จีโฟกาย.คอม

 ลืมรหัสผ่าน
 สมัครเข้าเรียน
ค้นหา
ดู: 1101|ตอบกลับ: 15
สั่งพิมพ์ ก่อนหน้า ถัดไป
ซ่อนแถบด้านข้าง

โรงแรมสราญรมณ์ (Gaiety Hotel) อัพเดทตอนจบ: นิรันดร์

[คัดลอกลิงก์]

นายกองค์การนักศึกษา

โพสต์
1512
พลังน้ำใจ
18216
Zenny
11756
ออนไลน์
1177 ชั่วโมง
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Jera เมื่อ 2014-8-9 21:48

นิยายเรื่อง โรงแรมสราญรมณ์ ผม Jera แต่งขึ้น และอาศัยแรงบันดาลใจจากเพลง Hotel California ของ The Eagles และเอามาโพสต์ที่นี่ด้วยตัวเอง หากใครต้องการจะเอาไปเผยแพร่ต่อ กรุณาบอกด้วยว่า ผม Jera เป็นคนเขียน และห้ามเอาไปใช้เพื่อการค้าโดยไม่ได้รับอนุญาตจากผมโดยตรง (CC-BY-NC)

งานเขียนชิ้นนี้ไม่ได้มีเนื้อเรื่องติดเรทเอ็กซ์ ดังนั้น ท่านอาจจะผิดหวังพอสมควร

อนึ่ง ถ้าหากตัวละครไปละม้ายคล้ายใครเขา ไม่ว่าจะเป็นชื่อหรืออุปนิสัยใจคอ ขอบอกก่อนเลยว่า มันเป็นเพียงความบังเอิญเท่านั้น ผมมิได้จะกล่าวล่วงเกินผู้ใดทั้งสิ้น ด้วยความเคารพจากใจจริง

หมายเหตุ เรื่องนี้ไม่ยาวมาก เคยโพสต์ที่อื่นมาแล้ว และใช้ชื่ออื่นในการโพสต์ เวอร์ชั่นใหม่นี้ ผมดัดแปลงเนื้อเรื่องอีกนิดหน่อย พร้อมกันใส่คำเฉลยที่ปิดปังไว้ในเวอร์ชั่นแรกเข้าไปแล้ว หากท่านจำได้ ผมอยากจะบอกว่า คิดถึงพวกท่านมาก ด้วยความเคารพจากใจจริง - Jera

หากใครสนใจจะติดตามงานเขียนของผมบน Facebook เชิญได้ที่ Will of Fate ครับผม




สารบัญ





โรงแรมสราญรมณ์ ตอนที่ 1: รัญจวน

ตอนนั้นผมกำลังขับรถบรรทุกอยู่ มันเป็นสมบัติชิ้นเดียวที่พ่อผมเหลือไว้ให้ ผมตั้งชื่อให้เธอว่า "สเลฟเนีย" ซึ่งเป็นชื่อม้าของเทพเจ้าโอดินในตำนานนอร์สของชาวไวกิ้งเขา แทนที่จะเป็นชื่อของหญิงสาวดั่งที่ใครต่อใครตั้งชื่อให้รถของตนกัน

รถคันนี้ผลิตโดยบริษัท Kenworth เป็นรุ่น T660 สืพื้นของรถเป็นสีบรอนซ์เทา มีลายไทรบัลสีดำอยู่ข้างตัวรถ ภายในยังมีที่นอนอยู่หลังเบาะที่นั่งด้วย ถึงแม้มันจะแคบไปสักหน่อย แต่ก็ยังดีกว่าต้องมานั่งหลับหน้าพวงมาลัยเป็นไหน ๆ และถึงแม้มันจะผ่านการใช้งานมาหลายปีแล้ว มันก็ยังทำงานได้ลื่นไหลดี ไม่เคยงอแงให้ผมเหนื่อยใจสักครั้ง เพราะผมดูแลรักษามันอย่างดีเสมอมา

ที่จริง พ่อผมยังมีที่ดินพร้อมบ้านหลังเล็ก ๆ อยู่อีกหลังในรัฐเท็กซัส มันเป็นบ้านสวนที่อยู่ในเขตชนบทของเท็กซัสอันสงบเงียบ ผมกับพ่อมักจะไปพักที่นั่นเป็นประจำหลังจากการทำงานต่อเนื่องกันหลายเดือน แต่ตอนนี้กรรมสิทธิ์ในบ้าน และที่ดินพื้นนั้นตกเป็นแม่เลี้ยงของผมเสียแล้ว

เมื่อก่อนนั้น ผมมักจะออกไปทำงานกับพ่ออยู่เสมอ พวกเราขับรถไปทั่วอเมริกา เพื่อขนส่งสินค้าจากที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่งอยู่เป็นประจำ แต่หลังจากที่พ่อผมเจอกับแม่เลี้ยง ท่านก็ไม่คิดจะออกมาขับรถเหมือนแต่เก่า ท่านเลิกทำงานที่ท่านบอกว่ารักมันมากมาย เพื่อมาอยู่กับแม่เลี้ยงที่รัฐเท็กซัส พร้อมทั้งชวนผมไปอยู่ที่นั่นด้วยกัน แต่ผมปฏิเสธไป โดยบอกว่า ผมอยากจะทำงานขับรถมากกว่า เพราะมันได้ไปตามที่ต่าง ๆ มากมาย อีกทั้งมันสนุกกว่าการทำสวนอยู่บ้านเป็นไหน ๆ

ถึงผมจะพูดไปอย่างนั้น แต่สาเหตุหลักที่ผมไม่ยอมไปอยู่กับพ่อคือ แม่เลี้ยงของผม ถึงแม้เธอจะดีกับผม แต่ผมก็ยังไม่ชอบเธออยู่ดี ดังนั้น ผมจึงออกมาจากบ้าน นาน ๆ ที ผมจึงจะกลับไปเยี่ยมพ่อสักครั้ง

หลังจากที่พ่อผมแต่งงานกับแม่เลี้ยงได้ห้าปี ท่านก็เสียชีวิตลง สาเหตุเป็นเพราะอะไรนั้นผมก็ไม่ทราบ ผมพยายามแม่เลี้ยง รวมทั้งหมอที่ดูแลรักษา แต่ไม่มีใครปริปากตอบคำถามของผม นอกจากอ้างเหตุผลข้าง ๆ คู ๆ ว่า "พ่อสั่งไว้ไม่ให้บอก" มันทำให้ผมหงุดหงิดไม่น้อย แต่ผมไม่สามารถทำอะไรได้ สิ่งที่ทำได้ก็เพียงเก็บความอยากรู้ไว้ในใจเสมอมา

ก่อนที่พ่อผมจะเสียชีวิต ท่านสั่งซื้อรถบรรทุกให้ผมคันหนึ่ง พร้อมกับอุปกรณ์ตกแต่งครบถ้วน ซึ่งก็คือ สเลฟเนีย คนนี้ ผมจึงรัก และดูแลมันอย่างดี เสมือนหนึ่งเป็นตัวแทนของพ่อผมนั่นเอง

ทางฝ่ายแม่เลี้ยงเองก็บอกผมว่า ให้กลับมาที่บ้านบ้าง แต่ผมไม่เคยคิดจะกลับไปที่บ้านในรัฐเท็กซัสอีกเลย ตอนนี้มันก็ผ่านมาเจ็ดปีแล้ว

สำหรับผม ชีวิตที่ต้องนอนบนรถ ขับไปทั่วอเมริกา มันทำให้ผมอิ่มเอมเต็มทน ผมเริ่มจะเบื่องานแบบนี้เสียแล้ว หากแต่ผมไม่รู้จะไปที่ไหน หรือทำอะไรดี จะให้กลับไปสถานที่ที่ผมเคยเรียกว่า "บ้าน" ผมก็ไม่อยากจะกลับไปสักเท่าไหร่นัก ถึงแม้ผมจะคิดถึงมันสักแค่ในก็ตาม แต่ทิฐิในใจผมทำให้ผมไม่ยอมกลับไปสักที

"นี่เราฟุ้งซ่านอะไรเนี่ย" ผมพูดกับตัวเองในขณะที่กำลังขับรถผ่านทะเลทรายมุ่งหน้าไปยังรัฐแคลิฟอร์เนีย ผมอยากจะลองหาอะไรทำที่นี่ดู งานอื่นที่นอกเหนือจากการขับรถไปมาอย่างนี้ แต่ผมเองก็ยังไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นที่ไหนดี จะมีบริษัทไหน หรือใครรับคนแบบผมเข้าทำงานบ้าง ผมเองก็ไม่รู้เหมือนกัน

หากเมื่อผมสังเกตดูรอบ ๆ ก็พบกับบรรยากาศที่เงียบสงบ ไม่มีรถตามมา หรือสวนทางมานานมากแล้ว อาจเพราะมันดึกมากแล้วก็ได้ถึงได้เป็นเช่นนี้ ถึงแม้ถนนเส้นนี้จะเป็นทางหลวง หากกลับไม่ค่อยมีใครใช้สักเท่าไหร่ มันก็แปลกดีที่ทางการเขาตัดถนนเส้นนี้ขึ้นมา จะว่าไป เมื่อก่อนผมก็ไม่เคยคิดจะใช้ถนนเส้นนี้เหมือน แต่ทำไมตอนเย็นผมถึงเกิดคิดที่จะลองเปลี่ยนมาใช้เส้นทางนี้ดูบ้างขึ้นมาเฉย ๆ

เนื่องจากอากาศในช่วงฤดูใบไม้ร่วงเริ่มหนาว ผมจึงลดกระจกลง เพื่อรับลมเย็น ๆ ให้เข้ามาในตัวรถ นอกจากความเย็นแล้ว สายลมยังพากลิ่นหอมอ่อน ๆ ของดอกไม้บางอย่างที่ผมไม่คุ้นเคยเข้ามาด้วย มันทำให้ผมรู้สึกสดชื่น และกระปรี่กระเปร่าอย่างน่าประหลาดในช่วงแรก ๆ แต่พอผ่านไปสักพัก ผมกลับเริ่มเวียนหัว และง่วงนอน

จะว่าไป จะโทษกลิ่นดอกไม้ก็ไม่ถูกนัก เพราะตั้งแต่เมื่อคืนวาน ผมยังไม่ได้นอนพักเลย พอโดนอากาศเย็น รวมกับกลิ่นหอม ๆ แบบนี้ ทำให้ผมเคลิ้มไปเอง ในท้ายที่สุด ผมจึงตัดสินใจที่จะนอนพักในรถท่ามกลางทะเลทรายอันเวิ้งว้างแห่งนี้

ระหว่างที่ผมกำลังมองหาที่จอดเหมาะ ๆ อยู่นั้น สายตาก็เหลือบไปเห็นแสงไฟระยิบระยับอยู่เบื้องหน้า ผมคิดว่าไปจอดรถแถวนั้นท่าจะดี อย่างน้อยก็คงดีกว่าจอดรถกลางทะเลทรายเปลี่ยว ๆ อย่างนี้

เมื่อตัดสินใจเช่นนั้น ผมจึงขับรถตรงไปยังทางเบี่ยง และมุ่งหน้าไปยังสถานที่แห่งนั้น ในตอนแรก ผมคิดเอาเองว่ามันน่าจะใกล้ ๆ แต่พอขับเข้ามาจริง ๆ มันกลับอยู่ห่างจากทางหลวงเกือบห้ากิโล มันทำให้ผมแปลกใจไม่น้อย เพราะผมไม่เคยกะระยะทางผิดพลาดมากขนาดนี้มาก่อน

เมื่อมาถึงผมจึงได้รู้ว่า แสงระยิบระยับที่เห็นนั้นมาจากโรงแรมกลางเก่ากลางใหม่หลังหนึ่ง มันเป็นโรงแรมขนาดใหญ่ ตั้งอยู่โดดเดี่ยวท่ามกลางทะเลทราย รอบ ๆ ตัวโรงแรมมีสวนที่ประกอบด้วยต้นไม้ใหญ่ และแปลงดอกไม้นานาชนิด ส่วนหนึ่งของสวนนี้ยังจำลองน้ำตกเล็ก ๆ ไว้ด้วย อีกทั้งยังมีน้ำพุอยู่หน้าโรงแรมอีกต่างหาก ถึงแม้จะเป็นช่วงเวลาค่ำคืน แต่โรงแรมนี้กลับเปิดไฟให้สว่างไปทั่ว ทำให้ผมเห็นสิ่งต่าง ๆ ได้ชัดเจน

"ใครกันนะ มาสร้างโรงแรมหรูหราแบบนี้ใว้ในที่ทุรกันดาร ห่างไกลความเจริญแบบนี้ แล้วใครจะเข้ามาพักล่ะ อีกอย่างค่าห้องจะสูงรึเปล่าก็ไม่รู้ แต่ก็นะ คงจะหาลูกค้าได้ยาก ค่าห้องอาจจะไม่แพงมากก็ได้ ลองไปถามดูหน่อยดีกว่า เผื่อว่าคืนนี้จะได้นอนหลับสบาย ๆ สักคืนหนึ่งก็ยังดี" ผมคิด

เมื่อตัดสินใจได้แล้ว ผมขับรถเข้าไปจอดที่ลานจอดรถอันว่างเปล่า แล้วเดินตรงไปยังประตูทางเข้าของโรงแรม หน้าประตูโรงแรมมีสาวสวยคนหนึ่งยืนต้อนรับอยู่ เธอเป็นหญิงสาวที่ผิวขาวละเอียดดั่งไข่มุก รูปร่างสูงเพรียว เซ็กซี่ ไม่อ้วนหรือผอมเกินไป ใบหน้าเรียวสวย ผมยาวสลวยดำสนิท อีกทั้งหน้าอกยังดูนูนเด่นเป็นพิเศษ ในชุดเชิร์ทเดรสกระโปรงสั้นสีดำทั้งชุด มันดูทะมัดทะแมง และแฝงความเซ็กซี่ไว้ในคราวเดียวกัน

ผมหลงเสน่ห์ของเธอในทันทีที่เห็น ดั่งรักแรกพบก็ไม่ปาน

เธอผู้นั้นกล่าวต้อนรับผมด้วยน้ำเสียงที่อ่อนหวานอบอุ่น ผมสาบานได้เลยว่า ไม่เคยได้ยินเสียงใครที่ไพเราะขนาดนี้มาก่อน ผมจึงหลงในน้ำเสียงของเธอเพิ่มเข้าไปอีกหนึ่ง

ภายในโรงแรมนั้นถูกตกแต่งอย่างหรูหราไม่ต่างจากภายนอก คงใช้เงินลงทุนไปมากโข สิ่งของเครื่องใช้ทั้งหลายล้วนแล้วแต่เป็นสินค้าชั้นเยี่ยม หากได้ยากทั้งนั้น แต่สิ่งของเหล่านั้นไม่ได้ทำให้ผมละสายตาไปจากเธอผู้ที่กำลังเดินนำผมไปยังเคาเตอร์ของทางโรงแรมได้ ผมเดินตามเธอไปพร้อมทั้งมองการย่างก้าวของหล่อนจนผมเผลอคิดฝันไปไกลแสนไกล

แต่ก่อนผมจะเคลิ้มไปไกลกว่านี้ เสียงกระดิ่งสำหรับเรียกพนักงานก็ดังขึ้นมา ใจผมที่ลอยไปไกลก็กลับมาสู่ตัวผมอีกครั้ง ผมจึงได้รู้ว่าเธอต้องการทราบชื่อผมเพื่อจะเขียนลงในบันทึกรายชื่อแขก

"มิเชล ราล์ฟครับ คุณผู้หญิง" ผมตอบเธอกลับไป
"เป็นคนเยอรมันเหรอคะ" เธอถามกลับมาด้วยความสงสัย
"เอ่อ ปู่ของผมเป็นชาวเยอรมัน แต่มาเที่ยวที่อเมริกา รัก และแต่งงานกับย่าของผมที่เป็นชาวอเมริกา และตัดสินใจตั้งรกรากที่นี่ครับ" ผมตอบเธอไป

หลังจากนั้นเธอกับถามคำถามอีกหลายอย่าง ผมเองก็ตอบไปยิ้มไป ไม่ต่างจากเธอที่ยิ้มตอบทุกครั้งที่ได้ยินคำตอบเช่นกัน มันช่างเป็นรอยยิ้มที่มีเสน่ห์เสียจริง ๆ ผมเห็นแล้วใจเต้นแรงเลยทีเดียว "ช่างสวยอะไรเช่นนี้หนอ อย่างกะเทพธิดาบนสรวงสวรรค์ก็ไม่ป่าน" ผมคิด

ผมรวบรวมความกล้าเล็กน้อยเพื่อจะถามชื่อของเธอ แต่ก็ไม่ผิดหวัง  เพราะเธอตอบผมด้วยรอยยิ้มว่า "ฉันชื่อไดอะน่าค่ะ" นอกจากงามอย่างเทพธิดาแล้ว ยังมีชื่อเดียวกับเทพีตามคติความเชื่อของชาวโรมันอีกต่างหาก เทพีผู้งดงามผิวขาวนวลดั่งแสงจันทร์ อีกทั้งยังถือครองพรหมจรรย์ ผู้ที่ได้ชื่อว่า นักล่าแห่งแสงจันทร์ เทพีไดอะน่า

เมื่อเธอกรอกรายละเอียดลงในใบรายการเรียบร้อยแล้ว ผมจึงจ่ายเงินค่าห้องพักให้แก่เธอล่วงหน้า ห้องที่ผมเลือกนั้นเป็นห้องเตียงเดี่ยว ซึ่งราคานั้นไม่ได้แพงอย่างที่ผมคิดไว้ แต่เมื่อลองสอบถามว่ามีห้องพักแบบอื่นบ้างอีกหรือเปล่า ผมจึงได้รู้ว่า ที่นี่มีห้องพักมากมายหลากหลายรูปแบบ และหลากหลายราคาอีกด้วย ที่นี่มีตั้งแต่ห้องพักธรรมดา ๆ ราคาไม่กี่เหรียญ ไปจนถึงห้องสวีทสุดหรูราคาหลายพันเหรียญเลยทีเดียว

เมื่อจัดการเรื่องค่าห้องเรียบร้อยแล้ว เธอหยิบกุญแจห้อง และเดินนำผมไปยังห้องพัก น่าแปลกที่ผมไม่เห็นพนักงานคนอื่น นอกจากเธอเพียงผู้เดียวที่ทำหน้าที่ทุกอย่างในโรงแรมแห่งนี้

ถึงแม้อากาศภายในโรงแรมค่อนข้างเย็นกว่าโรงแรมอื่น ๆ ที่ผมเคยพัก หากแต่ในกายผมตอนนี้ช่างร้อนเสียเหลือกัน ยิ่งได้เห็นเธอเดินแล้ว อุณหภูมิในร่างมันพาลจะเพิ่มขึ้นไปเรื่อย ๆ

"นี่มันสวรรค์ หรือนรกกันแน่เนี่ย" ผมรำพันเบา ๆ เพราะภาพที่เห็นอยู่เบื้องหน้านั้น เหมือนเทพธิดาเดินนำพาผมสู่สวงสวรรค์ หากแต่กายผมกลับรุ่มร้อนอย่างกะอยู่ท่ามกลางกองไฟในขุมนรก

ในขณะที่ผมเดินตามเทพธิดาของผมไป หูผมก็ได้ยินเสียงเพลงแว่วเข้ามาในหู

... ขอต้อนรับสู่โรงแรมของเรา
สถานที่น่าอยู่ ผู้คนล้วนเป็นมิตร
เรามีห้องพักมากมาย พร้อมให้บริการแก่ท่าน
ตลอดเวลา ตลอดทั้งปี
คุณสามารถมาพักที่นี่ได้เสมอ...


เสียงนี้ดังขึ้นมาจากพื้นไม้ด้านล่างที่จะเป็นพื้นที่สำหรับจัดงานเต้นรำ ตรงกลางลานอันกว้างใหญ่นั้นมีรถสปอร์ตสุดหรูยี่ห้อ Mercedes-Benz รุ่น SLR McLaren Roadster สีแดงสดจอดอยู่ โดยมีชายหนุ่มรูปร่างล่ำสัน เปลือยท่อนบน ใส่เพียงกางเกงสแล็คเท่านั้น หน้าตา ผิวพรรณเรียบเนียนงดงามดั่งเทพบุตร หากแต่มีสีผิวแตกต่างกันไปตั้งแต่ผิวขาวเนียนอย่างแสงจันทร์ ไปจนดำเข้มอย่างชาวแอฟริกัน ทุกคนล้วนเต้นรำกันอย่างสนุกสนานไปทั่วบริเวณ เสมือนว่ากำลังฉลองให้กับอะไรสักอย่าง เหล่านักเต้นเหล่านั้นเหงื่อไหลท่วมตัว เหมือนกับอยู่ท่ามกลางแสงแดดในหน้าร้อนก็ไม่ปาน แต่พวกเขากลับไม่คิดที่จะหยุดเต้นหรือพักเหนื่อยกันเลย ส่วนท่าเต้นนั้น มีหลากหลายท่าทาง หลากหลายลีลามาก บางท่าช่าวพลิ้วไหวดุจดั่งสายลม แต่บางท่าช่างน่าขับขันชนิดที่ว่า ต่อให้จ้างผมเป็นพันเหรียญผมก็คงไม่กล้าลงไปเต้นท่าตลก ๆ อันแสนทุเรศแบบนั้นเด็ดขาด

ผมยืนดูอยู่พักใหญ่ จึงหันไปถามไดอะน่าที่ยืนรออยู่ว่า "พวกเขาเป็นใครกัน"
เธอยิ้มให้ แล้วตอบสั้น ๆ ว่า "เป็นเพื่อนของดิฉันค่ะ"
"แล้วรถสปอร์ตคันงามนั้นล่ะครับ" ผมยังสงสัย
"เป็นรถของดิฉันเองค่ะ เราไปดูห้องพักกันก่อนไหมคะ" เธอตอบ และชวนผมเดินต่อไปยังลิฟท์

เมื่อมาถึงห้องพัก เธอไขกุญแจ พร้อมทั้งเสียบกุญแจห้องเข้ากับช่องสำหรับเปิดไฟ ทั้งห้องเต็มไปด้วยแสงสว่าง จากหลอดไฟทั้งหลายที่อยู่ภายในห้อง ห้องนี้จัดไว้สวยงามมาก เครื่องใช้ต่าง ๆ รวมทั้งเฟอร์นิเจอร์ต่างถูกจัดให้เข้าชุดกันอย่างลงตัว ประหนึ่งมันถูกออกแบบด้วยมัณฑนากรมือหนึ่งก็ไม่ปาน

"มีอะไรก็ติดต่อเรียกใช้ได้ทันทีนะคะ" เธอพูดก่อนที่จะเดินออกจากห้องไป ทิ้งให้ผมอยู่เพียงลำพังในห้องสุดหรูห้องนี้ โดยที่ผมไม่เคยสังเกตเลยว่าห้องที่พักอยู่นั้นเป็นห้องหมายเลข 1306 ซึ่งโรงแรมเกือบทั่วโลกจะไม่มีชั้นที่ 13 เพียงเพราะมันสร้างความกังวลใจให้แก่แขกผู้เข้าพักที่ถือเรื่องโชคลาง

ผมนั่งลงบนเตียง ท่ามกลางอากาศที่เย็นฉ่ำจากแอร์คอนดินชั่น หากแต่ในกายผมยังร้อนรุ่มอยู่ ผมตรงไปยังตู้เย็นภายในห้องพัก หมายจะหาไวน์มาดื่มสักหน่อย แม้มันจะเป็นไวน์สุดแพงในมินิบาร์ของโรงแรมก็ตาม แต่ภายในตู้นั้นกลับมีเพียงแค่ น้ำเปล่า น้ำแร่ แล้วก็น้ำผลไม้เท่านั้น ไม่มีไวน์ เหล้า หรือเบียร์แม้แต่ขวดเดียว

ผมจึงโทรลงไปที่ห้องอาหารหวังจะให้ใครนำไวน์มาให้ผมสักขวด แต่กัปต้นที่รับสายกลับตอบผมมาว่า "ที่นี่ไม่มีสปิริตมาตั้งแต่ปี 1969 แล้ว" คำพูดนี้เล่นเอาผมงงไปเลยทีเดียว "สปิริตงั้นเหรอ มันหมายความว่าอย่างไรกันเนี่ย" แต่ก่อนที่ผมจะพูดอะไรออกไป กัปตันดันชิงพูดขึ้นมาก่อนว่า "ผมหมายถึงเหล้าหน่ะครับ" เขาหัวเราะแล้วก็วางสายไป ทิ้งให้ผมนั่งงงอยู่ข้างโทรศัพท์

"อะไรกันเนี่ย เครื่องดื่มอื่นมีเยอะแยะ แต่กลับไม่มีเหล้า ไม่มีเบียร์ ไม่มีไวน์เลยงั้นเหรอ โรงแรมหรูขนาดนี้ขาดของพวกนี้ได้อย่างไรกัน" ผมหงุดหงิดไม่น้อยกับคำพูดของกัปตัน


"ช่างเถอะ ช่างมันเถอะ ดึกมากแล้ว ไปอาบน้ำนอนดีกว่า อย่ามาหงุดหงิดกับเรื่องไม่เป็นเรื่องพรรค์นี้เลย" ในช่วงนี้ผมอาบน้ำ และลูบไล้ตัวด้วยสบู่กลิ่นหอมละมุนนั้น ในหัวผมคิดถึงใบหน้าอันงดงาม รวมทั้งทรวดทรงองเอวของไดอะน่า หากว่าเธอมาร่วมอาบน้ำกับผมด้วยมันจะเป็นอย่างไรหนอ แต่ก่อนที่ผมจะเพ้อไปไกล ผมสะบัดหัวสีห้าทีเพื่อไล่ความคิดบ้า ๆ เหล่านั้นออกไปจากหัว เมื่อผมล้มลงนอนบนเตียงนุ่ม ๆ ใจผมก็พาลนึกถึงรูปร่างหน้าตา รวมทั้งน้ำเสียงอันหวานนุ่มของเธออีกจนได้ หากแต่ความเหนื่อยอ่อน และการอดหลับอดนอนมาสองวัน ทำให้ผมหลับลงไปในที่สุด...

ประธานนักศึกษา

โพสต์
2650
พลังน้ำใจ
5585
Zenny
1336
ออนไลน์
914 ชั่วโมง

หัวหน้าห้อง

โพสต์
483
พลังน้ำใจ
1402
Zenny
772
ออนไลน์
230 ชั่วโมง
ขอบคุนคับบบ

นายกองค์การนักศึกษา

โพสต์
1512
พลังน้ำใจ
18216
Zenny
11756
ออนไลน์
1177 ชั่วโมง
4#
 เจ้าของ| โพสต์ 2014-8-6 15:27:43 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
โรงแรมสราญรมณ์ ตอนที่ 2: ตัถย์

... ขอต้อนรับสู่โรงแรมของเรา
สถานที่น่าอยู่ ผู้คนล้วนเป็นมิตร
พวกเราอาศัยอยู่ที่นี่ ที่โรงแรมแห่งแคลิฟอร์เนีย
เป็นไงบ้างเพื่อน สนุกดีไหม
แล้วไหนล่ะ คำแก้ต่างของเจ้า...


ท่วงทำนองเพลงเดียวกับที่เคยได้ยินตอนเข้ามาในโรงแรมแห่งนี้ ดังแว่วขึ้นมาในหูอีกครั้ง ทำเอาผมสะดุ้งตื่น ไม่ใช่เพราะว่าท่อนหลังมันเป็นเปลี่ยนไปแบบแปลก ๆ เพียงอย่างเดียว หากเพราะผมได้ยินมันอย่างชัดเจน ทั้ง ๆ ที่ห้องที่ผมพักนั้นน่าจะอยู่สูงจนเสียงเหล่านี้ดังมาไม่ถึงต่างหาก

ผมงัวเงียพยายามลืมตาขึ้นอย่างยากลำบาก มันง่วงอย่างที่ไม่เคยง่วงมาก่อน ผมพยายามขยับตัว หากแต่แทบไม่มีแรงมากพอที่จะทำอะไรได้ แขนขาผมหนักอึ้งประหนึ่งมีอะไรมากดทับมันเอาไว้ ผมง่วง และผล็อยหลับไปหลายรอบกว่าจะลืมตาตื่นขึ้นมาได้

เมื่อสายตาผมชินกับแสงสว่างที่สาดส่องลงมาบนตัวผม ผมถึงได้รู้ตัวว่า ห้องนี้ไม่ใช่ห้องที่ตัวเองล้มตัวลงนอนแต่อย่างใด ห้องนี้มันกว้างดุจห้องประชุมขนาดใหญ่ ผนังทุกด้านติดกระจกเงาขนาดใหญ่เอาไว้ แถมกรอบกระจกยังเป็นสีแดงสดทุกบานอีกด้วย

ข้าง ๆ เตียงผมมีโต๊ะไม้อย่างดีตั้งอยู่ บนโต๊ะมีแชมเปญสีชมพูในขวดคริสตอลสวยงามวางอยู่บนก้อนน้ำแข็ง ที่ทำมาเพื่อวางขวดแชมเปญโดยเฉพาะ แล้วนี่มันอะไรกันล่ะ ไหนก่อนหน้านี้กัปตันบอกว่า "ที่นี่ไม่มีเหล้าตั้งนานแล้วไงเล่า" นี่ผมโดนหลอก หรืออะไรกันแน่ แล้วทำไมอยู่ดี ๆ ผมถึงมานอนอยู่บนเตียงไม้ในห้องนี้ได้ มันเกิดอะไรขึ้นเนี่ย

"เราเป็นนักโทษของที่นี่ และเหตุที่เราถูกจองจำ ก็เพราะการกระทำของเราเอง" เสียงหวานใส เหมือนกับที่ผมได้ยินครั้งแรกเมื่อมาถึงโรงแรมแห่งนี้ดังขึ้น หากแต่หนักแน่น และทรงพลังอย่างไม่น่าเชื่อ

ผมหันไปยังต้นเสียง ห้องทั้งห้องก็ค่อย ๆ สว่างขึ้นมา และพบว่าไดอะน่าที่ผมหลงใหลนั้นสวมชุดหนังรัดรูปที่เน้นให้เห็นสัดส่วนอย่างชัดเจน ส่วนด้านหลังเธอนั้นมีชายหนุ่มรูปงามที่ผมเห็นพวกเขาเต้นอยู่บนพื้นชั้นล่างนั่นเอง ทุกคนล้วนแต่เปลือยท่อนบน หากแต่สวมปลอกคอ และปลอกแขนสีดำสนิท ส่วนท่อนล่างนั้นใส่กางเกงหนังที่สั้นเอามาก ๆ จนแทบไม่ต่างอะไรกับกางเกงใน หรือกางเกงว่ายน้ำเลยสักนิด อีกทั้งมันยังรัดแน่นเอามาก ๆ จนเห็นเป้านูนเด่นออกมา ส่วนข้อเท้า สวมปลอกหนังเสมือนมีโซ่ตรวนพันธนาการเอาไว้ หากไร้ซึ่งโซ่ที่คอยยึดโยง มันดูเหมือนพวกเขาเตรียมตัวจะจัดงานฉลองรอบใหม่ที่แปลก และแหวกแนวกว่าเดิม หรือไม่บางที... งานฉลองนี้ยังไม่จบตั้งแต่แรกก็เป็นได้

เมื่อผมสังเกตดูเหล่าชายหนุ่มเหล่านั้นอย่างถี่ถ้วน ในมือพวกเขามีอุปกรณ์แปลก ๆ มากมาย หลายอย่างผมเคยเห็นในหนังสำหรับผู้ใหญ่บ้าง แต่บางอย่างผมก็ไม่คุ้นกับมันเช่นกัน และถึงแม้ผมจะรู้ดีกว่าอุปกรณ์เหล่านี้ไม่สามารถฆ่าผม หรือทำร้ายผมให้ถึงตายได้เลยก็ตาม หากแต่ใจผมกลับเต้นแรงขึ้นด้วยความกลัว เมื่อนึกถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นหลังจากนี้

เมื่อผมเงยหน้ามองพวกเขา ทุกคนล้วนจ้องมองมายังร่างอันเปลือยเปล่าของผม แล้วยิ้มให้อย่างหื่นกระหาย...

ไดอะน่าเดินตรงมายังผม แล้วเธอก็ก้มลงมาหมายจะจูบปากผม ปากของเธอห่างจากปากผมไปไม่เท่าไหร่ แต่เธอกลับหยุด แล้วก็ยิ้มให้ ก่อนที่ย้ายมาจูบที่หน้าผากผมแทน

"ทำตัวตามสบายเถอะนะ หนุ่มน้อย" น้ำเสียงอ่อนนุ่มนั้นประหนึ่งจะปลอบเด็กน้อยที่กำลังกลัวอะไรสักอย่างก็ไม่ปาน

หลังจากนั้นเธอก็เดินฝ่ากลุ่มของชายหนุ่มเหล่านั้นไป พวกเขาหลีกทางให้เธอแต่โดยดี เธอขึ้นไปนั่งไขว่ห้างบนเก้าอี้ที่ยกขึ้นสูงเหมือนจะเป็นบัลลังค์ ยกแก้วที่มีแชมเปญสีชมพูดขึ้นมาจิบ แล้วก็พูดขึ้นว่า

"เริ่มได้"

ชายหนุ่มที่ยืนอยู่ เดินเข้ามารายล้อมผมอย่างช้า ๆ แววตาหื่นกระหายของพวกเขาที่มองมายังผมนั่น ทำให้ผมกลัวสุดขั้วหัวใจ ผมพยายามรวบรวมแรงทั้งหมดที่มีในกายลุกขึ้นจากเตียง และวิ่งหนีทั้งที่เนื้อตัวยังเปลือยเปล่า จนพบช่องทางที่พอจะหนีออกไปได้ แม้ผมจะแปลกใจอยู่ไม่น้อยที่พวกเขาไม่ได้มัด หรือล่ามผมไว้กับเตียง อย่างที่มันควรจะเป็นหนังอีโรติกแนวนี้ก็ตาม และที่น่าแปลกใจกว่านั้นคือ ชายหนุ่มเหล่านั้น หาได้พยายามวิ่งไล่ตามผมเลย แต่แบบนี้มันก็ดีไม่ใช่เหรอ ผมจะได้หนีออกไปง่าย ๆ ไม่ต้องเหนื่อยแรงมากนัก

ผมวิ่งออกจากห้อง ออกจากโรงแรม ด้วยความเร็ว เร็วมากที่สุดเท่าที่ผมจะทำได้ ผมตั้งหน้าตั้งตาวิ่งออกไปเป็นเส้นตรงผ่านทะเลทรายอันเวิ้งว้างกว้างใหญ่ โดยไม่สนใจจะหันกลับไปมองโรงแรมแห่งนั้นเลยแม้แต่น้อย จนกระทั่งผมหมดแรงทรุดตัวลงกับพื้น ผมไม่เคยวิ่งไกล วิ่งนานขนาดนี้มาก่อนในชีวิต ผมเหนื่อยหอบ และหิวน้ำเป็นอย่างมาก แต่ผมรู้สึกว่า ผมคงจะรอดพ้นจากเอื้อมมือของคนเหล่านั้นได้สักที

หากเมื่อผมเงยหน้าขึ้นมองไปข้างหน้า กลับพบว่าตัวเองยังอยู่ที่หน้าโรงแรมแห่งเดิม ด้วยความตกใจระคนแปลกใจ ผมจึงพยายามลุกขึ้นจะวิ่งต่ออีกครั้ง แต่มีเสียงอันสุขุมนุ่มลึกดังแว่วขึ้นมาในหูของผม

"ทำตัวตามสบายเถอะพ่อหนุ่ม เหนื่อยมามากแล้ว พักผ่อนเสียบ้าง"

ผมหันไปยังต้นเสียง และได้พบกับหนุ่มใหญ่หน้าตาหล่อเหลาคมคาย ไว้หนวดไว้เคราครึ้มหากแต่ตัดแต่งอย่างดี เขาใส่ชุดทักซิโด้สีขาวทั้งตัว มือข้างขวาถือไม้เท้าเรียวยาวที่มีส่วนหัวเป็นเพชรเม็ดกลมใหญ่ประดับอยู่

เขายิ้มให้ผมอย่างเป็นมิตร ทำให้ผมรู้สึกสงบใจอย่างประหลาด "สำหรับโรงแรมแห่งนี้แล้ว คุณสามารถที่จะเช็คเอ้าท์เมื่อไหร่ก็ได้ ตามที่คุณต้องการ หากแต่ว่า คุณไม่มีทางที่จะหนีพ้นไปจากที่นี่ได้หรอกนะครับ คุณราล์ฟ..."

เสียงทุ้มนุ่มนวล แต่แฝงความเยือกเย็นเอาไว้สะกดผมให้ยืนนิ่งอยู่ตรงนั้น เลือดในกายเย็นเฉียบ ประหนึ่งว่าผมถูกสะกดให้กลายเป็นหิน เพียงเพราะมองตาคู่งามของนางเมดูซ่าก็ไม่ปาน...

~~~~~

ณ บ้านสวนอันร่มรื่นหลังหนึ่งในรัฐเท็กซัส สาวใหญ่คนหนึ่งกำลังนั่งถักไหมพรมอยู่หน้าบ้านของหล่อน หลังจากจอห์น ราล์ฟสามีผู้น่ารักของเธอเสียชีวิตไปเมื่อแปดปีก่อน เธอก็อยู่เพียงลำพังมาโดยตลอด และเป็นอาสาสมัครดูแลเด็กกำพร้าในบางวัน เธอหวังว่า สักวันหนึ่งมิเซล ราล์ฟผู้เป็นลูกเลี้ยงของเธอจะมาเยี่ยมเยียนเธอบ้าง แต่ก็เปล่าเลย เขาหายหน้าไปจากเธอ และน้อยครั้งที่เขาจะวิ่งรถเข้ามายังรัฐเท็กซัสเพื่อส่งของ

ซาแมนท่ารู้ดีว่า มิเชลนั้นไม่ชอบเธอมากนัก เพราะเมื่อจอห์นแต่งงานกับหล่อน จอห์นก็เลิกทำงานที่ตนรักร่วมกับมิเชลลูกของเขาทันที มิหนำซ้ำ ยังขอให้มิเชลเลิกทำงาน แล้วมาอยู่ที่นี่ด้วยกันอีก สำหรับมิเชล ซึ่งรักอิสระเหนือสิ่งใด มันดูโหดร้ายพอ ๆ กับจับเขาขังคุกก็ไม่ปาน

มีเพียงเหตุผลเดียวที่จอห์นผู้เป็นพ่อหวังจะให้มิเชลมาอยู่ที่นี่ เพราะเขารู้ตัวว่า จะมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่นาน เพราะโรคมะเร็งปอดที่ก่อเกิดขึ้นในกายของเขา แม้ว่าซาแมนท่าจะรู้ว่าตนองต้องมาดูแลคนป่วยเพียงลำพัง แต่ความรักที่เธอมีให้แก่จอห์นนั้น ทำให้เธอยินดีที่จะทำ และอยากจะใช้เวลาอันน้อยนิดที่เหลืออยู่ให้มีความสุขมากที่สุด

และเนื่องจากมิเชลไม่เคยกลับมาหาพวกเขาหลังจากแต่งงาน ซาแมนท่าจึงใช้เส้นสายที่เธอเคยมีเมื่อครั้งยังทำงานอยู่บริษัทขนส่งสินค้า ซึ่งทำให้เธอรู้จักสนิทสนมกับสิงห์รถบรรทุกมากมาย หนึ่งในนั้นก็คือจอห์นสามีของเธอด้วยเช่นกัน นอกจากนั้นเธอยังมีเพื่อนในบริษัทขนส่งอื่น ๆ ที่กระจายอยู่ทั่วอเมริกาอยู่มากมาย เธอมักจะสืบถามเรื่องราวของมิเชลมาบอกเล่าแก่จอห์น สามีสุดที่รักของเธออยู่เสมอ แต่น่าแปลกที่เมื่อหนึ่งปีก่อน ข่าวคราวของมิเชลกลับเงียบหายไปเสียเฉย ๆ เธอสอบถามผู้คนมากมาย ก็รู้เพียงว่า เขาขับรถออกไปเพื่อจะรับสินค้าที่รัฐแคลิฟอร์เนีย หากแต่หลังจากนั้นก็ไม่มีใครพบเห็นตัวมิเชล หรือ สลาฟเนีย รถของเขาอีกเลย

ในครั้งแรกเธอหวังจะให้ตำรวจสืบหาตัวมิเชลให้ แต่พอมาคิดดูอีกที ขนาดเครือข่ายของเหล่าสิงห์รถบรรทุกที่มักจะแจ้งข่าวต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นอุบัติเหตุ ด่านตรวจ เส้นทางอันตรายต่าง ๆ รวมทั้งบางคันยังดักฟังวิทยุของตำรวจอยู่ด้วย ยังไม่มีข่าวคราวอะไรของมิเชลเลยแม้แต่น้อย ต่อให้แจ้งตำรวจไป ก็คงไม่ได้อะไรขึ้นมาอยู่ดี

"มันเกิดอะไรขึ้นกับมิเชลกันแน่ จอห์น คุณช่วยบอกฉันหน่อยสิ" อยู่ดี ๆ เธอก็วางมือจากการถักไหมพรม แล้วรำพันออกมา

(โปรดติดตามตอนต่อไป)

นายกองค์การนักศึกษา

โพสต์
1512
พลังน้ำใจ
18216
Zenny
11756
ออนไลน์
1177 ชั่วโมง
5#
 เจ้าของ| โพสต์ 2014-8-9 20:45:10 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
โรงแรมสราญรมณ์ ตอนจบ: นิรันดร์

Lamborghini Murciélago Roadster สีขาวคันงามกำลังมุ่งหน้าสู่แคลิฟอร์เนียด้วยความเร็วสูง ภายในรถคั้นนี้มีหนุ่มน้อยผิวขาว รูปร่างดีคนหนึ่งนั่งอยู่ในรถ เขาบ่นกับตัวเองเรื่องแฟนสาวที่ทิ้งเขาไปด้วยถ้อยคำสบถต่าง ๆ นานา เพื่อที่จะให้หายแค้นใจ

เขาอุตส่าห์ตามไปง้อเธอถึงบ้านของหล่อนที่อยู่อีกเมืองหนึ่ง ด้วยสาเหตุเพียงแค่ว่า เขาซื้อนมเปรี้ยวธรรมดาให้เธอ แทนที่จะเป็นนมเปรี้ยวไขมันต่ำตามที่เธอสั่งเท่านั้น แต่พอไปถึงกลับได้พบว่า เธอเดินกอดคอจู๋จี่กับผู้ชายรุ่นราวคราวเดียวกับเขา และแสร้งทำเป็นไม่เห็นเขา ทำเหมือนคนไม่รู้จักกันอีกด้วย ยิ่งคิดแล้วยิ่งแค้นใจไม่หาย

ด้วยความหงุดหงิด เจ็บใจ ทำให้เขายิ่งเหยียบคันเร่งมากเข้าไปอีก จนเข็มไมล์แทบจะแตะระดับความเร็วสูงสุด แต่แล้วอยู่ ๆ เขาก็รู้สึกเหมือนกับว่า มีใคร หรืออะไรวิ่งผ่านหน้ารถไปต่อหน้าต่อตาเขา และมีเสียงดังโครมเหมือนกับความว่าเขาชนเข้ากับอะไรบางอย่าง ด้วยเหตุนี้เขาจึงเบรกรถอย่างแรง จนทำให้เสียงเบรกดังไปทั่วบริเวณ

On a dark desert highway, cool wind in my hair
"โธ่โว้ย ทำไมถึงซวยซ้ำซวยซ้อนอย่างนี้วะ" เขาสบถก่อนที่จะเปิดประตูลงมาจากรถ เพื่อมองดูว่าเขาชนเข้ากับอะไร แต่ปรากฏว่า เขาไม่เห็นใคร หรือสิ่งใดเลยนอกจากพื้นถนนอันว่างเปล่า แม้แต่รถของเขาก็ไร้ซึ่งร่องรอยใด ๆ

Warm smell of colitas, rishing up throught the air
ในระหว่างที่งุนงงกับเหตุการณ์อยู่นั้น กลิ่นหอมอ่อน ๆ บางเบาของดอกไม้ป่าก็ลอยมา ด้วยความอยากรู้ว่ามันเป็นกลิ่นของดอกอะไร เขาจึงสูดดมมันเข้าไปเต็มปอด แต่เขากลับไม่ค้นชินกับกลิ่นแบบนี้อยู่ดี "กลิ่นอะไรก็ช่างเถอะ แต่มันก็หอมดีแฮะ" เขาคิด

"เราคงตาฝาดไปเองล่ะมั้ง ไม่มีอะไรหรอก" เขาพูดออกมาเพื่อกลบเกลื่อนความกลัวลึก ๆ ที่กำลังกัดกินหัวใจของเขาอยู่ภายใน แล้วก็กลับไปขับรถต่อ

Up ahead in the distance, I saw a shimmering light
ระหว่างทาง เขาเหลือบไปเห็นป้ายโฆษณาของโรงแรมสุดหรูแห่งหนึ่งอยู่ข้างหน้า และเหมือนจะมีอะไรบางอย่างดลใจให้เขาเลือกที่จะพักที่โรงแรมแห่งนี้ แทนที่จะขับรถกลับบ้านที่อยู่ในตัวเมืองแคลิฟอร์เนีย

My head grew heavy and my sight grew dim had to stop for the night
"บางที การได้นอนพักเต็มอิ่มสักคืน หาอะไรเย็น ๆ ดื่มสักหน่อย ก็คงจะดี แต่... เอ... ทำไมชื่อโรงแรมมันดูแปลก ๆ ยังไงก็ไม่รู้แฮะ"

ทันทีที่เขาเปิดประตูโรงแรมเข้าไป ก็พบกับชายหนุ่มผมทรงสกินเฮดเหมือนเขา รูปร่างค่อนข้างใหญ่ ในชุดเสื้อเชิ้ตแขนยาวสีขาว ยืนอยู่ตรงเคาเตอร์ ดูท่าทางแล้ว เขาน่าจะเป็นพนักงานต้อนรับของโรงแรมแห่งนี้ ชายหนุ่มผู้นั้นจ้องมองมายังตัวเขาด้วยรอยยิ้มอย่างเป็นมิตร


ใบหน้าขาวเนียนสดใสอย่างเด็กแรกรุ่น ผมทรงสกินเฮดที่โกนผมบางส่วนออกเพื่อให้เกิดลวดลายบนศีรษะ มีหนาวเคราที่ขึ้นนิดหน่อยบาง ๆ ร่างกายมีกล้ามเนื้อนิด ๆ ในเสื้อแขนกุดสีขาว กางเกงยีนส์ที่เข้ากัน บนบ่าซ้ายมีเสื้อคลุมพาดอยู่ พร้อมกับใบหน้าที่ดูกวน ๆ นี่ถ้าเขายิ้มคงจะน่ารักไม่น้อย เพียงแต่ตอนนี้ใบหน้านั้นกลับบึ้งตึงเหมือนโกรธใครมาอย่างนั้น

There she stood in the doorway;
หนุ่มน้อยผู้นั้นเดินตรงมายังเคาเตอร์ที่ผมยืนอยู่ ก็แหงล่ะครับ มีผมคนเดียวที่อยู่ที่นี่เวลานี้นี่นา แต่ผมเองกลับเป็นคนที่เม่อมองดูเขา แล้วคิดไปถึงไหนต่อไหน

I heard the mission bell
"มอง'ไร" เขาทักผม ทำเอาผมสะดุ้ง หลุดออกจากความฝันอีกครั้ง

And I was thinking to myself,
"เอ่อ... ขอโทษครับ" ผมขอโทษเขาด้วยใจจริง ก่อนจะยิ้มให้แก่เขาอีกครั้ง

'This could be Heaven or this could be Hell'
"ขอต้อนรับ... คุณ... เอ่อ..." ผมเว้นระยะ เพราะผมยังไม่ทราบชื่อของเด็กหนุ่มรายนี้เลย

Then she lit up a candle and she showed me the way
"วิล, โทมัส วิล" เขาตอบกลับด้วยน้ำเสียงห้วน ๆ ไม่เปลี่ยน แต่ยังไงเสียเขาก็ยังคงน่ารักสำหรับผมอยู่ดีนั่นแหละ

There were voices down the corridor,
ผมยิ้มให้เขาอย่างเป็นมิตรอีกครั้ง พร้อมกับกล่าวแนะนำตัว

I thought I heard them say…
"ผมมิเชล ราล์ฟ ขอต้อนรับคุณโทมัส วิล สู่ โรงแรมสุดหรูแห่งแคลิฟอร์เนียครับ"

Welcome to the Hotel California
Such a lovely place
Such a lovely face
Plenty of room at the Hotel California
Any time of year, you can find it here

Her mind is Tiffany-twisted, she got the Mercedes bends
She got a lot of pretty, pretty boys, that she calls friends
How they dance in the courtyard, sweet summer sweat.
Some dance to remember, some dance to forget

So I called up the Captain,
'Please bring me my wine'
He said, 'We haven't had that spirit here since nineteen sixty
nine'
And still those voices are calling from far away,


ภายในห้องพักสุดหรูบนคอนโดมิเนียมแห่งหนึง ณ กรุงเทพมหานคร เมืองฟ้าอมร...

Wake you up in the middle of the night
"อ่า เผลอหลับไปตอนไหนเนี่ย..." ชายหนุ่มกล่าวกับตัวเองทั้ง ๆ ที่ยังนอนอยู่บนเตียงในชุดทำงานของเมื่อวาน เขากะจะนอนฟังเพลงให้สบายใจสักหน่อย ก่อนจะออกไปหาอะไรมากินเป็นอาหารค่ำ แต่กลับเผลอหลับไปเสียเมื่อไหร่ก็ไม่รู้

Just to hear them say…
พอได้ยินเสียงเพลงแว่วมา มันทำให้เขาหวนนึกถึงความฝันเมื่อครู่ มันทำให้เขาถึงกับสะดุ้ง และอุทานออกมา

Welcome to the Hotel California
"เฮ่ย..."

Such a lovely place
Such a lovely face
They livin' it up at the Hotel California
What a nice surprise, bring your alibis

Mirrors on the ceiling,
The pink champagne on ice
And she said 'We are all just prisoners here, of our own device'
And in the master's chambers,

They gathered for the feast
The stab it with their steely knives,
But they just can't kill the beast

Last thing I remember, I was
Running for the door
I had to find the passage back
To the place I was before
'Relax,' said the night man,
We are programmed to receive.
You can checkout any time you like,
but you can never leave!


และไม่ว่าเขาจะรู้ตัวหรือไม่ก็ตาม เพลงเพลงนี้โดนสุ่มเล่นซ้ำแล้วซ้ำเล่าอยู่เพลงเดียวตั้งแต่เขาเริ่มหลับแล้ว...

~ THE END ~




จบแล้วครับ เรื่องนี้แต่งสั้น ๆ เพราะชอบเพลง ๆ นี้ แล้วก็ตอนนั้นเกิดอาการติดหล่มนิดหน่อย เลยนึกอะไรแผลง ๆ ขึ้นมาได้ก็เท่านั้นแหละ

ขอบคุณที่อ่านจนจบ และขอโทษที่มันไม่มีฉากอีโรติก เพราะว่าตอนนั้นไม่ตั้งใจจะให้มันมีหน่ะครับ

นายกองค์การนักศึกษา

โพสต์
7338
พลังน้ำใจ
39201
Zenny
2465
ออนไลน์
7620 ชั่วโมง
ขอบคุงคร้าบ

นายกองค์การนักศึกษา

โพสต์
3911
พลังน้ำใจ
38505
Zenny
700
ออนไลน์
22243 ชั่วโมง

มาเฟียคุมคณะ

โพสต์
18441
พลังน้ำใจ
85112
Zenny
37820
ออนไลน์
5481 ชั่วโมง
  หวาดดีคราบบ หวัดดีปี 2017

นายกองค์การนักศึกษา

โพสต์
4227
พลังน้ำใจ
24393
Zenny
18279
ออนไลน์
1732 ชั่วโมง
ขอบคุณครับ

นายกองค์การนักศึกษา

โพสต์
1405
พลังน้ำใจ
10724
Zenny
289
ออนไลน์
885 ชั่วโมง

นายกองค์การนักศึกษา

โพสต์
3232
พลังน้ำใจ
15989
Zenny
9811
ออนไลน์
1591 ชั่วโมง
ขอบคุณมั๊กๆครับผม

นายกองค์การนักศึกษา

โพสต์
3232
พลังน้ำใจ
15989
Zenny
9811
ออนไลน์
1591 ชั่วโมง
ขอบคุณมั๊กๆครับผม

มาเฟียคุมคณะ

โพสต์
14859
พลังน้ำใจ
75722
Zenny
24310
ออนไลน์
11814 ชั่วโมง

มาเฟียคุมคณะ

โพสต์
14859
พลังน้ำใจ
75722
Zenny
24310
ออนไลน์
11814 ชั่วโมง
ขอบคุณมากมาย

นายกองค์การนักศึกษา

โพสต์
5935
พลังน้ำใจ
29800
Zenny
6198
ออนไลน์
6178 ชั่วโมง
ขอบคุณครับ

มาเฟียคุมคณะ

โพสต์
13110
พลังน้ำใจ
65545
Zenny
645
ออนไลน์
5100 ชั่วโมง
ขอบคุณครับ
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ลงชื่อเข้าใช้ | สมัครเข้าเรียน

รายละเอียดเครดิต

A Touch of Friendship: สังคมจะน่าอยู่ เมื่อมีผู้ให้แบ่งปัน ฝากไวเป็นข้อคิดด้วยนะคะชาวจีโฟกายทุกท่าน
!!!!!โปรดหยุด!!!!! : พฤติกรรมการโพสมั่วๆ / โพสแต่อีโมโดยไม่มีข้อความประกอบการโพส / โพสลากอักษรยาว เช่น ครับบบบบบบบบ, ชอบบบบบบบบ, thxxxxxxxx, และอื่นๆที่ดูแล้วน่ารำคาญสายตา เพราะถ้าท่านไม่หยุดทีมงานจะหยุดท่านเอง
ขอความร่วมมือสมาชิกทุกท่านโปรดโพสตอบอย่างอื่นนอกเหนือจากคำว่า ขอบคุณ, thanks, thank you, หรืออื่นๆที่สื่อความหมายว่าขอบคุณเพียงอย่างเดียวด้วยนะคะ เพื่อสื่อถึงความจริงใจในการโพสตอบกระทู้ และไม่ดูเป็นโพสขยะ
กระทู้ไหนที่ไม่ใช่กระทู้ในลักษณะที่ต้องโพสตอบโดยใช้คำว่าขอบคุณ เช่นกระทู้โพล, กระทู้ถามความเห็น, หรืออื่นๆที่ทีมงานอ่านแล้วเข้าข่ายว่า โพสขอบคุณไร้สาระ ทีมงานขอดำเนินการตัดคะแนน และ/หรือให้ใบเตือนสมาชิกที่โพสขอบคุณทันทีที่เจอนะคะ

รูปแบบข้อความล้วน|โทรศัพท์มือถือ|ติดต่อลงโฆษณา|จีโฟกายดอทคอม


ข้อความที่ท่านได้อ่านในเว็บจีโฟกายดอทคอมนี้ เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชน และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ หากท่านพบเห็นข้อความใดๆ ที่ขัดต่อกฎหมาย และศิลธรรม ไม่เหมาะสมที่จะเผยแพร่ ท่านสามารถแจ้งลบข้อความได้ที่ Link “แจ้งลบโพสนี้” ที่มีอยู่ใต้ข้อความทุกข้อความ หรือ ลืมพาสเวิดล๊อกอิน/ลืมชื่อที่ใช้สมัคร หรือข้อสงสัยใดๆแจ้งมาที่ G4GuysTeam[at]yahoo.com ขอขอบพระคุณที่ให้ความร่วมมือ

กรณีที่ข้อความ/รูปภาพในกระทู้นี้จัดสร้างโดยผู้ลงข้อมูลเอง ลิขสิทธิ์จะเป็นของผู้ลงข้อมูลโดยตรง หากจะทำการคัดลอก/เผยแพร่ ต้องได้รับอนุญาตจากผู้ลงข้อมูลก่อนนะคะ หรือลงที่มาไว้ด้วยค่ะ

©ขอสงวนสิทธิ์คอนเซ็ปต์,คำอธิบาย,หัวข้อ/หมวดหมู่เว็บ ห้ามลอกเลียนแบบ คิดเอาเองนะคะอย่าเอาแต่ลอก

GMT+7, 2024-5-11 09:42 , Processed in 0.238769 second(s), 24 queries .

Powered by Discuz! X3.1 R20140301, Rev.31

© 2001-2013 Comsenz Inc.

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้