ภูผา ตอนที่ 3: หัวใจในหุบหมอก
ภูผา ตอนที่ 3: หัวใจในหุบหมอกหมอกหนาที่ยื่นหยอกล้อจากหุบเขาด้านล่างราวกับมีชีวิต กลืนกินทุกเสียงและเคลื่อนไหวราวผ้าคลุมของเทวะ ศิราและภูผายืนอยู่บนขอบหน้าผา มองลงไปยังความลึกลับที่รออยู่ข้างหน้า ลมเย็นพัดผ่าน ทำให้ผมยาวของภูผาไหวเล็กน้อย ขณะที่ศิราพยายามกลั้นใจที่เต้นแรงจากทั้งความตื่นเต้นและความรู้สึกที่ยังคงหลงเหลือจากเหตุการณ์เมื่อวาน
“โสมหิมพานต์อยู่ที่ก้นหุบ” ภูผากล่าว เสียงของเขานิ่งแต่หนักแน่น “แต่เส้นทางนี้ไม่ง่าย เจ้าต้องเชื่อข้า”
ศิราพยักหน้า มองดวงตาคู่ที่ลึกล้ำของภูผา “ข้าเชื่อเจ้า” เขาตอบ แม้ในใจจะรู้สึกถึงน้ำหนักของคำพูดนั้นมากกว่าที่เขาแสดงออก
เส้นทางสู่ก้นหุบ
ทั้งสองเริ่มไต่ลงหน้าผาด้วยเชือกที่ภูผาทำจากเส้นใยพืชป่า ความชันและหินที่ลื่นทำให้ศิราต้องเกาะเชือกแน่น ขณะที่ภูผานำหน้าด้วยความมั่นใจราวกับเขาเกิดมาเพื่อผืนป่านี้ ระหว่างทาง หินก้อนหนึ่งหลุดจากใต้ฝ่าเท้าของศิรา ทำให้เขาสะดุดและเกือบร่วงลงสู่ความมืดด้านล่าง
“ระวัง!” ภูผาคว้าแขนของศิราไว้ได้ทัน ร่างของทั้งสองชิดกันในชั่วพริบตา ศิราสัมผัสได้ถึงความแข็งแกร่งของแขนที่โอบรั้งเขาไว้ และกลิ่นหอมจางๆ จากร่างของภูผาที่ผสมผสานกับกลิ่นของใบไม้และดิน
“ข้า... ขอบใจ” ศิรากระซิบ ใบหน้าแดงก่ำเมื่อตระหนักว่าร่างของเขายังแนบชิดกับภูผา
ภูผาเพียงยิ้ม มือของเขาลูบแขนของศิราเบาๆ ก่อนปล่อย “อย่าให้ข้าต้องช่วยเจ้าบ่อยนัก” เขากล่าวพร้อมแววตาเจ้าเล่ห์
เมื่อถึงก้นหุบ หมอกยิ่งหนาทำให้มองเห็นได้เพียงไม่กี่ก้าวข้างหน้า ภูผานำทางด้วยสัญชาตญาณ ขณะที่ศิราตามหลังอย่างใกล้ชิด มือของเขาจับไหล่ของภูผาไว้ราวกับกลัวว่าเขาจะหายไปในหมอก
บึงน้ำศักดิ์สิทธิ์
หลังจากเดินฝ่าหมอกอยู่นาน ทั้งสองมาถึงบึงน้ำขนาดใหญ่ที่ซ่อนอยู่ในใจกลางหุบเขา น้ำในบึงใสราวคริสตัล สะท้อนแสงจากรอยแยกบนเพดานถ้ำด้านบน ทำให้เกิดประกายระยิบระยับราวกับดวงดาวตกลงมา ริมฝั่งบึง มีต้นไม้ขนาดเล็กที่มีใบเรืองแสงจางๆ และที่โคนต้นนั้นคือโสมหิมพานต์ สมุนไพรที่เปล่งแสงสีทองอ่อน
“เจ้ามันอยู่ที่นี่จริงๆ...” ศิรากระซิบด้วยความตื่นเต้น เขาก้าวไปข้างหน้า แต่ภูผาคว้าแขนเขาไว้
“ช้าๆ” ภูผากล่าว “น้ำในบึงนี้ศักดิ์สิทธิ์ และมีพลังที่อาจทำให้เจ้าเสียสติถ้าไม่ระวัง”
ศิราขมวดคิ้ว “เสียสติ? หมายความว่ายังไง?”
ภูผาไม่ตอบตรงๆ แต่ถอดเสื้อผ้าที่คลุมร่างออก วางไว้บนโขดหิน “ตามข้ามา” เขากล่าว ก่อนจะก้าวลงไปในบึงน้ำ น้ำกระเพื่อมรอบร่างกำยำของเขา ราวกับกำลังต้อนรับ
ศิราลังเลเพียงครู่ ก่อนจะถอดเสื้อผ้าตามและก้าวลงไปในน้ำ ความเย็นของน้ำทำให้เขาสะดุ้ง แต่เพียงชั่วครู่ ร่างกายของเขาก็เริ่มรู้สึกถึงความอบอุ่นแปลกประหลาดที่แผ่ออกมาจากน้ำ ราวกับมันกำลังซึมเข้าสู่ผิวและหัวใจของเขา
พลังแห่งบึง
เมื่อทั้งสองยืนอยู่ในน้ำที่ท่วมถึงอก ภูผาหันมามองศิรา “น้ำนี้จะเผยสิ่งที่ซ่อนอยู่ในใจเจ้า” เขากล่าว “เจ้ากล้าพอที่จะเผชิญมันหรือไม่?”
ศิรากลืนน้ำลาย มองตาคู่ที่ลึกล้ำของภูผา เขารู้สึกถึงพลังบางอย่างที่เริ่มเคลื่อนไหวในตัวเขา ความปรารถนาที่ถูกกดไว้ ความกลัว และความรู้สึกที่เขามีต่อภูผา ทั้งหมดเริ่มเดือดพล่านราวกับน้ำในบึงนี้กำลังปลุกมันให้ตื่น
“ข้ากล้า” เขาตอบ แม้เสียงจะสั่นเล็กน้อย
ภูผายิ้ม ก่อนจะยื่นมือมาสัมผัสแก้มของศิรา นิ้วของเขาลูบไล้ช้าๆ ราวกับกำลังวาดภาพลงบนผิว “ดี” เขากระซิบ ก่อนจะดึงศิราเข้ามาใกล้
ทั้งสองยืนชิดกันในน้ำ ลมหายใจของพวกเขาผสมผสานกัน มือของภูผาไถลลงไปที่เอวของศิรา ขณะที่ศิรายื่นมือไปลูบแผ่นอกกว้างของภูผา ความร้อนจากร่างกายของทั้งสองตัดกับความเย็นของน้ำ สร้างความรู้สึกที่ทั้งเร่าร้อนและนุ่มนวล
“เจ้ารู้สึกมันหรือไม่?” ภูผากระซิบ ขณะที่มือของเขาค่อยๆ ลูบไล้ลงไปต่ำกว่าเอวของศิรา “พลังของบึง... และของเรา”
ศิราไม่อาจตอบได้ด้วยคำพูด เขาครางเบาๆ เมื่อสัมผัสถึงการลูบไล้ที่ทั้งอ่อนโยนและหนักแน่นของภูผา ร่างกายของเขาตอบสนองอย่างที่เขาไม่เคยรู้สึกมาก่อน มือของเขาก็เริ่มสำรวจร่างของภูผา ลูบไล้ไปตามกล้ามเนื้อที่ตึงแน่น ต่ำลงไปจนสัมผัสถึงความร้อนที่แผ่ออกมาจากส่วนล่างของเขา
ทั้งสองเคลื่อนไหวช้าๆ ในน้ำ ตามจังหวะของหัวใจที่เต้นรัว การสัมผัสของพวกเขาค่อยๆ เข้มข้นขึ้น น้ำในบึงกระเพื่อมตามการเคลื่อนไหวของร่างกาย ความรู้สึกที่ถูกปลดปล่อยนั้นทั้งศักดิ์สิทธิ์และดิบเถื่อน ราวกับป่าแห่งนี้กำลังรับรู้และยินยอม
เมื่อทุกอย่างถึงจุดสูงสุด น้ำรอบๆ พวกเขาราวมีแสงเรื่อจางๆ เปล่งออกมา ศิรานั่งลงในน้ำ หอบหายใจ มองภูผาที่มีรอยยิ้มอบอุ่นบนใบหน้า
“เจ้าแข็งแกร่งกว่าที่ข้าคิด” ภูผากล่าว ก่อนจะช่วยพยุงศิราให้ลุกขึ้น
โสมและคำสัญญา
ทั้งสองเก็บโสมหิมพานต์ได้สำเร็จ แต่ก่อนออกจากบึง ภูผาหันมามองศิรา “เจ้าได้สิ่งที่ต้องการแล้ว แต่ป่าแห่งนี้ยังมีสิ่งอื่นรอเจ้าอยู่ เจาจะกลับมาหรือไม่?”
ศิรามองตาคู่ที่ลึกล้ำนั้น เขารู้ว่าคำตอบของเขาไม่ใช่แค่เรื่องของโสมหรือป่า แต่เป็นเรื่องของหัวใจ “ข้าจะกลับมา” เขาตอบด้วยน้ำเสียงที่มั่นคง
ทั้งสองเริ่มเดินทางกลับ เงาของพวกเขาทอดยาวในหมอก ขณะที่ความผูกพันที่เริ่มก่อตัวในใจของทั้งคู่แข็งแกร่งยิ่งกว่าหินผาแห่งป่าดงพญาเย็น
สนุกมากครับ สนุกครับผม สนุกมากครับ ขอบคุงมากคร้าบ{:5_119:} ขอบคุณครับ
หน้า:
[1]