ตอนที่8
เสียงเปิดประตูทำให้น้องไอซ์ที่หลบไปนั่งที่โซฟาสะดุ้งเล็กน้อย
น้องเขาก้มหน้าอ่านหนังสือใหญ่เลยครับท่าทางจะเขินมาก
ผมยิ้มดีใจที่ทุกอย่างเริ่มเป็นไปตามแผน
ผมก็ใส่เสื้อผ้าครับใส่เสื้อกล้ามกับบ็อกเซอร์เอาตัวที่มันบางๆ ให้น้องชายผมมันนูนๆพอเห็นเป็นลำหน่อย
เสร็จแล้วก็ไปนั่งที่เตียงทำท่าจะนอน
“พี่บั้มพ์จะนอนแล้วเหรอครับ”
“อืมมง่วงแล้ว” ผมตอบพร้อมทำเป็นหาว
“ถ้าน้องไอซ์อยากอ่านหนังสือก็อ่านไปเถอะ”
“ไม่เป็นไรครับผมเองก็ง่วงแล้ว” น้องเขาตอบแบบเกรงใจ
ผมเลยเดินไปปิดไฟแล้วเดินมานอนที่เตียง
ผมเห็นน้องไอซ์ล้มตัวลงนอนที่โซฟาพร้อมหยิบเป้มาหนุนหัว
“อ้าว!ทำไมไม่นอนที่เตียงด้วยกันล่ะ” เล่นนอนคนละที่ แล้วกูจะปล้ำยังไงว่ะ
“ผมเกรงใจครับ” ถ้ามึงไม่อยากเกรงใจก็มานอนกับกูนี่
“ไม่เป็นไรหรอกเตียงพี่กว้าง นอนได้ มานอนด้วยกันดิ” ผมพูดพร้อมตบเตียงนอนเป็นการเชื้อเชิญ
น้องไอซ์นิ่งอยู่พักใหญ่ก่อนจะเดินมานอนที่เตียงข้างผม
พอมามานอนที่เตียงน้องเข้านอนคนละฟากกับผมเลยครับสงสัยกลัวผมจัด
“ทำไมไปนอนซะขอบเตียงไม่กลัวตกเหรอไง”
น้องไอซ์ได้ยินอย่างนั้นเลยเขยิบเข้ามาใกล้ผมอีกนิดหน่อย แต่ก็ยังนอนหันหลังอยู่
กูหน้ากลัวขนาดนั้นเลยเหรอว่ะ
ปล่อยให้เหยื่อมันสบายใจไปก่อนว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นแล้วค่อยตะครุบตอนที่เผลออิอิอิ ผมพยามทำเป็นหลับแล้วก็ต้องพยายามไม่ให้ตัวเองหลับด้วย
ผมรู้สึกว่าน้องไอซ์มันพลิกตัวไปมาไม่ค่อยอยู่สุก มันนอนดิ้นหรือเปล่าว่ะ
ผมเลยหันไปมองแต่พยายามไม่ให้น้องเค้ารู้ว่าผมตื่นอยู่
น้องไอซ์มันก็ยังไม่เลิกพลิกตัวไปมาผมคิดว่าคงมานอนแปลกที่เลยไม่ค่อยคุ้นมั้ง
“นอนไม่หลับเหรอ” ผมเป็นคนเอ่ยขึ้นมาก่อน
“อะครับผมทำให้พี่ตื่นหรือเปล่า” มึงไม่ได้ทำให้กูตื่นอย่างเดียวน้องชายกูก็เริ่มตื่นแล้วโว้ย
“เป็นอะไรเหรอ”
“คงมานอนแปลกที่ครับเลยไม่ค่อยคุ้น” เป็นอย่างที่กูคิดเลย
“จริงเหรอไม่ใช่คิดมากเรื่องอื่นนะ” ผมพยายามหาเรื่องคุยยกเอาเรื่องแฟนมันมาคุยดีกว่าท่าทางคงได้คุยอีกยาว
“ก็คิดนิดหน่อยครับผมเองพยายามจะลืมแต่ มันก็ยังลืมไม่ได้” น้องไอซ์เริ่มหยุดพลิกตัวกลับลุกขึ้นมานั่ง
“รักครั้งแรกมันคงเป็นอะไรที่ฝังใจ แล้วพี่บั้มพ์ล่ะครับ รักครั้งแรกเป็นยังไง” น้องไอซ์เป็นฝ่ายถามผมบ้าง
“อืมมตอนนั้นพี่อยู่มอปลายว่ะ เริ่มจีบผู้หญิงจริงๆจังๆพี่ไปชอบคนๆหนึ่ง น่ารักดี พี่ก็เข้าไปคุย ไปตีสนิท ซื้อช่อดอกไม้ไปให้วันวาเลนไทน์เอาเค้กไปให้วันเกิดที่บ้านไม่กลัวพ่อแม่เขาจะมาไล่ และก็ทำอะไรให้เขามากมายแต่สุดท้าย เขาก็ไปเป็นแฟนคนอื่น” ผมพูดถึงอดีตของตัวเองตอนนั้นผมก็คงทำเหมือนผู้ชายทั่วไปเค้าทำกันเวลาจีบผู้หญิง
“พี่บั้มพ์โรแมนติกจัง” ไอซ์มันชมผมครับผมเขินยังไงก็ไม่รู้
“แล้วพี่บั้มพ์มีแฟนยังครับ” น้องไอซ์ถาม
“ไม่มีหรอกคนอย่างพี่ใครจะมาสน หล่อก็ไม่หล่อ รวยก็ไม่รวย” ผมตอบประชดประชันตัวเอง
“จริงเหรอพี่บั้มพ์น่ารักและใจดีจะตาย ไม่ค่อยอยากจะเชื่อเลยว่าไม่มีแฟน” ทำไมมันพูดเหมือนกับไอ้เบนซ์เลยว่ะ
“ก็พูดเกินไปพี่มันก็แค่ผู้ชายธรรมดาธรรมดาคนหนึ่งเท่านั้นแหล่ะ”ผมพูดเสร็จก็เอามือไปลูบหัวน้องไอซ์
ตอนนั้นรู้สึกเอ็นดูมันขึ้นมาผมอยากมีน้องชายน่ารักๆอย่างนี้บ้างจังไม่เหมือนไอ้บาสน้างชายจริๆของผม ที่วันๆเอาแต่เที่ยวเล่นไม่สนใจการเรียนทำแต่เรื่องให้แม่ปวดหัวทุกวัน
ผมยังลูบหัวไอซ์พร้อมกับสายตาที่จ้องใบหน้าอันขาวใส และดวงตาของหนุ่มน้อยก็จ้องมองมาทางผมเหมือนกัน
แม้ห้องจะมืดแต่แสงของดวงจันทร์ก็สาดเข้ามาในห้องทำให้ใบหน้าอันขาวใสนั้นยิ่งดูเด่นกว่าตอนเปิดไฟ
ผมรู้สึกว่าตัวเองลืมแผนการที่วางไว้ไปหมด
มือของผมที่ลูบหัวก็ค่อยๆมาจับที่ใบหน้าของหนุ่มน้อยชาวเหนือ
นอกจากหน้าจะใสผิวหน้ายังเรียบเนียบและนุ่มด้วย
ผมยื่นหน้าไปจูบที่แก้มแล้วก็ไล่ลงมาที่ปาก
น้องไอซ์เอามือมาโอบตัวผมแล้วเขยิบตัวเข้ามาใกล้จนหน้าอกของเราชิดกัน
ผมรู้สึกว่าใจตัวเองเต้นแรงยังไงพิกล
น้องไอซ์เองก็เต้นแรงไม่แพ้ผม
เราจูบกันอยู่นานจนผมใช้มือลูบไล้ไปทั่วตัวของน้องไอซ์
“ถอดเสื้อซิ” น้องไอซ์กระซิบข้างหูผมเหมือนเป็นคำสั่ง
ผมเหมือนโดนเวทย์มนตร์เลยเป็นคนถอดเสื้อให้
ผมเองก็ถอดเสื้อเหมือนกัน
เมื่อเนื้อโดนเนื้อร่างกายก็สั่งให้ทำงานด้วยตัวของมันเอง
แม้ทุกอย่างจะไม่ต่างจากเมื่อวานที่ผมมีอะไรกับเบนซ์
แต่ที่ต่างคือความรู้สึก
ผมดึงเชือกที่มัดอยู่บนกางเกงเลย์ของน้องไอซ์ออกแล้วค่อยๆถอนกางเกงนั้นออกไป
แล้วใช้มือไปคล่ำๆที่จุดนั้น
“อาส์......” น้องไอซ์ครางพร้อมซบหน้ามาที่หน้าอกผม
ผมเริ่มปลอบด้วยการจูบที่หน้าผาก
“ครั้งแรกเหรอ” ผมถามเพราะเห็นน้องเค้ายังกลัวๆ
“ป่าวคือผมมีเซ็กส์ครั้งแรก กับคนที่ไม่ใช่แฟน” เออผมลืมไปมันเคยมีแฟนนี่หว่า
“แล้วทำอะไรกับแฟนบ้างล่ะ” ผมพูดเชิงขำขำ
ไอซ์หัวเราะพร้อมค่อยใช้ลิ้นไล่ไปตามซอกคอผม
แล้วก็ไล่มาที่หน้าอกผมแล้วใช้ลิ้มมาวนอยู่ตรงหัวนมพอดี
“อ้า.......” ผมสะดุ้งพร้อมร้องเสียงครางออกมา
ยังไอซ์ยังไม่หยุดแค่นั้น ยังคงใช้ลิ้นไล่ลงมาตามร่างกาย
จนมาถึงสะดือแล้วค่อยๆใช้ลิ้นตะวัดเจ้าชายน้อยที่กำลังผงาดอยู่ตรงหน้าน้องหน้าใส
“โอ้ว.....” คราวนี้ผมสะดุ้งไปทั้งตัวจนเจ้าชายน้อยของผมไปชนหน้าน้องไอซ์
น้องไอซ์ไม่พลาดโอกาสใช้ปากครอบเจ้าชายน้อยของผมไปจนมิดหัว
ผมมองน้องไอซ์ที่ก้มๆเงยๆตรงหว่างขา
ความรู้สึกเสียวซ่านไปทั้งร่างกายกับภาพที่เห็นตรงหน้า
ผมเรียกสติกลับมาอีกครั้งเพราะผมเกือบลืมไปว่าผมยังมีหน้าที่ที่ต้องทำ
ตอนนี้น้องไอซ์มัวแต่ขะมักขะเม้นเค้นน้ำคาวหวานอยู่คงไม่ได้สนว่าผมกำลังทำอะไร
ผมพยายามเอื้อมมือไปบนชั้นตู้หนังสือข้างเตียงแล้วขวานไปหาบางสิ่งบางอย่าง
พอเจอสิ่งนั้นผมก็กดบันทึกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทันที
แล้วผมก็กลับมาขึ้นสวรรค์กับน้องไอซ์ต่อ ตอนที่9
“อ้า......” เสียงร้องของผมดังขึ้นพร้อมกับ มีอะไรบางอย่างพุ่งขึ้นมาด้วย
“เปื้อนหน้าป่าว” ลืมไปเลยว่าหน้าน้องเค้าอยู่ตรงนั้นพอดี“เต็มหน้าเลยอ่ะ” น้องไอซ์ยิ้ม
“ปะไปล้างหน้า” ผมจูงมือน้องไอซ์ไปล้างหน้าในห้องน้ำ
หนุ่มน้อยหน้าใสก้มตัวล้างหน้า
ผมจ้องมองอิริยาบถของน้องไอซ์ผมรู้สึกหวิวๆยังไงไม่รู้
กูชอบเขาเหรอว่ะทำไมอยู่ดีดีกูถึงยืนยิ้มมองผู้ชายแก้ผ้า
ผมสะบัดหัวพยายามเอาความคิดนั้นออกไปจากหัวซะที
“เป็นอะไรเหรอพี่บั้มพ์สะบัดหัวอยู่ได้” น้องไอซ์ยิ้มแฉ่งหันมามองหน้าผม
“อ๋อมีอะไรมาเกาะหัวพี่นะ” ผมพยายามแถไปเรื่อย
“ไหนไหน” พูดเสร็จก็เขยิบตัวมาชิดกับผมแล้วเอื้อมตัวมาปัดๆที่หัวของผม
ทำให้สายตาของเรามาสบกัน
พยายามนึกให้โรแมนติกแล้วกันนะครับเหมือนในหนังเกาหลีเวลานางเอก พระเอก สบตากัน
“จ้องหน้าผมทำไม” น้องไอซ์ยิ้มแบบเขินๆ
“จ้องหน้าต้องมีเหตุผลด้วยเหรอ” พูดไม่พอเอามือไปลูบหน้าด้วยสวมบทพระเอกหน่อย
ไอซ์มันยิ้มแบบเขินๆโอ้ยยยยย!ทำมายกูใจสั่นอย่างนี้ว่ะเนี้ย
“พี่บั้มพ์ง่วงยัง” ไอซ์ถาม
“แล้วน้องไอซ์ง่วงยังล่ะครับ” ทำไมกูพูดเรียบร้อยจังว่ะ
“พี่บั้มพ์ก็ตอบมาก่อนซิว่าง่วงหรือยัง”
“ถ้าไอซ์ง่วงพี่ก็ง่วงถ้าไอซ์ไม่ง่วงพี่ก็ไม่ง่วง” แนะ มีเล่นคำด้วย
“แล้วถ้าไอซ์ไม่ง่วงพี่จะทำอะไร” น้องหน้าใสไม่ได้พูดอย่างเดียวเอามือมาจับโน้นจับนี้ด้วย
“เหอะเหอะ แล้วคิดว่าจะทำอะไรล่ะ” ผมเองพูดไปก็คิดไปคิดว่าคืนนี้มึงเสร็จกูแน่
“ก็ทำเหมือนที่เค้าทำๆกันนั้นแหล่ะ” พูดแบบอายๆแล้วก็เดินไปที่เตียงนี้แปลว่าเด็กมันให้ท่าใช่มั้ยครับ
ผมวิ่งไปทันทีเลนครับไม่ปล่อยให้พลาดโอกาสหรอก
“รีบมาเชียวนะพี่นี้หื่นจริงๆเลย” ขอบคุณที่ชม ไอ้น้องพี่หื่นกว่าที่น้องคิดไว้อีก
มันด่าผมว่าหื่นแต่มันก็ใช่ย่อย นัวเนียตัวผมใหญ่เลย
เห็นหน้าซื่อๆอย่างนี้ร้ายไม่เบาเลยว่ะ
************************************************************************************************
เสียงเคาะประตูทำให้ผมตื่นขึ้นมาในยามเช้าใครว่ะแม่งมาแต่เช้าเลย
ผมรีบลุกจากเตียงเห็นน้องไอซ์หลับปุ๋ยอยู่ข้างๆ
ทำไมมันน่ารักอย่างนี้ว่ะคนห่าอะไรตอนโดนเอาก็ยังน่ารัก ไม่รู้แฟนมันทิ้งไปได้ไงว่ะเนี้ย
ผมรีบเปลี่ยนเรื่องน้องไอซ์หน้าใสวิ่งมาเปิดประตู
ตายห่า!ไอเบนซ์ครับ มันบุกมาถึงมาหาผมแต่เช้าเลย
“หวัดดีบั้มพ์เราซื้อโจ๊กมาฝาก” มันชูถุงโจ๊กขึ้นมา
ผมอ้ำอึงทำอะไรไม่ถูก
“เพิ่งตื่นเหรอโทดทีที่มาปลุกนะ มากินข้าวกันเถอะ” พูดเสร็จมันก็จะเข้ามาในห้อง
ผมรีบห้ามทันที“เฮ้ยเบนซ์ยังเพิ่งเข้ามา”
“ทำไมอ่ะ” ไอ้เบนซ์ถาม
“เออห้องเรารกว่ะ” ตอนนั้นนึกหาเหตุผลอะไรไม่ออกเลยพูดๆไปอย่างนั้นก่อน
“ไม่เป็นไรหรอกน่าเดี๋ยวเราเข้าไปจัดให้” แล้วมันก็พุ่งตรงเข้าห้องไปเลยครับชนผมจนกระเด็นไปเลย
แล้วไอ้เบนซ์ก็ช็อคเมื่อเห็นหนุ่มน้อยหน้าใสนอนบนเตียงผม ด้วยร่างอันเปลือยเปล่า
ผมเองก็ช็อคไม่ค่อยอยากให้มันเห็นเลย เมื่อวานเพิ่งเอากับมันแท้วันนี้เอากับคนใหม่อีกแล้ว มันจะคิดว่ากูเป็นคนยังไงว่ะเนี้ย
ไอ้เบนซ์หันมามองหน้าผม “นี้คืองานที่บอกว่าเอากลับมาทำที่บ้านใช่มั้ย”
ผมก้มหน้าสำนึกผิดนึกในใจว่ากูจะรู้สึกผิดทำไมว่ะเนี้ย
ไอ้เบนซ์โยนถุงโจ๊กใส่ผมแล้วเดินออกไป
ความรู้สึกเหมือนเมียหลวงด่าผัวเมื่อรู้ว่าผัวแอบไปมีเมียน้อย
“เมื่อกี้มีอะไรเหรอครับได้ยินใครเอะอะโวยวายเสียงดัง” ไอซ์สะลึมสะลือตื่นขึ้นมา
ไอ้นี้ก็มัวเอาแต่นอนไม่รู้เลยว่าเกิดอะไรขึ้น
“มากินโจ๊กเถอะ” ผมวางถุงโจ๊กไว้ที่โต๊ะทานข้าว
รู้สึกแย่ยังไงก็ไม่รู้ไปทำให้คนอื่นเขาเสียใจ
ไอ้เบนซ์มันอุตส่าห์ซื้อโจ๊กมาให้มันคงหวังว่าจะได้กินกับผม
กลายเป็นว่าน้องไอซ์เลยได้ลาภปากไปเลย
************************************************************************************************
ผมมาส่งน้องเขาขึ้นรถทัวร์กลับเชียงใหม่ที่หมอชิต
อยากจะบอกมันให้อยู่ต่ออีกสักสองสามวัน
ที่อยากให้อยู่จะได้เอากับมันอีกสักสองสามครั้งอิอิอิ
“ถึงเชียงใหม่แล้วโทรมาบอกนะ” แน่นอนครับแลกเบอร์กันเป็นที่เรียบร้อย
“ขอบคุณพี่มากครับอยากอยู่ต่อ ยังไม่ได้ไปเที่ยวไหนเลย”
ไอซ์มันพูดแบบนี้ผมใจชื้นเลยครับ
“ติดใจพี่ล่ะซิมันส์ใช่มั้ยล่ะ” ผมแซว ไอซ์มันหัวเราะใหญ่เลย
“คราวหน้ามาเที่ยวอีกนะ” ผมเอามือลูบหัวน้องหน้าใส
เฮ้อ!ทำไมความสุขมันอยู่กับเราไม่ได้นานนะ
“ไปแล้วนะครับวันหลังจะมาหาอีกนะ” ไอซ์ยกมือบ๊ายบาย
แล้วเดินขึ้นรถทัวร์
ผมมองจนกว่ารถทัวร์จะออกไป
ยืนถอนหายใจพลางนึกถึงคำพูดของไอ้เบนซ์
“คนที่เป็นเกย์เขาจะมีจิตใจที่ชอบผู้ชายเลยทำให้พวกเขาอยากมีเพศสัมพันธ์กับผู้ชาย”
ตกลงผมเป็นเกย์แล้วใช่มั้ยครับเนี้ย ตอนที่ 10
ความรู้สึกผิดของผมมันสั่งให้ผมต้องทำอะไรสักอย่าง
ถ้าผมทำเป็นไม่สนใจปล่อยให้เบนซ์มันเสียใจอยู่อย่างนั้นพระเอกอย่างผมคงทำไม่ได้
ตอนแรกผมพยายามที่จะโทรไปหาหลายครั้งมันก็ไม่เคยรับโทรศัพท์โทรไปที่บ้าน คนที่บ้านก็อ้างว่าไม่อยู่ ไปข้างนอก
เบนซ์คงไม่อยากคุยกับผมจริงๆ
ในที่สุดผมก็มาที่บ้านของเบนซ์
ผมกดกริ่งที่หน้าบ้านใจจดใจจ่อว่าจะได้เจอมันหรือเปล่าอยากเคลียร์ทุกอย่างให้มันจบๆ
เบนซ์เป็นคนมาเปิดประตูเลยครับ
ผมกับมันเลยต่างอึ้งกันไปพักใหญ่
ผมทั้งกลัวว่ามันจะปิดประตูใส่หน้าหรือไม่ก็ไล่ให้กลับไป แต่ที่กลัวที่สุดกลัว คือมันอาจจะแค้นมากจนเอาปืนมายิงก็ได้เดี๋ยวนี้ยิ่งมีข่าวฆ่ากันตายของพวกเกย์ด้วย
“เข้ามาข้างในก่อนสิ” นี้คือคำพูดของเบนซ์ครับผมโล่งอกที่ไม่ได้เป็นอย่างที่คิด แต่น้ำเสียงของมันช่างเย็นชาเหลือเกิน
ผมเดินตามมันมานั่งบนโซฟาในห้องรับแขก
“เอาอะไรน้ำอัดลม น้ำผลไม้ น้ำเปล่า หรือเบียร์” เบนซ์ถามผมเป็นมารยาท
“น้ำเปล่าดีกว่า” ผมเองก็มีสมบัติผู้ดีแม้อยากจะกินเบียร์ก็ตาม
เบนซ์เดินไปเข้าไปน้ำครัวโผล่มาอีกทีพร้อมแก้วน้ำในมือ
แล้วก็ยื่นมาให้ผมผมรับแก้วจากเบนซ์ แล้วรีบวางบนโต๊ะพร้อมไปคว้ามือของเบนซ์
“เบนซ์เราขอโทษ” ผมคิดว่าคำพูดนี้คงเป็นคำพูดที่เบนซ์อยากได้ยินจากผม
“บั้มพ์ไม่ต้องขอโทษเราหรอกบั้มพ์ไม่ได้ทำผิดอะไรนี้” เบนซ์ยังคงให้ผมจับมืออยู่อย่างนั้นแต่หันหน้าไปทางอื่น
“เราไม่ได้ทำผิดอะไรแต่ทำไมนายถึงโกรธเราล่ะ” ผมเริ่มเครียดแล้วครับ
“เราไม่ได้โกรธ” เบนซ์พูดเสียงมันเริ่มสั้นๆ
“ไม่ได้โกรธแต่เบนซ์ไม่รับโทรศัพท์เรา ไม่อยากคุยกับเรา แล้วก็หนีหน้าเรานี้เหรอไม่ได้โกรธ” ผมเครียดจนเริ่มพูดขึ้นเสียง
“นายไม่เห็นจำเป็นต้องมาแคร์เราเลยเราผิดเองล่ะบั้มพ์เราผิดเองที่ไปชอบนาย” เบนซ์พูดทั้งน้ำตาที่ไหลออกมาแต่มันก็ไม่หันหน้ามาให้ผมเห็นซักนิด
ผมลุกขึ้นไปกอดไอ้เบนซ์ทันที“เราขอโทษเราไม่ได้ตั้งใจจะทำให้นายเสียใจหรอกนะ”
เบนซ์ร้องไห้ไม่หยุดผมรู้สึกถึงน้ำตาที่มาสัมผัสกับหน้าอกของผม
“เราขอบใจที่นายรู้สึกดีกับเราแต่เราคิดกับนายแค่เพื่อนคนหนึ่งเราขอโทษจริงๆที่เราไม่ได้คิดแบบเดียวกับนาย”
ผมกอดเบนซ์แน่นผมจำเป็นต้องบอกความจริงกับเบนซ์แม้ความจริงนั้นมันอาจจะทำเบนซ์ผิดหวังก็ตาม
เบนซ์ปล่อยตัวจากผมพร้อมปาดน้ำตา
ผมคว้ามือเบนซ์ไปจับ“ความรู้สึกดีดีที่เรามีให้กันมันยังเหมือนเดิมใช่มั้ย” ความจริงที่ผมพูดไปผมกลัวมันจะทำให้ความสัมพันธ์ของผมกับเบนซ์เปลี่ยนแปลงไป
เบนซ์พยักหน้า “เราดีใจที่บั้มพ์เข้าใจความรู้ของเราดีใจที่บั้มพ์ไม่เกลียดเรา ขอบใจนะที่ยังให้เราเป็นเพื่อน”
ดูเบนซ์มันพูดซะน่าสงสารเชียว
“ขอค่าขอบใจเป็นอย่างอื่นได้ป่าวว่ะ” ผมพูดติดตลก
“อะไรของนายเนี้ยหื่นจริงๆเลยนะ” ทำไมมันพูดเหมือนน้องไอซ์เลยคนหื่นอะไรจะหล่อขนาดนี้ว่ะ
“เป็นเพื่อนกันก็ต้องเอากันได้ดิว่ะ” ผมยังหยอกมันไม่เลิก
เบนซ์มันขำใหญ่เลยครับมันคงหายเศร้าแล้วแหล่ะ
นอกจากยังไม่เสียเพื่อนแล้วยังมีคนให้เอาอีก อิอิอิ ระหว่างทางกลับบ้านเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น ผมยิ้มทันทีเมื่อเห็นว่าเป็นเบอร์ของน้องไอซ์
“หวัดดีคร้าบผม” เด็กโทรมาเสียงหวานเชี่ยวนะมึง
“พี่บั้มพ์เป็นไงบ้าง”
“สบายดีครับแต่เหงาใจอ่ะ” ผมทำเสียงอ้อน
“เหงาใจหรือเหงาอะไรกันแน่” มันกวนครับ
“ก็ทั้งสองอย่าง”
“ก็หาแฟนซะทีสิ”
“ก็รอคนบางคนอยู่เล่นตัวชิบ” มันคงรู้นะว่าหมายถึงใคร
“ป่าวเล่นตัวแต่ขอให้เรียนจบก่อน แล้วไปทำงานที่กรุงเทพฯค่อยว่ากัน” น้องเค้าวางแผนไว้ด้วยแสดงว่ากูมีหวัง
“จะรอไหวไหมเนี้ย” ถึงกูรอไม่ไหวกูก็ไปเอาไอ้เบนซ์ก่อนก็ได้ อิอิอิ
“อย่าพูดเลยคงมีกิ๊กอยู่แล้วใช่มั้ยล่ะ” รู้ทันเชียว แต่ไอ้เบนซ์มันเป็นเพื่อนครับไม่ใช่กิ๊กสักหน่อย
“กิ๊กที่ไหนไม่มีไม่มี”
ไอซ์หัวเราะใหญ่“ร้อนตัวเชียว”
ผมก็เดินคุยโทรศัพท์กับน้องไอซ์ไปเรื่อยๆจนถึงแมนชั่น
ผมเลี้ยวจะเข้าห้องดันไปชนคนที่เดินมาอีกฝาก
“ขอโทษครับ” ผมขอโทษชายหนุ่มที่เดินชมผม
ชายหนุ่มหน้าใสขยับแว่น“ไม่เป็นไรครับ” แล้วก็เดินเลยไป
ปล่อยให้ผมยืนมองความหล่อของชายคนนั้นไอ้แว่นแม่งหล่อจริงๆ
“พี่บั้มพ์พี่บั้มพ์” น้องไอซ์มันคงเห็นผมเงียบไปเลยเรียก
“อืมม”
“จะวางแล้วนะไว้ค่อยคุยกันนะครับ”
“ครับผม”
“คิดถึงนะ” ผมไม่ได้หูฝาดใช่มั้ยเนี้ย
“คิดถึงเหมือนกันดูแลตัวเองดีดีนะครับ”
แล้วน้องไอซ์ก็วางโทรศัพท์
ถึงผมจะยอมรับว่าชอบน้องไอซ์แต่ผมก็ยังไม่มั่นใจว่าผมเป็นเกย์
คงเป็นเพราะความรู้สึกช่วงนี้ผมแทบจะไม่นึกถึงผู้หญิงเลย
ก็ตอนนี้ยุ่งกับผู้ชายอยู่สองคนมีน้องไอซ์กับเบนซ์
และผมคิดว่าอีกไม่นานมันคงมีมาอีกเรื่อยๆแน่ ตอนที่11
ข้างๆลานจอดรถใกล้กับแมนชั่นของผมมีลานกว้างพอที่จะให้ผู้คนแถวนั้นมีที่ทำสาธารณประโยชน์
ทั้งเอาไว้เป็นที่ให้พ่อค้าแม่ค้าขายของขายอาหารและเป็นที่ให้วัยรุ่นหรือคนแถวนั้นไว้ออกกำลังกายด้วย
ผมยืนมองผู้ชายกลุ่มหนึ่งบนระเบียงห้องของผมกำลังเล่นบอลอยู่ที่ลานกว้างนั้น
ก็นึกอยากจะเล่นบ้างเพราะตัวเองห่างหายจากการเล่นบอลไปนานพอตัว
ผมชอบเล่นบอลตั้งแต่เด็กแล้วครับเคยเป็นนักกีฬาโรงเรียนด้วย
ที่ชอบเพราะมันสนุกและก็ดูมันเท่ห์ดีเวลาสาวๆมากรี๊ดที่รู้สึกว่าตัวเองโคตรเท่ห์เลยครับ
แต่พอเข้าสูชีวิตวัยทำงานก็เล่นไม่บ่อยเท่าสมัยเรียน
เพราะต้องทำงานหามรุ่งหามค่ำเวลาผักผ่อนที่มีก็อยากจะผักผ่อนให้เต็มทีไม่ค่อยคิดเรื่องออกกำลังกายเลยครับ
พักหลังหุ่นที่เคยเฟิร์มมันก็แผ่วๆลงไปช่วงนี้ยิ่งต้องใช้หุ่นทำงานด้วย
เพราะผมพอรู้ว่าพวกเกย์ชอบหน้าตาอย่างเดียวไม่พอหุ่นต้องดีด้วย
เลยรีบไปคว้ารองเท้าสตั๊ดตัวเก่งพร้อมเปลี่ยนเสื้อบอลกางเกงบอล ไปขอคนข้างล่างเล่นบอลด้วยดีกว่า
ผมเปิดประตูออกจากห้องพร้อมๆกับ เจ้าของห้องตรงข้ามที่เปิดประตูออกจากห้องเหมือนกัน
เจ้าของห้องตรงข้ามใส่ชุดบอลกางเกงบอลและถือร้องเท้าสตั๊ดเหมือนผมพอเดาได้ว่าคงไปเล่นบอลเหมือนกัน
“โทษที่น้องไปเล่นบอลที่ลานกว้างเหมือนกันเหรอ” ผมรีบถามเขาทันทีดูเขาก็คงจะถามคำถามเดียวกับผม
“ครับพี่” ชายหนุ่มตรงหน้าเป็นชายผิวขาวหน้าตาดีผมแปลกใจว่ามันเล่นบอลทำไมมันขาวจังว่ะ
“น้องชื่อไรล่ะพี่ชื่อบั้มพ์นะ” ผมรีบหาพวกก่อนเลยครับ
“ชื่อหนึ่งครับยินดีที่ได้รู้จักครับ” น้องหนึ่งแนะนำตัวเรียบร้อยแล้วเราก็ชวนกันไปเล่นบอล
************************************************************************************************
หลังจากได้รู้จักกับน้องหนึ่งสุดหล่อแล้วผมก็เริ่มสนิทกับน้องหนึ่งครับ
เพราะชอบเล่นฟุตเหมือนกันและ ห้องน้องเขาก็อยู่ตรงข้ามกับผม
วันไหนน้องหนึ่งมันไม่ได้เล่นบอลผมก็จะไม่เล่นด้วย
เรื่องเล่นบอลกับ เรื่องน้องหนึ่ง ทำให้ผมลืมเรื่องงานของผมไปเลย
จนพี่สินโทรมาตามครับ
“เฮ้ย!ไอ้บั้มพ์มึงจะไม่เอาเงินใช่มั้ยเล่นหายหัวไปซะอย่างนั้น” เสียงพี่สินออกแนวด่า
“เอาดิครับผมกำลังหารายใหม่อยู่ คาดว่าคงได้เร็วๆนี้”
“ม้วนที่สองเห็นบอกว่าเสร็จแล้วไม่ใช่เหรอแล้วเมื่อไหร่จะเอามาให้” พี่สินรีบถ่วง
ม้วนที่สองที่ว่าคือม้วนที่ผมอัดกับน้องไอซ์ ยังไม่ได้เอาไปให้ไอ้พี่สินมันเลย
“งั้นเดี๋ยวผมเอาม้วนที่สองไปให้พร้อมกับม้วนที่สามเลยล่ะกันครับ”
“เออดีเร็วๆนะมึง กูจะได้รีบตัดต่อแล้วเอาไปขาย มึงจะได้เงินด้วย เข้าจั้ยยยยย” พี่สินลากเสียงคำสุดท้ายพร้อมกับวางหูไปด้วย
แม่งขู่กูแล้วกูจะทำไงดีว่ะเนี้ย
************************************************************************************************
“วันนี้พี่ขอไม่เล่นข้างแกนะ” ผมพูดกับน้องหนึ่งก่อนจะไปเล่นบอล
“อ้าว!ทำไมล่ะพี่ก็เล่นข้างเดียวกันมาตลอด” ก็เพราะเล่นข้างเดียวกับมึงนะซิทำให้กูไม่ได้แตะเนื้อต้องตัวมึงเลย
ตอนที่เล่นอยู่ข้างเดียวกับน้องหนึ่งก็ได้แค่ส่งลูกรับลูก ไม่ค่อยได้ไปใกล้ตัวน้องหนึ่งเลยครับ
ถ้าอยู่ฝ่ายตรงข้ามน่าจะมีโอกาสที่ได้ไปนัวเนียกับน้องหนึ่งต้องไปแย่งลูก
ที่จู่ๆเกิดอยากใกล้ตัวน้องหนึ่งเพราะผมเครียดที่ยังหาเหยื่อรายใหม่ไม่ได้เลยขอแก้เครียดด้วยวิธีการนี้
เมื่อผมเริ่มเล่นบอลก็เป็นไปตามคาดครับ
เพราะน้องหนึ่งมันเป็นกองหน้าเวลามันบุกมาทีมผมซึ่งเป็นผมกองหลัง ทำให้ผมมีโอกาสได้ไปแย่งลูกกับน้องหนึ่ง
ช่วงที่แย่งลูกกันตัวผมกับตัวน้องหนึ่งก็มาเบียดๆกันมือผมมันก็ปัดไปโดนตัวมันบ้างโดนเป้ามันบ้าง
ไอ้หนึ่งมันเล่นกลับครับมันไม่ยอมให้ผมแย่งลูกไปได้ก็นัวเนียกันอยู่ตรงนั้นแหล่ะ
แล้วขาของผมก็ไปขัดขาของน้องหนึ่งจนมันล้มกลิ้งตีลังกาไปหลายตลบ
ผมวิ่งไปดูมันทันทีเพราะเห็นมันดิ้นไปดิ้นมาร้องโวยวายใหญ่เลยครับ
“โอ้ยเจ็บโว้ย” ไอ้หนึ่งดิ้นพล่านๆพร้อมกับจับแขนข้างขวาของมัน
“ไอ้หนึ่งเป็นไรว่ะ” ผมก้มไปดูอาการมันครับ
“แขนหักป่าวว่ะเนี้ย” คนในกลุ่มเอ่ยขึ้น
“งั้นพามันไปหาหมอดีกว่าว่ะ” ผมพูดพร้อมพยุงตัวมันขึ้น
“ไหวนะไอ้หนึ่ง” น้องหนึ่งพยักหน้าแล้วก็ลุกขึ้นโดยมีผมคอบประคองไปด้วย
เพราะกูแท้ๆเพราะความหื่นของกูเลยทีเดียวไอ้หนึ่งเลยต้องมาเจ็บตัว
************************************************************************************************
สรุปว่าไอ้หนึ่งแขนหักครับต้องเข้าเฝือก ผมเลยรับผิดชอบในความผิด(นั้นก็คือความหื่น)ของผมด้วยการมาดูแลมันที่ห้องครับ
“ไม่เป็นไรหรอกพี่ผมเกรงใจ” ไอ้หนึ่งรีบบอกทันที
“จะมาเกรงใจทำไมกูเป็นคนทำกูต้องรับผิดชอบดิว่ะ” ผมสุภาพบุรุษมากครับ
“มันเป็นอุบติเหตุผมไม่ได้คิดว่าพี่เป็นคนทำ พี่ไม่ต้องรับผิดชอบก็ได้ครับ” มันถียงใหญ่เลยครับ
“ถึงมันจะเป็นยังไงก็ตามมึงจะทำอะไรต่อไปยังไงในเมื่อตอนนี้มึงมีแขนอยู่ข้างเดียว ไอ้แขนที่หักก็เป็นแขนขวาซะด้วยมึงก็อยู่คนเดียวอีก ถ้าไม่ใช่กูแล้วใครจะช่วยมึงว่ะ”
หนึ่งมันเถียงไม่ออกเลยครับสรุปว่าผมต้องมาดูแลมันครับ
ไอ้หนึ่งไม่รู้หรอกว่ามันคือแผนการอันชั้วร้ายของผมเอง
|