ชีวิตของเอิร์ธ พาร์ท พิเศษ ว่าด้วยพี่อ้น [Original]
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย earthies เมื่อ 2018-1-22 03:23***** เรื่องต่อไปนี้มีเนื้อหาคาบเกี่ยวกับเรื่องใน Time line หลัก แต่อาจจะไม่มีเรื่องเซ็กแบบที่อยากอ่านกันนะครับ จะเน้นไปเป็นตอนขำๆชิวๆ บรรยายความหื่นของเจ้าของกระทู้เฉยๆ หลังจากที่ผมเลิกกับแฟนสาวแล้ว ช่วงนั้นเป็นช่วง ปี4 ผมที่อารมณ์ยังเศร้าเสียใจอยู่ก็ได้เพื่อนรักแบบไอ้บูมช่วยดูแลหัวใจให้ ผมก็เลยได้มันเป็นที่พึ่งทางใจบ้านเช่าหลังน้อยเลยกลายเป็นรังรักของผมกับมัน ถึงจะมีแขกมาสร้างสีสันบ้าง ก็พวกพี่นัทกับไอ้ทักแต่ไอ้ทักมันก็เริ่มห่างๆ เพราะพี่นัทสนิทกับพวกผมนั่นเอง ผ่านไปไม่นานพี่อ้น รุ่นพี่ที่พวกผมเคารพก็ติดต่อมาเมื่อก่อนพี่เขาเป็นกรรมการหอพักนักศึกษาครับ แล้วก็พากันย้ายมาอยู่หอนอก(บ้านเช่า) ที่ผมได้บ้านเช่าดีๆ ค่าเช่าถูกๆก็เพราะพี่อ้นแกช่วยเหลือจนผมได้มา พอพี่อ้นติดต่อมาขอความช่วยเหลือมีหรือน้องๆที่รู้จักบุญคุณพี่ชายคนนี้จะไม่ยินดี ด้วยที่ว่าพี่อ้นจะกลับมาเรียนต่อโทแล้วยังหาที่พักไม่ได้ พวกผมรุ่นน้องสุดน่ารักเลยยินดีแชร์บ้านเช่าหลังนี้อีกห้องให้ พี่แกก็ยินดีที่จะอยู่ร่วมกับพวกผม ผมก็ไม่คิดอะไรครับ พี่แกนิสัยน่ารักผมถูกชะตาแกอยู่แล้ว
เวลาผ่านไปไม่นานปีการศึกษาใหม่ก็วนกลับมาถึง ผมที่กลายเป็นพี่เปอร์รุ่นพี่ปี5ของน้องๆ ที่ยังเรียนอยู่ แถมเพื่อนสนิทหลายคนก็ชิงเรียนจบและทำงานไปหมดแล้วหนึ่งในนั้นคือบูมเพื่อนรัก มันโชคดีครับไปฝึกงานเสร็จก็ได้งานทำต่อเลยแถมแฟนสาวสุดสวยมันก็ตามไม่อยู่ด้วย จะมีเพียงผมครับ เหมือนถูกทิ้งลอยแพอยู่กลางทะเลอันโดดเดี่ยวในบ้านอันเคยแสนสุข ในบ้านอันเคยมีความรัก ในบ้านที่มีความทรงจำ ผมรู้สึกขุ่นมัวกับชีวิตแต่ด้วยหน้าที่และความรับผิดชอบเลยต้องอยู่เรียนต่อไป บ้านหลังนี้เลยเหลือผมกับพี่อ้น สองหนุ่มตี๋หล่อใสน่ารัก ที่กำลังมองหน้ากันตาปริบๆ
“พี่อ้นสุดหล่อครับ ผมขอเหอะนะ”
“ไม่”
“นะพี่นะ”
สายตาออดอ้อน ใส่ชายหนุ่มตรงหน้า จนผมต้องทำตาปิ๊งๆใส่อีกฝ่าย
“ไม่ก็คือไม่”
เสียงเด็ดขาดทำผมป่องแก้มใส่อีกฝ่ายแน่นอนว่าที่ผมเป็นแบบนี้เพราะ ตัวละครพี่อ้นในเกมกำลังสวมใส่ไอเท็มชิ้นหนึ่ง มันเป็นหนึ่งในแรร์ไอเท็มที่ผมหมดเงินสุ่มเปิดไปหลายพันบาทแต่ก็ยังไม่ได้มัน
“ใจร้ายวะ ผมไม่นวดให้แล้ว”
“ไอ้ที่เยียบๆ เขาไม่เรียกว่านวดหรอกนะ”
“ก็คนนวดไม่เป็น โตมาก็มียาย มีพ่อบอกให้เยียบๆแบบนี้อะ”
“งั้นเอาไว้ให้พี่ใส่เบื่อก่อนแล้วพี่จะให้ยืม”
“พูดแล้วนะพี่”
วันไหนที่บ้านมีพี่อ้นอยู่ชีวิตผมเลยกลับมามีสีสันบ้าง แต่ก็แน่ละคนเรามีชีวิตของตัวเขาเองทั้งนั้น พี่แกที่ต้องเรียนหนักไหนจะต้องทำกิจกรรมให้อาจารย์แถมยังต้องเทคแคร์แฟนสาวแกอีกแค่แกเหลือเวลามาเล่นเกมออนไลน์กับผมวันละ 2 ชั่วโมง ผมก็รู้สึกได้เติมเต็มพลังชีวิตให้กลับมาสู้ต่อไปได้อีกวัน เย็นวันหนึ่งระหว่างนั่งกินข้าวกับเพื่อนและพี่อ้น เสียงเรียกเข้าจากโทรศัพท์ที่นานๆ มีคนโทรมาก็ดังขึ้น
“สวัสดีม๊า”
“เอิร์ธ...ยายเสียแล้วนะลูก”
เสียงราบเรียบที่ฟังก็รู้ว่าอีกฝ่ายกำลังสะกดอารมณ์บอกข่าวสารต่อลูกชายตน
“จริงเหรอ” ผมถามไปด้วยไม่เชื่อหู รอยยิ้มดีใจที่ผู้เป็นแม่โทรมาหาถูกแทนที่บนใบหน้าด้วยความตกใจและเสียใจ
“พรุ่งนี้จะให้คนขับรถไปรับ ถ้าเพื่อนคนไหนมาได้ก็บอกเขาด้วยนะ แม่ไปทำธุระต่อละ”
“เดี๋ยวก่อนครับ...” ปลายสายตัดการติดต่อ ผมได้แต่อึ้งมองมือถือในมือ ก่อนจะหันไปหาคนที่สนิทที่สุดในกลุ่มนั้นทันที
“พี่อ้นยายผมเสีย”
ความเงียบถูกแทรกเข้ามาแทนเสียงพูดคุยหยอกล้อในวงข้าว เพื่อนๆ ต่างเข้ามาปลอบ มื้ออาหารแสนอร่อยของผมจบลงทันที คืนนั้นพี่อ้นบอกให้ผมไปนอนกับแก ผมได้แต่นอนร้องไห้ โดยมีพี่ชาย ค่อยปลอบลูบหัว แถมกอดจากแกทั้งที่ผมไม่ได้ขอ รุ่งเช้าลุงคนขับรถมารับผมแต่ก่อนแปดโมง ผมจัดแจงเก็บข้าวของที่จำเป็นบางส่วนกลับบ้าน พี่อ้นได้แต่ขอโทษ ที่ไม่ได้กลับไปด้วยเพราะแกไม่สะดวก ผมได้แต่นั่งเงียบระหว่างเดินทาง จนหลับไป พอถึงบ้านญาติผู้ใหญ่และแขกมากมายกำลังรอเข้าพิธีอาบน้ำศพ ผู้คนมากมายโดยเฉพาะเหล่าญาติพี่น้องต่างโศกเศร้าเสียใจตลอดช่วงวันงานหลายวัน จนวันสุดท้ายเพื่อนๆ ที่มหาลัยจึงมาร่วมงานในวันฌาปนกิจ เมื่อทุกอย่างผ่านพ้นไป ผมจึงกลับไปทำหน้าที่ของตน ผมยังคงต้องการคนอยู่เป็นเพื่อนและเขาก็อาสา พี่อ้นยอมอยู่กับผม ให้ผมนอนด้วย ทำให้ผมสบายใจ ยอมสละเวลาของตนที่ต้องไปดูแลคนรัก เพื่อมาดูแลน้องชายคนนี้ ผมได้แต่ขอบคุณเขาในใจและเก็บความประทับใจนี้ไว้
หลายวันผ่านไปความสดใสของผมก็กลับมาบางส่วนกิจกรรมมากมายช่วยแบ่งเบาความรู้สึกที่เคยก่อความทุกข์ให้ลืมเลือนหายไป
“พี่ไปเที่ยวบ้านผมปะ”
“มีงานอะไรอีกเหรอ”
“ก็พ่อแม่ผมเขาจัดงานการกุศล มีโต๊ะจีน ไปปะละเสาร์นี้”
“ไม่ว่างอะ”
“เสียใจ”
“ไปบ่นใส่อาจารย์พี่นู้น”
“พี่อ้น”
“หืม...”
“รำคาญผมไหมอะ ที่มาขอนอนด้วยแบบนี้”
“ถ้ารำคาญคงหนีไปนอนกับพี่อุ้มแล้ว จริงปะ”
“ขอบคุณครับ”
“แต่คิดค่านอนนะ”
“อะไรวะ”
“เหยียบหลังนวดให้หน่อย”
“ได้ นึกว่าจะเก็บเงินตกใจหมด”
ช่วงเวลาที่ผมมีความสุขมักจะผ่านไปเร็วเสมอ ถึงตอนที่พี่เขาอยู่ด้วย ผมจะเหมือนปกติแต่พออยู่คนเดียว ผมกับกลับเข้าสู่โหมดความเหงา ผมเหมือนอยู่ด้วยตัวคนเดียวไม่ได้ จนมีน้องซีเข้ามา รุ่นน้องปี2 คณะแพทย์ แถมพ่วงสถานะน้องชมรมที่ผมเป็นกรรมการ ผมรู้สึกดีใจครับที่มีคนมารักมาชอบ ผมจะได้ไม่เหงา น้องซีเป็นเด็กดีครับ ขยันเข้ามาเล่นในบ้านนี้ไม่นานก็ซื้อใจพี่อ้นได้ เก่งใช่เล่น
“เอิร์ธชอบซีปะ”
“น้องเขาน่ารักดีครับ”
“อืม...พี่ก็ว่าน่ารัก นิสัยก็ดี”
“อะไร... จะมาแย้งผมเหรอ”
“บ้า ฮะๆ”
“พี่เร็วๆ อย่าลีลา ถอดเลยเสื้อ”
“เกงเกงด้วยปะ”
“อะไรทำเป็นไม่เคย ถอดดิ แต่เหลือกางเกงในไว้นะไม่งั้นเดี๋ยวผมหัวใจวาย”
“รอบนี้จะเจ็บแบบรอบก่อนปะ”
“จะพยายามไม่ทำให้เจ็บครับ จะดึงไวๆ ตรงหัวนมพี่ไปถอนเอาเองนะตรงอื่นๆ เดี๋ยวผมแว๊กให้”
“ขนพี่เยอะ ดีว่าเอิร์ธแว๊กเป็นไม่งั้นพี่ถอนตายเลยกว่าจะทั่วตัว”
“ใครเขามานั่งถอนกันพี่ตลกละ”
“ก็พี่อะดิ”
“งั้นแว็กขนอกก่อนนะครับตรงขอบขากางเกงในผมไว้ทำหลังสุด จะได้ไม่ ทำผมตบะแตกก่อนเวลา”
“พี่จะโดนปล้ำไหมนิ”
“ผมก็ไม่ได้หื่นขนาดนั้นมะ โถ่ว...” หน้าแดงเลยผม
เวลาผ่านไปไม่นานระเบิดปรมาณู ก็ตกใส่หัวน้องซีหายไปจากสายตาและจิตใจผม ผมที่อาการดีขึ้นไปแล้ว กับเหมือนถูกเหวลึกดูดตกลงไปใหม่แถมรุนแรงกว่าเก่า พี่อ้นที่ผมเคารพก็ไม่อาจฉุดผมกลับขึ้นมาอีกได้
“เอิร์ธ พี่จะไม่ว่าเรานะเรื่องน้องซีแต่อย่าทำร้ายตัวเองดิ”
“ขอบคุณครับพี่ แต่ผมขอเวลาส่วนตัวสักพัก”
“อืม แต่อย่านานนะ”
ผมสร้างโลกส่วนตัวขึ้น กันคนออกไป พี่อ้นเองก็ได้แต่ลำบากใจ แต่พี่เขาก็เคารพการตัดสินใจของผม เกมออนไลน์ เพื่อนๆในกิลด์สังคมออนไลน์ เหมือนจะเป็นที่ระบายความทุกข์ของผมได้ดีกว่าเพื่อนในโลกความจริง อาจเพราะพวกเราไม่รู้จักกันอย่างแท้จริง การโกหก การหลอกลวง การสร้างภาพเราจะเป็นใครทำอะไร ด่าพ่อใคร มันสามารถทำได้ง่ายกว่าในสังคมปกติ ผมที่ติดอยู่ในนั้นจึงได้เพื่อนๆ กลุ่มนี้เป็นกระโถนระบาย เพื่อนสาวในเกมหรือที่พวกเรารู้จักเธอในนามว่าน้ำปั่น สาวสวยที่สุดในกลุ่มพ่วงดีกรีพริตตี้มอเตอร์โชว์ แถมเป็นเกมเมอร์สาวชั้นต้นของเกมนี้ เธอมาเล่นกับผมด่าผมแกล้งผมสารพัด แต่ผมกับรู้สึกดีที่เป็นฝ่ายถูกกระทำกลายเป็นว่าผมสนิทกับเธอเป็นพิเศษ จนเธอมาหาถึงที่บ้าน คำพูดการกระทำ ต่างๆที่เธอมอบให้ มันสอนผมหลายอย่าง สิ่งหนึ่งที่ผมไม่เคยเห็นแต่เธอกับมองเห็น ด้วยคำพูดเหล่านั้น ผมถึงได้ตาสว่าง
“เชี้ย!!!”มือผมที่ปัดที่นอนเพื่อไล่ฝุ่น กับเหมือนถูกของแหลมคมบาดใส่ ที่ฝามือปรากฏลายเส้นสีขาวที่ไม่เคยมีมาก่อนหน้า ไวกว่าความคิดมือพิเรนแหวกมันออก แผลเศษแก้วบาดถูกเปิด เลือดที่รอการหลั่งไหลแทรกดันตัวออกมา ผมที่ตกใจรีบหยิบผ้าเช็ดตัวใกล้ๆ มาซับของเหลวสีแดง ห้องน้ำคือสถานที่แรกผมเข้าไปฝักบัวถูกเปิดใส่เพื่อล้างคราบเลือด แต่มันเป็นความคิดที่ผิด สมองที่ขาดสติเริ่มมีความรู้จากการเล่าเรียนกลับมา ความต่างของความเข้มข้นทำให้ผมรู้แล้วว่าทำไมยิ่งล้างน้ำ เลือดยิ่งไหล
“พี่อ้น!!!!!”
เสียงร้องตกใจหาพี่ชายคนเดียวในบ้าน ผมกลัวตายผมกลัวเลือดที่ไหลไม่ยอมหยุด ชายหนุ่มเปิดประตูออกมาด้วยใบหน้าตื่นไม่แพ้กัน
“เป็นอะไรเอิร์ธ”
แกร้องถามผมก่อนที่จะเดินเข้ามากระชากแขกให้ออกจากสายน้ำแล้วหันไปหยิบผ้าเช็ดตัวก่อนหน้ามาซับน้ำและเลือดให้แห้ง
“ใครเข้าสั่งสอนแบบนี้บ้าเอ้ย”ผมที่ตกใจจนปากสั่นหน้าซีด แถมโดนชายตรงหน้าตะหวาดใส่
“กดแผลไว้ รอแป๊บ” เขาวิ่งหายกลับเข้าห้องนอนไปก่อนจะออกมากับกระปุกคุ้นตา
“เอาวาสลีนมาทำอะไร”
คำถามโง่ๆ ออกมาจากปากคนที่ทำตัวเหมือนเป็นเด็กอายุ 5 ขวบไม่ได้รับคำตอบใดๆ แต่การกระทำที่เห็นทำให้ผมเข้าใจทันที ปิดปากแผลด้วยของที่มีความเข้มข้นมากกว่าเลือด เลือดที่ไหลเป็นน้ำตกก่อนหน้าหยุดสนิทเหมือนไม่เคยมีมันเกิดขึ้นมาก่อน
“กลัวอะไรขนาดนั้น”
“ครับ?”
“ดูกระจกดิ” ผมหันหน้าไปมองกระจกห้องน้ำที่ตอนนี้เห็นหน้าตัวเองขาวซีด เหมือนคนเพิ่งโดนผีหลอก
“ไปแต่งตัวให้เรียบร้อย เดี๋ยวพาไปหาหมอไม่รู้ว่าต้องเย็บกี่เข็ม”
ผมที่ยืนเกือบโป๊ด้วยบ๊อกเซอร์ตัวเดียวคงไปข้างนอกในสภาพแบบนี้ไม่ได้
“พี่อ้น”
“อะไร?”
“ใส่เสื้อผ้าให้หน่อย”
“นี้คิดสั้นเอามีดปาดมือตัวเองเลยเหรอ”ปากที่พูดออกมา แต่มือกับค่อยๆ หยิบเสื้อผ้าที่ตู้มาให้ผม ก่อนจะใส่ให้จนเสร็จ
“พี่ผมก็ไม่คิดสั้นขนาดนั้นนะ ผมโดนเศษแก้วใต้ผ้าปูที่นอนบาด”
“โง่ จริง เอ้ายกขาขึ้น” แล้วกางเกงขาสั้นง่ายๆก็ถูกส่วมให้เหมือนผมเป็นเด็ก 5 ขวบ
“ขอบคุณครับ”
“ปะเดี๋ยวดึก”แล้วพวกผมก็ไปโรงพยาบาลทำแผลล้างวาสลีนออกมา แต่แผลปิดสนิทแล้ว
“ไม่ต้องเย็บเหรอครับ” ผมถามหมอเวรที่ประจำอยู่
“แผลปิดสนิทดีครับ อาจเพราะกลไกลการรักษาตัวคุณดี มันเลยทำให้แผลรักษาตัวเอง เดี๋ยวหมอจะแปะฟิมล์กันน้ำให้ละกัน”แล้วหมอก็จากไปหลังทำธุระของตนเสร็จ
“ดีนะไม่ต้องเย็บ” พี่อ้นที่ยืนอยู่ข้างๆ พูดขึ้นหลังอยู่กันสองคน
“ผมก็กลัวเข็ม”
“ไปรับยากันจะได้กลับบ้าน”
“ครับ”
“เป็นแบบที่ป้าบอกเลยเนอะ”
“ป้า?”
“เพื่อนบ้านเราไงที่บอกว่าเอิร์ธทำบาปแล้วผลกรรมจะมาไว”
“ที่เขาดูลายมือให้ผมเดือนที่แล้วอะเหรอ”
“ผิดศีลข้อสามเมื่อคืน วันนี้เลยโดนสวรรค์ลงโทษเลย”
“ลงโทษไวไปแล้วยังไม่ถึง 24 ชั่วโมงเลยด้วยซ้ำ”
แล้วก็พากันหัวเราะ แต่ใจผมกลับยิ้มล่าให้พี่ชายคนนี้เขาเห็นผมตกใจแต่กลับทำให้ผมมีสติ ไม่บ่นไม่ด่าแล้วช่วยเหลือผมอย่างเต็มที่
‘ไม่อยากคิดเข้าข้างตัวเองเลย...’ ผมบ่นตัวเองในใจ
ผมที่รู้ใจตัวเองแล้วก็เริ่มอยากตอบแทนพี่ชายด้วยความรู้สึกดีๆ ถึงพี่เขาจะมีพี่อุ้ม แต่ผมก็ยินดีมอบความรักให้โดยไม่หวังผลตอบแทน
“พี่คลาสเรียนนวดพี่มีกี่แบบอะ”
“น้องเอิร์ธสนใจเรียนนวดแผนไหนละ”
“มันมีอะไรบ้างครับ”
พี่เจ้าของสปาที่ผมรู้จักส่งหนังสือเล่มบางให้ผมอ่านผมกวาดตามองจนมาสะดุดภาพประกอบ สมองผมก็สร้างภาพในจินตนาการทันที
“อยากเรียนนวดน้ำมันครับ”
เสียงประตูบ้านถูกปิดดังสนั่นภาพพี่ชายเดินสะบัดตัวเข้าห้อง ก่อนจะได้ยินเสียงของหนักตกใส่ที่นอนผมที่เล่นเกมอยู่ตกใจจนต้องลุกออกไปดู ภาพพี่ชายคนเก่งของผมนอนก่ายหน้าผาก ในตาปรากฏน้ำสายใสๆ ไหลลงข้างแก้ม ผมยืนมองอยู่เงียบๆ ก่อนที่เจ้าของห้องจะสังเกตเห็นผม
“เอิร์ธ” เสียงเรียกเบาๆ กล่าวขึ้นจนผมได้สติ
“พี่โอเคปะ” ผมไม่รู้หรอกว่าพี่เขามีปัญหาอะไรแต่ผมเป็นห่วงแก
“เดินมานี่ดิ๊”
เสียงที่พูดเหมือนปกติ กับมือที่กวักให้ผมเดินไปหา เขาดีดตัวลุกมานั่งก่อนจะใช้แขนเสื้อเช็ดคราบน้ำตา
“พี่ถูกทิ้งวะ”
“ขนาดหล่อๆ ยังโดนทิ้งเลยหรอครับ” ผมพยายามแกล้งแซวให้พี่แกไม่เครียด
“หล่อแต่จนสาวเขาไม่สนใจหรอก มาใกล้ๆ อีก”
ผมที่เหมือนโดนสั่งก็ขยับเข้าไปหา วงแขนที่อ้าผมมองออกทันทีว่าชายตรงหน้าอยากให้ทำอะไร ผมโน้มตัวไปกอดพี่เขาก่อนตบหลังเบาๆ
“พวกเราต้องแข็งแรงขึ้นพี่”ผมไม่เห็นหรอกนะว่าพี่เขาใบหน้าเป็นแบบไหน แต่ผมกับสัมผัสได้ว่าพี่เขากำลังยิ้มอยู่ เรากอดกันอยู่นานจนผมเริ่มเขิน เลยผลักพี่เขาเอาตัวเองออกมา
“พี่เมื่อยปะ ผมนวดให้”
“ครั้งที่แล้วเยียบหรือกระทืบ”
“นั้นมันเดือนก่อน แต่วันนี้ผมนวดเป็นแล้ว”
“จริง?”
“จริงๆ แต่นวดแบบนวดน้ำมันนะ”
“...”
“ยังไม่เชื่ออีก เอ้าถอดเสื้อ”
“ต้องถอดเสื้อด้วยเหรอ”
“อืม กางเกงด้วย หรือจะแก้ผ้าผมก็ไม่ว่านะ”แล้วก็ทำหน้าเจ้าเล่ห์ใส่
“เอิร์ธน่ากลัววะ”
“อย่าลีลา เดี๋ยวเปลี่ยนใจกลับไปเล่นเกมต่อเลย”ผมที่รอพี่อ้นแก้ผ้า เลยวิ่งกลับไปเอาน้ำมันจอร์นสันที่ซื้อมา
“นึกว่าจะแก้หมด”ผมแซวแกหลังเห็นแกนั่งบนเตียงอยู่ด้วยกางเกงในสีเทาๆ ของแก
“เหลืออะไรให้พี่ไว้อุ่นใจบ้าง” แล้วก็พากันขำ ผมก็เอาผ้ามาปูยาว ก่อนจะให้แกลงไปนอนคว่ำ เทน้ำมันใสๆ ลงฝามือชโลมมันไปทั่วแผ่นหลัง
“ขึ้นคร่อมนะไม่ถนัด” ผมก็กระโดนไปขี่บนหลังพี่ทันที
“เสียววะ”
“เสียวก้นเหรอครับ” ผมแซว
“เสียวหลังหัก”
แล้วก็พากันขำ ผมบรรจงนวดตามแบบที่เรียนมาจนทั่วก่อนจะให้แกพลิกกลับมานอนหงายผมนวดตั้งแต่ฝ่าเท้าไปจนถึงส่วนน่องแล้วตามด้วยขาอ่อน ร่างที่สมส่วนตามแบบมาตรฐานชายหนุ่ม มีทิวขนบางๆ ที่กำลังงอกกลับขึ้นมา ผิวที่ขาวเนียนละเอียดกับอกหนาแน่น ที่มีหัวนมสีเนื้อดูน่าดูด ทำให้ผมอยากกอดพี่เขาให้สยิวเล่น
“เอิร์ธว่าพี่กลับมาไว้ขนเหมือนเดิมดีกว่านะผมว่าเซ็กซีกว่า”
“เอิร์ธชอบให้พี่ไว้ขนเหรอ”
“เป็นตัวเองดีที่สุดจริงมะ”
ผมก็นวดต่อมาถึงข้อพับเพื่อจะกดจุดให้ผ่อนคลาย
“เอิร์ธ”
“พี่ขอหมอนหน่อย”
ผมหยิบให้แต่โดยดีเพราะรู้ว่าพี่เขากำลังอายผม แน่นอนว่าพอกดจุดไปแล้วเลือดลมมันเดินดีขึ้น เลยไปรวมตัวอยู่ที่แก่นลำเอ็นพี่ชาย
“กลัวผมจับดูดเหรอ”
“ทะลึ่ง เขินเฉยๆ หรอก อยู่ๆ ก็มาแข็งใส่”
“งั้นไม่แข็งก็ดูดได้ดิ”
ตุบ!!หมอนในมือฟาดใส่หน้า แต่ผมกับฟินอย่างบอกไม่ถูก ฟาดอีก10 ทีผมก็ยอม พอนวดต่อไปอีกพัก ผมก็ขยับตัวมาเตรียมขึ้นคร่อมนวดลำตัว
“เดี๋ยว... ถ้าจะนั่งคร่อม ตรงเป้าพี่นี่ได้เสียกันเลยนะ”
“ได้เสียเลยเหรอครับ”
“ทะลึ่ง”
พี่เขาเอาหมอนที่ผมดึงออกไปกลับมาวางที่เป้าเหมือนเดิม ผมเข้าใจเลยนั่งทับหมอนใบนั้นก่อนจะนวดต่อพอทุกอย่างเสร็จ ผมจึงถามความพึงพอใจ
“สบายตัวปะ”
“สบายตัวแต่ลำบากโคย”
“ทำไมอะ”
“ก็เล่นขย่มจนเยิ้ม”
“ขำๆ”
แล้วพวกเราก็หัวเราะกันต่อไป ผมก็ดูแลพี่เขาเขาก็ดูแลผม แล้วอีกไม่นานฝันผมก็เป็นจริง
ขอบคุณนะครับ ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ อ่านตั้งนาน ไม่มีบทอัศจรรย์อ่ะ เหมือนไฟใกล้น้ำมัน รอเวลาสปาร์ค พี่อ้นนี่แหละคู่จริง ขอบคุณครับ ขอบคุณครับผม{:5_130:} {:5_119:}ขอบคุนครับ{:5_119:} พี่อ้นน่ารักอย่างนี้นี่เอง ถึงได้รัก ขอบคุณครับ เหมือนได้ตามติดชีวิต เอิร์ธ แบบเลียวทาม ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ. น่าจะเป็นแฟนกันเลยนะคับ ลุ้นมากนะครับ
ขอบคุณครับ พี่อ้นก็ละมุนละไมดีนะ ขอบคุณมากนะครับ ขอบคุณครับ
หน้า:
[1]
2