Artit010 โพสต์ เมื่อวาน 17:42

วันนั้น...ที่ตะวันหวนคืน (บท1)

บทที่ ๑: หวนคืนสู่อดีต
ความมืดมิดค่อยๆ จางหายไป สิ่งแรกที่ตะวันรู้สึกคือความหนักอึ้งที่แผ่ซ่านไปทั่วศีรษะ ราวกับมีค้อนทุบลงมาซ้ำๆ ตามด้วยความแสบร้อนในลำคอที่กลืนน้ำลายแต่ละครั้งช่างยากเย็น ร่างกายปวดเมื่อยไปทุกส่วน ราวกับเพิ่งผ่านการวิ่งมาราธอนมาหมาดๆ
เปลือกตาหนักอึ้งค่อยๆ เปิดออก แสงสลัวลอดผ่านม่านลายดอกไม้เก่าๆ ที่คุ้นเคย ภาพแรกที่ปรากฏตรงหน้าคือเพดานไม้เก่าๆ ที่มีรอยคราบฝุ่นจับเกรอะกรัง นั่นคือเพดานห้องนอนของเขา...เมื่อสิบกว่าปีก่อน
หรือว่านี่คือนรก? แต่ทำไมถึงไม่ร้อนเลยล่ะ
“เกิดอะไรขึ้น?” เสียงแหบแห้งพึมพำออกมาจากลำคอที่แห้งผาก
ภาพสุดท้ายที่จำได้คือแสงไฟสีแดง เสียงหวีดหวิวของรถพยาบาล และความเจ็บปวดที่แล่นริ้วไปทั่วร่าง ก่อนที่ทุกอย่างจะดับวูบไป
แล้วทำไมเขาถึงมาอยู่ที่นี่ได้?
ความทรงจำค่อยๆ ไหลบ่าเข้ามา ราวกับภาพยนตร์ที่ฉายซ้ำ ตะวันจำได้ถึงปากเสียงรุนแรงกับภาคินผู้เป็นพ่อ ก่อนที่เขาจะขับรถออกไปด้วยความโกรธ และอุบัติเหตุที่คร่าชีวิตเขาไป...
“พ่อ...” เสียงเรียกแผ่วเบา ราวกับคนละเมอ
ประตูห้องค่อยๆ แง้มออก ปรากฏร่างสูงใหญ่ที่คุ้นเคย ภาคินในวัยที่ยังไม่โรยราเท่าเมื่อวาน ใบหน้าคมสันที่เริ่มมีรอยย่นเล็กน้อย ดวงตาที่เต็มไปด้วยความกังวลเมื่อเห็นเขาตื่น
“ไอ้ตะวัน! ฟื้นแล้วเหรอ? เป็นยังไงบ้าง?” เสียงทุ้มต่ำเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง เดินเข้ามาใกล้เตียงอย่างรวดเร็ว
ตะวันจ้องมองใบหน้าพ่ออย่างไม่อยากเชื่อสายตา นี่คือพ่อของเขา...พ่อที่เขาทะเลาะด้วยเมื่อวาน...พ่อที่เขาคิดว่าเขาจะไม่มีโอกาสได้เห็นหน้าอีกแล้ว
“พ่อ...” ตะวันเรียกอีกครั้ง น้ำตาคลอเบ้าด้วยความรู้สึกหลากหลาย ทั้งตกใจ ดีใจ และสับสน
ภาคินทรุดตัวลงนั่งข้างเตียง เอื้อมมือมาแตะหน้าผากของตะวันอย่างเบามือ “ตัวยังร้อนจี๋อยู่เลย มึงเป็นไข้หนักมาสองวันแล้ว ไม่ยอมตื่นมากินยา”
ไข้หนัก? สองวัน? ความทรงจำเริ่มปะติดปะต่อกันช้าๆ ตะวันจำได้ลางๆ ว่าก่อนจะเปิดเทอม ม.4 เขาล้มป่วยด้วยไข้หวัดใหญ่ครั้งใหญ่ เล่นเอาซมไปหลายวัน
“นี่มัน...” ตะวันพยายามรวบรวมสติ “นี่มันปีไหนกันแน่?”
ภาคินขมวดคิ้วมองลูกชายด้วยความสงสัย “มึงเพ้ออะไรวะไอ้ลูกชาย นี่มันช่วงปิดเทอม ม.3 จะขึ้น ม.4 ไง มึงไม่สบายจนเบลอไปหมดแล้ว”
ปิดเทอม ม.3 จะขึ้น ม.4...อายุ 15 ปี...ตะวันรู้สึกราวกับถูกฟ้าผ่ากลางศีรษะ เขา...เขาย้อนเวลากลับมาจริงๆ เหรอ? กลับมาในช่วงเวลาที่เขากำลังป่วยหนัก ก่อนที่จะชีวิตของเขาจะดำเนินไปในทิศทางที่ผิดพลาด
ความสับสนถาโถมเข้ามาอีกครั้ง ความทรงจำในอนาคต ความเสียใจ ความสำนึกผิด และโอกาสที่สองที่ได้รับ มันปะปนกันจนตะวันรู้สึกราวกับศีรษะจะระเบิด
“ตะวัน! เป็นอะไรไป? หน้าซีดหมดแล้ว” เสียงภาคินเรียกสติกลับมา
ตะวันสูดลมหายใจลึกๆ พยายามควบคุมความสั่นคลอนในน้ำเสียง “ผม...ผมไม่รู้ครับพ่อ ผมรู้สึกแปลกๆ เหมือนฝันร้าย”
ภาคินลูบหัวลูกชายเบาๆ “เออ มึงมันไข้สูงจนเพ้อไปหมดแล้ว เดี๋ยวพ่อไปเอายาลดไข้มาให้กิน แล้วนอนพักผ่อนเยอะๆ”
ขณะที่ภาคินลุกขึ้นเดินออกจากห้อง ตะวันมองตามแผ่นหลังกว้างนั้นด้วยความรู้สึกที่ท่วมท้น โอกาสที่สอง...เขาได้รับโอกาสที่สองจริงๆ
ความทรงจำในอนาคตไหลบ่าเข้ามาอีกครั้ง ภาพปากเสียงรุนแรง น้ำตาของพ่อ และอุบัติเหตุที่คร่าชีวิตเขาไป มันยังคงสดใหม่ราวกับเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวาน
‘ไม่...จะไม่ให้มันเกิดขึ้นอีก’ ตะวันให้สัญญากับตัวเองในใจ ‘ฉันจะเปลี่ยนแปลงทุกอย่าง ฉันจะเป็นลูกชายที่ดีของพ่อ’
เมื่อภาคินกลับเข้ามาพร้อมกับแก้วน้ำและยาเม็ดเล็กๆ ตะวันพยายามฝืนยิ้มให้พ่อ
“ขอบคุณครับพ่อ” เสียงยังคงแหบแห้ง แต่แฝงไปด้วยความตั้งใจ
ภาคินมองหน้าลูกชายอย่างพิจารณา “มึงดูแปลกไปนะวันนี้ ปกติไม่เคยพูดขอบคุณ”
ตะวันรีบแก้ตัว “ผม...ผมรู้สึกไม่ค่อยดี ก็เลยอยากจะขอบคุณพ่อที่ดูแล” เขาต้องระมัดระวังในการแสดงออก ไม่ให้พ่อสงสัยในความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว
“เออๆ กินยาแล้วนอนพักผ่อนซะ” ภาคินไม่ได้ติดใจสงสัยอะไรมากนัก เพียงแค่คิดว่าลูกชายคงจะเบลอเพราะพิษไข้
หลังจากกินยา ตะวันนอนพักผ่อนตามที่พ่อบอก แต่ในหัวของเขากลับเต็มไปด้วยความคิดมากมาย เขาต้องวางแผนว่าจะใช้โอกาสที่สองนี้อย่างไร เขาจะแก้ไขความสัมพันธ์กับพ่อได้อย่างไร และเขาจะป้องกันไม่ให้เหตุการณ์ร้ายแรงในอนาคตเกิดขึ้นซ้ำรอยได้อย่างไร
การป่วยหนักครั้งนี้ อาจจะเป็นข้ออ้างที่ดีในการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของเขา จากเด็กวัยรุ่นที่ค่อนข้างเกเร ไม่ใส่ใจพ่อ กลายเป็นลูกชายที่อ่อนแอและต้องการการดูแลเอาใจใส่ ซึ่งจะทำให้ภาคินไม่สงสัยในการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น
‘ฉันต้องเริ่มจากตรงนี้’ ตะวันคิด ‘ใช้ความป่วยเป็นจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลง’
ตลอดวันที่เหลือ ตะวันนอนพักผ่อนและคิดทบทวนเรื่องราวในอดีต เขาพยายามจดจำเหตุการณ์สำคัญต่างๆ ที่เกิดขึ้นในช่วงวัยนี้ เพื่อที่จะได้เตรียมพร้อมและป้องกันไม่ให้เกิดความผิดพลาดซ้ำรอย
เมื่อถึงช่วงเย็น ป้าศรีเพื่อนบ้านที่สนิทสนมกับครอบครัว ก็แวะมาเยี่ยมตะวันด้วยความเป็นห่วง
“อ้าว! ไอ้หนูตะวันตื่นแล้วเหรอ? ป้าได้ยินว่าป่วยหนักเลยรีบมาดู” ป้าศรีเอ่ยทักด้วยน้ำเสียงใจดี
ตะวันพยายามลุกขึ้นนั่งไหว้ป้าศรีอย่างอ่อนแรง “สวัสดีครับป้า ขอบคุณครับที่เป็นห่วง”
“เป็นอะไรมากไหมเรา? หน้าตาไม่ค่อยดีเลย” ป้าศรีถามพลางลูบหัวตะวันเบาๆ
“ไข้หวัดใหญ่มันเล่นงานน่ะป้า แต่ตอนนี้ดีขึ้นเยอะแล้วครับ” ตะวันตอบ
ภาคินเดินเข้ามาสมทบ “ก็เพิ่งตื่นเมื่อกี้นี่แหละป้าศรี ยังต้องพักผ่อนอีกเยอะ”
“ดีแล้วๆ หายไวๆ นะไอ้หนู ลุงภาคินแกเป็นห่วงแทบแย่” ป้าศรีหันไปแซวภาคิน
ภาคินทำหน้าไม่พอใจเล็กน้อย “ใครเป็นห่วงมัน ป่วยก็เรื่องของมัน” แต่แววตาที่มองตะวันกลับเต็มไปด้วยความกังวล
ตะวันสังเกตเห็นแววตาของพ่อ หัวใจของเขาก็อบอุ่นขึ้นเล็กน้อย แม้พ่อจะปากแข็ง แต่เขาก็รักและเป็นห่วงเขาเสมอ
‘ฉันจะไม่ทำให้พ่อต้องเป็นห่วงอีกแล้ว’ ตะวันให้สัญญากับตัวเองอีกครั้ง โอกาสที่สองนี้ เขาจะใช้มันอย่างคุ้มค่าที่สุด เพื่อแก้ไขอดีต และสร้างอนาคตใหม่ที่ดีกว่าเดิม สำหรับเขาและสำหรับพ่อ...
(โปรดติดตามตอนต่อไป)

ฝากติดตามเอาใจช่วยตะวันด้วยนะครับ น้องกลับตัวกลับใจแล้ว
แล้วเจอกันใหม่ตอนหน้าครับ

Ken09 โพสต์ เมื่อวาน 17:57

รอๆตอนต่อไปคับ

nuangnut1996 โพสต์ เมื่อวาน 18:58

สนุกมากครับ

being2be โพสต์ เมื่อวาน 19:50

ขอบคุณมากครับ

lekthai โพสต์ เมื่อวาน 20:34

ขอบคุณ

xoman โพสต์ เมื่อวาน 20:41

ขอบคุณครับ

Bebou_260 โพสต์ เมื่อวาน 20:49

ขอบคุณครับ

kuminum โพสต์ เมื่อวาน 20:55

ขอบคุณมากครับ

Mr.mmm โพสต์ เมื่อวาน 22:03

ขอบคุนคับ

takeshi โพสต์ เมื่อวาน 22:11

ขอบคุณครับ

redboy โพสต์ 8 ชั่วโมงที่แล้ว

เริ่มได้ดีเลย

Guds โพสต์ 7 ชั่วโมงที่แล้ว

ชอบครับไม่ค่อยเห็นเส้นเรื่อวแนวนี้

thai_boys โพสต์ 7 ชั่วโมงที่แล้ว

ขอบคุณมากๆครับ
หน้า: [1]
ดูในรูปแบบกติ: วันนั้น...ที่ตะวันหวนคืน (บท1)