laser โพสต์ 2025-2-26 19:00:25

เปิดซิงให้หนุ่ม นศ. ลองเย็ดสด เสร็จคารู

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย laser เมื่อ 2025-2-26 23:18


สวัสดีครับทุกท่าน หายไปนาน ก็ไปทำมาหากินนั่นแหละครับ ผมจะโผล่มาเป็นซีซั่น 555 เรื่องที่ท่านเปิดอ่านอยู่นี้เป็นเรื่องแรกของปี 2025 ครับ ยังอยู่ในซีรี่ย์ ย้อนเวลาช่วงที่ผมเป็น นศ. หลายปีก่อน แล้วไปมีความสัมพันธ์กับเพื่อนนศ. ช่วงวัยเดียวกัน ซึ่งปีนี้จะเขียนช่วงไทม์ไลน์นี้ทั้งหมดครับแต่อาจจะไม่ได้เรียงตามชั้นปี ขึ้นอยู่กับว่านึกถึงหนุ่มคนไหนได้ก่อนก็เขียนถึงคนนั้นสำหรับตอนนี้จะเล่าถึงผู้ชายประเภท หน้าตาปานกลางค่อนไปทางดี ว่าง่าย ไม่มีพิษภัย แต่ก็ดูพึ่งพาไม่ได้เท่าไหร่ ออกแนวน่าเอ็นดู ที่คนสมัยนี้เรียกว่าผู้ชายไทป์หมาเด็กครับ บางคนก็เรียกว่าไทป์ลูกหมา


ช่วงผมขึ้นปี 2 ใหม่ๆ ชีวิตมหาลัยเริ่มลงตัวแล้ว แต่กลุ่มเพื่อนยังจัดว่ากระจัดกระจาย เจอใครก็อยากรู้จักไปหมด ยังไม่มีวีรกรรมที่พิสูจน์ความลำบากหรือวัดใจกันมากนัก ตอนนั้นผมได้บัดดี้เป็นคุณชายดิวแล้ว แต่ไปเรียนวิชาเลือกเสรีตัวหนึ่ง ซึ่งมันเกิดเหตุการณ์นี้ได้ด้วยความประจวบเหมาะ อาจารย์วิชานี้ประกาศตั้งแต่ต้นเทอมเลยว่า วิชาแกไม่เช็คชื่อนับครั้งเข้าชั้นเรียนใครจะเข้าหรือไม่เข้าก็ได้ แกไม่แคร์ ส่งงานกับเข้าสอบก็พอ


จึงทำให้คุณชายดิว ซึ่งกำลังติดสัด หลงหีสาวมหาลัยอื่น ไม่ค่อยเข้าเรียน เพราะอาจารย์เปิดไฟเขียวให้หนีไปผสมพันธุ์กับชะนี หลายครั้งวิชานี้ ผมก็เลยต้องฉายเดี่ยว เดินดุ่มๆ มาเรียนคนเดียวไม่ได้ติดรถมันมาด้วย ในคลาสมีหนุ่มหน้ามนคู่นึงจากคณะศิลปศาสตร์ นิสัยเงียบๆ คนนึงผมหยิกเป็นหมอยใส่แว่นตาอีกคนหน้าแบ๊วๆ ตากลมๆ อีคนหลังนี่แหละที่ได้เย็ดกันเดี๋ยวจะเล่าให้ฟัง อีคู่นี้ชอบขี่มอเตอร์ไซค์มาเรียนนั่งตัวติดกันมองผ่านๆ จะนึกว่าเป็นแฟน แต่เกย์อย่างผมมีขีดจำกัดสายเลือดเนตรสีม่วง สามารถอ่านเจาะลึกเข้าไปได้ว่าอี 2 คนนี้ น่าจะเป็นแค่เพื่อนที่ไปไหนมาไหนด้วยกัน ไม่ใช่คู่ผัวตัวเมียแน่นอน


เรียนไปซักพัก เริ่มมีความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น คือไอ้ดิวแม่งไม่เข้าเรียนวิชานี้เลยเพราะไม่ต้องกังวลเรื่องเช็คชื่อ สารภาพตรงๆ ตอนนั้นผมรู้สึกเหมือนโดนทิ้ง และไอ้ดิวมันเป็นเพื่อนที่สถานะสังคมดีมีรถขับ เวลาเราตัวติดกับมันรู้สึกมีพาวเวอร์ไปด้วย พอมันหายไปแบบนี้รู้สึกหัวเดียวกระเทียมลีบ อยากจะถอนจากวิชานี้เหมือนกัน แต่อีกใจก็คิดว่า ถ้าสามารถเรียนคนเดียวได้ วิชานี้ก็ค่อนข้างสบาย และขึ้นชื่อว่าเป็นหนึ่งในวิชาแจก A ในตำนาน เพราะอาจารย์ใจดีราวกับพระโพธิสัตว์ จึงยอมทนนั่งเรียนต่อไป


วันนึงผมเดินดุ่มๆ ตามทางเดินจะไปเรียนวิชาดังกล่าวจู่ๆ ก็มีมอเตอร์ไซค์เข้ามาจอดเทียบด้านข้าง


“ไปด้วยกันมั้ยครับ” หนุ่มศิลปศาสตร์ขี่รถป๊อปสีครีมนวล ชวนผมขึ้นซ้อนท้ายแบบไม่ทันตั้งตัวเขาคือคนที่ตากลมๆ หน้าแบ๊วๆ ซึ่งปกติจะมากับคนผมหยิกใส่แว่นนั่นเอง เขาแนะนำตัวกับผม ขอสมมุติว่าชื่อ เต้ย นะครับ ตอนนั้นไม่ได้ดีใจที่มีคนให้ติดรถ ไม่ทันคิดถึงประโยชน์ที่ท่านจะได้รับอะไรเลยด้วยซ้ำในหัวมีแต่ให้เลือกว่าจะ ตกลง หรือ ปฏิเสธ ซึ่งสัญชาตญาณผมก็ตอบตกลงเอาไว้ก่อน แบบทันทีทันใด


ระหว่างซ้อนรถป๊อป ผมได้กลิ่นหอมจากเนื้อตัวหนุ่มเต้ยตากลม เหมือนจะมาจากซอกคอ เป็นกลิ่นผู้ชายบริสุทธิ์ ไม่ใช่กลิ่นน้ำหอมหรือจากการอาบน้ำ ช่วงนั้นกำลัง 20 ต้นๆ คงไม่แปลกที่หนุ่มสาวบางคนจะมีกลิ่นดึงดูดทางเพศหว่านเสน่ห์ให้คนรอบข้างแบบไม่ได้ตั้งใจ“อยากกัดคอเบาๆ จัง” ผมคิดในใจ แต่ไม่กล้าทำจริงหรอก เพิ่งจะรู้จักกันเอง ซึ่งเต้ยก็บอกว่าบัดดี้เขาที่เป็นหนุ่มผมหยิกใส่แว่น ประสบอุบัติเหตุ ต้องพักฟื้นยาวเลยขอถอนตัวเรียน ต่อไปนี้เขาก็จะมาเรียนคนเดียวจนจบวิชานี้


สรุปรวบรัดว่า ในคาบนั้นก็ได้นั่งเรียนตัวติดกันเป็นครั้งแรกเต้ยเป็นหนุ่มศิลปศาสตร์ครับ คนละอย่างกับศิลปกรรมนะ ศิลปศาสตร์มันจะเป็นกลุ่มสาขาภาษา สังคม ประวัติศาสตร์ แนวๆ นี้มากกว่า ผมจำไม่ได้ละว่าเต้ยมันเรียนสาขาอะไร แต่คาแรคเตอร์มันไม่ได้ติสต์แตกขนาดเด็กศิลปกรรมแน่นอน


เต้ยเป็นหนุ่มที่สมัยนี้คงเรียกว่าไทป์หมาเด็ก หน้าแบ๊ว ออกน่ารัก ไม่มีหน้าอก ไม่มีกล้ามแขน ห่อหมกไม่เด่น ตูดไม่เด้ง แต่งตัวก็ไม่เป็น ไม่ดื่มไม่สูบ ไม่เล่นกีฬา ไม่ติดเกม ไม่อ่านการ์ตูน จืดชืดมาก ไม่มีควยอะไรเลย นอกจากหน้าตาบ้องแบ๊ว ดวงตาใสๆ หน้าเกลี้ยงเกลา ดูไม่มีพิษภัย ไม่เคยสบถหลุดคำหยาบ หรือนินทาว่าร้ายคนอื่นให้ได้ยิน ดูเป็นผู้ชายประเภทที่พึ่งพาอาศัยหรือปกป้องอะไรใครไม่ได้ แต่ก็พอจะคบหาได้ประมาณนึง


ตอนแรกผมยอมรับว่า ไม่ได้คิดพิศวาสกับเต้ยเท่าไหร่ คิดว่ามันเป็นผู้ชายที่ไม่ดึงดูดทางเพศสำหรับผมเลย แต่แล้วก็ต้องคิดใหม่ เมื่อสิ่งแวดล้อมรอบด้าน ทำให้ผมเริ่มหึงหวงเล็กน้อย และอยากจะได้ตัวไอ้เต้ยก่อนคนอื่น


เหตุการณ์แรกคือ ตอนเข้าห้องน้ำมหาลัย ผมนั่งห้องส้วมอยู่ ส่วนเต้ยยืนเยี่ยวอยู่ตรงโถ ผมซึ่งอยู่ในส้วมได้ยินเสียงคนเข้ามาชวนเต้ยคุยด้วย น่าจะเป็นอาจารย์หนุ่มจบใหม่ ฟังเสียงแล้วชีน่าจะเป็นเก้งแหละ ทำทรงมายืนฉี่ข้างๆ ชวนคุยด้วย ถามซักไซร้ แล้วก็พยายามจะขอเบอร์ตีสนิท ขอจับมือ ผมได้ยินเต้ยตอบไปแบบอึกอักๆ ฟังรู้เลยว่ากำลังกลัวหรือไม่เต็มใจ เลยรีบขี้ให้เสร็จกดชักโครก ใส่กางเกง เปิดห้องส้วมออกไปแสดงตัวว่า เต้ยไม่ได้มาคนเดียว

อีอาจารย์จบใหม่ มองผมแรงมาก แบบเบะปากใส่กู อีดอกทองมึงคิดจะลวนลาม นศ. ในห้องน้ำเหรอ ถ้าสมัยนี้โดนถ่ายคลิปเอาไปฟ้องวินัยได้นะ มันรีบล้างมือแล้วก็เดินตูดบิดออกไปเลย


ส่วนอีห่าเต้ย เป็นผู้ชายที่ไม่รู้จักปัดป้อง ดูแลความปลอดภัยตัวเองในเบื้องต้นไม่ได้เลย มันบอกโดนอีอาจารย์จับมือ ลูบไล้ตามนิ้ว บอกจะดูโหงวเฮ้งลายมือให้ ก็ปล่อยให้เขาทำตามใจชอบ กูว่าถ้ากูไม่รีบออกไปเป็นไม้กันหมา เอพลิโซดถัดไปคงเริ่มขอดูหมอยขอดูควยละมั้ง นี่คือเหตุการณ์แรกที่ผมเริ่มรู้สึกหึงเต้ยบางตำรากล่าวว่า บางครั้งเราจะเริ่มเห็นค่าคนที่เราไม่เคยรู้สึกอะไรด้วย ต่อเมื่อมีคนอื่นที่เห็นคุณค่าอยากได้ตัวเขาแสดงตัวออกมา เราถึงจะเริ่มรู้สึกว่าเรามาก่อน เราควรมีสิทธิ์ก่อน


อีกเหตุการณ์คือ ผมแวะไปที่หอพักของเต้ย เป็นหอพักแบบห้องแถวชาวบ้านๆ สมัยนั้นยังไม่มีระบบกล้องหรือความปลอดภัยดีเท่าสมัยนี้ เต้ยกำลังเก็บผ้าที่ตากไว้หน้าห้องก็ร้องเฮ้ย แปลกใจ เสื้อผ้าปกติอยู่ครบ แต่เฉพาะกางเกงใน หายไปทั้งราว


“ใครเอาไป เค้าเอาไปทำไมอะ” เต้ยสีหน้าวิตกกังวล ปนซื่อบื้อ ไม่รู้ว่าเหตุใดตนเองถึงโดนกระทำเช่นนี้ ผมก็แซวไปว่า แบบนี้ เต้ยคงมีคนแอบชอบอยู่ละมั้งเต้ยไม่รู้ตัวว่ากำลังโดนคุกคาม แต่เสียดายที่ของใช้หายไปมากกว่า เหลือให้นุ่งอยู่ไม่กี่ตัว ซึ่งไม่เพียงพอ ผมเลยบอกว่ายังไม่ต้องซื้อกางเกงในใหม่นะ เดี๋ยวผมซื้อให้เซ็ทนึง ตอบแทนที่ให้ซ้อนมอเตอร์ไซค์บ่อยๆ


ช่วงนั้นผมก็เริ่มรู้สึกชอบ และหยอดเต้ยนิดๆ แล้ว ไม่รู้ว่าเจ้าตัวซื่อจนคิดตามไม่ทัน หรือไม่ก็แกล้งทำเป็นไม่รู้ แต่ก็ปล่อยให้ผมกระเซ้าเหย้าแหย่เรื่อยๆ จนวันหนึ่งก็เป็นวันที่ได้ลงเอยกัน


เต้ยก็เปรยๆ ให้ฟังว่า ตอนเย็นมีเตะบอลของสาขาผมก็ถามกลับไปว่า “เตะบอลเป็นด้วยเหรอแกอะ” นึกภาพคนอย่างเต้ยเตะบอลไม่ออกจริงๆ อยากรู้อยากเห็น จนต้องขอตามไปให้กำลังใจถึงสนาม จริงๆ คือเงี่ยน อยากไปเห็นมันใส่ชุดบอลแมนๆ


ซึ่งพอไปถึง เฮ้ย ก็ใช้ได้นะ เป็นภาพที่ไม่เลวเลย เต้ยมันเป็นผู้ชายทรงไม่มีกล้าม พอใส่ชุดบอลแล้วให้ฟีลประมาณนักบอลรุ่นอายุไม่เกิน 17 ปี ไปหวังเห็นกางเกงบอลรัดแก้มก้นแน่นๆ ต้นขาแน่นๆ แบบบอลรุ่นใหญ่ไม่ได้หรอก ทรงนี้แข้งขาก็เก้งก้างทั้งนั้นแหละ แต่มันก็ดูมีเสน่ห์ในแบบผู้ชายหน้าละอ่อน เต้ยใส่ชุดบอลทีมเสื้อเขียวแซมเหลือง กางเกงสีขาวดูสดชื่นแจ่มใสดี


ซึ่งนักบอลคณะศิลปศาสตร์ ดูไม่เท่เหมือนพวกนักบอลคณะวิศวะเลย กูเห็นแม่งไล่บอลกันยังกะเมขลาล่อแก้ว ไทป์มันก็ไม่ใช่ผู้ชายสมบุกสมบันนี่นะ คงเล่นเอาสุขภาพรึไม่ก็แข่งตามประเพณีที่มีมาช้านานละมั้งไม่มีความน่าเกรงขามห่าอะไรเลย แต่ผมก็เอาใจช่วยเจ้าเต้ยสุดลิ่มทิ่มประตู คอยตะโกนเชียร์ส่งน้ำให้ตอนพักครึ่ง จนเพื่อนชะนีในสาขามันบางครั้งหันมามองด้วยความสงสัย ว่าผมเป็นใครมาจากไหนและเป็นอะไรกับเต้ย สภาพมันโทรมเหงื่อก็ดูน่ารักมาก แก้มยิ่งใส ดวงตายิ่งเป็นประกายเข้าไปอีก แบบคนเลือดลมสูบฉีด ที่สำคัญตัวหอม เหงื่อโชกตัวเปียก แต่ไม่มีกลิ่นสาบเลย จริงๆ กลิ่นสาบนักกีฬาเถื่อนๆ แมนๆ ผมก็ชอบนะ แต่เจอแนวผู้ชายสะอาดบริสุทธิ์แบบนี้ก็ชอบไปอีกอย่าง



เสร็จงานแข่งบอลภายใน น่าจะจบที่เสมอกันมั้ง จำไม่ได้ แต่ผมเตรียมของรางวัลไว้ให้เต้ย 2 อย่าง คือเหล้า เอาไว้เพื่อกะจะมอมให้เมาด้วย กับกางเกงในชดเชยของที่มันถูกคนแอบขโมยไป ช่วงนั้นผมเงี่ยนกับไอ้เต้ยมาก กะจะทำอะไรซักอย่างให้ลงเอยคืนนั้นแหละ ก็ไปนั่งเล่นอยู่ที่ห้องของมัน


เต้ยมันปฏิเสธเหล้า มันไม่ยอมดื่ม นาทีนั้นผมก็หน้าเสียนะ คิดว่าเปอร์เซ็นต์ที่กูจะมีโอกาสลวนลามตกลงไปแล้วครึ่งหนึ่งถ้าอีกฝ่ายแม่งไม่เมา งานนี้คงยาก ไม่รู้จะหว่านล้อมยังไงต่อดี ก็เหลือแต่เรื่องของฝากที่เป็นกางเกงในแพ็คใหม่เอี่ยม 2 แพ็ค ผมลองเอ่ยปากว่า ขอตัวที่ใส่แข่งบอลที่นุ่งอยู่ตอนนี้ แลกกันกับแพ็คใหม่นะ


เต้ยทำหน้างง ยืนตัวแข็งทื่อ ไม่พูดอะไร ทำตัวเหมือนนิยายพวกที่โดนหยุดเวลา
ผมคิดว่ามันคงตัวแข็งทำอะไรไม่ถูก เหมือนตอนที่โดนอีอาจารย์ลวนลามในห้องน้ำเลยลองไปฝ่ายรุกเข้าเต้ยเองก่อน


“จะถอดกางเกงนะเต้ย” ผมเอ่ยปากให้เต้ยรับทราบ ถ้าไม่แข็งขืนก็จะคิดเอาเองว่ายินยอมผมรูดกางเกงบอลมันลงมา ตอนแรกรูดไม่ลงเพราะมันผูกเชือกไว้แน่นตอนแกะเชือกออกก็ใช้เวลาพอควร มันก็ไม่ปัดมือผมออกเลยจึงสามารถถึงกางเกงบอลลงมากองที่ข้อเท้าได้ ชายเสื้อบอลยาวพอที่จะปิดถึงเป้ายังมองไม่เห็นว่าใส่กางเกงในสีอะไร ผมลุ้นระทึกทั้งตื่นเต้นกับร่างกายของเต้ย และตื่นเต้นที่ยังคาดเดาอารมณ์ของเขาไม่ออกใช้นิ้วชี้ จากมือทั้งสอง ค่อยๆ เกี่ยวขอบกางเกงในตรงเอว จากด้านในเสื้อบอล แล้วค่อยๆ กดน้ำหนักนิ้วรูดลงมา


จะว่าไป นี่ถือเป็นการใช้มือตัวเองถอดกางเกงในให้ผู้ชายสดๆ ปลดจากตัวเป็นครั้งแรก
มันสัมผัสได้ถึงอุณหภูมิกางเกงในอุ่นๆ เพราะห่อควยผู้ชายเตะบอลเป็นชั่วโมงๆ รวมถึงความชื้นแฉะจากเหงื่อไคล


ในที่สุดผมก็ได้กลิ่นอับ สมชายชาตรีโชยจากตัวเต้ยเป็นครั้งแรกทันทีที่ดึงกางเกงในลงมา พูดให้กระชับ มันคือกลิ่นอับควยและซอกขาหนีบที่หมกในกางเกงในของผู้ชายหลังออกกำลังกายนั่นแหละ แต่กลิ่นตัวเต้ยจางมากเมื่อเทียบกับผู้ชายทั่วไป


กางเกงในเป็นผ้าฝ้ายคอตตอน สีฟ้าอ่อนขอบหุ้มยางย่น แต่แฉะน้ำเหงื่อจนเห็นเป็นสีน้ำเงินเกือบทั้งตัว ผมรูดลงมากองที่ข้อเท้าเต้ยเช่นกัน สังเกตปฏิกิริยา เต้ยยังคงไม่พูด แต่มีสีหน้าวิตกกังวลเล็กน้อย


“รู้ใช่มั้ยว่าจะทำอะไรให้ เต้ยไม่ต้องอายนะ ใครๆ เขาก็ทำกัน” ผมซึ่งคุกเข่าอยู่เงยหน้าไปสื่อสารกับเต้ย พร้อมกับลูบลำควยผ่านชายเสื้อบอลไปด้วย ผมเริ่มใช้ปากงับลำควยผ่านชายเสื้อบอลที่ยังคลุมปิดไว้ ถึงยังไม่เห็นของจริง แต่ทันทีที่สัมผัสปากผมลำควยเต้ยพองตัวตามไวมาก ไวจนน่าตกใจ


แป๊ปเดียว ชายเสื้อบอลเต้ยก็ตุงขึ้นมาชี้หน้าผม ควยเต้ยแข็งแล้วเป็นทรงชี้ตรง ผมทนไม่ไหว ขอดูหน้าตาน้องชายหน่อย จับชายเสื้อเปิดขึ้น โอ้โห ควยสีน้ำตาลกำลังดีเลยครับ ท่อนลำสะอาด ขนาดเขื่องไซส์กำลังดี แต่ถุงอัณฑะมีหมอยเยอะเป็นลูกเงาะไปหน่อย น่าจะเป็นหนึ่งในสาเหตุกลิ่นอับที่โชยตอนจับรูดกางเกงในลงมา


ผมเอาควยเต้ยเข้าปากไปทันที ยัดเต็มกระพุ้งแก้ม เม้มหัวควยเน้นๆ เต้ยไม่ร้องสักแอะแต่ทำหน้าเหมือนคนมีอะไรอยู่ในใจครับ เลยต้องถามฟีดแบ๊คมันไปว่า “จะให้ทำต่อไหม โอเครึเปล่า”

“ไม่เคยมีคนมาทำแบบนี้ให้เลย รู้สึกดี แต่อาย” เต้ยตอบกลับมา ได้ยินเท่านี้ก็โอเคละ ถือว่ามึงยินยอม ผมเลยอมมิดโคน ควยแข็งสู้ลิ้นมาก ยิ่งเล่นลีลาลิ้น ก็ยิ่งพองตัวขึ้น จนผมอยากรู้ว่า มันจะถึงที่สุดที่ตรงไหน จนถึงท่าที่ลากลิ้นเลียตั้งแต่โคนถุงกระโปก ลากขึ้นผ่านลำแล้วจบลงที่เลียรูควยถึงได้เห็นว่า หนังหุ้มปลายควยเต้ย ร่นจนหัวเปิดเต็มที่แล้ว รูควยปริ่มน้ำเงี่ยนด้วย


ผมดูทรงประหม่าทำอะไรไม่ถูก ก็รู้เลยว่าเต้ยยังบริสุทธิ์ จึงอยากจับให้ขึ้นครูกับรูขับถ่ายของผมเพื่อเป็นการตัดหน้ารูหี เพราะรู้ว่าอนาคตคงจบลงที่รูประตูหน้าของผู้หญิงแน่นอนเราไปครอบครองเหนี่ยวรั้งควยเขาห้ามไม่ให้ลองตอกหีไม่ได้ แต่วันนี้เราสามารถชิงตัดหน้าเป็นคู่เย็ดน้ำควยแรกของไอ้เต้ยได้


ผมเลยจูงมือไอ้เต้ย พาลงนอนเตียง ล้วงหาเครื่องมือในเป้คือเจลหล่อลื่นกับถุงยาง เจลยังไงก็ต้องใช้อยู่แล้วแต่ถุงยางนี่ กะลองเสียบสดดูก่อน ถ้าเต้ยมันถามหาค่อยเอามาสวมให้ แน่นอน อย่างที่คิดครับ เอ๋อๆ แบบนี้ จับทำอะไรก็ทำ ไม่เรียกร้องอะไรเลย ถ้าไม่กระพริบตาบ้างกูคงนึกว่ากำลังจะเอากับตุ๊กตายาง



“จะเอาเข้าไปนะเต้ย ไม่ต้องกลัวนะ เต้ยเป็นผู้ชาย เต้ยไม่เจ็บหรอก” ผมจัดท่าตัวเองนั่งเทียน หย่อนก้น เอามือจัดให้หัวควยเต้ยจ่อรูทวารหนักที่เคลือบด้วยเจลเรียบร้อยดีแล้ว หูรูดจีบตูดผมค่อยๆ เปิดอ้า รับสิ่งแปลกปลอมเข้าไปในตัว ใช้เวลาสักครู่จนร่างกายเราสองคนเริ่มคุ้นเคยไม่ต่อต้านกัน ก็สอดใส่เข้าไปได้ครึ่งทาง ผมก็โพล่งขึ้นมาถามเต้ยก่อนที่จะมิดด้ามกัน


“ยังไม่เคยเอากับใครมาก่อนใช่ไหม” ไอ้เต้ยไม่ตอบ แต่ส่ายหน้ายอมรับว่ายัง ผมเลยแจ้งเพื่อทราบต่อ “ช่วงแรกจะนั่งให้ก่อน แล้วเดี๋ยวเต้ยเป็นคนทำเองนะ” แล้วผมก็กดเข้าจนแทงสุดโคนเลยช่วงแรกๆ นั่งขย่มเจ็บนิดหน่อย แต่พอเข้าที่เข้าทางแล้ว มันลื่นๆ เสียวๆ ลำใหญ่คับแน่น สะใจมากเลยครับ แล้วสดด้วย เงี่ยงหัวควยขูดกวาดอยู่ด้านในทวารหนักจนเสียวซ่าน ควยผมแข็งโด่ใส่หน้าไอ้เต้ยเลย อยากจะชักว่าวให้ตัวเองไปด้วย แต่เกรงใจครั้งแรกของไอ้เต้ย ต้องคอยสังเกตุใส่ใจมันหน่อย


นั่งเทียนให้สักพักจนรูตูดเริ่มชินชา เริ่มหายเงี่ยนรูตูด ไม่เงี่ยนมากเท่าช่วงแรกแล้ว ก็จัดท่าใหม่ ผมล้มตัวลงนอนแล้วงัดตัวไอ้เต้ยที่นอนอยู่ให้ลุกขึ้นมาเป็นฝ่ายเย็ดผมจากแรงเด้าของตัวเองกลายเป็นสลับด้านเย็ด พากันหันหัวไปทางปลายเตียง


“ยังไงดี เรายังทำไม่เป็นเลย” อือหื้อ ดูมันพูด น่าตบบ้องหูซักทีผมนึกถึงคำพูดครูสอนเพศศึกษาตอนมัธยมเลยครับ แกบอกว่าคนเราไม่ต้องไปตั้งใจค้นคว้าศึกษาหาความพิสดารเรื่องเพศสัมพันธ์หรอกถึงเวลาเจอตรงหน้า มันก็ทำเป็นกันได้เอง มนุษย์ยุคหิน หรือคนโง่ เขาก็ทำเป็นทั้งนั้น


“เฮ้ยเต้ย เอ็งเป็นผู้ชายนะ ต้องทำได้ดิวะ ถ้าทำไม่ลงจะไม่ว่าเลย แต่ทำไม่เป็นเนี่ยก็ลองหัดดูก่อนดิ” ผมพูดไปอย่างนี้ เต้ยมันเลยค่อยๆ ลองขยับสะโพก เข้าออกเป็นจังหวะช้าๆ


“อาหหห” ตั้งแต่ทำกันมาทั้งหมด ผมเพิ่งได้ยินเสียงครางเสียวตรงๆ จากเต้ยเป็นครั้งแรก แต่เหมือนเต้ยแขนเล็ก ไม่ค่อยมีแรงยันเตียง ผมเลยดึงตัวโน้มลงมากอดแผ่นหลังไว้ แบบกอดกันตัวกลม ให้มันเด้าง่ายขึ้น ซึ่งมันก็เริ่มทำได้ดีขึ้นจริงๆ เด้าส่งน้ำหนักดีขึ้น จนเริ่มได้ยินเสียงเนื้อกระทบกันแบบคนมีเซ็กซ์ตามปกติทั่วไป


ตอนแรกแหยะๆ เสื้อบอลเฉอะแฉะเหงื่อที่หย่อนลงมาทาบโดนอก เพราะของมันแฉะอยู่คนเดียวแต่เนื้อตัวเราแห้งสะอาด สัมผัสมันขัดแย้งกัน ไม่ได้เปียกเหงื่อทั้งคู่หรือแห้งทั้งคู่ พอใช้เวลานิดหน่อยเริ่มชิน ผมก็มีอารมณ์ร่วมแล้ว พยายามไม่โฟกัสที่ความขัดแย้งเปียกๆ แห้งๆ แหยะๆ แต่นึกถึงว่ากำลังสอนเพื่อนขึ้นครูให้เย็ดเป็นจนน้ำแตกเป็นน้ำแรก


“โอวๆๆๆๆ อาหหๆๆๆ” เต้ยเริ่มครางระรัวขึ้น กอดผมเย็ดตัวกลม หน้าซุกคอผม ลมหายใจรดต้นคออุ่นจนเกือบร้อนเหมือนเต้ยกำลังอยู่ในอารมณ์ทั้งเสียวทั้งอาย ไม่กล้าเงยหน้าขึ้นสบตาคู่ขา ส่วนที่เริ่มไม่เขินอายก็น่าจะมีแต่บั้นเด้ามันเพราะเริ่มกล้าลงน้ำหนักเย็ดแรงขึ้นเรื่อยๆ เสียงดังปั๊บๆๆๆๆ เต็มที่แบบไม่แคร์ผีบ้านผีเรือนแล้วระดับนี้แหละที่ผมพอใจ ลีลาไม่เด็ดไม่ว่า แต่ขอให้ตั้งใจเย็ดสุดกำลัง ไม่ใช่ไร้ชีวิตชีวา


พอผ่านไปพักนึง จู่ๆ เต้ยก็เหมือนจะก้าวข้ามขีดจำกัดของตัวเองได้ ยันตัวลุกขึ้นมาเอง เอาหมอนข้างมารองสะโพกผม หนุนให้มุมสูงขึ้นจะได้เย็ดถนัด แล้วก็จับท่อนขาผม กางออกเป็นตัววีซอยเข้าออกถี่ๆ หนักๆ มองหน้าผมสลับมองเพดานเป็นบางช่วงแล้วครวญคราง เดาเอาว่าคงเริ่มใช้จินตนาการถึงหน้าผู้หญิงที่ชอบหรืออะไรแนวๆ นั้น



“คงทำได้อีกไม่นานนะ เริ่มจะไม่ไหวแล้วอะ” เต้ยออกตัว ขณะที่ผมชักว่าวให้ตัวเองไปด้วย โงหัวขึ้นมองเห็นใบหน้าละมุนปนเสียวซาบซ่านของหนุ่มไทป์หมาเด็กที่เพิ่งหัดตอกรู กับเสื้อบอลสกรีนข้อความเรื้อนๆ แปะโลโก้ทีม โลโก้สปอนเซอร์นู่นนี่นั่นจนรกรุงรังที่ไอ้เต้ยสวมอยู่แล้วควยผมยิ่งแข็งเด่เข้าไปอีกมันดูเป็นธรรมชาติแบบเสื้อบอลที่ผู้ชายบ้านๆ ทั่วไปเค้าใส่แข่งบอลกันจริงๆ ไม่ใช่เสื้อบอลตัวละหลายพันแบบที่พวกเซียนบอลรวยๆ ใส่โชว์แล้วเอาแต่วิจารณ์แต่เตะบอลเองไม่เป็น

รู้สึกได้ถึงจังหวะที่เต้ยกำลังจะลอกคราบเป็นหนุ่มเต็มตัวใกล้เข้ามาทุกที


“เต้ย เสียวมากเลยว่ะ ขอเสร็จก่อนนะ โอวๆๆ ” แล้วผมก็ชักว่าว ปั่นอารมณ์ถึงขีดสุดจนน้ำกามทะลัก ปล่อยเรี่ยราดเต็มหน้าอก ฉีดยาวไปจนถึงลูกกระเดือก เพราะเสียวกับสภาพไอ้เต้ยที่กำลังจับผมแยกขาซอยรูตูดยิกๆ อยู่ตรงหน้า


“นี่ก็ใกล้เสร็จแล้ว เดี๋ยวชักออกมาปล่อยด้วยนะ” เต้ยเปรยว่ากำลังจะถึงสวรรค์ตามติดไปด้วยคนผมรีบยันตัวขึ้นมารั้งตัวเต้ยไว้ ไม่ให้ถอนควยออก โอบกอดแผ่นหลังให้ลงมานอนเย็ดเต้ยตกใจเล็กน้อยแต่ก็ทำหน้าที่ต่อไปไม่หยุดกระเด้า คือผมต้องการให้เต้ยเสร็จคารูผม แตกใน จะเก็บไว้เป็นเมมโมรี่ดีๆ ชิ้นโบว์แดงอีกคน นี่ถ้ากูเป็นผู้หญิง ไอ้เต้ยคงคิดว่าผมวางแผนจะปล่อยท้องจับทำผัว


“เฮ้ย เสร็จแล้วอะ ไม่ไหวแล้ววววว ฮ่าหหหห” เต้ยร้องลากยาวผมก็เปลี่ยนตำแหน่งจากที่โอบหลังมัน มาจับสะโพกแล้วโยกตัวเข้าหากันให้แน่บชิดยิ่งขึ้น เหมือนกลัวมันจะทำควยหลุดแล้วไม่ได้หลั่งใน 555 ไอ้เต้ยก็ยอมต้องปล่อยไปตามกลไกธรรมชาติอะครับไม่ทันได้ชักออกมา น้ำเย็ดหนแรก ได้หลั่งสดๆ เข้าไปในรูตูดผู้ชายด้วยกัน ไม่ได้ปล่อยเข้าหี


มันรู้สึกว่าทำพลาดไปรึเปล่าก็ไม่รู้หรอกนะ แต่ฝ่ายผมอะรู้สึกเหมือนทำแต้มได้ 555



ผมรู้ดีว่าเวลาผู้ชายได้หลั่งในรู มักจะปล่อยตัวตามสบายจนกว่าจะฉีดอสุจิออกมาหมดชุด เพราะไม่ต้องกลัวเลอะเทอะเกินพอดี หรือทำกระเด็นเข้าตาคู่ขา จะต่างกับพวกที่ชักออกมาปล่อยด้านนอก ก็เลยนอนนิ่ง ขมิบรูตูดเล็กน้อยช่วยบีบรัดควยเพิ่มความเสียวขณะผู้ชายกำลังหลั่งลูบหัวเต้ยไปด้วย ดูมันหน้าเสียวเกร็งกระตุกไปเรื่อยๆ จนมันถอนหายใจยาว ถึงแน่ใจว่าปล่อยกระสุนออกมาหมดรังเพลิงแล้ว


เต้ยฟุบคาอกผม แรกๆ เหมือนจะดูน่ารักดี แต่ครั้งแรกของไอ้เต้ยคงหนักหนาเอาการสำหรับมันมันฟุบซบอกนานมาก จนควยเริ่มอ่อนตัว ค่อยๆ หลุดออกมาจากรูทวารของผมเอง เหมือนมันจะเผลอหลับแบบไม่รู้ตัวด้วยเลยตบต้นคอมันเบาๆ เรียกสติ ผมยอมนั่งเบ่งน้ำควยที่อยู่ในตัวออกมาทีหลังได้แต่อยากให้มันรักษาสุขอนามัยตัวเองก่อน ไล่ให้มันไปล้างตัวล้างควยแล้วค่อยกลับมานอน นี่กูเจ้ากี้เจ้าการจนดูเหมือนเป็นเจ้าของห้องเลยเนอะ


พอเต้ยมันอาบน้ำเปลี่ยนชุดเรียบร้อย มันก็นอนแบบหลับเป็นตายเลยครับ ผมก็ไปนั่งเบ่งเอาน้ำกามออกและอาบชำระล้างทีหลังมันน้ำเชื้อที่เกิดจากการออกแรงเย็ดครั้งแรกของเต้ยนั้นถือว่าเยอะ และยิงเข้าไปลึกทีเดียว ฉีดล้างยังไงก็รู้สึกว่ายังออกไม่หมด คงต้องทิ้งไว้ 2 หรือ 3 วัน รอให้ขับถ่ายออกมาเองตามธรรมชาติ



คืนนั้นก็ถือวิสาสะนอนค้างห้องไอ้เต้ยไปเลยกลางดึกผมจับมันหันมาให้กอดผม และอ้าแขนไปเกาแกรกๆ กึ่งนวดกระหม่อมให้มัน เต้ยก็ปล่อยให้ทำอย่างนั้นนะครับ ดูมันจะชอบที่รู้สึกสบายผ่อนคลาย ดีใจที่มันไม่ระแวง หรือเกิดมองหน้ากันไม่ติด นอนด้วยกันไม่ได้


เช้ามาก็เอากางเกงในมันที่ใส่แข่งบอลขอกลับตามที่ตกลงไว้ เหงื่อแห้งหมดแล้วทิ้งกลิ่นหนุ่มให้ดมแค่ 2 วันกลิ่นแม่งก็หายเกลี้ยง 555 ก็ไม่ใช่แนวฮอร์โมนเพศชายสูงอะนะ


หลังจากนั้น ผมกับเต้ย ก็ได้นัดเย็ดกันอีกเป็นครั้งที่ 2 แต่พอครั้งที่ 3 เหมือนมันเริ่มรู้สึกแล้วว่าเป็นความสัมพันธ์ที่มันไม่โอเค มันบอกกับผมตรงๆ เลยว่าเราอย่าทำอย่างนี้กันอีกเลย มันบาป


ห๊ะ บาปเหรอ วอทดาฟัค ไม่ได้ถามมันเหมือนกันว่าเอาเรื่องเพื่อนเย็ดตูดกันเป็นบาปนี่มาจากความเชื่อของสำนักหรือเทพเจ้าองค์ไหนแต่ก็โอเคครับ พื้นฐานคือเริ่มไม่เต็มใจแล้ว หยุดก็หยุด ผมก็ไม่เซ้าซี้และช่วงที่ใกล้สอบจู่ๆ ไอ้ดิวก็โผล่หัวกลับมาเป็นบัดดี้ผม กุลีกุจอตามส่งงาน และติวข้อสอบกับผมเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น อีสัดดิวมึงทิ้งกูไปหาหีจนกูมีเวลาไปสนิทกับคนอื่นถึงขั้นเย็ดกันได้นะยังไงก็ตาม มันทำให้ผมเริ่มมีระยะห่างกับไอ้เต้ยไปเองโดยอัตโนมัติ   ตอนแรกก็คิดนะว่ามันจะน้อยใจหรือเปล่า แต่ก็ไม่เลยครับ เหมือนถึงมันจะเป็นหนุ่มน้อยหน่อมแน้ม แต่เต้ยมันก็ทำอะไรด้วยตัวคนเดียวได้ แม้ไม่มีผม หรือเพื่อนมันคนที่ดรอปยาวเพราะปัญหาสุขภาพ


หลังจากสิ้นสุดวิชาเลือกตัวนั้น ผมก็แทบไม่เจอหน้าไอ้เต้ยอีกเลย

มาเจออีกที สคิปข้ามไปเป็นช่วงทำงานใหม่ๆ เลยครับ เจอในที่ที่ไม่คิดว่าน่าจะเจอด้วย



ช่วงที่ทำงานแรกๆ ผมฝันมานานแล้วว่าอยากไปเห็นทิวทัศน์ฤดูใบไม้ร่วง ที่โทนเป็นสีเหลืองๆ ส้มๆ แดงๆ ซักประเทศหนึ่งที่มีช่วงภูมิอากาศลักษณะนั้น ก็เก็บเงินไปเที่ยวกับญาติตัวเองที่สนใจทิวทัศน์แบบนั้นเหมือนกันครับต้องกะเวลาดีๆ ไม่งั้นใบมันจะร่วงหมดจนเห็นแต่กิ่ง


ซึ่งเมื่อออกเดินทาง ก็ได้เห็นสวนป่าในช่วงออทั่ม โทนสีแปลกตาสมใจครับ เจอกลุ่มคนไทยบ้างนิดหน่อยระหว่างที่เดินชมสวนอยู่ ก็มีคนเข้ามาทักจากด้านหลัง


“นาย จำเราได้ไหม ที่เคยเรียนด้วยกัน ขอโทษนะจำชื่อไม่ได้แล้ว แต่จำหน้าได้” ไอ้เต้ยเข้ามาทักผมก่อน



ผมยิ้มกว้างทันที รีบตอบกลับทันทีว่าจำได้และจำชื่อไอ้เต้ยได้ด้วยมันจำชื่อผมไม่ได้ไม่เป็นไร แต่ดีใจที่ผู้ชายที่เคยได้เสียกัน มาทักก่อนด้วยความยินดีและนึกถึงเขาไม่ได้หลบหน้าเรา หรือแกล้งทำเป็นมองไม่เห็นไม่รู้จัก


กวาดตามองรอบๆ เหมือนเต้ยจะมากับกลุ่มเพื่อนที่ทำงาน ส่วนผมนั้นมากับญาติก็ขอปลีกตัวแยกออกไปคุยใต้ต้นไม้ใหญ่ครู่หนึ่ง คนเคยลักลอบได้เสียกันมันจะมีเซ้นส์ว่าไปหาที่คุยส่วนตัวกันจะดีกว่ามีคนอื่นอยู่ด้วย


แลกเปลี่ยนสารทุกข์สุขดิบกันคร่าวๆ ทราบว่าเต้ยทำงานบริษัทมหาชน ก็ค่อนข้างมั่นคงเลยละตอนแรกผมก็กะจะแซวความหลังทะลึ่งๆ แต่ยั้งปากไว้ เปลี่ยนใจไม่เอาดีกว่า เขาอุตส่าห์เข้าหาด้วยความใสซื่อเกรงว่าพูดสองแง่สองง่ามไปแล้วจะทำให้อึดอัด ก็เลยถามสั้นๆ ไปว่า “แล้วนี่มีคนรู้ใจหรือยัง”เต้ยบอกว่ายังไม่มี ชอบอยู่เป็นโสด ผมเลยทิ้งท้ายไปเล่นๆ ว่า “โสดนานระวังมีเกย์กะเทยมาจีบแทนนะ”



เต้ยส่ายหัวรัว ตอบกลับแบบติดตลกว่า “ไม่เอาหรอก เคยลองมาแค่คนเดียวก็พอแล้ว”



แหม ปากคอมีไหวพริบขึ้นเยอะ หน้าตายังแบ๊วน่ารักเหมือนเดิม อยากจับหอมแก้มซักฟอดใต้ต้นไม้ที่หลบคุยกัน แต่บรรยากาศไม่เอื้ออำนวยครับ เลยแค่ขอถ่ายรูปคู่เป็นที่ระลึก แลกช่องทางติดต่อกันแต่พอถึงวัยทำงาน ก็ไม่ค่อยมีอะไรชวนคุยหรือทักหา ขอกันไว้ตามมารยาทเฉยๆ คิดว่าหลายท่านคงจะเข้าใจโมเมนท์แบบนี้



กับบางคนปล่อยให้ความทรงจำ หยุดไว้แค่ช่วงอายุของเขาและเราในเวลานั้น ก็พอแล้วครับ เหมาะสมที่สุดแล้ว


สำหรับเรื่องนี้ก็จบลงแล้วครับ สวัสดีครับ

Bebou_260 โพสต์ 2025-2-26 19:49:46

ขอบคุณครับ

basic55 โพสต์ 2025-2-26 20:06:32

ขอบคุณครับ

Win_Freedom โพสต์ 2025-2-26 21:00:58

เปิด โลก เด็ก

minakatols โพสต์ 2025-2-26 21:35:01

น่ารัก อบอุ่นดี เสียวด้วย{:5_117:}

nuangnut1996 โพสต์ 2025-2-26 21:38:06

สนุกมากครับ

matkkojo30 โพสต์ 2025-2-26 21:40:11

เป็นนักเขียนในดวงใจเสมอเลยครับ เล่าได้เห็นภาพตลอดเลย 5555

Kenno โพสต์ 2025-2-26 21:53:45

ขอบคุณครับ

iHNONG โพสต์ 2025-2-26 23:02:48

น่าประทับใจมากครับ

J.Scot โพสต์ 2025-2-26 23:10:17

ขอบคุณมากครับ

udontwannaknow โพสต์ 2025-2-26 23:18:19

น่ารักมากเลยครับ

Nukinho โพสต์ 2025-2-27 00:03:22

น่ารักมากเลยครับ เปิดโลกเด็กน้อย และยังดีที่กลายเป็นมิตรภาพที่ดี แม้จะไม่ได้สนิทกันก็ตาม

TongSW โพสต์ 2025-2-27 00:46:26

เป็นความทรงจำดีๆ ที่จริงน่าจะพัฒน่ได้แต่เต้ยเองคงไม่เข้าใจในเวลานั้น
ดีที่เค้ายังจำหน้าได้แล้วเข้ามาทักทาย อ่านแล้วรู้สึกดี

ขอบคุณที่มาอัพเดตนะครับ

jumboa โพสต์ 2025-2-27 00:48:04

ขอบคุณ​ครับ.

montree254 โพสต์ 2025-2-27 01:25:34

ขอบคุณครับ

shanetc โพสต์ 2025-2-27 01:34:49

ขอบคุณครับ

magicianz โพสต์ 2025-2-27 02:02:44

ขอบคุณครับ

ryug โพสต์ 2025-2-27 03:00:17

ขอบคุณครับ

tajarak3 โพสต์ 2025-2-27 03:02:51

ขอบคุณครับ

brown โพสต์ 2025-2-27 04:09:17

ชายแท้ก็แบบนี้แหละครับ
หน้า: [1] 2 3 4 5 6 7 8
ดูในรูปแบบกติ: เปิดซิงให้หนุ่ม นศ. ลองเย็ดสด เสร็จคารู