เรื่องเล่าจากเพื่อน ตอนที่ 14 - 1 [โตน] คนเจ้าชู้
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Hanabi เมื่อ 2020-2-27 18:50สวัสดีครับ หลายคนพอจะรู้จักผมมาบ้างแล้ว จากช่วงของเพียวในตอน "ปริศนาตะกร้าผ้า" ผมจะขอเล่าเรื่องของผมตั้งแต่วันแรกที่ผมได้เจอกับเพียว แต่ก่อนอื่นขอแนะนำตัวอย่างเป็นทางการก่อนนะครับ ชื่อโตนครับ จริง ๆ มาจาก Stone เวลาผมโดนคนอื่นเรียกนอกจากพ่อแม่ว่าสโตนแล้วมันแปลก ๆ เลยไปบอกใครต่อใครว่าชื่อ โตน ผมนับว่าเป็นคนไม่สูงไม่เตี้ยเมื่อเทียบกับสัดส่วนเพื่อน ๆ รุ่นผมนะ ซึ่งเป็นช่วงตอนอายุ 18 ผมสูง 175 หนัก 60 รูปร่างพอไม่อายใคร มีน้ำมีนวลพอสมควร ออกกำลังกายบ้างแค่กันพุงออก เป็นเชื้อสายลูกผสมครับ ทั้งพ่อทั้งแม่เป็นลูกครึ่งจีนเหมือนกัน แต่ผมคล้ายจะจีนหนักกว่าพี่น้องคนอื่น ที่ตาสองชั้นกันหมด แต่ตาผมชั้นเดียวสุด ๆ อยู่คนเดียว แนะนำตัวแล้วขอกลับเข้าเรื่องต่อเลยนะ
หลังจากที่ผมลงทะเบียนหอพักเสร็จก็ได้ทราบว่าผมมีรูมเมทอีก 2 คน เป็น ปี1 เหมือนกันกับรุ่นพี่ปี 3 เพื่อนรุ่นเดียวกันชื่อเพียว รุ่นพี่ชื่อบอลครับ ทั้งสองคนเรียนวิศวะ แต่คนละสาขา ส่วนผมนั้นเรียนไม่เหมือน 2 คนนี้เลย ผมเรียนเกี่ยวกับการบริหารและการจัดการ ช่วงที่เข้าหอมาใหม่ ๆ ผมกับเพียวเราเข้าร่วมกิจกรรมรับน้องหอพักด้วยกันครับ เลยทำให้คุยกันได้ ผมออกจะขี้อายครับ เลยไม่กล้าเปิดเผยเรือนร่างเท่าไหร่ แต่ทั้งสองคนนั้นเป็นพวกเปิดเผยมาก บางเวลาก็ใส่แต่บ๊อกเซอร์หรือกางเกงในตัวเดียวเดินไปมาในห้อง ผมในตอนนั้นไม่ได้คิดอะไรลามกหรือทะลึ่งกับ 2 คนนี้เลยครับ แต่แล้ววันหนึ่งที่ผมไม่นึกฝันก็มาถึง วันนั้นพี่บอลอยากเลี้ยงนมพวกเราครับ พี่บอลเลยพาพวกผมนั่งท้ายมอไซค์ไปยังร้านนมนั่น โดยมีพี่บอลขับ เพียวนั่งกลาง และผมปิดท้าย ซ้อน 3 กันไป ด้วยความที่ผมกลัวตกด้วยแหละประกอบกับเพียวบอกให้ชิด ๆ ผมเลยต้องแนบสนิทกับเพียว วันนั้นคล้ายเพียวไปออกกำลังกายมาพอจะทีกลิ่นเหงื่ออยู่บ้างครับ ซึ่งมันลอยมากับสายลม มีช่วงหนึ่งที่พี่บอลเบรครถ หน้าผมเลยกระแทกใส่แผ่นหลังของเพียว และมันเป็นจังหวะเดียวกับที่ผมต้องหายใจเข้าปอด กลิ่นตัวกลิ่นเหงื่อของเพียวมันทำให้ผมรู้สึกแปลก ๆ มันไม่เหม็นครับ หอม ๆ แต่ก็ยังพอมีกลิ่นเหงื่อ ผมโล่งจมูกไปเลย นั่นเลยเป็นครั้งแรกที่ผมประทับใจกลิ่นของเพียว พอถึงร้านนมก็กินนมไปปกติครับ ผมก็สังเกตรูมเมทว่ากินนมอะไรกัน พี่บอลนมน้ำผึ้ง เพียวนมชมพู ผมนมสดธรรมดา ขากลับเพียวให้ผมนั่งกลางแทนครับ ผมก็เลยอดได้กลิ่นเพียว แต่ก็ยังได้กลิ่นพี่บอล มันเป็นกลิ่นสะอาด ๆ หอม ๆ สบายจมูก
หลังจากวันนั้นผมคล้ายจะติดใจกลิ่นรูมเมท 2 คนนี้ครับ ผมไม่แน่ใจว่าผมเป็นอะไร มันคล้ายสงสัยและอยากดมเท่านั้น ช่วงที่พวกเขาไม่อยู่ ผมจะไปเอาเสื้อที่พวกเขาถอดในตะกร้ามาดมครับ ผมชอบชุดนักศึกษาที่พวกเขาสองคนใส่มาก มันหอมสะอาดและได้กลิ่นเฉพาะตัวของทั้ง 2 คนนั้นชัดเจน ผมไม่ได้มีความรู้สึกทางเพศตอนดมเสื้อพวกเขานะครับ แต่แล้ววันหนึ่งผมเจอกางเกงในตัวเองในตู้ที่ไม่ได้ใส่มานานซึ่งนึกว่าหายไปแล้ว ก็เลยหยิบมันขึ้นมาดมว่าซักหรือยัง จะได้ซักมัน แต่ก็มีแค่กลิ่นเก่ากลิ่นตู้ เลยโยนมันลงตะกร้าผ้า แต่ผมดันโยนเลยตะกร้าตัวเองไปลงตะกร้าของเพียวครับ ผมก็เลยต้องเก็บมันออกมา ตอนที่เก็บออกผมก็ดันเห็นกางเกงในของเพียวที่เพิ่งถอดไว้ครับ ในใจก็เกิดความสงสัยกลิ่นเพื่อนคนนี้ว่ามันจะเป็นกลิ่นแบบไหน เลยลองหยิบขึ้นมาดู มันไม่มีคราบอะไรตรงเป้าเลยครับ ผิดกับของผม ที่จะมีคราบบ้างบางวัน ผมตัดสินใจดมมันทันที สมองผมคล้ายบอกว่ากลิ่นนี้หอมมาก มันเป็นกลิ่นที่ดูสะอาดจากกลิ่นน้ำยาปรับผ้านุ่มผสมกลิ่นเฉพาะตัวของเพียว แต่ที่ทำให้ผมตกใจมากเพราะกลิ่นนี้มันทำให้ผมหวิว ๆ คล้ายเกิดอารมณ์ ผมรีบเก็บมันที่เดิม ก่อนจะลองไปค้นเอาของพี่บอลมาดมบ้าง มันก็เป็นกลิ่นหอมจากน้ำยาปรับผ้านุ่มผสมกับกลิ่นเฉพาะตัว แต่ผมกลับไม่รู้สึกหวิวเลย ผมเลยเก็บของพี่บอล และไม่สนใจกางเกงพวกนั้น
ตั้งแต่วันที่ผมดมกางเกงในเพียววันนั้น ผมก็คล้ายจะเขินมันมากขึ้น อยากอยู่ใกล้มัน ผมคิดว่าจมูกของผมดีกว่าคนอื่น เพราะ ขนาดเพียวนั่งทำงาน ส่วนผมนอนบนเตียงใกล้กัน ผมยังพอได้กลิ่นน้ำหอม กลิ่นเสื้อ ยันกลิ่นตัวแต่ไม่เหม็นนะครับ ผมรู้สึกดีกับมันสุด ๆ โดยเฉพาะเวลาแอบมองหน้ามันเวลาตั้งใจทำงาน ผมรู้สึกว่ามันหล่อมาก แต่พอมันยิ้มให้ผม ผมรู้สึกว่าโลกนี้โคตรสดใส ไม่กี่วันต่อมาผมเกิดอารมณ์อยากปลดปล่อยน้ำกามตัวเองครับ เพราะหลายวันมานี้ทำงานกับเพื่อน ๆ จนไม่มีเวลา วันนั้นผมกลับมาไม่พบใครด้วยความคิดถึงเพียวผมเลยเดินไปค้นตะกร้าผ้ามันเอาเสื้อมันมาดม ก่อนจะเอากางเกงในมันมาดมต่อ ความกำหนัดของผมคล้ายจะระเบิด ผมดมกางเกงในมันพร้อมกับช่วยตัวเองไปจนน้ำแตกเต็มพื้น ตอนนั้นผมรู้สึกว่ามันดีมากครับตื่นเต้นสุด ๆ แถมวันนั้นโคตรโชคดีที่ผมเก็บกวาดเช็ดถูคราบน้ำกามบนพื้นห้องได้ทัน เพราะไม่ถึง 30 วินาที เพียวก็กลับมาพอดี ในวันนั้นผมเริ่มเข้าใจตัวเองว่าผมอาจจะชอบเพียวซึ่งมันเป็นผู้ชาย ผมกำลังชอบผู้ชาย ผมคล้ายจะตกใจตัวเอง ทั้ง ๆ ที่ก่อนหน้าผมยังเหมือนอยู่ในม่านหมอกสับสน แต่ตอนนี้ผมมั่นใจว่าผมชอบรูมเมทตัวเองเข้าให้แล้ว ผมอยากบอกชอบมันมากครับ แต่ผมกลับไม่กล้าพูดออกไป เลยใช้เพลงเป็นสื่อกลาง โดยปกติถ้าพวกเราไม่อ่านหนังสือเพียวจะให้ผมเปิดเพลงให้ฟัง ห้องจะได้ไม่เงียบ ผมเลยจัดลิชเพลงรักมากอกหูมันไว้หลายเพลงเปิดให้มันฟังทุกวัน...
จนวันหนึ่งผมฝันก็เป็นจริง เช้าวันนั้นตอนที่มันไปอาบน้ำ ผมที่รู้สึกเงี่ยนฆวยมา 3 วันแล้ว พี่บอลก็ไม่อยู่ห้อง ทางสะดวกสุด ๆ ผมเลยไปยังตะกร้าผ้ามันเอากางเกงในมันมาดม พร้อมกับรีบช่วยตัวเองจนเสร็จ ผมหอบเหนื่อยก็จริงแต่ก็รีบออกไปทำลายหลักฐาน พร้อมกับนึกขึ้นได้เรื่องของที่มันชอบ ผมซื้อชาเขียวกับนมชมพูกลับมา ผมส่งนมชมพูให้มัน ไม่นานมันก็ช่วนผมไปเที่ยวครับ มันชวนผมไปดูหนัง ผมดีใจสุด ๆ นี่เป็นครั้งแรกเลยก็ได้ครับที่มันสนใจชวนผม เพราะปกติมันชวนคนอื่นไป แถมวันนั้นทั้งวันเพียวเลี้ยงผมตลอด คล้ายออกเดทก็ว่าได้ ผมมีความสุขมาก ยิ่งเย็นนั้นมันยังชวนผมไปว่ายน้ำ สอนผมหัดว่ายน้ำอีก ที่พีคของชีวิตผมในวันนั้นคือการปิดท้ายอาบน้ำด้วยกันและแข่งกันชักว่าว ผมได้เห็นของมันจะ ๆ มันใหญ่โตมากกว่าที่ผมเคยคิดเอาไว้
หลังจากวันนั้นเพียวมักชวนผมไปว่ายน้ำทุกครั้งเลยครับ เราอาบน้ำด้วยกันจนผมเริ่มชิน ส่วนการว่ายน้ำของผมก็พัฒนาไปในทางที่ดีครับ ถึงจะยังไม่ขนาดว่ายไปว่ายกลับได้ แต่ก็พอว่ายทรงตัวอยู่กับที่และพยายามเข้าฝั่งได้แล้ว ตอนนี้ผมเหมือนจะเลิกกลัวน้ำ ในที่สุดเงินเดือนผมก็ออก แน่ละครับว่ามันคือค่าใช้จ่ายผมแต่ละเดือนนั้นเอง ที่พ่อแม่ส่งมาให้ทุกต้นเดือน เดือนนั้นผมเลยอ้อนขอเพิ่มอีกนิดหน่อยโดยอ้างว่าต้องใช้ทำงาน เมื่อได้เงินมาแล้วผมก็แบ่งส่วนที่จำเป็น แยกกับส่วนที่ต้องใช้ ผมแยกทำไมนะเหรอ ก็เพราะว่าผมอยากซื้อรองเท้ากีฬาคู่หนึ่งให้เพียวครับ เดือนก่อนมันไปส่องเอาไว้แต่เหมือนมันยังไม่ได้ซื้อ ผมคิดว่าจะซื้อให้มันเป็นของขวัญ หลังซื้อมาแล้วผมก็เอามันไปเก็บซ่อนไว้ในตู้เสื้อผ้าของมันและเมื่อมันกลับมาเปิดตู้...
"เห้ย!!!" เสียงร้องดีใจผสมตกใจดังลั่นห้อง มันหันมามองผม แล้วถามเสียงดัง
"มึง โตน มึง ร้อง เท้า " มันหันหน้าสลับไปมากับรองเท้าและหน้าผม
"ค่าตัวมึง ที่สอนกูว่ายน้ำ..."
มันรีบเปิดกล่องรองเท้าออกมา มันสวมใส่ทันที มันพอดีอย่างมากเพราะผมจำมันตอนวัดไซส์ได้ พอมันใส่เสร็จมันก็หันมามองผมส่งยิ้มตาหวานแถมน้ำตาคล้ายจะคลอเบ้า มันเดินจ้ำตรงมาโน้มกอดผมเต็มแรงจนผมเสียหลักล้มไปบนเตียง ผมถึงกลับทำตัวไม่ถูก ได้แต่เอามือโอบตบหลังมันเบา ๆ ไม่นานมันก็คลายมือออกมามองหน้าผม
"ขอบคุณมาก มึงจำได้ด้วยเหรอว่ากูจะเอาคู่นี้..."
"จำได้สิ มึงเป็นคนบอกกูเอง"
มันยิ้มให้ผมจนผมแอบเขินและเหมือนหน้าจะอุ่นขึ้น มันมองหน้าผมคล้ายสำรวจบางอย่างก่อนจะก้มมาหอมแก้มผมฟอดใหญ่
"มึงทำตัวน่ารักนะโตน นี่สำหรับคำขอบคุณ..."
พอมันหอมเสร็จก็ลุกออกไปกระโดดไปมากับซ้อยเท้าคล้ายวิ่งทดลองร้องเท้าคู่ใหม่ ในช่วงนี้พวกเรายังคงไปว่ายน้ำด้วยกันครับ แถมคล้ายคนในห้องจะหันมาสนใจสุขภาพกันมากขึ้น ขนาดพี่บอลยังเริ่มเข้ายิมแล้วเลย ผมก็เลยเข้ายิมกับเขาบ้าง
ถึงกิจกรรมจะเบาบางแต่การเรียนการบ้านกลับเพิ่มมากขึ้น ผมแทบไม่ได้อยู่ห้องเพราะต้องไปช่วยเพื่อนทำงานและการบ้าน กว่าจะกลับมาก็ดึกดื่น พอได้อาบน้ำนอนก็สติดับหลับไปเลย แทบจะไม่ได้พูดคุยกับใคร จนวันรุ่งขึ้นเพียวมันก็ถามว่าผมว่างวันไหนบ้าง มันอยากชวนผมไปดูหนัง ผมอยากไปมากเลยครับ แต่คิวผมเต็มไปอีก 10 วัน ผมจำต้องปฏิเสธจนมันไปกับคนอื่นแทน หลายวันผ่านไประหว่างที่ผมนอนเอาแรงพักฟื้นจากการเรียน เพียวมันก็มานั่งข้าง ๆ ผม
"โตน มึงว่างวันไหน..."
"ทำไมจะชวนกูไปดูหนังเหรอ..."
"เปล่า กูแค่ไม่ค่อยได้คุยกับมึงเลย มึงแทบไม่อยู่ห้อง กูกับพี่บอลคิดถึงมึงมากเลยรู้ปะ"
"เหอะ ๆ คิดถึงอะไรกัน กูก็กลับมานอนห้องทุกคืน"
"เพื่อนโตนครับ มึงมาถึงมึงก็อาบน้ำนอนเลย พูดคุยกับพวกกูไม่มีสักคำ"
"คนมันเหนื่อย ว่าแต่ช่วงนี้พี่บอลไปไหนอะ เห็นออกไปทุกเช้าเลย"
"ช่วงนี้พี่แกฟิต พอหุ่นดีแล้วก็เสพติดการออกกำลังกาย กลัวซิกแพ๊คไม่แน่น..."
"อ่อ เออ กูว่างแล้วละ ได้พักสักที..."
"ดี ไปไหนกันดี กูจะพามึงไปทุกที่เลย"
"เลี้ยงปะละ"
"แน่นอนครับ มึงบอกมาเลย"
"แต่กูอยากไปว่ายน้ำกับมึงอะ..."
ถึงผมจะบอกว่าไปว่ายน้ำ จริง ๆ คืออยากไปอาบน้ำกับมันและชักว่าวด้วยกันมากกว่า
"หืม... บ้าเปล่าไว้เย็น ๆ ดิ เวลาเหลืออีกนานมึงอยากไปไหน..."
"ไม่รู้ดิ มึงอยู่คุยเล่นกับกูพอละงั้น เย็น ๆ ค่อยไปว่ายน้ำกัน"
"ได้ ๆ มึงแน่ใจนะว่าแค่ว่ายน้ำ ไม่มีอะไรอย่างอื่น..."
"บ้าอะไร บ้าไม่มี"
"แหนะมึง ทำตัวโคตรมีพิรุธ เอางี้ไปขับรถเล่นกันแล้วหาอะไรกิน ค่อยกลับมาชักว่าวกัน เอ่ยว่ายน้ำ ๆ"
ผมนี่แบบเขินเลย เพียวมันเหมือนเดาใจผมออก ผมเลยจะลุกไปอาบน้ำครับเพราะมันบอกจะพาไปนั่งรถเล่น ผมก็จัดแจงถอดเสื้อนุ่งผ้าเตรียมจะเข้าห้องน้ำก็โดนมันจับแขนไว้
"มึงอย่าล๊อกห้องน้ำนะ กูจะเข้าไปอาบด้วย..."
พอเพียวพูดจบมันก็เดินไปถอดเสื้อผ้า ผมถึงจะชินแล้วแต่นี่นับว่าครั้งแรกเลยที่เราจะอาบน้ำพร้อมกันในห้องนี้ ที่มีโอกาสที่พี่บอลจะกลับมาเจอ ตื่นเต้นแปลก ๆ ผมรีบเดินเข้าไปก่อนแล้วก็ล้างตัวเตรียมฟอกสบู่ ไม่นานเพียวมันก็เข้ามาครับ เราจัดแจงอาบน้ำทำความสะอาดส่วนต่าง ๆ ร่างกาย จริง ๆ ผมเสร็จแล้วครับแต่ไม่อยากออกจากห้องน้ำไปก่อน ผมเลยทำทีล้างฟองนาน ๆ จนออกจากห้องน้ำมาพร้อมกัน พวกเราไปขับรถเล่นและหาที่กินครับ ไปยังอ่างเก็บน้ำแห่งหนึ่งที่มีร้านอาหารบนแพ พวกเรากินอิ่มก็นอนเล่นรับบรรยากาศ เราคุยกันไปเรื่อย ๆ หลายอย่างจนอยู่ ๆ ผมคล้ายจะมีความกล้าขึ้นมาจึงชันตัวมานั่งมองมันก่อนจะบอกความในใจออกไป...
"เพียวกูชอบมึง..." ผมพูดจบมันก็ลืมตาหันข้างมามองผมที่นั่งอยู่ มันค่อย ๆ ลุกมานั่งถอนหายใจยาวจนผม หน้าเสีย...
"โตน กูรอคำนี้มานานมากเลยรู้ปะ..."
ผมงงเลยครับ รอ มา นาน มาก หมายความว่าไง มันรู้ว่าผมแอบชอบมันอยู่แล้วเหรอ แต่ทำไมมันไม่บอกผมละ
"โตน โตน ฟังกูนะ กู ก็ ชอบ มึง"
ผมคล้ายหูอื้อไปแล้วครับ หน้าอุ่นร้อนจนคิดว่าคงแดงมาก ๆ ผมหันหน้าหลบมันทันที แต่อีกฝ่ายกลับเอามือมาจับหน้าผมหันกลับไปหอมแก้ม แถมบนแพนี้ไม่ได้มีแค่พวกเรา ยังมีเด็กเสิร์ฟ แม่ครัว ลูกค้าอีกโต๊ะ ที่อยู่ไม่ไกล ผมพูดไม่ออกเลย ตอนนั้นอยากกระโดดน้ำมุดหนีผู้คน แต่ถ้าโดดไปคงตายแน่ ๆ
"มึงอยากเป็นแฟนกับกูปะ..."
ผมไม่แน่ใจว่าผมหูฝาดหรือได้ยินอะไรผิดหรือผมคิดไปเอง ผมได้แต่กระพริบตามองปากมัน แล้วถามมันกลับไปอีกรอบ
"เมื่อกี่กูฟังไม่ทัน พูดอีกรอบดิ๊..."
"มึงอยากเป็นแฟนกับกูไหม แต่กูเจ้าชู้มากเลยรู้ปะ"
ทำไมมันฟังแปลก ๆ จนผมรู้สึกตอบมันไม่ถูก แต่ก็พยายามตอบกลับไป
"กูชอบมึงมาก อยากคบมึงเป็นแฟน แต่กูกำลังตกใจกับคำว่าเจ้าชู้ของมึง..."
"กูจะบอกความจริงให้มึงรู้นะ ถ้ามึงรับกูได้ก็ดี แต่ถ้ารับไม่ได้ ก็บอกกูตรง ๆ เพราะกูแคร์มึง แต่กูในตอนนี้ไม่ได้มีมึงคนเดียวที่กูอยากมีอะไรด้วย ตอนนี้กูแอบกิ๊กกับพี่บอล กับพี่แถวบ้าน กับเพื่อนโรงเรียนเก่า กับเพื่อนวิศวะ กับรุ่นพี่ปโท..."
ระหว่างที่มันพูดร่ายยาวออกมา หัวใจผมตอนนี้คล้ายสับสนและกำลังแตกสลาย แต่ในคำพูดเหล่านั้นมันมีอยู่ช่วงประโยคหนึ่งที่ผมได้ยินชัดเจน ทำให้ความรู้สึกไม่ดีเบาบางลง
"... พวกนี้ก็แค่ชอบ แต่กับมึงกูใช้คำว่ารัก... มึงรังเกียจกูไหม"
ผมสูดหายใจประมวลคำต่าง ๆ ที่เป็นประโยคเข้ามาในหู ก่อนจะกลั่นกรองความคิดใหม่
"ทำไมมึงร่านจังวะ แต่กูชอบมึงและคิดว่ารักมึงจนพอรับตัวมึงได้แหละ..."
"นี่คือมึงตอบกูแล้วใช่ปะ ทำไมมันเหมือนโดนด่า"
"ถามจริงมึงเป็นเอดส์ไหม"
"โตนนับวันปากมึงร้ายนะ กูเย็ดสดกับแค่พี่บอลกับพี่ที่บ้าน นอกนั้นใส่ถุง 2 คนนี้ปลอดโรคชัวร์..."
"เห้อ ช่างหัวพี่ที่บ้านมึงก่อน เรื่องพี่บอลนี่ยังไง ทำไมกูไม่รู้ กูเจ็บปวดใจตรงพี่บอลกับมึงกินกันแล้วกูไม่รู้มากกว่า..."
"เรื่องนี้จริง ๆ พี่บอลไม่ให้บอกใครนะ แต่กูแอบบอกมึง มึงก็เนียน ๆ ทำไม่รู้ได้ปะ"
"เอ่อ ไม่บอกใคร แล้วตอนนี้มึงเป็นแฟนกูแล้วใช่ปะ"
"มั้ง มึงบอกอยากคบกับกูแล้วนิ..."
"เค ตกลงเป็นแฟนกันแล้วนะ..."
"อืมเป็นแฟนกันแล้ว..."
"เพียว กูรู้สึกการขอเป็นแฟนของพวกเรามันแปลก ๆ วะ"
"คิดเหมือนกัน งั้นก็เป็นแฟนกันไปก่อนละกัน อนาคตค่อยว่ากันอีกที"
"อนาคต... เห้อ แฟนผมคนแรกทำไมต้องเจ้าชู้ด้วยครับ สวรรค์"
ผมได้แต่บ่นออกอากาศผ่านท้องฟ้าหวังว่าคนที่อยู่บนสวรรค์จะได้ยิน แต่คนข้าง ๆ กลับหัวเราะคิดคักสะใจผมแทน...
จบ. >> 14-2 http://www.g4guys.com/thread-132411-1-1.html
ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ{:5_119:} ขอบคุณครับ ขอบคุนน่ะ ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ โตนมาซะที มีเย็ดแน่ ๆ ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ. จริงนะ ถ้ามีคนขอเป็นแฟน แล้วบอกว่ามีกิ๊กอีกโขยง จะรับดีไม๊ น่ารักแบบ งง งง ขอบคุณมากเลยครับ ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ ความจริงที่มันเป็นไปได้ยากที่จะมีคนรับได้อ่ะครับ
เห้อออ
ขอบคุณมากครับ ขอบคุณ ขอบคุณมาก ขอบคุณมากครับ