยไม่พูดอะไรสักคำ บรรยากาศรอบตัวเรากดดันจนผมแทบหายใจไม่ออก
ผมนั่งลงบนเตียงนอนในห้องของตัวเองหลังจากที่แยกกับลุงเมธ ผมรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นคนละคนกับเมื่อวานโดยสิ้นเชิง ผมยกมือขึ้นสัมผัสริมฝีปากที่ยังคงบวมเจ่อเล็กน้อย...สัมผัสยอดอกที่ยังคงเสียวแปลบ...และสัมผัสบั้นท้ายที่ยังคงปวดหน่วงและเพิ่งถูกลวนลามมาสดๆ...
เสียงกระซิบที่มองไม่เห็นในคืนนั้น...บัดนี้มันได้กลายเป็นความจริงที่น่ากลัว
แต่ถ้าถามว่าผมกลัวไหมก็คงต้องบอกว่าผมตั้งตารอที่จะได้รับความเสียวแบบนี้อีกครั้งมากกว่าความกลัว



ผมพยายามข่มตานอน แต่ก็หลับไม่ลง ผมได้แต่คิดวนเวียนถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมด...สัมผัสของลุงเมธ...คำพูดของเขา...และที่สำคัญที่สุดคือแววตาของลุงชัยเมื่อเช้านี้ มันไม่ใช่แววตาของศัตรูที่จ้องจะแย่งชิง แต่มันคือแววตาของผู้ใหญ่ที่มองเด็กด้วยความเอ็นดูปนขบขัน...เหมือนผู้ใหญ่ที่มองเห็นเด็กเพิ่งหัดเดินแล้วล้มลุกคลุกคลาน มันทำให้ผมสับสนยิ่งกว่าเดิม
เมื่อถึงเวลามื้อกลางวัน ผมรวบรวมความกล้าทั้งหมดเดินลงไปข้างล่าง บรรยากาศในบ้านดูปกติอย่างน่าประหลาด ป้าแดงกับน้าอุษายังคงหัวเราะพูดคุยกันเรื่องละครหลังข่าวเหมือนทุกวัน และที่โต๊ะอาหาร...ลุงชัยก็นั่งอยู่ที่เดิม เขามองมาที่ผมแล้วยิ้มให้ เป็นรอยยิ้มปกติที่ไม่ได้มีเลศนัยน่ากลัวเหมือนที่ผมคิดไว้ มันยิ่งทำให้ผมทำตัวไม่ถูก
"มาลูกณัฐ มานั่งนี่" ป้าแดงกวักมือเรียกผมไปนั่งข้างๆ "วันนี้มีแกงหน่อไม้ของโปรดเราด้วยนะ"
ผมทรุดตัวลงนั่งอย่างเงียบๆ ไม่กล้าสบตาลุงชัยที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามเลยแม้แต่น้อย ผมรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นตัวประหลาดที่กำลังมีความลับดำมืดซ่อนไว้ในใจ ขณะที่คนอื่นๆ กำลังใช้ชีวิตอย่างปกติสุข
"เป็นไงเรา...เมื่อคืนนอนหลับสบายดีไหม" ลุงชัยเป็นฝ่ายเปิดประเด็นขึ้น น้ำเสียงของเขาเป็นปกติ ธรรมดาจนน่ากลัว
"กะ...ก็สบายดีครับลุง" ผมตอบเสียงตะกุกตะกัก
"ดีแล้วล่ะ...ต้องพักผ่อนเยอะๆ" เขายิ้ม "ช่วงนี้ดูผอมไปนะเรา กินเยอะๆ หน่อย ร่างกายจะได้แข็งแรง" เขาพูดพลางตักกับข้าวใส่จานให้ผมอย่างที่ผู้ใหญ่พึงกระทำ มันคือความเป็นห่วงที่จริงใจจนผมเริ่มสับสนว่าสิ่งที่ผมกังวลอยู่นั้น ผมคิดไปเองรึเปล่า
ลุงเมธที่นั่งอยู่หัวโต๊ะไม่ได้พูดอะไร เขาแค่ทานข้าวของเขาไปเงียบๆ แต่ผมรู้สึกได้ถึงสายตาของเขาที่เหลือบมองมาเป็นระยะๆ มันไม่ใช่สายตาที่กดดัน แต่เป็นสายตาที่ "เฝ้าสังเกต" ราวกับกำลังดูว่าผมจะรับมือกับสถานการณ์นี้อย่างไร
หลังจากมื้ออาหารที่แสนจะอึดอัดจบลง ผมรีบขอตัวปลีกออกมาทันที ผมเดินมานั่งสงบสติอารมณ์ที่แคร่หลังบ้านที่เดิม แต่ไม่นานนักลุงชัยก็เดินตามมา ในมือของเขาถือแก้วกาแฟมาด้วย
หัวใจผมหล่นวูบ ผมเตรียมจะลุกหนี แต่เขากลับพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเรียบๆ "ไม่ต้องกลัวหรอกน่า...ลุงไม่ทำอะไรเราตรงนี้หรอก" เขาทรุดตัวลงนั่งที่อีกฝั่งหนึ่งของแคร่ เว้นระยะห่างระหว่างเราพอสมควร
เราสองคนนั่งเงียบกันอยู่ครู่ใหญ่ มีเพียงเสียงลมที่พัดผ่านใบไม้เท่านั้น
"เมื่อคืน..." ในที่สุดเขาก็เป็นฝ่ายพูดขึ้น ทำลายความเงียบที่น่าอึดอัด "ไอ้เมธมัน...ดูแลดีไหมล่ะ"
คำถามที่ตรงไปตรงมานั้นทำให้ผมหน้าชาวาบ ผมอ้าปากพะงาบๆ แต่ไม่มีเสียงใดเล็ดลอดออกมา ได้แต่ก้มหน้างุด ไม่กล้าสบตาเขา
"ฮ่าๆๆ" เขาหัวเราะในลำคอเบาๆ "ไม่ต้องอายหรอกน่า...เรื่องแบบนี้มันเป็นเรื่องของผู้ชาย" เขายกกาแฟขึ้นจิบ "ไอ้เมธมันก็แค่เห็นของดีก่อนคนอื่น...ตาไวมันก็ได้เปรียบเป็นธรรมดา"
ผมค่อยๆ เงยหน้าขึ้นมองเขาอย่างไม่เข้าใจ
"คนเราน่ะณัฐ...พอเจออะไรที่มันถูกใจ...มันก็อยากจะลอง...อยากจะชิม" เขามองลึกเข้ามาในตาผม สายตาของเขาไม่ได้ดูน่ากลัว แต่กลับเต็มไปด้วยความเข้าใจอย่างประหลาด "การที่ได้เริ่มกับไอ้เมธน่ะ...ก็ดีแล้ว...มันเป็นคนใจเย็น รู้จักสอน...ถือซะว่าเป็นบทเรียนแรกที่ดี"
"บทเรียน?" ผมทวนคำอย่างแผ่วเบา
"ใช่...บทเรียน" เขายิ้มอย่างมีเลศนัย ก่อนจะโน้มตัวเข้ามาใกล้ผมเล็กน้อย ลดเสียงลงเป็นเสียงกระซิบ "แต่ถ้าอยากจะเรียนให้มันเก่งๆ น่ะ...มันจะเรียนกับครูคนเดียวได้ยังไง...จริงไหม?"
เขาลุกขึ้นยืน แต่แทนที่จะเดินจากไป เขากลับมายืนอยู่ตรงหน้าผมที่ยังคงนั่งอยู่บนแคร่ เขาเอนหลังพิงต้นไม้ใหญ่ข้างๆ แคร่ ยกขาข้างหนึ่งขึ้นพาดไขว่ห้างอย่างสบายอารมณ์ แต่ท่านั้นมันทำให้เป้ากางเกงขาสั้นสีเก่าๆ ของเขา...มันนูนเด่นและตึงเปรี๊ยะขึ้นมาเป็นเป้าสายตาของผมอย่างจงใจ
เขาจ้องมองผมด้วยสายตาที่ลุกโชนขึ้นอย่างชัดเจน ก่อนจะพูดต่อด้วยน้ำเสียงที่แหบพร่า
"ของแบบนี้...มันต้องลองหลายๆ รสชาติ...จะได้รู้ว่าเราชอบแบบไหนที่สุด"
พูดจบ...เขาก็ยกมือหนาๆ ที่เต็มไปด้วยเส้นเลือดของเขาขึ้นมา...แล้ววางทาบลงบนเป้ากางเกงของตัวเองอย่างเต็มไม้เต็มมือ!
ภาพในหัวของผมตัดฉับกลับไปในคืนวงเหล้าทันที...ภาพที่ลุงชัยคว้ามือของผมไปวางบนเป้ากางเกงที่แข็งเป็นลำของเขา...สัมผัสที่ร้อนผ่าวและความแข็งขืนที่ดุนดันฝ่ามือของผมผ่านเนื้อผ้า มันยังคงชัดเจนราวกับเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวินาทีก่อน ผมจำได้ถึงความรู้สึกกลัวระคนตื่นเต้นในตอนนั้น...ความรู้สึกที่ทำให้ท้องน้อยของผมปั่นป่วนไปหมด...
"ลีลาของไอ้เมธมันก็ดี...นุ่มนวล...ค่อยเป็นค่อยไป..." ลุงชัยพูดช้าๆ ขณะที่มือของเขากำลังบดคลึงส่วนที่แข็งขืนของตัวเองเป็นวงกลมอย่างเชื่องช้าผ่านเนื้อผ้า ผมเห็นมันขยับขยายใหญ่ขึ้นจนคับแน่นอยู่ข้างใน "...แต่ลีลาของลุงน่ะ..." เขากระตุกยิ้มมุมปาก "...ไม่ต้องมีพิธีรีตองเยอะ"
ใบหน้าของผมร้อนฉ่าขึ้นมาทันที ผมรู้สึกเหมือนเลือดทั้งหมดในร่างกายวิ่งมารวมกันที่ใบหน้า ผมอ้าปากค้าง ทำอะไรไม่ถูก ได้แต่นั่งนิ่งจ้องมองการกระทำที่หยาบโลนและตรงไปตรงมาของเขาอย่างตะลึงงัน ผมพยายามจะเบือนหน้าหนี แต่สายตาของผมมันกลับไม่ยอมทำตาม...มันถูกตรึงไว้กับภาพตรงหน้า
"ของลุงน่ะ...มีไว้สำหรับกระแทกกระทั้นโดยเฉพาะ" เขากระซิบเสียงต่ำ ก้มหน้าลงมาสบตาผมอย่างท้าทาย "...กระแทกให้จุก...กระแทกให้ร้องคราง...กระแทกจนน้ำแตกคาตูดเรานั่นแหละ...แบบนั้น...ณัฐจะชอบไหมล่ะ?"
ผมหายใจหอบแรงจนตัวโยน ปลายลำควยของผมในกางเกงเริ่มแข็งขืนขึ้นมาอย่างน่าไม่อาย มันปวดหนึบ...มันทรมาน...มันคือความต้องการที่ถูกปลุกขึ้นมาอีกครั้งด้วยคำพูดและการกระทำที่ดิบเถื่อนตรงหน้า
เขายิ้มอย่างพึงพอใจเมื่อเห็นปฏิกิริยาของผม เขารู้...เขารู้ว่าผมกำลังมีอารมณ์ เขาเห็นว่าผมกำลังจินตนาการตามทุกคำพูดของเขา
"ไปพักผ่อนซะ..." เขายิ้มกว้างจนเห็นฟันขาว ก่อนจะตบลงบนเป้าของตัวเองเสียงดัง "ปั้บ!" เป็นการทิ้งท้าย "...เก็บแรงไว้ดีๆ ล่ะ...เผื่อคืนไหนอยากจะเปลี่ยนมา 'เรียนรู้' กับลุง...ก็แค่ส่งสายตามา...เดี๋ยวลุงจะจัดให้ถึงที่เลย"
เขาทิ้งท้ายไว้แค่นั้น...ก่อนจะเดินผิวปากกลับเข้าบ้านไปอย่างสบายอารมณ์ ทิ้งให้ผมนั่งตัวสั่นและมีอารมณ์ค้างอยู่บนแคร่ตามลำพังกับลำควยที่ยังคงแข็งตึงอยู่ในกางเกง...เฝ้ารอคอยบทเรียนบทต่อไปที่ผมรู้ดีว่า...ผมไม่มีทางปฏิเสธมันได้อย่างแน่นอน



ผมนั่งนิ่งอยู่ที่แคร่หลังบ้านอีกนานหลังจากที่ลุงชัยเดินจากไป ร่างกายของผมยังคงสั่นเทาไม่หยุด ไม่ใช่ด้วยความกลัว...แต่เป็นความตื่นเต้นที่ปนเปกับความอับอายจนแยกไม่ออก คำพูดและการกระทำของเขามันเหมือนการสาดน้ำมันเข้ากองไฟที่ลุงเมธเพิ่งจุดขึ้นในตัวผมเมื่อคืนนี้
ผมกลับมาที่ห้องนอนของตัวเองตามลำพัง ผมทิ้งตัวลงบนเตียงอีกครั้ง แต่ครั้งนี้ผมไม่ได้รู้สึกสับสนหรือหวาดระแวงอีกต่อไปแล้ว ผมกำลัง...ยอมรับความจริง...ความจริงที่ว่าโลกใบใหม่ของผมมันได้เริ่มต้นขึ้นแล้วจริงๆ
ผมค่อยๆ ยกมือขึ้นสัมผัสร่างกายของตัวเอง...สัมผัสริมฝีปากที่ยังคงบวมเจ่อจากรสจูบของลุงเมธ...สัมผัสยอดอกที่ยังคงเสียวแปลบเมื่อนึกถึงลิ้นร้อนๆ ของชายคนนั้น...และสุดท้าย เขาลูบไล้ไปที่ช่องทางด้านหลังที่ยังคงรู้สึกปวดระบมแต่ก็อุ่นวาบอยู่ข้างใน ความรู้สึกของการถูก "เติมเต็ม" เป็นครั้งแรกมันยังคงชัดเจน
ผมไม่ได้รู้สึกสมเพชตัวเอง แต่กลับรู้สึก "ตื่นตัว" อย่างประหลาด ผมกำลังเรียนรู้ร่างกายของตัวเองในมิติใหม่ที่เขาไม่เคยรู้จักมาก่อน ผมเริ่มเข้าใจแล้วว่าทำไมกะเทยฟ้าถึงได้ยอมให้ผู้ชายหลายคนรุมล้อม หรือทำไมเมียของพี่เจษฎาถึงได้ครางออกมาอย่างสุขสมเช่นนั้น...ความรู้สึกของการถูกครอบครองด้วยลำควยแข็งๆ ร้อนๆ...มันเป็นความสุขที่ดิบเถื่อนและน่าเสพติดอย่างนี้นี่เอง
ในขณะที่ผมกำลังนอนซึมซับความรู้สึกใหม่อยู่นั้นเอง...
ครืนนน...ครืนนน...ครืนนน...
ผมได้ยินเสียงรถกระบะเก่าๆ คันหนึ่งขับเข้ามาจอดที่หน้าบ้าน...ตามด้วยเสียงทุ้มๆ ห้าวๆ ที่ตะโกนคุยกับใครสักคนอยู่ข้างล่าง...เสียงที่ผมจำได้แม่น...เสียงของลุงยุทธ!
หัวใจของผมเต้นแรงขึ้นมาทันที ผมรีบลุกขึ้นจากเตียง เดินไปที่หน้าต่างแล้วแอบมองลอดผ้าม่านลงไป ผมเห็นลุงยุทธในชุดทำงานมอมแมมเปื้อนคราบน้ำมันกำลังเดินลงจากรถ ร่างกายที่กำยำบึกบึนและผิวที่คล้ำแดดจัดจ้านของเขานั้นช่างดูแตกต่างจากลุงเมธโดยสิ้นเชิง ถ้าลุงเมธคือพรานป่าที่สุขุมและเจ้าเล่ห์...ลุงยุทธก็คงเป็นเหมือนอสูรร้ายที่เต็มไปด้วยพละกำลังและสัญชาตญาณดิบ
ในวินาทีนั้นเอง...ความคิดหนึ่งก็แวบเข้ามาในหัวของผมอย่างไม่อาจห้ามได้...
"แล้วถ้าเป็นของลุงยุทธล่ะ...ควยที่ใหญ่ขนาดนั้นที่เห็นในห้องน้ำคืนนั้น...ถ้ามันเข้ามาอยู่ในตัวเราบ้าง...มันจะรู้สึกยังไงนะ?"
ความคิดนั้นไม่ได้มาพร้อมกับความกลัว แต่กลับมาพร้อมกับ ความเสียวซ่าน และ ความอยากรู้อยากลอง ที่แล่นพล่านไปทั่วทั้งร่าง ลำควยของผมที่เพิ่งจะสงบลงไปก็เริ่มแข็งตัวขึ้นมาอีกครั้ง ผมกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่...
บทเรียนแรกกับลุงเมธได้จบลงแล้ว...แต่ดูเหมือนว่า...นักเรียนคนนี้...เพิ่งจะค้นพบว่ายังมีบทเรียนอีกมากมาย...ที่เขายังไม่ได้ลอง


*******************************************************************************************************************************************************


พูดคุยท้ายตอนOrca เองก็ยังยืนยันคำเดิมๆเสมอมาว่าทาง Orca เป็นนักเขียนมือใหม่ การเขียนยังไม่อยู่ในร่องในรอยแบบท่านอื่นๆ ตัวผมเองก็อยากจะพัฒนาฝีมือเช่นกัน คำติชมสำหรับมันสำคัญมากจริงๆครับ เพราะคำเหล่านั้นจะเหมือนกระจกที่สะท้อนออกมาให้ตัวผมเองเห็นว่ายังมีจุดไหนที่ขาดตกบกพร่อง และควรนำกลับไปพัฒนาตนเอง


*สัปดาห์นี้พอดีเคลียร์งานได้ไว เลยรีบมาอัพน้องณัฐก่อนเผื่อวันศุกร์จะมรสุมงานถาโถมอีก :Q



---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------


น้องณัฐของพวกเราโดนเปิดซิงแล้ววววววววว {:5_152:}


เป็นยังไงบ้างฉาก NC พอได้ไหมครับนี่พยายามเค้นนนนน จนหัวจะระเบิดละว่าต้องแบบไหนยังไงถ้าไม่ดีให้ไปโทษลุงเมธเลยนะ อย่ามาทุบตี Orca ส่วนใครจะเป็นคุณครูของนักเรียนณัฐคนต่อไปปัก#ทีมกันมาเลยนะครับ เพราะแลจะมีหลายๆคนอยากจะสอนณัฐกันอยู่



montree254 โพสต์ 2025-7-2 10:16:15

เสียวมากเลยครับ รอติดตามตอนต่อไป

dojikung โพสต์ 2025-7-2 10:40:51

ขอบคุณ​ครับ​

nuangnut1996 โพสต์ 2025-7-2 10:51:21

สนุกมากครับ

Yang0098 โพสต์ 2025-7-2 11:31:40

I like that

Ejnn0226 โพสต์ 2025-7-2 13:07:28

ชอบครับ ขอบคุณครับ

lekthai โพสต์ 2025-7-2 13:51:09

เสวมากแทร่ทรูดี

ball3225 โพสต์ 2025-7-2 13:56:25

ขอบคุณมากครับ

J.Scot โพสต์ 2025-7-2 17:42:16

ขอบคุณมากครับ

คำปุ้ย โพสต์ 2025-7-2 21:19:49

ยาวจุใจจิงเลยให้ตายเหอะเนื้อเรื่องนะคับ5555
ยังลุ้นลุงยุทธต่อคับ555 ลีลาจะไปทางไหนคับ ลุ้นต่อไปคับขอบคุนคับ

NineO โพสต์ 2025-7-2 21:58:59

ขอบคุณครับ

papae5za โพสต์ 2025-7-2 22:05:22

สนุกมาก

Oscarbkk โพสต์ 2025-7-2 22:55:48

ขอบคุณครับ

3009 โพสต์ 2025-7-2 23:53:18

ชอบการใช้คำกับplotจัง...ได้ลงที่อื่นด้วยมั้ย​จะได้ตามไปอุดหนุน

Manny197 โพสต์ 2025-7-2 23:54:25

สนุก

soobin69ck โพสต์ 2025-7-3 00:33:10

ขอบคุงมากคร้าบ สนุกมากคร้าบ{:5_119:}

LabelHB โพสต์ 2025-7-3 01:17:56

สนุกมากครับ

Ken09 โพสต์ 2025-7-3 01:33:57

สุดยอดครับ

kkk... โพสต์ 2025-7-3 03:49:55

สนุกมากครับ ขอบคุณมาก

shinecaraff โพสต์ 2025-7-3 07:10:08

สนุกมากครับ ยาวจุใจสุดๆ อยากรู้จริงๆว่า จะมีโอกาสที่น้องณัฐจะกลายเป็นคนคุมเกมมั้ยนะ {:5_117:}
หน้า: [1] 2
ดูในรูปแบบกติ: ณัฐ กับ โลกใบใหม่ ตอนที่ 5