ความลับของผมในคอร์ส ม.ต้น ตอน 16 - ในวันที่เข้มแข็งขึ้น
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Recs เมื่อ 2025-6-15 13:56ย้อนหลังกลับไปอ่าน>> ตอน 1 - วันแรกก็น้ำแตก <<>> ตอน 2 - เสียวกับมือปริศนา <<>> ตอน 3 - ทายคำจนเสียว <<>> ตอน 4 - แอบดูจนได้เรื่อง <<>> ตอน 5 - คิดมากจนหมกมุ่น <<>> ตอน 6 - รับงานคู่ครั้งแรก <<>> ตอน 7 - ย้อนวัยเสียวครั้งแรก <<>> ตอน 8 - ว่างจนรับงานต่างชาติ <<>> ตอน 9 - สงกรานต์พาฟิน <<>> ตอน 10 - ไลฟ์สดกับคุณหมอ <<>> ตอน 11 - ลองเสียวด้วยเท้า <<>> ตอน 12 - รับบทพี่น้องแท้ <<>> ตอน 13 - ปาร์ตี้หน้ากากเสียว <<>> ตอน 14 - คอสเพลย์โชว์เสียว <<>> ตอน 15 - เสียวในวันเรียนครั้งสุดท้าย <<
ตอน 16 - ในวันที่เข้มแข็งขึ้น
หลังจากที่ผมกับเซน เพื่อนสนิทวัย 14 ตัดสินใจลองคบกันแบบลับๆ ในวันนั้นผมนี่ติดมันหนักเลย ไม่อยากห่างกันแม้แต่นาทีเดียว วันสุดท้ายก่อนปิดคอร์ส เราก็ไปเรียนด้วยกันตามปกติ
แต่ดันเกิดเรื่องไม่คาดฝัน... รปภ. ดันมาเจอเราสองคนอยู่ในห้องน้ำตึกเรียนพิเศษพอดี ผมตกใจจนทำอะไรไม่ถูก แต่เซนรีบพูดก่อนเลยว่ามันแค่แอบเข้าไปสูบบุหรี่ไฟฟ้า เพื่อกันไม่ให้เราสองคนอับอายและโดนหนักไปมากกว่านี้
แม่ผมต้องมารับถึงที่ และเซ็นเอกสารรับทราบเรื่อง ทำให้ทะเลาะกันยกใหญ่ จนสุดท้ายผมหลุดปากสารภาพความจริงออกไปว่า... ผมชอบผู้ชาย ...แล้วคนๆ นั้นก็คือเซน เพื่อนสนิทของผมเอง จนแม่ก็เริ่มเปิดใจ เข้าใจผมมากขึ้น
...บาส เด็กหนุ่มวัยม.ต้น เพื่อนของนัท โดนที่บ้านส่งไปเรียนต่อฝรั่งเศสแบบกระทันหัน ทำให้ทั้งคู่ต้องแยกจากกันแบบไม่มีทางเลือกนัทเสียใจหนัก ร้องไห้แทบทุกวัน ทำใจไม่ได้อยู่พักใหญ่ ได้แต่มีความหวังว่าสักวัน... จะต้องมีทางทำให้ทั้งคู่ได้กลับมาเจอกันอีกครั้ง...
ผมอ่านตอนจบของฟิคมินนี่แล้วอินจัด น้ำตาไหลไม่หยุด ยิ่งอ่านก็ยิ่งกลัวว่าเรื่องแบบนั้น... จะเกิดขึ้นกับตัวเองเหมือนกัน
ตั้งแต่วันนั้นที่โดนจับได้ในห้องน้ำ ผมก็รีบทักหาเซนไปด้วยความเป็นห่วง... จนตอนนี้ก็ผ่านมาเป็นวันแล้ว มันยังไม่ตอบสักคำ ไม่ขึ้นว่าอ่านข้อความด้วยซ้ำ โทรไปก็เงียบกริบ ไม่ออนไลน์ เหมือนหายจากโลกนี้ไปเลย
ผมกระวนกระวายจนทำอะไรไม่ถูก นอนไม่หลับเลย คิดมากไปสารพัด จะห่วงก็ห่วง... น้อยใจก็น้อยใจ จะว่าไปตอนมันติดหญิงยังไม่เคยหายไปนานขนาดนี้เลย
สุดท้ายต้องไปตามถามจากไอเติร์ก จากมินนี่ ว่าพอจะได้คุยกับเซนบ้างไหม แต่ก็หมดหวัง... ไม่มีใครได้ติดต่อมันเลย ตั้งแต่ที่เราแยกย้ายกันกลับบ้านในวันสุดท้ายของการเรียน...
วันต่อมา ผมไม่รู้จะทำยังไงแล้ว ถึงขั้นต้องขอแม่ติดรถไปทำงานด้วย แล้วให้แวะไปส่งหน้าบ้านเซนหน่อย... จะได้หายคาใจสักที
แต่พอไปถึง ผมก็ต้องช็อกหนักเข้าไปอีก...
มีป้ายแปะอยู่ตรงรั้วบ้าน เขียนว่า “ขาย” ตัวใหญ่เบ้อเร่อ พร้อมเบอร์โทรติดต่อเจ้าของผมรีบหยิบมือถือขึ้นมาถ่ายรูปเก็บไว้แทบไม่ทัน
“คงไม่มีอะไรมั้งลูก? เซนอาจจะย้ายไปอยู่ไม่ไกลแถวนี้แหละ” แม่พยายามปลอบ แต่ก็ยังไม่ช่วยให้ผมเลิกสงสัยได้อยู่ดี
“ไม่รู้ดิ... แม่ลองแกล้งโทรไปถามให้หน่อยได้มั้ย?”
“จะบ้าเหรอกาย? ให้แม่โทรไปซื้อบ้านเนี่ยนะ?” แม่ทำหน้าตกใจสุดๆ
“ใช่แม่ กายโทรเองเดี๋ยวเขาไม่เชื่อ เสียงแม่ดูน่าเชื่อกว่าอ่ะ ช่วยกายหน่อยนะ”ผมพูดด้วยน้ำเสียงขอร้อง ใจมันร้อนรุ่มจนจะระเบิดอยู่แล้ว
แม่ลังเลนิดหน่อย ก่อนจะขับรถออกจากหมู่บ้าน“…ก็ได้ เดี๋ยวลองโทรดูให้”...
ระหว่างที่แม่ขับรถไปทำงาน เธอก็กดเบอร์ที่ผมถ่ายไว้ แล้วโทรออกแบบเปิดลำโพง
"สวัสดีครับ..."เสียงปลายสายพูดขึ้นก่อน เป็นเสียงผู้ชาย มีอายุหน่อย ฟังดูใจเย็นแต่เสียงดูเหนื่อยๆ ยังไงไม่รู้
"สวัสดีค่ะ พอดีเห็นประกาศขายบ้าน แค่อยากสอบถามรายละเอียดหน่อยค่ะ..." แม่ตอบแบบเนียนสุด
"ได้ครับ... แต่ช่วงนี้อาจยังไม่สะดวกพาไปดูบ้านนะครับ พอดีติดเรื่องงานศพลูกชายอยู่..."
...ผมกับแม่เงียบไปทันที แล้วค่อยๆ หันมามองหน้ากัน
"อ่อค่ะ... เสียใจด้วยนะคะ ไม่ทราบว่า... ลูกชายเป็นอะไรเหรอคะ"
"แกเป็น...ซึมเศร้าน่ะครับ ตอนแรกกะจะเก็บบ้านไว้ให้รอแกโต แต่ตอนนี้... จะขายแล้วไปอยู่ต่างประเทศกันครับ"
"...ค่ะ งั้นถ้าคุณสะดวกยังไง ฝากติดต่อกลับเบอร์นี้ได้นะคะ"
"ครับผม... ขอบคุณครับ..."
เสียงวางสายดังขึ้น แต่ในรถกลับเงียบกริบ...
ผมนั่งนิ่ง ไม่ขยับ ไม่พูดอะไร ไม่มีแม้แต่น้ำตา จะงงก็ไม่ใช่ จะเรียกว่าเชื่อก็ไม่เต็มปากตอนนี้มันเบลอไปหมด เหมือนเสียงที่ได้ยินเมื่อกี้... เป็นแค่ความฝัน ฝันที่ไม่อยากให้จริงเลยแม้แต่นิดเดียว...
"งั้น... วันนี้ไปที่ทำงานกับแม่นะ"แม่หันมาถามเบาๆ น้ำเสียงเหมือนทั้งห่วง คงอยากให้ผมอยู่ใกล้ๆ หน่อย
"โอเค..."ผมพยักหน้าตอบ พร้อมฝืนยิ้มนิดนึงให้แม่ดูว่าไม่เป็นไร ก่อนจะหันกลับไปมองออกไปนอกหน้าต่างรถ ปล่อยให้ความเงียบกลืนทุกอย่างไปทีละนิด......
ผมสะดุ้งตื่นขึ้นมาช่วงบ่ายๆ บนโซฟาในที่ทำงานแม่ ไม่รู้เผลอหลับไปตอนไหน เหมือนร่างกายมันเพลียสะสมจากการอดนอนมาหลายวัน
ช่วงนี้ผมยิ่งแยกไม่ออกอยู่ว่าอันไหนฝันอันไหนจริง เลยรีบเปิดมือถือดูทันที ยังมีรูปประกาศขายบ้านที่ผมถ่ายไว้ในเครื่องอยู่เลย... อยากให้มันเป็นแค่ฝันจัง…
ผมเดินไปล้างหน้าล้างตาในห้องน้ำ แล้วไปนั่งโง่ๆ อยู่ตรงนั้น รอแม่เลิกงานแบบไม่รู้จะทำอะไรต่อดี
"ตื้ดด... ตื้ดด... ตื้ดด..."เสียงมือถือสั่นขึ้นมา มีเบอร์แปลกโทรเข้า ผมนั่งลังเลอยู่แป๊บ ก่อนจะตัดสินใจกดรับสาย ฟังแบบเงียบๆ
"ฮัลโหล... ฮัลโหล ไอกายป่ะ... ได้ยินกูมั้ย..."
"เซนเหรอ?..." ผมถามแบบงงๆ สลึมสลือ ในหัวตีกันสับสนไปหมด
"เออ กูยืมเครื่องแม่บ้านโทรได้แป๊บเดียว" น้ำเสียงที่คุ้นเคยเล่นเอาผมน้ำตาคลอแบบไม่รู้ตัว
"มึงไปไหนมาอะ กูคิดว่ามึงตายห่าไปแล้ว..."
"กูจะโทรมาบอกนี่แหละ กูมาต่างจังหวัดกับพ่อ โดนยึดมือถือ เลยเงียบไปหลายวัน"
คำตอบมันทำเอาผมโล่งใจแบบสุดๆ เหมือนยกภูเขาออกจากอก แต่ก็กลัวเหมือนกันว่าตอนนี้จะยังฝันอยู่
"พ่อมึงกลับมาไทยแล้วเหรอ?"
"เออๆ แม่งโคตรน่าเบื่อ เดี๋ยวพรุ่งนี้กูกลับกรุงเทพละ" เสียงเซนพูดกระซิบเหมือนแอบคุย "มึงว่างป่ะพรุ่งนี้? ไปเดินห้างเป็นเพื่อนกูหน่อย กูเบื่ออยู่บ้าน"
"ได้ดิ กูก็เบื่อๆ อยู่เหมือนกัน" ผมตอบแทบไม่ต้องคิด
"งั้นแค่นี้ก่อน เดี๋ยวได้มือถือคืนแล้วกูทักไป"
"อืม... บาย"
หลังจากวางสาย ผมโคตรดีใจ โล่งใจแบบสุดๆ รีบวิ่งไปบอกแม่ทันที คิดไปไกลแล้ว...กลัวว่าจะไม่ได้เห็นหน้ามันอีกตลอดชีวิต...
แต่ก็งงๆ เรื่องขายบ้านกับที่พ่อมันบอกว่าไปงานศพลูกชาย... หรือว่าที่โทรมาเมื่อกี๊จะเป็นผีไอเซนวะ?...
วันต่อมาผมไปหาเซนตามนัด ยังหลอนๆ ลุ้นอยู่ในใจว่ามันจะโผล่หัวมาเจอจริงมั้ย...
"มาแล้วกาย... ป่ะ ไปหาไรกินกัน" เซนเดินมาทักตรงทางออกรถไฟฟ้าตามนัดเป๊ะ
ผมรีบเอามือแตะแก้มมัน ลูบหัวเบาๆ เหมือนจะเช็กว่าเป็นตัวจริงมั้ย แล้วก็เข้าไปกอดให้ชื่นใจแน่นๆ ทีนึง"ใช่มึงจริงด้วย กูคิดว่ามึงตายไปแล้วจริงๆ นะเว้ย..."
"เป็นเหี้ยไรของมึงเนี่ย?" เซนจับไหล่ผมดันออกแล้วจ้องผมด้วยสีหน้างงจัด
"ก็กูไปบ้านมึงมาเมื่อวาน เห็นติดป้ายว่าขายบ้าน เนี่ยดูดิ!" ผมหยิบมือถือเปิดรูปให้มันดู"แล้วกูให้แม่โทรไปเบอร์ที่เขียนไว้ พ่อมึงรับแล้วบอกว่า... กำลังจัดงานศพลูกชายอยู่"
"มึงเลยคิดว่ากูตายว่างั้น?"
"เออดิ! ก็มึงหายเงียบ โทรไม่รับ ทักไม่ตอบ แล้วสรุปมึงจะขายบ้านทำไมวะ?"
"ใจเย็นนะ... มึงแหกตาดูรูปก่อน" เซนชี้ไปที่เลขที่หน้าบ้านในรูป"มึงไปบ้านกูกี่รอบละวะ ยังจำไม่ได้อีกเหรอ? บ้านกูเลขที่ 118 เว้ยไอควาย!"
ผมรีบก้มดูเลขในรูป เออ... เลขที่ 108 ว่ะแต่ทรงบ้านเหมือนกันเป๊ะ หน้าชาจัด แม่งเอ๊ย...โคตรอยากขุดดินมุดหนีมันเลยตอนนั้น
"เออกูผิดเอง... ก็ปกติกูไปแต่กับมึง ไม่เคยดูเลขบ้านเลยป้ะวะ" ผมแถแบบหน้าด้านๆ ไป
"สบายใจละนะ? ไปเหอะ กูหิวแล้ว" เซนตบไหล่ผมเบาๆ ก่อนพาเดินหาร้านกินมื้อเที่ยงกัน ผมก็เดินตามแบบอึนๆ ปนอายอยู่
"ถ้ากูตายจริงนะ จะไปเย็ดตูดมึงในฝันคนแรกเลยไอสัด" เซนเดินบ่นระหว่างทาง
"เย็ดแม่มึงดิ ไอควย!" ผมเริ่มอารมณ์ดี ยกนิ้วกลางชูใส่มันแม่ง จนมันขำผมใหญ่...
ระหว่างที่เรานั่งกินข้าวกันในร้านอาหารญี่ปุ่น ที่เซนมันเลือกเองนั่นแหละ ผมก็เริ่มรู้สึกแปลกๆ เหมือนมันมีอะไรอัดอั้นอยากจะพูดแต่ก็ไม่พูดสักที
"มึงมีไรอยากคุยกับกูใช่ป่ะ?" ผมเปิดก่อนเลย เห็นมันทำท่าทางอ้ำอึ้งมาสักพักละ
"อ๋อ เปล่าๆ กูแค่จะถามว่าวันนั้นเป็นไงมั่ง แม่มึงว่าอะไรมึงป่ะ?" เซนถามพลางยกถ้วยซดซุปมิโซะไปด้วย
"แม่กูบอกว่าให้เลิกคบมึงเป็นเพื่อน เดี๋ยวมึงพากูเสียคน"
ฟู่ววววว!!ไอเซนพ่นน้ำซุปออกมาเต็มโต๊ะ แทบจะพุ่งใส่หน้าผม
"555 โคตรเวอร์ แค่เนี่ยถึงกับสำลักเลย?"
"เฮ้ย! จริงเหรอวะ แม่มึงพูดงี้จริงดิ?"
"เออจริง กูจะหลอกมึงเพื่อ?"
"ละงี้... มึงก็แอบแม่ออกมาหากูดิ?" เซนวางถ้วยลง หยิบน้ำขึ้นมาจะกินต่อ
"ไม่ได้แอบหรอก กูก็บอกแม่ปกติ… แต่เดี๋ยวๆ อย่าเพิ่งกินน้ำ" ผมรีบคว้ามือมันไว้ก่อนจะยกน้ำขึ้น
"ห้ะ? ทำไมวะ?" เซนขมวดคิ้ว งงๆ แต่ก็หยุดฟัง
"กูเพิ่งบอกแม่ไป... ว่าคบกับมึงเป็นแฟน"
"ห๊ะ!! ไหนบอกจะเก็บไว้เป็นความลับก่อนไงวะ?" เซนเบิกตากว้าง ตกใจยิ่งกว่าสำลักซุปอีก ดีที่ห้ามมันทัน ไม่งั้นโต๊ะเปียกอีกรอบแน่...
"ก็แม่กูเข้าใจผิดว่ามึงจะพากูสูบบุหรี่น่ะดิ สำหรับแม่กู บอกแบบนี้น่ะพอจะรับได้มากกว่า" ผมมองมัน แล้วก็ถามกลับไปบ้าง"แล้วพ่อมึงล่ะ ว่าอะไรมึงบ้างมั้ย?"
"โดนเต็มๆ สวดกูยับเลยดิพอกลับถึงไทยอะ เห้อ..." เซนถอนหายใจยาว ก่อนจะพูดต่อเสียงแผ่ว"แต่สำหรับพ่อกูนะ บอกว่าสูบบุหรี่ยังดีกว่าบอกความจริงอีกเหอะ"
สีหน้ามันเปลี่ยนชัดเลย จากหน้าตลกๆ กลายเป็นดูจ๋อยๆ เศร้าๆ
"แล้วกูมีอีกเรื่องจะบอก..."เสียงมันเหมือนลังเล จะพูดก็ไม่พูด ผมเลยแทรกไปก่อน
"อย่าบอกนะ... พ่อมึงโกรธจัดเลยจะส่งมึงไปเรียนที่ญี่ปุ่น แล้วมึงก็จะขอเลิกกับกูใช่ป่ะ?"
"...ใครเล่าให้มึงฟังวะ?" เซนตาโตทันที เหมือนผมไปแอบได้ยินมาจริงๆ
อยากจะบอกว่าก็กูนี่แหละ คิดตอนจบเองล้วนๆ จากในฟิคของมินนี่... แต่กลัวจะดูเบียวไป
"มึงอย่าบอกใครนะ..."ผมเลยโน้มหน้าไปกระซิบข้างหูมัน ทำลึกลับสุดชีวิต จนเห็นมันทำหน้าตั้งใจฟังสุดๆ
"กูมีพลังวิเศษ อ่านใจคนได้ว่ะ... 555"
"แม่งเอ้ย! งั้นลองอ่านใจกูตอนนี้ดิ ว่าคิดไรอยู่?"
"มึงกำลังคิดว่าอยากลองเย็ดตูดหมาดูสักครั้ง ถูกป่ะ?"
"ควยเอ้ย!! จังไรเกิน!"
"นั่นดิ 555 โคตรจังไร คิดได้ไงวะ?"
"มึงนั่นแหละไอเหี้ยกาย! ความจริงกูกำลังคิดว่ามึงแม่งโคตรปัญญาอ่อนเลย ไอสัส!"...
หลังจากกินข้าวเสร็จ เราก็แวะซื้อชานมไข่มุกร้านประจำช่วงที่เพิ่งรู้จักกันใหม่ๆ เดินดูดกันไป คุยกันไปเหมือนเคย
"สรุปมึงรู้ได้ไงวะ ขอแบบจริงๆ" เซนยังไม่เลิกสงสัย ถามผมอีกที
"กูเดาเอา ดูอาการมึงก็พอเดาได้ละ ดันพากูมากินร้านอาหารญี่ปุ่นอีก" ผมพูดขณะเคี้ยวไข่มุก แล้วหันไปสบตาเซน "แต่ครั้งนี้แม่ง... เป็นครั้งแรกที่กูไม่อยากเดาถูกเลยว่ะ"
"มึงก็ไม่ได้เดาถูกหมดซะหน่อย กูไม่ได้อยากเลิกกับมึงเลยนะ เพิ่งคบกันได้ไม่กี่วันเอง" เซนตอบพลางสบตาผมกลับ แววตาดูเศร้าชัดเจน
"แต่มันจะเป็นไปได้เหรอวะ เดี๋ยวเราก็ไม่ได้เจอกันแล้ว... กลับมาเป็นเพื่อนแบบเดิมดีกว่ามั้ง" ผมพยายามพูดตามหลักความจริง ถึงจะรู้สึกดีกับเซนมากแค่ไหนก็เถอะ
"ไม่รู้ว่ะ... กูยังขาดมึงไม่ได้ ทำไงดีวะ กูไม่อยากไปเลยอะ" เซนเสียงสั่นนิดๆ เหมือนน้ำตาจะคลอ
"ใจเย็นนะมึง ไว้ค่อยคิดเรื่องนี้วันอื่นก็ได้... แต่กูว่ามึงไปอยู่นู่นดีที่สุดแล้ว ชีวิตมึงยังอีกยาว ไปใช้ให้คุ้มเถอะ" ผมพามันนั่งพักที่ม้านั่งแถวนั้น เอื้อมไปตบไหล่มันเบาๆ
"แต่กูหวงมึงนะ และติดมึงมากๆ ด้วย" เซนพูดพลางเอื้อมมือมากุมมือผมไว้แน่น
"มันก็แค่ช่วงแรกๆ แหละ เดี๋ยวมึงก็เบื่อกูเอง" ผมพูดเบาๆ ก่อนจะกุมมือตอบกลับ "ไม่ต้องห่วงกูหรอก... กูสัญญาว่าจะไม่เอาใครมั่วแล้ว ร่างกายกูให้แค่คนที่สำคัญพอเท่านั้น"
เซนพยักหน้าเบาๆ มองผมแล้วหันไปดูดชานมเงียบๆ ก่อนจะค่อยๆ คลายนิ้ว ปล่อยมือออก ต่างคนต่างเงียบ ยอมรับความจริงไปพร้อมกัน
"มึงจะไปวันไหนเหรอ เสาร์นี้ว่างป่ะ?" ผมหันไปถามมันแบบจริงจัง
"น่าจะว่างนะ กว่าจะไปก็คงเปิดเทอมนี้แหละ ทำไมอะ?"
"ไปตรวจโรคกับกูหน่อยดิ ก่อนมึงไปญี่ปุ่น เสาร์นี้กูว่าจะให้แม่พาไปด้วย"
"ไปพร้อมแม่มึงเลยอ่ะนะ? กูตายก่อนแน่" เซนทำหน้ากังวล คงไม่กล้าเจอหน้าแม่ผมหลังจากผมสารภาพกับแม่ไปแล้ว
"ไปเหอะ มึงก็เห็นว่าแม่กูใจดี ไม่มีอะไรหรอก" ผมพยายามโน้มน้าว เห็นมันยังลังเล "เอางี้ ถ้าผลตรวจออกมาไม่เป็นไร... เดี๋ยวกูยอมให้มึงสดทีนึงก่อนมึงไปนู่นเลย โอเคป่ะ?"
"มึงนี่ชอบหลอกล่อกูด้วยของล่อใจตลอด... ไปก็ได้วะ... เห้อ..." เซนถอนหายใจตอบตกลง ทำเอาผมแทบอยากลากมันไปดูดปาก แต่ก็ต้องระงับใจตัวเองไว้ก่อน ช่วงนี้คงเข็ดกับการเล่นในห้องน้ำไปอีกนาน...
พอถึงวันเสาร์ ผมโคตรตื่นเต้นสุดๆ แม่ขับรถไปรับเซนถึงบ้านแต่เช้าเลยเพราะกลัวคนจะเยอะ ผมต้องกำชับแม่ตั้งแต่ก่อนออกจากบ้านว่า ห้ามถามอะไรที่ชวนอึดอัด ห้ามแตะเรื่องเพศเด็ดขาด ทั้งกับผมและกับเซน
"เซนไปเรียนนานเลยไหมลูก เห็นกายเล่าให้ฟังแล้ว" แม่ชวนคุยเบาๆ ระหว่างขับรถ ให้บรรยากาศไม่ตึงเกินไป
"ก็น่าจะถึงมหาลัยเลยครับ ยังไม่แน่ใจเหมือนกันครับ..." เซนตอบแบบเกร็งๆ แต่ยังพยายามยิ้ม
"ไว้ปิดเทอมก็กลับมาเที่ยวเล่นบ้างนะ ไอกายมันจะได้ไม่เหงามัน"
"ได้ครับ ถ้าว่างจะลองขอพ่อดูนะครับ..." เซนยิ้มตอบแบบเริ่มผ่อนคลายขึ้นหน่อย มันบอกต่อว่าวันนี้พ่อมันไปธุระต่างจังหวัดยังไม่กลับเลยแอบออกมาตรวจกับผมได้แบบเนียนๆ...
ตอนไปถึงคลีนิค ระหว่างนั่งรอคิวผมนั่งมองรอบๆ คนมาตรวจเยอะพอสมควร มีแทบทุกเพศทุกวัย ทำให้เห็นว่าเดี๋ยวนี้มันเป็นเรื่องปกติ ไม่ใช่เรื่องน่าอายเท่าไหร่ละ
"มึงไม่ได้บอกแม่เรื่องรับงานใช่ป่ะ" เซนกระซิบถามตอนนั่งรอแม่ผมไปกรอกเอกสาร
"บอกก็งานหยาบดิ แม่กูอกแตกตายแน่"
"เออดี... แต่บอกว่าเอากับกูอ่ะนะ?" ไอเซนมองแรงใส่
"บอกดิ แต่ไม่ต้องกลัว เรื่องไม่ไปถึงหูพ่อมึงหรอก กูเคลียร์กับแม่กูละ" ผมพยายามพูดให้เซนสบายใจขึ้น
พอถึงคิวผมต้องเข้าไปเจาะเลือดกับซักประวัติก็โคตรตื่นเต้น แม่ต้องนั่งรอข้างนอก เพราะให้เข้าไปทีละคน หมอบอกว่าจะเก็บข้อมูลเป็นความลับให้ ผมเลยกล้าเล่าเรื่องที่โดนน้าเติ้ลล่วงเกินตอนเด็ก อดีตแฟนแม่ที่ตอนนั้นเขาไม่เคยใส่ถุงเลย... กับเซนตอนรู้จักกันใหม่ๆ ที่ยังไม่ได้ระวังป้องกันเท่าไหร่นัก...
"ถ้ากูเป็นเอดส์ มึงยังจะเป็นเพื่อนกูอยู่ป่ะ?" อยู่ดีๆ เซนก็ถามขึ้น ตอนเรานั่งรอผลตรวจด้วยกัน ดูท่ามันจะตื่นเต้นยิ่งกว่าผมอีก
"มึงจะเป็นโรคอะไรกูก็ยังเป็นเพื่อนมึงเหมือนเดิม ไม่ต้องห่วง" ผมพูดแล้วก็กุมมือมันไว้เบาๆ ให้ใจเย็นลง ไม่ต้องหลบ ไม่ต้องอายใครแล้ว มันยิ้มให้ผมแบบโล่งใจ แม่ผมเห็นเราจับมือกันก็ไม่ได้ว่าอะไรเลย
เมื่อถึงคิวต้องเข้าไปฟังผลตรวจกันทีละคน ไอ้เซนเข้าไปก่อน ตอนมันออกมาก็ดีใจใหญ่เลย ผลเลือดเป็นลบ ไม่เจออะไรทั้งนั้น
พอถึงตาผม มือไม้แม่งสั่น ขาก็แทบไม่มีแรง หมอทำหน้าจริงจังนิดๆ เหมือนจะดุ“ผลเลือดของหนู เป็นลบเหมือนเพื่อนนั่นแหละ แต่ยังเด็กกันทั้งคู่นะ ระวังตัวกันหน่อย ไม่ต้องรีบโตหรอก ถ้าเกิดติดขึ้นมา แม่จะเสียใจเอานะ” หมอบ่นยาว ผมได้แต่นั่งฟังเงียบๆ หน้าแม่งชาไปหมด อายก็อาย สุดท้ายก็พยักหน้าเบาๆ กับขอบคุณแกพอเป็นพิธี
ผมออกจากห้องปุ๊บ ก็รีบโผเข้าไปกอดแม่กับไอ้เซนแน่นๆ โล่งแบบโล่งสุดชีวิตเลย แล้วก็ไม่ลืมหยิบมือถือขึ้นมาทักแชทพี่พีทันทีเพื่อบอกผลตรวจ ขอบคุณเขายกใหญ่สำหรับทุกคำแนะนำ
ถือว่าโชคดีฉิบหายอะ จากที่ผ่านมามั่วไปก็เยอะแต่ยังรอดมาได้ ต่อจากนี้จะพยายามดูแลตัวเองให้มากขึ้น จะเห็นค่าของร่างกายตัวเองให้มากกว่านี้ละ...
เหลืออีกไม่กี่วันก็จะถึงวันที่เซนต้องย้ายไปญี่ปุ่นแล้ว รู้สึกใจหายชะมัด นอนคิดอะไรเพลินๆ อยู่ดีๆ ก็มีสายเข้า เป็นเบอร์เซนโทรมาเลยรีบรับอย่างไวแบบไม่ต้องคิด
"ฮัลโหล กาย พรุ่งนี้ไปไหนป่ะ?" เสียงปลายสายถามขึ้นมา
"ว่างอยู่ ทำไมอ่ะ?"
"พรุ่งนี้มาค้างบ้านกูหน่อยดิ มาช่วยกูเก็บของด้วย เบิกค่าโดเนทได้ละ เดี๋ยวยกให้มึงหมดเลยเป็นค่าจ้าง"
"ไม่ต้องจ้างกูก็ไปเว้ย อยู่บ้านโคตรเบื่อ" จริงๆ ในใจคือ...คิดถึงมันแหละ อยากใช้เวลากับเซนให้เต็มที่ก่อนมันจะไป"แล้วจะยกให้หมดทำไมวะ ไหนตอนแรกตกลงกันว่าแบ่ง 80% ไง?"
"มึงเอาไปเหอะ เก็บไว้ใช้ตอนจำเป็นก็ได้ กูไปอยู่นู่นก็คงไม่ได้ใช้ไรละ"
"งั้นก็แล้วแต่มึง ขอบใจเว้ยเซน"
"เออๆ สรุปมานะ จะได้บอกพ่อกูไว้ เขาบอกอยากเจอมึงด้วย"
"หะ! อยากเจอทำไมวะ มึงไปเล่าไรให้พ่อมึงฟังอีก?" ผมถามแบบงงๆ เริ่มกลัวๆ ไม่ค่อยกล้าไปละ
"เหอะหน่า... มาเหอะ เดี๋ยวก็รู้ พรุ่งนี้เจอกัน บาย..." แล้วไอเซนก็ตัดสายทันที แทบไม่รอฟังคำตอบผมเลย
ตอนนั้นทั้งอึ้ง ทั้งตื่นเต้น มันเคยบอกว่าพ่อดุด้วย แต่ก็แอบดีใจที่ได้ไปนอนกับมันอีกครั้ง เหมือนผมก็ยังทำใจไม่ได้เลยจริงๆ ยังอยากใกล้ชิดกับมันอยู่เลย...
ผมไปถึงบ้านมันช่วงเย็นพอดี ได้เจอพ่อเซนครั้งแรก แกเป็นผู้ชายมีอายุหน่อย หน้าตาดูออกว่าเป็นลูกครึ่งญี่ปุ่น แต่พูดไทยชัดแจ๋ว ก็ไม่ได้ดูดุอย่างที่คิดเลย ออกจะดูใจดีด้วยซ้ำ
ไปถึงก็ช่วงมื้อเย็นพอดี เลยได้นั่งกินข้าวด้วยกันทั้งโต๊ะกับเซนและพ่อ บรรยากาศแม่งโคตรเกร็ง ผมนั่งตัวแข็งเลย
"เอ็งเป็นเพื่อนสนิทไอเซนใช่มั้ย เห็นมันเล่าให้อาฟังอยู่ว่าเอ็งเรียนเก่งด้วย" พ่อเซนถามขึ้นมาระหว่างกินข้าว
"อ๋อ ใช่ครับผม ก็ชอบอะไรคล้ายๆ กันเลยเข้ากันได้ง่ายครับ" ผมตอบพยายามให้ปกติที่สุด ทั้งที่ในใจแม่งเต้นรัวเป็นกลองชุด
"อ๋อ ดีละ นานๆ ทีจะเห็นมันคบเพื่อนดีๆ บ้าง จะได้พากันเรียน ไม่ใช่พากันไปมั่วสุม" พอพ่อเซนพูดจบผมนี่เหงื่อตก รีบหันมองหน้ามันแวบนึง ถ้าแกไปรู้เรื่องเราสองคนไปรับงานด้วยกันนะ คือตายห่าทั้งคู่แน่
"ครับ ผมก็คอยเตือนมันเรื่องบุหรี่อยู่ครับ" ผมตอบส่งๆ ไปก่อน โยงไปเรื่องปลอดภัยไว้ก่อนละกัน
"ใช่ป๊า หนูเลิกถาวรแล้วจริงๆ รอบนี้" เซนเสริมขึ้น ทำเอาผมเกือบหลุดขำที่มันเรียกตัวเองว่า หนู เวลาคุยกับพ่อ
"ทำให้ได้จริงเหอะ คราวก่อนก็พูดแบบนี้แหละ เอ็งก็คอยดูเซนให้อาด้วย เตือนมันเยอะๆ เลย" พ่อหันมาพูดกับผมด้วยน้ำเสียงใจดี หลังจากบ่นลูกตัวเองเสร็จ
"ได้เลยครับพ่อเซน" ผมยิ้มตอบแบบโล่งอกในใจ
"ว่าแต่... เอ็งเคยไปเที่ยวญี่ปุ่นบ้างยัง?"
"ยังไม่เคยเลยครับ..."
"ไปมั้ยล่ะสักอาทิตย์นึง? ไปส่งไอเซนมันด้วย"
ผมหันไปมองเซนแบบงงๆ ไม่คิดว่าพ่อมันจะชวนผมไปด้วยแบบไม่ทันตั้งตัว แล้วเซนก็ดันพยักหน้าแรงๆ ใส่เหมือนจะบอกว่า ...เออ ตอบตกลงเหอะ
"ไปนะกาย ญี่ปุ่นสวยนะเว้ย ช่วงนี้อากาศกำลังดีเลย" เซนดูดีใจเวอร์เกิน ผมเห็นแล้วก็แอบยิ้ม
"เดี๋ยวต้องลองขอแม่ดูก่อนครับ..."
"ได้ ลองถามแม่เอ็งดู บอกว่าไม่ต้องเสียอะไรเลย ค่ากินค่าเดินทางอาออกให้หมด"
"ไม่เป็นไรครับพ่อเซน ผมเกรงใจ ขอออกเองดีกว่า พอมีเงินเก็บอยู่ครับ" ผมหันไปมองเซนในจังหวะนั้นพอดี จริงๆ ก็หมายถึงเงินโดเนทที่มันให้มานั่นแหละ
"ได้ งั้นก็ตามที่เอ็งสบายใจเลย" พ่อเซนยิ้ม แล้วก็ตักข้าวกินกันต่อ บรรยากาศบนโต๊ะก็เริ่มผ่อนคลายขึ้น...
"พ่อมึงก็ใจดีออก ไม่เห็นดุเหมือนที่มึงเล่าเลย" ผมบอกมันตอนอยู่บนห้องนอน กำลังนั่งแพ็คของเตรียมย้ายอยู่กลางห้องด้วยกัน
"ดุเฉพาะกับลูกอ่ะดิ กับคนอื่นก็ทำตัวแบบนี้แหละ"
ในระหว่างกำลังนั่งจัดของอยู่ ตาผมเหลือบไปเจอรูปถ่ายมันตอนเด็ก ตัวขาวๆ ท้วมๆ หน้าตาน่ารักจัด พอโตมาแล้วอย่างกับคนละคน"ตอนเด็กมึงน่ารักเกิน ไม่น่าโตเลยไอสัส 555"
"ทำไมวะ โตแล้วไม่น่ารักเหรอ?"
"เออ โตแล้วหน้าโคตรกวนตีน 555"
"กวนตีนใช่มั้ย เดี๋ยวมึงโดนแน่ 555"เซนโดดมาจั๊กจี้ผม จนผมหัวเราะจนตัวงอ ดิ้นลงไปนอนกับพื้นแทบขาดใจ มันก็หยุดมือ เรานอนข้างกันแล้วดันมีจังหวะจ้องตากันเงียบๆ อย่างกับฉากในละครไทย…
"กูคิดถึงมึงว่ะ..." เซนพูดพร้อมจับผมดูดปากทันที ผมแลกลิ้นรัวกับมันอยู่บนพื้นห้องกันแบบอดอยาก อัดอั้นไม่ได้จูบมันมาหลายวัน
ตอนแรกกะทำใจได้แล้วที่จะไม่ได้อยู่ใกล้ชิดมัน แต่พอเอาเข้าจริงผมก็ขาดมันไม่ได้เหมือนกัน รสจูบของเซนทั้งอบอุ่น นุ่มหวานละมุน ไม่รู้จะมีจูบไหนสู้มันได้อีกมั้ย
เซนอุ้มผมขึ้นไปบนเตียง จับผมถอดเสื้อพร้อมกับถอดของตัวเองโยนลงบนพื้น
"กูขอนะ... ตามที่ตกลงกัน..." เซนทำเสียงหื่นกระหายจริงจัง เหมือนโดนด้านมืดครอบงำ ผิดกับตอนมะกี้ที่ยังร่าเริงอยู่เลย
"พ่อมึงจะขึ้นมาห้องมั้ย? อย่าดังนะกูกลัว" ผมกระซิบตอบมันเบาๆ แบบไม่ปฏิเสธ
"ไม่มีใครขึ้นมาหรอก เชื่อกูนะ..." เซนพูดละก้มจูบผมต่อแบบละมุนขึ้นกว่าตอนแรก ดึงแว่นผมออกวางไว้บนหัวเตียง มือเลื่อนปลดเชือกกางเกงขาสั้นของผม ตามด้วยของตัวเอง ผมก็ช่วยมันถอดเพราะรู้ว่ามันคงทนไม่ไหวแล้วจริงๆ
ตอนนี้เราแก้ผ้ากันหมดทั้งคู่ ผมจับมันให้นอนหงายไปกับเตียง ไล่สำรวจดมและเลียชิมทุกส่วนของร่างกายมัน ตั้งแต่ใบหน้า ซอกหู คอ ไหล่ หน้าท้อง จนตอนนี้สลับหัวอยู่ในท่า 69 ที่ผมชอบ
เซนจับผมแหวกตวัดลิ้นดูดเลียรอบรูให้ผมทันที จนผมเสียวแทบทนไม่ได้กระดกก้นหนีลิ้นมัน ทำเอามันต้องใช้มือจับก้นผมให้กดลงมาทับใส่ปากมันไม่ให้ขยับหนีไปไหน
"อ่าาา...ซี้ดดด..." ผมก็ไม่รอช้าจับท่อนเอ็นแข็งๆ ของมันครอบปากอมเข้าไปให้มันจนมิดด้าม ดูดสลับเลียรอบๆ จนชุ่มไปด้วยน้ำลายของผม มือก็เขี่ยถูบี้แถวไข่นุ่มๆ น่ารักสองลูกของมันไปด้วย
"อืมมม...อ่าา...ปากกับมือมึงนุ่มจัง...ซี้ดดด..." เซนเปลี่ยนเป้าหมายจากรูผมเลื่อนปากมาบดขยี้ไข่เล็กๆ สองข้างของผมเหมือนกัน มือมันก็รูดท่อนลำชักว่าวให้ผมไปด้วย ทำท่าอย่างกับรีดนมวัว
"อื้มมม...เสียวว...ไม่ไหว...ไม่ไหวแล้ว..." ผมต้องกลั้นครางแบบเบาๆ กลัวเสียงจะลอดออกไปจากห้อง แต่ยิ่งกลั้นกลับยิ่งทนไม่ไหว ก้มดูเห็นเซนเลียลิ้นตรงร่องระหว่างไข่สองข้างรัวๆ จนไข่เล็กๆ เด้งแกว่งไปมา มือเร่งชักรูดปลายหัวของผมเร็วมากจนมันแทบละลายหมดแล้ว
ผมปล่อยน้ำพุ่งแตกออกมาเป็นคนแรก ราดน้ำขาวขุ่นรดเต็มมือไหลหยดลงบนหน้าอกของมัน ทำเอาผมเหนื่อยหอบจนหมดแรงฟุบลงบนไข่นิ่มๆ ของเซน...
"กูรอวันนี้มานานละ..." เซนพูดพร้อมกวาดเอาน้ำว่าวอุ่นๆ ที่เพิ่งออกมาจากตัวผม เอามาป้ายถูๆ ยัดกลับเข้าไปอีกรูจนเปียกลื่นอย่างที่เคยทำประจำ มันจับขยับตัวผมเลื่อนให้ไปนั่งหันหลังจ่ออยู่บนควยขนาด 5 นิ้วที่แข็งตั้งรออยู่แล้ว
คราวนี้มันได้ดันท่อนเอ็นอุ่นๆ สอดเข้ามาสดๆ แบบที่มันได้หวังไว้ ไม่ได้สัมผัสนานหลังจากเล่นกันแบบใส่ถุงมาหลายครั้ง
"ซี้ดด...อ่าา...แน่นดีจังง...อุ่นมาก..." มันยังคงนอนหงายค่อยๆ จับเอวผมให้โยกนั่งขึ้นลงบนควยมันอย่างช้าๆ รู้สึกถึงน้ำว่าวของตัวเองที่ถูกยัดเข้ามาไหลชโลมรอบแท่งของเซน จนมันลื่นช่วยให้ซอยเข้าออกได้ง่ายขึ้น
"อืมมม....อื้มมม...อ้ะ...อ่าาา..." ผมพยายามเกร็งไม่ให้ครางออกมา แต่มันเสียวจนทนไม่ไหวจริงๆ เคลิ้มจนต้องนั่งช่วยมันขย่มตามจังหวะเอวไปด้วย
"อ้าา...ชอบมาก...ดีมากกาย...ซี้ดด..." เซนเริ่มครางชื่อผม จับแขนสองข้างผมแน่น พยายามเร่งจังหวะรับแรงขย่ม กระแทกเอวใส่ผมไวและแรงยิ่งขึ้น
เราเอากันอยู่บนเตียงประจำ ในห้องนอนของมัน เป็นท่านั่งแบบผมหันหลังให้ ขณะมันนอนหงายแอ่นเอวกระเด้าตูดผมอย่างเมามัน เป็นท่าที่โคตรเสียว ไม่จุกมากเพราะเหมือนได้คุมจังหวะด้วยตัวเอง เมื่อยขาบ้างนิดหน่อยเพราะมันเกร็งจนเสียวไปหมดแล้วตอนนี้
"กาย...กูจะแตกแล้วกาย...อ่าา...ซี้ดดด..."
"แตกเลยเซน...ซี้ดดด...แตกใส่กูเลย...อื้มม..." ผมเอามือจับต้นขามัน เร่งขย่มควยให้มันแบบสุดๆ มันจับเอวผมแน่นกระแทกเต็มแรงปล่อยน้ำว่าวอุ่นๆ แตกเต็มรูผมจนรู้สึกเหมือนมันค่อยๆ ทะลักไหลออกมาทีละนิด...
เซนค่อยๆ ยกตัวผมให้ลุกออกจากแท่งของมัน และจับตัวผมพามานอนกอดหงายทับลงบนตัวอุ่นๆ ของมันที่นอนหายใจเหนื่อยหอบอยู่ไม่แพ้กัน...
"กูโคตรชอบมึงเลยว่ะ... เราต้องเลิกกันจริงๆ เหรอวะกาย?" เซนพูดพลางก้มลงมาดมที่หัวผมเบาๆ
"เดี๋ยวไปอยู่นู่นมึงก็หาได้ดีกว่ากูอยู่ละ เด็กญี่ปุ่นน่ารักเยอะแยะไปหมด"
"แต่ใครจะน่ารักเท่ามึงได้วะ?" มันหอมแก้มผมอีกที ยิ่งทำให้ผมใจอ่อน แต่ยังไงก็ต้องพยายามใจแข็งไว้ก่อน ไม่อยากไปเจ็บทีหลัง กลัวจะเจ็บกว่าตอนนี้อีก
"มึงลองคิดตามกูนะ... ถ้าเราอยู่ห่างกันนานๆ แล้วมึงเงี่ยนขึ้นมาจะทำไง? เราต่างรู้นิสัยกันดีอยู่แล้ว คงไม่มานั่งชักว่าวรอเจอกันเป็นปีๆ หรอก กูพูดถูกป่ะ?" ผมหันไปพูดกับมันตรงๆ แบบไม่อ้อมค้อม
"แต่กว่ากูจะเจอคนที่ถูกใจแบบมึงได้ ไม่ใช่ง่ายๆ เลยนะเว้ย..." เสียงเซนเริ่มสั่น เหมือนจะร้องไห้ออกมา
"กูเข้าใจนะ... ตอนแรกกูก็คิดเหมือนมึงแหละเซน" ผมพูดพร้อมกุมมือมันไว้ "แต่มึงเชื่อกูนะ เป็นเพื่อนกันไปก่อนมันดีกว่าในตอนนี้... ถ้าโตขึ้น แล้วเรายังรู้สึกเหมือนเดิม ค่อยจริงจังกันตอนนั้นก็ยังไม่สายนะเว้ย"
"...อืม งั้นเป็นเพื่อนก็ได้"เซนพยักหน้าช้าๆ แล้วแอบปาดน้ำตาทิ้งเงียบๆ
"เห้ย... แค่นี้ร้องไห้เหรอวะ เดี๋ยวไม่ให้เย็ดอีกนะเว้ย" ผมแกล้งแซวมัน หวังให้มันอารมณ์ดีขึ้นหน่อย
"อืม... ไม่เย็ดก็ได้" เซนยังพูดด้วยน้ำเสียงซึมๆ เหมือนเดิม
"ไอสัด จะมางอนทำเชี่ยอะไรตอนนี้" ผมหัวเราะเบาๆ ก่อนจะลุกขึ้นไปคว้าผ้าขนหนูมานุ่ง "ลุกไปอาบน้ำได้ละ น้ำว่าวเต็มตัวมึงไปหมดแล้วเนี่ย..."
ผมเอื้อมมือไปดึงมันให้ลุกขึ้นมา ก่อนจะพามันเดินไปอาบน้ำแช่อ่างด้วยกันเหมือนเดิม...
เซนยังดูซึมไม่เลิก ผมเลยถูตัวให้มันแถวอกกับหน้าท้อง ไล่ไปจนถึงบ่านวดเบาๆ อยากให้มันผ่อนคลายหน่อย จนมันหลับตาพริ้ม เหมือนจะเคลิ้มนิดๆ
"เดี๋ยวอาบเสร็จจะไปเก็บของห้องมึงต่อมั้ย?"
"ไว้พรุ่งนี้เหอะ กูง่วงละ..." เซนตอบเสียงเบาๆ
"งั้นรีบอาบ รีบไปนอนดิ... มัวแต่นั่งซึมอยู่นั่นแหละ" ผมว่า พลางเอาน้ำลูบหน้ามันเบาๆ มันก็ยังทำหน้าบึ้งอยู่เลย ผมเลยอยากชวนมันคุยให้กลับมาอารมณ์ดี"วันก่อนใครไม่รู้นะ บอกอยากลองเอากันในอ่างน้ำ ยังอยากอยู่เปล่าน้า~"
"เนี่ย... มึงทำตัวงี้ แล้วจะให้กูตัดใจยังไงวะ" เซนพูดแบบจริงจัง น้ำตาก็เริ่มคลออยู่ในเบ้าอีกรอบ
"กูไม่ได้จะให้ตัดใจเว้ย แค่ให้เป็นเพื่อนกันก่อน แค่นี้อย่าดราม่าดิ..." ผมพูดพลางเอานิ้วปาดน้ำตาให้มันเบาๆ "สรุปจะเอาป่ะเนี่ย ลีลาอยู่ได้ เดี๋ยวอดนะมึง"
"ก็ได้... มาดิ" เซนดึงตัวผมเข้าไปชิด มันจ้องหน้าผมอยู่พักนึง ก่อนจะถามขึ้น"เป็นเพื่อนกัน... ยังจูบกันได้อยู่ใช่ปะ?"
"ได้ดิ ก็เหมือนเดิมนั่นแหละ" ผมพูดจบก็โน้มหน้าไปจูบปากมันทันที หวังให้มันใจเย็นลง บิ้วอารมณ์เพิ่มให้มันต่อ
แต่กลับตรงกันข้ามเลย เซนแม่งน้ำตาไหลหนักกว่าเดิม ไหลอาบแก้มไม่หยุดคาจูบผมเลย สรุปแผนรอบนี้ก็ล่มไม่เป็นท่า ต่างคนต่างอารมณ์หดกันหมด
"กูเคยบอกแล้วว่ากูจริงจังนะเว้ย ฮือๆๆ... มึงพูดเหมือนแม่งจะทำได้ง่ายๆ อะ" มันปล่อยโฮฟูมฟายหนักจัด จนผมต้องดึงมันขึ้นมาช่วยเช็ดตัว ใส่ชุดนอนแล้วพาไปนอนให้สงบสติอารมณ์ก่อน
เพราะจะพูดอะไรก็คงไม่เข้าหัวมันแล้วล่ะคืนนี้... ทำได้แค่นอนกอดมันไว้เฉยๆ ปล่อยให้มันร้องให้พอใจ แล้วค่อยว่ากันต่อพรุ่งนี้ละกัน
เรากอดกันแน่น แต่ทำไมแม่งรู้สึกแปลกๆ ไม่เหมือนเดิมเท่าไหร่ หรือเพราะเราสองคนต่างก็รู้ว่า... ความใกล้ชิดแบบนี้ มันจะอยู่ได้อีกไม่นานแล้ว
อยากหยุดเวลาตรงนี้ไว้จริงๆ ก็ได้แต่กอดมันไว้ให้แน่นที่สุด เท่าที่เพื่อนคนนึงจะกอดเพื่อนได้แหละ........อ่านตอนต่อไป>> ตอน 17 - ลืมอดีตแล้วเริ่มต้นใหม่ << ขอบคุณครับ. ขอบคุณครับ ขอบคุณคับ ขอขอบคุณ ขอบคุณครับ. สนุกมากครับ เปิดเรื่องมาน้ำตาซึมของแทร่ อยากให้ลงซัก10ตอนต่อวัน น้ำตาปนรอยยิ้ม ขออินไปกับตัวละครชื่อเซนผู้ไม่อาจซ่อนความเข้มแข็งไว้ในร่างเด็กชายกวนๆเมื่อเขาตกหลุมรักเพื่อนสนิท มาดูกันว่าเขาทั้งสองจะประคับประคองความรักนี้ไปได้อย่างไร ขอบคุณครับ คงเป็นเรื่องยากที่หากได้อยู่ห่างไกลกันจริง ๆและด้วยอายุเพียงเท่านี้ถ้าจะให้จบแบบใจฟูหวนกลับมาเจอกันอีกครั้งในช่วงอายุที่มากขึ้นชะตาฟ้าต้องลิขิตมาแล้วล่ะครับ ถึงจะมีโอกาสน้อยแต่ในชีวิตจริงก็ยังพอมีให้เห็นบ้างนะครับ ขอบคุณมากๆนะครับสนุกมากรอติดตามตอนต่อไป ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ ขอบคุณนะครับ รอติดตามนะ เขียนดีมากๆ ครับ ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ. ขอบคุณครับ
หน้า:
[1]
2