ศาลเผยสาวซิ่งซีวิค ใช้โทรศัพท์ขณะขับรถจริง
ศาลเผยสาวซิ่งซีวิค ใช้โทรศัพท์ขณะขับรถจริงศาลเผยสาวซิ่งซีวิค ใช้โทรศัพท์ขณะขับรถจริงhttp://hilight.kapook.com/img_cms2/news3/272829_1.jpg
http://hilight.kapook.com/img_cms2/News%202/z5.jpg
สรุปประเด็นข่าวโดยกระปุกดอทคอม
อัยการพิเศษฝ่ายคดีเยาวชนและครอบครัว เผยคดีสาวซิ่งซีวิคชนรถตู้โดยสารเสียชีวิต 9 ศพ พบมีการใช้โทรศัพท์ขณะขับรถจริง พร้อมรับผลสอบกรณีการขับรถตู้แล้ว
นายสุภัค สิทธิวนิช อัยการพิเศษ ฝ่ายคดีเยาวชนและครอบครัว 1 กล่าวถึงการพิจารณาสำนวนที่ น.ส.แพรวา (นามสมมุติ) อายุ 17 ปี ขับรถยนต์ฮอนด้าซีวิค เฉี่ยวชนรถตู้โดยสารบนทางด่วนโทลล์เวย์ เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 9 ศพ เมื่อวันที่ 27 ธ.ค. 2553 ว่า ขณะนี้ได้รับผลการสอบสวนเพิ่มเติมจากพนักงานสอบสวน ตามที่ผู้ต้องหาได้ร้องขอความเป็นธรรมเข้ามา เกี่ยวกับประเด็นคนขับรถตู้แล้วเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาช่วงวันหยุดยาว ซึ่งพนักงานสอบสวนได้ทำแผนผังแบบจำลองเส้นทางเดินรถมาให้อัยการด้วย ขณะเดียวกัน ยังได้มีการสอบเพิ่มเติมประเด็นเกี่ยวกับการใช้โทรศัพท์ของผู้ต้องหา ซึ่งพบว่ามีการใช้โทรศัพท์ขณะขับรถถือว่าผิดกฎหมาย
อย่างไรก็ดี ขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการพิจารณาของคณะทำงานอัยการ ทั้งนี้หากผู้ต้องหามีพฤติการณ์ใช้โทรศัพท์ อัยการก็ต้องแจ้งให้พนักงานสอบสวน เพื่อดำเนินการตามขั้นตอน เรียกผู้ต้องหาแจ้งข้อหาเพิ่ม และถ้าผู้ต้องหารับสารภาพก็สามารถเปรียบเทียบปรับได้ตามกฎหมาย แต่หากแจ้งข้อหาแล้วผู้ต้องหาให้การปฏิเสธ พนักงานสอบสวน ก็ต้องสรุปสำนวนในข้อหานี้เพิ่มส่งให้อัยการ
ทนายสาว17รถตู้9ศพชี้ต้องขึ้นศาลยังไม่ผิด
ทนายของสาว17 กรณี รถตู้ 9 ศพ เผย คืบหน้าทางคดีว่า หลังออกแถลงการณ์ 2 ฉบับ พนักงานสอบสวน ส่งฟ้องแก้อัยการแล้วนั้น ออกฉบับ 3 ยังบอกไม่ได้ว่า ทำผิด ต้องขึ้นกระบวนการศาลก่อน
นายพิทยา ปักเข็ม ทนายความของ น.ส.แพรวา ผู้ต้องหาขับรถเก๋งฮอนด้าซีวิค ชนกับรถตู้ บนทางด่วนโทลล์เวย์ ทำให้มีผู้เสียชีวิต 9 ราย กล่าวถึงความคืบหน้าของคดีว่า หลังจากที่ทีมทนายความ ได้ทำการออกแถลงการณ์เพื่อทำความเข้าใจ และชี้แจงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับกรณีอุบัติเหตุดังกล่าวจำนวน 2 ฉบับ และพนักงานสอบสวน ได้ส่งฟ้อง น.ส.แพรวา ต่อพนักงานอัยการไปแล้วนั้น
ล่าสุดทีมกฎหมาย น.ส.แพรวา ได้ออกแถลงการณ์อีก เป็นฉบับที่ 3 เพื่อชี้แจงให้ทราบว่า ในกรณีที่มีการส่งฟ้องไปแล้ว ก็เป็นความเห็นและเป็นกระบวนการของพนักงานสอบสวนในชั้นต้น ซึ่งยังไม่อาจรับฟังเป็นที่ยุติว่า ผู้ต้องหาเป็นฝ่ายผิดตามที่ถูกกล่าวหา เพราะศาลยังต้องพิจารณา และทำการสืบพยานหลักฐานของทั้ง 2 ฝ่าย ก่อนตัดสินไปตามกระบวนความ ดังนั้นในส่วนคดีความ เมื่อผู้ต้องหาได้เข้าสู่กระบวนการตามกฎหมายแล้ว หากมีการฟ้องร้องไม่ว่าจะเป็นคดีอาญา หรือ คดีแพ่งก็จะต้องดำเนินการต่อสู้จนกว่าคดีจะถึงที่สุด ส่วนผลของคดีจะเป็นเช่นไรนั้น คงต้องรอฟังคำพิพากษาของศาลต่อไป และทีมกฎหมายจะขอยุติการออกแถลงการณ์ชั่วคราว เพื่อจัดเตรียมพยานหลักฐานในการขอต่อสู้คดีต่อไป
หน้า:
[1]