ช่วยผมด้วย..ผมโดนมาเฟียรุมข่มขืน!? Chapter 23
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย NOOFONG เมื่อ 2025-6-27 15:47Chapter 23ผู้เล่นที่ไม่ยอมเล่นตามกติกา
ในโลกของราฟาเอโร่ สิ่งสำคัญไม่ใช่การมีอยู่ แต่คือการรับมือกับสิ่งที่เหนือความคาดหมาย หลังจากถูกฝากไว้กับชายผู้นั้น หรือจะเรียกว่าถูก "ทิ้ง" เอาไว้ก็คงไม่ผิด เจบีพบว่าชีวิตของเขาในแต่ละวันไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด แม้ภายนอกจะดูเหมือนแค่ช่วยงานเบื้องหลัง แต่ในความเป็นจริง เขาแทบไม่มีแม้แต่เวลาจะหายใจ
งานของเขาก็ไม่มีอะไรมาก แค่ทำทุกอย่างที่อีกฝ่ายต้องการ ไม่เว้นแม้แต่เรื่องไร้สาระที่ดูเหมือนถูกจงใจยัดเยียดมาเพื่อแกล้ง ราวกับราฟาเอโร่กำลังทดสอบว่าเขาจะอดทนได้ถึงแค่ไหน
“แฟ้มบนโต๊ะฝั่งขวา เรียงใหม่ทั้งหมดภายในวันนี้”
ราฟาเอโร่พูดขึ้นในเช้าวันหนึ่ง ระหว่างที่เจบีกำลังจดบันทึกจากการประชุมเล็ก ๆ ภายในห้องทำงาน เขาไม่ได้เงยหน้าขึ้นจากจอ โน้ตบุ๊กในมือขยับเพียงเล็กน้อยเท่านั้นราวกับพูดถึงเรื่องเล็กน้อย ไม่สำคัญ ไม่เร่งด่วน
แต่เมื่อลองหันไปมอง เจบีเห็นแฟ้มจำนวนเกินครึ่งร้อยวางกองสูงพะเนินเหมือนตั้งใจท้าทายกันในเชิงสายตา
เขาชะงักนิดหน่อย ก่อนตอบเสียงเบา “ครับ”
เจบีใช้เวลาตลอดทั้งวันอยู่กับกระดาษกองนั้น บางแฟ้มเอกสารถูกจงใจสลับหน้า บางส่วนไม่มีลำดับ บางเล่มแทรกเอกสารจากแผนกอื่นที่ไม่เกี่ยวข้อง เหมือนกับว่ามีใครสักคนใช้เวลาก่อนหน้านี้ปั่นทุกอย่างให้ยุ่งเหยิง ก่อนจะส่งต่อให้เขา
เขาไม่ได้พูดอะไรอีก
มือเรียงแฟ้มอย่างเป็นระบบ คิ้วขมวดแต่ดวงตายังคงนิ่ง
ตอนหัวค่ำ เขาวางแฟ้มที่จัดเสร็จแล้วลงบนโต๊ะของราฟาเอโร่อย่างเรียบร้อย ก่อนจะยืนรอรับคำสั่งถัดไป
ราฟาเอโร่เหลือบตามองเอกสารแค่แวบเดียว ไม่แม้แต่จะแตะมันด้วยซ้ำ
"แฟ้มนี้...ยังไม่ได้จัดใช่ไหม?" เขาชี้ไปยังแฟ้มแถบแดงที่เจบีเพิ่งจัดเสร็จ
“ผมจัดเสร็จแล้วครับ” เจบีตอบ
“งั้นเรียงใหม่อีกที” น้ำเสียงเรียบ ไม่มีอารมณ์
เจบีชะงัก...แต่ก็พยักหน้ารับช้า ๆ ไม่พูดอะไรต่อ
เขากลับไปหยิบแฟ้มกองเดิม และเริ่มใหม่ ตั้งแต่หน้าแรก
ทั้งห้องมีเพียงเสียงกระดาษพลิกไปมา กับเงาของราฟาเอโร่ที่ยังคงนั่งอยู่ตรงนั้น จิบไวน์เงียบ ๆ ไม่พูด ไม่มอง ไม่สนใจ
...หรืออย่างน้อยก็ทำทีว่าไม่สนใจ
เด็กหนุ่มที่ก้มหน้าจัดเรียงเอกสารอย่างไม่อิดออด แม้เป็นคำสั่งที่ไร้สาระ ไม่มีความจำเป็นอะไรเลยสักนิด แฟ้มพวกนั้นเขาไม่ได้ต้องการ ไม่ได้คิดจะเปิดอ่าน และอาจจะไม่มีวันแตะด้วยซ้ำ
เจบีเป็นเหมือนหนังสือปกขาวที่ไม่มีแม้แต่ชื่อเรื่อง เขาเปิดอ่านมันซ้ำแล้วซ้ำเล่า ทั้งที่ไม่มีบทนำ ไม่มีคำโปรย ไม่มีคำใบ้ใด ๆ ว่าข้างในซ่อนอะไรไว้ แต่ยิ่งอ่านก็ยิ่งติดอยู่ในนั้น ยิ่งพยายามเข้าใจก็ยิ่งหลงทาง และยิ่งไม่มีคำตอบ ก็ยิ่งไม่อยากวางมันลง
หลายวันผ่านไป...เจบีเริ่มชินกับตารางงานที่ไม่เคยชัดเจนของราฟาเอโร่
บางวันเขาต้องจัดเอกสารทั้งวันโดยที่ไม่มีใครแตะมันเลยสักหน้า บางวันถูกเรียกตัวด่วนให้เตรียมสรุปรายงานที่ไม่มีชื่อหัวข้อ ไม่มีกำหนดเวลา ไม่มีแม้แต่คำอธิบายว่าใครจะใช้ แล้วพอจัดเสร็จราฟาเอโร่แค่พยักหน้าเบา ๆ โดยไม่แม้แต่จะเปิดดู
เสียงรองเท้าหนังหนักแน่นเดินเข้ามาในห้องทำงาน เจบีเพิ่งวางแก้วกาแฟลงเมื่อราฟาเอโร่เดินตรงมายังโต๊ะที่เขานั่งอยู่
"วันนี้ไปพบพาร์ทเนอร์ของฝั่งรัสเซียแทนฉัน" น้ำเสียงเรียบเย็น และไม่เปิดช่องให้ปฏิเสธ
เจบีเงยหน้าขึ้นจากเอกสารในมือ สบตาอีกฝ่ายเพียงเสี้ยววินาที "มีรายละเอียดเพิ่มเติมไหมครับ?"
"ไม่มี" ราฟาเอโร่ตอบทันควัน พร้อมวางแฟ้มหนาเตอะที่ไม่มีหัวกระดาษ ไม่มีเลขรหัส ไม่มีแม้แต่หน้าปกให้รู้ว่าเกี่ยวกับอะไรลงตรงหน้าเขา "ใช้เท่าที่มี"
"...ครับ" เจบีพยักหน้ารับอย่างไม่แสดงอารมณ์ เขาไม่ได้ถามอะไรอีก
ราฟาเอโร่หันหลังกลับไปทันที ราวกับเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องสำคัญ และเจบีก็เป็นแค่เบี้ยตัวหนึ่งในหมากกระดานที่เขาควบคุมอยู่
เวลาผ่านไปไม่ถึงชั่วโมง เจบีนั่งอยู่บนรถพร้อมกับโน้ตบุ๊กบนตัก นิ้วพิมพ์ข้อมูลลงอย่างเงียบงัน สายตากวาดผ่านรายชื่อบริษัท ตัวแทน และรายการประชุมย้อนหลัง เขาเชื่อมโยงทุกอย่างจากแฟ้มเปล่า ๆ นั้นจนได้ภาพรวมที่พอจะใช้ต่อรองได้
เมื่อถึงสถานที่ประชุม ห้องกระจกบรรยากาศกดดันเต็มไปด้วยกลิ่นอำนาจ ตัวแทนฝั่งรัสเซียสายตาแข็งกร้าว พูดเร็ว และไม่เปิดช่องให้เจบีแทรก แต่เขากลับนิ่งกว่าที่ใครคาด
"ขออนุญาตทบทวนข้อตกลงเมื่อปีที่แล้วครับ ก่อนเข้าสู่เงื่อนไขใหม่" เจบีเอ่ยเสียงเรียบ ขณะเลื่อนเอกสารออกมาตรงหน้า
อีกฝ่ายชะงักไปเล็กน้อย ก่อนที่สีหน้าไม่พอใจจะเปลี่ยนเป็นการพยักหน้าสั้น ๆ
การประชุมลากยาวไปเกือบสองชั่วโมง แต่จบลงด้วยการที่ทั้งสองฝ่ายจับมือกันได้โดยไม่มีข้อขัดแย้ง แม้จะไม่มีอำนาจเต็ม ไม่มีข้อมูลลึก แต่เจบีก็ทำให้ดีลนั้นไม่ล่ม
เมื่อเขากลับถึงสำนักงาน ราฟาเอโร่ยังคงนั่งอยู่ที่เดิม โต๊ะทำงานว่างเปล่า มีเพียงแก้วไวน์วางอยู่ข้างมือ
เจบีวางรายงานสรุปตรงหน้าเขา
"ทุกอย่างเรียบร้อยดีครับ"
ราฟาเอโร่ไม่ได้เงยหน้าขึ้น สายตายังคงจ้องไปที่ไฟล์บนหน้าจอแท็บเล็ตในมือ
"...ถ้ามีอะไรผิดพลาด ฉันไม่รับผิดชอบ"
"ทราบครับ" เจบีตอบสั้น ๆ
เขาหันหลังจะกลับ แต่เสียงของอีกฝ่ายก็ดังขึ้นอีกครั้ง
"เจบี"
ราฟาเอโร่เรียกชื่อเขาเป็นครั้งแรกในรอบหลายวัน
เจบีหยุดชะงัก หันกลับไปอย่างเงียบ ๆ
"...แค่จะบอกว่า นายยังลืมเปลี่ยนแฟ้มรายงานเมื่อวานให้เป็นแบบมีแถบสี ฉันไม่ชอบแบบใส" น้ำเสียงของเขายังนิ่ง แต่เจตนาเหมือนมีรอยยิ้มแฝงอยู่ในคำพูด
เจบีมองอีกฝ่ายนิ่งไปครู่หนึ่ง ก่อนจะตอบเรียบ ๆ
"งั้นผมจะเปลี่ยนให้ครับ"
เขาพยักหน้ารับ แล้วเดินออกจากห้องไปโดยไม่เปลี่ยนสีหน้า ทิ้งราฟาเอโร่ไว้ที่โต๊ะเพียงลำพัง
เสียงประตูปิดลงอย่างแผ่วเบา
ราฟาเอโร่เอนหลังพิงเก้าอี้ มองรายงานที่วางอยู่ตรงหน้าอย่างไร้อารมณ์ เขาไม่ได้เปิดดู ไม่ได้อ่าน ไม่แม้แต่จะเอื้อมมือไปแตะ
วันถัดมา อากาศในลอนดอนครึ้มฝนแต่เช้า ท้องฟ้าหม่นเทาเหมือนอารมณ์ที่แขวนอยู่กลางระหว่างคำสั่งกับความเงียบ เจบีเดินเข้าห้องทำงานของราฟาเอโร่ตามเวลาปกติ พร้อมกับโน้ตบุ๊กและแฟ้มในมือ เตรียมประชุมเล็กตามตารางที่นัดไว้
แต่ก่อนจะได้พูดอะไร เสียงของชายเจ้าของห้องก็ดังขึ้นก่อน
“ฉันอยากให้จัดทำรายงานสรุปโครงสร้างองค์กรของบริษัทในเครือทุกแห่ง”
เจบีเลิกคิ้วเล็กน้อย
“…ทุกแห่งเลยเหรอครับ?”
“อืม รวมถึงบริษัทลูกที่ไม่ได้ใช้งานแล้วด้วย” น้ำเสียงของราฟาเอโร่ยังเรียบเฉยขณะพลิกหน้าหนังสือพิมพ์ในมือไปเรื่อย ๆ
เจบีพยักหน้า “ครับ”
เขากลับไปที่โต๊ะตัวเองทันที เปิดระบบดึงข้อมูลจากเครือข่ายส่วนกลาง สแกนชื่อบริษัท บางแห่งถูกระงับกิจการ บางแห่งเป็นแค่ชื่อบังหน้า แต่เขาก็ไม่ข้ามแม้แต่ชื่อเดียว
รายชื่อมากกว่าร้อยบริษัท เอกสารหลายพันหน้า เจบีใช้เวลาสองวันเต็มนั่งเรียบเรียง จัดลำดับความเชื่อมโยง ทบทวนข้อมูลย้อนหลัง หาช่องทางโยงโครงสร้างทั้งหมดให้สอดคล้องกันได้ในภาพเดียว
เขาทำออกมาในรูปแบบอินโฟกราฟิก พร้อมรายงานแนบย่อยที่อธิบายโครงสร้างภายในและหน้าที่การบริหารในแต่ละส่วนชัดเจน
เช้าวันที่สาม เขานำรายงานทั้งหมดวางไว้บนโต๊ะของราฟาเอโร่ตามเวลา
“ผมสรุปตามที่คุณต้องการเรียบร้อยแล้วครับ ถ้าต้องการให้นำเสนอก็…”
“ไม่ต้อง”
ราฟาเอโร่พูดแทรกทันทีโดยไม่เงยหน้าขึ้นจากแท็บเล็ต
เจบีนิ่งไปครู่หนึ่ง “ถ้าอย่างนั้น เอกสารนี้ให้ส่งต่อไปฝ่ายตรวจสอบไหมครับ?”
“ไม่ต้องส่งไหนทั้งนั้น” ชายหนุ่มว่าขณะจิบกาแฟ “แค่ฉันอยากรู้ว่านายจะใช้เวลากี่วันถึงจะจัดการมันได้”
“...” ทุกอย่างตกอยู่ในความเงียบ
เจบีไม่ได้ตอบทันที ริมฝีปากเม้มแน่นเล็กน้อย
“ครับ”
เขาพูดเพียงคำนั้น ก่อนจะหมุนตัวกลับไปที่โต๊ะของตัวเองอีกครั้ง
ทิ้งให้แฟ้มหนาหลายเล่มวางนิ่งอยู่บนโต๊ะของราฟาเอโร่ โดยไม่มีใครแตะมัน
ผ่านไปครู่หนึ่ง เสียงพิมพ์คีย์บอร์ดจากอีกฝั่งของห้องดังขึ้นอีกครั้ง ราบเรียบ สม่ำเสมอ
ราฟาเอโร่เงยหน้าขึ้นเล็กน้อย สายตามองข้ามแฟ้มเหล่านั้นไปยังแผ่นหลังตรงของใครบางคนที่ยังคงนั่งทำงานต่อเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
เขาหรี่ตาลงช้า ๆ มุมปากกระตุกขึ้น
"น่าหงุดหงิดชะมัด…"
หรือแม้กระทั่งในบ่ายวันหนึ่ง
เสียงปิดแฟ้มดัง ปึ้ก เบา ๆ ในห้องทำงานที่เงียบกริบ ราฟาเอโร่นั่งอยู่หลังโต๊ะทำงานตัวใหญ่ที่วางอยู่กลางห้อง ด้านหลังเป็นกระจกบานสูงที่เผยให้เห็นทิวทัศน์ของเมืองลอนดอนยามเช้า ท้องฟ้าสีหม่นจางทอดเงาลงบนโต๊ะไม้โอ๊คขัดเงาจนสะท้อนเงา
เขามองแฟ้มรายงานที่เจบีนำมาวางให้แต่เช้า เป็นอีกหนึ่งในงานที่มอบหมายไปโดยไร้เหตุผลชัดเจน
และเหมือนทุกครั้ง...มัน ไม่มีข้อผิดพลาดเลยสักจุดเดียว
รายงานแน่นครอบคลุมทุกมิติ ตัวอักษรสะอาด ลำดับกระชับ และมีการตรวจทานที่ละเอียดถึงขั้นน่าอึดอัด ราวกับเจบีสามารถอ่านใจเขาได้ล่วงหน้า
เขาไม่เคยพูดว่าต้องการให้ "สมบูรณ์แบบ" แต่เจบีก็ทำให้ทุกครั้ง โดยไม่ต้องสั่งซ้ำ
ราฟาเอโร่เอนตัวพิงพนักเก้าอี้ พลางยกมือขึ้นลูบแนวกรามเบา ๆ แววตาเหม่อลอยราวกับครุ่นคิด แต่ในใจกลับเต็มไปด้วยความร้อนระอุที่ก่อตัวขึ้นช้า ๆ อย่างไม่รู้ตัว
ไม่มีใครเคย “ยอม” ได้ถึงขนาดนี้…โดยไม่เหลือช่องให้โจมตี
เขาเงียบไปครู่ใหญ่ ก่อนเอ่ยเรียกเสียงเรียบ
“เจบี”
ไม่กี่วินาทีหลังจากนั้น ประตูห้องก็เปิดออกอย่างเงียบเชียบ เจบีปรากฏตัวขึ้นด้วยสีหน้าสงบนิ่ง เสื้อเชิ้ตสีอ่อนพับแขนขึ้นครึ่งหนึ่งตามแบบที่เขาถนัด ไม่มีร่องรอยของความเหนื่อยล้าปรากฏแม้จะเพิ่งเคลียร์งานทั้งคืนก่อนหน้านี้
“ครับ”
“ฉันมีไฟล์บัญชีเก่าของสาขาลอนดอนช่วงห้าปีก่อน…”
ราฟาเอโร่พูดพลางเปิดลิ้นชัก หยิบแฟลชไดรฟ์ขนาดเล็กออกมา วางลงบนโต๊ะตรงหน้าเสียงเบา แกร๊ก
“ยังไม่เคยมีใครจัดการจริงจัง ลองตรวจสอบทุกการเดินบัญชีของบริษัทในเครือช่วงปีนั้น หาช่องโหว่ที่อาจถูกแอบใช้ฟอกเงิน แล้วสรุปออกมาในรูปแบบวิเคราะห์”
เขาเอ่ยราวกับมันเป็นแค่งานรายสัปดาห์ ทั้งที่ข้างในมี ข้อมูลการเดินบัญชีกว่า 300,000 รายการ แบ่งเป็นหลายบริษัทที่เลิกกิจการไปแล้ว ไม่มีระบบซัพพอร์ต ไม่มีข้อมูลประกอบ ไม่มีอะไรเลยนอกจาก ตัวเลขและรายการซื้อขายกระจัดกระจาย
เจบีเดินเข้าไปใกล้ หยิบแฟลชไดรฟ์ขึ้นมาด้วยท่าทีนิ่งเรียบ
“ระยะเวลาที่ต้องการครับ?” เขาถามอย่างไม่หลบตา
ราฟาเอโร่ยกแก้วกาแฟขึ้นจิบ ก่อนวางลงอีกครั้งอย่างใจเย็น “สามวัน”
“…ครับ”
เจบีพยักหน้ารับเบา ๆ ไม่ถามอะไรอีก
เขาโค้งเล็กน้อย แล้วหันหลังกลับ เดินออกจากห้องไปอย่างเงียบเชียบ
ทิ้งให้ราฟาเอโร่มองตามหลังเงียบ ๆ ความเงียบที่มักเป็นเครื่องมือในการควบคุมคนอื่น เริ่มย้อนกลับมาทิ่มแทงเขาเองโดยไม่รู้ตัว
เขาพึมพำเบา ๆ กับตัวเอง พลางเอนตัวพิงพนัก
“อยากรู้จริง ๆ ว่านายจะยังนิ่งได้นานแค่ไหน…”
คำพูดนั้นเบากว่าลมหายใจ แต่เต็มไปด้วยบางอย่างที่เริ่มกัดกิน...ความหงุดหงิดที่ไม่ได้เกิดจากความโกรธ
แต่เป็นความรู้สึกว่า เขาทำอะไรเจบีไม่ได้เลยต่างหาก
และวันนี้ก็เป็นอีกวันที่เจบีต้องรับมือกับคำสั่งที่เห็นได้ชัดว่าอีกฝ่ายเหมือนจงใจแกล้งกัน...
แสงจากโคมไฟในสำนักงานส่องสะท้อนลงบนโต๊ะทำงานกระจกใส เจบีนั่งอยู่ตรงมุมประจำของเขา ใต้สายตาเงียบงันจากผนังกระจกฝั่งตรงข้ามที่ราฟาเอโร่นั่งอยู่ เขากำลังพิมพ์รายงานอีกชุดด้วยท่าทีเรียบเย็นเหมือนเดิม แม้ขอบตาจะคล้ำและนิ้วจะเริ่มชาเพราะต้องนั่งท่าเดิมมานานเกินสิบชั่วโมงโดยแทบไม่ได้ลุก
ราฟาเอโร่กำลังเซ็นเอกสารชุดหนึ่งอย่างเรื่อยเปื่อย ก่อนจะเงยหน้าขึ้นในจังหวะที่เจบีลุกไปหยิบแฟ้มใหม่จากตู้ด้านหลัง
"เจบี"
น้ำเสียงเรียบแผ่วที่ดังขึ้นในห้องเงียบทำให้เขาหยุดมือแค่ครึ่งจังหวะ
"ครับ"
"วันนี้บ่ายโมงตรง ไปเข้าประชุมแทนฉันกับทีมดูแลบัญชีภาคตะวันตกด้วย"
เจบีชะงักเล็กน้อย หันกลับมาหาเขา
"ผมไม่ได้รับข้อมูลชุดนั้นเลยนะครับ"
"ก็เลยอยากรู้ว่านายจะรับมือยังไง" เสียงของราฟาเอโร่ยังคงไม่สูงขึ้นแม้แต่น้อย แต่ประโยคนั้นกลับบีบให้บรรยากาศทั้งห้องแน่นขึ้นทันที "หรือถ้าคิดว่าไม่ไหว ก็บอกมา"
เจบีสบตาเขาเพียงแวบ ก่อนจะตอบกลับด้วยน้ำเสียงนิ่งเฉยเหมือนทุกครั้ง
"ไม่ครับ ผมจะเตรียมให้ทัน"
เขาไม่ถามอะไรเพิ่ม ไม่ขอเอกสารประกอบ ไม่แม้แต่จะบ่น
เขาแค่กลับไปนั่ง ก้มหน้าทำงานต่อ ราวกับคำสั่งนั้นไม่ได้หนักเกินไปสำหรับคนที่ไม่ได้หลับเต็มตาติดต่อกันมาหลายคืน
ราฟาเอโร่เอนหลังพิงพนักเก้าอี้ ดวงตาคมไล่มองแผ่นหลังของอีกฝ่ายเงียบ ๆ เขาไม่พูดอะไรอีก แต่แววตาที่สะท้อนจากกระจกกลับวูบไหวเล็กน้อย ไม่ใช่ด้วยความสงสัย...แต่คล้ายความรำคาญปนร้อนรุ่มบางอย่างที่อธิบายไม่ได้
เวลาบ่ายสองโมงสิบห้า เจบีเดินออกจากห้องประชุมเล็กที่ชั้นยี่สิบพร้อมแฟ้มในมือ บทสนทนาในห้องเมื่อครู่เต็มไปด้วยภาษาทางบัญชีเฉพาะทาง การแก้ไขจุดผิดพลาดของงบเก่าที่ไม่มีใครอยากแตะ
และเจบี...คือคนที่ต้อง "ตอบให้ได้"
ทั้งที่ไม่รู้ว่าเอกสารมาจากไหน เขายืนอยู่ตรงนั้นด้วยท่าทีมั่นคงตลอดหนึ่งชั่วโมงเต็ม ตอบคำถามทุกข้อด้วยความเยือกเย็น
จนกระทั่งแม้แต่หัวหน้าทีมบัญชียังต้องเอ่ยชมว่า “คุณเตรียมตัวมาดีกว่าที่คาดไว้มาก”
และแน่นอน…ไม่มีใครรู้เลยว่าเขาเพิ่งได้คำสั่งเมื่อไม่ถึงครึ่งวันก่อน
เมื่อเจบีกลับเข้ามาในห้อง ราฟาเอโร่กำลังยืนหันหลังอยู่หน้ากระจกสูง มือถือแก้วไวน์เบา ๆ โดยไม่ได้หันกลับมา
"จบยัง" เสียงเขาดังขึ้นเหมือนถามเรื่องสภาพอากาศ
"ครับ จบแล้ว เอกสารผมสรุปไว้ในแฟ้มนี้"
เขาวางแฟ้มลงเบา ๆ ตรงหน้าอีกฝ่าย ก่อนจะถอยหลังเล็กน้อยอย่างสุภาพ
ราฟาเอโร่ไม่ขยับ เขาแค่หมุนแก้วในมืออย่างเชื่องช้า แล้วพูดต่อ
"พวกนั้นว่าไง"
"ไม่มีประเด็นติดค้างครับ ทีมจะสรุปยอดส่งให้ภายในสัปดาห์"
ราฟาเอโร่เงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะพ่นลมหายใจเบา ๆ แล้วหันมามองเขาเต็มตา
"ดูท่าฉันจะประเมินนายต่ำไปหน่อย"
เจบีไม่ตอบ ไม่ยิ้ม ไม่แสดงอะไรออกมาเลย
เขาแค่โค้งเล็กน้อย แล้วเอ่ยเพียงคำเดียว
"ขอบคุณครับ"
ราฟาเอโร่จ้องดวงตานิ่งของเขาอยู่พักหนึ่ง ก่อนจะเบนสายตากลับไปที่วิวข้างนอกช้า ๆ และไม่พูดอะไรอีก
หลายวันมานี้ ราฟาเอโร่หมดเวลาไปกับเกมที่เขาเป็นคนเริ่ม วางหมากทีละช่อง วางกับดักทีละมุม คิดว่าอีกฝ่ายจะเดินตามอย่างไม่มีทางเลือก แต่ทุกอย่างกลับไม่เคยเป็นไปอย่างที่เขาคิด เจบีไม่ใช่คนที่ควบคุมได้ ไม่ใช่ตัวหมากที่สั่งให้เดินหน้าแล้วจะยอมเดิน เขาเหมือนคนที่ก้มหน้าเดินด้วยจังหวะของตัวเอง แต่ไม่เคยเหยียบลงบนกระดานที่คนอื่นเป็นคนเขียนกติกา
มันเริ่มกวนใจเขาทีละน้อย...
ไม่ใช่เพราะอีกฝ่ายดื้อรั้น ไม่ใช่เพราะการไม่ยอมเล่นตามเกมที่เขาวางไว้...แต่เพราะความนิ่งเฉยนั้น ทำให้เขาไม่สามารถคาดเดาอะไรได้เลย
“ไม่เล่นตามก็ไม่เป็นไร...” เขาพึมพำกับตัวเองขณะหยิบไวน์ขึ้นจิบในห้องทำงานที่เงียบกริบ “...งั้นฉันจะเปลี่ยนกระดานให้เอง”
เขาเปิดแฟ้มรายงานจากคาสิโนเครือของตัวเอง ไล่สายตาอ่านรายละเอียดบางอย่างที่ติดธงเตือนในระบบภายใน โต๊ะโป๊กเกอร์ที่มีสถิติเพี้ยนแบบแปลก ๆ เป็นระยะ เขานั่งเงียบอยู่อีกครู่ ก่อนจะกดปุ่มโทรศัพท์ภายใน
“บอกเด็กนั่นว่าคืนนี้ให้เคลียร์งานให้เรียบร้อย ฉันจะพาเขาออกไปข้างนอก”
“…บอกเหตุผลไหมครับ?” เสียงฝ่ายเลขาเล็ก ๆ ดังลอดมา
“ไม่ต้อง” เขาตอบเรียบ ๆ แล้วกดวางสาย
ดวงตาคมเหลือบมองเอกสารบนโต๊ะ พลางยกมุมปากขึ้นนิด ๆ ราวกับจะบอกตัวเองว่า ถ้าเกมเดิมใช้ไม่ได้…ก็แค่เปลี่ยนสนาม
8:00 PM | ใต้โรงแรมอาร์คซิออน (Arxion Hotel) , เขตส่วนตัวกลางกรุงลอนดอน
เสียงล็อกแม่เหล็กดัง แกร็ก เบา ๆ ประตูลับที่ฝังอยู่ในผนังไม้โอ๊คเคลื่อนตัวออก เผยให้เห็นลิฟต์กระจกสีดำด้านใน ราฟาเอโร่ไม่พูดอะไร เขาแค่เดินนำหน้าอย่างเงียบขรึม เจบีตามเข้าไปโดยไม่ถามคำถามใด ๆ ก่อนที่ประตูลิฟต์จะปิดลงแนบสนิท
ไฟสีขาวนวลในลิฟต์ส่องกระทบใบหน้าทั้งคู่ สะท้อนแววตานิ่งลึกของราฟาเอโร่ที่กดปลายนิ้วลงบนแผงควบคุมไร้ปุ่ม หน้าจอรับลายนิ้วมือแสดงแถบแสงขึ้นทันที
“ยืนยันตัวตน...เปิดทางเข้าสู่ระดับใต้ดิน 6” เสียงระบบอัตโนมัติดังขึ้นเบา ๆ
ลิฟต์เคลื่อนลงอย่างนุ่มนวล แต่ทุกวินาทีที่ผ่านไปกลับเหมือนตัดขาดจากโลกภายนอกทีละชั้น ทีละชั้น
เมื่อประตูลิฟต์เปิดออก สิ่งที่ปรากฏตรงหน้าคือโถงหินอ่อนสีดำขลับ ตกแต่งด้วยโคมไฟแนว อาร์ตเดโก บนเพดาน ผสมกลิ่นหนังแท้และวิสกี้เก่าที่อบอวลอยู่ในอากาศ
แสงไฟสีทองอบอุ่นทอดเงาบนพื้นไม้ขัดเงาอย่างประณีต ไม่มีป้าย ไม่มีเสียง ไม่มีนีออน มีเพียงสัญลักษณ์ทองแดงเล็ก ๆ บนผนังไม้ที่สลักคำว่า:
เดอะ นอคเทิร์น วอลต์ (The Nocturne Vault)
พนักงานในชุดสูทดำสนิท สวมหน้ากากครึ่งหน้ารูปทรงเฉียบคมโค้งคำนับอย่างพร้อมเพรียง ไม่มีเสียงเอ่ยชื่อ ไม่มีคำต้อนรับ
“ห้องรับรองเตรียมไว้แล้วครับ”
ราฟาเอโร่พยักหน้าเบา ๆ ก่อนเดินลึกเข้าไป ผ่านโต๊ะรูเล็ต โต๊ะแบล็กแจ็ก และโซน พีวีไอพี (VIP) ที่มีม่านกำมะหยี่สีเข้มบดบังสายตา
มือข้างหนึ่งถือแฟ้มรายงานเก่า อีกข้างล้วงกระเป๋าไว้หลวม ๆ สีหน้าแทบไม่เปลี่ยน แต่เจบีรู้...คนอย่างราฟาเอโร่ไม่ลงมาแบบนี้โดยไม่มีเหตุผล
“คืนนี้ โต๊ะ (C-9) มีอะไรน่าสงสัย” เสียงผู้จัดการกระซิบเบา ๆ ขณะส่งข้อมูลสถิติโต๊ะเกมแบบไม่เปิดเผยออกมา
“ตัวเลขไม่สมเหตุสมผล...ดีลเลอร์คนนอก...ผลลัพธ์ไม่เคยชัดแต่มีคนชนะซ้ำ”
ราฟาเอโร่นิ่งไปครู่หนึ่ง ก่อนจะหันกลับมาหาเจบีด้วยสีหน้าที่ดูเหมือนจะยิ้ม...แต่ไม่มีความอบอุ่นอยู่ในนั้นเลย
“ไปเปลี่ยนเสื้อ”
ในห้องรับรองส่วนตัว มีเสื้อเชิ้ตสีเทาเข้ม กับเสื้อคลุมลำลองแบบ ทักซิโด้ และหน้ากากครึ่งหน้าแบบเดียวกับพนักงานวางพับไว้อย่างเรียบร้อย
“ผมต้องทำอะไรครับ?” เจบีถามพลางหยิบหน้ากากขึ้นมาพลิกดู
“เล่นไพ่” ราฟาเอโร่ตอบเรียบ “แล้วก็ดูว่าใครโกงฉัน”
เจบีเลิกคิ้วเล็กน้อย
“คุณให้ผมลงเล่น?”
“อืม...อย่าทำให้ฉันผิดหวัง” น้ำเสียงนั้นติดจะประชดนิด ๆ
เจบีไม่ได้ตอบ เขาแค่เปลี่ยนชุดอย่างเงียบ ๆ แล้วเดินตามอีกฝ่ายไป
| ชั้นใต้ดินคาสิโนส่วนตัว
บรรยากาศภายในห้องโป๊กเกอร์ ถูกปกคลุมด้วยแสงไฟสีอำพันจากโคมไฟคริสตัล เหนือหัว เสียงกระทบกันเบา ๆ ของชิป และแก้วไวน์ กลบเสียงหัวเราะของผู้เล่นระดับวีไอพี ที่นั่งกระจายอยู่ตามโต๊ะหรู โต๊ะ C-9 ตั้งอยู่ริมสุดใกล้ผนังลายหนังสีเข้ม เป็นโต๊ะเดียวที่ไม่มีดีลเลอร์ประจำ ราวกับถูกจัดไว้เฉพาะกิจ
เจบีก้าวไปนั่งเงียบ ๆ ตามคำสั่งของราฟาเอโร่ที่ยืนพิงมุมมืดอยู่ไม่ไกล แม้จะสวมหน้ากากครึ่งหน้าเหมือนกัน แต่ดวงตาของเขากลับจับจ้องมาที่โต๊ะราวกับสแกนทุกจุดโดยสัญชาตญาณ
“ค่าบายอินสำหรับโต๊ะนี้ หนึ่งแสน” ดีลเลอร์หนุ่มในชุดทักซิโด้ เอ่ยขึ้นเสียงเรียบ
เจบีวางชิปลงโดยไม่พูดอะไร นิ้วเรียวเรียงชิปอย่างแม่นยำก่อนจะหยิบไพ่สองใบแรกขึ้นดู ไม่ใช่เพื่อรู้ว่าตัวเองได้อะไร แต่เพื่อสังเกตว่าดีลเลอร์ส่งไพ่อย่างไร ข้อมือบิดเบี้ยวตรงไหน สะบัดไพ่เร็วหรือช้าแค่ไหน และผู้เล่นอีกห้าคนรอบโต๊ะมีปฏิกิริยาแบบไหนเมื่อได้ไพ่
ตาแรก...เขาแพ้
เจบีพับไพ่แบบไม่ลังเล ทั้งที่ดูเหมือนมีไพ่สูงในมือ และสิ่งนั้นทำให้ผู้เล่นตรงข้ามคนหนึ่งหัวเราะเบา ๆ คล้ายดูแคลน
ตาที่สอง...เขายังแพ้
แต่รอบนี้ เจบีไม่แม้แต่จะยกตา เขาเพียงวางชิปพอประมาณ ล่อให้คนอื่นลงตาม แล้วถอนตัวในจังหวะที่อีกฝ่ายเพิ่มเงินเดิมพันอย่างเอาเป็นเอาตาย
ตาที่สาม...เขาเริ่มจับสังเกตดีลเลอร์อย่างใกล้ชิด ทุกครั้งที่แจกไพ่ นิ้วหัวแม่มือซ้ายของดีลเลอร์จะขยับเล็กน้อยเหมือนกำลังส่งสัญญาณบางอย่าง และไพ่ที่อยู่ในมือของผู้เล่นฝั่งขวาสุด...กลับตรงกับสิ่งที่ดีลเลอร์มองก่อนหน้าเสมอ
“มีคนช่วยดูมือในกระจกด้านข้าง” เขาพึมพำกับตัวเอง ขณะเล่นไปเรื่อย ๆ
ตาที่สี่...เจบีเริ่มเล่นจริง
ไพ่ในมือคือ ควีนโพแดง (Q♥) กับ เก้าดำ (9♠) ไม่ใช่ไพ่เปิดที่ดูดีนัก แต่เจบีกลับไม่ใส่ใจ เขาเพิ่มเงินเดิมพันตั้งแต่รอบแรก จนคนอื่นเริ่มคิดว่าเขาคงเสียสติไปแล้ว ก่อนจะค่อย ๆ เปิดไพ่ต่อบนโต๊ะอย่างนิ่งเฉยในรอบ "ฟล็อป" ซึ่งไพ่สามใบที่เปิดออกมาคือ ควีนดอกจิก (Q♣) , สองข้าวหลามตัด (2♦) , เจ็ดโพดำ (7♠)
ตาต่อไป เจบีเริ่มนำเกม
เขาไม่ได้ลวงให้หลงเชื่อ...แต่พอเล่นลวงเมื่อไหร่ อีกฝ่ายก็ตกหลุมพรางทุกครั้ง
เขาไม่เคยชนะด้วยไพ่สีเดียวกันทั้งห้าใบ หรือไพ่ชุดใหญ่แบบหวือหวาอะไรเลย แต่กลับชนะด้วยแค่ไพ่คู่เล็ก ๆ ที่ไม่มีใครคิดจะเหลียวแลแม้แต่นิดเดียว
เขาไม่คุย ไม่ยิ้ม ไม่สบตาใคร...แต่คนอื่นเริ่มหลบตาเขาแล้ว
จากนั้นเขาเริ่มอ่านไพ่จากนิ้วมือ ไม่ใช่ของตัวเอง แต่ของฝ่ายตรงข้าม เขาสังเกตทุกจังหวะการวางชิป การจับแก้ว การกระพริบตาช้าเร็ว เขาแยกออกว่าใครกำลังลวง ใครมั่นใจ ใครหงุดหงิด...และใครเริ่มรู้ตัวว่าถูกอ่านขาด
ผู้เล่นรอบโต๊ะเริ่มขยับตัว
ชายวัยกลางคนในสูทน้ำเงินเข้มที่เคยนั่งกอดอกอย่างมั่นใจ ตอนนี้เหงื่อเริ่มผุดขึ้นตามขมับ เขาหันไปสบตากับคนแจกไพ่แวบหนึ่ง ก่อนจะเสมองอย่างประหม่า หญิงสาวผมแดงด้านขวาที่เคยยิ้มกว้างเริ่มกัดริมฝีปากแน่นขึ้นทุกครั้งที่เจบีขยับชิป ส่วนชายอีกคนที่ใส่นาฬิกาทอง มือไม้เริ่มไม่เป็นจังหวะ ทุกครั้งที่วางชิปลงบนโต๊ะมีเสียงกระทบดังเกินกว่าปกติเล็กน้อย
ทุกสายตาเริ่มมองเจบีเหมือนคนแปลกหน้าที่ควรระวัง ไม่ใช่แค่ผู้เล่นหน้าใหม่ธรรมดา
เขายังคงไม่พูดอะไร เพียงขยับปลายนิ้วแตะชิป ราวกับกำลังส่งสัญญาณบางอย่าง ไม่มีสีหน้าที่จะบอกได้ว่าเขาถือไพ่ดีหรือไม่ ไม่มีรอยยิ้ม ไม่มีแววตาสะใจ
มีเพียงความนิ่ง...ที่ทำให้คนทั้งโต๊ะเริ่มหลุดสมาธิ
ชายคนหนึ่งที่นั่งฝั่งตรงข้ามเผลอหยิบไพ่ขึ้นมาดูซ้ำ เสี้ยววินาทีนั้น...เจบีเหลือบมอง แล้วหันกลับไปขยับชิปเพิ่ม
“เพิ่มเงินเดิมพันหนึ่งหมื่น”
เสียงเขาเบา แต่หนักแน่น เสียงกระซิบเบา ๆ เริ่มดังขึ้นรอบโต๊ะ ใครบางคนสบถพึมพำ หญิงสาวข้างเขาถอนหายใจแรง ก่อนจะวางไพ่คว่ำลงแล้วเอนหลังพิงพนัก
“หมอนี่มันอ่านไพ่มาจากสายตาพวกเรารึไง...” ชายวัยกลางคนพึมพำเบา ๆ กับตัวเอง
แต่เจบีไม่ได้หันไปตอบ เขาแค่ยกแก้วน้ำขึ้นจิบช้า ๆ ปล่อยให้พวกเขา...รู้สึกเหมือนถูกแก้เกมด้วยไพ่ในมือที่ไม่มีใครได้เห็น
“หมอนี่มันปีศาจ” หนึ่งในผู้เล่นกระซิบกับอีกคนแบบหัวเสียหลังจากแพ้ติดต่อกันสามตา
“ซี-ไนน์ เริ่มมีปัญหา” ราฟาเอโร่พูดเบา ๆ ผ่านหูฟังที่เชื่อมต่อกับห้องควบคุม หลังจากเจบีรวบชิพได้อีกกอง
ตาที่สิบ...ผู้เล่นสองคนลุกหนี
ดีลเลอร์เริ่มเหงื่อตก เจบีมองเขานิ่ง ๆ ก่อนจะเอ่ยเรียบ ๆ
“ไพ่ห้าสิบสองใบ…แต่วันนี้ดูเหมือนจะมีห้าสิบสี่”
ดีลเลอร์ชะงัก
“เปลี่ยนคนแจกเถอะครับ” เจบีหันไปพูดกับพนักงานด้านหลัง โต๊ะทั้งโต๊ะเงียบสนิท
ราฟาเอโร่ยืนพิงเสาเงียบ ๆ แต่ในใจกลับเต็มไปด้วยเสียง ไม่ใช่เสียงในห้อง แต่เป็นความคิดของเขาเอง
'ฉันแค่จะลองโยนเขาเข้าไปดูสักหน่อย ไม่คิดว่าเขาจะลากพวกมันขึ้นมาทั้งโต๊ะได้แบบนี้'
เขาก้าวออกจากมุมมืด เดินไปหยุดข้างหลังเจบี ชิปบนโต๊ะกลายเป็นกองที่ใหญ่ที่สุดของทั้งงาน
“…ฉันนึกว่านายเล่นไม่เป็น” เขาพูด
เจบีลุกขึ้น เงยหน้ามองนิดเดียว “คุณไม่เคยถาม”
ราฟาเอโร่มองตามแผ่นหลังที่เพิ่งลุกออกไป ดวงตาคมสะท้อนแสงไฟสีทองในบรรยากาศสลัวของคาสิโน ก่อนมุมปากจะยกขึ้นช้า ๆ
‘น่ารำคาญชะมัด...แต่ให้ตายเถอะ โคตรน่าสนใจเลย’
สนุกมากครับ เอาละสิ บอสใหญ่เลยนะ
รอตามต่อไปขอบคุณนะครับ Thank you
หน้า:
[1]