ช่วยผมด้วย..ผมโดนมาเฟียรุมข่มขืน!? Chapter 9
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย NOOFONG เมื่อ 2025-5-20 14:55Chapter 9แมวขโมย
11:00 PM
| เดอะ วอกซ์ฮอลล์ แกรนด์ โฮเทล (The Vauxhall Grand Hotel)
เสียงกระซิบกระซาบแว่วมาเป็นระยะ เมื่อแขกคนสำคัญทยอยเข้ามาทักทาย ผู้คนที่ผ่านไปมาต่างหยุดมอง กลุ่มชายหนุ่มในชุดสูทที่ยืนอยู่ด้วยกันราวกับศูนย์กลางของอำนาจในค่ำคืนนี้ พวกเขาไม่ได้ตั้งใจเป็นจุดสนใจ แต่กลับหลีกเลี่ยงไม่ได้
เรนเอนตัวพิงเสาด้านหนึ่ง ควงแก้วไวน์ในมืออย่างไม่รีบร้อน สายตาจับจ้องบรรยากาศรอบตัวราวกับเป็นเพียงผู้ชมที่รอให้ละครบนเวทีเริ่มขึ้น
แคสเปอร์พิงเคาน์เตอร์บาร์ ยกแชมเปญขึ้นจิบสายตาเหลือบไปทางแขกคนหนึ่งที่เข้ามาใกล้ พร้อมรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยนัยบางอย่าง เสี่ยวไป๋ยืนกอดอกอยู่ข้าง ๆ สายตาคมหรี่ลงนิด ๆ คล้ายกำลังประเมินสถานการณ์โดยรอบ
แขกหลายคนแวะเวียนเข้ามาทักทาย ด้วยท่าทีที่ระมัดระวัง บางคนพูดเพียงไม่กี่ประโยคก็รีบหลบออกไป บ้างก็ค้อมศีรษะให้เล็กน้อย เป็นเชิงให้เกียรติ ก่อนจะรีบเดินจากไป
"คืนนี้ดูเป็นงานที่น่าสนใจนะ"
เสียงของชายคนหนึ่งดังขึ้น เจ้าของผมสีเทาอ่อน ในชุดสูทสีเข้มเดินเข้ามาใกล้ ก่อนจะยกแก้วไวน์ขึ้นจิบ แววตาเปี่ยมด้วยความมั่นใจที่ไม่ใช่ทุกคนจะมีเมื่ออยู่ต่อหน้าพวกเขา
“ไม่คิดว่าจะเจอนายที่นี่” เสี่ยวไป๋เอ่ยขึ้น น้ำเสียงราบเรียบแต่แฝงความสนใจ
"ฉันเองก็ไม่คิดว่าจะได้เห็นพวกนายมารวมตัวกันในงานแบบนี้" ชายคนนั้นตอบกลับพร้อมรอยยิ้ม ก่อนจะเบนสายตามองไปทางราฟาเอโร่ “โดยเฉพาะคุณ”
แคสเปอร์หัวเราะในลำคอ “ก็ถือว่าเป็นค่ำคืนที่พิเศษละกัน”
การสนทนาดำเนินไปอย่างเป็นธรรมชาติ แต่ทุกคำพูดล้วนเต็มไปด้วยนัยยะซ่อนเร้น ในงานเลี้ยงระดับนี้ ไม่มีใครพูดกันอย่างตรงไปตรงมา ทุกคำล้วนมีความหมาย ทุกท่าทางล้วนเป็นการต่อรอง
ไม่นานนัก ก็มีอีกคนเดินเข้ามาทักทาย 'เจ้าของธุรกิจเครือข่ายสื่อที่มีอำนาจครอบคลุมไปทั่วทั้งยุโรป'
"ถือเป็นเกียรติมากที่ได้เจอพวกคุณในงานนี้" เขากล่าวก่อนจะยื่นมือไปจับกับแคสเปอร์ที่รับไว้เพียงแผ่วเบา
"แน่นอน" แคสเปอร์ตอบรับ "ฉันเองก็คาดหวังว่างานนี้จะมีอะไรที่น่าสนใจ"
เจ้าของธุรกิจสื่อหัวเราะเบา ๆ “พวกคุณก็น่าสนใจพออยู่แล้ว”
พวกเขาคุยกันไปเรื่อย ๆ การสนทนาส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับอิทธิพล ธุรกิจ และข้อตกลงต่าง ๆ ที่อยู่เบื้องหลังฉาก
เรนแม้จะไม่ได้ใส่ใจเรื่องพวกนี้มากนัก แต่ก็ยืนฟังอยู่เงียบ ๆ มือหมุนแก้วไวน์ไปมา ราวกับกำลังใช้ความคิดกับอะไรบางอย่าง
ในช่วงเวลาหนึ่ง คนที่แวะเวียนเข้ามาทักทายส่วนใหญ่เป็นพวกที่อยู่ใต้อำนาจของพวกเขา ไม่ว่าจะโดยตรงหรือโดยอ้อม แต่มีบางคนที่เข้ามาพูดคุยด้วยจุดประสงค์ที่ต่างออกไป
นักธุรกิจใหญ่จากฮ่องกง นักการเมืองจากยุโรป นักค้าอาวุธจากตะวันออกกลาง ทุกคนล้วนเป็นส่วนหนึ่งของเครือข่ายอำนาจ
แต่แล้ว บทสนทนาที่ดำเนินไปอย่างราบรื่นก็ถูกแทรกด้วยเสียงที่เรียกความสนใจ
“ว่าแต่… คุณราฟาเอโร่ นี่เป็นครั้งแรกเลยนะที่คุณให้เกียรติออกงานแบบนี้”
น้ำเสียงที่ดังขึ้นจากฝูงชนทำให้การสนทนาในกลุ่มหยุดลงครู่หนึ่ง แววตาของหลายคนหันไปมองยังต้นเสียง ใบหน้าภายใต้หน้ากากของชายหนุ่มคนนั้นเปื้อนรอยยิ้มบาง ท่าทีผ่อนคลายอย่างคนที่ไม่รู้ตัวว่ากำลังก้าวเข้าสู่แดนอันตราย
ทว่าบรรยากาศรอบตัวกลับเปลี่ยนไปอย่างแนบเนียน บางคนชะงักไปเล็กน้อย บางคนทำเพียงจิบเครื่องดื่มในมือ แต่กลับไม่พูดอะไร
แคสเปอร์ปรายตามองผ่านขอบแก้ว เสี่ยวไป๋กอดอกแน่นกว่าเดิม ส่วนเรนเพียงกระตุกยิ้มบาง ๆ ก่อนจะเหลือบมองบุคคลที่ถูกพาดพิง
ความเงียบโรยตัวลงมาครู่หนึ่ง แม้เสียงดนตรีจากวงออเคสตร้ายังคงบรรเลง แต่บรรยากาศโดยรอบกลับเย็นเฉียบขึ้นอย่างไม่ทราบสาเหตุ
ชายหนุ่มที่เพิ่งเอ่ยปากทักราฟาเอโร่ยังไม่รู้ตัว เขายังคงยิ้มราวกับว่าตัวเองกำลังเป็นศูนย์กลางของการสนทนา เสียงหัวเราะเบา ๆ ดังลอดออกมา ก่อนจะกล่าวต่อไปด้วยน้ำเสียงกลั้วขำ
"ผมเคยได้ยินข่าวลือว่า คุณเป็นคนที่ไม่ค่อยชอบออกงานสังคม… หรือว่าอายุเยอะขึ้นเลยเปลี่ยนใจ?"
เงียบกริบ…
เสียงพูดคุยที่เคยจอแจของแขกภายในงานหยุดลงทันที ราวกับทุกคนพร้อมใจกันกลั้นหายใจ บางคนเบือนหน้าหนีอย่างแนบเนียน บางคนถอยห่างออกไปราวกับไม่ต้องการเข้าไปเกี่ยวข้อง
เรนที่กำลังเอนตัวพิงเสา หยุดมือที่ควงแก้วไวน์ทันที รอยยิ้มที่มักติดอยู่บนใบหน้าเลือนหายไป
แคสเปอร์เปลี่ยนจากการจิบแชมเปญเป็นกระดกจนหมดแก้ว ก่อนจะวางแก้วเปล่าลงบนถาดของพนักงานเสิร์ฟที่ผ่านมาพอดี ขณะที่เสี่ยวไป๋เพียงแค่หรี่ตามอง คล้ายกำลังพิจารณาโอกาสรอดของชายผู้โชคร้ายคนนั้น
ราฟาเอโร่ยังคงเงียบสนิท ไม่ได้แสดงท่าทีใดเป็นพิเศษ นอกจากหันใบหน้าภายใต้หน้ากากไปมองต้นเสียงเพียงเสี้ยววินาที ดวงตาสีฟ้าคมกริบหรี่ลงเล็กน้อย เหมือนพิจารณาเศษฝุ่นที่เผลอปลิวมาติดเสื้อสูทของตัวเอง
เรนสบตากับราฟาเอโร่เพียงชั่วครู่ และนั่นก็เพียงพอให้เขาเข้าใจโดยไม่ต้องใช้คำพูด
ดวงตาสีน้ำตาลเข้มของเขาฉายแววขบขันเล็กน้อย ก่อนจะถอนหายใจ พวกมันไม่เคยเรียนรู้เลยจริง ๆ
มือแกร่งของเรนปลดกระดุมสูทช้า ๆ อย่างใจเย็น ราวกับกำลังปรับความสะดวกของตัวเองก่อนลงมือ เขาก้าวเข้าไปใกล้… ยกแก้วไวน์ขึ้นจิบ แต่สายตาไม่ได้ละจากเป้าหมายเลยแม้แต่นิดเดียว
“คุณรู้ไหม” เสียงทุ้มต่ำของเรนดังขึ้น น้ำเสียงราบเรียบ… แต่แฝงไปด้วยอะไรบางอย่างที่ทำให้ชายคนนั้นเผลอขยับถอยหลัง “คุณควรจะหัดอ่านบรรยากาศให้ดีกว่านี้”
“ผะ…ผมหมายถึงแค่ล้อเล่น”
เรนยิ้มบาง ๆ ก่อนจะเอียงคอเล็กน้อย
“งั้นเหรอ? แต่ฉันไม่ขำนะ” เสียงของเรนยังคงเหมือนเดิม แต่แววตาภายใต้หน้ากากกลับเต็มไปด้วยความเย็นชา “นายนี่กล้ามากนะ…”
มือเรียวตวัดเข้าจับข้อมือของอีกฝ่าย ก่อนที่แรงกดมหาศาลจะกระชากเข้าสู่ฝ่ามือ เรนออกแรงบีบแน่นขึ้นทุกวินาที ความเจ็บปวดแผ่ซ่านไปทั่วร่างของเหยื่อในชั่วพริบตา
"อึก...!?"
ดวงตาของชายคนนั้นเบิกกว้าง ใบหน้าซีดเผือดอย่างเห็นได้ชัด นิ้วมือสั่นระริก พยายามดึงมือออกจากการเกาะกุมของปีศาจตรงหน้า แต่กลับขยับไม่ได้แม้แต่น้อย
เสียงกระดูกลั่น "กร๊อบ" ดังขึ้นท่ามกลางบรรยากาศอันเงียบงันของงานเลี้ยง
เสียงเพียงแค่นั้นก็มากพอจะทำให้แขกหลายคนสะดุ้ง แต่ก็ไม่มีใครเอ่ยคำใดออกมา มีเพียงเสียงไวโอลินที่ยังคงบรรเลงต่อไป กลืนกินเสียงครางด้วยความเจ็บปวดให้กลายเป็นเพียงเสียงกระซิบที่ไม่มีใครใส่ใจ
"น่าขำจริง ๆ" เรนพึมพำ ดวงตาฉายแววดูแคลน "คนบางคนแม่งก็โง่จนน่าสงสาร"
ชายคนนั้นพยายามกลั้นเสียงกรีดร้อง น้ำตาคลอหน่วย ดวงตาสั่นไหวเต็มไปด้วยความหวาดกลัวอย่างถึงขีดสุด
"เงียบหน่อยสิ"
เรนโน้มตัวเข้าไปกระซิบใกล้ใบหู น้ำเสียงคล้ายกำลังกระซิบกระซาบหยอกล้อ แต่กลับเย็นเยียบจนชวนขนลุก
"นายทำให้แขกคนอื่นรำคาญหมดแล้ว"
เขาออกแรงอีกนิด ก่อนจะปล่อยมืออย่างไม่ใยดี ร่างของชายคนนั้นทรุดลงกับพื้น มือของเขาบิดเบี้ยวผิดรูป ใบหน้าซีดเผือดเหงื่อแตกพลั่กด้วยความเจ็บปวด
ในขณะที่ทุกอย่างกำลังเกิดขึ้น ราฟาเอโร่ไม่ได้แม้แต่จะปรายตามอง เขายังคงจิบไวน์อย่างสง่างาม ราวกับว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ได้เกี่ยวข้องกับเขาเลยแม้แต่นิดเดียว
เสี่ยวไป๋กับแคสเปอร์มองภาพตรงหน้าอย่างเฉยชา นี่เป็นเพียงเรื่องปกติในโลกของพวกเขา
กายถอนหายใจเบา ๆ เขาไม่แปลกใจเลยที่เรื่องจะจบแบบนี้
ส่วนเรน… ชายหนุ่มเพียงแค่ปรับปกเสื้อ สูดลมหายใจลึก ก่อนจะยิ้มอย่างพึงพอใจ ราวกับว่าเขาเพิ่งได้รับความบันเทิงจากการจัดการปัญหาเล็ก ๆ น้อย ๆ
—
ท้องฟ้ายามค่ำคืนในลอนดอนปกคลุมด้วยม่านเมฆสีเข้ม แสงไฟจากตึกสูงตัดกับเงามืดที่ทอดยาวไปทั่วถนน ราฟาเอโร่นั่งอยู่ในสำนักงานของตัวเองที่ชั้นบนสุดของตึกสูง มองออกไปนอกหน้าต่างกระจกบานใหญ่ วิวเมืองที่ส่องประกายระยิบระยับเหมือนเฝ้ามองเขาเงียบ ๆ
เขาปรายตามองจอภาพที่ถูกแบ่งออกเป็นห้าส่วน การประชุมทางไกลที่มีเพียงกลุ่มของพวกเขาเท่านั้นที่เข้าร่วม ครั้งนี้บรรยากาศในสายไม่ได้เคร่งเครียดเหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา แต่กลับเต็มไปด้วยบทสนทนาไร้สาระที่ดูผ่อนคลาย
"วันนี้เป็นไงบ้าง?" เสียงทุ้มของกายเอ่ยขึ้นเป็นคนแรก น้ำเสียงของเขาเรียบง่าย ไม่เร่งรีบ
"ไม่แย่" แคสเปอร์ว่าขณะเอนกายพิงโซฟา ใบหน้าอิดโรยเล็กน้อย "เจอพวกนักลงทุนหน้าใหม่ที่อยากเข้ามาเล่นในตลาดอสังหาของฉัน โคตรน่าเบื่อ"
"อย่างน้อยพวกเขาก็ยังอยากคุยกับนาย" เสี่ยวไป๋แทรกขึ้นมาพร้อมรอยยิ้มขบขัน "วันนี้ฉันเจอแต่พวกขี้โกงที่อยากได้ส่วนแบ่งในตลาดค้าของเถื่อนในเซี่ยงไฮ้ ข้อเสนอแต่ละอย่างนี่ไม่รู้ว่าควรขำหรือโมโหดี"
"ส่วนฉันน่ะเหรอ? มีไอ้เวรที่ไหนไม่รู้มากวนประสาท ฉันเลยจัดการเป่ากบาลมันไปละ น่าหงุดหงิดชะมัด" เรนว่าขึ้นมาลอย ๆ เหมือนเพิ่งจะผ่านเหตุการณ์นั้นมาได้ไม่นาน สีหน้าของเขายังคงดูพอใจในสิ่งที่ทำ
"นายก็เอาแต่ใจเหมือนเดิม" แคสเปอร์ถอนหายใจพลางส่ายหน้าเล็กน้อย แต่ก็รู้นิสัยของเรนดีว่าการใช้ความรุนแรงเป็นเรื่องปกติของอีกฝ่าย
ในขณะที่การสนทนายังคงดำเนินต่อไป ราฟาเอโร่ยังคงนั่งฟังเงียบ ๆ ไม่ได้โต้ตอบหรือแสดงความคิดเห็นใด ๆ ดวงตาสีฟ้าเข้มยังคงนิ่งสงบ แต่อ่านไม่ออกว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่
ในเวลานี้ แต่ละคนต่างแยกย้ายไปทำหน้าที่ของตัวเอง หลังจากพายุคลื่นลูกใหญ่ที่โหมกระหน่ำมาตลอดช่วงที่ผ่านมาเริ่มแผ่วลง… ทิ้งไว้เพียงความสงบที่เปราะบาง คล้ายเป็นเพียงช่วงเวลาหยุดพัก
แต่ในความเงียบสงบนั้น กลับเป็นเพียงหยาดน้ำก่อนพายุลูกใหม่จะถาโถมเข้าใส่
| เซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน
เสียงเครื่องยนต์ของรถสปอร์ตแล่นผ่านถนนกลางมหานครเซี่ยงไฮ้ในยามค่ำคืน แสงไฟจากตึกสูงระฟ้าสะท้อนบนพื้นถนนที่เปียกชื้นจากฝนโปรยปรายบางเบา เมืองแห่งความรุ่งเรืองและเครือข่ายธุรกิจใต้ดินที่ซับซ้อนกำลังอยู่ในช่วงสั่นคลอน
เสี่ยวไป๋เอนตัวพิงเบาะ หลับตาฟังเสียงเครื่องยนต์ขับกล่อม ก่อนที่รถจะหยุดลงหน้าอาคารหรูหรากลางเมือง
"ถึงแล้วครับนาย" เสียงของคนขับดังขึ้นอย่างนอบน้อม
เขาเปิดประตูรถก้าวลงมา สูดลมหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนจะกวาดตามองบรรยากาศโดยรอบ ไนต์คลับสุดหรูที่เบื้องหน้าไม่ใช่แค่สถานบันเทิง แต่มันคือสถานที่แลกเปลี่ยนข้อมูล ข่าวสาร และผลประโยชน์ของผู้มีอำนาจมากมาย
"ข้างในรออยู่แล้ว" ลูกน้องของเขาเดินเข้ามารายงาน
เสี่ยวไป๋กระตุกยิ้มบาง "เข้าไปกันเถอะ"
ทันทีที่ก้าวเข้าไปด้านใน บรรยากาศของสถานที่ก็เปลี่ยนไปทันที เสียงดนตรีจังหวะหนักดังคลอ ท่ามกลางผู้คนที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มและเครื่องดื่มในมือ แต่ใต้ความหรูหราเหล่านั้น แฝงไปด้วยเครือข่ายของธุรกิจผิดกฎหมายที่กำลังเปลี่ยนผ่านอำนาจอย่างเงียบเชียบ
เสี่ยวไป๋เดินเข้าไปนั่งที่โต๊ะวีไอพี มือขาวสะอาดหยิบแก้วเหล้าขึ้นมาหมุนเบา ๆ ก่อนจะปรายตามองชายวัยกลางคนตรงหน้า นี่คือผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ที่เริ่มแข็งข้อกับเขา
"ฉันได้ยินมาว่าระยะนี้นายเริ่มมีแนวคิดใหม่เกี่ยวกับธุรกิจของตัวเอง" เขาเริ่มต้นเสียงเรียบ
ชายคนนั้นแสร้งหัวเราะเหมือนไม่รู้เรื่อง "คุณไป๋พูดอะไร ผมก็แค่ทำตามกระแสตลาดนิดหน่อยเท่านั้นเอง"
เสี่ยวไป๋ยิ้มมุมปาก ดวงตาภายใต้แสงไฟสลัวไม่ได้บ่งบอกถึงความขำขันแม้แต่น้อย "งั้นเหรอ... น่าเสียดาย ฉันก็คิดว่าธุรกิจของนายกำลังไปได้ดีอยู่แท้ ๆ"
ความเย็นชาในน้ำเสียงทำให้คนตรงหน้าหุบยิ้มทันที
"ฉันให้โอกาสแค่ครั้งเดียว" เสี่ยวไป๋กระซิบเบา ๆ ก่อนจะยกแก้วขึ้นจิบ "ถ้านายยังคิดจะเล่นเกมนี้อยู่ ก็เตรียมตัวให้ดีล่ะ"
| โกเบ ประเทศญี่ปุ่น
ฝนโปรยปรายลงบนหลังคาไม้ของคฤหาสน์ตระกูลเก่าแก่ที่ตั้งอยู่กลางหุบเขา กลิ่นดินชื้นหลังฝนตกอบอวลไปทั่วบริเวณ
เรนก้าวลงจากรถพร้อมกับลูกน้องของตระกูลที่มายืนรออยู่ก่อนแล้ว ดวงตาภายใต้กรอบหน้ากากสีเข้มเคร่งขรึมกว่าปกติ วันนี้เขาไม่ได้มาในฐานะนักฆ่า หรือบุคคลในเครือข่าย ‘ขนนกสีเงิน’ แต่เขามาในฐานะ ‘หลานชาย’ ของตระกูลยากูซ่าที่กำลังอยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่าน
"คุณปู่เป็นยังไงบ้าง?"
ลูกน้องของเขาก้มหัวต่ำ "อาการทรงตัวครับ... แต่หมอบอกว่าท่านอาจไม่อยู่ได้อีกนาน"
เรนนิ่งไปครู่หนึ่ง กำมือแน่นก่อนจะสูดลมหายใจเข้า ลึก ๆ
ร่างสูงเดินผ่านทางเดินไม้ที่ทอดยาวไปยังห้องโถง เสียงรองเท้ากระทบพื้นดังก้องภายใต้บรรยากาศที่เงียบสงัด ดวงตานับสิบคู่จับจ้องมาทางเขา คนที่อยู่ในห้องนี้คือผู้อาวุโสของตระกูล รวมถึงคนที่รอเวลาจะยึดอำนาจ
ทันทีที่ก้าวเข้าไปนั่งตรงกลาง ทุกสายตาก็จับจ้องมาที่เขา
เรนยกยิ้มบาง ๆ แต่มันไม่ได้มีความรื่นรมย์อยู่เลย
"ฉันกลับมาแล้ว"
| นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา
กลางเมืองที่ไม่เคยหลับใหล ตึกระฟ้าสูงเสียดฟ้าส่องประกายภายใต้แสงไฟนีออนที่แต่งแต้มไปทั่วมหานคร
แคสเปอร์ก้าวเข้ามาในสำนักงานของตัวเอง ร่างสูงโปร่งในชุดสูทสั่งตัดเนี้ยบกวาดสายตามองพนักงานที่พากันรีบลุกขึ้นทำความเคารพทันที
"รายงานความคืบหน้า"
ผู้จัดการฝ่ายหนึ่งเดินเข้ามายื่นเอกสารให้เขา "โครงการอสังหาฯ ฝั่งตะวันออกยังติดปัญหาเรื่องการขอใบอนุญาตจากรัฐ แต่ดูเหมือนจะมีบางกลุ่มที่พยายามขัดขวาง"
แคสเปอร์พลิกเอกสารก่อนจะยิ้มบาง ๆ
"งั้นก็ส่งคำเชิญให้พวกเขามาคุยกันหน่อย"
"ครับ?"
เขาเงยหน้าขึ้น "เรากำลังพูดถึงการเจรจาแบบนักธุรกิจ… หรือถ้าพวกเขาไม่ต้องการเจรจาแบบนั้น ก็ให้ทางเลือกที่สองไป"
02:13 AM | คฤหาสน์ของราฟาเอโร่
ค่ำคืนในลอนดอนยังคงเงียบสงัด มีเพียงเสียงลมพัดแผ่วเบาผ่านกิ่งไม้และม่านหน้าต่างสูงของคฤหาสน์หลังใหญ่ บอดี้การ์ดประจำจุดยังคงยืนระวังภัย ทุกคนดูเคร่งเครียด แต่พวกเขาไม่รู้เลยว่ามี บางสิ่ง ได้แทรกซึมเข้ามาแล้ว
เงาร่างปราดเปรียวเคลื่อนผ่านสวนกว้างเข้าสู่ตัวอาคารอย่างไร้สุ้มเสียง รองเท้าหนังสีเข้มแตะลงกับพื้นเบา ๆ ในขณะที่ดวงตาสีเข้มกวาดมองไปทั่ว แสงไฟอ่อน ๆ ที่ลอดผ่านกระจกเผยให้เห็นโครงสร้างภายในคฤหาสน์ แม้จะเป็นครั้งแรกที่เข้ามา แต่เขาได้ศึกษาผังของที่นี่มาล่วงหน้าแล้วทุกตารางนิ้ว
เจบีอยู่ในชุดสีดำที่คลุมร่างมิดชิด กลืนหายไปในความมืด ใบหน้าถูกปกปิดด้วยหน้ากากซิลิโคนที่แนบเนียนจนยากจะจดจำ ไม่มีใครรู้ว่าเขาเป็นใครกันแน่ และไม่มีใครควรจะรู้
ภารกิจของเขาในคืนนี้คือขโมยข้อมูลเครือข่ายของ ราฟาเอโร่
กึก...
ปลายนิ้วกดแป้นพิมพ์เบา ๆ บนหน้าจอของแล็ปท็อปพกพา รหัสความปลอดภัยถูกปลดล็อกอย่างง่ายดายอย่างที่คิด ข้อมูลที่ไหลขึ้นมาบนหน้าจอคือสิ่งที่เขาต้องการทั้งหมด เส้นทางการเงิน ธุรกิจเครือข่าย การติดต่อระหว่างพันธมิตร ทุกอย่างที่สามารถใช้เป็นเครื่องมือได้ในอนาคต
ริมฝีปากของเขายกขึ้นเป็นรอยยิ้มบาง ๆ ทุกอย่างง่ายเกินไปจนน่าแปลกใจ…
มือขยับไปกดปุ่มดาวน์โหลดไฟล์ เขารู้ดีว่าทุกอย่างกำลังไปได้ด้วยดี ไฟล์ข้อมูลกำลังถูกส่งไปยังเซิร์ฟเวอร์ของเขา ทุกอย่างถูกทำให้เรียบร้อยภายในเวลาไม่นาน
ในตอนนั้นเอง…
"เขาทำได้เร็วกว่าที่ฉันคิดนะ"
เสียงทุ้มต่ำดังขึ้นในความเงียบ แต่ไม่ใช่ในห้องที่เจบีอยู่
มันดังขึ้นในห้องมืดอีกฝั่งของคฤหาสน์ ท่ามกลางจอมอนิเตอร์นับสิบที่เรียงรายอยู่ตรงหน้า
ราฟาเอโร่ เขากำลังมองอยู่ ทุกการเคลื่อนไหวของแมวขโมยตัวนั้นฉายอยู่บนหน้าจอกล้องวงจรปิดทุกมุมของคฤหาสน์
ริมฝีปากของมาเฟียหนุ่มกระตุกยิ้มบาง ๆ ขณะเอนตัวพิงพนักเก้าอี้ เสียงน้ำแข็งในแก้วคริสตัลดัง กรุ๊งกริ๊ง เมื่อเขาหมุนข้อมือเบา ๆ
"มันจะเป็นยังไงต่อนะ..."
ดวงตาสีฟ้าเย็นเยียบจับจ้องเงาบาง ๆ ในจอภาพ ก่อนจะทอดถอนใจออกมาอย่างสมเพช
น่าสนใจดี
แทนที่จะสั่งให้ลูกน้องเข้าไปจับ เจ้านายแห่งเครือข่ายอำนาจกลับปล่อยให้เหยื่อทำเรื่องที่ต้องการต่อไป เขาอยากรู้ว่าเจบีคิดจะทำอะไรต่อจากนี้…
เหมือน การหย่อนเหยื่อล่อปลา
เหมือนเด็กที่กำลังเล่นกับของเล่นชิ้นใหม่ที่น่าสนใจ
เขาจะให้แมวขโมยตัวนี้คิดว่าตัวเอง ฉลาดและเหนือกว่า สักพักหนึ่งก่อนก็ได้…
"เต้นไปตามเกมของฉันเถอะ"
ราฟาเอโร่กระตุกยิ้ม ก่อนจะเอนตัวพิงพนักเก้าอี้ ละสายตาจากหน้าจอแล้วจิบวิสกี้ในมือด้วยความรื่นรมย์
ไฟล์ข้อมูลที่เจบีขโมยไป... มันคือข้อมูลปลอม
ทุกอย่างที่อยู่ในมือของเจบีตอนนี้ เป็นเพียงเศษกระดาษที่ไม่มีค่าอะไรเลย
และเขาจะรอดูว่า ‘แมวขโมย’ ตัวนี้ จะทำอะไรต่อไปเมื่อรู้ตัวว่าถูกล่อให้มาติดกับ
เพราะหลังจากนี้…
มันจะไม่มีทางหนีอีกแล้ว
TBC.
ฝากติดตามเป็นกำลังใจหน่อยน้าา
พวกมาเฟียกำลังจะเล่นบทแมวไล่จับหนูแล้ว
อย่ารุนแรงกันน้อนน ได้โปรด
รักคนอ่าน♥️
สนุกมากครับ ขอบคุณครับ สนุกมากครับ รอติดตามตอนต่อไปนะครับ ขอบคุณมากๆครับ ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ น่าสนุก อ่านเพลิน
หน้า:
[1]