เรื่องเล่าของตูน ตอนที่ 2
เรื่องของตูน ตอนที่ 2ผมรู้สึกตัวตื่นขึ้นมา เห็นนาฬิกาบอกเวลาว่าใกล้จะบ่ายโมงแล้ว รู้สึกเพลียและเมื่อยตัวอยู่หน่อย บาสหายไปจากเตียงแล้ว เปิดประตูห้องนอนออกไปดูที่ห้องรับแขกก็ยังเห็นกุญแจรถของเขาวางอยู่ที่ชั้นวางของใกล้ประตู เขาคงไปหาซื้ออะไรกินแถวนี้ล่ะมั้ง ผมเดินไปล้างหน้าแปรงฟันไม่ทันเสร็จดีก็ได้ยินเสียงเปิดประตูจากห้องรับแขก ทำธุระเสร็จออกไปดู เห็นบาสกำลังแกะอาหารที่น่าจะสั่งจะแอพพลิเคชั่นมาใส่จานที่อยู่เต็มโต๊ะ
"ตื่นแล้วเหรอครับ ว่าจะไปปลุกอยู่พอดีหลังจากเตรียมอาหารเสร็จ" เขาบอกแล้วยิ้มให้ผม
"อืม สั่งอะไรมาบ้างเนี่ย เยอะแยะเลย" ผมถามพร้อมเดินไปหาเขา
"ก็พวกส้มตำ คอหมูย่างนี่แหละ จำได้ตั้งแต่ตอนโน้นว่าพี่ชอบกิน" เขาพูดแล้วเดินมากอดผม
ผมกอดตอบแล้วถามขึ้นมา "โห จำได้ด้วยเหรอ"
"จำได้สิครับ จำได้ด้วยว่าพี่ชอบตำหลวงพระบาง" เขาฝังใบหน้าเข้าที่หัวผมแล้วหอมฟอดใหญ่ "ผมดีใจมากเลยนะ ที่ได้เจอพี่อีกครั้ง แล้วเมื่อคืน ผมมีความสุขที่สุดเลย"
"ฮ่าๆๆ ไม่คิดว่าจะจำได้" ผมเงยหน้าแล้วโน้มคอเขาลงมาจุ๊บ "พี่ก็ดีใจที่ได้กลับมาเจอบาสอีก เรื่องเมื่อคืนก็ดีใจ"
"พอๆๆ พี่เลิกมองผมแบบนี้ก่อน ผมเริ่มจะมีอารมณ์อีกละ" เขาคลายกอดจากผมแล้วพามาที่โต๊ะกินข้าว "กินข้าวก่อนแล้วค่อยว่ากันครับ" เขาขยิบตาให้ผมแล้วนั่งลงฝั่งตรงข้าม
..............................
หลังจากกินข้าวเสร็จได้ไม่ถึง 10 นาที บาสมีสายโทรเข้า เขามีท่าทางเร่งรีบแล้วหันมามองหน้าผม "ว่าจะอยู่กับพี่ทั้งวันสักหน่อย วันนี้คงไม่ได้แล้วครับ" เขาทำเสียงเศร้าใส่ผม
"มีธุระก็รีบไปเถอะ ไม่เป็นไรหรอก ค่อยนัดเจอกันอีกก็ได้" เขาเดินมาซบไหล่ผมที่โซฟา มองตาผมแล้วจูบที่หน้าผากแน่นและนาน "ผมว่าตอนนี้ผมชอบพี่สุดๆ ไปเลยล่ะ" เขาบอกผมแล้วลุกขึ้นแต่งตัว
"พี่ก็คิดว่า พี่ชอบเรามากๆ แล้วเหมือนกัน" ผมบอกบาสแล้วยิ้มให้ เขายิ้มกว้างตอบผม เดินเข้ามาจูบผมอีกหนึ่งทีก่อนออกไปทำธุระของเขา
"ตื่นยังเพื่อน เป็นไงบ้าง" อาร์มแชทหาผม
"ตื่นแล้ว" ผมแชทตอบ
"เป็นไงบ้าง" ผมขี้เกียจพิมพ์เลยกดโทรไป อาร์มรับสายทันทีด้วยเสียงที่ตื่นเต้น "มีไรไหนเล่ามาซิ"
"ก็บาสมาค้างด้วยนั่นแหละ" ผมตอบมันไป "แล้ว...แค่เนี้ย โหกูก็ลุ้นแทบตาย" มันตอบด้วยเสียงเซ็งๆ
"ไม่แค่นั้นดิ แล้วก็เออ เรียบร้อยแล้ว" ผมตอบด้วยน้ำเสียงที่พยายามทำให้นิ่งที่สุด
"เชดดด จิงดิ เพื่อนกูเปิดประสบการณ์แล้ว ข้ามขั้นขอเป็นแฟนไปเลยนี่หว่า" มันพูดด้วยเสียงตื่นเต้น
"โอ้ย มึงนี่นะ แต่หยุดเลยนะ ห้ามเล่าให้ใครฟังต่อ" ผมพูดด้วยเสียงจริงจัง
"เออ รู้แล้วน่า แซวไปงั้นแหละ แล้ว...มึง ได้ป้องกันป่าววะ" อาร์มถามผมด้วยเสียงจริงจัง
"ป้องกันดิ บาสบอกครั้งแรกของกู เลยป้องกันให้"
"โอ้ย หมั่นไส้ว่ะ" มันพูดด้วยเสียงเย้ยใส่ผม "แล้วเป็นไง มึงโอเคกับมันป่าว" มันถามผมต่อ
"ก็โอนะ ถึงจะรู้สึกว่ามันเร็วไปหน่อย ไม่ทันได้เตรียมใจอะไรมาก แต่กูว่ากูชอบเขาว่ะ" ผมบอกอาร์มไป
"โอ้ยย ขอหมั่นไส้อีกรอบแล้วกัน" มันพูดแล้วทำเสียงเย้ยผมอีกรอบ จากนั้นเราคุยกันเรื่องทั่วไปก่อนจะวางสาย บาสแชทมาบอกผมว่าถึงบ้านแล้วกำลังทำธุระ อาจจะตอบช้าหน่อย ผมก็รับทราบแล้วหาซีรีย์ดูจนเผลอหลับไปจนถึงเย็น ผมนอนไถโทรศัพท์ดูคลิปในติ๊กตอกไปเรื่อยๆ ก็ไปต้องชะงักกับคลิปภาพคลิปหนึ่ง ในภาพเป็นคู่รักบ่าวสาวพร้อมคำบรรยาย รีวิวค่าใช้จ่ายงานแต่งงาน ซึ่งเจ้าบ่าวหน้าตาเหมือนคนที่พึ่งบอกผมว่าจะไปทำธุระเมื่อไม่กี่ชั่วโมงนี้...บาสนั่นเอง
ผมไม่รอช้ากดสไลด์หน้าจอดูภาพอื่นๆ ในคลิป เห็นภาพบรรยากาศงานแต่ง ภาพเจ้าบ่าวเจ้าสาวพร้อมชื่อจริงของบาสที่ผมจำได้อย่างชัดเจน ผมทำอะไรไม่ถูก กดโทรหาอาร์มด้วยความรู้สึกบรรยายยาก
"ว่าไงครับเพื่อนน" เสียงอาร์มยียวนเหมือนจงใจจะแซวผมจากเหตุการณ์ที่มันรับรู้เมื่อตอนกลางวัน
"มึง..." ผมพูดได้แค่นั้น ขณะพยายามเรียบเรียงคำพูดในหัว
"เห้ย เป็นไรวะ เกิดไรขึ้น" เหมือนมันจับกระแสอารมณ์ในน้ำเสียงผมได้ จึงถามอย่างรีบร้อน
"กูเห็นคลิปในติ๊กตอก บาสแต่งงานแล้วว่ะ พึ่งแต่งเมื่อเดือนก่อนนี่เอง " ผมพูดพร้อมส่งลิงก์คลิปให้มันดู
"ห๊ะ จริงปะเนี่ย" มันลากเสียงยาว "แล้วเมื่อวาน มันไม่บอกอะไรมึงเลยเหรอ" อาร์มถามผม
"ไม่เลย ไม่พูดถึงงานแต่งเลย" ผมพูดด้วยอารมณ์ที่สั่นคลอน
"แล้วมึงโอเคป่าววะ ให้กูไปหาป่าว" มันถามผมอย่างเป็นห่วง
"กูแค่...ไม่เข้าใจว่ะ ถ้ารู้ว่าเขาแต่งงานแล้ว กูจะไม่ยอมให้ตัวเองถลำลึกไปแบบเมื่อคืนเลย" ผมตอบมันในขณะที่ขอบตาเริ่มร้อน ตอนนั้นผมรู้แค่ว่า ไม่ได้เกลียดบาส แต่รู้สึกโกรธนิดๆ ปนเสียใจและน้อยใจ
"เอางี้ เดี๋ยวกูไปหา คืนนี้กูไปนอนเป็นเพื่อนมึงเอง" อาร์มบอกผม
"ไม่ต้องหรอกมึง กูขอเวลาอยู่คนเดียวและขอเคลียร์เรื่องนี้กับบาสตรงๆ ก่อน ถ้ามีอะไรให้ช่วยเดี๋ยวกูบอกมึงนะ" ผมบอกเพื่อนผมไปและพยายามตั้งสติให้ได้
"โอเค กูแสตนบายอยู่นี่นะ" อาร์มบอกผม
"ขอบใจนะมึง แค่นี้นะ"
"บาย สู้ๆ นะเพื่อน"
..................
หลังจากวางสาย ผมรู้สึกเหมือนจะร้องไห้ แต่ร้องไม่ออก ผมตัดสินใจส่งแชทไปหาอาร์ม
"เป็นไงบ้าง ธุระเรียบร้อยไหม" เงียบ... อย่างที่เขาบอกผมว่าทำธุระอยู่ อาจจะตอบช้านิดหน่อย ผมตัดสินใจเข้าไปดูโปรไฟล์ติ๊กตอกผู้หญิงคนนั้น นอกจากคลิปรีวิวค่าใช้จ่ายงานแต่งงานแล้ว ก็มีคลิปเที่ยว คลิปออกกำลังนิดๆ หน่อยๆ ในบางคลิปมีผู้ชายคนหนึ่งที่ผมจำหุ่นและหน้าตาของเขาได้ดี ผมรู้สึกชัดเจนกับตัวเองแล้ว ว่าเขาคงคบกันและแต่งงานกันอย่างมีความสุขแล้วจริงๆ แต่ผมดันกลายเป็นชู้ของเจ้าบ่าวโดยไม่รู้ตัวซะงั้น
"เรียบร้อยแล้วครับพี่ กินข้าวเย็นหรือยังครับ" บาสแชทตอบผมมาพอดี
"ยังไม่หิวอะ บาสสะดวกคุยไหม พี่มีเรื่องอยากถามหน่อยนึง" ผมแชทไปหาเขา ข้อความของผมขึ้นสัญลักษณ์ "Read" อยู่พักหนึ่งก่อนที่เขาจะโทรมาหาผมเอง
"มีอะไรหรือเปล่าครับพี่" เขาถามผมด้วยน้ำเสียงปกติ
"บาส...แต่งงานแล้วเหรอ" ผมถามเขาด้วยเสียงที่พยายามทำให้ปกติที่สุด แต่ในใจมันสั่นไปหมด
เขาเงียบไปพักใหญ่แล้วตอบเบาๆ "ใช่ครับ" จากนั้นเราก็เงียบใส่กันทั้งคู่
"พี่รู้ได้ไง" เขาพูดด้วยเสียงเบาหวิว
"พี่บังเอิญเห็นน่ะ" ผมบอกเขาด้วยเสียงนิ่ง
"ผมขอโทษที่ผมไม่ได้บอกพี่เรื่องนี้ แต่ที่ผมบอกชอบพี่ ผมพูดจริงๆ นะ" เสียงของเขาดูร้อนรนไม่น้อยก่อนจะพูดต่อว่า "กับภรรยาผม ทางบ้านเราสองคนให้แนะนำให้รู้จักกัน หลังจากที่เราสองรู้จักกันมา 4-5 ปี ที่บ้านเลยให้แต่งงานกัน"
"แล้วแต่งงานกัน ไม่รักกันเลยเหรอ"ผมถามบาส
"มันก็มีรัก มีผูกพันธ์กันบ้างครับ แต่ก็..."เสียงเขาดูนิ่ง หม่นเหมือนคนหมดคิดคำพูดไม่ออก
"อืม...เอาเป็นว่าเรื่องของเราให้มันจบแค่นี้เถอะเนอะ พี่ไม่อยากทำลายครอบครัวใคร" ผมพูดด้วยเสียงที่พยายามทำให้สดใสขึ้นและดูไม่ได้เป็นเรื่องใหญ่อะไร
"แต่ว่า" เสียงบาสดูอึดอัดและลังเล
"เราพึ่งกลับมาเจอกันได้ไม่ถึง 3 วันด้วยซ้ำ ให้เรื่องที่ผ่านมามันผ่านไปเถอะนะบาส รู้จักกันแบบคนที่ต้องทำงานร่วมกัน หรือเต็มที่เลยเป็นแค่พี่น้องก็พอเนอะ" ผมไม่รอให้บาสพูดจบประโยค ผมพูดตัดบทไปเขา
"แล้วเมื่อคืนพี่ไม่รู้สึกอะไรเลยเหรอ กับผมพี่ไม่รู้สึกอะไรเลยเหรอพี่ตูน" บาสถามผมด้วยเสียงตัดพ้อ
"รู้สึกสิ ตอนนี้พี่พยายามทำตัวเข้มแข็งอยู่ รู้ไหม" ผมตอบเขาไป "ผมขอโทษ ผมผิดเอง" บาสบอกผมด้วยเสียงเบาหวิว "พี่อย่าเกลียดผมได้ไหม" เสียงเขาวิงวอนผม
"อืม ต่อจากนี้เราเป็นแค่พี่น้องกันนะ โอเคไหม" ผมบอกบาสไป
"ขอบคุณครับ"บาสบอกผม
........................
หลังจากที่วางสาย ผมนั่งซึมคนเดียวยาวไปเลย ข้าวไม่กิน น้ำไม่อาบ อาร์มทักแชทมาถามบ้างว่า "เป็นยังไง...โอเคไหม" ผมตอบได้เลยว่า"โอเค...ไหว" หรือเพราะผมยังไม่ได้ชอบบาสขนาดนั้นกันนะ ผมเลยไม่ได้เสียใจจนอยากร้องไห้ฟูมฟาย ไม่ได้อยากด่าหรือทำร้ายบาส ผมแค่อยากอยู่เฉยๆ ไม่อยากทำอะไร...ก็เท่านั้นเอง
เช้ามืดวันอาทิตย์ผมตื่นมาบนโซฟาที่นั่งตั้งแต่เมื่อคืน ไม่รู้หลับไปตั้งแต่ตอนไหน หลังจากอาบน้ำเสร็จ ผมเปิดแชทดูมีการอัพเดทข้อมูลงานที่ต้องคุยกับลูกค้าที่นิดหน่อยในวันจันทร์ ผมไม่อยากอุดอู้อยู่ในห้องเท่าไหร่เลยเดินไปหาอะไรกินที่ตลาดใกล้ๆ คอนโด เห็นพระเดินบิณฑบาตเลยซื้อข้าวแกงถุงไปยืนรอใส่บาต ระหว่างผมใส่บาตและนั่งรับพรจากพระ ผมเห็นบางคนไปวิ่งออกกำลังกายตอนเช้าที่สวนสาธารณะใหญ่แถวนี้มาหาซื้อของกินที่ตลาด เป็นบรรยากาศที่ผมไม่ได้เห็นมานานจริงๆ ผมยิ้มกับตัวเองพอดีกับพระให้พรเสร็จแล้วเดินจากไป
ผมเลือกฝากท้องที่ร้านโจ๊กเป็นมื้อเช้า ด้วยความที่วันนี้คนค่อนข้างแน่น ทำให้หลายคนต้องนั่งโต๊ะร่วมกันอย่างเลือกไม่ได้ อย่างโต๊ะผมก็มีคนมาขอนั่งฝั่งตรงข้ามแล้ว 1 คน
"ผมขอนั่งด้วยอีกคนได้ไหมครับพี่" ผมเงยหน้าขึ้นมอง พบเด็กหนุ่มใส่ชุดออกกำลังผิวขาวรูปร่างผอมสูงคนหนึ่ง ตาเรียวคม จมูกโด่ง รีมฝีปากบางเฉียบ ยืนมองผมกับเก้าอี้ข้างๆ ผมสลับกัน
"ได้ๆ" ผมเขยิบเก้าอี้ไปให้เขา
"ขอบคุณครับ"เขาพูดแล้วยิ้มให้ผมก่อนหันไปสั่งโจ๊กมากินบ้าง
.....................
"พี่กินช้าจัง ไม่อร่อยเหรอ" เด็กข้างๆ หันมาถามผม
"อ๋อ พี่ไม่รีบน่ะ ของอร่อยต้องค่อยๆ กิน" ผมหันไปบอกเขาแล้วยิ้มตอบ
"ผมจำพี่ได้อ่ะ พี่อยู่คอนโดXXX ใช่ไหม?" เด็กหนุ่มข้างๆ ผมถาม
"ใช่ เราก็อยู่ที่นั่นเหมือนกันเหรอ ไม่เห็นจะคุ้นหน้า" ผมถามกลับอย่างงงๆ
"โห...พี่ ผมเห็นพี่ตอนเลิกงานบ่อยเลย" เด็กนั่นบอกผม
"หืม แต่พี่เลิกงานไม่เป็นเวลานะ บางเย็น บางวันค่ำ บางวันดึกเลย" ผมถามกลับอย่างประหลาดใจ
"ผมอยู่ห้องฟิตเนสทุกเย็นจนค่ำทุกวันอ่ะ มันมองออกไปเห็นทางเข้าตึกข้างล่าง" เด็กหนุ่มคนนี้บอกผม
"โหย...ฟิตเกิ้นนนน" ผมบอกเขาพร้อมกับหัวเราะ แล้วเด็กนั่นก็หัวเราะตอบ
เราสองคนตกลงที่จะเดินกลับคอนโดพร้อมกัน เด็กคนนี้ชื่อ "มาร์ค" เรียนปี 4 ภาคอินเตอร์ของมหาลัยใจกลางเมือง คุยเก่งมาก ชวนผมพูดไม่หยุด บอกว่าตัวเองเป็นคนอีสาน พ่อแม่เช่าคอนโดนี้ให้อยู่ระหว่างเรียน จริงๆ มาร์คอยากเป็นนักดนตรี เขาบอกว่าเขาชอบเล่นกีตาร์และร้องเพลงมาก แต่ทำอะไรไม่ได้เพราะที่บ้านยื่นคำขาดให้กลับไปทำธุรกิจของที่บ้านต่อหลังจากเรียนจบ จะว่าไปเด็กสมัยนี่ก็สูงกันสุดๆ ไปเลยเนอะ อย่างมาร์คนี่สูง 180 ซ.ม. เลยทีเดียว น้องฝึกงานหลายๆ คนที่บริษัทก็สูงๆ กันแทบทุกคน วัยรุ่นตอนปลายอย่างผมสูงเท่าไหล่หรือคางของพวกเขาเท่านั้น
"นี่พี่เป็นคนเหนือเหรอ สอนภาษาเหนือผมหน่อยสิ เพื่อนคนเหนือที่มหาลัยผมสอนตั้งหลายคำ แต่มันบอกผมว่าสำเนียงผมไม่ได้เรื่องเลย" หลังจากคุยกันสักพัก เขาก็ถามนั่นนี่ผมไม่หยุด แถมขอให้ส่อนภาษาเหนือไปอีก น้องเขาจะรู้ไหม ว่าคนแต่ละภาคมันเลียนแบบสำเนียงกันยาก ต้องใช้เวลาไม่น้อยเลย
"ไว้ว่างๆ พี่จะให้นะสอน" ผมพูดกับมาร์คไปขำๆ
"วันนี้แหละ พี่ว่างไหม มาห้องผมนะๆ มาสอนผมหน่อย" มาร์คตื้อผมไม่หยุด
"ก็ได้ ไหนๆ วันนี้ก็ว่างแล้ว" ผมตกลงไป
"เย่ ขอบคุณครับ" แล้วมาร์คก็เอาแขนโอบไหล่ผมพาไปที่ห้องของมันเลย
..........................
ทันทีที่เปิดประตูเข้ามา ผมเห็นกีตาร์ โปสเตอร์วงดนตรี กล่องน้ำยาพอตหลายกล่องบนโต๊ะและเสื้อผ้ากองโตที่วางซ้อนกันในห้องขนาด 1 ห้องนอนนี้
"ห้องรกหน่อยนะพี่ อยู่คนเดียวจขี้เกียจเก็บห้องน่ะ" มาร์คบอกผมพร้อมเดินไปยกเสื้อผ้าออกจากโซฟาให้ผมนั่ง แล้วเขาก็เปิดประตู เอาเสื้อผ้าไปโยนไว้ข้างในนั้น
"นี่ถามจริง อยากเรียนภาษาเหนือไปทำไมเนี่ย" ผมถามย้ำเพราะดูท่าทางเขาไม่น่าจะอยากเรียนอะไรแบบนี้จริงจัง
"ก็อยากจีบคนเหนือน่ะ เพื่อนในคณะนี่แหละ" มาร์คตอบผมพร้อมอมยิ้ม "ขอดูดพอตนะพี่ ไม่ว่ากันนะ" เขาพูดแล้วดูดพอตจนแก้มตอบแล้วพ่นควันออกไปด้านข้าง
"จีบคนเหนือไม่ต้องพูดเหนือก็ได้น่า" ผมบอกเขาไป
"อยากดูพิเศษไง" เขาพูดยิ้มๆ "แต่ติดปัญหาตรงที่เหมือนเขาจะชอบทอม"
"อ้าว งานยากละ" ผมบอกเขาไป
"พี่ว่าคนที่ชอบเพศเดียวกันจะชอบเพศตรงข้ามได้ไหม" มาร์คถามผมด้วยเสียงไม่ติดเล่น
"ยากว่ะ แล้วแต่คนเลยว่าเขาจะเปิดใจกับการคบคนแบบไหน เพศไหน"
"แล้วพี่ล่ะ"
"พี่ชอบผู้ชาย" ผมบอกน้องไปตามตรง "แต่ตอนมัธยมก็เคยชอบผู้หญิง" มาร์คทำหน้างงๆ "แต่ถ้าตอนนี้ให้กลับไปคบผู้หญิงก็คงยากนะ ถ้าเลือกได้ก็ขอเลือกผู้ชายก่อน"
"อ๋าา งั้นผมก็หมดหวังดิ"มาร์คพูดขึ้นมา
"ไม่หรอก เราไม่รู้ใจเขาสักหน่อย จริงอยู่ที่เขาดูชอบทอม แต่ถ้าคนที่มาจีบเขาเป็นผู้ชายเขาก็อาจจะชอบก็ได้ ถ้าอยากลองก็ลองดูก่อน" ผมพูดให้กำลังใจมาร์ค
"งั้นถ้าผู้หญิงมาจีบพี่แล้วพี่ชอบ พี่ก็จะโอเคใช่ไหม" มาร์คถามผม
"ถ้าโอเคจริงๆ ก็คงใช่ พี่เลือกคนที่อยู่ด้วยแล้วสบายใจ แต่คงยาก เพราะถ้าผู้หญิงเข้าหา พี่คงให้เป็นแค่เพื่อนก่อน" ผมตอบมาร์คไปตามที่ผมคิด
"เอ๊าา อะไรของพี่เนี่ยย" เขาพูดแล้วหัวเราะ
"แล้วสำหรับพี่ คบเพศเดียวกันมาดีกว่ายังไง" มาร์คถามผมต่อ
"ดีต่อใจมั้ง ฮ่าๆๆ"ผมตอบมาร์ค "มันเป็นเรื่องของความรู้สึกแค่นั้นแหละ"
"แล้วพี่เคยมีเซ็กส์กับผู้ชายไหม" มาร์คถามผม
"เคย...ครั้งแรกในชีวิตเลย เมื่อคืนก่อนนี่เอง" ผมตอบมาร์คด้วยใจที่สั่นหน่อยๆ
"เหเยจิงดิ แล้วเป็นไงบ้าง"
"ก็ดีนะ ประทับใจ" ผมตอบเขายิ้มๆ "แต่ตอนนี้ไม่ค่อยประทับใจละ เขาบอกชอบเราแต่พึ่งมารู้เมื่อวาน เขาแต่งงานไปแล้ว ตอนนี้เป็นแค่พี่น้องกันก็พอละ"
"อ้าว นี่พี่โดนหลอกฟันเหรอ แล้วยังเป็นพี่น้องกันต่อเพื่อออ" มาร์คถามด้วยสีหน้าเหรอหรา
"ไม่นะ เขาเรียกว่าวินวินต่างหาก พี่ก็ได้เขา ไม่ใช่แค่เขาได้พี่สักหน่อย แล้วบริษัทเขาจ้างบริษัทพี่ทำงานด้านโซเชียลมีเดีย ยังไงก็ต้องได้เจอได้คุยกันอยู่ดี ยังไม่รู้เลยถ้าได้เจอจะทำหน้ายังไง" ผมพูดแล้วถอนหายใจ"แล้วนี่จะเรียนภาษาเหนือไหมเนี่ย สัมภาษณ์พี่อยู่ได้"
"ไม่เรียนละ เรียนไปก็ไม่รู้ว่าจะจีบติดไหม เรียนเพศศึกษาดีกว่า" มาร์คตอบผม
"เป็นงั้นไป แล้วนี่เคยมีประสบการณ์อะไรแบบนี้หรือยัง" ผมถามมาร์คด้วยเสียงติดเล่น
"ครั้งแรกกับเพื่อนตอน ม.6 แต่แตกไว จิ้มไปแปปเดียวเอง สาวไม่ประทับใจ ไม่กล้าลองกับใครอีกเลย" มาร์คตอบผมหน้าตาย แล้วเขาก็พ่นควันพอตออกมาอีกรอบ
"อ้าว แต่จริงๆ ของแบบนี้มันฝึกกันได้แหละมั้ง ไม่ชัวร์นะ พี่ไม่เคยจิ้มใครเสียด้วย ไม่รู้จะช่วยยังไงเลย" ผมบอก
มาร์คเงียบไปแปปนึงแล้วพูดว่า "ช่วยได้สิ ถ้าพี่ไม่รังเกียจอ่ะนะ"
ผมขมวดคิ้วชนกันนิดหน่อยก่อนที่จะแอบตกใจกับคำตอบของเขา "มีเซ็กส์กับผมได้ไหม สอนผมให้ทนเสียวได้นานๆ หน่อย รับรองไม่บอกใคร ไม่วุ่นวายกับเรื่องส่วนตัวพี่แน่นอน"
"แน่ใจเหรอมาร์ค" ผมถามหยั่งเชิงมาร์ค ซึ่งใจจริงผมไม่ติดนะ ชอบด้วยซ้ำที่จะได้มีเซ็กส์อีกครั้งหลังจากเปิดประสบการณ์ในคืนนั้นไป แถมมาร์คก็ดูดีเสียด้วย
"เออน่า โอเคที่สุด พี่ทำผมแข็งได้ก็พอ ที่เหลือผมจะพยายามเอง" เขาตอบแล้วหลบสายตาผม ผมจ้องหน้าเขาเห็นหน้าและหูเขาเริ่มแดงเล็กน้อย
"ขอดูดหน่อยสิ" ผมยื่นมือหาเขา มาร์คทำหน้าตกใจ
"เริ่มเลยเหรอพี่" เขาทำท่าตื่นเล็กน้อยแล้วเริ่มถอดเสื้อ
"พี่หมายถึงพอต อยากลองดูดดู เคยดูดแต่บุหรี่ตัวของเพื่อนตอนดื่มเหล้า ไม่เคยดูดพอตสักที" ผมยื่นมือหาเขาอีกรอบ
"โถพี่...พูดซะผมคิดลึกเลย" แล้วเขาก็ส่งพอตให้พร้อมท่าทางเขินเล็กน้อย
"โห รสหวานจังอ่ะ เย็นคอเกินนน" ผมบ่นเล็กน้อยหลังจากพ่นควันออกมา แล้วยื่นพอตกลับไปให้เขา มาร์คยิ้มตาหยีให้ผมพร้อมกับพูดเขินๆ ว่า "แล้วพร้อมดูดเจ้าของพอตหรือยัง"
..................
ผมไม่รอช้าที่จะเดินไปหาเขา เขายืนขึ้นเต็มตัว ถอดเสื้อแล้วโน้มคอมาจูบผม รสหวานและความเย็นของพอตยังค้างอยู่ปาก รู้สึกแปลกไปอีกแบบ
"พี่จูบไม่เก่งนะ พึ่งเคยจูบครั้งแรกวันก่อนเอง" ผมบอกมาร์ค
"ผมก็จูบไม่เก่ง จูบครั้งแรก 4 ปีก่อนแน่ะ" มาร์คบอกผมแล้วเราก็จูบกันต่อ เราสองคนพยายามแลกลิ้นกัน เล้าโลม ลูบคลำกันอย่างคนไม่ชำนาญทั้งคู่
"ถือว่าฝึกวิชาไปพร้อมกันนะ" ผมบอกมาร์ค มาร์คยิ้มแล้วดึงแขนผมเข้าไปในห้องนอนที่เต็มไปด้วยกองเสื้อผ้าของเขา
"ตื่นเต้นว่ะพี่" มาร์คบอกผมในขณะที่เราสองคนกำลังถอดเสื้อผ้าออกจากตัว
"ไม่ต่างกันหรอก" ผมแอบเขินเล็กน้อยที่ต้องเปลือยกายกับเด็กที่พึ่งเจอกันไม่ถึงครึ่งวันตรงหน้า
"ตูดขาวจัง หันมาหาผมหน่อย หูย นมอมชมพูจังอ่ะ" มาร์คแซวผมแล้วจับแขนหมุนตัวผมให้หันมา ผมเอามือปิดน้องชายของผมที่กึ่งแข็งกึ่งอ่อนแทบไม่ทัน
"คนมันเขินนะโว้ย" ผมแกล้งโวยวายเล็กน้อย
"ผมก็เขิน" มาร์คพูดอายๆ เด็กคนนี้ค่อนข้างผอม มีกล้ามนิดหน่อยเท่านั้น เขาเอามือปิดน้องชายของเขาเอาไว้มือหนึ่ง
"ลงไปนอนดิ เดี๋ยวอมให้ วันนี้แค่ภายนอกก็พอเนอะ" ผมบุ้ยปากไปที่เตียงนอน มาร์คพยักหน้า ค่อยๆ ลงไปนอนแล้วเอามือสองข้างมาปิดตา
"รีบมาอมเร็วพี่ ผมเขินจะแย่อยู่แล้ว" หลังจากสิ้นประโยคนั้น ผมแทรกเข้ากลางตัวมาร์ค น้องชายเขาคล้ำกว่าผิวกายเล็กน้อย มีขนกระจุกอยู่ที่โคน โดยส่วนลำยังนอนอยู่ไม่ยอมตื่น ผมค่อยๆ เอามือจับแล้วรูดหนังหุ้มปลายลง ใช้มือค่อยๆ รูดขึ้นลงพร้อมกับใช้ลิ้นแตะเบาๆ มาร์คขยับตัวเล็กน้อย ไม่ยอมเอามือออกจากตา ผมค่อยๆ ออกแรงชักขึ้นลงมากขึ้นแล้วเอาปากครอบลงไปทั้งดุ้นของมาร์ค มาร์คสะดุ้งพร้อมกับพูดออกมา "อุ่นๆ ลื่นๆ จังเลยครับพี่" ไม่นานหลังจากนั้น มาร์คน้อยเริ่มขยายเต็มที่ กะด้วยสายตาคงยาวประมาณ 6 นิ้ว งอขึ้นเล็กน้อย ผมดูดและรูดไปเรื่อยๆ ไม่ลืมที่จะใช้มือคลึงไข่และเอาลิ้นลงมาเลียบ้าง มาร์คสะดุ้งเสียวและส่งเสียงซี๊ดซ๊าด เกร็งตัวทุกครั้งที่ผมอมสุดโคนและเล่นกับไข่ของเขา
"พี่ผมเสียว...เหมือนจะแตกแล้ว" เขาพูดเสียงกระเส่าออกมา เมือสองข้างเอื้อมมาจับมือผมและกุมน้องชายของเขาไว้ "ผมยังไม่อยากแตก" มาร์คบอกผม ผมเลยย้ายตำแหน่งขึ้นไปจูบปากและเล่นหน้าอกของเขามาร์คดิ้นกระตุกขณะที่ผมเลียหย้าอกและชักลำของเขาไปด้วย
"เสียวเกินพี่ พอก่อนๆๆ"เขาลืมตาเอามือจับต้นแขนของผมไว้ทั้งสองข้างก่อนจะพูดกับผมว่า "ตาผมทำให้พี่บ้าง รอเสียวได้เลย" แล้วเขาก็จับผมพลิกตัวไปอยู่ด้านล่าง มาร์คค่อยๆ ใช้ลิ้นไล้ตามคางขึ้นไปจนถึงหูของผม เขาจูบและเล่นหูจนผมเสียวไปหมด ก่อนที่จะเลื่อนใบหน้าลงมาคลอเคลียและเล่นหน้าอกของผม ในขณะที่สองมือของเขาตอนนี้ย้ายมาบีบเฟ้นตูดของผมแล้ว
"พี่เคยโดยอมไหม" มาร์คถามผม
"ไม่เคย" ผมตอบไป
"โหย ไอคนแรกของพี่่นี่ยังไงเนี่ย" มาร์คพูดแล้วเขาก็อมน้องชายของผมเข้าไป ผมตกใจไม่คิดว่าเขาจะทำให้ มันรู้สึกเสียวแบบบอกไม่ถูกก่อนที่เขาเงยหน้ามองผมแล้วยิ้มมุมปากให้ แล้วก้มลงเลียไข่และตูดของผมต่อสลับกับชักให้ผม ผมเริ่มดิ้นและกระตุกด้วยความเสียวที่มาร์คมอบให้จนเกือบแตก
"มาร์ค พี่เสียว พอก่อน จะไม่ไหวแล้ว" ผมบอกมาร์ค แต่เหมือนมาร์คยิ่งได้ใจ เขาเล่นหน้าอกผมด้วยปากแล้วชักผมเร็วและแรงขึ้นจนผมกลั้นไม่ทันและแตกออกมา มาร์คมองผมแล้วยิ้มอย่างพอใจในผลงานตัวเอง
"ตาพี่แล้ว" ผมพูดแล้วจู่โจมเขาด้วยแรงที่มี พลิกขึ้นมาอยู่ข้างบนแล้วอมน้องชายของเขาอีกรอบ แต่คราวนี้เน้นที่หัวจนมาร์คดิ้นตัวงอแทบเป็นกุ้ง ผมไม่ยอมให้เขาเสียวแค่นี้ เอามือซ้ายจับลำแล้วเอาฝ่ามือขวาถูวนบริเวณหัวของน้องชายเขา มาร์คครางออกมาเสียงดังพร้อมกับดิ้นแรงกว่าเดิม ผมทำไปเรื่อย ๆ สลับกับการชักแรงๆ จนเขาบอกว่าจะแตกและเด้งเอวสวนขึ้นมาถี่ขึ้น ผมจึงแกล้งเขาด้วยการปล่อยมือทั้งสองออกให้เขาซอยอากาศเล่นๆ เขามองผมด้วยสีหน้างงเล็กน้อยก่อนจะทำหน้าค้อนใส่ผมเมื่อรู้ว่าตัวเองโดนแกล้งให้ใกล้เสร็จแล้วไม่ยอมทำต่อ ก่อนที่มาร์คจะอ้าปากพูดอะไรออกมา ผาจับลำและใช้ฝ่ามือฝนส่วนหัวของเขาอีกครั้งจนเขาดิ้นทุรนทุรายด้วยความเสียว คราวนี้ผมเน้นน้ำหนักให้มากกว่าเดินจนเขาทนไม่ไหวและแตกออกมาในที่สุด...แต่มีหรือที่ผมจะหยุด ผมฝนหัวเขาต่อไปจนเขาครางออกมาและหดตัวหนี
"พี่พอก่อนๆๆ...เสียวเกิน ผมไม่ไหว" มาร์คทำเสียงขอร้องผม
"แต่พี่ไหว" ผมใช้ฝามือถูลูบส่วนหัวน้องชายของมาร์คต่อจนเขาดิ้นแรงและครางออกมาเสียงดังอีกรอบ ผมจึงหยุด เขานอนหายใจหอบมองหน้าผม "ร้ายนักนะพี่อ่ะ" ผมยิ้มรับคำชมนั้นแล้วชวนมาร์คไปล้างตัวก่อนที่จะมาใส่เสื้อผ้านั่งคุยกัน
"เป็นไงบ้าง" ผมถามมาร์คที่ตอนนี้นั่งดูดพอตข้างๆ ผม
"เสียวมาก ชอบมาก คราวหลังผมเล่นพี่หนักกว่านี้แน่" เขาพูดแล้วยื่นพอตมาให้ผมดูด ผมหัวเราะกับประโยคนั้น
"คราวหน้า...ผมขอ เอ่อ ข้างหลังพี่ด้วยได้ไหม" มาร์คถามผม
"ได้สิ แต่เมื่อกี้ก็ไม่แตกเร็วขนาดที่เราบอกพี่นี่" ผมถามมาร์ค
"ไม่รู้สิพี่ ไว้ลองหลายๆ ครั้งเดี๋ยวก็คงรู้เอง ว่าทำไงแตกเร็ว ทำไงแตกช้า" มาร์คตอบผม
"ฮ่าๆๆ งั้นพี่กลับห้องก่อนนะ ขอไปซักผ้าก่อน แล้วเย็นนี้ว่างไหม" ผมถามมาร์ค
"ฮั่นแน่ จะชวนผมทำต่อล่ะสิ ติดใจผมแล้วเหรอ" มาร์คแซวผม
"จะชวนไปกินข้าวว้อย" ผมบอกมาร์คไป
"ว่างครับพี่" แล้วมาร์คก็ขอคอนแทคผมไว้ ก่อนออกจากห้อง มาร์คเดินเข้ามาหาผมแล้วบอก "ขอบคุณครับพี่ชาย เย็นนี้เจอกันครับ" ผมเดินออกจากห้องมาร์คอย่างอดขำไม่ได้ ที่อยู่ๆ ได้น้องชายที่ทำอะไรมากกว่าน้องชายเพิ่มซะงั้น ก่อนเดินไปขึ้นลิฟต์เพื่อกลับห้องเพื่อพักผ่อน
..............................
ชีวิตมีเรื่องเซอร์ไพร์สตลอดเวลาครับ หวังว่าทุกคนจะเจอแต่เรื่องเซอร์ไพร์สดีๆ ไม่มีเรื่องแย่ๆ เข้ามานะครับ
ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ อันนั้นก็เซอไพรเกิน ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ สนุกมากครับ ขอบคุณค่ะ ขอบคุณครับ ผมว่านะเรื่องนี้ผมชอบกว่าเรื่องแรกเพราะผมเป็นคนชอบภายนอกด้วย ขอบคุณครับ บทจะมีก็เข้ามาติดๆ มาร์คน่ารัก เข้ามาในจังหวะที่ถูกต้อง บาสเองก็ผิดในส่วนที่ไม่ชัดเจนก่อน รอติดตามต่อ ว่าจะเป็นอย่างไรต่อไป ขอบคุณมากครับ ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ สนุกกขอบคุณครับ