tor_8915 โพสต์ 2020-4-4 21:13:23

รักเร่ร่อน...ของคนจรจัด 5 bymod-cup

เร่ร่อน5



แอ๊ดดดด


เอิ่ม...


สถานการณ์น่ากลัวขั้นสิบ


หลังจากเคลียร์กับไอ้ปอนด์เรียบร้อยและมันก็รับปากแล้วว่าจะไม่บอกเรื่องนี้ให้ครอบครัวผมรู้ ขนาดไอ้ปอนด์ยังไม่เข้าใจจนต้องอธิบายกันยืดยาวขนาดนี้ไม่ต้องคิดเลยว่าครอบครัวผมจะคัดค้านเรื่องนี้แบบหัวชนฝาขนาดไหน เอาเป็นว่าผมแค่ให้เขามาอยู่ด้วยชั่วคราว(บอกคนอื่นแบบนี้)เมื่อเขาสามารถตั้งตัวได้ผมจะให้ย้ายไปอยู่ที่อื่น


แต่จะให้ปล่อยไปเป็นชายเร่ร่อนให้คนอื่นรังเกียจอีกผมทำไม่ได้


กลับมาที่สถานการณ์น่ากลัวขั้นสิบของผมดีกว่า ผมกลับมาห้องตัวเองโดยที่ในมือมีเสื้อผ้ามาหนึ่งชุดและเมื่อเปิดประตูห้องเข้าไปก็ได้เรื่องเลย...


ชายเร่ร่อนที่ผมให้ไปอาบน้ำเมื่อครึ่งชั่วโมงที่แล้วโดยผมกำชับว่าอาบหลายๆรอบเอาให้สะอาดหอมฟุ้งไม่ต้องกลัวเปลืองแชมพูสบู่อะไรทั้งสิ้นพร้อมทั้งหยิบแปรงสีฟันด้ามใหม่ให้เขาแปรงฟันด้วย ซึ่งเขาก็พยักหน้าเข้าใจเอาผ้าขนหนูสีน้ำเงินผืนใหม่(ของผม)พาดบ่าพร้อมอุ้มน้องหมาเข้าไปด้วยกัน


และตอนนี้เขาก็อาบน้ำเสร็จแล้วและน่าจะเสร็จนานแล้วด้วยเพราะดูจากผิวกายแห้งน้ำของเขา แต่มันจะไม่เป็นปัญหาเลยถ้าเขาไม่นุ่งผ้าเช็ดตัวผืนเดียวนั่งพิงประตูกระจกที่กั้นระหว่างส่วนห้องกับระเบียง แขนข้างหนึ่งเหยียดตรงวางพาดบนขาข้างเดียวกันที่ชันขึ้น มืออีกข้างลูบบนตัวน้องหมาที่นอนหมอบหลับตาอยู่บนต้นขาที่เหยียดยาวบนพื้น เสี้ยวหน้าด้านข้างสะท้อนกับแสงยามเย็นให้ดวงตาคมเฉี่ยวที่เหม่อมองไปด้านนอกดูเข้มแวววาวขึ้น


ผมทรงรังนกกระจอกเต็มไปด้วยบรรดาฝุ่นคราบสกปรกถูกชะล้างออกไปจนหมดสิ้น บัดนี้เหลือเพียงเส้นผมสีดำสนิทเงางามถูกเสยไปด้านหลังเปิดเปลือยใบหน้าคมเข้ม


ฮะฮอตเป็นบ้า!!!


มือไม้อ่อนจนเสื้อผ้าในมือแทบร่วง!!


“นาย” ผมบังคับเสียงไม่ให้สั่นขณะเอ่ยเรียก


เขาหันกลับมาตามเสียงเรียกใบหน้าเสี้ยวเดียวที่ผมเห็นในคราแรกตอนนี้ผมเห็นมันชัดถนัดตา


หล่อเลิศอย่างที่คิดไว้จริงๆด้วย!!


“เสื้อผ้า” ผมยื่นของในมือไปให้ซึ่งเขาก็ค่อยๆหยิบน้องหมาไปไว้บนพื้นข้างๆก่อนยันตัวลุกขึ้นและเดินเข้ามาหา ส่งมือมารับเสื้อกางเกงแล้วเดินหายเข้าไปในห้องน้ำอีกครั้ง


“นี่!ไม่ต้องใส่เสื้อนะเดี๋ยวจะทายาให้!” นึกได้ผมก็ตะโกนบอกไล่หลังเสี้ยวนาทีเขาก็ออกมา...สภาพไม่ต่างจากเมื่อกี้เท่าไหร่


แค่เปลี่ยนที่ปกปิดส่วนล่างจากผ้าเช็ดตัวสีน้ำเงินเป็นกางเกงขาสั้นยางยืดสีขาวแทน


มันตัดกันจนทำให้ผิวเนื้อสีน้ำผึ้งของเขาโดดเด่นกระแทกตาให้ฝ้าฟางเข้าไปกันใหญ่


ผมหลุบตาลงต่ำ กลั้นใจมองนานไม่ได้จริงๆ สีผิวตรงมือและเท้าทั้งสองข้างรวมถึงบริเวณลำคอขึ้นไปบนใบหน้ามีสีดำคล้ำกร้านแดดตรงข้ามกับส่วนในร่มผ้าที่ไม่ได้ขาวเหมือนหยวกแต่กลับเป็นผิวสีน้ำผึ้งนวลเนียนรับกับกล้ามเนื้อสมส่วนได้รูป ซิกแพ๊คบริเวณหน้าท้องหกลูกเรียงตัวสวยรับกับเอวทรงวีเชฟที่ขอบกางเกงเกาะไว้หมิ่นเหม่ ประดับด้วยไรขนอ่อนใต้สะดือเรียงยาวหายเข้าไปใต้ร่มผ้า


อย่างถ้าเอามือไปลูบคงไม่เจอไขมันหยุ่นมือคงรู้สึกได้ถึง...


อ๊ากกกกกกกกกกผมไม่ใช่ปุญมนัสผู้มีจิตใจใสสะอาดอีกแล้ว ผมมันหื่นลามกจิตใจสกปรกที่สุด T^T


“เสื้อมันเล็กไปผมใส่ไม่ได้” เสียงทุ้มเหมือนระฆังเรียกสติที่แตกกระเจิงกลับมาอีกครั้ง ผมรับเสื้อคืนมาพร้อมทั้งบอกให้เขาไปนั่งบนโซฟาเพื่อที่จะได้ทายาให้


ใช่!! ผมควรมุ่งประเด็นไปที่รอยฟกช้ำตามตัวเขาสิไม่ใช่รูปร่างหน้าตาเอ็กซ์แตกของเขา



ฮืออออ เอ็กซ์แตกบ้าบออะไรของแกเล่าคนเล็ก!!



“หะหันหลังสิ” เขาทำตามแล้วผมก็เริ่มทายาบนแผ่นหลังของเขาเป็นส่วนแรก มันดีต่อผมด้วยที่จะไม่ลวนลามร่างกายเขาทางความคิดมากไปกว่านี้ แต่แผ่นหลังเขากว้างน่าซบจัง T^T


หยุด! หื่น! เดี๋ยว! นี้!


ผมหมุนเปิดฝาหลอดยาก่อนบีบลงบนนิ้วแล้วลงแรงทาอย่างแผ่วเบา รอยฟกช้ำเริ่มเขียวคาดว่ามันต้องเริ่มปวดหนึบหนับแล้วแน่นอน นั่นทำให้หัวใจผมเหี่ยวเฉาขึ้นมาทันที ความฟุ้งซ่านก่อนหน้านี้มลายหายหมดสิ้น


“เจ็บมากมั้ย” เขาส่ายหัว นั่นทำให้ผมรู้สึกเคืองขึ้นมานิดเป็นคนเหล็กหรือไงเจ็บก็พูดมาสิ!


ฮือออ แท้จริงแล้วผมเป็นคนบ้าใช่มั้ยถึงอารมณ์แปรปรวนเยี่ยงสตรีมีประจำเดือนแบบนี้T^T


“เสร็จแล้วหันหน้ามา” ผมทายาบริเวณเอวข้างขวาเป็นที่สุดท้ายก่อนจับเขาหันหน้ามา


“เดี๋ยวผมทาต่อเอง” เขาส่งมือมาดึงหลอดยา


“เดี๋ยวทาให้” ผมชักมือหลบก่อนลงมือทายาไล่จากใบหน้าเขาลงมา เมื่อถึงบริเวณหน้าอกนิ้วผมชะงักนิ่งเมื่อสายตาปะทะเข้ากับรอยแผลเป็นยาวประมาณสิบเซนฯตวัดเฉียงขึ้นสี่สิบห้าองศาบริเวณหน้าอกด้านซ้ายเหนือหัวนมสีน้ำตาลเข้ม


ตรงตำแหน่งหัวใจพอดี


เมื่อครู่ผมมองไม่ชัดเห็นเพียงแวบๆนึกว่ารอยแผลที่ได้จากการรุมสกัมเหมือนส่วนอื่นๆ


“รอยแผลเป็นนี่...”


สายตาเขาปรายมองตามนิ้วมือที่ลูบไล้สัมผัสมันอยู่


“ไม่รู้สิ” เขาตอบเสียงเรียบ


“หืม” ผมเลิกคิ้วสงสัยอะไรคือรอยแผลเป็นเหมือนโดนฟันมาแบบนี้บอกว่าไม่รู้


อย่ามาอำว่ามีมาแต่กำเนิดเหมือนปานอะไรเถือกนี้นะผมไล่กลับท่อระบายน้ำจริงๆอ่ะ


“ผมไม่รู้ว่ามันมาได้ยังไง” นั่นไงล่ะ!!


ผมเงยหน้าขึ้นสบตาเขาแต่มันก็ว่างเปล่าดุจเดิมไม่ได้มีอาการหลุกหลิกเหมือนกับว่าที่เขาบอกว่าไม่รู้คือไม่รู้จริงๆ ไม่ได้ต้องการปิดบังแต่อย่างใด


ผมเริ่มลงนิ้วบนรอยช้ำต่อ


“เอาล่ะ ในเมื่อเรามาอยู่ด้วยกันแล้วฉันถามเรื่องส่วนตัวนายได้ใช่มั้ย” ผมเกริ่นนำ อย่างที่ไอ้ปอนด์บอกผมควรรู้เรื่องราวเกี่ยวกับตัวเขาบ้าง...ไม่มากก็น้อย


เขาพยักหน้า


“นายชื่ออะไร” นี่แหละ สิ่งแรกที่ผมควรรู้เอาแต่เรียกนายๆกับชายเร่ร่อนอยู่ตลอด คราวนี้จะได้เรียกชื่อถูกแต่คำตอบของเขาทำเอาผมแทบหงายท้องตึงตกโซฟา


“ผมไม่รู้”


“นายไม่รู้จักชื่อตัวเอง!!”


ได้โปรด...อย่าส่ายหน้า...


บอกว่าอย่าส่ายหน้าไง!!


เดี๋ยวร้องไห้ใส่เลยนี่!


มันไม่ธรรมดาแล้วนะ!


โอเค เอาล่ะตั้งสตินะคนเล็ก


“โอเค...โอเค งั้นฉันเปลี่ยนคำถามใหม่ นายรู้อะไรเกี่ยวกับตัวเองบ้าง” ผมยกมือกุมขมับพลางจ้องหน้าเขาอย่างจริงจังยาเยอหยุดทาไปทันที ซึ่งเขาก็จ้องตอบผมอย่างมั่นคงก่อนจะ...ส่ายหน้าช้าๆ


โอ้มายก็อด!! บอกผมทีว่าเขาล้อเล่น!


“นายจะบอกว่านายไม่รู้ว่านายเป็นใครอย่างนั้นหรอ”


เขาพยักหน้า


ง่ะ พยักหน้าไปก็ไม่ทำให้ผมรู้สึกดีขึ้นเลยสักนิดแย่ลงกว่าเดิมอีก


“นายความจำเสื่อม!!”


ผมลุกพรวดขึ้นยืนพลางชี้หน้าเขา รู้สึกได้เลยว่านิ้วตัวเองสั่นจนชี้ผิดชี้ถูกไปหมด มันจะละครหลังข่าวเกินไปแล้ว! หวังว่าคงไม่ใช่ทายาทพันล้านโดนลอบทำร้ายเพราะแย่งมรดกกันจนต้องหนีหัวซุกหัวซุนเข้าไปในป่าแล้วจนมุมกระโดดหน้าผาลงมาศีรษะกระแทกหินจนความจำเสื่อมหรอกนะ ถ้าเป็นแบบนั้นผมจะเอาเรื่องไปส่งทางผู้จัดให้ทำเป็นละคร


แต่มันก็ตลาดเกินไปคงไม่มีใครอยากได้หรอก เอ๊ะ!ผมกำลังนอกเรื่องไปไกลแล้วหรือเปล่า T^T


“ถ้าการที่ผมจำอะไรเกี่ยวกับตัวเองไม่ได้เลยเรียกว่าความจำเสื่อมก็คงจะเป็นแบบนั้น”


ขอบใจที่ช่วยเรียกสติกลับมาแต่ประโยคที่นายยืนยันมันทำให้สติฉันกระเจิงอีกรอบอย่างดีเยี่ยมเลยล่ะ


“โอ๊ยยย นี่มันเรื่องบ้าอะไรกันเนี่ย!” ผมสบถขึ้นพลางทิ้งร่างลงบนโซฟาอีกรอบ ศีรษะเอนพิงพนักพร้อมกับเอาสองมือปิดหน้าตัวเองอย่างเครียดจัด


ความเงียบเข้าปกคลุมนับสิบนาทีก่อนที่อีกฝ่ายจะทำลายความเงียบ


“ผมคงทำให้คุณลำบากใจอยากให้ผมไปก็ได้นะ ผมเข้าใจ” ผมพรวดนั่งตัวตรงมือจิกหมอนอิงแน่นแล้วโพล่งพรวดออกไปทันที


“ไม่ได้เครียดเรื่องที่นายกังวลหรอกน่า แล้วยิ่งรู้แบบนี้ยิ่งปล่อยไปไม่ได้ใหญ่” ผมถอนหายใจอีกเฮือก “ช่วยเล่าเรื่องที่นายพอจะรู้ให้ฟังได้ไหม”


เขาพยักหน้าขมวดคิ้วเหมือนพยายามนึกสิ่งที่เกิดขึ้น แล้วขยับปากเล่าออกมาช้าๆ


“ผมจำได้แค่ว่า...รู้สึกตัวขึ้นมาบนก้อนหญ้าอะไรสักอย่าง ลอยตามกระแสน้ำมาติดกับบ้านสังกะสีกลางน้ำของชาวบ้านแล้ว...” เขาหรี่ตาโคลงหัวเหมือนกำลังเค้นความคิด เปล่งเสียงเป็นคำกระท่อนกระแท่นออกมา “ผมก็ขึ้นมาบนบ้าน...โดนไล่ตี...โดนน้ำคาวปลาสาดไล่...วิ่งหนีมาหยุดอยู่ที่ตรอกนั่น...รู้สึกหิว...เจ็บ...หนาว...”


เล่ามาถึงตรงนี้น้ำตาผมก็คลอหน่วยเต็มดวงตา ปลายนิ้วโป้งยื่นมาไล้หางตาปาดน้ำตาออกให้อย่างอ่อนโยน ผมต้องเป็นคนปลอบเขาไม่ใช่หรอทำไมเป็นเขาต้องมาปลอบผมแทนล่ะ


“นั่นคือสิ่งที่ผมรับรู้แค่นี้...ก่อนหน้านั้นผมจำไม่ได้เลย”


นี่สินะที่มาของแววตาว่างเปล่า...เพราะไม่รู้...ไม่รู้เลย


จากที่ฟังผมประมวลเรื่องราวได้ว่าบางอย่างทำให้เขามาหมดสติอยู่บนผักตบชวา(ก้อนหญ้าของเขานั่นแหละ)ลอยมาตามแม่น้ำเจ้าพระยาแล้วมาติดกับบ้านของชาวบ้านหาปลาเข้า


ส่วนเรื่องราวก่อนหน้านั้นผมคิดว่ามันคงเลือนหายไปเพราะเหตุการณ์เลวร้ายบางอย่างที่เกิดขึ้นซึ่งเราก็ไม่รู้ว่ามันคืออะไร


“นายจำใครไม่ได้เลยหรอ”


“ใบหน้าเดียวที่ผมจำได้ขึ้นใจคือคุณ...คนเดียว” น้ำเสียงแผ่วเบาแต่เน้นย้ำชัดเจนทุกคำ เอิ่มก็เข้าใจนะว่าเขาตอบคำถามผม แต่มันรู้สึกหน้าร้อนวูบวาบยังไงไม่รู้


“เอ่อ...ไม่มีอะไรที่จะยืนยันตัวตนนายได้บ้างหรออย่างเช่น บัตรประชาชน ใบขับขี่ หรือบัตรอะไรสักอย่างก็ได้” ผมถามอย่างหวังว่าเขาจะมีของสำคัญติดตัวมาบ้างนอกจากเสื้อผ้าเก่าโทรมชุดเดียวที่ผมเห็น


“ผมไม่มีอย่างที่คุณว่ามาสักอย่าง” ใจแป้วเลยมั้ยล่ะ “เอ๊ะ...” อุทานแค่นั้นเขาก็ลุกขึ้นเดินหายเข้าไปในห้องน้ำทำให้ผมตื่นตัวขึ้นมาอีกครั้ง


แต่แล้วเขาก็ออกมาพร้อมกับเสื้อสูทสีดำตัวเก่าตัวเดียวที่เขามี(ไม่นับแจ๊คเก็ตสีแดงที่ผมซื้อให้เขานะ) เอามันมาทำไมอย่าบอกนะว่ามันมีลายแทงอยู่ตามเนื้อผ้า


รู้สึกมั้ยว่าวันนี้ผมเพ้อเจ้อไปมากมาย


ฟุบ


เขานั่งลงข้างผมดังเดิมก่อนล้วงเข้าไปด้านในของเสื้อสูทหยิบบางอย่างออกมา แค่เห็นสันปกก็ทำเอาผมตื่นเต้นจนนั่งไม่ติดที่ เขายื่นมันมาตรงหน้าผมก่อนบอก


“นี่เป็นสิ่งเดียวที่ติดตัวผมมา” หนังสือหน้าปกสีแดงมีอักษรสีทองหนึ่งตัวเด่นใหญ่อยู่กึ่งกลางหน้ากระดาษที่ถ้าให้ผมทายน่าจะเป็นภาษาจีน ผมรีบหยิบมันขึ้นมาเปิดดูด้านในสิ่งแรกที่เห็นคือตัวหนังสือภาษาจีน(น่าจะใช่)สีดำมากมายเต็มหน้ากระดาษสีเหลืองค่อนไปทางน้ำตาลที่บ่งบอกว่ามันเป็นหนังสือที่เก่ามากแล้ว


ดูๆไปเหมือนพวกคัมภีร์วิทยายุทธ์ในหนังจีนกำลังภายในที่ผมเคยดู


บางหน้ามีอักษรสีทองนูนเด่นขึ้นต่างจากอักษรสีดำเมื่อเอามือไปลูบจะรู้สึกถึงความไม่สม่ำเสมอของเนื้อกระดาษ


“มีทั้งหมดสองร้อยหน้า...” ผมพลิกดูตัวเลขมุมล่างขวาหน้าสุดท้าย ก่อนปิดหนังสือลงและเงยหน้าขึ้นมาสบตากับเขาที่จ้องมองมาหนังสือเล่มนี้อยู่เช่นกัน “นายอ่านออกมั้ย”


“อืม” เขาพยักหน้าก่อนชี้ไปที่ตัวอักษรสีทองตัวใหญ่บนปก“อ่านว่า ‘ เจิ้ง’ ”


‘เจิ้ง’ งั้นหรอ...แล้วมันคืออะไรล่ะ!


อักษรตัวเดียวบนหน้าปกควรเป็นชื่อเรื่องหรือบ่งบอกความสำคัญของหนังสือเล่มนั้นๆไม่ใช่หรือ แล้วไอ้คำว่า ‘เจิ้ง’ คำเดียวมันช่วยสื่ออะไรตรงไหนได้


เหมือนเขาจะรู้ว่าผมคิดอะไรเลยพูดสวนดักคอขึ้นมาว่าตัวเองก็ไม่รู้เหมือนกันเฮ้อ เซ็งเลย


“แล้วด้านในล่ะ” ผมจึงเบนความสนใจไปที่ตัวหนังสือมากมายด้านในแทนลายตาจนตาลายแบบนี้คงต้องบอกอะไรบ้างล่ะ


เขาเพ่งมองไปที่หัวเรื่องของหน้าแรกพลางค่อยๆออกเสียง


“จี ฟ่าน”


“แปลภาษาไทยได้มั้ย เอาภาษาไทยสิ” ผมพูดเสียงตื่นเต้น เขาเงยหน้าขึ้นมองผมแวบหนึ่งก่อนกลับไปเพ่งอ่านประโยคนั้นต่อแล้วอ่านออกมาเป็นภาษาที่ผมเข้าใจ


“ข้าวมันไก่”


ห๊า!!!!!!!!!!!!


ข้าวมันไก่!!


อะไรคือพิมพ์เป็นภาษาจีนแต่แปลออกมาได้ว่าข้าวมันไก่!!!


“นายแปลถูกแน่นะ ลองอ่านใหม่สิ” ผมคะยั้นคะยอ เขาเลยก้มลงไปดูอีกครั้ง “คิดว่าถูกนะ ถึงผมจะจำอะไรไม่ได้แต่ผมก็อ่านและแปลได้ไม่ผิดแน่”


โอยยยย ลมจะจับ


นอกจากนี้หน้าอื่นๆยังมี ข้าวหน้าเป็ด ข้าวหมูแดง หมูกรอบสารพัดอาหารจานเดียว ไหนจะบรรดาเมนูก๋วยเตี๋ยวสารพัดเส้นอีก สรุปคือมันเป็นหนังสือเมนูอาหารไทยแปลเป็นจีน!


“ผมมีอีกอย่างจะให้คุณดู”


“อะไรหรอ”


เขาไม่ตอบแต่ลุกเข้าไปในครัวพร้อมกับหนังสือคัมภีร์อาหารยอดยุทธ์ ผมรีบลุกเดินตามเข้าไปทันเห็นเขาเปิดก๊อกน้ำใส่ซิงค์ล้างจานจนเต็มก่อนเอาหนังสือในมือจุ่มลงไป


ผมยืนมองมันตาค้าง


“เฮ้ย!! เดี๋ยวก็เปียกหมดหรอก” ผมรีบหยิบขึ้นมาสะบัดๆ สีกระดาษมันก็ดูเปื่อยอยู่แล้วโดยน้ำเข้าไปอีกงืออ ตัวหนังสือจะหายไปมั้ยอ่ะ ไอ้บ้าทำอะไรเนี่ย!


เอ๊ะ!


แต่ผมสะบัดอยู่พักหนึ่งเพิ่งมาสังเกตว่าไม่มีน้ำสักหยดตกลงพื้น ขมวดคิ้วอย่างสงสัย มองหนังสือทีหนึ่งก่อนแหงนหน้าไปมองเขาที่พยักหน้ากลับมา แล้วกลับมามองหนังสืออีกครั้งจับหน้าปกดูไม่เปียก ด้านในก็ไม่เปียก ตัวอักษรยังปกติหมึกไม่ซึมไม่หายอย่างที่ผมตกใจ


ไม่น่าเชื่อ!! สภาพหนังสือเหมือนผ่านมาร้อยมืออยู่มาร้อยปีไม่กล้าจับแรงด้วยซ้ำ แต่มันไม่เป็นอะไรเลยทนทานได้ประหนึ่งกระเบื้องตราห้าห่วงทั้งที่แช่อยู่ในน้ำเกือบสองนาที เฮ้ย เป็นไปได้


“อย่างที่เห็น” เขายักไหล่พลางดึงผมเดินกลับมานั่งบนโซฟาในห้องนั่งเล่นอีกครั้ง


ถ้าหนังสือเล่มนี้เป็นสิ่งที่บอกตัวตนผู้ชายคนนี้คงไม่พ้นเชฟกระทะทองเป็นแน่แท้ฮือ แล้วมันจะเป็นไปได้ยังไงเล่า!


หรือว่าเป็นไปได้


“หรือว่านายจะเป็นเชฟ”


“ที่เอากระทะตีหัวตัวเองจนความจำเสื่อมอย่างนั้นใช่มั้ย”


อย่ามาเล่นมุกหน้าตายตอนนี้ได้มั้ย! ผมจริงจังนะ!


“ขอโทษ...ผมแค่ไม่อยากให้คุณเครียด” เขาบอกอย่างสำนึกผิดเมื่อเห็นหน้ายุ่งคิ้วขมวดของผมหงอยเลยผมไม่ได้โกรธอะไรเขาสักหน่อย


“อืม ฉันคงคิดมากไปจริงๆ คาดเดาไปก็ใช่ว่ามันจะถูกต้องปวดหัวเปล่าๆ” ผมเอนหลังพิงพนักโซฟาอย่างผ่อนคลายขึ้นเริ่มปลงตกกับตัวเอง อย่างว่าคิดไปตอนนี้ก็ไม่มีอะไรกระจ่างขึ้นสิ่งสำคัญที่สุดที่ต้องทำ ณ ตอนนี้คือ...


“มาตั้งชื่อให้นายดีกว่า!”


“หืม...ตั้งชื่อ?”


“แน่นอนสิ ก็นายไม่รู้ว่าตัวเองเป็นใคร ชื่ออะไรเพราะฉะนั้นมาตั้งชื่อกันดีกว่า” ผมรู้สึกกระดี๊กระด๊าขึ้นมาทันที ส่วนเจ้าตัวถึงท่าทียังคงนิ่งเฉยแต่แววตาประกายขึ้นชั่วแวบหนึ่งทำให้รู้ว่าเขาก็สนใจเหมือนกัน


“แล้วจะให้ผมชื่ออะไร”


“อืมมมม” ผมเท้าคางตั้งศอกบนหมอนอิงเอานิ้วชี้เคาะแก้มอย่างครุ่นคิดชื่ออะไรดีน้า ชื่ออะไรดี...


“เรียกผมนายเหมือนเดิมก็ได้นะ”


“บ้าหรอไม่เอา!” เรื่องอะไรล่ะ ผมอยากให้เขามีชื่อมากกว่า


“บ๊อก”


ปุบ


เจ้าน้องหมาที่คงตื่นเพราะเสียงเราสองคนกระโดดเอาสองขงหน้าขึ้นมาบนโซฟาพลางกระดิกหางและส่งเสียงเหมือนอยากขึ้นมานั่งด้วย


ผมยิ้มกว้างพลางอุ้มมันขึ้นมานั่งตักแล้วลูบหัวมันเล่นเบาๆ


“น้องหมาก็ต้องมีชื่อนี่เนอะ”


น้องหมา ชายเร่ร่อนตอนนี้มาอาศัยอยู่กับผมซึ่งชื่อคนเล็ก เจ้าน้องหมาตัวน้อยกับลูกพี่ตัวโตหน้าแบบนี้ ตาแบบนี้ รูปร่างแบบนี้


ผมมองคนสลับหมา หมาสลับคน


นึกออกแล้ว!!!


“ฉันรู้แล้วว่าจะให้นายชื่ออะไร”


“...” เขาขยับตัวสองสามทีผมยิ้มกริ่มอย่างถูกใจก่อนประกาศก้อง


“ต่อไปฉันจะเรียกนายว่า‘ตี๋ใหญ่’ ส่วนน้องหมาชื่อ‘ตี๋น้อย’ เป็นไงชอบมั้ย!”


เขานิ่งไปนิดก่อนพยักหน้า


แต่ไม่พูด


“เอ้า!ว่าไงชอบหรือไม่ชอบ”


“ชอบคุณตั้งให้ผมชอบทั้งนั้นแหละ”


พอพูดเข้าก็ยืดยาวไปนะ เล่นเอาเขินเลย!

……………………………………………………………………………………….



“ใหญ่...ฉันไปทำงานก่อนนะ” ผมตะโกนบอกคนในห้องน้ำเขาโผล่หน้าออกมาก่อนพยักหน้าให้


ดูท่าแล้วอยากออกมาส่งผมหน้าประตูแต่ตัวเองก็เปียกม่อล่อกม่อแลกเกินกว่าจะย่ำออกมา


ผมเปิดประตูห้องออกไปก่อนปิดแล้วเดินตรงไปยังลิฟท์ลงไปที่จอดรถชั้นหนึ่งผมยิ้มแย้มแจ่มใสอารมณ์ดีไปตลอดทาง


สาเหตุคงเป็นเพรา ‘ตี๋ใหญ่’ ที่เรียกสองพยางค์มันขัดลิ้นเลยตัดทอนเหลือคำว่า ‘ใหญ่’ พยางค์เดียว


สามวันที่ใหญ่มาอยู่กับผมความโก๊ะ(ตี๋ใหญ่)ของเขาก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆหาเรื่องให้ผมขำกับความเปิ่นแบบนิ่งๆสไตล์เขาอยู่ได้ทุกวัน


เริ่มแรกจากการพยายามทำงานบ้านที่ท่าจับไม้กวาดไม้ถูดูเงอะๆงะๆอย่างดูก็รู้ว่าทำไม่เป็น แต่เขาก็พยายามทำจนสามารถทำให้ห้องขนาดร้อยสี่สิบตารางเมตรสะอาดขึ้นมาได้


อย่างเช้านี้ใหญ่ก็ลุกมาชงโอวัลตินเคียงคู่กับขนมปังปิ้งให้ผม ก่อนจับเจ้าตี๋น้อยอาบน้ำจนตัวเองก็เปียกไปทั่วตัวด้วยอย่างที่เห็น แล้วคาดว่าจะพยายามขัดห้องน้ำต่อ สายข่าวรายงานมาว่าเขาไปกระซิบถามวิธีขัดห้องน้ำจากพิณมาเมื่อวานเย็น


ซึ่งผมบอกไปแล้วว่าไม่ต้องทำผมจ้างแม่บ้านประจำอยู่แล้ว เขาบอกว่าให้งอมืองอเท้านั่งเกาะผมไปวันๆเขาทำไม่ได้ อย่างน้อยก็ช่วยผมประหยัดค่าแม่บ้านก็ยังดี


เอาเถอะ เขาสบายใจก็ปล่อยเขาทำไป


ลงให้ติดๆกันเลยครับ3ตอน


mario54101 โพสต์ 2020-4-4 21:44:48

รีบต่อนะครับ รอๆๆๆ

minone โพสต์ 2020-4-4 22:04:10

รอลุ้น​ตอน​ต่อไป​นะ​ครับ​{:5_130:}

tumlove โพสต์ 2020-4-4 23:06:47

ขอบคุณมากเลยครับ

Pakchinki โพสต์ 2020-4-4 23:56:55

รอครับ

kichjakan โพสต์ 2020-4-5 02:30:14

ขอบคุณครับ

kabuki โพสต์ 2020-4-5 02:30:21

เรื่องนี้ต้องมี เงี่ยนงำ

uglymen โพสต์ 2020-4-5 02:51:03

ตี๋ใหญ่่ แล้ว ของใหญ่ด้วยใช่ไหมหนอ 5555 แอบบอยากรู้อยากเห็น

guide01 โพสต์ 2020-4-5 03:15:47

ขอบคุณมากเลยครับ

Phol_th โพสต์ 2020-4-5 03:18:35

พ่อคนดีศรีวงการ

pipi1 โพสต์ 2020-4-5 04:08:53

{:5_119:}ขอบคุณครับ{:5_119:}

rowetszaa โพสต์ 2020-4-5 05:18:14

ขอบคุณครับ

leotero โพสต์ 2020-4-5 06:10:42

ขอบคุณมากครับ เรื่องราวน่าสนใจดี

65gpy โพสต์ 2020-4-5 06:20:45

ขอบคุณครับ

Man100 โพสต์ 2020-4-5 06:35:12

รู้สึกดีที่มีใครสักคนมาอยู่เคียงข้างกัน…นานวันคงผูกพันเป็นสายใย ขอให้ชีวิตสุขสมหวังไม่มีอุปสรรคใดๆนะเอย :)

bassabassy โพสต์ 2020-4-5 08:00:43

ทำไมอ่านแล้วรู้สึกดีจัง รอติดตามตอนต่อไปจ้า

Pathxx โพสต์ 2020-4-5 08:01:44

รอติดตามครับ สนุกมากเลย

Akeoutdoor โพสต์ 2020-4-5 08:03:33

สนุกดีครับ ชอบเลย

Aonz003 โพสต์ 2020-4-5 08:24:12

:victory::victory::victory:

Ling_Elvis โพสต์ 2020-4-5 08:26:55

ขอบคุณครับ
หน้า: [1] 2 3 4 5 6
ดูในรูปแบบกติ: รักเร่ร่อน...ของคนจรจัด 5 bymod-cup