ความลับของผมในคอร์ส ม.ต้น ตอน 7 - ย้อนวัยเสียวครั้งแรก
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Recs เมื่อ 2025-6-7 15:20ย้อนหลังกลับไปอ่าน>> ตอน 1 - วันแรกก็น้ำแตก <<>> ตอน 2 - เสียวกับมือปริศนา <<>> ตอน 3 - ทายคำจนเสียว <<>> ตอน 4 - แอบดูจนได้เรื่อง <<>> ตอน 5 - คิดมากจนหมกมุ่น <<>> ตอน 6 - รับงานคู่ครั้งแรก <<
ตอน 7 - ย้อนวัยเสียวครั้งแรก
หลังจากที่ผมกับเซน—เพื่อนวัย 14 จากคลาสเรียนซัมเมอร์—ได้ไปรับงานครั้งแรกด้วยกัน กับลูกค้าผู้ชายที่เขานัดมาทางแอพ ในรถที่จอดอยู่บนห้างใจกลางเมือง...
เป็นอะไรที่โคตรตื่นเต้น มันเหมือนเราได้ข้ามเส้นบางอย่างไปด้วยกัน ความรู้สึกที่มีต่อเซน...มันเริ่มเปลี่ยนไปนิดหน่อย ผมเองก็ยังอธิบายไม่ถูกเหมือนกัน.....
ช่วงบ่ายวันศุกร์ วันเดียวกับที่ผมกับเซนเพิ่งรับงานกันมาเสร็จ แยกกันแวะเข้าห้องน้ำ ทำความสะอาดส่วนนั้น ให้ทุกอย่างดูเรียบร้อยปกติ ก่อนจะพากันขึ้นไปห้องเรียนด้วยกัน ที่ตอนนี้ครูเริ่มสอนไปแล้ว
ทันทีที่เปิดประตูเข้าไป ทุกสายตาก็หันมามอง ผมกับเซนรีบก้มหน้าก้มตา เดินเงียบๆ แยกกันไปนั่งที่ แบบไม่พูดอะไรสักคำ ในขณะที่ครูก็สอนต่อไป เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
“หืม~ มาด้วยกันเลยเหรอวันนี้” มินนี่กระซิบข้างๆ ยิ้มเจ้าเล่ห์แบบรู้ทัน
“แปลกยังไง ก็แค่ไปกินข้าวด้วยกันเฉยๆ” ผมพยายามตอบขำๆ แต่เสียงมันเบากว่าปกติหน่อย
“อุ๊ยย~ มีไปกินข้าวด้วยกันด้วย” มินนี่หัวเราะเบาๆ ก่อนจะหันกลับไปยิ้มแป้น ทำเป็นสนใจเรียนบนกระดานต่อ
ผมนั่งนิ่ง มองครูสอนแบบเบลอๆ สมองมันเอาแต่คิดถึงเรื่องก่อนหน้านั้น... สลับแอบชำเลืองมองไปเซนบ้าง คิดในใจว่าดีที่ยังมองหน้ากันติดหลังจากเรื่องวันนี้...
ช่วงครูพักเบรค 10 นาที ผมนั่งอ่านฟิคมินนี่ต่อ ในตอนใหม่นัทโดนเพื่อนล้อว่าแอบชอบบาส ก็รีบปฏิเสธหน้าแดงๆ แต่พอตอนเย็นบาสดันเดินเข้ามาพูดว่า “ถ้ามันจริงก็ไม่เป็นไร เพราะกูก็คิดเหมือนกัน” อ่านถึงตรงนั้นผมถึงกับเผลอยิ้ม เขินแทนนัทไปหมด
“เมื่อไหร่สองคนนี้จะได้กันเนี่ย...” ผมพึมพำออกไปโดยไม่รู้ตัว
มินนี่หัวเราะคิก ขำเสียงเบาๆ “แหมมม... ใจเย็นดิกาย ถ้าให้ได้กันไว คนอ่านจะไปฟินไรอ่ะ”
“ก็คู่นี้มันน่ารักดีอ่ะ 555” แล้วก็หัวเราะตามมินนี่ไป
“เนี่ยๆ ดูดิ เหมือนจะมีคนอินเกินอยู่น้าา” มินนี่แซวอีกพร้อมยิ้มเจ้าเล่ห์
“อินดิ เราเป็นแฟนคลับฟิคมินนี่คนแรกเลยนะเว้ย 555” ผมตอบติดตลก ทำเอาเธอหัวเราะอีกรอบ
ยังไม่ทันจะพูดอะไรต่อ ไอเซนก็เดินมาที่โต๊ะผมพอดี ทำเอาผมสะดุ้งนิดๆ รีบกลั้นขำแทบไม่ทัน
“ไอกาย ว่างปะ? ไปข้างล่างเป็นเพื่อนหน่อยดิ กูจะไปซื้อน้ำกิน”
“โอเคๆ... มินนี่เอาไรมั้ย เดี๋ยวซื้อมาฝาก” ผมหันไปถาม แต่เจอมินนี่นั่งยิ้มแก้มแดงแล้ว
“ไม่เป็นไรๆ ไปเหอะๆ” มินนี่ส่งสายตาแบบรู้งานให้ พร้อมพยักหน้าเบาๆ จะบอกว่า รีบไปเลยเพื่อน...
ผมกับไอเซนลงมาชั้นล่างสุดด้วยกัน เดินเล็งร้านนู้นร้านนี้แบบไร้จุดหมาย สุดท้ายก็ไปจบที่โกโก้เย็นสตาร์บัคคนละแก้ว แพงชิบแบบถ้ามาคนเดียวคงไม่ซื้อแน่ แล้วก็แวะซื้อนมกล่องที่มินนี่ชอบติดไปฝากด้วย ก่อนจะกลับขึ้นไปเรียน
“ตกลงมึงไม่ได้ชอบมินนี่จริงๆ ใช่ปะ?” ไอเซนหันมาถาม ตอนกำลังยืนรอลิฟท์อยู่
ผมหันไปตอบงงๆ “กูก็บอกกี่รอบละวะ ว่าเป็นแค่เพื่อน”
“ก็เห็นคุยกันทุกวัน ตัวติดกันจนจะสิงกันละ” มันว่าเหมือนจะบ่น คงจะอิจฉา
ผมแกล้งย้อน “หรือมึงชอบมินนี่? เดี๋ยวกูช่วยจีบให้เอาป่ะ?”
“เห้ยๆ ไม่เอาๆ ยังไม่ค่อยตรงไทป์ว่ะ”
ผมเลยหรี่ตามองแล้วแซวต่อ “แล้วไทป์มึงแบบไหนวะ... หรือว่าแบบกู?”
“เอ้อ ใช่เลยค้าบบ แบบน้องกายแม่งโคตรน่าร้ากก~” มันทำเสียงกวนตีน แล้วยื่นหน้ามายิ้มใกล้ๆ
“ไอสัส ขนลุก!555” ผมหลุดหัวเราะพร้อมผลักมันเบาๆ ถึงจะรู้ว่ามันแค่แกล้ง... แต่ก็แอบเขินนิดนึงอยู่ดี...
ลิฟต์เปิดออก พวกเราเดินเข้าไปพร้อมกับวัยรุ่นกลุ่มเล็กๆ ผมกดชั้นสิบ เตรียมกลับขึ้นไปเรียนอีกรอบ ลิฟต์แวะจอดที่ชั้นสาม คนอื่นทยอยออกไปทีละคน จนสุดท้ายในลิฟต์เหลือแค่ผมกับเซน
ไอเซนพิงกำแพงแล้วพึมพำเบาๆ “พรุ่งนี้ก็หยุดอีกละ โคตรน่าเบื่อ”
ผมหันไปมองขำๆ “งั้นหาอะไรทำแก้เบื่อปะ?... หาลูกค้าอีกสักคนดิ เดี๋ยวไนน์หาให้พี่เท็นเองค้าบ~” พูดจบก็หัวเราะเบาๆ ล้อเล่นไปงั้นแหละ คิดว่ามันคงปฏิเสธ
“เอาดิ อยู่บ้านก็ไม่มีไรทำ”
“หะ!? เอาจริงดิ 555” ผมหัวเราะแห้งๆ ไม่คิดว่าแม่งจะตอบตกลงเร็วขนาดนี้… ทั้งที่วันนี้ก็เพิ่งทำมาด้วยกันแท้ๆ
ไอเซนไม่ได้ตอบอะไร แค่ยิ้มบางๆ ทำดูดโกโก้เสียงดัง ก่อนจะยักคิ้วใส่ผมเหมือนจะบอกว่า จริงจังนะเว้ย ทำเอาผมเผลอใจเต้นวูบเลย ต้องรีบก้มดูดโกโก้ที่ถืออยู่เพื่อกลบเกลื่อน
แต่จู่ๆ ก็เริ่มรู้สึกหัวหมุนๆ เหมือนเมาลิฟต์หรืออะไรสักอย่าง หันไปมองหน้าไอเซน เห็นมันก็ทำหน้ามึนๆ เหมือนกัน
“เชี่ยย... โกโก้ใส่อะไรเข้าไปวะ?” ไอเซนยกแก้วขึ้นดูก่อนขมวดคิ้ว “กูว่า...พวกเราโดนวางยาว่ะ!”
“ห๊า!?” ผมหันขวับไปหาแม่งทันที ใจเต้นแรงกว่าเดิม เท้าเริ่มโคลงๆ เหมือนยืนไม่ค่อยอยู่ นึกในใจ เชี่ยเอ๊ย! ใครจะมาวางยากูวะ!?
ยังไม่ทันตั้งตัว ไฟในลิฟต์ก็ดับพรึ่บ แล้วก็กระพริบกลับมาติดอีกครั้ง ก่อนที่ลิฟต์จะเริ่มสั่นเบาๆ มีเสียงเหมือนอะไรบางอย่างตกกระทบบนหลังคาดัง ตึ้ง! แกร๊ง!
“เชี่ยไรวะเนี่ย!…” ยังไม่ทันพูดจบดี ลิฟต์แม่งดิ่งลงแบบไม่มีสัญญาณเตือน ทำเอาผมตัวแข็งเกร็ง พิงมือกับผนังจนสุดเหยียด
เสียงเบรคเสียดสีกับเหล็กดังลั่นจนหูอื้อ ปนกับเสียงร้องโวยวายของพวกเราสองคน ผมได้แต่หลับตาปี๋ ใจเต้นตกไปถึงตาตุ่ม
ได้ยินไม่ชัดเหมือนเซนตะโกนอะไรสักอย่าง ก่อนจะทิ้งตัวลงไปนอนราบ จนลิฟต์เบรคแบบกะทันหัน แรงจนกระแทกทำให้หน้าผมฟาดกับพื้นลิฟต์ดัง ปั๊บ! ตามด้วยเสียงหูอื้อ วิ้งงงง... ยาวๆ
ได้ยินเสียงไอเซนเรียกเบาๆ ข้างหู“ไอกาย... ไอกาย... มึงโอเคมั้ยวะ?” พร้อมหยิบแว่นที่กระเด็นอยู่บนพื้นยื่นให้ เลนส์แม่งร้าวแตกไปข้างนึงละ
ผมจับแว่นมาใส่ค่อยๆ ลืมตาเห็นหน้าไอเซนก้มมามองใกล้ๆ หน้าตามันดูช็อคสุดๆ มองรอบๆ ดูลิฟต์จะหยุดแล้ว ไม่ขึ้นตัวเลขบอกชั้น แต่แม่งยังโยกไปมา อย่างกับจะหล่นอีกรอบ
“เชี่ย... กูตายยังวะ?” ผมค่อยๆ ยันตัวขึ้นมา นั่งอยู่บนพื้นแบบมึนๆหัวแม่งโคตรจะหนัก เอามือคลำๆ เหมือนหัวจะปูดเล็กน้อย
“ยังเว้ย ยังไม่ตาย แต่มึงตั้งสติก่อน” ไอเซนจับไหล่ผมเบาๆ ก่อนมองไปที่พื้นลิฟต์ที่มีโกโก้หกกระจายอยู่สองแก้ว
“สัสเอ้ย... เสียดายชิบหาย แก้วตั้งแพงยังไม่ทันดูดหมดเลย” มันบ่นเสียงนิ่งๆ แต่น้ำเสียงแม่งจริงจัง
“มึงยังจะห่วงแดกอีกเหรอวะ!? จะตายห่ากันอยู่แล้วเนี่ย!!” ผมโวยใส่แบบควบคุมอารมณ์ไม่อยู่
“ใจเย็นๆ เดี๋ยวก็มีคนมาช่วย มึงอย่าเพิ่งตื่นตูมดิวะ”แล้วแม่งก็ลุกขึ้นไปตะโกนใส่ประตูลิฟต์ “ช่วยด้วยค้าบ! ผมติดอยู่ในลิฟต์ค้าบ!” พยายามกดปุ่มฉุกเฉินก็ไม่มีใครตอบมา
“พอเหอะมึง... กูหนวกหู... ไม่มีใครมาหรอก... ” ผมเอามือกุมหัว ปวดหัวสุดๆเหมือนหัวจะระเบิด
ตัวโยกไปตามแรงลิฟต์ที่ยังแกว่งไปมา มีเสียง "แกร๊กๆๆ" เหมือนมีอะไรหล่นกระแทกหลังคาลิฟต์เรื่อยๆ และเสียงกำแพงร้าวเหมือนกำลังจะแตกตลอดเวลา
"กูว่า...เราไม่รอดแน่เลยว่ะ..." เสียงกับตัวผมสั่นไปหมด เหมือนคนไม่มีสติ ได้แต่ทำตาค้างมองไปที่เพื่อน
"เดี๋ยวก่อนมึง กูโทรอยู่!" เซนหยิบมือถือขึ้นมากดรัวๆ สีหน้ามันเริ่มเครียดจัด มีแต่เสียง "ตื๊ดๆๆ" ดังตลอด เพราะไม่มีสัญญาณ...
“กู... กูไม่อยากตายแบบนี้... ซิก... ฮืออ...” น้ำตามาเองแบบไม่รู้ตัว เสียงสะอื้นหลุดออกมาเหมือนเด็กน้อย
"เฮ้ย... ใจเย็นดิ อย่าเพิ่งร้อง" เซนพยายามปลอบ แต่ผมไม่ไหวแล้ว
"เย็นเหี้ยไรล่ะ! มึงนั่นแหละพากูมา! ฮืออออ!" ผมร้องไห้โวยวาย ตัวสั่นอย่างกับหมา ผวาจนหายใจติดขัด เริ่มหายใจไม่ออก หัวแม่งปวดจี๊ดๆ ในหัวนึกแต่ภาพแม่ แล้วก็...พี่มิกพี่ชายที่ปกป้องผมมาตั้งแต่เด็ก
"ฮืออๆ อยากออกไปหาแม่... ฮืออ... พี่มิก... กายกลัว ฮืออ..." อยากให้พี่มิกอยู่ด้วยจัง อยากกลับบ้านแล้ว...
"ไม่เป็นไรๆ กูอยู่นี่..." เซนเข้ามากอดผมไว้แน่น สัมผัสถึงความอบอุ่นแปลกๆ จนผมเผลอกอดและซบหน้าแนบอกมันแน่น เหมือนหาที่เกาะสุดท้ายในชีวิต
เราสองคนกอดกันนิ่งแบบคุกเข่า จนลิฟท์ค่อยๆ โยกช้าลงทีละนิด เสียงทุกอย่างเริ่มเงียบไปแล้ว เหลือแค่เสียงสะอื้นเบาๆ กับเสียงสูดน้ำมูกของผม
"กู... กูโอเคละ..." ผมค่อยๆ ผละออกจากตัวมัน เลี่ยงไม่สบตา ก่อนจะขยับไปนั่งพิงกำแพงลิฟท์ ถอดแว่นออกมาเช็ดน้ำตา สูดลมหายใจยาวๆ พยายามตั้งสติ ไม่ให้ตัวสั่นอีก
"โอเคๆ..." เซนพยักหน้าเบาๆ มองผมแบบห่วงๆ เหมือนไม่รู้จะพูดอะไรเหมือนกัน และลงมานั่งอยู่ข้างๆ
เราสองคนต่างคนต่างหยิบมือถือขึ้นมาเช็ก สัญญาณเริ่มกลับมาแล้ว เน็ตโหลดช้าหน่อยแต่พอเปิดดูข่าวได้ ยิ่งพากันช็อคกับสิ่งที่เห็น
"เชี่ย... แผ่นดินไหวในกรุงเทพเหรอวะ?... มึงพอโทรหาใครได้บ้างป่ะ? มินนี่ก็ได้" เซนพูดเสียงเครียดๆ ผมรีบกดโทรหามินนี่ทันที มือยังสั่นๆ เลยเปิดลำโพงแล้วส่งมือถือให้เซนพูดแทน
"ฮัลโหลมินนี่! นี่เซนนะ ได้ยินมั้ย!?"
เสียงขาดๆ หายๆ ตอบกลับมาทางสาย "...เซน... อยู่กับกายเหรอ... อยู่ไหนกัน..."
"เราสองคนติดอยู่ในลิฟท์! ตามคนมาช่วยหน่อยได้มั้ย!?"
"ห๊าา!? ติดลิฟท์เหรอ!?... ได้ๆ เดี๋ยวรีบ...หาคนไปช่วยนะ!"
เสียงตัดไปก่อนจะทันพูดอะไรต่อ พวกผมได้แต่นั่งพิงกำแพงเหล็กเย็นๆ อย่างโล่งใจ หายใจช้าๆ พยายามทำใจให้สงบ รอให้ใครสักคนมาเปิดประตูให้เราได้ออกไปจากที่นี่สักที
"มึงยังปวดหัวอยู่ป่ะ? ทนไหวนะ?" เซนถามแบบดูเป็นห่วงอาการผม
"อือ... ไหวอยู่ มึนหัวนิดหน่อย..." ผมฝืนตอบไปแบบหมดแรง ตัวเองยังไม่แน่ใจเลยว่าทนได้แค่ไหน
"เออ งั้นเอานี่ไปกินก่อนดิ หน้ามึงซีดโคตรเลย" เซนหยิบนมกล่องที่ตั้งใจจะซื้อให้มินนี่ แต่สุดท้ายกลายเป็นผมที่ได้กินแทน มันเจาะให้เรียบร้อยแล้วยื่นมาให้
ผมรับมาดูดช้าๆ รู้สึกได้ถึงแรงที่เริ่มกลับมาในร่างกายนิดๆ เผลอยิ้มออกมาที่มุมปาก ไม่คิดเลยว่าเพื่อนจะมีมุมแบบนี้ด้วย... ไม่ชินแต่ก็อุ่นใจแปลกๆ
ระหว่างนั้น ต่างคนต่างโทรติดต่อที่บ้าน แม่ผมได้ยินข่าวก็เสียงสั่นจะรีบขับรถมารับผมกลับบ้านทันทีที่ออกไปได้
"มึนหัวอยู่ใช่ป่ะ พิงไหล่กูเลยก็ได้นะ... " เซนพูดขึ้นขณะนั่งรอความช่วยเหลืออยู่ด้วยกัน
"ได้เหรอ..." ผมถามเบาๆ แบบไม่กล้าหนุนจริง
"ได้ดิ แต่ขออย่างเดียว... อย่าอ้วกใส่กูก็พอ 555" เซนเริ่มกลับมาขำได้ละ ทำเอาผมหัวเราะตามเบาๆ ก่อนจะเอาหัวไปพิงไหล่มัน ยืมใช้เป็นที่พักเผื่อจะหายมึน
"กูขอโทษนะ ที่ลากมึงมาเจอไรแบบนี้..." เซนพูดเสียงเบา เหมือนรู้สึกผิดจริงจัง "แต่เอาจริง...กูก็ดีใจที่มึงมาด้วยนะ ไม่งั้นดูเป็นบ้าตายอยู่คนเดียวแน่"
"อืมๆ กูก็ขอโทษ...ที่โวยวายมึง" ผมพยักหน้าเบาๆ ไม่ได้โกรธอะไรอยู่แล้ว แค่ตอนนั้นมันสติหลุดไปหน่อย
"เซน... กูถามไรหน่อยดิ มึงรับงานแบบวันนี้มานานยังวะ?" พอเริ่มดีขึ้นหน่อย ผมก็หาเรื่องชวนเซนคุย ฆ่าเวลาระหว่างติดลิฟท์ไปด้วย
"ห้ะ? เมาโกโก้ป่ะเนี่ย อยู่ดีๆ ถามอะไรวะ?" เซนหันมามองแบบงงๆ
"กูแค่อยากรู้ไง... เผื่อกูตายตรงนี้ จะได้ไม่คาใจ" ผมพูดติดตลกเบาๆ ขณะยังพิงไหล่มันอยู่
"ก็... ไม่นานหรอก เริ่มช่วงซัมเมอร์นี่เอง"
"แล้วทำไมถึงทำอะ? บ้านมึงก็ไม่ได้จนซะหน่อย"
"มึงนี่แม่งขี้สงสัยจริงว่ะ..." เซนถอนหายใจนิดๆ "ก็แบบ... เบื่ออะ แล้วก็อยากลองด้วย เคยเห็นแต่ในโดจิน กะหนังโป๊ ก็อยากรู้ว่าถ้าเป็นจริงมันจะรู้สึกยังไง... กับอยากมีตังไว้ซื้อของเองบ้าง ไม่ต้องมัวแต่รอขอตังค์พ่อ"
"อ่อ... งั้นก็พอเข้าใจ..." ผมพยักหน้าเบาๆ รู้สึกว่าแม่งก็มีเหตุผลของมันเหมือนกัน
อยู่ดีๆ เซนก็หันมาถามกลับบ้าง "ละมึงอะกาย เคยรับงานแบบนี้มาก่อนปะ?"
คำถามแม่งมาแบบไม่ให้ตั้งตัว ผมนิ่งไปนิดนึง แต่สุดท้ายก็ตอบออกมาเสียงเบา
"...ก็ไม่รู้ดิ ตอนนั้นกูยังเด็กอยู่ ไม่ค่อยรู้เรื่องอะไรเลย เหมือนโดนเพื่อนหลอกมากกว่าว่ะ"
"เหี้ย จริงดิ?" เซนดูตกใจปนเป็นห่วงหน่อยๆ "เล่าให้กูฟังหน่อยได้ปะ?"
ผมถอนหายใจเบาๆ ก่อนพึมพำตอบ "อือ... แต่ขออย่างนึง มึงต้องเก็บเป็นความลับนะ"
"ได้ดิ..." เซนตอบเสียงเบา เหมือนพร้อมจะฟังโดยไม่ตัดสินอะไรเลย
ผมนึกย้อนไปสมัยยังเด็กกว่านี้ ประมาณ 11 ขวบได้ จำได้ลางๆ ช่วงสมัยตอนที่ผมยังอยู่ต่างจังหวัดที่บ้านป้า วันนั้นนับเป็นประสบการณ์เสียวครั้งแรกในชีวิต
เป็นช่วงเวลาเย็น ผมกับไอตังค์เพื่อนแถวบ้านที่โคตรแก่แดด พากันปั่นจักรยานเล่นหลังเลิกเรียน
"มึงเคยชักว่าวป่ะวะ?" ไอตังค์ถามขึ้นตามภาษาเด็กวัยนั้น
"เคยบ่อยละ ทำไมจะไม่เคย" ผมตอบเอาเท่ไปงั้น จริงๆ เพิ่งเคยครั้งเดียวเอง
"ละเคยทำไรที่เสียวกว่าชักว่าวป่ะ?"
"คือไรวะ?" ผมทำหน้างง ปนอยากรู้
"เดี๋ยวกูพาไปที่ลับกู เสียวแถมได้ตังค์ด้วย ไปด้วยกันดิ แต่เป็นความลับนะมึง"
"เออ เอาดิ" ผมตอบไปแบบไร้เดียงสา ยิ่งตอนนั้นอยากได้ตังค์เติมเกมอยู่ด้วย
ไอตังค์พาผมปั่นจักรยานไปอีกซอย จนถึงร้านตัดผมของลุงป้อง ก็งงว่า เสียวที่ตังค์มันบอกคือตัดผมเหรอวะ? แล้วได้เงินยังไงวะ?
"ลุงวันนี้ขอเงินเหมือนเดิมได้มั้ย พาเพื่อนมาด้วยอีกคนนะ" ไอตังค์พูดอย่างกับเคยมาบ่อย
"เออๆ ได้นั่งเลยๆ ลุงก็อยากมาหลายวันละ" เสียงลุงป้อง ลุงแก่ๆ รูปร่างท้วมเจ้าของร้านตัดผม ยิ่งพูดยิ่งทำเอาผมงงเข้าไปใหญ่
ไอตังค์ไปนั่งลงเก้าอี้ตัดผม บอกให้ผมรอดูก่อน ลุงป้องเดินไปปิดประตูร้าน และตามมานั่งตรงหว่างขา ถกกางเกงไอตังค์ลง ทำสิ่งที่ผมไม่ได้คาดคิดและตั้งตัวแทบไม่ทัน
ลุงจับเอาจู๋ที่แข็งอยู่ของเพื่อนแถวบ้านผมเข้าปาก ดูดอมขึ้นลงไปมาอย่างกับดูดไอติม ตอนนั้นผมไร้เดียงสามาก ไม่เข้าใจว่าทำไปทำไม กล้าทำไปได้ยังไง จนสักพักไอตังค์เรียกให้ผมไปนั่งแทนมัน
ตอนนั้นเหมือนโดนสะกดจิต ใครให้ทำไรก็ทำ ลุงจูงมือผมให้นั่งลง แกะเชือกที่กางเกงและถอดออกวางบนพื้น รู้สึกโล่งๆ หวิวๆ อย่างบอกไม่ถูก
จนผมรู้สึกถึงอะไรเปียกๆ แฉะๆ เลยก้มดูดันแว่นขึ้น เห็นภาพลุงกำลังใช้ลิ้นเลียจู๋เล็กๆ ขาวๆ ที่ยังอ่อนอยู่ จนมันค่อยๆ แข็งตั้งขึ้นมาเองแบบควบคุมไม่ได้ ถึงจะแข็งแล้วแต่ของผมยังเล็กอยู่ขนาดเท่านิ้วกลางเองในตอนนั้น
ไม่ทันได้ตั้งตัว... จู๋ทั้งแท่งของผมก็เข้าไปอยู่ในปากลุงเจ้าของร้านแล้ว ทำแบบเดียวกันกับที่ทำกับไอตังค์ ที่ตอนนี้มันยืนมองผมจู๋โด่อยู่ข้างๆ ทำเอาผมนั่งตัวเกร็ง รู้สึกเย็นแปลกๆ ตรงนั้น หรือนี่ที่เพื่อนผมมันเรียกว่าความเสียว?... ที่ผมเพิ่งเคยได้รู้สึกเป็นครั้งแรก
ลุงใช้มือแหวกขาผมให้อ้ากว้างขึ้นบนเก้าอี้ตัดผม หัวยังผงกขึ้นลงไปไปมา อีกมือก็จับจู๋ไอตังค์ที่ยืนอยู่รูดเข้าออกเล่นไปด้วย
ผมรู้สึกเสียววาปตรงท้องน้อย มัันแปลกๆ เหมือนปวดฉี่ เลยพยายามดิ้นดันหัวลุงออก แต่ไม่เป็นผล แกกลับผงกหัวแรงขึ้น กดแขนผมแน่นไปกับที่วางมือเก้าอี้ ทำเอาผมแทบทนไม่ไหว หายใจรัวเร็ว เกร็งท้องโคตรปวดฉี่สุดๆ
ไม่นานนักผมก็ทนไม่ไหว ปลดปล่อยน้ำว่าวแตกเต็มปากลุงป้อง ที่ตอนนั้นยังเป็นน้ำใสๆ อยู่เลย จนลุงคายจู๋ผมออกเงยหน้ายิ้มมองผมที่ตอนนี้ นั่งหอบหมดแรงอยู่บนเก้าอี้ ผมจัดแว่นมองดูจู๋ตัวเองที่ชุ่มไปด้วยน้ำลายคนแก่ มันผงกขึ้นลงเองสองสามทีแบบที่ไม่เคยเห็นมาก่อน และค่อยๆ อ่อนตัวลงกลับสู่สภาพเดิม
ลุงป้อง เปลี่ยนไปทำแบบเดียวกันกับจู๋ไอตังค์ที่ยืนอยู่ข้างๆ จนไม่นานนักมันก็เสร็จไปด้วยอีกคน ยืนแอ่นเอวทำหน้าเสียวแบบสุดๆ
เราสองคนต่างหยิบกางเกงมาใส่ รับแบงค์ร้อยมาจากลุง ที่บอกว่าเอาไว้กินหนมและอย่าไปบอกใคร ซึ่งมารู้ทีหลังว่ามันคือค่าปิดปากผมกับไอตังค์นั่นเอง
"เห็นมั้ย... บอกแล้วว่าเสียว" ไอตังค์พูดก่อนพากันเดินออกร้าน และปั่นจักรยานแยกกันกลับบ้าน ทำตัวปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น...
..."เหี้ย... ฟังแล้วเสียวแทนเลยว่ะ" ไอเซนหลุดปากออกมา หลังจากผมเล่าเรื่องจบ น้ำเสียงมันดูจริงจังกว่าตอนเรียนอีก
"ถึงบอกไงว่ากูไม่ได้ใสอย่างที่มึงคิด..." ผมหันไปมองหน้ามัน ก่อนจะพูดต่อแบบไม่ปิดบัง "ที่กูขอให้มึงพาไปด้วย ก็เพราะกู... คงติดใจตั้งแต่ตอนนั้นแหละมั้ง"
"เพื่อนมึงก็เหี้ยจริงว่ะ ทำน้องกายกูเป็นเด็กขี้เงี่ยนเลย 555" ไอเซนหัวเราะ แต่ก็แอบเอามือปิดเป้าไว้แบบเนียนๆ ซึ่งผมสังเกตเห็นตั้งแต่ตอนเริ่มเล่าแล้วว่ามันเริ่มตุงขึ้นเรื่อยๆ
ช่วงเวลานี้มันทั้งเงียบ ทั้งแคบ ใกล้ชิด และไม่มีใครเข้ามาได้... ถ้าจะลองอะไรสักอย่าง ตอนนี้แหละเหมาะที่สุด...
"มึง... แข็งเหรอวะ?" ผมแกล้งถามเบาๆ แล้วเว้นจังหวะนิดนึง "ให้กูช่วยป่ะ?"
ไอเซนหยุดขำ หันมามองหน้าผม สายตาแบบว่า เอาจริงเหรอวะ...
ผมพยักหน้าเบาๆ มันเลยค่อยๆ ปล่อยมือออกจากเป้า ผมก็เลยลองเอามือไปวางลงช้าๆ ตรงจุดที่แข็งจนมันสู้มือ...
มันยังนั่งนิ่ง ไม่พูดอะไร แต่เสียงลมหายใจถี่ขึ้น ท่าทางเหมือนมันอนุญาต ผมเลยค่อยๆ ล้วงเข้าไปสัมผัสกับแท่งอุ่นๆ ของมัน... มือสั่นเล็กน้อย แต่หัวใจผมกลับเต้นแรงกว่าเดิม
ความเงียบครอบคลุมทั้งลิฟท์ เหลือแค่เสียงหายใจของเราสองคน เซนหลับตาลง เหมือนกำลังปล่อยตัวไปตามอารมณ์ที่เริ่มควบคุมไม่ได้ ปล่อยผมให้ทำตามใจที่ต้องการ
"เห้! มีใครอยู่มั้ย! ฮัลโหลๆ!" เสียงผู้ชายดังขึ้นจากลำโพงบนลิฟท์ ทำเอาพวกผมสะดุ้งพร้อมกัน รีบชักมือออกแทบไม่ทัน
เซนรีบลุกไปกดปุ่มฉุกเฉินก่อนจะพูดใส่ไมค์อย่างร้อนรน"หวัดดีครับ! ผมกับเพื่อนติดอยู่ในลิฟท์สองคนครับ ช่วยด้วย!"
เสียงเจ้าหน้าที่ตอบกลับมาว่า ระบบลิฟท์เพิ่งรีเซ็ตเสร็จ จะควบคุมให้จอดที่ชั้น 8 แล้วให้พวกเราลงทางบันไดหนีไฟแทน
ไม่นาน ลิฟท์ก็ค่อยๆ เคลื่อนตัวทำเอาเราสองคนดีใจสุดๆ เมื่อประตูเปิดออก ผมกับเซนรีบพากันวิ่งออกไปทันที ไม่หันกลับไปมองข้างหลังแม้แต่นิดเดียว
"เชี่ยเอ้ย... กูลืมไปเลยว่าในลิฟท์มีกล้อง..."ไอเซนพูดพลางหัวเราะกลบเกลื่อน ต่างคนต่างหน้าแดง รีบเดินลงบันไดหนีไฟ พยายามไม่พูดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อกี้
ตอนนี้คิดแต่ว่าแค่รีบหนีออกจากตึก แล้วกลับบ้านแบบมีชีวิตรอดปลอดภัย...ก็เพียงพอแล้ว...
อ่านตอนต่อไป>> ตอน 8 - ว่างจนรับงานต่างชาติ <<
ไม่มีหลักฐานหรอกมั้ง ยิ่งอ่านยิ่งสนุก
ขอบคุณครับ. เป็นภาคแยกของน้องกายจากเรื่อง ความลับของผมกับลูกพี่ลูกน้อง สิเนี่ย เยี่ยมเลยครับ สนุกดี ขอบคุณมากครับ ขอบคุณครับ สนุกมาก มาต่ออีกนะครับ ขอบคุณ นี้แหละ สตอรี่แห่งความเสียว สนุกมากค้าบบ ขอบคุณนะครับ มาต่อไวๆนะ ขอบคุณครับ สนุกมากครับรอติดตามตอนต่อไป สนุกมากครับรออ่านต่อ เดี๋ยวนะอ่านมาหลายตอน เพิ่งสังเกตุว่านี่มัน เจ้าน้องกายของพี่มิกนี่หว่า โอ้ยยยย 5555 คิดถึงงงงงงง ขอบคุณครับ รออ่านต่ออยู่นะครับ รอนะคับ ขอบคุณครับ กำลังคิดเลย ในลิฟท์มีกล้อง
มินนี่อาจรู้ความลับก็ได้ ยิ่งอ่านยิ่งน่าติดตามขอบคุณครับ ขอบคุณครับ