เรื่องเล่าจากเพื่อน ตอนที่ 12 [ต้า] แกล้งเป็น แต่ทำจริง
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Hanabi เมื่อ 2020-1-20 03:23เป็นเรื่องของเพื่อน ๆ ผมในกลุ่ม ทั้งจากเรื่องที่ผมรู้มาจากการเผือกจนรู้เรื่องทั้งหมดของพวกมัน และที่พวกมันมาโม้ให้ฟังอีกส่วน(อวด) โดยจะมีการปรับบทและตัวละครให้เป็นในแนวของผม แต่หลัก ๆ คืออ้างอิงจากชีวิตเพื่อนผมและเนื้อเรื่องที่เพื่อนเล่ามาครับ โดยจะใช้สรรพนามให้เหมือนเพื่อนผมเล่าเอง เริ่มกันเลย...
ผมเป็นใครนะเหรอ พ่อแม่เรียกผมว่ากีต้า แต่ไป ๆ มา ๆ ชื่อผมก็สั้นลงเหลือเพียง ต้า ผมเข้ามาใช้ชีวิตในมหาวิทยาลัย ผมก็ค้นพบตัวตนอีกหนึ่งของตัวเอง ผมไม่ได้ชอบแค่ผู้หญิงอีกต่อไป แต่ผมดันชอบเพศเดียวกับตัวเองเพิ่มขึ้นมา ครั้งแรก ๆ ผมไม่แน่ใจนักว่ามันเป็นเพราะอะไร แต่ผมคิดเอาเองว่าอาจจะเพราะเพื่อน ๆ ผมที่สนิทหลายคนหน้าตาดี ทำให้เกิดการหวั่นไหว แต่หลังจากนั้นมันไม่ใช่แค่กับเพื่อนผมที่สนิทแล้ว แต่มันยังไปรู้สึกตื่นเต้นกับคนอื่น ๆ อีกนี่นะสิ...
หากย้อนกลับไปหน่อยตอนผมเข้ามหาลัย ก็เกิดความคิดอยากให้ตัวเองดูดีขึ้น เพราะเพื่อนผมหลายคนบอกผมว่า ผมผอมเกินไปเรียกหนังหุ้มกระดูกเลยก็ได้ ผมเลยต้องเข้ายิมออกกำลังกาย ทานอาหารที่ยังขาด เพื่อให้ร่างผมหนาขึ้นแข็งแรงขึ้น โดยเพื่อน ๆ คอยเป็นกำลังใจ ผมเลยสามารถทำมันขึ้นมาได้ ผมไม่ได้อยากตัวหนาเป็นนักกล้ามครับ ขอแค่แขนไม่รีบ นมไม่แบน ก้นไม่ยาน ซิกแพ๊คพอให้มี ผมต้องการแค่นั้น อย่างน้อยก็ขอให้ใส่เสื้อแล้วดูไม่ตลกเกินไป แก้ผ้าแล้วไม่ต้องอายใคร ให้ดูสมเป็นผู้ชายที่แข็งแรง แล้วผมก็เป็นอย่างที่หวัง บอกเลยว่าด้วยส่วนสูง 180 เซนติเมตร กับน้ำหนัก 70 กิโลกรัม มันสัดส่วนที่ผมพอใจ ตอนนี้ก็นับว่าหุ่นผมดีพอควรเลยครับ นอกจากเข้ายิมแล้วกีฬาผมก็ชอบเล่นเหมือนกัน ส่วนมากชอบเล่นกีฬาในร่มครับ(แหนะ ๆ อย่าคิดลึก) ผมจะบอกว่าผมชอบ แบดมินตัน(มันเล่นในอาคารไงเลยร่ม) ว่ายน้ำ(นี่ก็อยู่ในร่ม) ปิงปอง(นี่ก็ร่ม) เอาเท่านี้ก่อนพูดมากจะกลายเป็นว่าโม้เยอะแบบเพื่อนคนอื่น ๆ ผมเรียนวิศวะครับ แต่เรียนสาขาอะไรผมขอไม่บอก เอาเป็นว่า เรียนไม่เหมือนเพื่อน ๆ 4 - 5 คนก่อนหน้าแน่ ๆ ผมไม่ได้หล่อจนไปเป็นเดือนสาขาหรือเดือนมหาลัย(ก็ช่วงเขาคัดตัวผมยังเป็นผีกระดูกอยู่) แต่ก็พอเดินร่วมกลุ่มพวกนั้นแล้วไม่โดนคนเปรียบเทียบหน้ามากเกินไปละกัน ผมกลายเป็นคนที่มีความมั่นใจ(ไม่ใช่หน้าด้านนะ) ส่วนเรื่อของผมที่จะมาเล่าในตอนนี้ จะพูดถึงเซ็กครั้งแรกของผมครับ...
มันเริ่มจากเย็นวันหนึ่ง วันนั้นผมว่าง ผมเลยจัดการเตรียมตัวให้พร้อมไปยังสนามแบดฯ รองเท้าใส่เล่นแบดฯ แร็กเก็ตแบดฯ ชุดใส่เล่นกีฬาสำรอง น้ำสะอาดใส่ขวด และทุกอย่างที่ผมจำเป็นต้องใช้ โยนเข้ารถทั้งหมด ผมขับรถจากหอพักไม่นานก็มาถึงที่ครับ วันนี้คนไม่เยอะมาก ยังพอมีสนามให้ผมได้จองใช้ ถึงจะมีหลายสนาม แต่เมื่อจำนวนคนมากันเยอะ สนานเลยไม่ค่อยพอใช้ คนส่วนมากเลยเล่นเป็นแบบประเภทคู่ เพื่อจะได้เล่นทั่วถึง ผมอยากรีบเข้าไปจองสนามไว้รอเพื่อน ๆ กับรุ่นพี่ครับ แต่การจองนั้นต้องใช้บัตรนักศึกษา 2 คน ผมเลยรอเพื่อน ๆ กับรุ่นพี่ที่รู้จัก ในระหว่างนั่งรอก็มีชายหนุ่มคนหนึ่ง ดูแล้วน่าจะเป็นรุ่นพี่ผม คงไม่เกิน 25 และในตอนนั้นเอง เขาก็เดินมาทักผมครับ
"น้อง ๆ พี่เพิ่งเคยมาเล่น พี่ต้องทำอะไรบ้าง"
"อ่อ พี่ต้องจองสนามครับ ต้องใช้บัตรนักศึกษา 2 คนในการจอง"
"กำ เอาไงดีพี่เพิ่งเคยมาแต่อยากเล่นมาก..."
"เอางี้พี่ ผมก็กำลังรอบัตรเพื่อนเหมือนกัน ผมกับพี่เราไปจองสนามกันเลยก็ได้ครับ แล้วพอพวกนั้นมาค่อยจัดคู่เล่นกับพวกผม..."
"ได้ ๆ แต่พี่เล่นไม่เก่งนะ..."
"ไม่เป็นไรครับ ช่วงพวกนั้นยังไม่มา เราเล่นกันเองก่อนได้ เวลานั้นพี่มาคู่กับผมก็ได้ครับ ผมจะได้ช่วยได้..."
"ขอบคุณมากน้อง พี่ชื่อ ลม เราชื่ออะไร..."
"ผมกีต้าครับ เรียก ต้า แบบคนอื่น ๆ ก็ได้ พี่ลม ง่ายดี"
แล้วพวกเราก็ไปจองสนามกัน แต่ในระหว่างจะเข้าสนามผมเพิ่งสังเกตว่าพี่ลม ใส่รองเท้ากีฬาธรรมดา ไม่ใช่รองเท้าสำหรับใช้ในสนามแบดฯ ผมเลยบอกพี่เขาไปตรง ๆ
"พี่อีกเรื่องสำคัญมาก รองเท้าพี่ใส่เข้าสนามไม่ได้ครับ มันเป็นกฏของสนามที่นี่"
"เห้ย งานเข้าแล้วไง พี่ไม่รู้เรื่องนี้ เลยไม่ได้ซื้อมา นี่ก็ซื้อมาแต่ไม้กับลูกมัน"
"อ่อ เอาไงดี จริง ๆ ผมยังพอมีรองเท้าอีกคู่ครับ ผมกับพี่น่าจะใส่เท้าไซส์เดียวกัน แต่ว่ามันเน่ามากเลยพี่ ผมยังไม่ได้ซักมันเลย ถ้าพี่ไม่รังเกียจ จะยืมก็ได้นะครับ..."
"เห้ยน้อง ขอบคุณมาก ใส่ได้ ๆ แค่ไม่เอามาดม คงไม่ตายอยู่แล้ว..."
พี่ลมแกดูเป็นคนพูดง่ายเฟรนลี่ครับ ตัวแกสูงพอ ๆ กับผมเลย หุ่นออกจะหนากว่าหน่อย ๆ แต่ไม่มีพุง แค่นี้ผมก็ประทับใจอยากรู้จักแล้ว หน้าตาก็ไม่ถึงกับหล่อมากอะ ดูลุคชิล ๆ ไม่โดดเด่นเกินไป ผมเลยเดินไปยังรถผมครับ เพื่อจะเอารองเท้าแบดฯคู่เก่ามาให้พี่ลมใช้ ใจจริงก็อายอยู่นะ เพราะมันเน่ามาก แล้ววันนี้ผมไม่ได้เอาสเปย์ดับกลิ่นเท้ามาด้วย หลังพี่ลมได้รองเท้าเน่าไปใส่แล้ว พวกเราก็พากันลงสนามตีโต้อุ่นเครื่องกัน ไม่นานเพื่อน ๆ กับรุ่นพี่ที่อยู่ก้วนเดียวกันก็มาครับ ผมเลยจับคู่กับพี่ลมลงแข่งกับคู่อื่น ๆ ช่วงเราพักเหนื่อยผมเลยได้มีโอกาสพูดคุยกันครับ พี่ลมเป็นเด็ก ม.เกษตรฯ ที่มาเรียนต่อโทมหาลัยที่ผมเรียน(เหมือนได้ทุน) ตอนนี้พี่เขาอายุ 23 เคยได้ออกไปทำงานบริษัทแล้ว 1 ปีก็กลับมาเรียนต่อ ที่เพิ่งมาเล่นแบดตอนนี้ เพราะเมื่อก่อนยังไม่สะดวก ตอนนี้คล้ายพี่แกมีเวลาเลยมาเล่นได้ ด้วยการกีฬาพี่ลมจึงเข้าหาได้กับทุกคน เพียงแค่มาวันแรกเองนะ ผิดกับผมมาก ใช้เวลาหลายวันกว่าจะกล้าพูดคุยกับคนอื่น ๆ และจากอานุภาพแห่งรองเท้าคู่เน่า หลังจากวันนั้นผมกับพี่ลมเลยสนิทกัน แล้วก็เล่นกับแกเป็นคู่ประจำไปเลย จนมีอยู่วันหนึ่งพี่ลมก็โทรมาหาผมครับ...
"กีต้า เสาร์อาทิตย์นี้ว่างไหม มีเรื่องให้ช่วย"
"ว่างเสมอสำหรับพี่ลม มีเรื่องอะไรครับ แต่ผมคิดค่าควงชั่วโมงละ 500 นะ..."
"ควงนี่ควงตรงไหนอะ"
ตอนแรกว่าจะเล่นมุก แต่โดนตอกกลับมาแบบนี้ผมไปไม่เป็นเลยครับ เลยเงียบเข้าใส่
"โหล ๆ ทำไมเงียบ ตกลงว่างใช่ปะ จะพาไปเที่ยว..."
"พี่จะพาผมไปไหนอะ"
"กรุงเทพฯ งานแต่งเพื่อนพี่..."
"งานแต่งเพื่อน? แต่มาชวนผม? แล้วเรื่องให้ช่วยเรื่องไรพี่..."
ผมรู้สึกว่ามันดูแปลก ๆ ครับ เลยอดไม่ได้ที่ต้องถามเอาความจริงก่อน เสียงพี่ลมถอนหายใจ จนผมได้ยินผ่านโทรศัพท์
"เรื่องมันยาว เอาเป็นว่าเดี๋ยวพี่เข้าไปหา ขอขับรถก่อนนะ..."
ไม่นานฮอนด้าแจ๊ซสีดำคันเก่งพี่ลมก็มาถึง พวกเราพากันเดินไปหามุมสงบนั่งคุยกัน ถึงพวกเราจะรู้จักกันและสนิทกัน แต่วันนี้ผมก็เพิ่งรู้ความจริงจากปากพี่ลมครับ พี่เขาเป็นเกย์ ไม่ใช่ว่าผมไม่เคยคิดว่าพี่แกเป็น เพียงแต่มันไม่ได้มองออกง่ายนักสำหรับพี่ลม แต่ที่ผมพอเดาได้เพราะ พี่ลมคอนข้างมองผมบ่อย ๆ ซึ่งมันทำให้ผมคิดว่าแกอาจเป็น แต่พอมาวันนี้ผมได้รู้ความจริง มันก็พอสร้างความประหลาดใจอยู่บ้างครับ แต่ที่ผมสงสัยคือทำไมแกต้องบอกผม แต่ไม่นานความข้องใจผมก็ได้รับคำตอบ งานแต่งเพื่อนที่พวกเรากำลังจะไป มันเป็นงานแต่งแฟนเก่าของพี่ลมและที่พีคสุดคือเจ้าสาวยังเป็นเพื่อนสนิทกับพี่ลมอีกด้วย เรื่องนี้นับว่าแปลกเพราะตอนพี่ลมคบหาเป็นแฟนกับเจ้าบ่าว กลับไม่มีใครรู้ความจริงในส่วนนี้ จนเวลาใกล้เรียนจบเขาทั้งสองคนจึงเลิกเป็นแฟนกัน พูดง่าย ๆ ทั้งพี่ลม เจ้าบ่าวและเจ้าสาว เป็นเพื่อนสนิทที่อยู่กลุ่มเดียวกันนนั่นเอง แล้วทำไมต้องอยากให้ผมไปด้วยนะหรือ นั่นก็เพราะพี่ลมจะควงผมเปิดตัวเป็นแฟน แล้วก็อยากให้เพื่อน ๆ รู้ว่าแกเป็นเกย์ ที่พี่ลมไม่เลือกเรียนต่อที่กรุงเทพฯ สาเหตุหลักมาจากแฟนเก่าและเพื่อนสนิทของพี่ลม เขาไม่อยากเห็นภาพบาดตาบาดใจนั้นเอง จนตอนนี้พี่ลมโอเคแล้ว เลยต้องการไปงานแต่งในครั้งนี้ สรุปคือพี่ลมชวนผมให้ไปแกล้งเป็นแฟนแกครับ ทั้งต้องการเปิดเผยตัวตนและประชดแฟนเก่าในตัวเล็กน้อย ผมตกลงเรื่องนี้ง่าย ๆ เพราะพี่ลมจ้างผมด้วยไม้แร๊กเก็ตแบดฯ อันใหม่ที่แกจะซื้อให้หลังพวกเรากลับมามหาลัย...
พวกเราออกเดินทางกันตั้งแต่ตี 3 ไปถึงเช้าที่กรุงเทพฯ โชคดีว่าบ้านงานไม่ได้จัดกลางกรุงแต่อยู่เขตรอบนอก รถเลยไม่ติดมากมายนัก งานเช้าพวกเรามาไม่ทันช่วงเริ่มพิธี แต่ทันเข้ามาแสดงยินดีช่วงสาย พี่ลมเดินเข้าหากลุ่มเพื่อน ๆ ก่อนจะแนะนำผมกับเพื่อนแก หลายคนตกใจมากเรื่องที่พี่ลมแกเป็นเกย์ ดูท่าช่วงเรียนด้วยกันพี่ลมคงแมนมาก ตอนนี้ก็ยังแมนอยู่นะครับ ช่วงบ่ายพวกเราเข้าพักผ่อนที่โรงแรมครับ เพราะมีงานช่วงกลางคืนอีกทีที่พวกเราต้องไป วันนี้ผมคงไม่ได้ไปเที่ยวไหนเพราะพี่ลมต้องการพักผ่อน ส่วนเรื่องเที่ยว พี่ลมติดไว้เป็นวันพรุ่งนี้ก่อนกลับ แกจะพาผมทัวร์หาของกินขึ้นชื่อ แกว่าอย่างนั้น แต่ระหว่างที่พวกเรานอนตากแอร์ดูรายการทีวีอยู่ เสียงโทรศัพท์พี่ลมก็ดังขึ้น ถึงเบอร์จะไม่แสดงชื่อ แต่เลขหมายที่โทรเข้ามาพอทำให้พี่ลมมองมาที่ผม ก่อนจะถอนลมหายใจ รับโทรศัพท์
"ลมนี่ ฟิวนะ พอดีได้เบอร์มาจากน้ำหวาน..."
เสียงคำพูดผ่านสปีกเกอร์ดังมากพอให้ผมได้ยิน เพราะพี่ลมแกตั้งใจให้ผมฟังด้วยครับ
"มีไรฟิว" น้ำเสียงพี่ลมปกติอย่างมาก มันเหมือนการคุยปกติระหว่างเพื่อน แต่ผิดกับอีกฝ่ายที่คล้ายดีใจและเสียใจในเวลาเดียวกัน
"ลมยังไม่หายโกรธฟิวเหรอ..."
"หายแล้ว ฟิวไม่ต้องคิดมาก ลมผ่านมันมาได้นานแล้ว คืนนี้ค่อยเจอกันพร้อมของขวัญนะ..."
"อืม... ขอบคุณนะ" คล้ายพี่ฟิวจะเงียบเสียงลง ก่อนจะกลับมาพูดต่อ "ลมฟิวได้ยินว่า ลมบอกทุกคนแล้วเหรอว่าลมชอบผู้ชาย"
"ใช่ ทำไมเหรอ..."
"เปล่า... เห็นเพื่อน ๆ พูดกันว่าลมมากับแฟน..."
"อืมใช่แล้ว น้อ่งชื่อกีต้าน่ารักมากเลยละ เดี๋ยวคืนนี้จะพาไปแนะนำนะ"
"อ่า อืม..." คล้ายพี่ฟิวเหมือนมีอะไรจะพูด แต่พอเจอประโยคพี่ลมไปก่อนจนอีกฝ่ายคล้ายพูดไม่ออก
"นี่ฟิว แกกับฟ้าใส ต้องรักกันให้มาก ๆ นะ ยังไงทั้งฟิวและฟ้าใสก็คือคนที่ลมรัก..."
"..." พี่ฟิวยังไม่พูดอะไร มีเพียงพี่ลมที่พูดต่อ
"ฟิว ขอบคุณนะที่โทรมา แต่พอดีกีต้ากวนลมอยู่ แล้วค่อยว่ากันนะ..."
พูดจบพี่ลมก็ตัดสายไปเลย ผมนี่แบบเห้ยไม้แบดฯ 1 อัน โดนใช้ทั้งชื่อทั้งตัว ใช้สะคุ้มค่าราคาไม้เลยนะ ผมถึงกลับหลุดยิ้มออกมา จนพี่ลมหันมาเห็นผม ก็เลยพูดว่า
"ไม่ต้องขำ พี่ขอใช้สิทธิ์แฟนให้เต็มที่"
"แฟนกันต้องทำไรบนเตียงกันด้วยสิ..." ด้วยความที่สนิทพี่ลม ก็อดหยอดแกล้งเล่น ๆ กับพี่ลมไม่ได้
"อย่าพูดไป พี่กล้าปล้ำกีต้านะ อย่าลืมว่า 2 วันนี้กีต้าเป็นแฟนพี่"
"เห้ยพี่ ผมหยอก ๆ แต่คืนนี้ผมจะเป็นแฟนให้พี่ จนเพื่อน ๆ พี่ ต้องจิกหมอนไปเลย คอยดู..."
"ทำได้?..."
"ทำไมจะไม่ได้ละ จริง ๆ ผมเป็นคนโรแมนติกนะ แค่ไม่ค่อยแสดงออก..."
"ได้พี่จะเชื่อ..."
เวลาไม่นานงานเลี้ยงก็เริ่ม ไม่ใช่ที่ไหนครับ แต่เป็นในห้องประชุมใหญ่ของโรงแรมที่พวกผมพักกันนี่ละ ธีมงานไม่หรูหรามากครับ ดูจะออกแนวเรียบง่ายแต่ดูดี หน้างานมีรูปบ่าวสาว ตกแต่งให้แขกชื่นชมพอเป็นพิธี ซึ่งผมมองไม่ชัดนักเพราะแขกหลายคนยืมบังรูปเหล่านั้นอยู่ เลยได้แต่เดินผ่านไป ผมกับพี่ลมพากันเดินไปจนถึงหน้าทางเข้าห้องประชุมที่จัดงาน ถึงได้พบเห็นเจ้าบ่าวเจ้าสาวที่กำลังตอนรับแขก ผมตกใจเลยครับ พี่ฟิวกับพี่ฟ้าใสหล่อและสวยมาก โดยเฉพาะพี่ฟิวนี่มันหล่อระดับเป็นพระเอกละครได้เลย ช่วงกำลังจะถึงประตู ผมก็โดนพี่ลมกอดคอพาเข้าไปหาบ่าวสาวทันที
"ยินดีด้วยฟ้าใส มึงด้วยฟิว..."
"มึงอีกคนไอ้ลม เล่นเรียนจบแล้วหายไปเลย เห็นมีคนบอกว่ามึงอกหักจากพี่ฝน..." เป็นพี่ฟ้าใสครับที่ทักพี่ลม ก่อนเหมือนพี่ฟ้าใสจะนึกขึ้นได้ หันมายิ้มให้ผม "น้อง...พี่ฝากไอ้ลมด้วยนะ ดูแลมันดี ๆ แทนพวกพี่ด้วย"
ผมไม่ได้ตอบอะไรครับ ได้แต่ยิ้มสดใส เพราะพี่ฟ้าใสสวยมาก แอบเคลิ้มไปเหมือนกัน จนพี่ฟิวพูดขึ้นมา
"ลมมาให้กูกอดที..."
ผมไม่รู้ว่าสองคนนี้เวลาไม่เจอกันนานเขาสวมกอดกันปกติแบบนี้หรือไม่ผมเองก็ไม่รู้ แต่พี่ลมก็เดินเข้าไปโน้มตัวกอดพี่ฟิว ขนาดพี่ฟ้าใสยังยิ้มอย่างมีความสุข แต่ที่ผมสัมผัสได้กลับเป็นสายตาพี่ฟิวที่มองผมผ่านแผ่นหลังพี่ลมมา มันเป็นสายตาเหมือนผมไปแย่งของรักของพี่ฟิวแล้วดูถูกผมกลาย ๆ ผมได้แต่สบถในใจต่อสายตาคู่นั้น ซึ่งมันคล้ายไปกระตุกอารมณ์ผมขึ้นมา ไม่รู้ว่าเพราะอะไรผมเดินไปดึงแขนพี่ลมออกมา พร้อมกับพูดออกไปด้วยเสียงที่ไม่เบาและไม่ดังเกินไป พอให้เจ้าบ่าวเจ้าสาวได้ยิน
"พี่ลม เราตกลงกันแล้วนะว่าพี่จะไม่กอดกับใครทั้งนั้น..."
พี่ลมตกใจครับ เพราะน้ำเสียงที่ผมพูดออกไปมันเป็นน้ำเสียงน้อยใจ โกรธและเอาแต่ใจ ซึ่งปกติผมไม่เคยใช้กับพี่ลมมาก่อน จนเหมือนพี่ลมจะตามผมไม่ทัน จนผมต้องพูดอีกประโยคขึ้นมา
"พี่กอดผมได้คนเดียวเท่านั้น..."
คล้ายพี่ลมเข้าใจเลยรีบถอนตัวออกจากพี่ฟิว แต่ไม่ลืมแก้ตัวให้ผม
"โทษที ๆ แฟนกูขี้หึง..."
"ขอโทษพี่ฟ้าใสด้วยครับ ผมเป็นพวกเอาแต่ใจ นี่เป็นของขวัญจากพี่ลมกับผมครับ..."
แต่กลับกันผมรีบหันไปขอโทษกับมารยาทเมื่อกี่ต่อเจ้าสาวแทนพร้อมส่งมอบของขวัญให้ พี่ลมพูดคุยกับพี่ฟ้าใสกับพี่ฟิวต่ออีกนิดหน่อย แต่พี่ฟิวคล้ายจะไม่ชอบผมเอามาก แสดงออกบนหน้าชัดเจนจนพี่ฟ้าใสต้องสะกิดให้ยิ้ม ผมตอนนี้อินกับอารมณ์เกินไปหน่อยคล้ายหัวผมยังอุ่น ๆ จากความโกรธอยู่เลย
"เห้ย กีต้า เมื่อกี่หึงโหดมากเลยนะ..." พี่ลมพูดกับผมระหว่างพวกเราเดินไปยังโต๊ะเพื่อน ๆ
"พี่ไม่เห็นสายตาพี่ฟิวตอนกอดกับพี่ สายตานั้นท้าทายผมมาก ผมว่าพี่ฟิวเขายังชอบพี่อยู่แน่ ๆ แบบนี้พี่ฟ้าใสจะแย่เอานะ"
"เรื่องนี้เดี๋ยวกลับห้องค่อยคุย เราไปนั่งโต๊ะ น้ำหวานกัน..."
งานแต่งดำเนินไปปกติ จนถึงช่วงอาฟเตอร์ปาร์ตี้ที่เจ้าบาวสาวเปลี่ยนชุดกลับมาสนุกกับเพื่อน ๆแน่นอนว่ามันย่อมมีเครื่องดื่มมึนเมาแต่ผมไม่ได้ดื่มมากครับเอาแค่พอเป็นพิธี ส่วนคนดื่มหนักหน่อยก็เป็นพี่ลม และในตอนนี้เองที่พี่ฟ้าใสกับพี่ฟิวเข้ามาคุยกับพวกเรา โดยพี่ฟ้าใสแยกผมมาจากพี่ลม และให้พี่ฟิวกับพี่ลมออกไปคุยกัน ผมไม่รู้ว่าพี่ฟ้าใสทำแบบนี้ทำไม แต่ผมไม่สามารถขัดใจพี่ฟ้าใสเกินไปมากกว่านี้ได้ เลยจำต้องถูกแยกตัวออกมา ไม่นานพี่ลมก็กลับมาครับ พี่ลมไม่ได้พูดอะไร แต่ดึงผมลุกออกจากงานไปทันที ผมไม่กล้าถามออกไปเลยครับ เพราะด้วยความเงียบที่พี่ลมทำอยู่ตอนนี้ ผมว่าผมไม่ถามอะไรจะเป็นการดีที่สุด พอพวกเรากลับมาถึงห้องพี่ลมก็พูดกับผมว่า
"พี่คงเป็นเพื่อนกับฟิวไม่ได้แล้ว"
"พี่ใจเย็น ๆ เล่ามาก่อนผมอาจจะช่วยได้..."
"ฟิวมันบอกพี่ว่า มันจะเลิกกับฟ้าใส แล้วจะกลับมาหาพี่"
"เห้ย..."
ผมถึงกลับตกใจ ผมเลยถามพี่ลมไปว่า พี่จะเอาไง แต่พี่ลมบอกผมว่า เรื่องนี้เขาจะถอยให้ห่าง เขาไม่อยากทำร้ายฟ้าใส เขามั่นใจแล้วว่าเขาไม่ได้ชอบพี่ฟิวเหมือนเมื่อก่อน เลยปฏิเสธพี่ฟิวไปตรง ๆ ง่าย ๆ ต่อให้พี่เขาหย่ากัน พี่ลมก็ไม่กลับไปคบกับพี่ฟิวอยู่ดี เขาเลยรีบหนีออกจากงาน สักพักคล้ายมีคนมาเคาะประตู พร้อมกับเสียงพี่ฟิวเรียกอยู่หน้าห้อง แต่พวกผมก็ไม่ออกไปเปิดทันทีครับ ผมรู้สึกอึกอักอย่างบอกไม่ถูก กับการเป็นผู้อยู่ในเหตุการณ์ ซึ่งเสียงประดูยังดังเป็นจังหวะอย่างต่อเนื่อง ผมหันไปมองหน้าพี่ลมอีกครั้งก่อนจะถอดเสื้อผ้ากับกางเกงตัวเองเหลือเพียงบ๊อกเซอร์ คล้ายพี่ลมจะตกใจกับการกระทำของผม ผมเดินเข้าไปหาพี่ลมแล้วประกบจูบทันที พี่ลมตอบรับปากผมครับ เราแลกจูบกันไม่นานผมก็พูดกับพี่ลมว่า
"พี่ลมผมขอออกไปคุยกับพี่ฟิวเองได้ไหม..." คล้ายพี่ลมจะไม่เข้าใจ ผมเลยพูดต่อ
"ตอนนี้เราเป็นแฟนกันไม่ใช่เหรอ เพราะงั้นผมขอไปคุยเองนะ" แต่ก่อนที่ผมจะออกไปผมจัดการถอดเสื้อพี่ลมออกเหลือไว้แค่กางเกง แล้วก็เข้าจูบพี่ลมอีกครั้ง ผมถอนปากออก ก่อนจะเดินไปหน้าห้องเปิดประตู
"พี่ฟิว มันรบกวนกันนะครับ..."
ผมพูดออกไปด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ คล้ายพี่ฟิวจะตกใจผมครับ เพราะตอนนี้ผมอยู่ในสภาพเกือบเปลือยเปล่า มีเพียงบ๊อกเซอร์ปกปิดส่วนสำคัญไว้ และยิ่งตอนนี้คล้ายมีบางอย่างที่แข็งโด่อยู่ใต้ร่มผ้า สายตาพี่ฟิวสำรวจทั่วร่างผม จนเหลือบไปมองพี่ลมที่ไม่ต่างกันมากนัก มีเพียงกางเกงที่ใส่อยู่ แต่หน้าตาพี่ลมยังคล้ายหลงเหลือสีเลือดฝาด ผมไม่ให้อีกฝ่ายได้คิดอะไรนาน เลยจงใจพูดออกไปว่า
"มันบาปนะพี่ คนเขากำลังมีความสุขกันมาขัดกันแบบนี้ พรุ่งนี้พี่ค่อยมาหาพี่ลมละกันครับ..."
ผมไม่รอให้อีกฝ่ายได้สติรีบปิดกระตูใส่หน้าเสียงดัง พร้อมกับปิดล๊อกกลอนทันที ผมเดินไปนอนทิ้งตัวข้างพี่ลมอย่างเหนื่อยหนาย ไม่ใช่ว่าอะไรนะครับ มันเหนื่อยที่ต้องพยุงโคยตัวเองให้แข็งตอนที่พยายามแสดงอารมณ์โกรธ สักพักพี่ลมก็สะกิดผม
"มันไปแล้วเหรอ..."
"ผมว่ายัง พี่ฟิวคงยืนอยู่หน้าประตู แต่พี่ไม่ต้องไปสนใจครับ เดี๋ยวเขาก็ไป" สักพักเสียงพี่ฟิวแว่วมา...
"เจอกันพรุ่งนี้นะ"
ตอกย้ำคำพูดผมทันที ผมยิ้มอย่างพอใจ จนลืมไปเลยว่าตัวเองนอนเกือบเปลือยอยู่ ระหว่างที่หลับพักตาเพลิน ๆ กับการแสดงละครฉากใหญ่ไป ผมก็รู้สึกถึงเตียงที่มันยวบเข้ามาใกล้ผม จนผมต้องลืมตามอง เป็นพี่ลมครับ พี่ลมกำลังโน้มตัวมาตรงหน้าผม ห่างเพียงนิดเดียว
"ไหนบอกมาสิว่าทำไมเราต้องจูบกัน..." พี่ลมถาม
"อ่อ... คือ... ผมอยากให้โคยผมแข็ง พี่ฟิวจะได้เห็น และนึกว่าที่เปิดประตูช้า เพราะพวกเรากำลังกินตับกันอยู่..." ผมรีบบอกอีกฝ่ายไป เพราะผมก็เริ่มจะเขินพี่ลม ขึ้นมาแล้ว นั่นเพราะใบหน้าพี่ลมกับผมใกล้กันมาก จนผมได้กลิ่นลมหายใจจากอีกฝ่าย จนผมรู้สึกหวิว ๆ ในอก มันเป็นกลิ่นที่กระตุ่นอารมณ์ทางเพศอย่างมาก ผมคล้ายจะหน้าแดงขึ้นจนต้องหลับตาตัวเอง เพราะไม่อยากสู้สายตาพี่ลม...
"เห้ยกีตา ผู้ชายจูบปากกัน โคยมันไม่แข็งหรอกนะ เว้นแต่แกจะไม่ใช่ผู้ชาย..." พี่ลมพูดออกมาจนผม ลืมตามาอย่างจนใจ
"ถ้าบอกว่า ผมหวั่นไหว กับเพศเดียวกันด้วย มันถือว่าผมเป็ยเกย์แบบพี่ไหมครับ..."
พี่ลมไม่พูดอะไร เขาเพียงชันตัวกลับไปนั่งหลังตรงเหมือนเดิม แล้วเอาแต่ยิ้มและพูดออกมา
"ไหนเล่าเรื่องของกีตามาสิ เอาตั้งแต่รู้ว่าเริ่มหวั่นไหวกับเพศเดียวกัน..."
ผมลุกมานั่งมองหน้าอีกฝ่าย ก่อนจะเริ่มเล่าความรู้สึกของตัวเองหลังที่ได้รู้จักกับเพื่อน ๆ โดยเฉพาะไอ้บ่อม มันเข้าถึงตัวผมถึงขนาดหอมแก้มผมบ่อย ๆ เวลาเจอหน้ากัน มันบอกเป็นการทักทาย บ่อมจึงเป็นคนแรกที่ทำให้ผมหวั่นไหว แล้วด้วยอะไรอีกหลายอย่างกับอีกหลายคน จนมาถึงพี่ลมที่ผมรู้สึกดีด้วยและหวั่นไหวทุกครั้ง เมื่อผมเล่าเรื่องของตัวเองออกไปจนหมด พี่ลมก็ไม่ได้พูดอะไรนอกจากตั้งใจฟัง ก่อนจะพูดขึ้นมาว่า
"บ่อมยังชอบผู้หญิงอยู่สินะ..."
"ใช่พี่ ก็ยังหวั่นไหวตื่นเต้นปกติ ขนาดพี่ฟ้าใสผมยังคิดทะลึ่งใส่พี่เขาอยู่เลย..."
"อาจจะเป็นไบก็ได้"
พอผมได้ยินที่พี่ลมบอกผมก็คล้ายจะเข้าใจตัวเองมากขึ้น ไม่ใช่ว่าผมไม่รู้จักคำว่าไบ แต่การที่มีคนอื่นมาบอกกับการที่คิดว่าเป็นเอง มันต่างกัน คำตอกย้ำของพี่ลมทำให้ผมคล้ายเอาภูเขาออกจากอกและรับตัวเองขึ้นมาได้อีกระดับ และด้วยอะไรก็ช่างผมคิดว่าจูบปากกับพี่ลมมันไม่เลวเลย ผมหันไปมองหน้าพี่ลมอีกครั้ง สายตาของเราสองคนผสานกันจนคล้ายเกิดการสั่นไหว พร้อมกับผมเอนตัวโน้มหน้าเข้าหาอีกฝ่าย จนปากเราประกบกัน ลมหายใจพี่ลมคล้ายจะเปลี่ยนไป มันถี่และแรงขึ้น ไม่นานปากของพวกเราก็เยิ้มไปด้วยสายน้ำลายที่หอมหวานผสมกลิ่นแอลกอฮอล
"จูบกับพี่รอบนี่ต้องการอะไร..." เสียงพี่ลมคล้ายอ่อนนุ่มกว่าปกติ
"แค่อยากทำหน้าที่แฟนให้บรรลุครับ บอกเลยนะว่าพี่ลมจะเป็นคนแรกของผมในแบบผู้ชายด้วยกัน..."
ผมไม่รอคำตอบ จับพี่ลมเอนนอนลงบนเตียง ก่อนจะก้มหน้าลงไปจูบปากกันอีกครั้ง พี่ลมคล้ายจะยอมผม เขาหลับตาหอบหายใจจากความตื่นเต้น ผมถอนปากออกจากกันจนเห็นสายใยยาวใสระหว่างปากของเรา ผมก้มลงอีกครั้งตรงซอกคอ ไซ้พรมจูบและดูดผิวอันอ่อนบาง เสียงพี่ลมคล้ายจะเจ็บจากการโดนผมดูดคอ ผมเลื้อยไล่ไซ้ต่อมาจนถึงเนินอก มันหนาแน่นอย่างมาก โดยเฉพาะเม็ดนมที่ใหญ่ว่าปกติ มันมีสีเข้มพอควรแต่ก็บอกได้ว่ายังเป็นสีชมพู บนยอดนั้นมีขนพอให้เห็น ผมไม่สนใจมองมันนานนัก ก่อนจะมุดหน้าประกบปากดูดเม้มเม็ดนมทันที เสียงครางในคอพี่ลมบอกใบ้ว่าหัวนมเป็นจุดอ่อนสำคัญของเขา ผมดูดเม้มอยู่นานก่อนจะไซ้ดูดเลียไปตามแกนร่างกายจนผ่านสะดืดที่ขาวสะอาด ขนาดผ่านมากว่า 6 ชั่วโมงแล้วหลังจากที่พวกเราอาบน้ำ แต่กลิ่นกายพี่ลมยังหอมอยู่เลย ผมปลดเข็มขัดและตาขอกางเกงออก เผยให้เห็นกางเกงในสีขาวเนื้อผ้าคอตต้อนผสมโพลีเอสเตอร์ที่ดูยืดหยุ่นเบาสบาย ตรงกางเป้าปรากฏเงาลำแข็งที่กำลังเต้นตุบ ๆ จากการสูบฉีดของโลหิต มันพาดยาวเอียงไปทางซ้ายของกางเกงใน กางเกงที่พี่ลมใส่อยู่ตอนนี้เป็นทรงบ๊อกเซอร์บรีฟส์ มันจึงแนบแน่นเห็นรูปร่างภายในได้ชัดเจน มันเล่าอารมณ์ผมอย่างมาก ผมรีบกระชากกางเกงนอกออกจนเหลือแค่กางเกงใน คล้ายพี่ลมจะช่วยอยู่ไม่น้อย ไม่นานเราสองคนก็เหลือเพียงกางเกงคนละ 1 ชิ้น ก่อนเปิดเผยสู่ร่างกายอันเปลือยเปล่า
"พี่ลม ผมจะทำให้พี่มีความสุข..."
"งั้นจัดมา ถ้าอยากให้พี่ทำอะไรบอกนะ"
"พี่นอนเฉย ๆ พอครับ ว่าแต่ผมสดกับพี่ได้ใช่ไหม..."
"พี่ปลอดภัย ตั้งแต่เรียนจบก็ไม่เคยยุ่งกับใคร..."
"งั้นผมขอสดนะ ผมปลอดภัยเหมือนกัน..."
ผมก้มลงพรมจูบที่เป้านอกกางเกงของพี่ลมทันทีที่ผมพูดจบ คล้ายเสียงพี่เขาจะครางเสียวสยิว พร้อมกับแอ่นเป้าโด่งขึ้นมารับปากผมอยู่บ้าง ผมเลียมันจนเปียกลากยาวตั้งแต่โคนจะถึงส่วนปลายตัว โดยเฉพาะส่วนหัวโคยที่เลยมาถึงด้านข้าง เนื้อผ้าตรงนี้บางกว่าตรงส่วนเป้าอย่างมาก น้ำลายที่เปียกบนเนื้อผ้าเผยให้เห็นภาพร่างของลำและหัวโคยที่แท้จริง
"พี่ลม ผมอาจจะดูดไม่เก่งนะ เพราะนับว่านี่เป็นโคยแรกที่จะได้เข้าปากผม..."
"เชี้ยกีต้า... พูดแบบนี้พี่ยิ่งอยากโดนอมเลยรู้ปะ เสียวหัวใจเป็นบ้า..."
ผมค่อย ๆ ดึงขอบกางเกงขึ้นช้า ๆ ก่อนจะค่อย ๆ ถกมันรั้งลงไป ภาพของโคยลำใหญ่ ที่ไม่ถึงกับน่ากลัว น่าจะสัก 6 - 7 นิ้วได้ มันดูขาวสะอาดไม่ต่างกับสีผิวของพี่ลม ไม่ได้สีเข้มคล้ำแบบของผม หัวโคยที่เปิดถอกจนสุดของพี่ลม เผยสีสันชมพูน่าดูดอย่างมาก ไข่แฝดเองก็ใบใหญ่ เส้นขนรอบ ๆ ลำโคยก็เป็นเส้นบางตรงสวยงาม ผมคว้าจับงัดมันขึ้นมาตั้ง พิจารณาโคยของพี่ลมอย่างสนใจ คล้ายพี่ลมจะตื่นเต้นกับมือของผม โคยเลยกระตุกเบา ๆ บีบน้ำใส ๆ ปริ่มที่รูของหัวบานออกมา ผมก้มดมส่งจมูกไปพิสูจน์กลิ่น มันไม่เหม็นกลับกันกับมีกลิ่นหอมของครีมอาบน้ำผสมกับกลิ่นเฉพาะตัวที่ทำให้ผมอยากอมดูดมันทันที ไวกว่าความคิดปากของผมก็คอบเม้มตวัดลิ้นภายในอย่างถี่รัว เสียงครางพี่ลมครวญครางออกมาอย่างพอใจ
"เสียวมาก ขนาดครั้งแรกนะนิ..."
"โอ้ย... โดนฟัน เสียวสัด ๆ"
แน่ละครับครั้งแรก ผมยังห่อปากจีบลิ้นไม่เป็นด้วยซ้ำ ได้แต่พยายามนึกถึงตอนเด็ก ๆ ที่ดูดอมกินไอ้ติมแท่งหวานเย็น ฟันผมเลยขบคมเข้าโดนส่วนหัวโคยอันบอบบาง ก่อนจะค่อย ๆ อมลึกขึ้นจนไปครึ่งลำ ผมดูดเข้าออกลึกจนเกือบสุด ไม่นานมือพี่ลมก็มาจับหัวผมพร้อมกับลูบเล่นอย่างเอ็นดู คล้ายพี่ลมจะไม่ได้เอาน้ำออกมานาน ผมที่กำลังเพลินอยู่นั้นก็ถูกจับหัวกดเข้าแน่นจนเกือบลำลักลำโคย ไม่นานเสียงร้องครางดังลั่นพรอมกับความรู้สึกกระตุกในปากและคล้ายบางอย่างถูกฉีกพุ่งใส่ภายใน ผมจำใจกลื่นมันอย่างอยากลำบาก จนน้ำตาผมไหลออกมา มือพี่ลมคายออก จนผมสามารถถอนปากออกมาหอบหายใจ นึกว่าจะตายสะแล้ว...
"เป็นไง น้ำพี่อร่อยไหม..."
"พี่ลม ไม่โอเคอะ ผมเกือบตาย..."
"แล้วอร่อยไหม..."
"ไม่ ของผมต้องอร่อยกว่า..."
"จริงดิ เอามาดูดบ้างสิ"
พี่ลมพูดจบผมก็ถอดบ๊อกเซอร์ตัวเองออก มันคล้ายเคยแข็งโป๊กมาก่อน แต่มาหดเอาตอนเกือบตายเมื่อกี่ ผมส่งลำโคยจ่อปากอีกฝ่าย มันถูกงับเข้าลึกดูดเอาเป็นเอาตายจากผู้มีเลเวลการดูดสูงกว่า ผมเสียวสะท้านจนตัวสั่นส่งเสียงไม่เป็นภาษาออกมา
" พะ พพี่ ลม ผมม เสเสียวโคยย อ้าาา"
โคยผมถูกอมจนแข็ง มันเสียวจนผมไม่ไหวอีกต่อไป กระตุกพ้นน้ำโคยใส่ปากพี่ลมอย่างรุ่นแรง ผมหอบหายใจเหนื่อยแต่อีกฝ่ายกลับไม่ยอมถอนปากออกไป พี่ลมดูดกลื่นน้ำของผมจนหมดก่อนจะ รั่วลิ้นดูดผมต่อจนผมเสียวหมดแรงจนร่างสั่นดิ้นไปมาอย่างไร้การควบคุม ผมเสียวสุด ๆ จนต้องตีพี่ลมให้หยุดดูดโคย คล้ายพี่ลมจะรู้ว่าผมเสียวเกินไปจึงหยุดคายโคยผมออกมา
"กีต้า น้ำต่อไปแตกในก้นพี่เลยนะ"
พอถึงตรงนี้ผมพบว่าควยผมไม่หดลงเหมือนปกติ คล้ายมันจะรู้ว่าอะไรต้องทำต่อจากนี้ ผมมองพี่ลมที่นอนคว่ำหน้าบนเตียง พร้อมกับกางขาเผยล่องก้นที่มีขนเส้นบางแทรกให้พอเห็น ผมใช้มือแหวกเปิดแยกแก้มก้นทั้งสองออกจากหัน ปรากฏจีบหูรูดที่สีชมพูดูสะอาดขมิบอย่างตื่นตัว โคยของผมยังเปียกลื่นทั้งจากน้ำลายและน้ำโคย ผมจดปลายจ่อรูก่อนจะกดหัวบานแดงเข้ารูทันที มันคล้ายจะง่ายแต่ก็ฝืดอยู่บ้าง...
"กีต้า พี่เจ็บ ช่วยเอาน้ำลายใส่รูให้พี่หน่อย..."
ผมเข้าใจเลยพ้นน้ำเมือกออกมาลงไปที่รู ก่อนจะกดหัวบานเข้าลึกอีกครั้ง รอบนี้มันเบาฝืดลงและกดเข้าได้ไม่ยาก
"นี่เกือบ 2 ปีแล้วนะที่ไม่เคยรับโคยเข้ามา"
"ฟิตสุด ๆ เลยพี่ลม ผมเสียวมากเลยครับ" ผมบรรจงกดเข้าจนสุดลำโคยแช่ค้างเพราะเสียวหัวอย่างมาก
"เอาแรง ๆ เลยนะ พี่ไหว..."
"ได้เลยพี่..."
ผมจัดให้ตามคำขอ ผมกระเด้าบั้นเอวรัวถี่ทันทีทั้งเข้าสุดออกสุดโยกย้ายเอียงไปมา จนได้ยินเสียงพี่ลมร้องครางอย่างพอใจ ผมจับพี่ลมเปลี่ยนท่าทั้งที่โคยยังเสียบอยู่ กลายเป็นท่าหมา ผมชันขาข้างหนึ่งกระเด้าเอวใส่ไม่ยั้ง คล้ายผมไม่ถนัดเลยโน้มตัวไปกอดพี่ลมจน สามารถจูบหลังคออีกฝ่ายได้ ผมโยกบั้นเอวถี่รัวต่อทันที เสียงกระเส่าสั่นของพี่ลมได้จังหวะกับเสียงกระแทกอย่างมาก ผมรู้สึกว่าท่านี้ทำให้ผมเสียวหัวสุด ๆ และพอใจสุด ๆ เลยต่อยาวจะคล้ายจะแตกอีกรอบ
"ผมจะแตกในเลยนะ"
พอผมพูดจบพี่ลมก็ขมิบก้นตัวเองทันที ผมเสียวจนต้องร้องออกมา ตามแรงขมิบในแต่ละครั้ง
"จะแตกแล้วพี่..."
"แตกเลยจะได้แตกพร้อมกัน..."
ไม่นานเสียงร้องพี่ลมก็ดังขึ้นก่อนผมไม่นาน ผมกดโคยแช่ลึกพร้อมกับพ้นน้ำออกมา พวกเราแตกอีกครั้งเป็นน้ำที่ 2 ของคืนนี้ ผมหอบหายใจนอนทับที่ลมทั้งที่โคยก็ยังคาลึกอยู่ในรู จนเริ่มมีแรงเลยถามพี่ลมออกไป
"เป็นไงบ้างพี่มือใหม่แบบผม..."
"โอเคเลย ถ้าฝึกอีกนิดคงเอาเก่งกว่านี้แน่ ๆ"
"ฝึกกับใครได้บ้างน้าาา จะมีคนยอมให้ผมได้ฝึกไหมนะ..."
"ถ้าวันไหนอยากเอากับพี่ ก็ไปหอพี่ได้เลย..."
"พี่ยอมเป็นกิ๊กผมเหรอ..."
"อืม โดนโคยเสียบคารูแบบนี้ จะปล่อยทิ้งโคยอันนี้ก็เสียของแย่ ยังไงพี่ก็ยังไม่มีคนที่ชอบ แอบกิ๊กกับกีต้าก็ไม่เสียหายจริงปะ"
"ครับ แต่ว่าอย่าลืมไม้แบดฯอันใหม่ผมนะ ♥"
จบ. ตอนนี้เนื้อเรื่องนิยายมากครับ 5555 ต้ามันกิ๊กกับพี่ลมเฉย ๆ ไม่ได้คบเป็นแฟนกัน ครั้งแรกของมันก็ไปงานแต่งจริง แต่ไม่รู้ว่ายังไงกันแน่ พวกเขาถึงได้มีอะไรกัน แต่ที่ต้าบอกคือต้าเข้าหาก่อน ส่วนรายละเอียดมันไม่บอก ผมเลยมโนขึ้นมาตามความเสียวของวันนี้...
ตอนต่อไป >> http://www.g4guys.com/thread-132298-1-1.html
ขอบคุนน่ะ ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ มีแอบนอกใจกันบ้างไหมน๊า อิอิ โอ้ยยยยยย ฟินมากครับ น่ารัก ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ. ขอบคุณครับ ขอบคุณมากเลยครับ ขอบคุณครับ ขอบคุณ นึกว่าพี่ลมจะเสียบน้อง อย่างนี้แหละดูสะใจดี ขอบตุณครับ ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ สนุกดีครับ ช่างจินตนาการจริง .. แวบ ๆ นึกถึงกร-น๊อค ในอกหักมารักกับผม เลย 55