จีโฟกาย.คอม

 ลืมรหัสผ่าน
 สมัครเข้าเรียน
ค้นหา
 
ดู: 455|ตอบกลับ: 7
สั่งพิมพ์ ก่อนหน้า ถัดไป
ซ่อนแถบด้านข้าง

จ้าวธารา

[คัดลอกลิงก์]

โสด

   ศาสตราจารย์เอื้ออาทร
อาจารย์พิเศษ
คัดลอกมาครับ

-๙-
   …ผมกำลังซังกะตาย
   ถ้าจะถามหาเหตุผลล่ะก็…ไม่มีอะไรเลยนอกจากกระดาษคำตอบแบบเขียนตอบ..ที่ผมบรรจงคัดลายมือไปสามประโยคต่อหนึ่งคำถาม(ผมมั่นใจว่าหวยงวดนี้ต้องออก33เป็นแน่!) แถมพอเดินออกมาจากห้อง  
ก็เสือกจำไม่ได้อีกว่าตัวเองตอบห่าอะไรไป
   ไอ้เรื่องตกมีนไม่ตกมีนน่ะช่างมันเถอะครับ ผมเคยบอกไปแล้วใช่มั้ยว่าผมไม่ใช่เด็กที่เรียนเก่งอะไร…แต่ก็ขยันพอตัวล่ะ  หนังสือหนังหาก็อ่าน งานเงินก็ส่งครบหมดไม่มีขาด  
แต่ที่ประหลาดก็คือ..ผมไม่เคยเดินออกมาสภาพนี้
   …
ผมกำลังซังกะตาย
   แม่ส่งกูมาเรียน  ไม่ได้ส่งกูมาให้เจ็บเพราะผู้ชายเข้ๆ!

   …แล้วกูทำบ้าอะไรอยู่!
   “เยี่ยวแปป”

   โป๊ยตะโกนบอกผมตอนที่มันออกมาจากห้องสอบ แล้ววิ่งพรวดๆผ่านผมไป
   “กูรอล่าง” ผมร้องบอกมัน

“เร็วด้วย”
   “เออ!”
   ผมส่ายหน้ากับท่าทางเร่งรีบของแม่ง มันคงปวดตั้งกะเริ่มสอบนั่นล่ะครับ…แล้วไอ้ที่บอกว่าถ่ายเบาน่ะไม่มีทาง!! ถ่ายหนักแน่ๆ!! แต่..ผมจะไม่ล้อมันครับ  เรื่องขี้ไม่เข้าใครออกใคร อันนี้เข้าใจอยู่
   ผมกดลิฟท์  เบียดๆกันออกมากับเพื่อนคนอื่นๆ แม่งก็ไม่มีบทสนทนาห่าอะไรนอกจากข้อสอบ(ปกติใช่มั้ยล่ะ?)

แต่ผมเสือกจำห่าอะไรไม่ได้เหมือนกัน เลยไม่ได้คุยอะไรมากมาย  แปปเดียวก็ต้องออกจากลิฟท์
   “แดกไรป่าวไกร?”

   ไอ้หนึ่งถามผม  ผมโบกมือ
   “รอโป๊ยว่ะ  ไปก่อนเลย”

   “เออ  เจอกันยูเนี่ยน”
   “ไม่ไปยูเนี่ยนว้อย!”
   “อย่าให้กูเห็นนะมึง!”
   “ฮ่าๆ”
   ผมกำลังหัวเราะไล่เตะเพื่อนออกจากลิฟท์กันมา ก่อนจะชะงัก  แล้ววิ่งเข้าหลืบทันที
   
พี่ปี4ตัวโตในชุดไปรเวทยืนรออยู่หน้าตึก
   ถามว่าใครน่ะหรือ?
ยังจะถามอีกเหรอ!
   เรื่องบ้าอะไรวะเนี่ย!!  เมื่อวานอุตส่าห์เก็บตัวติวหนังสืออยู่บ้านไอ้โป๊ย(ไปฝากท้องกับข้าวแม่มัน อร่อยเว่อร์)  

แถมปิดมือถือตัดการติดต่อกับทุกคนบนโลกไปเรียบร้อย  วันนี้เสือกมารอเจอหน้าคณะอีก!!
   …เดี๋ยว  
ใจเย็นๆไอ้ไกร
   ...เค้าอาจจะไม่ได้มารอมึงก็ด้าย
อย่าคิดมากสิวะ!
   คิดดังนั้นเลยพยายามสงบหัวใจตัวเอง
ก่อนจะค่อยๆชะโงกหน้าออกไป
   
..ไอ้ฉิบหาย
   ..แม่งเห็น  
และกำลังเดินตรงมา
   ผมหันกลับมาใหม่  ตัวแข็งยืนพิงกำแพง..อยากจะฝึกวิชานินจาปลอมเป็นเสาหรืออะไรเทือกนั้นได้จริงๆครับ

แต่ก่อนหน้านั้นผมต้องทำให้ใจตัวเองสงบลงก่อน  ทั้งๆที่รู้ว่ามันไม่ใช่..แต่ก็ยังหวั่นไหว ทั้งๆที่รู้ว่ามันไม่ดี..แต่ก็ยังใจเต้นโครมครามกับเรื่องที่เกิดขึ้น
   แล้วทันใดนั้นเอง…

   “อ้าวไกร  มาหลบอะไรอยู่ตรงนี้น่ะ?”
   นางฟ้าก็เดินออกจากลิฟท์มา  ทักผมพอดีครับ
   ผมเปลี่ยนมายืนไขว้ขาสบายๆ  พูดง่ายๆว่าเก๊ก

“เปล่า  รอโป๊ย”
   “อ้อ” เธอยิ้ม..มันเป็นรอยยิ้มที่ทำให้ผมยิ้มตามครับ“ทานข้าวด้วยกันมั้ย?”
   “ไม่ล่ะ  แก้วไปเถอะ”
   “จ้า  อ๊ะ..พี่วัน!”
   เสียงใสๆที่เรียกแบบนั้นทำให้ผมเจ็บ
   ‘ไอ้พี่วัน’ เป็นรูปแบบที่ผมเรียกเขาบ่อยที่สุด และด้วยเสียงไม่หวานไม่ใสแบบแก้ว  เสียงแบบที่เป็นผมซึ่ง..เอ่อ..

จะมีกระแสความเกรียนแฝงอยู่เสมอ  และมันก็เจ็บ..เจ็บตรงที่จะทำยังไงผมก็น่ารักแบบนั้นไม่ได้
   …..เดี๋ยวนะ  กูกำลังกลายพันธ์เป็นตุ๊ดตั้งแต่เมื่อไหร่?

   ผมทุบหัวตัวเองทีนึง  ขณะที่บทสนทนานั่นก็ดำเนินต่อไป
   “มารอแก้วเหรอคะ?”

   “เปล่า”
   มือที่เพิ่งทุบหัวตัวเองของผมชะงัก..คาไว้กลางอากาศ
   สุรเสียงทุ้มนุ่มเจือกระแสอ่อนโยน
แต่คำพูดที่หักหาญน้ำใจไปนิดหน่อยนั่นแหละที่ทำให้ผมตกใจ
   “พี่มารอไกรน่ะ”

   ในอกพองโตขึ้นมา
   …ผมพยายามห้ามครับ  พยายามอย่างสุดวิธีแล้ว  
แต่ผมห้ามมันไม่ได้
   
..ผมดีใจ
   แต่ไม่ใช่  ผมควรจะหยุดมันตรงนี้..ควรจะหยุด..และ..ทำเหี้ยอะไรสักอย่างที่ให้ตัวเองหยุดยิ้ม หรือบ้าอะไรก็ช่างแม่งเหอะ  ผมกระทืบเท้าเบาๆ หยิกแก้มตัวเอง  พยายามดึงตัวเองที่หนักอึ้งนี่ขึ้นมาจากฝัน…
แม่งต้องใช้พลังมาก
   อีกนิดเดียว..เกือบจะหยุดได้แล้ว…………….

   “…พี่ขอคุยด้วยหน่อย”
   คำพูดนั้นรินอยู่ที่ข้างหู  ผมตกใจ..แต่มากกว่านั้น  หลายเท่าทีเดียว เพราะตอนนั้นผมกำลังบี้แก้มตัวเองอย่างเอาเป็นเอาตายโดยไม่ทันสังเกตว่าอีกฝ่ายมายืนอยู่ตรงนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่!!
   “อะไร?” ผมถาม
ไม่กล้าหันไป
   เขาพยักเพยิดไปทางด้านในของซอกนั้น ไม่ต้องเดาหรอกครับ  จำตรอกเล็กๆในวันแรกที่ผมเห็นเขาเป็นจระเข้ได้มั้ย ตรอกนั้นแหละ  
แต่เพราะมันเป็นเวลากลางวัน..เลยไม่ดูน่ากลัวเหมือนครั้งที่แล้ว
   
เขายังคงยืนอยู่ตรงนั้น..ข้างตัวผม
   ...
และรอให้ผมเดินนำเขาเข้าไปก่อน
   ประหม่า  ตื่นเต้น ดีใจ  และ..เจ็บปวด  ความรู้สึกมากมายตีกันอยู่ในสมอง  และที่มากกว่านั้นคือความสับสน

กับปัญหามากมายที่ผมไม่รู้จะเรียบเรียงมันออกมายังไงในเวลานี้
   ผมหยุดเดินเมื่อมาถึงได้ครึ่งทาง แต่พี่วันกลับทำท่าเหมือนอยากให้เดินไปจนสุด  ผมก็ไม่ว่าอะไรครับ..ทำตามที่เขาต้องการ  จนกระทั่งเรามาอยู่หน้าห้องเก็บของ และไกลจนได้ยินเสียงจ้อกแจ้กที่หน้าโถงลิฟท์ได้แค่ลางๆ
   “หันมาสิ”

   เขาบอกผม  และทำอะไรไม่ได้นอกจากทำตามคำสั่งนั้น
   และเขาก็ยิ้ม

“วันนี้ไม่ดื้อแหะ”
   ผมไม่ได้ตอบ
   “ไกร  เป็นอะไรครับ?”

   ผมยังคงเงียบอยู่
   “ไกร…”

   “ผมไม่รู้จะอธิบายยังไง” ผมบอกเขา  เสียงห้วนไปนิด

“…นี่พี่ไม่คิดจะเข้าใจอะไรเลยรึไง?”
   “พี่เข้าใจว่าไกรโกรธพี่”
   “เออ” ผมตะคอก

“โกรธ  โกรธมาก!”
   “เรื่องอะไร…”
   “ยังต้องถามอีกเหรอ!?!”
   เขาเงียบไปแปปนึง

“พี่ไม่รู้  ไกร พี่…ไม่รู้จริงๆ”
   ผมมองหน้าเขา..เสียงอ่อนแบบนั้นทำให้ผมใจเย็นลงได้นิดหน่อย ผมรู้แล้วว่าปัญหามันเกิดจากอะไร  ปัญหา

มันเกิดจาก…การที่เขาไม่รู้อะไรเลย เขาไม่มีสำนึกในการเป็นมนุษย์เลยสักนิด
   “แก้วเป็นใคร?”

   การเริ่มคำถามนั้นยากเสมอ  ผมคิดว่ามันหยาบคายไปหน่อย..แต่ก็พูด
   อีกฝ่ายเลิกคิ้ว

“ถามทำไม?”
   “แก้วเป็นอะไรสำหรับพี่?”
   “น้อง” เขาตอบชัดเจน

“รุ่นน้องในคณะ”
   “…ที่น่ารักและอยู่ด้วยแล้วมีความสุข?”
   “เมื่อก่อนน่ะใช่  เดี๋ยวนี้ไม่แล้ว”
   ผมไม่อยากต่อคำถามกับคำตอบนั้น

“แล้วมาลาล่ะ?”
   “มาลา?” เขาทวนคำ

“เรื่องนี้เกี่ยวกับมาลาด้วยเหรอ?”
   “ตอบมาเถอะน่า”
   “…มาลาเป็นเด็กในบ้าน”
   “เด็กยังไง?”
   “คอยรับใช้  ปรนนิบัติ…”
   “ปรนนิบัติถึงเตียงเลยว่างั้น?”
   อีกฝ่ายถึงกับชะงัก  แล้วยิ้มหวาน

“รู้ล่ะว่าไกรเป็นอะไร…นี่ใช่มั้ยที่เค้าเรียกกันว่า‘หึง’ ?”
   “เออ!” ผมตะคอก รู้สึกเกลียดรอยยิ้มนั่นขึ้นมา..เกลียดที่ตัวเองยังใจเต้นอยู่

“แล้วมันน่ามั้ยล่ะ!?!”
   “เวลาหึงนี่ต้องโกรธแบบนี้ทุกคนเลยรึเปล่า?”
   ผมมองตาเขียวปั๊ด

“เออ!”
   “มาลาเป็นเด็กรับใช้…เอ่อ..แบบที่ไกรว่าน่ะแหละ” พอเห็นผมโกรธจริงๆ คนตรงหน้าก็ค่อยๆจริงจังขึ้นมา

“มาลาก็เรื่องนึง  เขาเด็กที่สุดในบรรดาเด็กรับใช้……..”
   “ยังมีคนอื่นอีกเรอะ!?!”
   “ใจเย็นๆสิ  พี่กำลังอธิบายอยู่นี่ไง..”

   “ไม่ยงไม่เย็นมันแล้วว้อย!” ผมกระชากคอเสื้อเขาลงมา

“มีกี่คน!  บอกมาให้หมดเดี๋ยวนี้!”
   “หมดเลยเหรอ?”
   “กี่คน!?!”
   “เอ่อ…นอกจากมาลาแล้วก็มีแค่วรรณนาอีกคนนั่นแหละ คนอื่นๆเป็นเด็กรับใช้ของอาพี่”
   “สองคนอยู่บ้านเดียวกัน!?” ผมทวนสรุปความอีกครั้ง

“แล้วนี่เค้าไม่ตีกันตายเหรอ?”
   “จะตีกันตายทำไม?”
   “ไอ้คนเจ้าชู้  รู้มั้ยว่าสมัยนี้เค้าต้องผัวเดียวเมียเดียวแล้ว!”
   “….มาลากับวรรณนาไม่ใช่เมียพี่สักหน่อย เป็นตัวผู้นี่นา…”
   ผมกัดฟันกับคำแถนั่น

“ไกรเองก็เป็นผู้ชาย”
   “ใช่” เขามองตาผม..แล้วยิ้มให้

“แต่ไกรพิเศษกว่านั้น”
   ตูม!
   เสียงระเบิดอีกดอก  แต่ช่างมันก่อน..ตอนนี้ผมต้องอาละวาด..ใช่!
ต้องอาละวาด!
   อาละวาดครับ..อาละวาดโดยการก้มหน้าลงมาให้เขาปลอบ…อีกฝ่ายขยับเข้ามาใกล้  ค่อยๆใช้ปลายนิ้ว

เกลี่ยแก้มผม  ส่วนที่สัมผัสกันมันเย็น..ชวนให้จักจี้ และ..หวั่นไหว
   “ถ้าพี่ยังเป็นอย่างนี้ต่อไป…” ผมสูดลมหายใจ  พยายามควบคุมสติ

“คนที่เจ็บ…จะไม่ใช่แค่ไกรคนเดียว”
   “พี่ขอโทษ” เขาบอกผม ดึงผมเข้าไปใกล้ๆ

“พี่ต้องทำยังไง…ไกรถึงจะไม่ร้องไห้”
   “ไม่ได้ร้อง!”
   “ครับ  ไม่ได้ร้อง”เขากระซิบ

“งั้นดีกันนะ?”
   ผมรู้สึกหน้าร้อนวูบ

“ไม่”
   “พี่ต้องทำยังไงไกรถึงจะดีด้วยล่ะ?”
   ใช่ครับ  คำตอบของคำถามนั้นแม่งง่ายนิดเดียว…
   “เลิกเจ้าชู้”
   “….ไกรบอกว่าพี่เจ้าชู้  แต่..พี่ไม่รู้ว่าทำยังไงนี่นา”
   “เลิกยิ้มให้คนอื่น”
   “…ขนาดนั้นเลยเหรอ?”
   “ยิ้มก็ได้” ผมผ่อนลมหายใจรู้สึกถึงแขนเขาที่โอบรอบคอ รู้สึกถึงหน้าผากที่แตะสัมผัสกัน

“แต่ต้องไม่พูดจาหวานๆกับใคร  ต้องไม่จีบไปทั่ว…ต้องไม่ทำตัวแบบที่ทำกับไกรอย่างนี้…กับคนอื่น”
   เขายิ้ม

“ครับ  ได้”
   “บอกแก้วให้เรียบร้อยด้วย”
   “บอกอะไร?”
   “บอกว่าไม่ได้ชอบแก้ว”
   “ครับ  ได้”
   “……ได้จริงเหรอ?”
   “ก็…ถ้าไกรบอกให้ทำนะ”
   ..แม่งยังจะปากหวาน!..

“แล้วมาลา…กับ…วรรณนา…..”
   อีกฝ่ายผ่อนลมหายใจ

“ไกร..พี่ขอโทษ  แต่พี่ต้องใช้พวกเขาตอนถึงฤดู”
   “ฤดูอะไร?”
   “ฤดูผสมพันธุ์…นี่ยังต้องถามอีกเหรอ?
   ผมหน้าแดง  ก้มหน้างุด

“…….ไม่ได้”
   “อะไรไม่ได้?”   “บอกว่าไม่ได้ก็ไม่ได้”
   “ไกร  เวลาจระเข้ติดสัดมัน……ลำบาก…นะ…..”
   “เพราะงั้นเลยต้องมีสองคนนั้นเหรอ?”
   “ก็ใช่น่ะสิ”
   “แล้วสองคนนั้นไม่ทะเลาะกันบ้างรึไง?”
   “ทะเลาะเหรอ?  เห็นรักกันดีนะ”
   “แย่งพี่คนเดียวเนี่ยนะ!?”
   “แล้วมันไม่ดียังไง”
   “ไม่ดี” ผมตอบ ชัดเจน

“ถ้าเป็นไกร…ไกรจะไม่ใช่พี่ร่วมกับใคร”
   “เขาไม่ได้ใช้พี่  พี่ต่างหากที่ใช้เขา”
   “ไอ้พี่วัน!”
   “เอ๋?  พี่พูดอะไรผิด”
   ผมชักหงุดหงิดกับความประสาทแดกของคนตรงหน้า

“งั้นพี่ต้องเลือกแล้วล่ะ  เพราะไกรจะไม่ใช้พี่ร่วมกับสองคนนั่น”
   “เลือกอะไร?”
   “ระหว่างไกร…กับเด็กมาลาวรรณนานั่น”
   ผมรู้แล้วล่ะว่าไอ้ที่ผมทำอยู่มันงี่เง่าแค่ไหน และไอ้ที่พูดออกไปมันมีความเสี่ยงมากน้อยเพียงใด  การลองใจเป็นอะไรที่แย่..แย่ตรงที่ถ้าผลลัพธ์มันไม่เป็นดั่งใจ..คนที่เจ็บก็ไม่ใช่ใครเลยนอกจากตัวเราเอง
   แต่ถ้าเรายังเป็นอย่างนี้ต่อไปโดยไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง…
ทุกคนก็จะเจ็บไปพร้อมๆกัน
   มือใหญ่ทั้งสองข้างประคองแก้มผมขึ้น…
ให้ผมสบตากับเขา
   ดวงตาคู่นั้นค่อยๆเปลี่ยนเป็นสีทอง…ตาดำกลมก็ค่อยๆเปลี่ยนเป็นเส้นเรียวแหลม  ผมเคยเห็นแบบนี้มานับ

ต่อนับ  แต่ระยะที่ปลายจมูกแทบจะชนกันแบบนี้ผมไม่เคยมาก่อน…ลึกลงไปในนั้นมันสั่นไหว  มันดูเศร้าและ…ว้าเหว่…   …….และเพียงแค่นั้น…ผมก็รู้คำตอบ
   “ฟังให้ดีนะครับ”

   เขากระซิบ…เสียงเบามาก
   “พี่ชอบไกร  ชอบ…แบบที่ไม่เคยชอบ ‘มนุษย์’ คนไหนแบบนี้มาก่อน”

   คำบอกรักที่ทำให้หัวใจหยุดเต้น ไม่ได้หอมหวาน..ไม่ได้ชวนลุ่มหลงแบบที่เขาพูดกับผมบ่อยๆ มันจริงจัง..ติดจะแข็งกระด้าง……จนเจ็บปวด
   “เพราะ…ไกรบอกว่าไกรไม่กลัวพี่ เพราะไกรบอกว่าไกรรับที่พี่เป็นได้  เพราะไกรแตกต่าง…เพราะไกรพิเศษ  เพราะไกรเป็น…อะไรที่มากกว่านั้น  เห็นไกรทำหน้าเหมือนจะร้องไห้  พี่ก็เจ็บ..เห็นไกรหลบหน้าพี่  พี่ก็เจ็บ…และพี่ไม่เคย…รู้สึกอะไรแบบนี้  ไม่เคยคิดว่าต้องมาทำอะไรแบบนี้  กับมนุษย์…”

   คนตรงหน้าเคยบอกผมว่าเขาไม่ถนัดอธิบาย ซึ่งก็จริงของเขา..ผมรู้ว่าเขาไม่ถนัดอธิบาย
   
แต่เขาก็ยังพูดกับผม
   ..พูดยาวเหยียด  
แบบที่เขาไม่เคยพูด..
   “พี่คิดว่าพี่จะได้อยู่กับไกรแบบนี้ไปอีกสักพัก ถ้าให้ต้องเลือกระหว่างไกรกับมนุษย์คนอื่นๆเป็นพันๆล้านๆคน

พี่ก็ต้องเลือกไกร..ของมันแน่อยู่แล้ว พี่คิดว่าอย่างน้อยครั้งหนึ่งพี่ก็เคยมีความสุขกับมนุษย์ เคยชอบมนุษย์…เคยทำอะไรนอกเหนือจากที่พ่อบอกให้ทำ พี่รู้ว่ามันคงจะเป็นแบบนี้ต่อไปได้อีกไม่นาน  และถ้าในระยะยาว  และ…ถ้าไกรถามพี่….”
   ..ศัตรูตามธรรมชาติของจระเข้..คือมนุษย์..
   “พี่ขอโทษ”

   เจ็บลงที่กลางใจ..
   ..รุนแรงแค่ไหน  
แต่ครั้งนี้กลับไม่มีน้ำตาออกมา..
   “….แต่พี่หันหลังให้จระเข้ด้วยกัน..ไม่ได้”

   ผมคิดว่าผมเข้าใจคำอธิบายนั้นนะ..แต่หัวใจ..มันไม่เป็นไปตามนั้น..
   ผมรู้ครับว่าผมเป็นมนุษย์  และการที่เขาย้ำตลอดว่าผมเป็นมนุษย์มันก็เหมือนย้ำให้รู้ว่าเราแตกต่างกัน ที่จริงผมไม่ได้หมายความว่าอยากให้เขาทำอะไรถึงขนาดนั้นเพื่อผม เป็นใครใครก็ต้องเลือกครอบครัวอยู่แล้ว  แค่ขอร้องให้เลิกยุ่งในภาษากาย…นี่ผมอธิบายอะไรที่เข้าใจยากไปงั้นเหรอ?

   …หรือว่ามันเป็นไปไม่ได้ตั้งแต่แรกอยู่แล้ว?
   …ไม่ใช่แค่เรื่องชายรักชายงั้นสิ? เป็นเรื่องของมนุษย์กับจระเข้งั้นสิ?
   ผมคิดว่าผมเข้าใจคำอธิบายนั้นนะ
   
..แต่หงุดหงิดเป็นบ้า..!
   ผมเคาะประตูห้องพักอาจารย์ที่ผมรู้จักดี แต่ครั้งนี้เสียงเคาะมันเบาหวิว  
และก็เปิดประตูเข้าไป
   
อาจารย์คงชะโงกหน้าออกมาจากหน้าคอมพิวเตอร์
   “เอ่อ…เห็นเพื่อนบอกว่า’จารย์เรียกผม…”

   ที่จริงยอมรับเลยว่าผมไม่มีอารมณ์จะมาหาหรอกครับ แต่เพราะเห็นว่าเป็นเรื่องกระดาษคำตอบที่ผมเขียนไปสามบรรทัดเมื่อวันพุธ ดังนั้นอย่างที่ทุกคนเข้าใจน่ะแหละ  คะแนนคือชีวิตของนักศึกษา ไม่ใช่จระเข้บ้าๆที่จะมาทำให้ปั่นป่วนจนเสียการเรียน!
   และ’
จารย์แกก็หยิบกระดาษคำตอบของผมออกมาวางไว้ตรงหน้า
   ผมเดินเข้าไปนั่งที่เก้าอี้ฝั่งตรงข้าม
มองคำตอบสามบรรทัดด้วยสายตาละเหี่ยใจ
   “มีอะไรจะอธิบายมั้ย?”

   “ไม่ครับ” ผมตอบ “ผมพลาดเอง”
   “พลาดไปเยอะนะเอ็ง”
   “ครับ”
   “วิชาถนัดไม่ใช่รึไง?  ข้าแปลกใจนะ”
   “ครับ…เคยถนัด…มั้ง”
   “เกรียงไกร”
   “ครับ”
   “มีปัญหาอะไรรึเปล่า?”
   “มีครับ” ผมไม่ปฏิเสธ และก็นั่งห่อไหล่ “ผมขอโทษครับจารย์”
   “ขอโทษทำไม  ไม่เกี่ยวกะข้านี่”
   “เกี่ยวกับเกรด…รึเปล่าครับ”
   “ก็ต้องเกี่ยวสิวะ”
   “ผมตกมีนรึเปล่าครับ?”
   “จะเหลือเรอะ!”
   “โถ่จารย์” ผมเริ่มงอแง“ให้ผมทำไรบอกผมมาได้เลยครับ  นะๆ”
   “เออ  พูดงี้ค่อยน่าช่วยหน่อย”
   “เย้”
   ผมกระดิกหางกระตือรือร้นทันทีที่อีกฝ่ายเปิดลิ้นชักหยิบอะไรสักอย่างออกมา มันเป็นกระดาษเปล่า  และทิ้งให้ผมนั่งงงเต้กอยู่แบบนั้นสักพัก
ก่อนผู้สูงวัยกว่าจะถอดแว่นออก..แล้วจ้องมองผม
   “สนิทกับทิวันปี 4 ใช่มั้ย?...พักนี้น่ะ?”

   คำถามนั้นมันชวนอึ้งไม่น้อย  แต่ผมก็พยักหน้าออกไป
   “สนิทมากแค่ไหน?”

   “ไม่ครับ  ไม่มาก..”
   “เคยไปบ้านทิวันรึเปล่า?”
   ผมมองเขา

“ผมไม่เข้าใจ..พี่วันเกี่ยวอะไร…..”
   “ตอบข้ามา” เขาย้ำอีกครั้ง และ..มันทำให้ผมต้องนั่งหลังตรง

“เอ็งเคยไปบ้านทิวันรึเปล่า?”
   แม้จะมีความลังเล  แม้ว่าจะไม่อยาก..แต่ผมก็พยักหน้า

“เคย…ครับ”
   “บอกได้มั้ยว่าอยู่ตรงไหน?”
   “อาจารย์ถามไปทำไม?”
   “ตอบมาเถอะน่ะ” อีกฝ่ายหยิบกระดาษคำตอบสามบรรทัดของผมขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง

“ถือเป็นโอกาสแก้ตัว   แค่ตอบคำถามง่ายๆแค่นี้มาแล้วข้าจะช่วยเอ็ง มันไม่ยากเลยใช่มั้ยล่ะ?”
   “แต่…นี่มัน…”
   “คิดซะว่านี่คือโอกาส”
   “อาจารย์บอกผมก่อนได้มั้ยว่าจะถามไปทำไม”
   “ตอบมาก่อน”
   “แต่…”
   “โอกาส” เขาย้ำอีกครั้งโบกกระดาษคำตอบนั้นไปมาต่อหน้าผม

“ผ่านมา  แล้วจะผ่านไป”
   ผมมองตามกระดาษแผ่นนั้น  ที่จริงผมไม่ได้มองมันเท่าไหร่หรอก..จะบอกว่าไม่ได้แคร์ด้วยก็ใช่ ผมว่ามันประหลาด..และถึงลางสังหรณ์ผมจะไม่ค่อยแม่นนักแต่ก็คิดว่าเรื่องนี้มันไม่ชอบมาพากล
   
ดวงตาของอาจารย์คงเดช..ดูน่ากลัว
   …กว่าตาสีทองของจระเข้ที่ผมเคยเห็นซะอีก…

   และเมื่อเห็นผมเงียบ  เขาจึงย้ำคำถามเดิมอีกครั้ง
   “…บ้านของไอ้หมอนั่น…อยู่ที่ไหน?”

‘เขาเป็นใครเราเป็นใคร..ใช่ครองคู่’
เรามิรู้ผู้ใดใคร่ใช่ตัวฉัน
เรามิเห็นแม้นตาจับจ้องกัน
เราเท่านั้นรู้เพียงมั่นลั่นหัวใจ
‘เขาเป็นใครเราเป็นใคร..ใช่ครองรัก’
แม้นนึกพักก็มิอาจห้ามปรามไหว
รู้ว่าผิดรู้ว่าแย่รู้กว่าใคร
หวังเอาไว้เขาเป็นใคร
…ใช่ศัตรู

หัวหน้าห้อง

โพสต์
343
พลังน้ำใจ
2578
Zenny
588
ออนไลน์
440 ชั่วโมง

นายกองค์การนักศึกษา

โพสต์
5093
พลังน้ำใจ
37783
Zenny
33834
ออนไลน์
3170 ชั่วโมง
ขอบคุนค๊าฟ

มาเฟียคุมคณะ

โพสต์
14896
พลังน้ำใจ
75897
Zenny
24556
ออนไลน์
11803 ชั่วโมง
ขอบคุณคร้าบ

มาเฟียคุมคณะ

โพสต์
14896
พลังน้ำใจ
75897
Zenny
24556
ออนไลน์
11803 ชั่วโมง
ขอบคุณคร้าบ

มาเฟียคุมคณะ

โพสต์
14896
พลังน้ำใจ
75897
Zenny
24556
ออนไลน์
11803 ชั่วโมง
ขอบคุณคร้าบ

นายกองค์การนักศึกษา

โพสต์
4356
พลังน้ำใจ
29905
Zenny
21633
ออนไลน์
2276 ชั่วโมง

นายกองค์การนักศึกษา

โพสต์
1446
พลังน้ำใจ
13696
Zenny
6798
ออนไลน์
830 ชั่วโมง
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ลงชื่อเข้าใช้ | สมัครเข้าเรียน

รายละเอียดเครดิต

A Touch of Friendship: สังคมจะน่าอยู่ เมื่อมีผู้ให้แบ่งปัน ฝากไวเป็นข้อคิดด้วยนะคะชาวจีโฟกายทุกท่าน
!!!!!โปรดหยุด!!!!! : พฤติกรรมการโพสมั่วๆ / โพสแต่อีโมโดยไม่มีข้อความประกอบการโพส / โพสลากอักษรยาว เช่น ครับบบบบบบบบ, ชอบบบบบบบบ, thxxxxxxxx, และอื่นๆที่ดูแล้วน่ารำคาญสายตา เพราะถ้าท่านไม่หยุดทีมงานจะหยุดท่านเอง
ขอความร่วมมือสมาชิกทุกท่านโปรดโพสตอบอย่างอื่นนอกเหนือจากคำว่า ขอบคุณ, thanks, thank you, หรืออื่นๆที่สื่อความหมายว่าขอบคุณเพียงอย่างเดียวด้วยนะคะ เพื่อสื่อถึงความจริงใจในการโพสตอบกระทู้ และไม่ดูเป็นโพสขยะ
กระทู้ไหนที่ไม่ใช่กระทู้ในลักษณะที่ต้องโพสตอบโดยใช้คำว่าขอบคุณ เช่นกระทู้โพล, กระทู้ถามความเห็น, หรืออื่นๆที่ทีมงานอ่านแล้วเข้าข่ายว่า โพสขอบคุณไร้สาระ ทีมงานขอดำเนินการตัดคะแนน และ/หรือให้ใบเตือนสมาชิกที่โพสขอบคุณทันทีที่เจอนะคะ

รูปแบบข้อความล้วน|โทรศัพท์มือถือ|ติดต่อลงโฆษณา|จีโฟกายดอทคอม


ข้อความที่ท่านได้อ่านในเว็บจีโฟกายดอทคอมนี้ เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชน และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ หากท่านพบเห็นข้อความใดๆ ที่ขัดต่อกฎหมาย และศิลธรรม ไม่เหมาะสมที่จะเผยแพร่ ท่านสามารถแจ้งลบข้อความได้ที่ Link “แจ้งลบโพสนี้” ที่มีอยู่ใต้ข้อความทุกข้อความ หรือ ลืมพาสเวิดล๊อกอิน/ลืมชื่อที่ใช้สมัคร หรือข้อสงสัยใดๆแจ้งมาที่ G4GuysTeam[at]yahoo.com ขอขอบพระคุณที่ให้ความร่วมมือ

กรณีที่ข้อความ/รูปภาพในกระทู้นี้จัดสร้างโดยผู้ลงข้อมูลเอง ลิขสิทธิ์จะเป็นของผู้ลงข้อมูลโดยตรง หากจะทำการคัดลอก/เผยแพร่ ต้องได้รับอนุญาตจากผู้ลงข้อมูลก่อนนะคะ หรือลงที่มาไว้ด้วยค่ะ

©ขอสงวนสิทธิ์คอนเซ็ปต์,คำอธิบาย,หัวข้อ/หมวดหมู่เว็บ ห้ามลอกเลียนแบบ คิดเอาเองนะคะอย่าเอาแต่ลอก

GMT+7, 2024-5-4 23:37 , Processed in 0.094142 second(s), 25 queries .

Powered by Discuz! X3.1 R20140301, Rev.31

© 2001-2013 Comsenz Inc.

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้