เดกอะไรวะ น่ารักเปนบ้า 1
ผมโทรหามันมันก็ปิดเครื่อง สงสัยคราวนี้มันจะโกธรผมจริง บางทีมันอาจกลับหอไปแล้วก็ได้คิดได้อย่างงั้นผมก็ขับรถไปที่หอมันทันที พอมาถึงสังเกตเห็นไฟห้องมันถูกเปิดอยู่ก็รู้แล้วว่ามันอยู่นี่จริงๆปังๆๆ
“เกี้ยง เปิดประตูให้กูหน่อย”
“……….”
ปังๆๆๆ
“เกี้ยง เปิดประตูดิ”
ปังๆๆๆๆๆ
ยิ่งไม่เปิดผมยิ่งทุบประตูดัง
“เสียงดังทำห่าอะไรว่ะ กูจะนอน สัด” อยู่ๆไอ้ห้องข้างๆก็โผล่หน้าออกมาด่าผม
“โทษทีครับ เผอิญทะเลาะกับแฟนนิดหน่อย”ผมตีหน้าสลดมันส่ายหน้าแล้วปิดประตูเสียงดังใส่ผม
“เกี้ยง มึงจะไม่เปิดประตุให้กูจริงๆหรอ”ผมพุดเสียงอ่อยๆกับมัน แต่ดูเหมือนมันก็จะยังไม่ยอมเปิดให้ผมอยู่ดี
“งั้นกุจะนั่งรอมึงหน้าห้องนี่แหละ”ว่าแล้วผมก็นั่งรอมันหน้าห้องจริงๆ นานมากเลยครับ คนก็เดินผ่านไปผ่านมา อายก็อาย
นะครับนั่งอยู่เกือบชั่วโมงจนเกือบหลับอ่ะ แล้วก็รู้สึกประตูที่ผมพิ่งอยู่จะเปิดออก
“ไอ้บ้า นี่มึงนั่งรอกูจริงๆหรอ”
“หายโกธรพี่แล้วหรอครับ”
“ยัง”
“อ้าว แล้วเปิดทำไมอ่ะ”
“จะมาสมน้ำหน้าคนบางคนที่ถูกด่า ไม่รู้จักเกรงใจชาวบ้าน”
“ก็เมียไม่ยอมให้เข้าห้องอ่ะ”
“อย่ามาทำปัญญาอ่อน กูไม่เล่นด้วย”มาเต็มเว้ยเฮ้ย งานยากแล้วไหมกู
“ขอเข้าไปในห้องหน่อยดิ”ผมพุดพลางลุกขึ้น
“มึงกลับไปเหอะดึกแล้ว”
“เกี้ยงไม่เอาดิ ให้พี่พูดก่อนนะ”
“กุไม่มีอารมณ์จะพูดกับมึง”ผมรู้สึกเหมือนจมูกมันแดงๆนะ หรือว่ามันร้องไห้
“มึง…..ร้องไห้หรอ”มันหลบตา พร้อมทำท่าจะปิดประตู ผมก็ยื้อไว้สิครับ รีบดันตัวเองเข้ามาในห้องทันที เอาหลังชนประตู
ไว้แล้วก็ล๊อคประตูอย่างง่ายดาย
“พี่ถามทำไมไม่ตอบครับ”
“กูไม่ได้ร้องสักหน่อย”
“ไม่ร้องแล้วทำไม่จมุกแดงๆ”ผมจ้องหน้ามัน
“ก็มึงอ่ะจะพูดเหี้ยอะไรออกมาแต่ละทีมึงเคยห่วงความรู้สึกกูบ้างมั้ย”
“ก็อารมณ์มันพาไปนี่ครับ แต่พี่ไม่ได้ตั้งใจจริงๆนะ”
“มึงเอาแต่บอกว่าอยู่กับกูแล้วสบายใจ กูเป็นคนที่เข้าใจมึง จริงๆแล้วไม่ใช่หรอกในตัวมึงมีแต่เรื่องที่กูไม่
เข้าใจทั้งนั้น”
เรื่องที่มันคิดไม่จริงหรอกครับ สำหรับผมมันเป็นคนที่รู้เรื่องของผมมากคนนึงรองจากป้าและเฮีย
แม้กระทั่งไอ้เอกเองผมยังมีบางเรื่องที่ผมไม่เคยพูดกับมัน เบลล์เองก็ตามผมยังไม่เคยพูด แต่สามารถพูดกับ
ไอ้เกี้ยงได้ จะมีก็แค่เรื่องของพ่อเท่านั้นที่ผมเลี่ยงมาตลอด
“กูไม่อยากพูดเรื่องพ่อเพราะกูอายที่จะพูดปมด้อยของตัวเอง มึงพอจะเข้าใจมั้ย”มันมองผมด้วยสีหน้าอึ้งๆ
“กูน่าจะบอกมึงดีๆใช่มั้ย แต่กูก็เสือกไปปากเสียใส่มึง ขอโทษแล้วกันนะ”มันนิ่งไปสักพักก่อนพูดออกมา
“บอม ขอโทษนะที่กูวุ่นวายเรื่องของมึงเกินไป”
“อย่าคิดมากเลยกูไม่เป็นอะไร ว่าแต่มึงหายโกธรกูยังอ่ะ”ผมเอื้อมมือไปจับมือมัน
มันพยักหน้า
“จริงๆแล้วการมีมึงมาวุ่นวายในชีวิตกูเนี่ยมันทำให้กูมีความสุขมากขึ้นนะ”ผมพูดพร้อมยิ้มให้มัน จากนั้นมัน
ก็ไม่ได้ถามเรื่องอะไรเกี่ยวกับพ่อผมอีก มันคงนึกเกรงใจ ผมเองก็ไม่ได้พูดอะไรเพราะยังไม่พร้อมด้วย
สรุปว่าคืนนั้นผมก็นอนห้องมัน ส่วนไอ้เกี้ยงก็กลับมาไข้ขึ้นอีกครั้งและที่เลวร้ายไปกว่านั้นก็คือผมเองก็ติด
ไข้มันมาด้วยนี่สิ TT^TT
ตอน คนที่รอ
ช่วงนี้ผมว่างครับเพราะพึ่งส่งโปรเจคไป ส่วนเบลล์ก็ไม่ได้รับงานเหมือนกัน อาทิตย์นี้ผมเลยวางก็
เลยวางโปรแกรมพาเบลล์ไปเที่ยวแต่ก็ไม่ได้ไปไหนไกลหรอกครับ ผู้หญิงก็ต้องชอบชอปปิ้งอยู่
แล้วไหนๆก็ไม่ค่อยมีเวลาให้กัน เราก็ตามใจเค้าหน่อยแต่ที่ไม่เข้าใจก็คือว่าทั้งเสื้อผ้าหรือ
เครื่องสำอางผู้ชายอย่างเราๆก็ดูไม่เป็นอยู่แล้วทำไมต้องมาให้เราเลือกด้วยและที่สำคัญคือเลือกให้
แล้วดันไม่เอาที่เราเลือกให้มันหมายความว่าไงฟะ??!!
“เย็นนี้พี่บอมก็ว่างใช่ไหม”เบลล์ถามผมขณะที่เราอยู่ในร้านอาหารหลังจากที่เดินชอบมาห้าชั้นรวดไม่มีพัก
ทีกับเรื่องพรรค์นี้ผู้หญิงสู้ไม่ถอยจริงๆนะ เหอๆ
“อืม เบลล์อยากไปไหนต่ออ่ะคะ”
“เย็นนี้ขิงมันจัดงานวันเกิดอ่ะ ไปด้วยกันนะ”
“พี่ขอผ่านดีกว่าครับ”
“ทั้งปีอ่ะพี่บอม”
“วันเกิดเพื่อนเบลล์เบลล์ก็ไปสิครับพี่ไม่ใช่เพื่อนขิงเค้าซะหน่อย”
“แต่พี่เป็นแฟนเบลล์อ่ะ เป็นซะแบบนี้ไงเพื่อนเบลล์ถึงไม่ชอบพี่”
“แล้วทำไมต้องแคร์ว่าเพื่อนไม่ชอบพี่ด้วยล่ะ พี่ไม่ได้จะขอเพื่อนเบลล์มาเป็นแฟนด้วยสักหน่อย”
“แล้วจะให้เบลล์ไปงานคนเดียวหรอ”
“ถ้าเบลล์ไม่อยากไปงานคนเดียว ก้ไม่ต้องไปสิครับ ง่ายจะตาย”
“พี่บอม!!”เบลล์ทำเสียงแข็ง เป็นสัญญาณว่าสงครามกำลังจะมา
“ครับ”ตีหน้าตายไว้ไอ้บอม อย่ายอมๆ
“นานๆทีจะมีเวลาให้กันก็ช่วยตามใจให้หน่อยไม่ได้หรอคะ”
“ก็ตามใจอยู่นี่ไง ถึงได้พาเดินเที่ยวทั้งวันเนี่ย”
“งั้นเหตุผลล่ะ เหตุผลที่ไม่ไปอ่ะ”
“พี่ไม่ชอบงานแบบนี้นี่ครับ”
“แล้วทำไมทีไปกินเหล้าถึงไปได้”
“ก็มันไม่เหมือนกันไงครับ”
“ไม่เหมือนตรงไหน ก็ปาร์ตี้เหมือนกัน”
“เอางี้ดีกว่า เบลล์พี่ว่าเถียงกันอย่างงี้ทั้งวันก็ไม่จบหรอก สรุปก็คือเบลล์จะไปแต่พี่ไม่ไป แค่นี้จบ”
“ไม่เอา เดี๋ยวพี่บอมกลับไปพักผ่อนก่อนดีกว่า ตอนเย็นค่อยออกมารับเบลล์อีกทีแล้วกันนะ”
“จะให้ไปส่งก็ได้นะ แต่ให้เข้างานพี่ไม่เอานะ”
“กลับไปคิดมาก่อนดีกว่าคะเผื่อพี่บอมจะเปลี่ยนใจ ยังไงตอนเย็นค่อยว่ากันอีกที”เธอช่างเป็นผู้หญิงที่ไม่ยอม
แพ้อะไรง่ายๆจริงๆนะ เบลล์ สุดท้ายเรื่องก็จบอยุ่แค่นั้นผมไม่ได้ตอบอะไรเพราะคิดว่าพูดไปยังไงๆก็ไม่จบ
สู้หาเรื่องโกหกตอนเย็นทีเดียวเลยดีกว่า ส่งเบลล์ที่บ้านเสร้จผมก็กลับมาที่สตูกะมาเล่นเกมแก้เซ็งกะ
พวกไอ้เอกมัน พอไปถึงพวกเด็กๆมันก็มาอัดเสียงกันพอดี ไอ้เกี้ยงเจอหน้าผมก็ซัดคำถามใส่ผมทันที
“ไหนมึงบอกว่าจะพาเบลล์ไปเที่ยวไง”
“ไปมาแล้ว”
“ทำไมเร็วจังว่ะ”
“ก็จะให้นานแค่ไหนล่ะ”ผมรู้ว่ามันพยายามจะคาดคั้นอะไร แต่ผมก็ตีหน้าตายไว้ก่อนแกล้งเนียนทำเป็นไม่ใส่ใจ
“ไอ้ตั้มมึงไปวอร์มเสียงไป เฮียเรียกแล้วมึง”ผมไล่ให้ไอ้ตั้มลุกจากหน้าจอจากนั้นก็เสียบแทนมันฮ่ะๆ เสร็จกู
“เฮ้ย งั้นเย็นนี้มึงก็ว่างแดกหมูกะทะกะพวกกูแล้วดิ”ไอ้เอกถามผม
“เออๆ เดี๋ยวเย็นๆออกไปซื้อของกัน”
ผมนั่งเล่นดอทเอไปแต่ไอ้เกี้ยงก็ไม่มีทีท่าว่าจะเลิกสงสัยมันก็ยังคงมาถามผมต่อว่ามีอะไรกันรึเปล่าแต่ผมก็
แกล้งเนียนไม่สนใจที่มันพูดเล่นเกมไปเรื่อยๆจนเย็น แต่เรื่องอะไรก็ตามที่พยายามปิดปังมันก็ยิ่งเก็บไว้ไม่อยู่
สักพักเสียงโทรศัพท์ผมก็ดังขึ้นไอ้เกี้ยงที่นอนกลิ้งอยู่ๆข้างผมคงเห็นท่าทีผมแปลกๆหลังจากที่เห็นหน้าจอ
โชว์เบอร์เบลล์ ก็ผมลืมนึกคำโกหกไว้นี่หว่า กำลังลังเลว่าจะพูดว่าอะไรดีแต่ไอ้เกี้ยงก็รีบคว้ามือถือผมไปจาก
มือผมทันที
“ครับ”
“พี่บอมหรอ…เข้าห้องน้ำอยู่อ่ะ เบลล์มีไรป่าว”งานเข้าแล้วครับ แต่ผมก็ยังคงทำเนียนไม่แสดงพิรุธใดๆ แต่หู
นี่ผึ่งเลยครับ
“อืมๆ แล้วจะบอกให้ ครับ”
“มึงต้องไปงานวันเกิดเพื่อนเบลล์ไม่ใช่หรอ จะว่างแดกหมูกะพวกกูได้ไง”มันพูดขึ้นหลังวางสายจากเบลล์
“มึงอย่ายุ่งน่าเกี้ยง”ผมแกล้งโมโหใส่มันพร้อมกระชากมือถือออกมาจากมือถือมัน
“นี่มึงจะเบี้ยวเค้าหรอ”
“กูจะเบี้ยวได้ไงในเมื่อกูยังไม่ได้รับปากเลยว่ากูจะไป”
“แล้วมึงจะให้เค้าไปคนเดียวหรอ”
“ไม่มีกูเค้าก็ไปได้น่า”
“แล้วมึงไม่คิดบ้างหรอว่าเค้าจะอายเพื่อนอ่ะ”เงียบสิครับเจอมันสวนอย่างงี้
“มานี่เลยมึง”แล้วมันก็กระชากมือผมให้ลุกขึ้น แต่ก็ใช่ว่าจะสู้ผมได้หรอก ผมสะบัดมือมันออกแต่มันก็ไม่
ยอม คว้าข้อมือผมอีกครั้งคราวนี้จับแน่นว่าเดิม
“ห้ามโวยวายนะมึง”มันพุดสีหน้าจริงจัง
“ทำไม”
“ก็ถ้ามึงขัดขืนกูจะสู้มึงได้ไงล่ะ”นี่มันออกคำสั่งหรือว่ากำลังขอร้องผมกันแน่ แล้วมันก็ลากไม่สิเรียกว่าจูง
มากกว่าเพราะแม้จะดูเหมือนมันพยายามดึงผมไปกับมันแต่คงเพราะตัวมันที่ผอมเกินไปเลยดูไม่มีแรง ผมก็
ยอมเดินตามมันมาไม่ใช่อะไรหรอกครับแค่อยากรู้ว่ามันจะมาไม้ไหน
“ขึ้นรถ”มันล้วงกุญแจผมไปแล้วก็นั่งที่คนขับเฉยเลย ผมก็ไม่ได้ว่าอะไร อยากทำไรก็อยากรู้เหมือนกันว่ามัน
จะทำยังต่อไป แล้วมันก็ขับรถมาส่งผมที่คอนโด
“มาคอนโดกูทำไม”
“เปลี่ยนชุดไง เบลล์บอกให้มึงใส่เสื้อคู่ไปที่งานอ่ะ”เสื้อคู่เป็นเสื้อที่เบลล์ซื้อให้ผมนานแล้ว ผมว่ามันเป็น
อะไรที่ปัญญาอ่อนมากเลย อย่าว่าแต่ใส่เลยจนถึงตอนนี้ผมยังไม่แกะเสื้อออกจากถุงมาซักเลยด้วยซ้ำ
“นี่มึงคิดจะทำไร”
“ก็พามึงไปงานไง ไอ้สัด”
“เพื่อ??”
“ก็ไม่เพื่ออะไร กูอยากเสือก มึงจะทำไมล่ะ”เอา เอากันเข้าไปมึงกำลังคิดอะไรอยู่กันแน่วะเกี้ยงผมนึกค้าน
มันในใจ แต่ผมก็ไม่ได้ว่าอะไร ถ้ามันอยากให้ผมทำนักผมก็จะทำ อยากรู้เหมือนกันว่ามันจะทนเป็นแบบนี้
ได้อีกนานแค่ไหน พอเปลี่ยนเสื้อเสร็จมันก็ขับไปส่งผมที่บ้านเบลล์
“เอ้า กุญแจ”
“เอาให้กูแล้วมึงจะกลับไง”
“แล้วแทกซี่เค้ามีไว้ทำไมล่ะ”
“เฮ้ย ไม่ต้องแค่นี้มึงก็ลำบากมากกับกูมากแล้ว”
“ก็กูบอกแล้วไงว่ากูอยากเสือกเอง ไม่ต้องมาห่วงกูหรอก”แล้วมันก็ทำท่าจะลงจากรถไป ผมเลยคว้ามือมัน
เอาไว้
“เดี๋ยว!! มึงแน่ใจหรอว่าอยากให้กูทำแบบนี้”
“ก็มันควรจะเป็นแบบนี้นี่หว่า”
“กูไม่รู้นะว่ามึงคิดอะไรอยู่ แต่กูบอกไว้เลยนะว่ากูไม่อยากมา แต่ถ้ามึงต้องการกูก็จะยอมทำ”
“ก็ไม่มีไร ก็แค่ทำหน้าที่น้องชายที่ดีไง”แล้วมันก็ลงจากรถไป…ไอ้บ้าเอ้ย ทั้งๆที่แววตามันเหมือนคนจะ
ร้องไห้อยู่แท้ๆยังเสือกอวดเก่งทำตัวเป็นคนดีอยู่ได้ ใจผมก็นึกโกธรมันที่มันทำเข้มแข็งเหมือนไม่แคร์ผมเลย
ผมอาจจะจะเห็นแก่ตัวเกินไปที่แอบหวังว่าลึกๆแล้วที่มันทำอยู่มันจะเจ็บปวดอยุ่บ้างเพราะนั่นมันคงแสดง
ให้ผมเห็นว่ามันเองก็รักผมเหมือนกัน
.
.
.
สุดท้ายผมกับเบลล์ไปงานวันเกิดขิงด้วยกัน พอเลิกจากงานผมก็ไปส่งเบลล์ต่อ แต่ภารกิจของวันนี้มันก็ยังจบ
เท่านี้หรอกครับเพราะยังมีอีกหนึ่งคนที่ต้องเคลียร์กันก่อน
ปังๆๆๆๆ
“กว่าจะมาเปิดได้ ให้กูรอซะนาน”ผมต่อว่ามันทันทีหลังจากที่มันเปิดประตูห้องให้ผม
“มาทำไม”
“กินข้าวยัง”
“ดึกป่านนี้ก็กินแล้วสิ”มันคงไม่คิดจะรอผมสินะ แอบผิดหวังอยู่ลึกๆแหะ
“งั้นเป็นไร ไปเป็นเพื่อนเฉยๆก็ได้”
“ไปไหน”
“กินเตี๋ยวไง”
“มึงยังไม่กินมาอีกหรอ”
“เอาน่า กูหิวแล้ว อย่าถามมากได้ไหมวะ”มันทำท่าเหมือนจะไม่ยอมไป
“ไหนว่าพี่น้องกันไง แค่นี้ทำเพื่อพี่ชายไม่ได้หรอ”ผมแกล้งประชดมันคืน มันก็เลยยอมเดินตามผมมา แล้ว
เราก็ไปกินข้าวที่ร้านก๋วยเตี๋ยวเป็ดที่เดิม เป็นร้านประจำที่ผมก็มากินมื้อดึกกับมันหลังจากไปรับมันมาจาก
เล่นดนตรีที่ผับ
“เอาเหมือนเดิมที่หนึ่ง ป้า”
“สองที่ครับ”
“เฮ้ย กินข้าวแล้วไม่ใช่หรอถ้าอิ่มแล้วก็ ไม่ต้องกินเป็นเพื่อนกูก็ได้”
“ไม่เป็นไร กูหิวพอดี”แล้วพวกผมก็นั่งซัดเตี๋ยวเป็ดกันจนหมดชาม
“แล้วอยู่นู้นเค้าไม่มีอะไรให้มึงแดกห่ารึไงถึงได้ถ่อมากินข้าวกับกูเนี่ย”
“ก็มี แต่กูกินลงถ้าไม่มีมึง…สงสัยกระเพาะกูจะชินกับการเห็นหน้ามึงก่อนกินข้าวมั้ง”เริ่มหยอดใส่มันครับ
เขินเลยสิมึง ฮ่ะๆ
“มึงมันเสื่อมว่ะ”
“คืนนี้กูขอค้างกับมึงนะ”
“ค้างทำไม”
“งั้นมึงก็เลือกเอาให้กูค้างด้วย หรือไปค้างกับกู”
“แล้วมึงมีชุดเหรอ”
“ชุดมึงไง”
“เสื้อกูเล็ก ถึกๆอย่างมึงใส่ไม่ได้หรอก”
“งั้นก็ไม่ต้องใส่ ให้กูนอนแก้ผ้าเลยดีมั้ย”
“ไอ้สัด พ่อมึงเหอะ”
“สรุปว่าให้กูนอนด้วยนะ”
“ก็ได้ ยังก็พี่น้องกันอยู่แล้ว”อีกแล้วหรอวะ นี่มึงกลัวไม่มีพี่ชายขนาดนั้นเลยหรอวะ แมร่ง ย้ำจังคำเนี่ย
พอกินก๋วยเตี๋ยวกันเสร็จ ก็ขึ้นห้องกัน ผมอาบน้ำก่อนมันแต่ก็ยังไม่เข้านอนหรอกครับไหนๆก็มาห้องมัน
แล้วผมก็เดินดูของห้องมันไปเรื่อยแหละ เห็นกองหนังสือกาตูนคุโรมาตี้อยู่บนลังอันนึงผมเลยคิดว่าข้างในก็
น่าจะมีอีกกะจะค้นมาอ่านแต่ข้างในลังกลับเป็นชุดดินสอไม้ครับ เต็มกล่องเลย นี่บ้านมันขายเครื่องเขียน
หรอเนี่ย มีเยอะมากครับ จัดเป็นเซทๆแยกตามสีไว้เลย
“ค้นของกูหาเตี่ยมึงหรอ”แล้วมันก็เอาหนังสือกาตูนมาตีหัวผม เจ็บนะเฟ้ย ว่าแต่มันมาตอนไหนฟะ
“อะไรวะเกี้ยง”
“ดินสอไง”
“อย่ามากวนตีน กุหมายถึงทำไมมันเยอะอย่างงี้”
“กูสะสม”
“สะสมดินสอไม้เนี่ยนะ”
“ผิดตรงไหน”
“ตุ๊ดไปไหมว่ะ”
“ด่าเหมือนพี่กูเลย ทำไมกุไม่ได้ไปเก็บไว้บนหัวมึงสักหน่อย”
“แล้วทำไมมึงถึงสะสมดินสอล่ะ”
“ไม่รู้วะ แต่แม่กูเคยบอกว่าสงสัยกูจะมีปมตอนเด็กๆ”
“ทำไมตอนเด็กๆมึงไม่มีปัญญาซื้อดินสอใช้หรอ”
“ป่าว คือกูเคยให้ดินสอยืมกับผู้หญิงที่เป็นรักแรกของกูแต่ไม่นานกูก็เห็นดินสอนั้นไปอยู่ในมือผู้ชายคนอื่น”
“แล้วมันน่าเก็บกดตรงไหน”
“ก็มันเจ็บใจนี่หว่า จากนั้นกูก็ไม่เคยให้ใครยืมดินสออีกเลยแถมเวลาไปร้านขายเครื่องเขียนงี้กูก็ต้องซื้อมาเก็บๆไว้ ไม่อยากแบ่งใคร”
“กูว่าออกแนวโรคจิตวะ…แล้วรักแรกของมึงเนี่ยน่ารักป่ะ”
“ครูประจำชั้นตอนปอสามกุเอง”
“ไอ้เกรียน แก่แดดเกินไปป่าว”
“เค้าเป้นครูฝึกสอนเว้ย สวยโคตร”
“แล้วผุ้ชายที่ว่าแฟนครูมึงงั้นสิ”
“ไม่ เพื่อนในห้องกูเอง คือเพื่อนกูดิสอหักครูเลยมายืมของกูให้มันเพราะตอนมันมายืมกูกูไม่ให้”
“ไอ้เชี่ย เกรียนได้โล่จริงๆมึงเนี่ย”
“เกี้ยง”
“ไร”
“อย่าพูดกับกูแบบนั้นอีกนะ”
“พูดอะไร”
“ก็คำว่าพี่น้องอะไรนั่นนะ กูไม่อยากได้ยิน”
“ก็ทำไมล่ะ มันเป็นความจริงนี่หว่า”
“มึงทำเหมือนอยากให้กูเป็นคนอื่นสำหรับมึง กูเจ็บนะเว้ย”
“แล้วกูไม่เจ็บหรอ”
“งั้นมึงก็เลิกทำแบบนี้สิ กูไม่ได้อยากเป็นพี่มึงขนาดนั้นหรือมึงไม่รู้ว่ากูคิดยังกับมึง”
“ก็เพราะรู้ไงกูถึงต้องพูด พูดเตือนตัวเองไว้กูจะได้ไม่คิดอะไรให้มันมากกว่านี้”มันพูดโดยไม่มองหน้าผม
และทำท่าจะลุกหนีผมไป ผมเลยคว้ามือมันไว้
“รักกูเถอะเกี้ยง ถ้ามึงต้องการกูมึงจะห้ามตัวเองทำไม”
“แล้วถ้ากูรักมึง มึงจะเลือกกูมั้ย”
คำที่มันพูดด้วยน้ำเสียงเรียบๆ ไม่ได้ดังอะไรมากมาย แต่กลับดังก้องอยู่ในหูของผม
ผมเงียบไม่รู้จะพูดอะไรออกไปดี เหมือนมีอะไรมาจุกอยู่ที่คอ
ไม่ใช่กูไม่เลือกมึงนะ แต่กู….เลือกมึงไม่ได้ต่างหาก
มันสะบัดมือผมออกก่อนพูดต่อ
“มึงรู้มั้ยว่าวันนี้จริงๆแล้วกูยังไม่ได้ข้าวหรอก หิวจะตายแต่กูก็ยังคิดบ้าๆว่าถ้ามึงไม่ได้กินข้าวมาล่ะ มึง
อาจจะมาหากูแล้วลากกูไปกินข้าวด้วยแน่ๆ ถ้ากูกินก่อนมึงก็คงไม่มีเพื่อนกินด้วย กูก็ทนหิวอยู่อย่างนั้นแต่ยิ่ง
กว่าความหิวคือ กูกลัว กลัวว่ามึงจะไม่กลับมาหากู”
“แล้วกูจะไม่กลับมาหามึงได้ไง…ไอ้ลูกหมาเอ้ย”คำพูดของมันทำผมแทบอยากจะร้องไห้มันซะตรงนั้นให้ได้
“ขอบใจนะที่รอกู”ผมดึงมันเข้ามากอด
“แต่ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะรอได้อีกนานแค่ไหน”มันพูดพร้อมกับซบหน้าเศร้าๆของมันที่อกผม
ผมกอดมันให้แน่นที่สุด อยากให้มันแน่นพอที่จะทำให้มันรู้ว่าผมรักมันแค่ไหนและเสียใจแค่ไหนที่ผมเอง
ต้องทำมันเจ็บแบบนี้
ผมได้แต่นึก….
เกี้ยง
ก่อนหน้านี้มึงไปอยู่ไหนมาว่ะ
แล้วผมมัวแต่ทำอะไรอยู่
ขอบคุณมากๆครับ ขอบคุณมาก ขอบคุครีบ ความรู้สึกดีๆเริ่มมา {:5_119:} ขอบคุณครับ ตัดสินใจเลือกสักอย่างสิพี่บอม หน้าหรือหลังอย่าจับปลาสองมือ เกี้ยงเจ็บนะครับ
อินเกินไปแร่ะ ขอบคุนน่ะ
หน้า:
[1]