วันนั้น...ที่ตะวันหวนคืน (บท13)
บทที่ ๑๓: ความห่างไกลที่ใกล้ชิดการเดินทางกลับบ้านในช่วงสุดสัปดาห์ยังคงเป็นกิจวัตรที่ตะวันยึดมั่น แม้ว่าบรรยากาศระหว่างเขากับภาคินจะยังคงอึมครึมและเต็มไปด้วยความเงียบที่น่าอึดอัด การได้กลับมาอยู่ในบ้านที่คุ้นเคย ได้เห็นหน้าพ่อ แม้จะไม่ได้พูดคุยกันมากนัก ก็ยังคงเป็นสิ่งที่เติมเต็มความรู้สึกบางอย่างในใจของตะวัน
เมื่อตะวันก้าวเท้าเข้าสู่บ้าน ภาพที่คุ้นเคยก็ปรากฏตรงหน้า ภาคินมักจะนั่งดูโทรทัศน์อยู่ที่โซฟาตัวเดิม หรือไม่ก็กำลังรดน้ำต้นไม้อยู่ในสวนเล็กๆ หน้าบ้าน การทักทายกันเป็นไปอย่างเรียบง่าย เพียงแค่พยักหน้าหรือเอ่ยคำสั้นๆ แต่แววตาของทั้งคู่ก็ยังคงมีความห่วงใยซ่อนอยู่
ตลอดช่วงเวลาที่ตะวันอยู่บ้านในสุดสัปดาห์นี้ กิจกรรมต่างๆ ดำเนินไปอย่างเงียบเชียบ ตะวันช่วยเหลืองานบ้านเล็กๆ น้อยๆ เท่าที่พอจะทำได้ ภาคินก็ทำกิจวัตรประจำวันของตนเอง ทั้งสองคนใช้เวลาอยู่ในบ้านหลังเดียวกัน แต่ราวกับมีกำแพงที่มองไม่เห็นกั้นกลางอยู่ ความเงียบที่ปกคลุมนั้นยาวนานและหนักอึ้ง จนบางครั้งตะวันรู้สึกเหมือนกำลังอยู่คนเดียว
ในช่วงมื้ออาหาร บรรยากาศก็ไม่ได้แตกต่างกันมากนัก ทั้งสองคนนั่งทานข้าวด้วยกัน แต่บทสนทนามีน้อยมาก ส่วนใหญ่จะเป็นคำถามสั้นๆ เกี่ยวกับเรื่องทั่วไป หรือไม่ก็ความเงียบที่น่ากระอักกระอ่วน
เย็นวันหนึ่ง ขณะที่ทั้งสองคนนั่งดูโทรทัศน์ด้วยกันอย่างเงียบๆ ภาคินก็เอ่ยถามขึ้นมาด้วยน้ำเสียงที่ดูลังเล
“ไอ้ตะวัน...ช่วงนี้เห็นเพื่อนๆ ที่มหาวิทยาลัยมีแฟนกันบ้างไหม?”
คำถามนั้นทำให้ตะวันรู้สึกสะดุ้งเล็กน้อย เขาหลบสายตาของภาคิน และตอบด้วยน้ำเสียงที่ไม่เป็นธรรมชาติ
“ก็...มีบ้างครับพ่อ”
“แล้ว...ตัวมึงล่ะ? มีใครที่ถูกใจบ้างหรือยัง?” ภาคินถามต่อ สายตาจับจ้องอยู่ที่ตะวันอย่างรอคอยคำตอบ
ตะวันรู้สึกเหมือนมีก้อนอะไรมาจุกอยู่ที่คอ เขาไม่กล้าที่จะสบตาพ่อ และไม่รู้ว่าจะตอบคำถามนี้อย่างไร ความรู้สึกที่เขามีต่อภาคิน มันซับซ้อนและแตกต่างจากการมีความรักแบบหนุ่มสาวทั่วไป
“ผม...ผมยังไม่คิดถึงเรื่องนั้นเลยครับพ่อ ขอตั้งใจเรียนก่อน” ตะวันตอบเลี่ยงๆ
ภาคินถอนหายใจเบาๆ “อืม...ก็แล้วแต่มึง” แต่ในแววตาของเขากลับมีความผิดหวังเล็กน้อย
หลังจากบทสนทนาสั้นๆ นั้น ความเงียบก็กลับมาปกคลุมบรรยากาศอีกครั้ง ตะวันรู้สึกได้ถึงความอึดอัดที่เพิ่มมากขึ้น เขาไม่สบายใจที่ต้องโกหกพ่อ และรู้สึกผิดที่ความรู้สึกของตัวเองกำลังสร้างรอยร้าวในความสัมพันธ์ของพวกเขา
ตลอดช่วงสุดสัปดาห์ ตะวันพยายามที่จะหาโอกาสพูดคุยกับภาคินอย่างเปิดอก แต่ความรู้สึกเขินอายและความกลัวที่จะถูกปฏิเสธ ก็ทำให้เขาไม่กล้าที่จะเริ่มต้นบทสนทนาที่สำคัญนั้น
ในคืนก่อนที่ตะวันจะเดินทางกลับมหาวิทยาลัย ภาคินเดินเข้ามาในห้องนอนของเขาขณะที่กำลังเก็บของ
“ไอ้ตะวัน...มีอะไรไม่สบายใจก็บอกพ่อได้นะ กูอาจจะช่วยอะไรมึงไม่ได้มาก แต่กูก็อยากรับฟัง” ภาคินเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง
ตะวันเงยหน้ามองพ่อ แววตาของภาคินเต็มไปด้วยความห่วงใย ความรู้สึกผิดในใจของตะวันยิ่งทวีความรุนแรงขึ้น
“ไม่มีอะไรจริงๆ ครับพ่อ ผมแค่...คิดถึงเรื่องเรียน” ตะวันยังคงเลือกที่จะเก็บซ่อนความลับของตัวเองไว้
ภาคินถอนหายใจอีกครั้ง “เออ...ถ้ามึงว่าไม่มีอะไร ก็แล้วไป แต่ถ้ามีมึงเปลี่ยนใจ ก็บอกกูนะ”
หลังจากนั้น ทั้งสองคนก็ไม่ได้พูดอะไรกันอีก ความเงียบที่ยาวนานปกคลุมห้องนอนเล็กๆ นั้น ราวกับเป็นสัญลักษณ์ของระยะห่างที่กำลังก่อตัวขึ้นระหว่างพ่อลูก
การเดินทางกลับมหาวิทยาลัยในครั้งนี้ ตะวันรู้สึกหนักใจกว่าทุกครั้ง ความอึดอัดและความเงียบที่เกิดขึ้นระหว่างเขากับภาคิน ทำให้เขารู้สึกไม่สบายใจอย่างมาก เขาตระหนักดีว่าความสัมพันธ์ของพวกเขากำลังมาถึงทางแยกที่สำคัญ หากเขาไม่ทำอะไรสักอย่าง ความห่างเหินนี้อาจจะกลายเป็นรอยร้าวที่ยากจะเยียวยา
ตะวันนั่งมองออกไปนอกหน้าต่างรถโดยสาร ความคิดต่างๆ วนเวียนอยู่ในหัว เขาต้องตัดสินใจว่าจะทำอย่างไรกับความรู้สึกที่ต้องห้ามนี้ จะเก็บซ่อนมันไว้ต่อไป หรือจะเสี่ยงเปิดเผยมันออกไป และต้องเผชิญหน้ากับผลลัพธ์ที่อาจจะตามมา
ความเงียบระหว่างพ่อลูกเริ่มยาวนานขึ้นเรื่อยๆ ราวกับเป็นสัญญาณเตือนว่าบางสิ่งบางอย่างกำลังเปลี่ยนแปลงไป และตะวันไม่รู้ว่าจะสามารถแก้ไขสถานการณ์นี้ได้อย่างไร...
(โปรดติดตามตอนต่อไป)
สนุกมากครับ สนุกมากครับ มากคับๆๆ ขอบคุณมากๆครับ กำลังจะเยิ่นเย้อมากไป ขอบคุณครับ
เครื่องสลายหมอกความขุ่นมัวโดยด่วน สนุกมากครับ มากคับๆๆ เห้อออออ ละคร ช่อง 7 บบอกไปจบๆ รอติดตามต่อครับ ขอบคุนครับ ต้องเผชิญหน้ากับสิ่งที่จะตามมา
หน้า:
[1]