เดกไรวะน่ารักเปนบ้า3
ตอน ปมช่วงนี้ไอ้ลิงแห้งมันมีสอบย่อยครับ ผมเลยบังคับให้มัดงดเล่นเกมไปก่อนแต่หน้าอย่างมันหรอจะยอมทำตาม
ง่ายๆผมเลยต้องลากมันมานอนคอนโดเพื่อคุมความประพฤติ(คิดหรอ ว่าผมหวังดีขนาดนั้น ไม่หรอก
ทั้งหมดมันแค่ข้องอ้าง 55+)
“อ๊า…ไอ้ลูกลิง”อยู่มันก็เดินมาทับตัวผมที่นั่งทำงานอยู่เฉยเลย เห็นมันผอมอย่างงี้แรงโคตรควายเลยครับ
“คิดจะทำไร ตัวเท่านี้สู้กูได้เหรอ”
“คิดว่ากูยอมมึงหรอ”แล้วมันก็โถมตัวมาทับผมลงกับพื้น เราก็เล่นมวยปล้ำไปสักพักจากที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ดีๆ
ร่างของเราก็เริ่มลงมากองกันข้างล่าง พอต่างคนต่างเริ่มหมดแรงก็นอนหอบกันอยู่แบบนั้น
“กินข้าวเถอะ ใกล้เที่ยงแหละ ทำงานอะไรนักหนา ประธานบริษัทก็ไม่ใช่”แล้วมันก็มาชกที่ท้องผมก่อนทำท่าจะลุก
“แล้วมึงอ่ะอ่านหนังสือจบแล้วหรอ”ผมท้วงมันบ้าง
“ยัง”
“อ้าว ไอ้นี่”
“เออน่า อ่านมากเดี๋ยวสมองกูชำรุด”
“พ่อมึงสิ”
“ก็เนี่ยกูอุตส่าห์ไม่เล่มเกมเลยทั้งอาทิตย์มึงจะเอาไงอีกล่ะ”
“ดื้อกับกูอีกแล้วนะ”
“ก้ดื้อสิ กูไม่ใช่คนดีของมึงหนิ”
“กับกูน่ะไม่ต้องเป้นคนดีก็ได้ เป็นที่รักของกูก็พอ”
“ปากดี….ไม่ใช่ว่าตำแหน่งนั้นมันไม่ว่างอยู่หรอ”
ว่าแล้วเสียงดทรศัพท์ผมก็ดังขึ้น
“นั่นไงที่รักมึงโทรมาแหละรับสิ”หึงกูก็พูดมาสิประชดทำไมว่ะ
ผมคว้ามาถือมาเตรียมกดรับแต่สายตาเห็นหน้าจอกับปรากฎชื่อว่า ป๊า
“ทำไมไม่รับว่ะ”มันถามหลังจากที่เห็นผมนิ่ง
“ป๊ากูโทรมา”
“ป๊าโทรมาก็รับดื เผื่อเค้ามีธุระด่วน”ไม่ใช่ไม่ง่ายรับนะครับ การเริ่มบทสนทนากับป๊าบางครั้งมันก็ทำให้ผมรู้สึกลำบากใจที่ผมต้องฝืนทำเป็นว่าผมไม่เป็นไรทั้งๆที่มันไม่ใช่
“ครับป๊า”คำๆแรกที่ผมพูดขึ้นหลังจากที่ไม่ได้คุยกับป๊ามาหลายเดือน
“ว่าไงบอม เป็นไงบ้าง”ถ้อยคำเดิมๆที่ป๊าใช้พูดกับผมทุกครั้งที่โทรมา
“ก็ดี ป๊าล่ะ”
“ป๊าสบายดี พรุ่งนี้ว่างรึเปล่า”
“เออ ว่างครับ”
“เดี๋ยวพรุ่งนี้ป๊าขึ้นไปหา”
“ป๊าจะขึ้นมาทำธุระหรอ”
“ก็มันเป็นหยุดยาวเลยจะพาน้องไปเที่ยวแล้วป๊าก็อยากไปดูเราด้วยนั่นแหละไม่รู้ว่าอยู่ยังไงบ้าง”
จริงๆแล้วป๊าก็แค่อยากพาครอบครัวป๊ามาเที่ยวสินะ
“แล้วป๊าจะมาถึงกี่โมง”
“คงถึงกรุงเทพเช้าๆ เดี๋ยวพรุ่งนี้เจอกันที่บ้านป้าตอนเช้าแล้วกันนะ”
“ครับ”
“งั้นแค่ล่ะนะ”
“ครับ”
“มีไรป่ะว่ะ”มันคงเห็นผมหน้าหงอยเลยถามผมแบบนั้นหลังจากผมวางสาย
“ป๊ากูจะขึ้นมาหา”
“ตอนไหน”
“พรุ่งนี้”
“ก็ดีนี่หว่า ทำไมต้องทำหน้าเป็นตูดยังงั้นด้วยว่ะ”
“เค้าก็แค่อยากมาดูว่าลูกที่เค้าไม่เอามันมีชีวิตยังไงก็เท่าแหละ ไม่ได้นึกห่วงอะไรนักหนาหรอก”
“กูพูดดีๆนะเว้ยทำไมต้องตะคอกด้วยว่ะ”ผมไม่ได้อยากพูดอะไรรุนแรงแบบนั้นหรอกครับแต่ดันลืมตัวไปอีกแล้ว
“เออ กูขอโทษ”มันเงียบ ไม่ใช่ว่างอลกูอีกนะ
“ไปกินข้าวกัน กูหิวแล้ว”มันเป็นประโยคที่ผมกันมันจะใช้เปลี่ยนเรื่องเมื่อเราต่างอยู่ในสถานการณ์กระอักกระอ่วนครับ มันนิ่งต่อทำท่าเหมือนคิดอะไรอยู่
“เฮ้ย ข้าวน่ะจะกินไหม”ผมถามย้ำ
“ให้กูขับรถนะ”ร้อยวันพันปีมันไม่เคยขอขับรถเล้ย ผมก็แปลกใจเล็กๆครับ
“ทำไม”
“ก็แค่อยากขับ เอากุญแจมา”แต่ผมก็ยอมให้มันไป พอขึ้นรถมันบอกผมว่าจะไปพาไปกินร้านที่อร่อยที่สุดใน
โลกผมก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรเพราะกำลังคิดหนักเรื่องพรุ่งนี้อยู่ว่าจะว่างตัวยังไง พูดยังไง ผมก็คิดไปเรื่อยเปื่อย
จนรู้ตัวอีกทีนี่มันนนทบุรีแล้วนี่หว่า
“เมื่อไรจะถึงว่ะ”
“ใกล้แล้วๆ”แล้วมันก็เลี้ยวเข้าซอยๆหนึ่งเป็นทางเข้าหมูบ้านครับ ผมก็งงร้านอาหารอะไรจะมาอยู่ในหมู่บ้าน
แบบนี้
“ถึงแล้ว”ผมมองไปไม่เห็นมีร้านอาหารสักร้านเลยครับมีแต่บ้านคน
“อะไรของมึง มึงจะพากูมากินข้าวจริงป่ะเนี่ย”
“พูดมากน่า ตามมา”แล้วมันก็ลงจากรถไปเปิดประตูบ้านหลังนึงแล้วก็เดินเข้าไปไม่รอผมเลยพอผมเดินเข้า
ไปในบ้านผมก็เห็นคนนั่งกินข้าวอยู่
“พ่อแม่ นี่พี่บอม”ผมตกใจมากครับ หูฝาดไปป่ะว่ะ พ่อแม่ไอ้เกี้ยงหรอ ผมอยู่ในภาวะเอ๋อๆแต่ก็ก็ยกมือไหว้ท่านไป มันคิดจะทำอะไรของมันกันแน่เนี้ย ไอ้เกี้ยง???
เฮ้อ ลงซะเยอะเลย ถือว่า ชดเชยนะที่ไม่ได้ลงหลายวัน พอดีไม่ค่อยสบายนะ{:5_127:} ขอบคุณครับ ขอบคุณมากับครับผมติดตามตลอดไปนะครับ หนุกจัง...ขอบคุณนะ
ขอบคุณครับ สุดยอด ขอบคุณมากๆครับ พาลูกเขยหรือสะไภ้เข้าบ้านละนี่ สนุกดีครับ พาเข้าบ้านแล้ว ขอบคุนน่ะ สุดๆเรยนะ
หน้า:
[1]