จีโฟกาย.คอม

 ลืมรหัสผ่าน
 สมัครเข้าเรียน
ค้นหา
 
ดู: 428|ตอบกลับ: 10
สั่งพิมพ์ ก่อนหน้า ถัดไป
ซ่อนแถบด้านข้าง

ลูกแก้วมังกร รามูนจ้าวแห่งสายลม ??? 7

[คัดลอกลิงก์]

โสด

   ศาสตราจารย์เอื้ออาทร
อาจารย์พิเศษ
ถ้าหากว่าซ้ำต้องขออภัยนะครับและขอโทษเจ้าของเรื่องด้วยนะครับเพราะว่าคัดลอกมาอีกที
ความเดิมตอนที่แล้ว


                      “อืม..งั้นบ่ายนี้เริ่มเลยแล้วกัน อาจะไปดูเราซ้อมด้วย”ผมตัดบท  พูดจบเจ้าตัวฉีกยิ้มกว้างส่งมาให้ผมได้อย่างหน้าเป็นทำไมผมถึงได้ร้อนหน้าไม่หาย  เอาเถอะอย่างน้อยก็ยังดีที่หันเหเบี่ยงความสนใจไปจากเรื่องที่เพิ่งโดนจูบดูดวิญญาณได้สำเร็จ คงต้องระวังให้มากกว่าเดิมแล้วหละ  ไอ้หลานบ้านี่ดันเก่งเรื่องอย่างนี้..เฮ้อ!
Part  7
ไม่ได้เรื่อง?   

“โอ๊ะ! โอย..อูย!” ผมนั่งดูไอ้หลานร่างยักษ์ ล้มลุกคลุกคลานวัดพื้นไปไม่รู้กี่รอบ ตั้งแต่อาคมสอนทักษะการป้องกันตัวขั้นพื้นฐานโดยจัดการ์ดมาเป็นคู่ซ้อมให้ พร้อมกับให้คำชี้แนะอย่างใกล้ชิด แต่ผลลัพธ์ที่ได้ก็อย่างที่เห็น  
   “สงสัยผมจะหวังมากไป” อาคมเดินเข้ามาคุยกับผมที่โต๊ะ หลังกำชับการ์ดพี่เลี้ยงคอยแนะนำการฝึกให้
ลูกแก้วต่อ สีหน้าแววตาเจ้าตัวบ่งบอกว่าหนักใจอย่างไม่ปิดบัง ผมเลิกคิ้วขอคำอธิบายในสิ่งที่ครูฝึกการ์ดมือโปรกำลังต้องการสื่อความหมาย
   “ก็คุณลูกแก้วหน่วยก้านเหมาะสำหรับระดับมือเซียนด้วยซ้ำ หากได้รับการถ่ายทอดอย่างถูกต้องสามารถขึ้นมาเป็นการ์ดมือหนึ่งได้ไม่ยาก” พูดเว้นจังหวะรอว่าผมมีคำถามหรือไม่ แต่ผมยังคงนิ่งโดยไม่ได้พูดแทรก อาคมจึงพูดต่อเมื่อเห็นผมเงียบไม่ได้ถามอะไรไป
   “น่าจะยากอาจต้องใช้เวลานานกว่าคนปกติ เพราะคุณลูกแก้วไม่มีพรสวรรค์เสียเลย สอนยากกว่าคนทึ่มที่สุดในบรรดาที่ผมเคยฝึกเสียอีก”ประโยคท้ายส่ายหัวให้ด้วย แสดงออกชัดเจนว่าคนพูดรู้สึกอย่างไร
   “อืมคงเป็นหนึ่งในข้อด้อยของเค้า” ผมพูดตรงๆ ยอมรับอย่างไม่มีข้อแก้ต่าง นับกว่าสองชั่วโมงที่ลงมานั่งดูหลานตัวโข่งฝึกทักษะการต่อสู้ขั้นพื้นฐาน ซึ่งผมเคยฝึกตอนอายุเก้าขวบยังไม่เลวร้ายเท่ากับภาพที่เห็นลูกแก้วเก้ๆกังๆมั่วไม่มีที่ติ ที่สำคัญแรงควายซึ่งเจ้าตัวพยายามจะโชว์พลัง โถมเข้าใส่คู่ต่อสู้โดยไร้สมองก่อนจะถูกอีกฝ่ายซัดลงไปนอนนับดาวไม่รู้กี่สิบครั้ง จะสงสารหรือส่ายหัวกับความไม่เอาอ่าวของเขาดี
   “พอเถอะอาคมขืนให้ซ้อมต่อสงสัยจะไม่มีแรงลุก” ผมตัดสินใจยุติการฝึก ทนดูไอ้เด็กแสบลงไปนอนไม่เป็นท่าต่อไม่ไหวทำไมถึงได้ปวกเปียกไร้สมองในการป้องกันตัวถึงเพียงนี้ก็ไม่รู้
   “ครับ” อาคมรับคำสั้นๆ ก่อนจะเดินเข้าไปยุติการซ้อมในสนามด้วยตัวเอง พอได้ยินคำสั่งให้หยุดซ้อมเท่านั้นแหละใบหน้าพราวไปด้วยเหงื่อเหมือนคนขี้ไม่ออกเผยยิ้มกว้างขึ้นมาทันตา ยังกับรอเวลานี้มานาน ก่อนเจ้าตัวจะเดินเหมือนไม่มีกระดูกตรงมาที่ผมทันที ยิ่งเห็นว่าผมกำลังมองดันเปลี่ยนโหมดทำหน้าละห้อยอย่างไว ให้มันได้แบบนี้สิ
   “อูย..เคล็ดไปทั้งตัวแล้วครับ” น้ำเสียงติดจะอ้อนที่เจ้าตัวพูดขึ้นทั้งที่ยังเดินมาไม่ถึงเลยด้วยซ้ำ มีทำตาปริบๆด้วยหวังจะให้ผมสงสารละสิ
             “แค่นี้ก็หมดความอดทน?”  ผมถามหน้านิ่ง ทำเอาเจ้าหลานร่างยักษ์หน้าบูดเป็นตูดลิงขึ้นมาเลยทีเดียว
              “โห..อาไม่รู้หรอกว่าผมอดทนแค่ไหน นี่ถ้าไม่เพราะอยากดูแลอาละก็ผมไม่ยอมฝึกหรอก เจ็บตัวชะมัด” มีโอดครวญถึงความดีความชอบของตัวเองหน้าตาเฉย
              “อาจะบอกให้ฟังที่เราฝึกอยู่นั่นอาฝึกตั้งแต่เก้าขวบยังไม่ห่วยแตกแบบเราเลย จะเชื่อไหมล่ะ?” พูดจบเจ้าตัวทำตาโตจ้องผมอึ้งค้าง เลยต้องยืนยันอีกครั้ง
             “เรื่องจริง” เท่านั้นแหละครับ สายตาคมเข้มออกอาการตัดพ้อกลับมาทันที ก่อนจะพูดขึ้นมาว่า
            “อาพูดเหมือนผมไม่ได้เรื่อง” พึ่งรู้ตัวว่าผมหมายความตามนั้น
           “อืมอาคิดจริงด้วยสิ” ผมก็ยอมรับหน้าตาย ก็มันไม่ได้เรื่องนี่หว่า?  จะให้บอกว่าดีแล้วหรือไง ห่วยยิ่งกว่า
เด็กประถมเสียอีก
          “อะไรครับไม่ให้กำลังใจยังซ้ำเติมผมอีก” ไอ้ท่าทางนอยด์ใส่ทำแก้มป่องหลับตาปริบๆ เห็นแล้วอยากถีบตกเก้าอี้ชะมัด ทำออกมาได้ไม่ดูสารรูปตัวเองเลยมั้งนั่น  ตัวแม่งยังกับยักษ์
          “ช่างเถอะ ขอตัวก่อน” ผมตัดบทลุกขึ้นยืนเตรียมกลับไปพักผ่อนในห้อง ทนมองหน้าคมเข้มทำท่าทาง
ปัญญาอ่อนไม่ไหว
         “อ้าว! งั้นผมไปด้วย” ผมไม่ตอบปล่อยไอ้เด็กโข่งเดินเป็นยักษ์ปักหลั่นตามหลังมาต้อยๆ ห้ามไปก็คงหาเหตุขอตามมาอยู่ดี เพียงไม่กี่วันที่มีเวลาใกล้ชิดกัน ผมรู้ฤทธิ์ความดื้อของเขาดี ดื้อเงียบรั้นมากบทจะดื้อละก็ปฏิเสธไปคงยอมฟังหรอกหยวนได้ก็หยวนให้ แต่ถ้าเป็นเรื่องใหญ่คงต้องเด็ดขาดกันบ้างไม่งั้นจะเคยตัว
        “เอาล่ะอาจะพักซักหน่อย เรากลับห้องไปพักผ่อนเถอะ” ผมหันหน้ามาบอกเจ้าตัว หลังตามผมมาถึงในห้องด้วยสภาพเหงื่อชุ่มชุดฝึกจนวาวน้ำเปียกไปทั่วแผ่นหลัง
       “รออาหลับก่อนดิ” มีต่อรองอีก ผมใช้วิธีจ้องหน้าแทนการปฏิเสธว่าผมไม่ต้องการให้อยู่ด้วย
      “โธ่! ผมสัญญาไม่กวนเด็ดขาด” ผมยังคงนิ่งจ้องหน้าใช้สายตาชัดเจนว่าไม่อนุญาต พอเห็นท่าทางผมไม่อ่อนให้เหมือนทุกครั้ง มีทำหน้าสลดก่อนจะส่งสายตาวิงวอนมาแทนการขอร้อง กลายเป็นผมที่ทนมองตาคมเข้มเผยความรู้สึกบางอย่างโดยไม่ซ่อนเร้นไม่ได้ ต่อให้เด็กอมมือก็ดูออกว่าสายตาแบบนี้เจ้าของต้องการสื่อถึงอะไร ยอมรับว่าลูกแก้วถ่ายทอดความรู้สึกผ่านดวงตาได้อย่างชัดเจนว่ารู้สึกอย่างไรกับผม สายตาที่มองอ้อนแทนการบอกรักเลยนั้น ทำให้ผมอึดอัดพิกลความรู้สึกทั้งหมดมันโถมทับเข้าใส่จนทำให้หายใจไม่สะดวก
ในขณะเดียวกันพาลจะใจอ่อนเข้าจนได้ จึงใช้วิธีเบือนหน้าหนีไม่มองดีกว่าเป็นเพราะไม่อยากใจอ่อน
ให้อีก  คล้ายเจ้าตัวจะรู้ทันขยับมายืนดักตรงหน้าผมเสียหน้าตาย  
            “นะครับ ให้ผมอยู่ด้วยนะ” ผมเงียบไม่ตอบ เดินหนีขึ้นไปนอนตะแคงหันหลังให้เอาไหล่ซ้ายลงด้านล่างเพื่อไม่ให้โดนแผลที่ไหล่ขวาปิดเปลือกตาหลับให้รู้ว่าต้องการพัก แต่หูยังคงแอบฟังว่าเขาทำอะไรต่อ  
           ได้ยินเสียงประตูห้องน้ำเปิดปิดคงเข้าไปทำธุระส่วนตัว หายเข้าไปนานพอสมควรน่าจะอาบน้ำด้วยแหละ แล้วนึกยังไงถึงมาอาบห้องผมห้องตัวเองก็มี รู้สึกพักนี้ชีวิตผมขาดความเป็นส่วนตัวลงไปทุกที
            จนกระทั่งเสียงเปิดประตูก่อนที่เตียงจะยุบ ผมแกล้งหลับไม่ทันไรแขนหนาล่ำที่เย็นชื้นเพราะเจ้าของเพิ่งอาบน้ำมาหมาดๆก็พาดมาที่ตัวผมกลิ่นสบู่หอมฟุ้งกระจาย พร้อมกับลมหายใจเป่ารดท้ายทอยอีก ไม่ต้องเดาว่าผมกำลังโดนเจ้าเด็กนี่กอดอีกแล้ว
           “ปล่อย” สั่งเสียงห้วนดุ เพื่อให้เอาแขนออกชักฉวยโอกาสเก่ง
          “อือ..ผมง่วงหลับด้วยคนครับ” บ่นเสียงอู้อี้ เหมือนเจ้าตัวกำลังง่วงเต็มแก่ ทั้งที่เพิ่งอาบน้ำมาหยกๆ
นับวันเจ้าเล่ห์ขึ้นเรื่อยๆ
        “ถ้าง่วงก็กลับไปนอนห้องเราสิ” ผมยังคงเสียงแข็งใส่
        “น่า..ช่วยกันประหยัดพลังงานไม่เปลืองแอร์ประหยัดไฟด้วย นอนด้วยกันนะครับ” ตีมึนสุดๆ พูดไปคงไม่เกิดประโยชน์อดถอนหายใจเลย
        “เฮ้อ!”  ต่อให้เอ็ดไอ้ตัวแสบมันก็คงแถอยู่ดี ช่างมันเหอะสักวันก็คงเบื่อเอง
         ผมหลับไปร่วมกว่าสองชั่วโมง ปกติไม่เคยหลับตอนบ่ายมาก่อน ไม่ติดว่าทานยาที่หมอสั่งคงไม่ง่วง ตื่นมาดันอยู่ในอ้อมกอดของไอ้สุดแสบ ถึงจะเปลี่ยนมานอนหงายไม่ได้ตะแคงข้างแล้วก็ตาม โดยผมกำลังหนุนแขนเจ้าตัวแทนหมอน นี่ผมหลับลึกเพราะฤทธิ์ยาขนาดนี้เชียวหรือนี่
          ในขณะที่เจ้าตัวตื่นก่อน แต่กลับนอนมองผมตาเยิ้มไม่ได้รู้สึกกับสายตาหงุดหงิดของผมสักนิด ปกติหากผมจ้องใครด้วยสายตาแบบนี้มีแต่ผวามันใช้ไม่ได้ผลเลยกับไอ้ตัวแสบ จะลุกก็ลำบากเพราะไหล่ซ้ายดันเกยอยู่บนตัวเขาไหล่ขวามีหมอนรองกันกระแทกให้ด้วย มิน่าถึงไม่รู้สึกเจ็บ หากเบี่ยงตัวลุกโดยไม่ให้ไหล่ขวากระเทือน ก็ต้องเอาตัวขึ้นไปยันอยู่บนกล้ามท้องเจ้าตัวแสบมัน ขอเลือกอยู่เฉยออกปากสั่งเอาดีกว่า
            “อาจะทำธุระส่วนตัว เราลุกขึ้นได้แล้ว” สายตาอ่อนโยนที่ขยันส่งให้เป็นอะไรที่ผมไม่ชอบเอาเสียเลย ขืนออกอาการจะกลายเป็นว่าการกระทำของเขามีผลกับผมคงเล่นไม่เลิกแน่  วิธีเดียวที่เอามาใช้คือเฉยไม่ให้ความสนใจก็สิ้นเรื่อง
            “ครับผมช่วย” พูดจบไม่รอให้ตั้งตัวจัดการกอดผมอุ้มลุกขึ้นนั่ง ทำเหมือนเป็นเด็กซะงั้น งงกับพละกำลังเขาเสียจริง แม้จะรู้ว่ากล้ามเนื้อของเจ้าตัวบ่งบอกชัดเจนว่าแข็งแรงก็เถอะ แต่เล่นกอดผมลุกโดยไม่ออกอาการหนักให้เห็นสักนิดทั้งที่ตัวผมก็ไม่ใช่เล็กถ้าเทียบกับชายไทยปกติถือว่าผมสูงใหญ่ด้วยซ้ำ ไม่เป็นปัญหาต่อเจ้าเด็กร่างยักษ์แม้แต่น้อย เอาผมลุกนั่งแม้จะดูเป็นความหวังดี แต่ท่ามันแปลกกลายเป็นผมต้องเข้าไปซุกอยู่ในอกเปลือยของเขาจนได้ยินเสียงหัวใจเจ้าตัวดังอยู่ในหูชัดเจน
              “ปล่อยได้แล้ว”  ต้องรีบบอก หลังไอ้ตัวดีไม่ยอมคลายแขนออก ดันจ้องหน้าผมตาเยิ้มทำท่าจะเคลื่อนศีรษะลงหาผมอีก จำต้องขู่กันหน่อย
            “ถ้าไม่ให้เกียรติกัน เราจะไม่ได้เข้าใกล้อาอีก” ได้ผลคงเห็นว่าผมเอาจริงถึงยอมหยุด คลายอ้อมแขนปล่อยผมเป็นอิสระไม่อยากทำอะไรรุนแรงพาลจะกระทบกระเทือนแผลได้ อาจทำให้เราอาหลานเข้าหน้าไม่ติด ในเมื่อได้ยื่นข้อตกลงทำสัญญาไปแล้วใช้วิธีสันติดีกว่า
              “ผมพาอาลงเตียงเองนะครับ” แม้จะยอมคลายกอด ยังพยายามจะช่วยพยุงผมต่อ  ทั้งที่ผมก็ไม่ได้ลำบากกับการดูแลตัวเองแค่เจ็บหัวไหล่ไม่ได้พิการเสียหน่อย
             “ลูกแก้วอาทำอะไรได้ปกติ ขอความเป็นส่วนตัวบ้างได้ไหม?” พูดจบ เจ้าตัวตีหน้าเศร้าแววตาสลด
ก่อนจะขานรับเสียงเบา
            “ครับ” แล้วเดินก้มหน้าออกประตูไป ไม่อยากใจอ่อนกับท่าทางเหมือนลูกหมาถูกทิ้ง แต่ก็อดคิดไม่ได้ว่าพูดแรงไปหรือเปล่าไม่อยากปวดหัวขอแช่น้ำอุ่นให้สบายตัวเสียหน่อย เหลือไม่ถึงสองชั่วโมงได้เวลามื้อค่ำ คิดไว้ว่าจะถามความคืบหน้าเกี่ยวกับงานของบริษัทฯจากพยัคฆ์ ที่ให้ไปตรวจเอกสารแทนผม อันไหนสำคัญนำกลับมาให้พิจารณาที่บ้าน ปานนี้คงกลับมาแล้ว รีบอาบน้ำชำระร่างกายด้วยมือซ้ายเพียงข้างเดียว พยายามไม่ให้แผลโดนน้ำไม่งั้นอาจติดเชื้อเอาได้
               ผมเดินเข้ามาในห้องทานข้าวด้วยชุดผ้าฝ้ายสีขาว ในขณะที่บนโต๊ะอยู่กันพร้อมหน้า ทั้ง อาคม  พยัคฆ์ และคนสุดท้ายซึ่งพอเห็นผมฉีกยิ้มกว้างส่งสายตาวิ้งค์ๆให้มาแต่ไกลเชียว  ผมแกล้งไม่มองไม่อยากอะไรมากจะพานเข้าข้างตัวเองไปใหญ่ ไม่คิดว่าลูกพี่หงส์ฟ้าจะเป็นเกย์ ดันมาคิดกับผมซึ่งเป็นอาอีก แม้จะไม่ได้รังเกียจแต่ขออย่ามาอะไรกับผมก็พอ ส่วนจะไปรักไปชอบใครที่ไหนเป็นรสนิยมส่วนตัวผมไม่ยุ่ง ทางเดียวที่ทำได้ในตอนนี้คือรักษาระยะห่าง หรือถ้าเลี่ยงไม่ได้ก็ทำให้เห็นไปเลยว่าผมไม่ได้ชอบแบบนี้ และไม่มีทางจะเปลี่ยนผมได้ เป็นทางออกที่ทำให้ไอ้หลานตัวแสบเลิกล้มความรู้สึกที่คิดกับผมในที่สุด
               “เอาสิลงมือทานเลย” ผมบอกหลังจากนั่งเรียบร้อยแล้ว ระหว่างทานข้าวไอ้ตัวดีบริการผมตลอดตักนั่นตักนี้ให้ พยัคฆ์กับอาคมยังอดเหลือบมองไม่ได้ ไอ้ตัวแสบหาได้แคร์สักนิดตีมึนทำเนียนไม่ทุกข์ร้อน ผมก็เฉยไม่ได้รู้สึกอะไรกับสิ่งที่ทำ
แม้จะไม่ชอบเท่าไหร่ ที่ต้องให้หลานชายคอยบริการ แต่หากมองเพียงแค่การกระทำที่หลานอยากเอาใจก็จบ
              “มีอะไรติดขัดบ้างไหม?”  ผมถามพยัคฆ์
              “ตอนนี้ทางบางพลี พวกมันเริ่มจะรุกเราหนักขึ้นเรื่อยๆ”  พยัคฆ์ตอบผมกลับ
             “อืม..อาดลภัทรเค้าว่ายังไงล่ะ?”  ผมถามต่อ
            “คุณดลภัทรบอกให้ทางเรานิ่งไว้ก่อน แต่ผมว่ายิ่งเรานิ่งพวกมันยิ่งได้ใจไม่ได้นึกเกรงกันเลยมีแต่จะหยามเรามากขึ้น ล่าสุดเมื่อเช้านี้ถึงกับเข้าไปขู่พ่อค้าแม่ค้าในตลาดกันเลยครับ” พยัคฆ์พูดด้วยแววตาเครียด
          “มีใครได้รับบาดเจ็บไหม?”  
          “รปภ. โดนพวกมันเล่นงานซี่โครงหักไปสองซี่ อีกคนก็สลบฟันร่วง  ตอนนี้อยู่โรงบาล ผมสั่งให้ดูแลเป็นพิเศษแล้วครับ”
          “ใครเป็นหัวหน้ามันในพื้นที่นั้น?”  ผมถาม เพราะไม่แน่ใจว่าใคร  พวกมันเวียนหัวหน้าไม่เคยซ้ำ
           “ตอนนี้เป็นคุณอุเทนคนโตเข้ามาดูเอง พอมาก็กร่างใหญ่ฝากลูกน้องมาบอกด้วยว่าว่างๆจะเชิญคุณไปจิบน้ำชา” พยัคฆ์พูดด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่งแต่แววตาวาวโรจน์ เพราะความหมายที่แฝงมากับคำว่าจิบน้ำชาผมเข้าใจดี ไอ้ลูกชายคนโตของตระกูลคลังสมบัติซึ่งเป็นศัตรูหมายเลขหนึ่งของวิริยะทรัพย์  โดยมีเจ้าสัวไกรสิงห์เป็นประธานใหญ่นั่งแท่นบริหารมอบให้ลูกชายห้าคนดูแลพื้นที่กันคนละเขต ซึ่งแต่ละเขตก็เป็นพื้นที่รอยต่อกับฐานอำนาจของวิริยะทรัพย์ ที่พวกเขาต่างต้องการขยายแผ่บารมีเข้ามาในพื้นที่ของเรา คนที่พยัคฆ์พูดถึงชื่ออุเทนเปิดเผยชัดเจนว่าเป็นเสือไบฯ ต้องการจะสานไมตรีกับผมเป็นพิเศษ  นึกถึงตรงนี้เคืองจริงครับคิดได้ไงว่าผมจะยอมรับเรื่องงี่เง่านั่น  
                  “ช่างเถอะหมาเห่ามันไม่กัด เต็มที่ก็แค่ลอบกัดไม่กล้าชนซึ่งหน้าหรอก”  ผมบอก พยัคฆ์ยอมรับในสิ่งที่ผมพูด พยักหน้าเห็นด้วยอีก
            “แต่หมาบ้างจำพวกมันเป็นจิ้งจอกบางจำพวกเป็นหมาไน ซึ่งไม่ว่าจะเป็นชนิดไหนมันก็เจ้าเล่ห์และชั่วร้ายพอกันครับ” อาคมนั่งฟังเงียบๆมาตั้งนานแสดงความคิดเห็นขึ้นบ้าง อาวุโสท่านนี้กระดูกแข็งคำพูดย่อมแฝงความหมายให้คิด
          “ไม่ว่าจะเป็นหมาประเภทไหน ผมก็ไม่กลัวถ้ามันมากเกินไปก็คงได้ตอบโต้คืนกันบ้าง” ผมตอบด้วยน้ำเสียงหนักแน่น  เพราะถ้าหากคนของผมเจ็บมากกว่านี้คงไม่อยู่นิ่งให้ได้ใจหรอก ต้องได้เห็นบ้างว่าวิริยะทรัพย์ไม่ใช่กระดูกอ่อนที่หวังจะเคี้ยวง่ายๆ
           “งั้นก็ต้องวางแผนให้รัดกุม  พวกนี้เมื่อกล้ากระตุกหนวดมังกร มันคงไม่หวังแค่เกล็ดหรอกครับ” อาคมบอกกลับมา
    “ผมรู้ก็ต้องลองดู ที่ผ่านมาก็แสดงให้เห็นแล้วว่า 5 ปีนับตั้งแต่ผมนั่งแท่นบริหารแทนพ่อ ผมก็ไม่ได้ให้พวกมันเคี้ยวได้ง่ายๆ” ผมตอบกลับไป
             “เดิมทีที่พวกมันปล่อยคุณ คงคิดว่าคุณจะหัวอ่อนยอมออมชอมให้มันตามที่ร้องขอ  แต่เมื่อเสียเวลามานานคุณกลับไม่เป็นอย่างที่พวกมันคิดจึงเริ่มรุกหนัก ไม่งั้นคงไม่เรียกใช้นักฆ่าเหมือนที่พ่อคุณเคยโดน ให้มาจัดการคุณหรอก” คำพูดของอาคมเป็นอะไรที่ปฏิเสธไม่ได้ ช่วงสี่ปีแรกผมไม่เคยมีนักฆ่าตามเล่นงานมาก่อน
มีแต่พวกมันที่ส่งสารยื่นข้อตกลงและเงื่อนไขต่างๆเข้ามาเสนอกับผม แต่ผมเห็นแล้วว่าทุกโครงการที่พวกมันทำ ทางเราล้วนเป็นเบี้ยล่างแทบทั้งสิ้นเลยใช้วิธีบ่ายเบี่ยงยืดเวลาโดยตลอด เพราะไม่อยากให้เกิดศึกสองด้าน
ทั้งด้านนอกและภายในด้วยผมรู้ดีว่าผมขึ้นนั่งแท่นบริหารใหม่ๆ มีอาวุโสหลายคนที่เป็นประธานบอร์ดไม่พอใจเท่าไหร่  แต่เพราะสิทธิ์ทางพินัยกรรมและหุ้นของพ่อที่ผมถืออยู่พวกเค้าต้องยอมรับคำตัดสิน
                 ผมต้องอาศัยเวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ เพราะฉะนั้นจึงพักศึกนอกไม่ให้เกิดความรุนแรงจนพวกมันคิดว่าผมหัวอ่อน เพื่อดึงเวลาให้สะสางภายในจนเป็นที่ยอมรับอย่างทุกวันนี้  ตอนหลังพวกมันคงเห็นแล้วว่าผมแค่ซื้อเวลาจึงรุกหนักอย่างที่เห็น ถึงตอนนี้ผมก็พร้อมจะชนแล้วเหมือนกัน
               “เอาเถอะไม่ว่าคุณจะทำอะไรก็ตาม นึกถึงความปลอดภัยตัวเองเป็นหลัก คุณคือเสาหลักของวิริยะทรัพย์”  อาคมเตือนเรื่องนี้ผมเข้าใจดี
             “ครับผมจะจำไว้” ทุกคำสนทนาของพวกเราบนโต๊ะ แอบชำเลืองดูลูกแก้วมีตั้งใจฟังเหลียวดูคนนั้นทีคนนี้ที แต่ก็ไม่ได้ถามแทรกระหว่างที่พวกผมคุย นี่เป็นข้อดีที่เจ้าหนูยังรู้กาลเทศะอะไรควรไม่ควร ทำให้ไม่ต้องเป็นกังวลในเรื่องนี้  เหลือเพียงเรื่องเดียวคือไม่เอาอ่าวเกี่ยวกับทักษะการป้องกันตัวนั่นแหละ  ทำให้ผมหนักใจมากเมื่อเป็นคนในตระกูล ต้องเดินตามผมด้วยแล้ว ไม่พ้นต้องเป็นเป้าให้พวกมันเล่นงานจนได้สักวัน หากพวกมันรู้ว่าผมมีหลานคือเจ้าตัวแสบนี่อ่ะนะ
            เสร็จจากการทานมื้อค่ำ ผมอยากเดินย่อยจึงชวนพยัคฆ์ออกมารับลมเล่นในสวนเพื่อคุยเรื่องงาน
ไปด้วย  แน่นอนไอ้ตัวแสบก็ตามมาด้วยไม่ยอมห่าง เหมือนจะพยายามทำตัวเป็นเงาผมไปแล้ว
            “ศัตรูในที่แจ้งผมไม่กังวลเกี่ยวกับพวกมันเท่าไหร่ ระดับฝีมือพอรู้กันอยู่ ที่ห่วงคือกลุ่มนักฆ่ามหาหิงส์ ซึ่งพวกมันส่งมาจัดการคุณต่างหาก กลุ่มนี่ระดับฝีมือเกินกว่าที่พวกเราจะคาดได้ รูปแบบองค์กรก็ซับซ้อนไม่มีอะไรคุยกับพวกมันได้ด้วยสิ ไม่ว่าเราจะยื่นขอเสนอกับพวกมันไม่รู้กี่ครั้ง  มันไม่ตอบรับข้อเสนอของเราเลย มีเพียงเรื่องนี้เท่านั้นแหละที่ผมเป็นกังวล ส่วนพวกตระกูลคลังสมบัติถ้าต้องแลกกันจริงๆ ผมว่าเรารับมือ
ได้สบาย”  พยัคฆ์พูดขึ้นมา ระหว่างที่เราสามคนเดินทอดน่องกันไปเรื่อยๆ โดยผมเดินตรงกลาง ลูกแก้วกับพยัคฆ์ขนาบข้างซ้ายขวา คืนนี้จันทร์เต็มดวงท้องฟ้าเปิดลมกลางคืนพัดมาเบาๆ ทำให้รู้สึกปลอดโปร่งไม่น้อย
                   “อืมนั่นคือปัญหาใหญ่ของเรา” ผมเห็นด้วยกับพยัคฆ์ เพราะก่อนที่พวกนักฆ่าจะโผล่มา  ผมยังไม่รู้สึกเป็นกังวลเท่าตอนนี้ ไม่คิดว่าพวกมันจะกลับไปใช้นักฆ่าเพื่อมาเล่นงานผม ไม่นับที่เคยทำกับแม่และพ่อผมมาแล้ว เป็นไปได้ตระกูลคลังสมบัติต้องมีสัมพันธ์ลึกซึ้งกับพวกนักฆ่ากลุ่มนี้แน่นอน  เคยเหมือนกันที่เราว่าจ้างนักฆ่าเข้าต่อกรกับพวกมัน พอติดต่อกลับไปและพวกมันรู้ว่างานที่เราต้องการให้ทำคืออะไร มีแต่ปฏิเสธไม่ยุ่งกับเราอีกเลย  ไม่ว่าจะเสนอผลตอบแทนก้อนโตแค่ไหนพวกนั่นก็ไม่รับงาน ชี้ชัดว่าบารมีและชื่อเสียงของกลุ่มมหาหิงส์เป็นองค์กรนักฆ่าที่ไม่มีใครกล้าตอแยด้วยจริงๆ
                 “เฟี้ยว! ปึก! คุณมังกรระวัง” พยัคฆ์รีบเข้ามาขวางกันอยู่ข้างหน้าผมทันที ในขณะที่ผมเองก็เบี่ยงตัวหลบไม่ลืมเอาแขนซ้ายจับข้อมือลูกแก้วดึงให้เข้ามาหลบหลังผมด้วย  หลังจากมีวัตถุประหลาดพุ่งฝ่าความมืดลงมาปักพื้นดินห่างจากตรงที่ผมยืนไม่ถึงครึ่งก้าว
               “ไม่เป็นไรใช่ไหม?”  ผมถามไอ้เด็กโข่ง ที่บัดนี้ยืนกอดเอวผมแน่น แถมตัวสั่นงกๆ อีกต่างหาก
ก่อนจะชี้นิ้วให้ผมดูบนกำแพงที่ห่างออกไปราวห้าเมตร ซึ่งบัดนี้บนกำแพงสูงกว่า 6 เมตร มีร่างที่แสนคุ้นตายืนเด่นเป็นสง่าโพกผ้าคลุมหน้าสีดำสวมชุดดำทั้งชุด ชายผ้าโพกปลิวไปกับลมที่พัดมาตลอดเวลา ทำให้ร่างที่มองเห็นแลดูลึกลับและทรงพลังจนน่าทึ่ง
               ก่อนที่การ์ดในบริเวณบ้านจะกรูกันเข้ามากว่าสิบคน ผมรีบยกมือซ้ายขึ้นห้ามเป็นสัญญาณให้อยู่นิ่งๆ ในขณะที่นักฆ่าเทพพระกาฬบนกำแพงยังคงยืนหันหน้ามาทางพวกผมอย่างไม่สะทกสะท้านไม่พูดไม่จา
               “มีจดหมายแนบมากับสิ่งนี้ด้วยครับ” พยัคฆ์พูดจบส่งเหล็กแหลมที่เป็นวัตถุลึกลับความยาวกว่าศอกปักตรงพื้นดินเมื่อกี้มาให้ผม ปลายเหล็กอีกด้านมีกระดาษม้วนมัดมาด้วย  ผมรับมาแกะออกอ่านโดยการ์ดซึ่งรู้งานส่องไฟฉายให้สามารถมองเห็นตัวหนังสือได้ชัดเจนยิ่งขึ้น
              ‘คืนนี้เปลี่ยนห้องนอน อย่านอนห้องเดิมเด็ดขาด’ ผมอ่านแล้วงงไม่น้อย  เหมือนจุดประสงค์จะมาแจ้งเหตุล่วงหน้า  แต่ทำไมผมต้องเปลี่ยนห้องนอน  อดไม่ได้จึงเอ่ยปากถามกลับไปทันที
             “ทำไมจะมีใครมาลอบฆ่าผมใช่ไหม?”  ผมรู้ว่าเค้าได้ยินที่ผมถาม แต่เจ้าตัวยังคงนิ่ง แววตาวาวดุที่จ้องมาแม้จะมองเห็นไกลๆ ก็ยังรับรู้ได้ว่าไม่พอใจที่ผมถาม
             “ถ้าผมไม่เปลี่ยนล่ะ การ์ดผมมีกว่าครึ่งร้อยมันจะสามารถเข้ามาถึงห้องนอนผมได้เชียวหรือ?”  ผมยังคงถามไปอีก
            “หึ!” เสียงหึขึ้นจมูกเหมือนจะเย้ยหยัน ก่อนที่พวกผมจะกระโจนหลบกันไปเป็นก้าว เมื่อเหล็กอีกอันพุ่งฝ่าความมืดมาด้วยความเร็วแล้วปักพื้นดินตรงที่ผมยืนพอดี  ไม่กระโดดหลบก่อนคงได้เลือดแน่เจ้าลูกแก้วยังคงยืนหน้าซีดกอดเอวผมแน่นไม่มีปล่อย พยัคฆ์ทำหน้าที่ดึงเหล็กขึ้นจากพื้น แล้วส่งมาให้ผมอ่านสิ่งที่แนบมาด้วยเช่นเดิม ผมแกะอ่านทันที  
              ‘คนที่ถูกส่งมาคืนนี้  คือ1 ในจตุรเทพของมหาหิงส์ เพชฌฆาตหน้าหยกฝีมือติด 1 ในสี่เทพ ดิน  น้ำ  ลม  ไฟ  พวกคุณรับมือไม่ไหวหรอก ทำตามที่บอก’ พอผมอ่านจบ ก็เงยหน้าขึ้นมองเจ้าตัวทันที
             “รามูนคุณจะไม่ให้ลูกชายพบหน้าเลยหรือไง?” พูดจบผมดึงลูกแก้วออกมายืนด้านหน้า โดยที่ไอ้เด็กโข่งร่างยักษ์ยังจับมือผมไว้แน่นไม่ยอมปล่อยเหงื่อซึมมือจนสัมผัสได้ แถมกระซิบเสียงสั่นให้ผมได้ยินอีกว่า
            “นั่นพ่อเหรออา?”  ผมพยักหน้าให้ เจ้าตัวถึงได้ยอมหันกลับไป แล้วตะโกนเรียกพ่อตัวเองซะเสียงดังลั่น
             “พ่อ!” สิ้นเสียงของลูกแก้ว ร่างทะมึนสีดำพลิ้ววูบเดียวหายวับไปด้านหลังกำแพง ปล่อยให้แต่ละคนปากอ้าตาค้างไปตามระเบียบ ไปมาไร้ร่องรอยจริงๆ หากตามจดหมายเขียนเอาไว้ จตุรเทพทั้งสี่ขององค์กรมหาหิงส์ คือดิน น้ำ ลม ไฟ คนที่มาคือนักฆ่าหน้าหยก ต้องเป็นคนใดคนหนึ่งในสี่คนนี้ และถ้าเดาไม่ผิดรามูนก็คือหนึ่งในสี่คนนี้ด้วยเช่นกัน แล้วรามูนคือใครมีเพียงโอกาสนี้เท่านั้นที่จะได้ข้อมูล
              ผมต้องยอมเสี่ยงเพื่อหาข้อมูลขององค์กรลับนี้ให้จงได้ คนที่จะให้ข้อมูลนี้กับผมไม่ใช่รามูนแน่ท่าทางยโสขนาดนั้น นึกไม่ออกด้วยซ้ำว่าหมอนั่นเคยพูดกับผมเกินสิบคำหรือไม่ เพราะงั้นผมจึงสั่งการ์ดไปว่า
              “แยกย้ายกันไปประจำจุดเถอะ” พวกเค้าถึงยอมถอยกลับไป จากนั้นผมถึงค่อยพยักหน้าให้พยัคฆ์เอียงศีรษะเข้ามาหาใกล้ๆ เพื่อกระซิบบอกแผนของผมกับเจ้าตัว แต่ไอ้หลานร่างยักษ์ซึ่งเนียนเกาะเอวผมไม่ปล่อยเสือกยื่นหน้าเข้ามาขอฟังด้วย ไม่อยากเสียเวลาผมจึงไม่ได้ห้าม เพราะยังไงเจ้าหลานคนนี้ก็คือเลือดเนื้อเชื้อไขของคนที่แจ้งข่าวและคอยช่วยเหลือผมมาตลอด
                 พอผมบอกแผนเสร็จ  พยัคฆ์พยักหน้ารับทราบโดยไม่มีข้อสงสัยหรือคำคัดค้านใดๆหลังจากฟังแผนผมแล้ว คิดว่าเจ้าตัวคงเข้าใจและเห็นด้วยกับแผนของผม ยกเว้นไอ้เด็กโข่งที่ดันถามผมขึ้นมาแทน
                  “อาจะไปนอนห้องอื่นทำไม  มานอนห้องผมสิครับ” ผมจำต้องหันไปนิ่วหน้าให้ ก่อนจะลดสายตาลงมองมือซึ่งกอดเอวผมไม่ปล่อย
                  “ก็ผมกลัวนี่ ผมไม่ยอมนอนคนเดียวนะครับอาไปอยู่กับผมมีอะไรเราจะได้ช่วยเหลือกัน” สายตาเว้าวอนที่อ้อนส่งมาให้ ทำให้อดสงสารไม่ได้ เจ้าตัวคงกลัวจริง ขนาดเหตุการณ์เมื่อตะกี้ยังตัวสั่นหน้าซีดเหงื่อ
แตกเลย  เอาเถอะอย่างน้อยมีอะไรผมจะได้ปกป้องลูกแก้วไว้ได้
                  “ตกลง อาไปนอนห้องเรา”  พอผมรับปาก รอยยิ้มสว่างโล่แววตาไหวระยิบฉายออกมาจากตาคมจนผมต้องรีบเมินหลบ ให้ตายไอ้หลานบ้านี่มันแสดงออกเยอะไปแล้ว จะดีใจอะไรนักหนาหืม

                  “พยัคฆ์ แยกย้ายไปดำเนินการเลยเตรียมทุกอย่างตามที่ผมบอก  ส่วนเราเข้านอนได้แล้ว”  ผมหันไปสั่งพยัคฆ์  ซึ่งการ์ดมือหนึ่งคนสนิทของผมก็พยักหน้ารับก่อนที่ผมจะรีบแกะมือปลาหมึกที่ติดหนึบไม่ยอมปล่อยจากเอวแล้วก้าวขึ้นตึกทันที โดยไอ้เด็กไม่รู้จักโตยังไม่ยอมแพ้มีเอามือจับชายเสื้อผมไว้ด้วยแล้วก้ามตามต้อยๆหน้านี่อมยิ้มแก้มตุ่ยไปแล้ว เฮ้อ!


นายกองค์การนักศึกษา

โพสต์
2605
พลังน้ำใจ
23945
Zenny
38939
ออนไลน์
2280 ชั่วโมง

หัวหน้าห้อง

โพสต์
1430
พลังน้ำใจ
1430
Zenny
6827
ออนไลน์
291 ชั่วโมง
ขอบคุนครับ

หัวหน้าห้อง

โพสต์
1423
พลังน้ำใจ
1338
Zenny
8250
ออนไลน์
245 ชั่วโมง
ขอบคุณครับ

หัวหน้าห้อง

โพสต์
1512
พลังน้ำใจ
1612
Zenny
6474
ออนไลน์
812 ชั่วโมง
ขอบคุนคราบ

หัวหน้าห้อง

โพสต์
1736
พลังน้ำใจ
1456
Zenny
-96
ออนไลน์
698 ชั่วโมง
ขอบคุนคราฟ

หัวหน้าห้อง

โพสต์
1484
พลังน้ำใจ
1541
Zenny
6736
ออนไลน์
824 ชั่วโมง

มาเฟียคุมคณะ

โพสต์
9797
พลังน้ำใจ
56439
Zenny
26145
ออนไลน์
21182 ชั่วโมง

ลูกน้องหัวหน้าห้อง

โพสต์
194
พลังน้ำใจ
853
Zenny
503
ออนไลน์
147 ชั่วโมง
ขอบคุนคับ

นายกองค์การนักศึกษา

โพสต์
3228
พลังน้ำใจ
12918
Zenny
40554
ออนไลน์
1034 ชั่วโมง

สมาชิกระดับมรกตสมาชิกระดับแพลตตินั่มสมาชิกระดับทับทิมสมาชิกจีโฟกาย 100%สมาชิกระดับไพลินสมาชิกระดับเพชรสมาชิกระดับเพชรบริหารสมาชิกระดับเพชรคู่สมาชิกระดับตรีเพชร

นายกองค์การนักศึกษา

โพสต์
4126
พลังน้ำใจ
25787
Zenny
21619
ออนไลน์
1006 ชั่วโมง
ขอบคุณนะครับ
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ลงชื่อเข้าใช้ | สมัครเข้าเรียน

รายละเอียดเครดิต

A Touch of Friendship: สังคมจะน่าอยู่ เมื่อมีผู้ให้แบ่งปัน ฝากไวเป็นข้อคิดด้วยนะคะชาวจีโฟกายทุกท่าน
!!!!!โปรดหยุด!!!!! : พฤติกรรมการโพสมั่วๆ / โพสแต่อีโมโดยไม่มีข้อความประกอบการโพส / โพสลากอักษรยาว เช่น ครับบบบบบบบบ, ชอบบบบบบบบ, thxxxxxxxx, และอื่นๆที่ดูแล้วน่ารำคาญสายตา เพราะถ้าท่านไม่หยุดทีมงานจะหยุดท่านเอง
ขอความร่วมมือสมาชิกทุกท่านโปรดโพสตอบอย่างอื่นนอกเหนือจากคำว่า ขอบคุณ, thanks, thank you, หรืออื่นๆที่สื่อความหมายว่าขอบคุณเพียงอย่างเดียวด้วยนะคะ เพื่อสื่อถึงความจริงใจในการโพสตอบกระทู้ และไม่ดูเป็นโพสขยะ
กระทู้ไหนที่ไม่ใช่กระทู้ในลักษณะที่ต้องโพสตอบโดยใช้คำว่าขอบคุณ เช่นกระทู้โพล, กระทู้ถามความเห็น, หรืออื่นๆที่ทีมงานอ่านแล้วเข้าข่ายว่า โพสขอบคุณไร้สาระ ทีมงานขอดำเนินการตัดคะแนน และ/หรือให้ใบเตือนสมาชิกที่โพสขอบคุณทันทีที่เจอนะคะ

รูปแบบข้อความล้วน|โทรศัพท์มือถือ|ติดต่อลงโฆษณา|จีโฟกายดอทคอม


ข้อความที่ท่านได้อ่านในเว็บจีโฟกายดอทคอมนี้ เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชน และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ หากท่านพบเห็นข้อความใดๆ ที่ขัดต่อกฎหมาย และศิลธรรม ไม่เหมาะสมที่จะเผยแพร่ ท่านสามารถแจ้งลบข้อความได้ที่ Link “แจ้งลบโพสนี้” ที่มีอยู่ใต้ข้อความทุกข้อความ หรือ ลืมพาสเวิดล๊อกอิน/ลืมชื่อที่ใช้สมัคร หรือข้อสงสัยใดๆแจ้งมาที่ G4GuysTeam[at]yahoo.com ขอขอบพระคุณที่ให้ความร่วมมือ

กรณีที่ข้อความ/รูปภาพในกระทู้นี้จัดสร้างโดยผู้ลงข้อมูลเอง ลิขสิทธิ์จะเป็นของผู้ลงข้อมูลโดยตรง หากจะทำการคัดลอก/เผยแพร่ ต้องได้รับอนุญาตจากผู้ลงข้อมูลก่อนนะคะ หรือลงที่มาไว้ด้วยค่ะ

©ขอสงวนสิทธิ์คอนเซ็ปต์,คำอธิบาย,หัวข้อ/หมวดหมู่เว็บ ห้ามลอกเลียนแบบ คิดเอาเองนะคะอย่าเอาแต่ลอก

GMT+7, 2024-5-4 23:23 , Processed in 0.224991 second(s), 25 queries .

Powered by Discuz! X3.1 R20140301, Rev.31

© 2001-2013 Comsenz Inc.

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้