SlogaRia โพสต์ 2024-12-29 00:28:01

เรื่องเล่าของตูน ตอนที่ 4

หลังจากวันนั้น มาร์คแทบจะมานอนกับผมทุกวัน แต่เราไม่ได้มีอะไรกันทุกวันนะครับ ส่วนมากจะคุยกัน เล่นเกมส์ด้วยกัน นอนกอดกันซะมากกว่า มาร์คบอกอยากใช้เวลากับผมให้ได้มากที่สุดก่อนจะเรียนจบ เพราะตัวเขารู้ดีว่าเรียนจบแล้วยังไงก็ต้องกลับไปทำธุรกิจกับที่บ้านต่อเราสองคนนอนคุยกันหลายครั้งครับว่าสถานะของเราทั้งคู่คืออะไร เลยตกลงกันว่าเราสองคนให้สถานะกันเป็นพี่น้องครับ อาจเพราะลึกๆ เราทั้งคู่ก็รู้ดีว่าความรู้สึกที่มีให้กันมันคงเลื่อนขั้นไปมากกว่านี้ไม่ได้ เรามองกันอย่างคนที่สนิทและไว้ใจมากๆ มากเท่าที่จะมีให้เพื่อนหรือพี่น้องได้ แต่ไม่ลึกซึ้งพอที่จะเป็นคนรัก อีกอย่างทั้งผมและมาร์คก็มีบทบาทและหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบอยู่อีกหลายอย่าง...หรือจริงๆ เราทั้งคู่ชอบกันแต่ห้ามใจไม่ให้ชอบกันก็ไม่รู้ เพราะสำหรับผมถ้าวันไหนผมเสียมาร์คไป ผมคงเสียใจมากๆ มากจนทำใจไม่ได้แน่ และไม่อยากทำเหมือนเป็นแฟนที่คบกันเพื่อรอเลิกในวันใดวันหนึ่ง เพราะฉะนั้นทำให้ช่วงนี้คือช่วงกอบโกยครับ เราทั้งคู่พยายามทำหลายอย่างด้วยกันโดยเฉพาะเรื่องกิน ชวนกันไปกินอย่างเต็มที่ จนวันหนึ่งมีคำกล่าวที่ว่า "ความไม่ไมีโรค คือลาภอันประเสริฐ" ลอยขึ้นมาในหัวของผมในวันที่ผมเข้าโรงพยาบาลด้วยอาการอาหารเป็นพิษ ที่ผมทั้งคลื่นไส้ อาเจียน ถ่ายท้อง อ่อนแรง ปวดเมื่อยตามตัวและมีไข้ครับ...ทรมานสุดๆ

........................
"ตูน มึงไหวจริงๆ ป่าวเนี่ย มึงดูแบบ...ไม่มีแรงอ่ะ ตอนมึงโทรแจ้งลางาน กูไม่คิดว่ามึงจะเป็นหนักขนาดนี้" อาร์มหันมาถามผมขณะที่ผมนอนบนเตียง
"ก็เพลียๆ แต่ดีขึ้นเยอะแล้ว เมื่อคืนหนักเหมือนจะตาย" ผมบอกอาร์มไป
"แล้ว...มึงมาโรงพยาบาลได้ไงวะ" เสียงมันพูดออกมาอย่างคนจับผิด "น้องคนนั้นพามึงมาเหรอ" มันพูดแล้วยกยิ้มขึ้นที่มุมปาก
"เออ น้องคนนั้นแหละ"
"แล้วตอนนี้ น้องเขาไปไหนวะ" มันพูดแล้วเอี้ยวตัวไปมองรอบห้อง
"เขาก็ไปเรียนสิโว้ยยย" ผมบอกมันไปอย่างเหลืออด
"แล้วสถานะตอนนี้คืออะไร แฟน?" มันพูดหยั่งเชิงผม
"ไม่ใช่แฟน...ตกลงกันว่าจะเป็นพี่น้อง" ผมบอกอาร์มไป
"โห พี่น้องท้องชนหลังสิ อย่านึกว่ากูดูไม่ออกนะ ว่ามึงได้กับน้องเขาไปแล้วอ่ะ" ผมเผลอมองอาร์มตาโตอย่างอดสงสัยไม่ได้ ว่ามันรู้ได้ยังไง
"เห้ยยย นี่ได้กันจริงๆ แล้วเหรอ กูแค่พูดไปงั้นๆ แต่สีหน้ามึงตกใจมาก เหมือนสงสัยว่าทำไมกูรู้ว่าพวกมึงได้กันแล้ว" ไอ้อาร์มพูดอย่างตื่นเต้น ในขณะที่ผมได้แต่อ้าปากพูดไม่ออก
"เชดด เพื่อนกูนี่พัฒนาอย่างก้าวกระโดดจริงๆ กูล่ะภูมิใจชิบหาย" มันพูดแล้วเอื้อมมือมาขยี้หัวผมแรงๆ ผมได้แต่ก่นด่ามันในใจที่มันแกล้งพูดจนล้วงความลับผมแบบนี้ได้
"ไอ่อาร์ม มีงมันร้าย" ผมหันไปพูดกับมัน ในขณะที่มันหัวเราะแล้วพยักหน้ารับอย่างภูมิใจ ก่อนที่เสียงเคาะประตูจะดังขึ้น ผมกับอาร์มหันไปมองที่ประตูแล้วก็ต้องตกใจ เพราะคนที่เข้ามาคือ...บาส

.........................
"สวัสดีครับพี่ตูน พี่อาร์ม" บาสเดินถือกระเช้าเยี่ยมคนป่วยเข้ามาพร้อมพูดด้วยเสียงนิ่งๆ แล้วใช้สายตาเป็นห่วงมองมาที่ผม ทำเอาผมรู้สึกทำตัวไม่ถูกนิดหน่อย
"สวัสดีครับคุณบาส แล้วมาที่นี่ได้ไงครับเนี่ย" อาร์มหันไปยิ้มให้แล้วถามกลับ
"พอดีวันนี้น้องในทีมผมโทร.ไปที่บริษัทพวกพี่ อยากขอข้อมูลบางอย่างเพิ่มก่อนประชุมสรุปผลตอนสิ้นเดือนครับ ทางคนในทีมพี่แจ้งมาว่าพี่เข้าโรงพยาบาล ทางบริษัทเลยอยากส่งของมาเยี่ยม ผมเลยอาสามาให้ครับ" บาสบอกพวกผม เสียงและสายตาของเขาดูมีความเป็นห่วงให้ผมสัมผัสได้อย่างชัดเจน
"ขอบใจมากบาส ตอนนี้พี่ดีขึ้นมากแล้วล่ะ" ผมบอกเขาไป เขามองตาผมสักพักแล้วหลบสายตา
"เออ...คุณบาสเคยฝึกงานที่นี่ใช่ไหมครับ วันก่อนตูนเล่าให้ผมฟัง" อาร์มพูดแทรกขึ้นมาอย่างคนรู้สถานการณ์ มันคงเห็นว่าผมเริ่มอึดอัดเลยหาเรื่องอื่นคุยแทรกขึ้นมา
"ใช่ครับพี่ เป็นรุ่นน้องพวกพี่ 1 ปี...จริงๆ พี่อาร์มไม่ต้องเรียกผมคุณนำหน้าก็ได้นะครับ ฮ่าๆๆ" บาสหันไปคุยกับอาร์ม บรรยากาศตอนนี้ดูเบาขึ้น
"เอางั้นเหรอ โอเคได้เลย แล้วตอนนั้นบาสฝึกงานแผนกไหนล่ะ ทำไมตอนนี้ดูเป็นงานข้ามสายพอสมควรเลย" อาร์มถามบาส
"จริงๆ ผมอยากทำงานในเอเจนซี่แบบพวกพี่นะ ตอนฝึกงานมันสนุกมากเลย ได้เจอคนหลายๆ แบบ มีอะไรใหม่ๆ ให้พร้อมเรียนรู้เต็มไปหมด แต่ที่บ้านผมไม่โอเคน่ะสิครับ...เขาอยากให้ผมเดินตามทางที่พวกเขาวางไว้ให้ เขาติดต่อเพื่อนที่เป็นเจ้าของบริษัทนั้นแล้วจับผมมานั่งยัดทำงานในตำแหน่งนี้โดยไม่ถามความเห็นผมเลย" เขาพูดด้วยน้ำเสียงของคนอึดอัด หาที่ระบาย
"ตอนแรกผมไม่ยอม แต่พวกเขาบอกว่า ยอมให้ผมเรียนตามสิ่งที่ชอบตอนมหาลัยแล้ว ตอนนี้ต้องทำตามพวกเขาบอก ที่แย่คือเพื่อนพ่อคนนั้นเป็นคนใหญ่คนโต มีอิทธิพลไม่น้อย หากผมไม่ทำตามบ้านผมคงลำบาก..." เสียงของบาสเขาดูทุกข์ใจ ผมได้แต่มองเขานิ่ง
"พวกพี่รู้ไหม แม้แต่คนรักของผม ผมก็ไม่มีสิทธิเลือกเอง เพื่อนพ่อคนนั้นจับผมแต่งงานกับลูกสาวของเขา หมายมั่นปั้นมือจะให้ผมสืบทอดบริษัทต่อเพราะเขามีลูกสาวแค่คนเดียว และมีพ่อผมเป็นเพื่อนสนิทของเขาแค่คนเดียว...ผมต้องทนถูกนินทาลับหลังหลายต่อหลายครั้งว่ามาทำงานที่นี่ได้เพราะเส้นเจ้าของของบริษัท ผม..." บาสกำมือตัวเองสั่น เขาก้มหน้าส่ายหัวช้าๆ "ผมอยากมีชีวิตเป็นของตัวเองบ้างจังครับพี่"

ผมกับอาร์มมองหน้ากันนิ่ง อาร์มเอื้อมมือไปบีบไหล่ให้กำลังใจบาส "เอาน่า อย่างน้อยก็ได้พูดอะไรในใจออกมา รับรองเรื่องนี้จบที่พวกพี่ ไม่มีใครรู้ต่อแน่นอน" อาร์มพูดกับบาส เสียงมันดูอ่อนลงกว่าปกติ คงรู้สึกสงสารบาสอยู่ไม่น้อย
"พี่ไม่รู้เลยว่าที่ผ่านมาบาสต้องเจออะไรมาบ้าง ขอบใจนะ ที่ไว้ใจเล่าให้ฟัง แม้จะช่วยอะไรไม่ได้ แต่คราวหลังอยากระบายอะไรแบบนี้ ก็มาหาได้เลย พี่พร้อมฟัง"ผมบอกบาสไปแล้วยิ้มให้
"แค่ช่วยฟังก็ช่วยได้มากแล้วครับ ยิ่งถ้าช่องทางโซเชียลมีเดียที่พวกพี่ช่วยหลังบ้านไปได้ดี ยอดการรับรู้และตัวเลขต่างๆ มันถึงเป้า คงช่วยผมได้อีกเยอะแน่ๆ ครับ" บาสบอกพวกผม
"ไว้ใจพี่ได้เลยไอ้น้อง พี่จะช่วยดูให้เอง พี่มันตัวตึงของบริษัทอยู่แล้ว" ไอ้อาร์มพูดติดตลก แต่เอาเข้าจริง มันถือเป็นนักการตลาดออนไลน์อีกคนของบริษัทที่วิเคราะห์และใช้เครื่องมือในการค้นหาได้ฉลาดและมีประสิทธิภาพมากๆ เหมือนมันเป็นคนมีเซ้นส์ด้านนี้ครับ บางทีมันหาข้อมูลเผื่อไว้เล่นๆ ขำๆ แต่ข้อมูลนั้นได้ใช้เฉยเลยก็มี
"พี่ก็จะช่วยเต็มที่ เท่าที่พี่ช่วยได้นะ" ผมหันไปบอกบาส เขายิ้มให้ผมอย่างดีใจ

"เห้ย...ขอตัวแปปนึงนะ" อาร์มลุกขึ้นยืนพร้อมหันหน้าจอมือถือให้ดูว่าแฟนมันโทรมา พร้อมกับเดินออกไปคุยโทรศัพท์ที่ระเบียง
"ทั้งหมดนี้ คือความจริงที่ผมอยากบอกพี่ครับ" บาสบอกเสียงเรียบ จ้องมาที่ผม "ผมเสียใจ ที่ผมไม่บอกพี่ไปตั้งแต่แรกว่าผมแต่งงานแล้ว คงอายที่พี่จะรู้ว่าผมไม่โสดมั้งครับ ผมไม่ได้เกลียดภรรยาผมนะครับ แต่ก็ไม่ได้รักแบบคู่ชีวิต...วันนั้นที่ผมขอตัวกลับไปทำธุระ เพราะภรรยาผมทักมา ว่าเธอน่าจะกำลังตั้งครรภ์อ่อนๆ" บาสมองผม ผมนั่งนิ่ง ใจสั่นเล็กน้อยเมื่อได้รู้ความจริง
"ผมไม่รู้ว่าพี่คิดอะไรอยู่ แต่ถ้าขอได้ อย่าเกลียดผมเลยนะครับ เป็นพี่น้องกันเหมือนที่พี่อยากให้เป็นก็ได้ "สายตาเขามีแววขอความเห็นใจ
"และผมชอบพี่คือเรื่องจริงนะครับ" บาสเอื้อมมือมาแตะมือผมเบาๆ "แม้เรื่องของเรามันคงเป็นไปไม่ได้แล้ว แต่เหตุการณ์ทั้งหมดในคืนนั้น คือช่วงเวลาที่ผมมีความสุขที่สุดและเป็นตัวเองที่สุดในรอบหลายปีที่ผ่านมา" เขาค่อยๆ บีบมือผมให้กระชับขึ้น "ไม่ได้ตั้งใจจะหลอกพี่เลยนะครับ ผมเสียใจจริงๆ ขอโทษนะครับ" เขาพูดเสียงอ่อน
"พี่ไม่โกรธอะไรบาสเลยนะ สบายใจได้" ผมหันไปบอกเขา หลังจากนั่งนิ่งมานาน"คืนนั้นพี่่ก็มีความสุขมากๆ เช่นกัน ขอบใจอีกครั้งนะที่มาเล่าเรื่องส่วนตัวให้ฟัง...ไอ้น้องชาย" ผมยิ้มให้เขาเบาๆ แล้วกระชับมือที่เขาจับอยู่ให้แน่นขึ้น เขายิ้มให้ผมอย่างคนเศร้าปนสุข พอดีกับอาร์มเปิดประตูระเบียงเข้ามา

"มึง อีกแปปกูกลับแล้วนะ โดนแฟนตามว่ะ" อาร์มหันมาบอกพลางทำหน้างอเล็กน้อย
"ฮ่าๆๆ เออๆๆ ขอให้โชกเลือด เอ้ย โชคดี" ผมหันไปแซวมัน

.......................
หลังจากอาร์มกลับไปไม่นาน บาสก็ขอตัวกลับไปอีกคน เพราะยังไงเขาก็มีภรรยาของเขา ก่อนกลับเขาถามถึงอาการของผมรวมถึงใครพามาโรงพยาบาล ผมก็บอกบาสไปว่าเป็นรุ่นน้องที่สนิทกันที่คอนโด เขาชะงักไปเล็กน้อยพร้อมกับยิ้มฝืนๆ แล้วบอกว่า หากผมทำอะไรที่มีความสุข เขาจะไม่ขัดขวางความสุขของผม ผมพยายามยิ้มให้ผมแบบที่ผมดูออกว่าเขากำลังฝืนอยู่อีกครั้ง ก่อนจะลากลับบ้านไป ผมได้แต่นั่งถอนใจแล้วคิดกับตัวเองว่า สิ่งที่เป็นอยู่ตอนนี้ คงดีที่สุดสำหรับผมและบาสแล้ว

........................
"พี่ เป็นไงบ้าง" เสียงมาร์คถามผมทันทีที่เปิดประตูห้องพักคนป่วยเข้ามา
"ดีขึ้นแล้ว" ผมบอกมาร์ค
"กินข้าวยัง ผมซื้อมาฝากพี่ด้วยเนี่ย" มาร์คถามผมพร้อมชูข้าวกล่องในมือให้ดู 2 กล่อง
"พี่กินอาหารโรงพยาบาลไปแล้วอ่ะดิ พอดีต้องกินยาด้วย" ผมบอกมาร์ค เขาก็ยักไหล่เหมือนบอกว่าไม่เป็นไร แล้วแกะทั้งสองกล่องออกมา "งั้นผมเหมา 2 กล่องเลยนะ" เขาพูดแล้วยิ้มกว้างให้ผม
"ตามสบายเลยจ้า"ผมบอกมาร์คแล้วยิ้มให้
"แล้วนี่จากใครอ่ะ" มาร์คหันไปชี้กระเช้าเยี่ยมคนป่วยที่บาสเอามาเยี่ยมผม
"เอ่อ...จากบริษัทลูกค้าน่ะ" ผมบอกมาร์คไป มาร์คพยักหน้ารับ
"พี่อยากบอกให้มาร์ครู้ไว้นะ ว่าคนที่เอามาให้ชื่อ บาส คนที่ทำพี่เสียใจจนอีกวันต้องตื่นเช้าแล้วไปเจอเราที่ร้านโจ๊กนั่นแหละ" ไม่รู้ผมคิดอะไรอยู่ ถึงบอกมาร์คไปแบบนั้น ทั้งที่จริงไม่ต้องบอกก็ได้
"อ๋อ ไอ้คนที่ได้ครั้งแรกของพี่ไปนี่เอง" มาร์คพูดด้วยท่าทางอ่านไม่ออก "ทำไมอ่ะ เขาจะมาขอคืนดีเหรอ?" มาร์คพูดแล้ววางช้อนไม่ยอมกินข้าวต่อ
"ไม่ใช่แบบนั้น คือบริษัทเขาอยากให้มาเยี่ยม เขาเลยอาสาเอามาให้เฉยๆ" แล้วผมก็เล่าเรื่องที่บาสเจอให้มาร์คฟัง
"ก็น่าเห็นใจเขาอยู่นะ แต่ผมไม่โอนะ ถ้าพี่จะกลับไปหาเขาน่ะ" มาร์คหันมามองผม
"ใจเย็นน่า ไม่กลับไปหรอก สำหรับบาส เหมือนพี่เคลียร์กับตัวเองได้แล้ว ว่าเป็นพี่น้องกันจริงๆ เท่านั้น เหมือนเขาก็เข้าใจและยอมรับในจุดนี้แล้วด้วย" ผมหันไปบอกมาร์ค "ทำไม หึงเหรอ" ผมแซวมาร์ค
"ไม่ได้หึง แต่มัน...อดนอยไม่ได้อ่ะพี่ บอกไม่ถูก" มาร์คบอกผมแล้วเริ่มตักข้าวเข้าปากอีกครั้ง
"เอาเถอะน่าา ไม่ต้องคิดมากกับเรื่องนี้แล้ว" มาร์คพยักหน้าให้ผม
"ผมจะมานอนเฝ้าพี่ทุกคืนจนหมอให้กลับบ้านเลยนะ หายดีแล้วตอบแทนผมด้วย" มาร์คบอกผม
"อยากได้อะไรก็พูดมาตรงๆ น่า"ผมหันไปบอกมาร์คอย่างรู้ทัน
"กู้รู้อยู่นี่" เขาพูดแล้วเฉไปมองทางอื่นไม่มองหน้าผม
"หมอบอกลำไส้พี่ไม่แข็งแรง ต้องดูแลอย่างดี ห้ามทำอะไรให้กระทบกระเทือนอย่างต่ำ 3-6 เดือน" ผมบอกมาร์คพร้อมกับปั้นหน้านิ่งไปด้วย เพราะต้องการอำเขาเล่น
"ห๊ะ พี่เป็นหนักขนาดนั้นเลยเหรอ" เขามองผมสักพักก็เหมือนจะรู้ว่าโดนอำ
"เอาอีกแล้วนะพี่ ไอ้เราก็เป็นห่วงไง" เขาพูด
"ฮ่าๆๆ โทษทีๆ เห็นหน้ามาร์คแล้วพี่อดอำไม่ได้เนี่ยสิ" ช่วยไม่ได้จริงๆ ครับ มาร์คทำให้ผมรู้สึกเหมือนกำลังอยู่กับลูกหมาพันธุ์โกลเด้นรีทีฟเวอร์ มันอดที่จะแกล้งไม่ได้จริงๆ "พี่หายเมื่อไหร่ จะตอบแทนอย่างงามเลย" ผมบอกเขาไปอีกประโยค
"ดีล" เขามองผมแล้วยิ้มอย่างมีเลศนัย ไหงจากลูกหมาโกลเด้นเหมือนหลายเป็นหมาโตเต็มไวขึ้นมาก็ไม่รู้ แต่ก็ยังพันธุ์โกลเด้นเหมือนเดิมนะครับ 555

.............................
ขอจบตอนที่ 4 เอาไว้แต่เพียงเท่านี้นะครับ ขออภัยที่ตอนนี้ไม่มีฉาก 18+ และขออภัยอีกครั้งสำหรับคำผิดในทุกๆ ตอนที่ผ่านมา เนื่องจากผมเป็นนักเขียนมือใหม่มากๆ และเวลาเขียนของผมมีจำกัดมากจริงๆ ทำให้เขียนเสร็จก็ต้องโพสต์เลย
.
สำหรับเนื้อเรื่อง ผมวางโครงเรื่องไว้คร่าวๆ แล้วว่าจะจบประมาณไหน บางฉาก บางตอน คือประสบการณ์จริงที่เกิดขึ้นกับตัวผมเอง ที่พยายามขยายและเขียนให้คนอ่านเข้าใจและจะพยายามเขียนให้ผิดพลาดน้อยที่สุด
.
ขอบคุณทุกคนที่ติดตามและให้กำลังใจมากๆ นะครับแล้วพบกันในตอนถัดไปครับ


phuripatsanarat โพสต์ 2024-12-29 00:38:45

สนุกมากครับ รอตอนต่อไป

J.Scot โพสต์ 2024-12-29 00:50:03

มาต่ออย่างรวดเร็ว

aumking โพสต์ 2024-12-29 01:37:50

คู่กันนานๆ แต่งกันไวๆน๊า

Poen1991 โพสต์ 2024-12-29 06:20:56

รอติดตามนะครับ

mojimaru โพสต์ 2024-12-29 06:30:44

ขอบคุณครับ

iHNONG โพสต์ 2024-12-29 07:06:52

ขอบคุณครับ

Ootou โพสต์ 2024-12-29 07:15:18

ขอบคุณครับ

lekthai โพสต์ 2024-12-29 07:39:53

อ่านเพลิน ขอบคุณ

sengjit โพสต์ 2024-12-29 08:06:52

ขอบคุณครับ

ROSY712 โพสต์ 2024-12-29 08:48:37

ขอบคุณครับ

nuangnut1996 โพสต์ 2024-12-29 08:59:38

สนุกมากครับ

Aquarius_Camu โพสต์ 2024-12-29 21:48:22

ขอบคุณครับ

Yud6565 โพสต์ 2024-12-29 23:19:14

ขอบคุณครับ

pppoi โพสต์ 2024-12-29 23:57:42

เขียนสนุกดีนะ รอติดตามครับ

udontwannaknow โพสต์ 2024-12-30 00:25:17

ชอบมากครับ มาอัพตอนใหม่ไวๆ นะค้าบ

Intra โพสต์ 2024-12-30 06:27:52

เป็นกำลังใจให้ เขียนได้สนุกมาก
ชอบที่ตูนดูคุมอารมณ์ รับมือกับสถานะการณ์ที่เข้ามาได้ดี แอบสงสารบาสนะ แต่สักวันคงได้เจอกันอีกแน่ คนมันมีใจ

tjkung โพสต์ 2025-1-1 01:04:06

ข อ บ คุ ณ ค รั บ

manuswin โพสต์ 2025-1-1 23:40:38

ขอบคุณครับ

Pppat โพสต์ 2025-1-2 01:13:32

ขอบคุณมากครับ
หน้า: [1] 2
ดูในรูปแบบกติ: เรื่องเล่าของตูน ตอนที่ 4