ภูผา ตอนที่ 6: พลังแห่งสายสัมพันธ์
ภูผา ตอนที่ 6: พลังแห่งสายสัมพันธ์ป่าดงพญาเย็นในยามรุ่งสางถูกปกคลุมด้วยหมอกหนาที่ยื่นหยอกล้อราวผ้าคลุมของวิญญาณ ศิราและภูผาก้าวเดินผ่านเงาไม้ใหญ่ มุ่งหน้าสู่ใจกลางป่าที่เสียงคำรามจากเงาแห่งอดีตยังคงดังก้องอยู่ในความทรงจำ ศิราสัมผัสได้ถึงความตึงเครียดในท่าทางของภูผา แม้ใบหน้าของเขาจะนิ่งสงบ แต่ดวงตาคู่หนึ่งนั้นซ่อนความกังวลที่ไม่อาจปิดบัง
“เจ้ากลัวหรือไม่?” ศิราถาม ขณะที่ทั้งสองหยุดพักริมลำธารเล็กๆ น้ำใสไหลผ่านโขดหิน สะท้อนแสงแดดยามเช้าที่เจิดจ้า
ภูผาหันมามอง สายตาของเขานุ่มนวลลงเมื่อสบตากับศิรา “ข้าไม่กลัวเพื่อตัวเอง” เขากล่าว “แต่ข้ากลัวว่าจะปกป้องเจ้าไม่ได้”
ศิราจับมือของภูผาไว้แน่น “เจ้าไม่ต้องปกป้องข้าคนเดียว” เขากล่าวด้วยน้ำเสียงมุ่งมั่น “เราจะต่อสู้ไปด้วยกัน”
คำพูดนั้นทำให้รอยยิ้มจางๆ ปรากฏบนใบหน้าของภูผา เขาดึงศิราเข้ามากอด ลมหายใจอุ่นของทั้งสองผสานกันในอากาศเย็น “เจ้า... ทำให้ข้าอยากมีชีวิตต่อไป” เขากระซิบ
กับดักแห่งเงา
ทั้งสองเดินต่อไปจนถึงลานหินกว้างที่รายล้อมด้วยต้นไม้โบราณ รากไม้ขนาดใหญ่พันกันราวกับกำแพงที่มีชีวิต ทันใดนั้น พื้นดินสั่นสะเทือน เสียงคำรามดังสนั่น และเงาดำหลายร่างพุ่งออกจากความมืด รูปกายของพวกมันบิดเบี้ยว ดวงตาเรืองแสงด้วยความแค้น
“ระวัง!” ภูผาตะโกน ดึงศิราให้หลบหลังโขดหิน เขายกมือขึ้น เรียกพลังจากป่า รากไม้และเถาวัลย์พุ่งออกจากพื้นดิน พันรัดร่างของเงาดำ แต่จำนวนของพวกมันมากเกินกว่าที่เขาจะรับมือได้เพียงลำพัง
ศิราไม่รอช้า เขาคว้ามีดสั้นและกระโจนเข้าสู่การต่อสู้ ใบมีดของเขากรีดผ่านร่างของเงาดำตัวหนึ่ง ทำให้มันละลายกลายเป็นควัน แต่ในชั่วพริบตา เงาอีกตัวพุ่งเข้าใส่เขา กรงเล็บแหลมคมเฉี่ยวผ่านแขนของศิรา เลือดสีแดงสดไหลซึม
“ศิรา!” ภูผาตะโกน พลังของเขาระเบิดออก รากไม้ขนาดใหญ่พุ่งขึ้นจากพื้น ผลักเงาดำให้กระเด็น แต่ในวินาทีนั้น เขาเองก็ถูกโจมตี ร่างของเขากระแทกกับโขดหิน หอบหายใจด้วยความเจ็บปวด
ศิรารีบวิ่งไปหา มือของเขาสั่นเมื่อเห็นรอยแผลลึกที่หน้าอกของภูผา “เจ้า... เจ้าจะไม่เป็นไร ข้าจะช่วยเจ้า!” เขากล่าวด้วยน้ำเสียงแตกสลาย
ภูผายิ้มอ่อนแรง “แผลนี้... ไม่ใช่แค่ร่างกาย” เขากระซิบ “มันคือคำสาปของเงา... มีเพียงพลังแห่งความผูกพันเท่านั้นที่รักษาข้าได้”
ศิราขมวดคิ้ว “ความผูกพัน? หมายความว่ายังไง?”
ภูผาจับมือของศิรา วางลงบนหน้าอกของเขา “ใจของเจ้า... และของข้า ต้องเป็นหนึ่งเดียว” เขากล่าว “เจ้ากล้าพอหรือไม่?”
ศิราไม่ลังเล เขาพยักหน้า ดวงตาเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น “บอกข้าว่าต้องทำอะไร”
พิธีแห่งสายสัมพันธ์
ภูผานำศิราไปยังศูนย์กลางของลานหิน ที่ซึ่งมีสัญลักษณ์โบราณสลักไว้บนพื้น “นี่คือสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของป่า” เขากล่าว “เราจะต้องมอบพลังของเราให้แก่กันและกัน... ด้วยร่างกายและหัวใจ”
ศิรารู้สึกถึงความร้อนที่พุ่งขึ้นในร่างเมื่อเข้าใจความหมาย เขานั่งลงหน้าโขดหินตามคำบอกของภูผา ขณะที่ภูผาค่อยๆ ปลดผ้าคลุมของทั้งสองออก ร่างกายกำยำของเขาส่องประกายภายใต้แสงแดดที่ลอดผ่านใบไม้ ศิราสัมผัสได้ถึงความร้อนจากร่างของภูผา แม้จะยังห่างกันเพียงไม่กี่ก้าว
“เจ้าแน่ใจหรือ?” ภูผาถาม สายตาของเขาลึกล้ำราวกับกำลังมองเข้าไปในวิญญาณของศิรา
ศิราไม่ตอบด้วยคำพูด แต่ยื่นมือไปลูบแผ่นอกกว้างของภูผา นิ้วของเขาไถลลงไปตามกล้ามเนื้อที่ตึงแน่น ต่ำลงไปจนสัมผัสถึงความร้อนที่แผ่ออกมาจากส่วนล่าง “ข้าพร้อม” เขากระซิบ
ภูผาครางเบาๆ เมื่อมือของศิราเริ่มขยับ เขาดึงศิราให้แนบชิด มือของเขาลูบไล้ไปที่เอวและสะโพกของศิรา การสัมผัสของทั้งสองทั้งอ่อนโยนและดิบเถื่อน ราวกับป่าแห่งนี้กำลังรับรู้และผลักดันให้พวกเขาเข้าใกล้กันยิ่งขึ้น
“เราจะต้อง... มอบทุกอย่าง” ภูผากล่าวด้วยเสียงแหบพร่า มือของเขานำมือของศิราให้ขยับเร็วขึ้น ขณะที่เขาเองก็ตอบสนองด้วยการสัมผัสที่เร่าร้อนยิ่งกว่าเดิม ความร้อนจากร่างกายของทั้งสองผสมผสานกับกลิ่นของดินและใบไม้ สร้างความรู้สึกที่ทั้งศักดิ์สิทธิ์และเร่าร้อน
เมื่อน้ำคาวอุ่นของทั้งสองแผ่ออกมา ภูผานำมันมาชโลมลงบนแผลที่หน้าอกของเขา ศิราสังเกตเห็นแผลนั้นเริ่มเรืองแสงจางๆ ราวกับพลังของป่ากำลังซึมเข้าสู่ร่างกายของภูผา “ต่อไป... อีกครั้ง” ภูผากระซิบ ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความปรารถนา
ศิราสั่นเทา แต่ไม่หยุด มือของเขาขยับอีกครั้ง เร็วและหนักแน่นยิ่งขึ้น ภูผาครางเสียงทุ้มในลำคอ มือของเขาจับศิราไว้แน่น การเคลื่อนไหวของทั้งสองกลายเป็นจังหวะที่เร่าร้อนและต่อเนื่อง น้ำคาวอุ่นที่แผ่ออกมาครั้งแล้วครั้งเล่านั้นข้นและเหนียว ราวกับเป็นสัญลักษณ์ของความผูกพันที่ไม่อาจแตกสลาย
ทั้งสองถึงจุดสูงสุดนับครั้งไม่ถ้วน ร่างกายของพวกเขาสั่นสะท้านด้วยความเสียวซ่านที่ลึกซึ้งยิ่งกว่าครั้งใดๆ ศิรารู้สึกเหมือนร่างกายและวิญญาณของเขาเชื่อมโยงกับภูผา กลายเป็นส่วนหนึ่งของป่าแห่งนี้ แสงจากสัญลักษณ์บนพื้นหินสว่างจ้าขึ้น ราวกับป่ากำลังยินยอมต่อพิธีของพวกเขา
เมื่อทุกอย่างสงบลง ภูผานอนลง หอบหายใจ แผลที่หน้าอกของเขาหายไปราวกับไม่เคยมีอยู่ ศิรานอนเคียงข้าง มือของเขาจับมือของภูผาไว้แน่น “เราทำได้...” เขากระซิบ
ภูผาหันมามอง รอยยิ้มของเขาอบอุ่นและเต็มไปด้วยความรัก “เจ้า... คือพลังของข้า” เขากล่าว ก่อนจะดึงศิราเข้ามากอด
การเผชิญหน้าสุดท้าย
แสงจากสัญลักษณ์บนพื้นหินยังคงสว่างอยู่ เมื่อเสียงคำรามดังขึ้นอีกครั้ง เงาดำที่เหลือพุ่งออกจากความมืด แต่คราวนี้ ศิราและภูผายืนเคียงกันด้วยความมั่นใจ พลังของป่าที่หลั่งไหลผ่านร่างของทั้งสองแข็งแกร่งยิ่งกว่าที่เคย
“พร้อมหรือยัง?” ภูผาถาม มือของเขาจับมือของศิราไว้แน่น
ศิรายิ้ม “พร้อม” เขาตอบ ดวงตาเต็มไปด้วยไฟแห่งความมุ่งมั่น
ทั้งสองกระโจนเข้าสู่การต่อสู้ ร่างกายของพวกเขาเคลื่อนไหวราวกับเป็นหนึ่งเดียว พลังของป่าพุ่งออกจากมือของภูผา ขณะที่ศิราใช้มีดสั้นโจมตีด้วยความคล่องแคล่ว เงาดำล้มลงทีละตัว จนในที่สุด ความเงียบสงบก็กลับคืนสู่ป่า
สัญญาใต้ร่มเงา
เมื่อการต่อสู้จบลง ศิราและภูผานั่งลงริมลำธาร มองดวงอาทิตย์ที่กำลังลับขอบฟ้า “เจ้าจะกลับไปที่หมู่บ้านหรือไม่?” ภูผาถาม เสียงของเขาแฝงด้วยความหวังและความกลัว
ศิรามองตาคู่ที่ลึกล้ำนั้น “ข้าจะกลับไปรักษาแม่ข้า” เขากล่าว “แต่ข้าจะกลับมาหาเจ้า... เสมอ”
ภูผายิ้ม ดึงศิราเข้ามากอด “ป่าแห่งนี้จะรอเจ้า” เขากล่าว “และข้าจะรอเจ้า... ตลอดไป”
ทั้งสองนั่งเคียงกัน เงาของพวกเขาทอดยาวในแสงยามเย็น ความผูกพันที่เกิดขึ้นในป่าดงพญาเย็นนั้นแข็งกว่าหินผา และลึกซึ้งกว่าบึงน้ำศักดิ์สิทธิ์
โปรดติดตามตอนต่อไปครับ
อ่านจบตอนแล้ว อย่าลืมช่วยคอมเม้นเป็นกำลังใจให้เขียนบทต่อไปนะครับ ขอบคุณครับรักผู้อ่าน
ขอบมากคับ หลากหลายเนื้อหาแตกต่างกันไป อีกเรื่องที่เฝ้ารอคับ
สนุกมากครับ เลิฟเลย ขอบคุณครับ ชอบมากครับ สนุกมากคร้าบ สุดยอด
หน้า:
[1]