normalcy โพสต์ 2022-9-22 10:13:54

เพลิงกันต์ บทที่หนึ่ง

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย normalcy เมื่อ 2022-9-22 18:11

บทที่หนึ่ง -- ก่อนที่ทุกอย่างแผดเผามันเป็นคืนที่ฝนตกหนัก ผมทำได้แต่มองตึกที่ถูกชโลมด้วยเปลวเพลิง เสียงกรีดร้อง และเขม่าควันถึงแม้ร่างกายของผมจะเปียกปอนไปด้วยน้ำฝนแต่ผมก็รู้สึกได้ถึงไอร้อนจากโศกนาฏกรรมเล่นระเริงแผดเผาเหมือนเยาะเย้ยน้ำตาสวรรค์ ในความอลหม่านของคนที่หนีตาย เสียงของรถดับเพลิงที่กำลังจะมาถึง ผมได้แต่ยืนมองมันยืนฟังมัน เหมือนผมได้ยินเสียงที่แอบซ่อนอยู่ในประกายไฟ

“ไอ้กันต์โว้ยยยย”ปัง ปัง ปัง เสียงเรียกปลุกพร้อมกับการทุบประตู ปลุกผมให้ตื่นขึ้นมาจากฟูกที่นอนปวดหัว“มึงจะนอนไปถึงไหนวะ เสี่ยจะมาแล้ว” เสียงเพื่อนผมทำให้ผมตาสว่างทันที ผมรีบควานหาเสื้อใส่จากราวแขวนผ้า หยิบเสื้อที่ดูไม่น่าเกลียดนักพร้อมกับส่งเสียงขานรับเพื่อนของผม“เออ กูตื่นแล้วเชี่ย ใส่เสื้ออยู่”“เร็วๆหน่อยดิวะถ้ามึงไม่ทัน รอบนี้กูไม่ช่วยมึงแล้วนะ ลาก่อย” เสียงของเพื่อนผมที่เบาลงทุกขณะพร้อมกับเสียงฝีเท้ามันเดินห่างไปเรื่อยๆ“เสร็จแล้ว รอกูด้วย” ผมรีบตามออกไปหามัน
ผมยืนอยู่ใน “คอริดอ” ก่อนห้องโชว์ตัวตามระเบียบ ในห้องทางเดินแคบๆที่แอร์เย็นเฉียบนี้ มีเพื่อนร่วมชะตากรรมกับผมอยู่หลายสิบคน ทุกคนต่างก็ยืนมือไขว้หลังสีหน้าเรียบเฉย บ้างเม้มปาก บ้างเหม่อลอย แต่บางคนก็แอบมองไปมาสบตากับเพื่อนคนอื่นๆที่ยังไม่ได้เป็นแบบพวกแรก
ผมเองก็เป็นหนึ่งคนที่ชายตามองสังเกตรอบตัวเช่นกัน ก็มันไม่มีอะไรทำนี่นา ในห้องแคบๆนี้ทุกคนจะต้องมายืนตามระเบียบชิดผนังซ้ายขวา รอพวก “หมาเสี่ย” มานับหัวพวกเราหาว่ามีใครหายไปรึเปล่า แต่ใครล่ะจะกล้าหนี ผมล่ะไม่เข้าใจจริงๆว่าพวกรุ่นก่อนกลุ่มที่ได้ฉายาว่าหนีเยอะที่สุด เขากล้าทำได้ยังไง ในเมื่อพวกเราทุกคนก็ตกอยู่ใน “อำนาจ” ของเสี่ยกันหมดแล้ว
ผมแอบมองไปทางซ้ายมือไอ้ชิต เพื่อนสนิทของผมก็ยืนตรงเอามือไขว้หลังอยู่ข้างๆผมอย่างสง่าผ่าเผยหนุ่มหน้าโคตรจีนจิ้มลิ้มอย่างมันค่อนข้างแตกต่างจากเพื่อนๆที่เหลือ พวกเราต่างก็ผิวคล้ำกร้านแดดคิ้วเข้มสไตล์สยามหรือไม่ก็รูปหน้าไทยเหนือ ไอ้ชิตมันเตะตาลูกค้าหลายๆคนก็เพราะเรื่องนี้นี่แหล่ะ ถึงมันจะทำท่าภูมิใจและเบ่งใส่ผมแทบทุกครั้ง แต่ผมกลับรู้สึกว่าเพราะมันไม่มีสิทธิแม้แต่จะรู้สึกอย่างอื่นได้เลยกล้ำกลืนคิดแง่ดีเสียมากกว่า
“เฮ้ย มึงอ่ะ” เอาล่ะ พวกหมามาแล้วเสื้อยืดสีดำแว่นตากันแดดสีดำ บู้ตทหารสีดำ มาพร้อมกับใจสีดำและกระบองสีดำในมือที่พร้อมจะลงทันต์แบบไม่ยุติธรรมใส่พวกเราได้ทุกเมื่อกล้ามที่เป็นมัดๆพร้อมกับความซื่อสัตย์ต่อเสี่ยที่แม้จะต้องแลกด้วยชีวิตทำให้พวกมันมีชื่อเล่นว่ารอตไวเลอร์
ป้าบ พวกมันตัวนึงเอากระบองฟาดหน้าเพื่อนร่วมชะตากรรมของผม ท่าทางของเขาดูเก้งก้างและตื่นตระหนก สงสัยอาจจะเป็นเด็กใหม่ รอบนี้พวกมันจะเอาเกือบตายอีกรึเปล่านะ “มึงยืน” ป้าบ “ยังไง” ป้าบ “ให้ท่า” ผัวะ “มึงเหลว” ผัวะ “ขนาดนี้” ผัวะ..ตึงงง มันฟาดหน้าด้วยกระบองแล้วก็ชกเข้าที่ท้องอ่า ล้มไปแล้ว ถ้าผมเตือนแล้วพวกหมามันไม่ได้ยินก็คงพูดไปแล้วล่ะ แต่เสียใจด้วยนะไอ้น้อง“ค่อกๆๆ ผม อึกฮึกๆ ข.. ขอ อึก ท.. โทษครับ” “ลุก ไอ้สัตว์” ตุ้บ“อ้อค”เตือนว่าถ้าล้มหมามันจะเตะซ้ำ เพื่อนๆทุกคนได้แต่ยืนตามระเบียบไม่แม้แต่จะมองภาพตรงหน้าด้วยความสงสารหรือโกรธแค้นแต่อย่างใด
สถานการณ์ระยำแบบนี้ ถ้าเป็นเมื่อสี่ปีก่อนมันก็คงไม่สามารถเกิดขึ้นได้ แต่วันนึง ทุกอย่างเปลี่ยนไป โลกเกิดการระบาดครั้งใหญ่ เป็นไวรัสบางอย่างที่ทำให้ผู้ติดเชื้อสร้างผลึกในร่างกายและผลึกพวกนี้มักจะเกิดขึ้นใกล้หัวใจ บางคนที่มีผลึกชิ้นใหญ่ก็อาจจะโดนผลึกบาดหัวใจได้ ในตอนแรกทุกคนต่างก็คิดว่ามันเป็นไวรัสที่แพร่ทางอากาศ
แต่มันกลับแพร่ไปด้วยอย่างอื่นแทน....และผู้ติดเชื้อที่มีผลึกนั้น น่ากลัวกว่าที่โลกคิดไว้มาก มันเกิดขึ้นเป็นครั้งแรกเมื่อกลุ่มก่อการร้ายโจมตีกรุงลอนดอนด้วยคลื่นแสงบิดเบือนบางอย่าง
คนที่โดนคลื่นแสงก็จะเกิดอาการคล้ายคนมีมะเร็งผิวหนังระยะสุดท้ายภายในสี่ชั่วโมงการก่อการร้ายครั้งแรกด้วย “อำนาจ” และจุดเริ่มต้นของความโกลาหลทั่วโลก
ชาวต่างชาติเรียกมันว่า Authority“มันไม่ใช่พลังมานาแบบในเกมแต่มันคือ สิทธิ์ ที่จะเปลี่ยนแปลงกฎของโลก” กลุ่มชาวอเมริกันที่เรียกตัวเองว่าเหล่านักปราชญ์กล่าวไว้แบบนั้น
มันเริ่มมีการก่อเหตุด้วย “อำนาจ” ทั่วโลกห้างใหญ่ที่เดินแล้วอาจจะโดนเทเลพอร์ตไปได้ทุกเมื่อบ้านของศัตรูอาจจะลอยขึ้นเหมือนแก๊สสถานที่สำคัญอาจจะตกอยู่ในช่วงเวลาหนึ่งตลอดกาลบ้างก็เกิดฝนตกเป็นน้ำแข็งอ่า ไม่ใช่สิ... “น้ำที่แข็ง” ต่างหาก...
และเรื่องแบบนี้ก็เกิดขึ้นในประเทศไทยเหมือนกันหลายประเทศไม่สามารถยืนหยัดหลังจากการตื่นขึ้นด้วย “อำนาจ” ของเหล่าผู้ติดเชื้อได้น่าเสียดายที่ประเทศไทยก็เป็นหนึ่งในนั้น
ในตอนนี้ แถบประเทศไทยและเพื่อนบ้านใกล้เคียงก็เรียกตัวเองว่าสหพันการค้าอำนาจสมุธรก่อตั้งด้วยสามคนที่เรียกได้ว่าครอบครองเอเชียตะวันออกเฉียงไต้ อัญญาเทพีแห่งสมุทร Goddess of the Seaทากุล ราชากษาปณ์ King of all Coinsหมิง วายุสวรรค์คลั่งMad Celestial Storm
ชื่อเบียวๆ*ที่โคตรเฉิ่มแบบนี้ ถ้าเป็นเมื่อก่อนคงจะโดนล้อยันลูกบวช*จูนิเบียว หรืออาการหลงผิดคิดตนเขื่อง
แต่ในยุคนี้ที่ “อำนาจ” ชี้เป็นชี้ตายให้คนทั้งเมืองได้ ยิ่งชื่อเดาทางยาก ก็ยิ่งน่ากลัว

“มึงพอได้แล้ว” เสียงเรียบๆทำให้ผมตื่นจากภวังค์“ครับเสี่ย” หมาได้ยินก็หยุดและยืนมือไขว้หลังตามระเบียบเหมือนเพื่อนๆของผมพวกหมามันไม่ยอมก้มหัวให้ใครทั้งนั้น พวกมันคิดว่าพวกมันอยู่เหนือกว่าพวกผมนักดังนั้นคนที่ทำให้พวกมันยืนท่าพักตามระเบียบเหมือนพวกผมก็มีแค่คนเดียวเท่านั้นแหล่ะผมชายตาไปมองผู้ชายคนนั้น คนที่กุมชีวิตของพวกเราทุกคนที่นี่
เสี่ย
หนุ่มวัยสามสิบผมสั้นสีเทาผิวขาวซีด สายตาเย็นชามาพร้อมกับสูทสีม่วงคู่ใจและกางเกงสีดำที่ทำให้ดูเหมือน เคานต์แดรคคูลา ผู้ดื่มเลือดมนุษย์และไร้ซึ่งความเมตตาใดๆต่อ “ปศุสัตว์” ของตนเอง
เสี่ยมองเด็กใหม่ที่ถูกซ้อมด้วยความไร้อารมณ์เด็กใหม่มันนอนกุมท้องอยู่บนพื้นด้วยท่าทางโอดโอยแต่ไร้เสียง อย่างน้อยมันก็รู้ตัวไม่ส่งเสียงให้เสี่ยรำคาญ เด็กใหม่มันน่าจะเอาตัวรอดที่นี่ได้“ลุก” เสี่ยพูดด้วยน้ำเสียงเรียบๆ เด็กใหม่ได้ยินแล้วก็ลุกขึ้นยืนตั้งท่าตามระเบียบทันที ไม่ว่ามันจะรู้สึกอย่างไรกับการลุกอย่างกะทันหันหลังจากที่โดนซ้อม แต่ในตอนนี้ความรู้สึกและความคิดของมันไม่มีความหมายอะไรแล้ว เพราะร่างกายของมัน ต้องทำตามที่เสี่ยต้องการ เท่านั้น
เสี่ยมองสำรวจร่างสะบักสะบอมของเด็กใหม่ก่อนเอามือทาบกล้ามซิกแพ็คของมันทันใดนั้นมือของเสี่ยก็มีแสงสีแดง แสงทำการลูบไล้บริเวณที่โดนซ้อมก่อนจะซึมเข้าไปในร่างของเด็กใหม่และไม่นานสีหน้าของมันก็แสดงถึงความเจ็บปวด มันกัดฟันทนสักพักก่อนที่แสงจะหายไปทั้งหมดเสี่ยมองร่างกายของมันที่ดูดีขึ้นอย่างพอใจ เหมือนว่าเด็กใหม่มันจะเตะตาเสี่ยอยู่ในระดับนึง นี่สเปกเสี่ยรึ
ผมใช้เวลานี้สังเกตเด็กใหม่ให้ชัดๆ
เด็กใหม่น่าจะอายุสักยี่สิบปีนิดๆ ผมสั้นสีน้ำตาลเข้ม ตาสีดำ ผิวแทนนิดๆทรงร่างกายดูไม่ได้มีถึงขั้นนักเพาะกล้ามแบบพวกรอตไวเลอร์แต่ก็พอมีกล้ามอยู่บ้างแต่อาจเพราะแขนขายาว ทำให้ดูแล้วเก้งก้างเหมือนหนุ่มวัยรุ่น สีหน้าก็ยังแสดงถึงความอ่อนต่อโลกอยู่
“มาที่ห้องคืนนี้..สองทุ่ม” เสี่ยพูดด้วยน้ำเสียงเหมือนอ่านหนังสือ ส่วนสีหน้าของเด็กใหม่ก็แสดงถึงความตกใจปะปนด้วยความอายและความกลัว “กลับไปประจำที่ซะ”เสี่ยพูดต่อ เด็กใหม่เดินกลับไปยังที่ที่มันเพิ่งจะโดนซ้อมเมื่อไม่ถึงหนึ่งนาทีที่แล้วแต่สงสัยเรื่องนั้นมันคงจะบินออกจากหัวไปเรียบร้อย เพราะหน้ามันมีแต่ความกังวลและความเขินพยายามขยับตัวให้ท่ายืนระเบียบเหมือนเพื่อนข้างๆ กลบเกลื่อนแก้มที่แดงเล็กน้อยของมัน
“นับหัวเป็นยังไงบ้าง” ต่างกัน เสี่ยกลับไปถามหมาตัวนึงต่อ ไม่แยแสต่อคู่นอนคืนนี้เลยแม้แต่น้อย“ครบทั้งสี่สิบสามคนครับเสี่ย” ไอ้หมาตอบ“ไม่มีคนคิดหนีเลยรึ” เสียงราบๆของเสี่ยถาม มีหมาอีกตัวตอบ“เช็คในห้องพักหมดแล้วครับเสี่ย ไม่มีอาวุธหรือของอันตรายครับ” หมาตัวนี้เหมือนจะเป็นผู้ติดเชื้อที่ตื่นพลัง มันน่าจะหา “ของหวงห้าม” ด้วย “อำนาจ” ของมัน เสี่ยได้ยินดังนั้นก็พยักหน้า
“ทำดีนี่” สิ้นเสียงของเสี่ย สีหน้าของพวกหมาทุกตัวก็แสดงถึงความสุข พวกมันหายใจถี่ ยืนตัวเกร็งบางตัวถึงขั้นครางออกมาเล็กน้อย
ใช่แล้วล่ะ
รางวัลที่ทำให้พวกหมายอมเป็นขี้ข้าเสี่ยไปตลอดชีวิต นั่นก็เพราะ “อำนาจ” ของเสี่ยมอบความสุขล้นให้พวกมันได้ ยิ่งกว่าการที่มัน “เอาออกมาเอง”
เหมือนหมาจรจัดที่ได้กินเนื้อภัตตาคารหรูชิ้นโตยากที่จะลืมแล้วกลับไปหาเศษขยะกินได้
ผมมองไปที่ไอ้หมาผู้ติดเชื้อ มันหายใจถี่ขึ้นเรื่อยๆ เหงื่อบนหน้าผากของมันไหลลงมาที่แก้มของมัน เหงื่อร่วงตามลงมาที่คอก่อนจะไหลลงเสื้อยืดคอกลมสีดำของมันที่เริ่มชื้นขึ้นเล็กน้อย ด้วยความรัดรูปทำให้เห็นอกกระเพื่อมและทรวดทรงของชายชาตรีใต้ผ้าสีดำ ไม่ต่างไปจากทหารกล้าที่คอยปกป้องเจ้านายของตนเองทันใดนั้น ไอ้หมาผู้ติดเชื้อก็เงยหน้าเม้มปากหลับตาปี๋ มันกระเด้าอากาศเล็กน้อยก่อนจะเกร็งสุดตัวสักสามสี่ทีและค่อยๆคลายตัวลง ไอทางปากมีให้เห็นเล็กน้อยจากแอร์ที่เย็นเฉียบตัดกับลมหายใจมนุษย์มันยิ้มยิงฟันให้เสี่ย ถึงแม้ว่ามันจะเป็นชายฉกรรจ์ร่างใหญ่ แต่รอยยิ้มของมันแทบจะไม่ต่างไปจากเด็กน้อยยิ้มให้พ่อมันเลย ผมเหล่ตาลงไปมองเป้าของกางเกงลายพรางมัน ชื้นและมีคราบเล็กน้อย ไม่ต่างไปจากหมาตัวอื่นๆเสี่ยมองพวกหมาด้วยแววตาเฉยเมย สังเกตหมาทุกตัวก่อนจะหันหลังเดินออกไปเสี่ยไม่ได้มองด้วยกามอารมณ์ใดๆทั้งสิ้น มันน่ากลัวยิ่งกว่านั้น
เสี่ยมองดูว่ามีหมาตัวใหนไม่ยินดีที่จะตกอยู่ภายใต้ “อำนาจ” เสี่ยรึเปล่า
“รีบๆต้อนพวกของเล่นไปได้แล้ว พวกมันยังมีงานที่ต้องทำอยู่อีกก่อนจะถึงเวลาเปิด” เสี่ยพูดเสร็จก็เดินออกไปทางประตูหลัง ไม่แยแสต่อรอยยิ้มของไอ้หมาผู้ติดเชื้อหรือพวกหมาตัวอื่นๆเลย
แต่แล้วผมก็เห็นไอ้เด็กใหม่ มันมองภาพตรงหน้าด้วยความสับสนและหวั่นเกรง ไม่ต่างไปจากวันแรกของผมสักเท่าไหร่นักมันก็คงกลัว กลัวว่าสักวันหนึ่งมันจะกลายเป็นแค่ของเล่น ไม่ต่อต้านคำสั่ง ไม่มีความคิดอื่นที่เจ้านายไม่ต้องการเป็นแค่ตุ๊กตามีชีวิต แต่ไม่มีอะไรเลย ใช่แล้วล่ะไอ้เด็กใหม่ ยินดีต้อนรับสู่ซ่องเพลย์กราวน์


ปล1 แก้ font และคำผิด

normalcy โพสต์ 2022-9-22 10:17:07

กระทู้แรกครับ เป็นเรื่องที่ผมลองเขียนเล่นๆเป็นครั้งแรก หวังว่าจะมีคนชอบบ้างนะครับ

audiwoods โพสต์ 2022-9-22 10:56:15

เกริ่นเรื่องได้ยาวมากครับ

muttea โพสต์ 2022-9-22 11:21:05

เนื้อเรื่องน่าสนใจครับ รออ่านตอนต่อไปนะครับ

Nattamon โพสต์ 2022-9-22 14:00:16

ขอบคุณ​ครับ​

12pao โพสต์ 2022-9-22 14:37:42

ขอบตุณครับ

l2ookmoo โพสต์ 2022-9-22 16:37:45

ขอบคุณครับ {:5_119:}

nuangnut1996 โพสต์ 2022-9-22 18:50:14

สนุกมากครับ

Linkren โพสต์ 2022-9-23 00:13:42

แนวแปลกดีน่าสนใจ

papae5za โพสต์ 2022-9-23 01:08:36

ใจจ้า

jackkrab โพสต์ 2022-9-23 01:33:31

ขอบคุณครับ

pai_2552 โพสต์ 2022-9-23 02:14:32

ขอบคุณครับ

kaki โพสต์ 2022-9-23 02:21:51

รอติดตามตอนต่อไปครับ

eg1 โพสต์ 2022-9-23 05:14:38


ขอบคุณ​ครับ​

risingmoons โพสต์ 2022-9-23 20:38:48

ขอบคุณครับ

Vishanu โพสต์ 2022-9-23 21:13:17

ขอบคุณ​มาก​ครับ​

dekmember โพสต์ 2022-9-24 10:59:08

แปลกใหม่ น่าสนใจ และเขียนได้น่าติดตามดีครับ

theera โพสต์ 2022-9-24 13:25:34

รออ่านตอนต่อไปครับขอบคุณครับ

papae5za โพสต์ 2022-9-24 21:48:32

ใจจ้า

kridty75 โพสต์ 2022-9-25 02:55:38

ขอบคุณครับ
หน้า: [1] 2
ดูในรูปแบบกติ: เพลิงกันต์ บทที่หนึ่ง