rupnong โพสต์ 2025-4-23 10:52:21

มี 40 ซื้อ  คุณต้องจ่าย 20 Zenny เพื่ออ่านกระทู้นี้ จ่ายเงินสำหรับกระทู้นี้

rupnong โพสต์ 2025-4-23 10:53:22

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย rupnong เมื่อ 2025-4-23 10:54

วันที่สอง: ร่างกายและจิตใจ

แสงแดดยามเช้าสาดผ่านรอยแตกผนังไม้ในห้องโถงชั้นล่างของหอสิงห์ ลำแสงสีส้มจางส่องพื้นไม้ขรุขระที่เปื้อนรอยเท้าและคราบเหงื่อ น้องใหม่ทั้ง 20 คนยังคงนอนกองรวมกันบนพื้น เสียงกรนผสมลมหายใจดังในความเงียบ จู่ ๆ เสียงลั่นเอี๊ยดจากชั้นสองดังราวมีคนเหยียบพื้นไม้ พงษ์สะดุ้งตื่น มองเพดาน แต่เสียงนั้นก็เงียบลงก่อนเขาจะแน่ใจว่ามันคือเสียงอะไร

ไม่ทันที่พงษ์จะตื่นดี เสียงไม้เรียวตีผนังดัง—ปัง! ปัง! ปัง!—ฝุ่นร่วงจากเพดาน น้องใหม่ทั้งหมดก็ตื่นขึ้นด้วยความโกลาหล พี่วิทย์ยืนเด่นตรงกลาง มือถือถังน้ำเย็นใบใหญ่ เขาสาดน้ำเย็นใส่น้องใหม่ทุกคนแทนการปลุก น้ำที่เย็นจัดกระทบผิวพงษ์ราวเข็มที่ทิ่มแทง พงษ์ลุกทันทีพร้อมทั้งปลุกเพื่อนที่ยังครึ่งหลับครึ่งคืนอยู่

ห้องโถงสลัวด้วยแสงหลอดไฟเก่า ผนังไม้มีรอยขูดขีด ข้อความ “ควยแข็งคือเกียรติ” และ “ลูกผู้ชายหอสิงห์ตายไม่เป็น” สลักลึก ข้าง ๆ มีรอยขูดคล้ายตัวอักษร “ห้าม…” ที่ถูกลบ พงษ์ขมวดคิ้วด้วยความสงสัยว่ามันหมายความว่ายังไง บนโต๊ะไม้ผุตั้งตรงกลางห้องมีถังน้ำเย็นวางข้างบน พงษ์แอบเหลืบเห็นเงาในน้ำที่ขุ่นมัว มันดูผิดปกติราวมีคนมอง พงษ์ส่ายหัว คิดว่าเขาคงตาฝาดไปเอง

พี่วิทย์ยืนนิ่งอยู่กลางห้องโถง สายตาเขาเย็นชาราวกับว่าน้องใหม่คือศัตรูของเขา เขาเล่าให้พวกเราฟังว่า “หอสิงห์เกิดจากภาระกิจลับ!”“รุ่นพี่รุ่นแรกเป็นผู้กล้าที่สาบานเป็นเพื่อนกันด้วยควย เมื่อมีน้องใหม่เข้ามา จึงต้องมีการตรวจร่างกาย โดยเฉพาะควยกับตูด เพื่อพิสูจน์ว่าไม่มีความลับกันในที่นี้ ไม่มีความกลัวมีแต่ความภูมิใจในความเป็นลูกผู้ชาย! แต่พวกมึงรู้ไหมหอเรามีรุ่นพี่บางคนทรยศ…และหายไปในเงามืด กูหวังว่าพวกมึงคงไม่ทรยศต่อหอสิงห์นะ การตรวจร่างกายวันนี้นี้คือเกียรติ ถ้าใครอ่อนแอ มึงก็ออกจากหอนี้ไป! ใครทำได้ไม่ดีจะต้องถูกลงโทษ“

ตอนนี้น้องใหม่ทั้ง 20 คน ยืนต่อแถวเปลือยกาย มือประสานหลังศรีษะ ตัวเปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อ พี่วิทย์เดินมาหน้าแถวช้า ๆ เรียกพงษ์ให้ก้าวออกมาหน้าแถว หัวใจพงษ์เต้นรัวราวกะจะระเบิดออกมา พี่วิทย์เดินมาหยุดตรงหน้า สายตาเย็นชาเจาะจิตใจทำให้ความกลัวล้มเหลวของเขาพุ่งขึ้น เขานึกถึงวันที่พ่อตะโกน “มึงไม่คู่ควร!” และคำดูถูกจากเพื่อน “หัวหน้ากาก!” ดังก้อง แต่ความมุ่งมั่นลุกโชน เขาจะพิสูจน์ว่าเขาแข็งแกร่ง เขาจะเป็นผู้นำที่คู่ควร ไม่ทันที่เขาจะเตรียมใจให้พร้อมมือพี่วิทย์ล้วงมาที่ควยของเขา บีบแน่นจนเจ็บราวถูกบีบหัวใจ นิ้วโป้งถูจากโคนถึงปลายช้า ๆ นิ้วชี้วนหัวควยจนพงษ์สะดุ้ง เสียววูบในท้องน้อยเหมือนไฟช็อต ขาสั่นด้วยความเสียวพุ่งขึ้นราวคลื่นกระแทก ความอายต่อหน้าทุกคนทำให้เขาหน้าแดงก่ำ สายตาเพื่อนจ้องมองเขาเหมือนว่าจะสงสาร เขานึกถึงคำว่า “เกียรติ” เขาคิดในใจว่าถ้าวันนี้เขาทนได้ เขาก็จะก้าวข้ามอดีต เขาจะนำเพื่อนให้ผ่านการรับน้องแบบนี้ให้ได้ “ควยมึงแข็งได้สมชื่ออดีตหัวหน้านักเรียนหัวหน้า!” พี่วิทย์ตะโกนใส่หน้าเขา ตอนนี้ความภูมิใจในตัวเขาพุ่งขึ้นราวแสงสว่างในความมืด เขาดีใจที่เขาทนได้ เขาจะไม่ยอมแพ้อะไรแค่นี้ “หันหลัง! โก้งโค้ง! แหกตูด!”พี่วิทย์สั่ง พงษ์ตกใจที่ได้ยินแบบนั้น แต่ก็ด้วยความตั้งใจที่จะผ่านบททดสอบนี้ให้ เขาโก้งโค้งลง มือที่เย็นเฉียบของเขาแหกตูดออก เหงื่อหยดไหลลงร่องตูด ลมเย็นพัดผ่านทำให้หัวใจเต้นรัวอีกครั้ง พี่วิทย์จุ่มนิ้วลงในน้ำมันหล่อลื่นที่เทใส่ถ้วยไว้ เขาวนรอบขอบรูตูดพงษ์ช้า ๆ จนพงษ์รู้สึกเสียววูบ ก่อนล้วงเข้าไป นิ้วกดลึกสุดปลายนิ้ว ผิวหยาบของเขาครูดด้านในตูดของพงษ์ ความเย็นแทรกเข้าไปในความรู้สึกของพงษ์ กระตุ้นความเสียววูบที่ท้อง รูตูดขมิบแน่นเป็นจังหวะ พงษ์หน้าแดง กลั้นน้ำตาจากความอาย ความรู้สึกถูกบุกรุกทำให้อยากหนีออกจากที่แห่งนี้ แต่เขานึกถึงเพื่อน ถ้าทนได้ เขาจะเป็นแสงให้พวกเขา เขาจะนำทีมนี้ให้ผ่านทุกอย่าง พี่วิทย์ขยับนิ้ววน ก่อนดึงออก “ผ่าน! มึงแกร่งดีวะ!” เขาตะโกนเหมือนเป็นรางวัลให้พงษ์ พงษ์ยืดตัวขึ้นก่อนกลับไปยืนในแถวกับเพื่อน ภูมิใจเดือดสุดขีดในใจเขา เขาทำได้ เขาก้าวข้ามความกลัว เขาจะเป็นผู้นำที่คู่ควร เขาจะช่วยเพื่อนให้แข็งแกร่งขึ้น

ขณะมองเพื่อนที่รอตรวจ พงษ์รู้สึกสงสาร ความกลัวที่เขาเผชิญยังหลอน เขาคิดว่าทุกคนต้องต่อสู้อย่างหนักหนักต่อจากนี้ ขณะลมพัดผ่านรอยแตก เขาได้ยินเสียงเหมือนมีอะไรร้องเบา ๆ ทำให้เขาขนลุก


nuangnut1996 โพสต์ 2025-4-23 13:16:38

สนุกมากครับ

Artkaybig54 โพสต์ 2025-4-23 15:09:08

เสียววว

lekthai โพสต์ 2025-4-23 16:39:02

ชอบใจครับ

thai_boys โพสต์ 2025-4-23 18:53:06

ขอขอบคุณมากๆครับสนุกมาก

ninenoi โพสต์ 2025-4-29 01:50:09

ตรวจร่างกายได้เสียวจริง

natpol โพสต์ 2025-5-3 08:52:42

ขอบคุณ

emmill โพสต์ 2025-5-3 12:30:37

ขอบคุณครับ

rupnong โพสต์ 2025-5-8 14:40:38

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย rupnong เมื่อ 2025-5-8 14:41

การตรวจร่างกายเวียนไปแบบนี้จนครบ 20 คน ผมได้แต่นั่งมองเพื่อนด้วยความสงสารแต่ก็ได้แต่ให้กำลังใจอยู่ในใจ แน่นอนครับว่าถ้าใครทำได้ไม่ดีเป็นที่พอใจของพี่วิทย์ ไม้เรียวในมือพี่วิทย์จะได้ทำหน้าที่ของมันละครับ และในบรรดาพวกที่โดนเฆี่ยนนั้นก็มีตั้มและแบงค์ด้วยครับ แม้ว่า 6 ทีจะไม่มากแต่มันก็สร้างความเจ็บปวดทั้งทางกายและทางจิตใจให้กับเพื่อนๆที่โดน

เมื่อตรวจร่างกายครบทุกคนแล้ว พี่วิทย์ก็เดินออกไป ทิ้งน้องใหม่ให้ทรุดนั่งในห้องโถงแต่ลำพัง พงษ์ โจ ตั้ม ก้อง และแบงค์ นั่งรวมเป็นกลุ่มกันวงที่มุมห้อง ตัวเปียกชุ่ม หายใจหอบ พงษ์มองรอยขูดขีดคล้าย “ห้าม…”บนผนัง แล้วสงสัยในใจว่ามันคืออะไร แต่ความสนใจนั้นถูกดึงไปที่เพื่อนเมื่อตั้มเริ่มพูด “มึงเป็นยังไงบ้างวะ พงษ์??” ตั้มถาม

“กูภูมิใจ” เขาพูดด้วยเสียงแหบแต่หนักแน่น “วันนี้นี่แม่งหนักจริงวะ แม่งโคตรอายเลย มันน่ากลัว แต่กูก็ผ่านมาได้ กูรู้สึกว่า…มันจะทำให้กูเป็นผู้นำที่ดีได้” “กูเคยล้มเหลว เคยถูกบอกว่าไม่ดีพอ แต่ที่นี่ทำให้กูรู้ว่า…ถ้าสู้ต่อ กูจะนำพวกมึงผ่านทุกอย่างได้” เขามองเพื่อน ดวงตาเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น “ไม่ว่าเมื่อกี้มันหนักแค่ไหน มึงทุกคนกล้าที่สู้ กูจะช่วยให้พวกมึงแข็งแกร่งขึ้น” เขาคิดถึงวันที่เขาจะนำทีมให้ผ่านบททดสอบต่อไป

โจพยักหน้า มือวางบนเข่า หน้าแดงจากความอายเมื่อครู่ยังไม่จาง “กูด้วย” เขาพูดด้วยเสียงต่ำแต่จริงใจ “กูเคยถูกมองว่าเป็นแค่เด็กเกเร คนที่ไม่มีวันทำอะไรดี ๆ ได้ ตอนที่พี่วิทย์ตรวจกู กูรู้สึกเหมือน…ถูกฉีกออกเป็นชิ้นๆ มันอายจนอยากหายไปจากที่นี้” “แต่เมื่อมันจบ…กูรู้สึกแข็งแกร่งขึ้น กูรู้สึกว่า…กูเป็นได้มากกว่าที่คนอื่นคิด” เขายิ้ม มองพงษ์ “มึงทำให้กูอยากสู้ต่อ มึงทำให้กูรู้ว่า…ถ้ามึงทำได้ กูก็ทำได้” เขามองตั้มและแบงค์ “มึงสองคน…กูเคยรู้สึกเหมือนมึง รู้สึกว่าตัวเองทำอะไรก็ไม่ดี แต่กูเรียนรู้ว่า…ถ้ามึงยังสู้อยู่ มึงจะแข็งแกร่งกว่าที่มึงคิด กูจะช่วยมึงให้ผ่านไปได้ ไม่ว่ามันจะหนักแค่ไหน” ความมุ่งมั่นในน้ำเสียงของโจทำให้พงษ์รู้สึกถึงความผูกพัน เขาคิดว่าโจพร้อมจะยืนเคียงข้างเขาในการนำทีม

ตั้มนั่งกอดเข่า ดวงตาแดงก่ำ น้ำตายังเปียกที่แก้ม “กู…กูอายจนอยากตาย” เขากระซิบด้วยเสียงสั่น “ตอนที่พี่วิทย์ตีกูต่อหน้าทุกคน แล้วตะโกนว่ากูเป็นคนอ่อนแอ กูรู้สึกเหมือน…เหมือนกูมันเป็นแค่ขยะ กูรู้สึกว่าทุกคนมองกูเหมือนตัวตลก” ยิ่งพูดทำให้ น้ำตายิ่งไหล เขานึกถึงสายตาของเพื่อนที่มองเขา ความรู้สึกนั้นทำให้เขาเหมือนเขาถูกตีซ้ำแล้วซ้ำเล่า “กูอยากแข็งแกร่งเหมือนมึงสองคน แต่กูกลัว…กลัวว่ากูจะทำไม่ได้ กูดลัวว่าจะทำให้พวกมึงผิดหวังอีก” เขาก้มหน้า พงษ์รู้สึกเจ็บในใจ เขานึกถึงวันที่เขาเคยรู้สึกไร้ค่า ความกลัวของตั้มเหมือนเงาสะท้อนความเปราะบางของเขา เขาเอื้อมมือวางบนไหล่ตั้ม “มึงกล้าที่ยังยืนอยู่ตรงนั้น” เขาพูดด้วยเสียงหนักแน่นและจริงใจ “กูก็กลัวว่ะ กูกลัวจนอยากหนีไปจากที่นี้ แต่ตั้ม…มึงยอมให้เขาตรวจจนจบ มึงยอมเจ็บ มึงยอมยืนอยู่ต่อหน้าทุกคนแม้ว่าจะมึงจะกลัวจนร้องไห้ นั่นมันแข็งแกร่งแล้ว” เขาหยุดแล้วนึกถึงวันที่เขาต้องการคำพูดแบบนี้ “การที่มึงรู้สึกอาย มันแปลว่ามึงยังอยากดีขึ้น และกูจะช่วยมึงให้แข็งแกร่งขึ้น กูจะไม่ปล่อยให้มึงรู้สึกว่ามึงต้องสู้คนเดียว” ตั้มเงยหน้า มองพงษ์ด้วยดวงตาที่เปียกชื้น “มึง…มึงไม่คิดว่ากูอ่อนแอเหรอ?” เขาถามด้วยเสียงสั่น พงษ์ส่ายหัว “มึงแข็งแกร่งกว่าที่มึงคิด กูจะอยู่ข้างมึง” เขาคิดถึงความภูมิใจที่เขามี และอยากให้ตั้มรู้สึกถึงมันเช่นกัน เขาจะนำตั้มให้ผ่านความกลัวนี้ไปให้ได้

ก้องนั่งเงียบ เขามองพื้นราวครุ่นคิดอะไรบางอย่าง ก่อนพูดขึ้น “พิธีนี่มันหนักจนกูคิดว่ากูจะลาออกจากที่นี้แล้ววะ” เสียงนิ่งแต่หนักแน่น “ตอนที่พี่วิทย์ตรวจกู กูรู้สึกเหมือน…เหมือนกูไม่มีความสามารถปกป้องตัวเองได้เลย มันทำให้กูรู้สึกแย่ แต่วินาทีที่มันจบ…กูรู้สึกว่า…กูสู้จนผ่านมันมาได้” เขามองพงษ์ “ที่มึงพูด…กูเริ่มเข้าใจแล้ว มึงทำให้กูรู้สึกว่า…ถ้าเรายังอยู่ด้วยกัน เราจะผ่านได้ทุกอย่าง” เขามองตั้มและแบงค์ “มึงสองคน…มึงกล้าที่จะยอมเจ็บ มึงกล้าที่จะยอมให้ทุกคนเห็นมึงในตอนที่มึงกลัว นั่นมันไม่ใช่ความอ่อนแอ มันคือความกล้า” เขามองไปที่ผนังที่มีรอยขูดขีดแปลก ๆ “แต่…กูสงสัยว่ะ คำว่า ‘ทรยศ’ ที่พี่วิทย์พูด… แม่งคืออะไรวะ มันทำให้กูรู้สึกว่า…หอนี้มีอะไรที่เรายังไม่รู้” พงษ์พยักหน้า เขารู้สึกถึงความสงสัยเดียวกัน เขาคิดถึงเสียงลั่นจากชั้นสอง และเงาในน้ำขุ่น “กูก็คิดแบบนั้น” เขาพูด “และกูจะหาความจริงให้ได้” เขารู้สึกถึงความรับผิดชอบในฐานะผู้นำที่จะนำทีมไปค้นหาคำตอบของหอนี้

แบงค์นั่งตัวงอ ตัวยังสั่นจากพิธี มือกำผ้าขี้ริ้วแน่นจนข้อนิ้วซีด “กู…กูอายจนอยากตาย” เขากระซิบ เสียงสั่น “ตอนที่พี่วิทย์ตีกู แล้วตะโกนว่ากูอ่อนต่อหน้าทุกคน กูรู้สึกเหมือน…เหมือนกูมันไม่มีอะไรดีเลย ตอนยืนท่าอึดอัด ขากูสั่นจนกูคิดว่ากูจะล้ม มันเจ็บ แต่มันเจ็บใจยิ่งกว่า กูรู้สึกว่า…กูทำให้พวกมึงอายที่มีกูอยู่ในกลุ่ม” เขาหยุด น้ำตาไหลลงแก้ม ความรู้สึกอับอายและเสียใจทำให้เขารู้สึกเหมือนถูกทิ้งให้จมอยู่ในความมืด เขานึกถึงสายตาของทุกคนในพิธี ความรู้สึกนั้นเหมือนถูกตีซ้ำแล้วซ้ำเล่า “กูอยากแข็งแกร่งเหมือนมึงสองคน แต่กูกลัว…กลัวว่ากูจะทำไม่ได้” เขาก้มหน้า พงษ์รู้สึกเจ็บในใจ เขานึกถึงวันที่เขาเคยรู้สึกว่าเขาไม่มีค่า ความกลัวของแบงค์เหมือนเงาสะท้อนความเปราะบางของเขา เขาเอื้อมมือวางบนไหล่แบงค์ “มึงยังอยู่ที่นี่” เขาพูด เสียงหนักแน่น “มึงยอมให้เขาตรวจ มึงยอมเจ็บ มึงยอมยืนต่อหน้าทุกคนแม้ว่าจะกลัวจนร้องไห้ นั่นมันกล้า มึงไม่ได้ทำให้กูอาย มึงทำให้กูรู้สึกว่า…เราจะผ่านมันไปด้วยกัน” เขาหยุด นึกถึงวันที่เขาต้องการคนที่เชื่อในตัวเขา “กูเคยรู้สึกเหมือนมึง ว่ากูไม่ดีพอ แต่พิธีนี่ทำให้กูรู้ว่า…ถ้าเรายังสู้ต่อ มันคือเกียรติของเรา กูจะช่วยมึงให้แข็งแกร่งขึ้น กูจะนำมึงให้ผ่านไปได้” แบงค์เงยหน้า มองพงษ์ด้วยดวงตาที่เปียกชื้น “มึง…มึงคิดว่ากูจะทำได้จริง ๆ เหรอ?” เขาถาม เสียงสั่น พงษ์พยักหน้า “กูเชื่อในตัวมึง” เขาคิดถึงความภูมิใจที่เขาได้จากพิธี และอยากให้แบงค์รู้สึกถึงมันเช่นกัน เขาจะช่วยแบงค์ให้ยืนหยัดได้เหมือนที่เขาทำได้ โจมองแบงค์“กูจะช่วยมึง ไม่ว่ามันจะหนักแค่ไหน กูจะยืนข้างมึง” เขาหยุด นึกถึงวันที่เขาต้องการคนที่ยอมรับเขา ความมุ่งมั่นของโจทำให้พงษ์รู้สึกว่าเขามีเพื่อนร่วมทาง เขาคิดถึงวันที่เขาจะนำทีมไปหาความจริงเกี่ยวกับหอนี้ และโจจะเป็นคนที่ช่วยเขาได้

ตั้มถอนหายใจยาว “กู…กูรู้สึกเจ็บใจวะ” เขาพูด “ตอนที่พี่วิทย์ตีกู มันไม่ใช่แค่เจ็บตัว มันเจ็บในใจ กูรู้สึกเหมือน…ทุกคนมองว่ากูมันแย่ กูรู้สึกเหมือนถูกตีตราว่ากูอ่อนแอ” เขาน้ำตาคลอ “กูอยากแข็งแกร่งเหมือนมึงสองคน แต่กูกลัว…กลัวว่ากูจะทำให้พวกมึงอายอีก” เขาก้มหน้า พงษ์มองตั้ม นึกถึงวันที่เขากลัวเหมือนกัน เขาคิดถึงวันที่เขาต้องการคนที่บอกว่าเขายังมีโอกาส “มึงไม่ต้องแข็งแกร่งคนเดียว” เขาพูด “เมื่อกี้มันหนักสำหรับทุกคน แต่มึงยอมเจ็บ มึงยอมยืนต่อหน้าทุกคน นั่นมันกล้าแล้ว กูเคยกลัวเหมือนมึง แต่กูยอมให้เข้าตรวจ และกูก็ผ่านมาได้ มึงก็เหมือนกัน” “กูจะช่วยมึงให้ยืนได้เหมือนที่กูยืนได้ กูจะนำทีมนี้ และมึงจะเป็นส่วนหนึ่งของมัน” ตั้มมองพงษ์ “มึง…มึงจะไม่ทิ้งกูจริง ๆ เหรอ?” เขาถาม พงษ์พยักหน้า “จริง” ตั้มยิ้มเล็ก ๆ ความหวังเริ่มสว่างในดวงตา เขาคิดถึงความอับอายเมื่อครู่ แต่คำพูดของพงษ์ทำให้เขารู้สึกว่าเขายังมีโอกาส

ก้องมองทุกคนด้วยสายตาที่เป็นมิตร “กูไม่เคยคิดว่าเราจะคุยกันแบบนี้” เขาพูด “วันนี้มันโหดมาก เกิดมากูไม่เคยโดนอะไรแบบนี้เลย แต่…มันทำให้กูรู้ว่าเราคือทีม มึงทุกคน…มึงทำให้กูรู้สึกว่าเราจะผ่านได้ถ้าเรายังอยู่ด้วยกัน” เขามองตั้มและแบงค์ “มึงสองคน…มึงกล้าที่จะยอมเจ็บ มึงกล้าที่จะยอมให้ทุกคนเห็นมึงในตอนที่มึงกลัว มึงทำให้กูรู้สึกว่า…ถ้าเรายังช่วยกัน ไม่มีอะไรที่เราทำไม่ได้” เขาหยุด มองไปที่ผนังที่มีรอยขูดขีดแปลก ๆ “แต่…คำว่า ‘ทรยศ’ ที่พี่วิทย์พูด มันทำให้กูรู้สึกว่า…มีอะไรที่เรายังไม่รู้เกี่ยวกับหอนี้” พงษ์รู้สึกถึงความสงสัยเดียวกัน “กูจะหาคำตอบให้ได้” เขาพูดด้วยเสียงหนักแน่น “ไม่ว่ามันจะเป็นอะไร กูจะนำพวกมึงไปหาความจริง” เขาคิดถึงรอยขูดขีด “ห้าม…” และเงาในน้ำขุ่น ความมุ่งมั่นของเขาจะนำทีมไปสู่ความจริง

แบงค์น้ำตาคลอ “กูขอบใจพวกมึงนะ คำพูดของมึง มันทำให้กูรู้สึกว่า…กูอาจจะยังมีโอกาสที่จะพิสูจน์ตนเอง” เขายิ้มเล็ก ๆ “กูจะพยายาม กูไม่อยากให้มึงผิดหวัง” พงษ์ยิ้ม “มึงจะทำได้” เขาพูด “กูจะช่วยมึงทุกก้าว” โจพยักหน้า “กูด้วย” เขาพูด แบงค์มองทั้งสองคน “ขอบคุณ” เขากระซิบ ความหวังเริ่มสว่างในใจ เขาคิดถึงความอับอายเมื่อครู่ แต่รู้สึกว่าเขาจะยืนหยัดได้ถ้ามีเพื่อน

rupnong โพสต์ 2025-5-8 14:43:40

Artkaybig54 ตอบกลับเมื่อ 2025-4-23 15:09
เสียววว

มากไหมครับ

rupnong โพสต์ 2025-5-10 07:29:17

น้องใหม่ทั้ง 20 คนนั่งรอบห้องโถง ตัวเปียกชุ่มจากเหงื่อ ท้องของทุกคนร้องดังจนบางคนกุมท้องด้วยความเจ็บปวดจากความหิว พงษ์นั่งพิงผนัง มองรอยขูดขีด “ห้าม…” ที่เลือนลางบนไม้ด้วยความสงสัย จู่ ๆ เสียงลั่นเอี๊ยดจากชั้นสองดังแว่ว ทำให้ตั้มที่นั่งกอดเข่าข้าง ๆ สะดุ้ง มองเพดานด้วยดวงตาหวาดกลัว

“มึงได้ยินป่ะ?” ตั้มกระซิบ พงษ์ขมวดคิ้ว “ลมมั้ง… หรือรุ่นพี่แกล้ง?” เขาตอบ แต่ในใจไม่แน่ใจ โจที่นอนยืดตัวข้าง ๆ หัวเราะ “ถ้าเป็นผี กูชกให้แม่งจมดิน!” ก้องนั่งเงียบ มองถังน้ำเย็นบนโต๊ะไม้ผุตรงกลางห้อง แสงสะท้อนในน้ำขุ่นดูผิดปกติราวมีเงามืดเคลื่อนไหว แบงค์นั่งตัวสั่นจากความหนาวและความกลัว “กูหิว…” เขากระซิบ แต่ไม่มีใครได้ยิน

ประตูไม้ผุด้านหน้าห้องโถงถูกเตะเปิดดังโครม พี่บอย รุ่นพี่ปี 3 เดินเข้ามา ถือถังเหล็กเก่า ๆ ที่ส่งกลิ่นข้าวต้มจืดผสมกลิ่นคาวแปลก ๆ เขาวางถังลงบนโต๊ะไม้ ปัง! ฝุ่นกระจายคลุ้งเต็มห้อง รุ่นพี่คนอื่น ๆ เดินตามเข้ามา ล้อมเป็นกำแพงมนุษย์ ถือไม้เรียวในมือพร้อมลงโทษ พี่บอยพ่นควันบุหรี่ออกจากปาก มองน้องใหม่ด้วยสายตาเยาะเย้ย “ลูกผู้ชายหอสิงห์ไม่ตายเพราะความหิว! แต่ถ้าควยมึงไม่แข็ง มึงก็ไม่คู่ควรได้กิน!” เสียงเขาดังก้องราวฟ้าผ่า

พี่บอยยกไม้เรียวชี้ไปที่ถังข้าวต้ม “กฎง่าย ๆ จับคู่กันเหมือนตอนจูงช้าง ป้อนข้าวต้มให้กันด้วยมือเปล่า ห้ามใช้ช้อนหรือจาน ทุกคำที่ป้อน ต้องตะโกน ‘ควยแข็งคือเกียรติ!’ ให้ดัง ถ้าทำข้าวหก ควยไม่แข็ง หรือเสียงไม่ดัง คู่มึงโดนเฆี่ยน 3 ที แล้ววิ่งรอบหอ 5 รอบ! มีเวลา 20 นาที เริ่ม!”

น้องใหม่รีบลุกขึ้นยืนล้อมโต๊ะไม้ ข้าวต้มในถังมีสีขุ่นข้น มีเศษใบไม้หรืออะไรบางอย่างลอยปนมา พงษ์ไม่รอช้า หันไปหาโจ “มึงคู่กูเหมือนเดิม!” ตั้มมองก้องด้วยสายตาลังเล “กู… คู่มึงได้มั้ย?” ก้องพยักหน้า “มาเลย มึงอย่าทำหกก็พอ” แบงค์ยืนเคว้ง จนเต้ หนุ่มสูงผอมจากอยุธยา เดินมาพูดเงียบ ๆ “คู่กูมั้ย?” แบงค์พยักหน้าด้วยความโล่งใจ

พงษ์ตักข้าวต้มด้วยมือที่สั่นเล็กน้อยจากความหิว น้ำขุ่นหยดลงตามนิ้ว เขาป้อนคำแรกให้โจ พร้อมตะโกน “ควยแข็งคือเกียรติ!” เสียงดังก้องทั่วห้อง โจกลืนข้าวอย่างยากลำบาก หน้าเหยเกจากรสจืดและกลิ่นคาว “มึงป้อนกูเหมือนป้อนเด็กเลยวะ!” เขาแซว พงษ์ยิ้ม แต่ในใจนึกถึงวันที่พ่อเขาบังคับให้กินข้าวแห้ง ๆ เพื่อฝึกความอดทน “ถ้ากูทนได้ เพื่อนกูก็ต้องทน” เขาคิด เมื่อถึงตาของโจ โจป้อนข้าวแรงจนเลอะปากพงษ์ “กินให้หมด ไอ้หัวหน้า!” รุ่นพี่ในแถวตะโกนพร้อมหัวเราะ พงษ์กลืนข้าว พร้อมด้วยควยที่ตื่นจากอะดรีนาลีน เขารู้สึกถึงความผูกพันที่เริ่มก่อตัว

ส่วนตั้มตักข้าวต้มด้วยมือที่เย็นเฉียบ มือสั่นจนข้าวหยดลงพื้น เขาตะโกนเบา ๆ “ควยแข็งคือเกียรติ…” เสียงแผ่วจนแทบไม่ได้ยิน พี่บอยหันขวับ ไม้เรียชี้ตรงมาที่เขา “มึงทำข้าวหก! เสียงก็อ่อน! ลูกผู้ชายหอสิงห์ต้องแกร่งกว่านี้!” ตั้มหน้าแดงก่ำ น้ำตาคลอ เขานึกถึงวันที่พี่ชายตะโกนว่า “มึงมันตุ๊ด!” ก้องก้าวออกมา “ผมขอรับโทษแทนมันได้มั้ยครับ?” เขาพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่น พี่บอยหัวเราะเยาะ “ใจนักเลงเหรอ? ได้! คู่มึงวิ่งรอบหอ 5 รอบ เดี๋ยวนี้!” รุ่นพี่ตบไม้เรียว ปัง! ตั้มมองก้องด้วยความรู้สึกผิด “กู… ขอโทษ” ในขณะที่ทั้งคู่รีบวิ่งออกไปนอกหอ

ในขณะที่แบงค์ตักข้าวต้มด้วยมือที่สั่น ป้อนให้เต้ช้า ๆ พร้อมตะโกน “ควยแข็งคือเกียรติ!” เสียงแบงค์สั่นแต่พยายามดัง เขากลัวถูกตีเหมือนตั้ม เศษข้าวเลอะนิ้วเขา ขณะตักคำต่อไป เขาสังเกตเห็นเศษกระดาษเล็ก ๆ ลอยในถัง มีตัวอักษรเลือนลางว่า “ชั้นสอง… อันตราย” เขาตกใจแต่ไม่กล้าพูดอะไร กลัวรุ่นพี่เห็น เขาแอบเก็บกระดาษไว้ในกำมือ เต้กลืนข้าวแล้วพูดเงียบ ๆ “ใจเย็น ๆ กูไม่โทษมึง” คำพูดนั้นทำให้แบงค์รู้สึกอบอุ่น เขาตะโกนดังขึ้นในรอบต่อไป ควยเริ่มตื่นจากความมั่นใจที่เพิ่มขึ้น เต้ยิ้มเล็ก ๆ เป็นครั้งแรกด้วยที่เขาเห็นแบงค์มีความกล้ามากขึ้น

น้องใหม่บางคนทำข้าวหกหรือตะโกนไม่ดัง ก็จะโดนรุ่นพี่ทำโทษ สั่งไปวิ่งบ้าง เฆี่ยนตูดบ้าง เสียงไม้เรียวกระทบตูดดังก้องผสมกับเสียงร้องด้วยความเจ็บปวด กลิ่นเหงื่อและข้าวต้มคาวคลุ้งหนักจนแทบหายใจไม่ออก พงษ์มองเพื่อน ๆ ด้วยความสงสาร แต่รู้ว่าต้องเข้มแข็งเพื่อทีม เขากระซิบกับโจ “เราต้องช่วยตั้มกับก้อง” โจพยักหน้า “กูไม่ปล่อยให้เพื่อนโดนแบบนี้อีกแน่”

ตั้มและก้องซึ่งถูกไล่ออกไปนอกหอ ตั้มวิ่งด้วยขาที่สั่นจนแทบล้ม น้ำตาไหลลงแก้ม เขารู้สึกอายที่ทำให้ก้องต้องรับโทษด้วย “กู… ขอโทษ” เขาพูดด้วยเสียงขาด ๆ หาย ๆ ก้องที่วิ่งข้าง ๆ หายใจหอบแฮก “มึงอย่าคิดมาก กูเลือกช่วยมึงเอง” เขาพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่น “ตอนกูยิงบาสพลาด ไม่มีเพื่อนคนไหนช่วยกูเลย กูไม่อยากให้มึงรู้สึกแบบนั้น” คำพูดนั้นทำให้ตั้มรู้สึกเหมือนมีคนยอมรับเขา เขากัดฟันวิ่งต่อ แม้ท้องจะร้องด้วยความหิว เขาสูดหายใจลึกพร้อมกับบอกก้องด้วยเสียงกระซิบ “กูจะไม่ทำให้มึงผิดหวังอีก”

เมื่อทั้งคู่วิ่งครบ 5 รอบ กลับมาที่หน้าหอ พงษ์และโจรีบวิ่งไปช่วยพยุงเพื่อน โจด้วยความโมโหตะโกนใส่พี่บอย “ทำไมต้องโหดขนาดนี้วะ!” พี่บอยยิ้มเยาะ “ถ้ามึงไม่แกร่ง มึงก็ตายในหอนี้!” พงษ์รู้สึกโกรธแต่เก็บอารมณ์ไว้ เขาหันไปบอกตั้ม “มึงเก่งว่ะ วิ่งจนครบ” ตั้มซบลงที่ไหล่ก้อง ร้องไห้เบา ๆ “ขอบคุณที่ไม่ทิ้งกู” ก้องตบไหล่ตั้ม “เราเป็นทีม” เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่ยังหอบ แต่เปี่ยมด้วยความจริงใจ

Ykung โพสต์ 2025-5-18 11:12:16

ขอบคุณครับ

rupnong โพสต์ 2025-6-1 22:17:45

ลมยามเช้าพัดผ่านลานดินหน้าหอสิงห์ เย็นเยียบจนผิวเปลือยของตั้มและก้องที่เปียกเหงื่อสั่นสะท้านด้วยความหนาว พี่บอยยืนอยู่หน้าประตูห้องโถง ไม้เรียวในมือชี้ตรงมาที่ตั้มและก้อง สายตาเยาะเย้ยราวเหยี่ยวจ้องจะกินเหยื่อ “คิดว่าวิ่งครบแล้วจะรอดเหรอ?” เสียงเขาดังกร้าว ควันบุหรี่ลอยออกจากปากวนเป็นวง “กฎหอสิงห์ชัดเจน ทำข้าวหก เสียงตะโกนอ่อน ต้องโดนเฆี่ยน 3 ที! ไอ้ตั้ม มึงทำให้คู่มึงเดือดร้อนมึงรู้ไหม” รุ่นพี่คนอื่น ๆ ที่ยืนล้อมอยู่ตบไม้เรียวลงพื้น ปัง! ปัง! ปัง! เสียงสะท้อนดังก้องจนหัวใจตั้มเต้นรัวด้วยความกลัว

ตั้มหน้าซีดเผือด ขาสั่นจนต้องเกาะไหล่ก้องแน่นเพื่อไม่ให้ล้ม เขานึกถึงวันที่พี่ชายตีเขา ความเจ็บปวดและความอับอายในอดีตพุ่งกลับมาเหมือนมีดกรีดใจ “กู… กูขอโทษ” เขากระซิบ มองก้องด้วยดวงตาที่เปียกชื้น ก้องกัดฟันหันหน้าไปเผชิญหน้ากับพี่บอย “ผมขอรับโทษแทนมันทั้งหมดได้มั้ยครับ? มันไม่ไหวแล้ว!” เขาพูดออกมาด้วยเสียงที่ดังชัดเจน

พี่บอยหัวเราะลั่น “ใจนักเลงดีมึงนี่! แต่ที่นี่ไม่มีข้อยกเว้น ลูกผู้ชายหอสิงห์ต้องเจ็บเพื่อที่จะเรียนรู้!” “ทั้งคู่ ออกมาโก้งโค้งหน้าโต๊ะ เดี๋ยวนี้!” รุ่นพี่คนหนึ่งลากโต๊ะไม้ผุจากห้องโถงออกมาวางกลางลานดิน ถังข้าวต้มยังตั้งอยู่บนนั้น กลิ่นคาวจืดโชยออกมา น้องใหม่คนอื่น ๆ ยืนมองจากในห้องโถง สายตาเต็มไปด้วยความสงสารและความกลัว พงษ์กำหมัดแน่น อยากเข้าไปขัดขวาง แต่รู้ว่าการฝ่าฝืนอาจทำให้ทุกคนเดือดร้อน โจที่อยู่ข้างๆเขากระซิบเบาๆเพื่อเตือนสติ “ใจเย็นพงษ์ เดี๋ยวกูหาทางช่วย”

ตั้มเดินไปที่โต๊ะด้วยขาที่สั่นราวใบไม้ที่พร้อมจะร่วงลงจากต้น มือกุมท้องที่ร้องด้วยความหิว เขาก้มตัวโก้งโค้ง มือยันขอบโต๊ะไม้ที่ผุกร่อน ลมเย็นพัดผ่านร่องตูดที่เปียกเหงื่อ ทำให้เขาขนลุกทั่วตัว เขากลั้นน้ำตา นึกถึงคำพูดของก้องที่ว่า “เราเป็นทีม” เขากระซิบกับตัวเอง “กูต้องทน… เพื่อก้อง” ก้องก้าวตามออกมา ยืนข้างตั้ม โก้งโค้งในท่าเดียวกัน กล้ามท้องที่เคยคมชัดสั่นระริกจากความหนาวและความตื่นเต้น เขานึกถึงวันที่ทีมบาสหันหลังให้หลังที่เขายิงพลาด “ครั้งนี้กูจะไม่ทิ้งเพื่อน” เขาคิดในใจ มองตั้มด้วยหางตา “มึงทนได้ กูอยู่กับมึง” เขากระซิบโดยหวังว่าจะให้เพื่อนเขาทราบถึงความหวังดีที่เขามีให้

พี่บอยก้าวเข้ามาใกล้ ยกไม้เรียวในมือขึ้นสูง เงาของมันทาบลงพื้นดินจากแสงแดดยามเช้า “ไอ้ตั้มก่อน! ลูกผู้ชายต้องจำความเจ็บ!” เขาตะโกน พร้อมไม้เรียวฟาดลงที่ตูดตั้ม—ผัวะ! เสียงดังลั่นราวแส้กระทบหนัง ตั้มสะดุ้งร้อง “อ๊าก!” ร่างกายกระตุกจนโต๊ะไม้ลั่นเอี๊ยด รอยแดงปรากฏทันทีบนผิวขาวซีดของเขา ความเจ็บแปลบร้อนเหมือนไฟที่ลามไหม้ เขากัดฟันแน่น น้ำตาไหลลงแก้ม แต่เขายังยันโต๊ะไว้แน่น พี่บอยฟาดครั้งที่สองลงที่แนวเดิม—ผัวะ! เขานึกถึงก้องที่ยอมวิ่งโทษแทนเขา ครั้งที่สาม—ผัวะ! ความเจ็บแทบทำให้เขาเซจนเกือบล้ม แต่ก้องเอื้อมมือพยุงแขนเขาเบา ๆ “มึงเก่งแล้ว” เขากระซิบ ตั้มพยักหน้า หน้าแดงก่ำจากความเจ็บและความอาย เขายืดตัวขึ้นช้า ๆ เอามือกุมตูดที่ร้อนผ่าว เพื่อบรรเทาความเจ็บปวดที่เขาพึ่งจะได้รับ

ถึงตาก้อง พี่บอยหันมา สายตาดุกร้าวจ้องมองไปที่ก้อง “ไอ้นักบาส! มึงอยากปกป้องเพื่อนนักใช่ไหม” ไม้เรียวฟาดลงที่ตูด—ผัวะ! ก้องกัดฟัน ร่างกายกระตุก แต่เขากลับไม่ร้องอะไรออกมาแม้ความเจ็บปวดลามไปทั้งสะโพก ครั้งที่สอง—ผัวะ! ก้องสูดหายใจลึก กล้ามท้องเกร็งแน่น เขามองตั้มที่ยืนมองด้วยดวงตาเปียกชื้น “กูไหว” เขากระซิบ ครั้งที่สาม—ผัวะ! ความเจ็บทำให้เขาหัวใจเต้นรัว แต่เขายังยืนหยัด ยืดตัวขึ้น มือกุมตูดที่แดงเป็นรอย แล้วหันไปยิ้มให้ตั้ม “เราผ่านมันแล้วเพื่อน” เขาพูด

พี่บอยพ่นควันบุหรี่ มองทั้งคู่ด้วยสายตาที่ผสมความสะใจและเยาะเย้ย “แกร่งใช้ได้ แต่จำไว้—ที่นี่ความผิดคือบทเรียน!” เขาหันไปตะโกนใส่น้องใหม่ในห้องโถง “พวกมึงเห็นมั้ย? ลูกผู้ชายหอสิงห์ต้องเจ็บเพื่อแกร่ง!” รุ่นพี่ตบไม้เรียวลงพื้น ปัง! ปัง! แล้วเดินกลับเข้าห้องโถง ทิ้งตั้มและก้องยืนตัวสั่นกลางลานดิน

rupnong โพสต์ 2025-6-1 22:19:01

พงษ์และโจรีบวิ่งมาหา พงษ์จับไหล่ตั้ม “มึงสุดยอดว่ะ ทนได้ขนาดนี้” เขาพูดด้วยดวงตาที่เต็มไปด้วยความภูมิใจ โจตบหลังก้อง “มึงนี่ใจนักเลงชิบหาย!” เขาแซวแต่สายตาเขาเต็มไปด้วยความเคารพ ตั้มน้ำตาคลอมองมาที่ก้อง “มึง… ขอบคุณที่ปกป้องกู” เขากระซิบ ก้องยิ้ม “มึงก็ปกป้องกูเหมือนกัน ที่มึงทนได้นี่คือเกียรติของเรา” เขาตอบ

แบงค์ที่ยืนมองจากในห้องโถง เดินออกมาด้วยขาที่สั่น เขายื่นผ้าขี้ริ้วชิ้นเล็กให้ตั้ม “เช็ดหน้ามึงหน่อย” เขาพูดเบา ๆ มือยังกำกระดาษลับที่พบในถังข้าวต้มแน่น เขารู้สึกสงสารตั้มและก้อง แต่ก็รู้สึกถึงความผูกพันที่เริ่มก่อตัวในกลุ่ม “กู… จะช่วยพวกมึงไม่ให้โดนแบบนี้อีก” เขากระซิบ พงษ์พยักหน้า “ดี แบงค์ มึงฉลาด กูเชื่อว่ามึงช่วยได้” เขาตบไหล่แบงค์

แสงแดดยามสายสาดผ่านรอยแตกของผนังไม้ในห้องโถงชั้นล่างของหอสิงห์ ฝุ่นลอยวนในลำแสงสีส้มจาง น้องใหม่ทั้ง 20 คนนั่งรวมกันบนพื้นไม้ขรุขระ ตัวเปียกเหงื่อและคราบดิน กลิ่นข้าวต้มคาวจืดยังลอยคลุ้งผสมกับกลิ่นเหงื่ออบอวล ตั้มและก้องนั่งพิงผนัง หายใจหอบจากการวิ่งและการเฆี่ยน ขณะที่พงษ์ โจ และ แบงค์นั่งล้อมเป็นวงเล็ก มองหน้ากันด้วยความเหนื่อยล้าแต่เปี่ยมด้วยความหวังที่เริ่มก่อตัว

ความเงียบถูกทำลายเมื่อประตูไม้ผุถูกเตะเปิดดังโครม! พี่วิทย์ หัวหน้าหอปี 4 ก้าวเข้ามาด้วยท่าทางดุดัน กล้ามแขนปูดโปนราวพร้อมบดขยี้ทุกสิ่ง ดวงตาดุกร้าวราวจะฉีกวิญญาณ รุ่นพี่คนอื่น ๆ เดินตามหลัง ล้อมเป็นกำแพงมนุษย์ ในถือไม้เรียวพร้อมที่จะลงโทษคนทำผิด พี่บอยยืนสูบบุหรี่เงียบ ๆ ข้างพี่วิทย์

“พวกมึง!” เสียงพี่วิทย์ดังลั่นราวฟ้าผ่า “เมื่อคืนพวกมึงกล้าทำเสียงดังในห้องโถง! หัวเราะ! พูดคุย!! ไม่ยอมหลับยอมนอน” เขาก้าวเข้ามาใกล้ เงาของเขาทาบลงบนพื้น “กฎข้อต่อไป—ห้ามส่งเสียงดังหลังเวลานอน! ฝ่าฝืน โดนเฆี่ยน 6 ที! ยืนขึ้นเดี๋ยวนี้!” รุ่นพี่ตบไม้เรียวลงพื้น ปัง! ปัง! ปัง! เสียงสะท้อนดังก้องจนแทบจะไม่ได้ยินเสียงอื่นจากรอบข้าง”

พงษ์ลุกขึ้นทันที หัวใจเต้นรัวราวกลองศึก เขานึกถึงเมื่อคืนที่ทุกคนหัวเราะและแซวกัน ความผ่อนคลายนั้นเป็นครั้งแรกที่กลุ่มรู้สึกเป็นทีม เขามองตั้มที่หน้าซีดเผือด มองก้องที่มือมตูดที่โดนเฆี่ยนเมื่อเช้า “ถ้าทุกคนโดนตีตอนนี้… คงมีใครสักคนทนไหวไหวลาออกไป” เขาคิด ความรู้สึกผิดที่ปล่อยให้เพื่อนสนุกจนลืมกฎจุดไฟในใจ ครั้งนี้เขาจะไม่ยอมให้เพื่อนเจ็บ

“พี่วิทย์!ครับ” พงษ์ก้าวออกจากแถว “ผมขอรับโทษแทนทุกคน! ผมเป็นคนเริ่มคุยเมื่อคืน ผมชวนทุกคนพูด ผมยอมรับผิดทั้งหมด!” เขามองตรงไปในดวงตาพี่วิทย์ อย่างไม่หลบสายตา หัวใจเต้นแรงด้วยความกลัวและความมุ่งมั่นที่เขาจะปกป้องเพื่อน ไม่ว่าจะเจ็บแค่ไหน

พี่วิทย์ก้าวเข้ามาใกล้พงษ์ จนลมหายใจร้อน ๆ ของเขาปะทะหน้าพงษ์ “มึงกล้าดีว่ะ!” “ถ้ามึงอยากรับแทนทุกคน 6 ทีคูณ 20 คน… มึงต้องโดน 120 ที! มึงคิดว่ามึงทนไหว?” พงษ์กลืนน้ำลาย เหงื่อเของเขาไหลลงตามแผ่นหลัง เขารู้ดีว่า 120 ทีอาจทำให้เขาสลบหรือแย่กว่านั้นคือตาย แต่เขานึกถึงเพื่อน “ถ้ากูไม่ทำ… เพื่อนกูจะตาย” เขาคิด เขากัดฟันแน่นก่อนตอบไปว่า “ผมทนได้ครับ!” เสียงดังก้องทั่วห้องโถง ดวงตาลุกโชนด้วยไฟแห่งความมุ่งมั่น

พี่บอยหัวเราะในลำคอ “มันอยากเจ็บ! ให้มันลองครับพี่!” รุ่นพี่คนอื่น ๆ ตะโกนพร้อมกัน “โชว์ควย! โชว์ความแกร่ง!” พี่วิทย์ชี้ไม้เรียวไปที่โต๊ะไม้ผุตรงกลางห้อง “โก้งโค้งหน้าโต๊ะ! แยกขาโก่งตูดให้โลกเห็น! ลูกผู้ชายหอสิงห์ต้องเจ็บเพื่อเกียรติ!”

rupnong โพสต์ 2025-6-1 22:20:10

พงษ์ยืนอยู่หน้าโต๊ะไม้ผุ กล้ามเนื้อทั่วร่างตึงเปรี๊ยะจากความตื่นเต้นและความกลัว เขาก้าวออกมาเพื่อรับโทษแทนทุกคนจากการทำเสียงดังเมื่อคืน หัวใจเต้นรัวราวกลองศึก ดวงตาลุกโชนด้วยความมุ่งมั่น เขาจะปกป้องเพื่อน ไม่ว่าจะเจ็บปวดแค่ไหน พี่วิทย์ตะโกนลั่น “โก้งโค้งหน้าโต๊ะ! แหกตูดให้โลกเห็น! ลูกผู้ชายหอสิงห์ต้องโชว์ความแกร่ง!” เสียงดังสนั่นราวฟ้าผ่า รุ่นพี่ตะโกนพร้อมกัน “โชว์ควย! โชว์เกียรติ!”

พงษ์สูดลมหายใจลึก เดินไปที่โต๊ะด้วยก้าวที่มั่นคง มือหนากุมขอบโต๊ะที่ผุกร่อนจนรู้สึกถึงเสี้ยนไม้ทิ่มผิว เขาก้มตัวลงในท่าโก้งโค้ง กล้ามเนื้อหลังที่ฝึกมาด้วยวินัยทหารตึงแน่นราวแผ่นเหล็กขัดเกลา ไหล่กว้างเกร็งรับน้ำหนักร่างกาย กางขาออก เผยรูตูดสีน้ำตาลเข้ม เรียบเนียนและสะอาด ขมิบเล็กน้อยโดยไม่ตั้งใจจากความตื่นตัวและความเย็น ผิวรอบขอบรูมีรอยย่นเล็ก ๆ ที่ตึงแน่น แสดงถึงความแข็งแรงของร่างกายที่ไม่เคยยอมจำนน ความรู้สึกถูกเปิดเผยต่อหน้าทุกคนทำให้หน้าเขาร้อนผ่าว ความอายพุ่งขึ้นราวไฟลามใจ “กูจะพิสูจน์ว่ากูแกร่ง!” เขาคิด กัดฟันแน่นเพื่อกลั้นความอับอาย ลมเย็นจากรอยแตกผนังพัดผ่านผิวเปลือยที่เปียกเหงื่อ ทำให้ขนลุกทั่วร่าง สายตาของรุ่นพี่และเพื่อนจับจ้องเขาด้วยความคาดหวัง ความสงสาร และความกลัว ความกดดันทำให้เหงื่อไหลหยดจากหน้าผากลงพื้นไม้

ในท่าโก้งโค้ง ควยของพงษ์ห้อยลงตามแรงโน้มถ่วง ลำควยขนาด 8 นิ้ว แข็งเต็มที่จากอะดรีนาลีนที่สูบฉีด ผิวควยสีน้ำตาลเข้มกว่าผิวกายเล็กน้อย เรียบเนียนแต่เต็มไปด้วยพลัง เส้นเลือดปูดชัดเจนตามลำยาวจากโคนถึงปลาย แสดงถึงความแข็งแกร่งและความตื่นตัว หัวควยบานใหญ่ รูปทรงเหมือนเห็ด ผิวเงาวาวจากเหงื่อที่ซึมออกมา สะท้อนแสงแดดจาง ๆ ที่ส่องเข้ามา สีหัวควยออกแดงเข้มจากเลือดที่สูบฉีด ขนหมอยสีดำที่โคนควยหนาแน่นและหยิก เพิ่มความดิบเถื่อนให้ร่างกายที่แข็งแกร่ง พวงไข่ขนาดใหญ่ห้อยต่ำ ผิวตึงเรียบและหนักแน่น สั่นเล็กน้อยเมื่อลมเย็นพัดผ่าน ผิวพวงไข่มีรอยย่นจาง ๆ ที่เกร็งตึงจากความกดดัน ความรู้สึกเปลือยเปล่าต่อหน้าทุกคนทำให้เขารู้สึกเหมือนถูกฉีกร่างออก แต่เขายืดอกในใจ “กูจะไม่ยอมแพ้!” เขาคิด ควยที่แข็งตึงเป็นสัญลักษณ์ของความกล้าและเกียรติที่เขาจะรักษาไว้

พี่วิทย์ก้าวเข้ามายืนด้านหลัง ไม้เรียวในมือยกขึ้นสูง เงาของมันทาบลงพื้นราวดาบที่พร้อมฟันร่างให้แตกสลาย “มึงพร้อมมั้ย?” เขาตะโกนถาม พงษ์สูดลมหายใจลึก “พร้อมครับ!” เสียงดังชัดเจน แม้จะสั่นเล็กน้อยจากความเจ็บที่คาดเดาได้ แต่เขาจะทนเพื่อเพื่อน

ไม้เรียวฟาดลงครั้งแรก—ผัวะ! เสียงดังลั่นราวแส้กระทบหนัง พงษ์สะดุ้ง ร่างกายกระตุกจนโต๊ะลั่นเอี๊ยด ความเจ็บร้อนลามไปทั้งสะโพกเหมือนถูกเผา รอยแดงยาวปรากฏทันทีบนแก้มก้นที่เต่งตึง กล้ามเนื้อสะโพกเกร็งแน่นยิ่งขึ้น รูตูดขมิบแน่นโดยอัตโนมัติจากความเจ็บ ผิวรอบขอบรูกระชับจนรอยย่นชัดเจนขึ้น เขากัดฟันแน่น ไม่ร้องออกมา ควยที่แข็งตึงกระตุกเล็กน้อยจากแรงกระแทก หัวควยบานแดงยิ่งขึ้นจากเลือดที่สูบฉีด พวงไข่สั่นไหวจากแรงสั่นสะเทือน

ครั้งที่สอง—ผัวะ! ความเจ็บทวีคูณ รอยแดงที่สองทับรอยแรก ทำให้ผิวสะโพกร้อนราวถูกไฟลน ร่องตูดที่เปียกเหงื่อรู้สึกหนาวเย็นยิ่งขึ้นเมื่อลมพัดผ่าน รูตูดขมิบถี่ขึ้น ราวพยายามต้านความเจ็บ ควยของพงษ์ยังคงแข็งตึง เส้นเลือดที่ลำปูดชัดเจนยิ่งขึ้น หัวควยมีหยดเหงื่อไหลลงจากปลาย สะท้อนแสงแดดเป็นประกาย เขาหายใจถี่ น้ำตาคลอแต่กลั้นไว้ “กูจะทน!” เขาคิด

ครั้งที่สาม—ผัวะ! โต๊ะไม้สั่นสะเทือนจนฝุ่นกระจาย ความเจ็บแทบทำให้ขาสั่น รอยแดงที่สามทำให้แก้มก้นบวมแดงจนผิวตึง รูตูดขมิบแน่นจนรู้สึกถึงความร้อนจากภายใน ควยของพงษ์กระตุกแรงขึ้น พวงไข่หดตัวเล็กน้อยจากความเจ็บ แต่ลำควยยังคงตั้งเด่น หัวควยแดงจัดราวจะระเบิด พงษ์ครางในลำคอ แต่ยังยันร่างไว้ “กูจะไม่ล้ม!” เขาคิด

น้องใหม่มองด้วยความตกตะลึงและความเคารพ ตั้มร้องไห้เงียบ ๆ “พงษ์… มึงไม่ต้องทำขนาดนี้ ให้พี่เขาเฆี่ยนกูเถอะ” เขากระซิบโดยหวังว่าพงษ์จะรับรู้ถึงความรู้สึกของเขา น้ำตาไหลลง

หลังจากฟาดไปครบ 10 ครั้ง พี่วิทย์หยุดชั่วครู่ มองตูดพงษ์ที่แดงเป็นรอยยับย่น “มึงแกร่งกว่าที่กูคิดไอ้น้อง” เขาพูด เสียงเยือกเย็นแต่มีแววชื่นชม “แต่ 120 ครั้งมันมากเกินไป… กูจะลดให้เหลือ 20 ครั้ง แต่มึงต้องตะโกน ‘ลูกผู้ชายหอสิงห์ตายไม่เป็น!’ ทุกครั้งที่โดนเฆี่ยน ถ้าลืม มึงเริ่มใหม่!”

พงษ์หายใจหอบ ตัวสั่นจากความเจ็บ แต่ความมุ่งมั่นไม่ลดลง “ได้ครับ!” เขาตะโกนสุดเสียง ควยแข็งตึง หัวควยแดงจัดราวเพลิงไหม้ ไม้เรียวฟาดลงตูดพงษ์อีกครั้ง—ผัวะ! “ลูกผู้ชายหอสิงห์ตายไม่เป็น!” พงษ์ตะโกนลั่น ความเจ็บทำให้เสียงสั่นเล็กน้อย แต่ชัดเจน รอยแดงใหม่ทับรอยเก่า ทำให้แก้มก้นบวมแดงยิ่งขึ้น รูตูดขมิบถี่ราวหัวใจเต้น ครั้งต่อไป—ผัวะ! “ลูกผู้ชายหอสิงห์ตายไม่เป็น!” เสียงดังก้อง ร่องตูดเปียกชุ่มจากเหงื่อที่ไหลลงไม่หยุด รูตูดเกร็งแน่นจนผิวรอบขอบตึง ควยกระตุกแรง หัวควยมีหยดน้ำเงี่ยงซึมออกมาเล็กน้อยจากความตื่นเต้นผสมความเจ็บ

เมื่อครบ 20 ครั้ง พงษ์หายใจหอบ ตัวเปียกชุ่มเหงื่อ ตูดแดงบวมจนผิวแทบแตก รอยไม้เรียวทับซ้อนเป็นรอยยับย่น รูตูดขมิบช้าลงจากความเหนื่อยล้า ผิวรอบขอบแดงเล็กน้อยจากความร้อน ควยของเขายังแข็งตึง หัวควยแดงจัด พวงไข่หดตัวจากความเจ็บ เขายืดตัวขึ้นช้า ๆ มือสั่นกุมตูดที่ร้อนผ่าว ขาสั่นจนแทบล้ม แต่ดวงตายังลุกโชน พี่วิทย์มองเขาด้วยสายตาที่เปลี่ยนไป “มึง… สมชื่อลูกผู้ชายหอสิงห์” เขาพูด เสียงหนักแน่น “พวกมึงทั้งหมด เรียนรู้จากไอ้นี่! ความแกร่งคือการยอมเจ็บเพื่อทีม!” เขาหันไปตะโกน “พร้อมมั้ย!” น้องใหม่ตอบพร้อมกัน “พร้อมครับ!” เสียงดังสนั่น โดยเฉพาะโจที่ตะโกนลั่น “พงษ์สุดยอด!”
หน้า: [1]
ดูในรูปแบบกติ: ลูกผู้ชายหอสิงห์-ตอนที่ 2 : พิสูจน์ตัวตน