เรื่องเล่าจากเพื่อน ตอนที่ 8 - 2 [เพียว] ปริศนาตะกร้าผ้า
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Hanabi เมื่อ 2023-12-20 06:23เป็นเรื่องของเพื่อน ๆ ผมในกลุ่ม ทั้งจากเรื่องที่ผมรู้มาจากการเผือกจนรู้เรื่องทั้งหมดของพวกมัน และที่พวกมันมาโม้ให้ฟังอีกส่วน(อวด) โดยจะมีการปรับบทและตัวละครให้เป็นในแนวของผม แต่หลัก ๆ คืออ้างอิงจากชีวิตเพื่อนผมและเนื้อเรื่องที่เพื่อนเล่ามาครับ โดยจะใช้สรรพนามให้เหมือนเพื่อนผมเล่าเอง เริ่มกันเลย...
••••••••••
หลังจากที่ผมออกมาจากห้องน้ำพบว่าเป็นอีกครั้งที่ตะกร้าผมโดนค้น ผมไม่รีบที่จะเข้าไปตรวจดูหลักฐาน หากแต่จัดการแต่งตัวให้เรียบร้อยก่อนจะกลับไปนั่งหน้าโน๊ตบุคของตัวเอง ผมทำการหยุดบันทึกและปิดโปรแกรมก่อนจะ ทำการเปิดไฟล์คลิปล่าสุดในแฟ้มของมัน ผมฟอเวิดคลิปไปข้างหน้าไม่นานก็เห็นภาพคนร้าย...
เป็นโตนครับ มันไปค้นตะกร้าผ้าผม จากนั้นมันหยิบกางเกงในผมขึ้นมา แล้วก็เอามาดม ผมตกใจอยู่เหมือนกัน เพราะผมไม่คิดว่าโตนจะทำอะไรแบบนี้ เราเป็นรูมเมทกันมาหลายเดือน มันดูไม่เหมือนคล้ายพวกแอบจิตหรือดูเป็นตุ๊ดหรือเกย์ มันยังดูแมนกว่าผมด้วยซ้ำในสายตาของผม แต่ภาพที่มันดมกางเกงในผมพร้อมกับลูบเป้าคลำฆวยของตัวเอง ก่อนมันจะเอาฆวยของมันออกมาชัก ด้วยสีหน้าพอใจอย่างสุด ๆ มันเร่งชักฆวยของมันไม่นานก็คล้ายใกล้จะแตกก่อนมันจะรีบเอาทิชชูของมันจากตู้เสื้อผ้ามารับน้ำของมันไว้ จากนั้นก็รีบเก็บกางเกงในผมกลับลงที่เดิม ก่อนจะหายออกไปนอกห้อง คงเอาทิชชูไปทิ้งข้างนอกห้องแน่ ๆ
ในอารมณ์ของผมตอนนี้มันมีหลากหลายมากครับ ผมไม่เข้าใจเพื่อนคนนี้งั้นเหรอ ถ้าวัดเป็นแผนภูมิวงกลม คงบอกได้ว่า ตกใจ 5 ส่วน โกรธ 1 ส่วน สงสาร 1 ส่วน ไม่เข้าใจเพื่อน 3 ส่วน ผมถอนหายใจออกยาว ๆ ก่อนจะลบคลิปนั้นทิ้ง ไม่นานโตนก็กลับเข้ามา มันซื้อนมชมพูมาฝากผมครับ มันเป็น 1 ในจำนวนเครื่องดื่มที่ผมชอบ
"อะซื้อมาฝาก"
"ขอบใจ รู้ด้วยเหรอว่ากูชอบนมชมพู..."
"ก็ต้องรู้ดิ เพื่อนเล่นกินมัน เกือบทุกวัน ตอนซื้อกลับมาห้อง"
"แหนะ ซื้อของโปรดมาฝากกูแบบนี้ มึงแอบคิดอะไรกับกูเปล่านิ..."
ได้ทีผมเลยยิงไปหนึ่งดอก คล้ายมันจะสำลักชาเขียวนมของมันครับ มันไม่ตอบได้แต่เดินไปหยิบทิชชูมาเช็ดปาก เตียงของเราติดกันครับ ดังนั้นตอนนี้ผมนั่งที่โต๊ะทำงาน มันนั่งที่เตียงของมัน เราจึงนั่งใกล้กันมากจนผมนึกเพลงที่มันเปิดฟังในห้องบ่อย ๆ ขึ้นมาได้
"ห่างแค่เพียงเอื้อมมือ แต่มันก็แสนไกล ยิ่งเธอเป็นเหมือนเพื่อนสนิท ยิ่งไม่มีสิทธิ์จะบอกไป..."
ผมแอบขำกับความคิดตัวเอง ผมก็มองโตนอย่างตั้งใจพิจารณา มันเป็นเด็กต่างจังหวัดครับ มาจากลพบุรี ถึงจะไม่หล่อแบบเต้ยหรือบ่อม แต่ก็ขาวตี๋เหมือนกัน ทั้งยังถือว่าเป็นคนที่บุคลิกดีคนหนึ่ง มันสูง 175 ต่างจากผม 2 เซนติเมตรเอง จะว่าไปฆวยมันก็ไม่ถือว่าเล็กนะ จากคลิปเมื่อกี่ก็คง 6 นิ้วได้ คิดแล้วก็อยากสนองมันเหมือนกันแหะ แต่ขอตั้งใจดูมันอีกหน่อยดีกว่า
"บ้ากูซื้อมาฝากเพราะเห็นมึงชอบ วันหลังมึงก็ซื้อของมาฝากกู บ้างละกัน..."
พูดจบมันก็รีบดูดชาเขียว ก่อนจะทิ้งตัวบนที่นอนของมันที่อยู่ข้าง ๆ ผม พอมานึกดูแล้วเวลาไหนผมมานั่งทำงาน มันมักจะมานอนที่เตียงของมัน แอบคล้ายอยากอยู่ใกล้ผมเหมือนกันนะเนี้ย หรือว่าผมคิดเข้าข้างตัวเองเกินไป พอทำงานเสร็จผมก็เลยชวนมันไปในเมืองครับ วันนี้เป็นวันเสาร์พอดี
"วันนี้มึงว่างปะ"
"ทำไมเหรอ"
"ไปดูหนังกัน กูอยากดูเรื่องนี้ มึงดูยัง" ผมพูดพร้อมกับเปิดรอบหนังในเวป และชี้บอกมัน
"ไหน ๆ อ่อ ยัง แต่กูต้องประหยัดเงินอะดิ..." มันบอก
"ถุย คนประหยัดเงิน แต่ซื้อนมชมพูมาฝากคนอื่น ย้อนแย้งวะ ที่กูชวนมึงเพราะกูจะออกค่าหนังให้อยู่ละ ถือว่าเป็นค่านมชมพู"
"เพื่อนเลี้ยงแบบนี้ ไม่ปฏิเสธอยู่แล้วครับ เปลี่ยนเสื้อแป๊บ..."
พอมันลุกไปเปลี่ยนเสื้อผมเลยเซฟงานปิดคอม ก่อนจะไปเปลี่ยนชุดเช่นกัน พอมาถึงห้างผมก็เข้าไปเลือกรอบหนังกับโซนที่จะนั่ง ผมเลือกตรงโซนที่ดีที่สุดกับมุมที่คิดว่ากลางจอที่สุดมา แต่เพราะรอบหนังต้องรออีกชั่วโมงผมเลยลากโตนไปหาอะไรกิน
"กินนี่ละกัน..." ผมชี้ไปยังร้านอาหารญี่ปุ่น
"โหยแพงนะ อันนี้มึงเลี้ยงกูด้วยปะ" มันถาม
"ก็ต้องเลี้ยงดิ บุญคุณนมชมพูมันใหญ่โตมากเลยมึงไม่รู้เหรอ..."
ผมพูดจบก็ยิ้มกวน ๆ มันไป ก่อนจะเดินนำมันเข้าไป พวกเรากินไปจนอิ่มก่อนจะเดินย่อยก่อนเข้าโรง ผมชวนมันไปแผนกเครื่องกีฬาครับ ผมอยากได้รองเท้าใหม่ เลยมาดูราคาไว้ก่อน
"มึงอยากได้รุ่นนี้เหรอ" อยู่ ๆ โตนมันถามผม
"ก็อยากอยู่ แต่ไว้เดือนหน้าค่อยมาซื้อ เดือนนี้กูเก็บเงินไว้เลี้ยงมึงดีกว่า"
"พูดซะ กูควรดีใจหรือเสียใจดีวะ"
"ฮ่า ๆ อ่อได้เวลาใกล้เข้าโรงละ กูไม่อยากพลาดตัวอย่างหนัง"
พูดจบผมก็เดินนำมันไป เราดูหนังจบก็พากันกลับหอครับ เย็นนี้ผมรู้สึกว่าอยากไปว่ายน้ำ เลยว่าจะออกไป แต่ไม่รู้คิดไงปกติผมไม่ชวนมันนะ
"โตนมึงไปว่ายน้ำกับกูปะ"
"เพียว ถ้ากูบอกว่ากูว่ายน้ำไม่เป็นมึงจะ ขำกูไหม..."
"เห้ย ไม่เป็นจริงดิ"
"ก็ไม่เป็นจริง ๆ ตอนเด็กกูเคยจมน้ำ เลยไม่กล้าเล่นน้ำอีกเลย พอโตมามันก็อายคนอื่น ว่าโตแล้วยังว่ายน้ำไม่เป็น"
"อ่อ มึงไปด้วยกันเลยเดี๋ยวกูสอนให้ กูตามประกบมึงไม่ต้องกลัวจมน้ำเลย ถ้ามึงจมเดี๋ยวกูผายปอดให้เอง..." ก็ไม่รู้ว่าเพราะอะไร พอรู้ว่ามันคิดอะไรกับผมแน่ ๆ ผมก็อดไม่ได้ที่จะหยอดมันตลอด
"กูไม่มีกางเกงว่ายน้ำ แล้วกูอายวะ ที่สระมหาลัยคนเยอะแน่ ๆ"
"มึงอย่าไปแคร์คนอื่นมาก กางเกงว่ายน้ำกูมีหลายตัว แว่นดำน้ำก็หลายอัน มึงรูปร่างพอกับกูใส่ได้อยู่แล้วละ เว้นแต่มึงจะฆวยใหญ่กว่ากูเท่านั้นละ" พูดจบผมก็หยิบกางเกงว่ายน้ำกับแว่นดำน้ำเข้าเป้ ตามด้วยของที่ต้องใช้
"กูต้องเอาอะไรไปบ้างวะ" มันถาม
"มึงเอาผ้าเช็ดตัวไปก็พอ อ่อบัตรนักศึกษาด้วย"
ผมขับรถออกมาไปสระว่ายน้ำ แต่ไม่ได้ไปสระของอาคารกีฬา แต่เปลี่ยนใจไปยังสระว่ายน้ำของโรงแรมแถวมหาลัยแทน เพราะว่าคนไม่ค่อยเยอะ ถึงค่าใช้บริการคนนอกอาจจะแพงหน่อย คนละ 70 บาท แต่ก็ถือว่าแลกกับความเป็นส่วนตัว
"แค่นี้มึงไม่ต้องอายใครเลย เล่นกัน 2 คนทั้งสระ" ผมพูดขึ้น
"เพิ่งรู้ว่าโรงแรมนี้มีสระว่ายน้ำ"
"ตอนมารายงานตัวเข้ามหาลัย กูมาพักที่นี่เลยรู้ว่ามีสระว่ายน้ำ เอาของไปเก็บจะได้ไปเปลี่ยนชุดกัน"
พวกเราก็พากันเข้าห้องน้ำที่ไว้ใช้อาบน้ำล้างตัวกับเก็บของที่จำเป็น ผมได้กุญแจตู้มาแล้ว เลยไม่ต้องห่วงพวกของมีค่ามากนัก
"มึงจะใส่ตัวไหน" ผมถามโตนทันทีหลังเข้ามา แต่กางเกงว่ายน้ำผมมีแต่ทรงบิกินี่ จะต่างกันก็แค่สี
"มีแต่แบบนี้เหรอ"
"มึงอายกูด้วยเหรอ ผู้ชายเหมือนกัน"
"ไม่ได้อาย เอาสีดำ"
ผมส่งตัวสีดำให้มันไป มันก็หนีผมไปเปลี่ยนชุดในห้องอาบน้ำ ผมก็ขำมันนะครับ มันเป็นคนขี้อาย ผมก็ยืนแก้ผ้าเปลี่ยนตรงหน้าตู้ไปเลยครับ ขี้เกียจรอมันออกมา เพราะห้องน้ำมีห้องเดียว แต่ที่ล้างตัวมีด้านนอกอีก 2 อัน ผมเลยเดินไปล้างตัวด้านนอก พร้อมกับวอร์มร่างกายก่อนลงสระ ผมวิ่งรอบสระไปได้ 2 รอบ โตนมันถึงจะเพิ่งออกมา
"ทำไมช้าจังวะ ชักว่าวอยู่ไง"
"กูล้างตัวนานเฉย ๆ"
"อย่าจริงจังดิ มึงก็รู้ว่ากูแซว" ผมไม่อยากพูดมากครับ เลยวิ่งต่อจนได้ 10 รอบ
"มึงไม่วอร์มร่างกายเหรอ" ผมถามมัน เพราะเห็นมันนั่งรอผมข้างสระ
"ต้องวอร์มด้วยเหรอ แค่มาให้มึงสอนว่ายน้ำ"
"อ่อ ๆ ไม่ต้องวอร์มก็ได้ มา ๆ มึงตามกูลงสระมาเลย ยืนตรงนี้ไม่จมง่ายแน่ ๆ"
ผมโยนแว่นดำน้ำให้มันแล้วก็กระโดดลงสระเลย ตรงที่ผมยืนอยู่มันลึกแค่ 1.5 เมตร ยังไงส่วนหัวก็โผล่พ้นน้ำ ส่วนที่ลึกที่สุดของสระนี้คือ 2 เมตรซึ่งอยู่ตรงบริเวณกลางสระ ส่วนสระว่ายน้ำนี้กว้าง15 เมตร ยาว 25 เมตร ซึ่งถือว่าไม่เล็กและไม่ใหญ่เกินไป พอโตนมันกระโดดลงมามันก็รีบเกาะขอบสระทันที ทั้งที่เท้ามันก็เหยียบพื้นถึง อาการนี้เป็นอาการคนกลัวจมน้ำครับ มันคงเคยจมน้ำจริง ๆ ถ้าพวกไม่กลัวทันทีที่ลงมา จะยังไม่หาหลักประกันชีวิตทันทีแบบนี้ ผมเลยรีบเดินเข้าไปใกล้มันเพื่อที่มันจะได้อุ่นใจ
"โตนมึงดำน้ำเป็นใช่ไหม"
"พอเป็น" มันตอบ
"ดี ๆ งั้นกูจะบอกว่าหลักการสำคัญคือ สติและการหายใจ ถ้ามึงมีสติยังไงมึงก็ไม่ตายง่าย งั้นมึงดูกูนะ"
พูดจบผมก็หายใจเข้าออกทางปากจนเต็มปอดก่อนจะทิ้งตัวไปกับน้ำ ร่างผมจมแป๊บหนึ่งก็ลอยขึ้นมา ผมนอนหงายกางแขนกางขาลอยนิ่งอยู่บนผิวน้ำ ผมหายใจเข้าออกช้า ๆ จนเกือบหมดปอด แต่ยังเหลืออากาศไว้บางส่วน ก่อนจะรีบหายใจเข้าให้กลับมาเต็มปอดอีกครั้ง ผมลอยนิ่งค้างไว้ราว 2 นาทีโดยที่ไม่จมน้ำลงไปเลย ก่อนจะพลิกตัวว่ายกลับมาตรงที่โตนเกาะขอบอยู่
"มึงเห็นอะไรกูไหม"
"ไม่ ๆ กูไม่เห็น"
"เชี้ย... กูลอยน้ำตั้ง 2 นาที มึงไม่เห็นได้ไง"
"อ่อ เห็นแล้ว ทำไมถึงไม่จม"
"ก็อย่างที่บอก สติกับการหายใจ มึงคิดว่าทำไมคนถึงจมน้ำ" ผมให้มันคิดแป๊บหนึ่งมันไม่ตอบ ผมเลยพูดต่อ
"ที่คนจมเพราะตกใจหรือกลัวก็แล้วแต่อาการ พอไม่มีสติทุกอย่างก็ผิดไปหมด มัวแต่กลัวเลยไม่ดูให้รอบว่าอยู่ใต้น้ำหรือผิวน้ำ ต้องอ้าปากหรือหุบปาก แต่ถ้ามึงยังไม่เข้าใจก็ไม่เป็นไร มึงทำตามที่กูสอนพอ ว่าแต่ที่มึงบอกไม่เห็นกูตอนที่ถาม เพราะสงสัยสติมึงคงมัวแต่มองเป้ากูอะดิ"
"..." มันเงียบอีกแล้วแต่หูมันแดงขึ้น ผมลืมตัวบางทีก็ไม่ควรแกล้งมันมากไป มันจะคิดมากไปเปล่า ๆ
"มึงทำตามที่กูบอกนะ"
จากนั้นผมก็เริ่มตั้งใจสอนมัน สอนตั้งแต่เกาะขอบสระแล้วหายใจทางปากแล้วดำน้ำ โดยค่อย ๆ ปล่อยลมหายใจออกมาจากทางปากช้า ๆ พร้อมกับนับจังหวะในใจ ตามที่คิดว่าตัวเองหายใจไหวและสบายที่สุด ก่อนจะให้รีบพุ่งตัวขึ้นมาฮุบเอาอากาศจากทางปาก แล้วนั้นดำน้ำลงไปใหม่ ทำซ้ำไปเรื่อย ๆ พอจบตรงนี้ผมก็บอกให้มันทำวนซ้ำไป 100 รอบ เพราะผมจะได้ไปว่ายน้ำเอากำลังบ้าง
ผมว่ายน้ำไปกลับได้ 4 รอบก็เห็นมันทำเสร็จแล้ว เลยว่ายเข้าไปหามัน ก่อนจะสอนให้มันเกาะขอบแล้วตีขาพยุงตัว โดยใช้การหายใจแบบที่สอนไปเมื่อกี่ผสมกับการตีขาพยุงตัว พอได้จังหวะก็ให้เอียงหน้าให้พ้นน้ำก่อนจะฮุบเอาอากาศเข้าไปใหม่แล้วนับจังหวะทำซ้ำไปเรื่อย ๆ ผมสั่งมัน 100 รอบเช่นเดิม จากนั้นผมก็ออกไปว่ายเอากำลังต่อ ผมว่ายไปกลับได้อีก 5 รอบก็เห็นมันนั่งพักอยู่ข้างสระ จึงว่ายเข้าไปหามัน
"ครบปะ ถ้าครบก็เก่งจะมีรางวัลให้ แต่ถ้าไม่ครบก็พักก่อนแล้วค่อยลงมาทำให้ครบ"
พูดจบผมก็ว่ายออกไปเลย ผมเห็นมันนั่งพักไม่นานนักก็ลงมามาตีขาพยุงตัวพร้อมฝึกหายใจต่อ ผมว่ายได้อีก 3 รอบก็กลับมาหามันตอนนี้มันกลับไปนั่งข้างสระอีกครั้งแล้ว
"โตนครบแล้วสินะ งั้นมึงพักให้หายเหนื่อยเลย เดี๋ยวกูมาสอนต่อ" แล้วผมก็ว่ายไปกลับอีก 8 รอบก็กลับมาพักบ้าง
"เหนื่อยไหม" โตนมันถาม
"เหนื่อย ไม่ได้ว่ายน้ำนานละ ได้แค่ 20 รอบ วันนี้คงพอเท่านี้ละ แต่จะพามึงหัดว่ายให้มึงพอเป็น วันหลังมึงจะได้มาว่ายแข่งกับกูได้" พูดจบผมลุกไปจิบน้ำก่อนจะมานั่งเล่นข้าง ๆ มันคุยไปเรื่อย
พอผมหายเหนื่อยแล้วก็ลงสระพร้อมกับเอามันลงมาด้วย รอบนี้จะเป็นการช่วยมันพยุงตัวบนผิวน้ำ ซึ่งผมจะต้องจับตัวมันให้ลอยไว้ ซึ่งแน่นอนว่ายังไงก็ต้องถูกเนื้อต้องตัวกัน แล้วส่วนที่ผมจะต้องจับพยุงคือบริเวณอก และท้องน้อย ซึ่งก็เกือบถึงเป้ามันเลยครับ พอทันทีที่ผมจับตรงนั้นมัน คล้ายมันจะตกใจจนพลิกตัวจมน้ำ ผมต้องรีบช่วยดึงมันขึ้นมา แค่นี้มันก็ลืมในสิ่งที่ผมสอนแล้ว สำลักน้ำในสระไปอีกอึก
"มึงอย่าดิ้นสิ กูพยุงตัวมึงไหวอยู่ไม่จมง่าย ๆ มึงกลัวกูจับฆวยมึงหรือไง ดิ้นซะ..."
รอบนี้ผมดุมันนะครับ เพราะใจดีมากไปก็คงไม่ฟังกัน มันไม่ได้พูดอะไร ผมเลยเข้าไปพยุงตัวมัน แต่รอบนี้มันไม่ดิ้นแล้ว ยอมให้ผมจับแต่โดยดี ส่วนท่าว่ายน้ำที่ผมสอนมันเป็นท่าเบสิกมากครับ แค่จ้วงมือไปด้านหน้าแล้วกวักน้ำเฉียงลงมาด้านหลัง แล้วผ่านอกกลับไปด้านหน้าทำซ้ำไปเรื่อย ๆ ท่านี้ส่วนหัวจะไม่จมน้ำครับ ถ้านึกไม่ออกให้นึกท่าหมาว่ายน้ำจะคล้าย ๆ กัน จะว่ายแบบมือทีละข้างหรือสองข้างพร้อมกันก็ได้ แล้วแต่ความถนัดของแต่ละคน...
ส่วนผมแค่มีหน้าที่พยุงมันกับบอกมันในส่วนที่ต้องบอกครับ เช่นตีขาเบาไป จ้วงน้ำแคบไป อะไรพวกนี้ การทำพวกนี้เป็นเพียงการสร้างความคุ้นชินครับ ถ้าปล่อยมือตอนนี้อย่างไรมันก็จม จะกลายเป็นการทำลายความไว้ใจกันเปล่า ๆ เลยไม่ควรแกล้งมันช่วงนี้ พอว่ายไปเรื่อย ๆ ร่างของมันก็ต้องเกิดการขยับเป็นเรื่องปกติ แล้วลองนึกภาพมือตัวเองกำลังพยุงตัวคนอื่นอยู่ เราก็ต้องหงายมือและกางมืออกให้กว้าง เพื่อกระจายน้ำหนัก มือหนึ่งอยู่ตรงส่วนอก ส่วนอีกมืออยู่ตรงแถวท้องน้อย มันก็ต้องมีจังหวะที่หัวแม่มือด้านที่พยุงตรงท้องจะโดนเป้ามันใช่ไหมละครับ ช่วงแรก ๆ ที่มันยังกลัวอยู่ก็ไม่มีอะไรครับ พอนานเข้าโตนมันเริ่มชินและคล้ายมันจะรู้ตัวว่าเป้ามันโดนนิ้วโป้งผมเขี่ยหลายครั้ง จนผมรู้สึกได้เลยว่าฆวยมันกำลังแข็ง ผมก็รู้แล้วว่ามันกำลังตื่นเต้นอยู่ แต่ด้วยมารยาทผมก็ต้องเงียบไว้ครับ ถึงปากจะอยากล้อ แต่เรื่องแบบนี้มันเกิดขึ้นได้เป็นเรื่องปกติ พอฝึกท่านี้ได้ระยะเวลาหนึ่ง ก็ถึงช่วงที่ต้องปล่อยมันว่ายจริง
ผมไปใกล้ ๆ ขอบสระครับ ระยะประมาณ 3 เมตรก่อน โดยบอกมันว่าผมจะพยุงตัวไว้แล้วจะปล่อยมือ ให้มันพยายามว่ายไปให้ถึงขอบสระ มันก็เข้าใจแล้วเตรียมตัว พอผมให้จังหวะพร้อมปล่อยมือ มันก็ว่ายไปจนถึงครับ แต่แอบบอกนิดหนึ่งว่า ช่วงปล่อยมือ มือผมโดนเป้ามันเต็ม ๆ พอมันได้ก็ค่อย ๆ เพิ่มระยะการว่ายขึ้นครั้บ แต่ไม่ควรปล่อยแล้วไม่ตาม ต้องตามมันหลังปล่อยตัวไปด้วยกัน หากมันเสียจังหวะแล้วจมจะได้ช่วยทัน ผมฝึกโตนจนท้องฟ้าเปลี่ยนสี กลายเป็นมืดมิด แสงไฟของสระว่ายน้ำถูกเปิดสว่างสวยงาม ทั้งสระน้ำมีเพียงเราสองคน ผมเห็นว่าโตนคงเหนื่อยแล้ว เลยชวนมันขึ้นไปอาบน้ำล้างคลอรีน แน่นอนว่าอย่างที่บอกไปห้องน้ำมีห้องเดียว...
"โตนมึงเข้ามาอาบน้ำพร้อมกูเลย จะได้ไว ๆ กูหิวข้าวแล้ว"
โตนมันคล้ายจะตกใจมันเตรียมปฏิเสธ แต่มีหรือผมจะยอม ผมกอดคอลากมันเข้าห้องน้ำทันที แล้วรีบปิดประตูล๊อก ถ้ามันจะเปิดจริง ๆ มันก็เปิดได้ครับ แต่มันเป็นการล๊อกทางความรู้สึก เพราะผมออกตัวไปขนาดนั้น มันจะกลายเป็นการทำลายความสัมพันธ์
"มึงไม่ต้องอายกูเลย ผู้ชายเหมือนกัน"
พูดจบผมไม่ลีลาครับก็ถอดกางเกงว่ายน้ำทันที เพราะการที่ทำคล้ายไม่อายกันจะช่วยให้อีกฝ่ายเลิกคิดในสิ่งที่คิดอยู่ทันที ผมก็จัดการเปิดน้ำล้างตัวก่อนจะเอาครีมอาบน้ำกับใยขัดผิวออกมา ฟอกล้างขัดส่วนต่าง ๆ
"มึงหันหลังมา กูถูหลังให้"
เอาจริงตอนนี้โตนมันก็หันหลังอยู่แล้วครับ ผมไม่รู้ว่ามันถอดกางเกงว่ายน้ำตอนไหน แต่ผมรู้ว่าที่มันไม่หันหน้ามาคงเพราะฆวยมันแข็งอยู่ ก็เล่นโดนจับไปตั้งหลายครั้ง มันต้องมีตื๊ด ๆ กันบ้าง ผมก็ถูหลังให้มันไป อยู่มันก็พูดขึ้นมา
"มึงไม่อายเลยเหรอ"
"อายทำไมเพื่อนกัน แล้วกูหน้าด้านแบบนี้มาแต่เด็กแล้ว มึงรู้ไหมกูแก้ผ้าอาบน้ำกับคนข้างบ้านมาตั้งแต่เด็กยันก็จบ ม.6 แค่นี้ชิล ๆ ขนาดชักว่าวแข่งกันก็เคยมาแล้ว..."
พูดจบผมเลยจับมันหันหน้ามา แต่สิ่งที่ผมมองไม่ใช่เป้ามันนะครับ แต่เป็นหน้ามัน ตามัน ผมยิ้มแล้วพูดกับมันว่า
"เห็นปะเหมือนกัน แค่ของกูใหญ่กว่า"
พูดจบผมก็เดินเข้าไปไกล ๆ มัน ก่อนจะบอกมันว่า
"ถ้าไม่เชื่อรอกูแป๊บ ปั่นให้แข็งก่อน..."
"กูรู้ว่ามึงตื่นเต้น ฆวยแข็ง ก็เป็นเรื่องปกติ พอมึงอาบน้ำกับกูบ่อย ๆ เดี๋ยวมึงก็ชินเอง ดู ๆ บอกแล้วกูใหญ่กว่า"
ตอนนี้ผมกำลังยืนเทียบไซส์ฆวยกับมันอยู่ครับ ผมแอบสนุกตรงที่มันดูจะตื่นเต้นมาก หายใจแรงและถี่ ผมไม่แน่ใจว่าการยั่วมันแบบนี้จะทำให้มันกล้าขึ้นไหม ผมแค่รอมันพูดออกมาเท่านั้นว่ามันต้องการผมไหม
"มึงกูเงี่ยนแล้ว มาชักว่าวกัน ใครพุ่งไกลกว่าชนะ คนแพ้เลี้ยงนม..."
พูดจบผมก็ไม่รอมันแล้วครับ เดินไปชิดผนังพร้อมกับสาวฆวยชักอย่างไม่อาย โตนมันมองฆวยผมอย่างไม่วางตา ถ้ามันกล้าพอมันคงเข้ามาดูดฆวยผมไปแล้ว แต่ตอนนี้มันแค่ชักฆวยของมันผมตบผนังบอกให้มันมายืน เพื่อให้รู้ว่าเรากำลังแข่งกันอยู่ ไม่นานมันก็มายืนข้างผม ผมจงใจชักรอมันเล็กน้อยโดยพยายามกะว่าจะให้แตกช่วงเวลาใกล้ ๆ กัน เราชักกันเกือบ5 นาทีโตนมันก็คล้ายกำลังจะแตก ผมเลยเร่งจังหวะปล่อยอารมณให้เต็มที่ ไม่กี่อึดใจน้ำว่าวของผมกับโตนก็กระฉูดออกมา ของผมพุ่งไกลมากครับ เพราะ 3 วันแล้วที่ผมยังไม่ได้เอาออก ส่วนของโตนพุ่งไม่ไกลเท่าผม แต่คงเพราะตื่นเต้นมากน้ำเลยออกมาเยอะขาวขุ่นมาก ขนาดเมื่อเช้ามันแอบชัดว่าวตอนดมกางเกงในผมไปแล้วนะ ผมเดินไปล้างฆวยตัวเองก่อนจะหันไปคุยกับมันว่า
"ขอเป็นนมชมพูร้อนนะ"
"..."
มันไม่พูดแต่พยักหน้าตอบผมแทน ผมเปิดประตูห้องน้ำไปยืนเช็ดตัวหน้าตู้ก่อนจะใส่กางเกงและเสื้อพร้อมไปหาอะไรกิน ผมพามันไปร้านจิ้มจุ่มหมูกระทะเลี้ยงมันตามที่ตกลงไว้ว่ามันทำครบ 100 ครั้ง แต่จริง ๆ แล้วเพราะผมต้องการโปรตีนจากเนื้อสัตว์ จากนั้นพวกเราไปจบที่ร้านนมหน้ามหาลัย พอผมกลับมาถึงห้องว่าจะอาบน้ำอีกรอบเพราะหัวเหม็นมาก แต่พอผมเห็นตระกร้าผ้า ก็ร้องอยู่ในใจ
"เชี้ย... ทำไมตะกร้าผ้ายังโดนค้นอยู่อีกวะ..."
เพราะวันนี้ทั้งวันผมอยู่แต่กับโตนตลอด แถมก่อนไปว่ายน้ำผมจำรูปแบบองศาการยับรวมถึงลำดับผ้าในตะกร้าได้
จบ.
ตอนต่อไป >> http://www.g4guys.com/thread-132082-1-1.html พี่บอลหรือป่าง ขอบคุณมากนะครับ ขอบคุณมากเลยครับ ขอบคุณครับ ขอขอบคุณ ขอบคุณครับ ชอบ แหมต้องลงทุนยั่วอีกคนละ แล้วค่อยชวนหมู่พร้อมกันเลย Intra ตอบกลับเมื่อ 2020-1-10 07:50
แหมต้องลงทุนยั่วอีกคนละ แล้วค่อยชวนหมู่พร้อมกันเลย
ต้องรออ่านตอนหน้าว่าเกิดอะไรขึ้น ใน 8 - 3 ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ เพียวโดนรุมเหรอ น่าสนใจ สู้ตายนะเพียว ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ.
ขอบคุณมากเลยครับ ขอบคุณครับ ขักสนุกละ ใครกันนะ ขอบคุณมากครับ เอาแล้ว ๆ น่าสนุกซะแล้ว ตกลงใครรื้อตะกร้าล่ะ ขอบคุณครับ