จีโฟกาย.คอม

 ลืมรหัสผ่าน
 สมัครเข้าเรียน
ค้นหา
 
ดู: 949|ตอบกลับ: 12
สั่งพิมพ์ ก่อนหน้า ถัดไป
ซ่อนแถบด้านข้าง

OH!! Bad Guy รักร้ายๆของผู้ชายในคุก!! 119

[คัดลอกลิงก์]

โสด

   ศาสตราจารย์เอื้ออาทร
อาจารย์พิเศษ
ถ้าหากว่าซ้ำต้องขออภัยนะครับและขอโทษเจ้าของเรื่องด้วยนะครับเพราะว่าคัดลอกมาอีกที
ความเดิมตอนที่แล้ว
เผลอยิ้มแล้วกดน้ำหนักมือขึ้นอีกนิดทำเอาผิดคีย์จนต้องสะดุ้งไอ้เนมหน้าแดงจัดทั้งด้วยความเขินปนกับความอับอายต่อสายตาตำหนิของอาจารย์ธีระนึกก่นด่าตัวเองสักสามสี่รอบฐานคิดฟุ้งซ่านจนเป็นผลต่อการฝึกซ้อม
    อ่ะ แต่มันไม่ใช่ความผิดผมนะก็ใครบอกให้พี่โตมันมานั่งอยู่ตรงหน้านี่ล่ะ ใครบอกให้พี่โตมายิ้มแป้น ทำตาหวาน

เท้าคางมองหน้าไอ้เนมด้วยสายตาแบบนั้นกันเล่า...โอ๊ยมันเขินนะเฟ้ย แถมยังสุขสุดๆ อ้ากก บ้าไปแล้ว

ค้อนขวักใส่คนที่ยังนั่งทำตาหวานใส่ไม่เลิก สติฟุ้งซ่านเพราะท่าทีแปลกๆกับตาหวานๆนั่นที่มองมาทีทำเอาอ่อนยวบยาบ นี่มันอะไรกัน!    ผมกับพี่โตรู้จักกันมาสามสี่ปีแล้ว ล้วงลักควักไส้เห็นกันชนิดที่ไม่เหลืออะไรจะมาอายแล้วแท้ๆ
แต่ทำไมไอ้คำว่ารักคำเดียวมันทำให้เราเป็นไปได้ถึงขนาดนี้กันเนี่ย
      สูดหายใจลึก พาดไวโอลินขึ้นบนบ่าอีกครั้งและตั้งใจฝึกซ้อมให้สติกลับมาอยู่กับเนื้อกับตัวอีกครั้งก่อนจะถูกอาจารย์ธีระแกเตะโด่งถีบออกไปนอกห้องด้วยความหมั่นไส้จัด ผมหลับตาลงช้าๆ สิ่งสุดท้ายที่มองเห็นก่อนหลับตาลง ยังคงเป็นใบหน้าของพี่โตและรอยยิ้มที่ผมชอบเช่นเคย...  ผมสูดหายใจลึก...ใบหน้าประดับรอยยิ้ม ยามเมื่อนึกถึงเนื้อเพลงและเรื่องราวที่ผ่านพ้น...และ...นึกถึงรอยยิ้มกับใบหน้าของพี่โต
ใช่...Kiss in the rain นี่ล่ะ...เหมาะสมที่สุดแล้ว..
     "ทำแบบนั้น ชาวบ้านเขากลัวหมดเลยรู้ไหม? " ออกปากบ่นทันทีที่ออกมาจากห้องซ้อม แต่คนฟังทำท่าเฉยเสียแล้วขยับไหล่สองสามทีราวกับส่งสัญญาณ... ไอ้เนมกลอกตาหน่ายๆก่อนจะออกแรงบีบนวดไหล่ขาใหญ่แห่งแดนสิบสองไปด้วย...ถึงจะบอกว่ารักแต่เรื่องใช้งานมันคนละเรื่องครับ ชิ
     " ทำอะไร แค่มานั่งฟังเพลง "คำแก้ตัวนอกจากจะไม่แนบเนียนแล้วยังฟังไม่ขึ้นอย่างรุนแรง
    "  ร้อยวันพันปีไม่เห็นชอบ แล้วไหงช่วงนี้ถึงนึกอยากฟังขึ้นมาได้ล่ะ " ออกปากจิกกัดอย่างรู้ทัน ฝ่ามือที่นวดบนไหล่รู้สึกถึงอาการสะดุ้งอย่างคนมีชนักติดหลัง ทั้งน่าขำและนึกอาดูรจนต้องแอบยิ้ม..ยิ้มไม่ให้ใครเห็นบนหลังพี่โตนั่นแหละ
     " ก็น้องเนมที่รักเล่นนี่ ไม่อยากฟังได้ไง จริงไหม? "  วาจาที่พูดออกมาอย่างไม่อายปาก ทำเอาผมที่กระหยิ่มยิ้มย่องอยู่สะดุ้งเฮือก ผิวแก้มร้อนผ่าวจ้องมองคนพูดที่ไม่แสดงอาการขัดเขินใดๆราวกับพูดประโยคธรรมดาสามัญประมาณ
กูหิวอย่างไรอย่างนั้น มองแล้วนึกอัศจรรย์ใจในความหนาของใบหน้าเสียจริงๆ...แม่เจ้าโว๊ย
     " น้องเนมที่รักเล่นมานานแล้วครับถ้าพี่โตไม่รู้.." ผมออกปากสวนกลับทันทีด้วยไม่ยอมให้ตัวเองต้องมาเขินแทบบ้าอยู่คนเดียว...เหมือนจะได้ผล เพราะพี่โตชะงัก....แล้วหัวเราะหึๆ
    ฝ่ามือของผมที่บีบนวดไหล่คนตัวโตอยู่ถูกดึงรั้งได้อย่างง่ายดาย ปลายนิ้วกร้านไล้หลังมือและปลายเล็บสีขาว นัยน์ตา
สีเข้มหันมาสบมองแววตาของผมที่อยู่ใกล้ๆ..ทั้งหวานเชื่อมเสียจนชวนให้ใจสั่น  
       " อยากอยู่ด้วยกัน...ไม่ชอบหรือไง? " แค่นี้ทำผมเขินไม่พอใช่ไหม คนพูดถึงได้เอาหน้าผากมาแนบชิด ออกแรง
โขกเบาๆกับหน้าผากของผมพอให้รู้สึก ตาคู่นั้นจ้องเขม็ง..แสดงความรู้สึกออกมาอย่างไม่ปิดบัง..
      อยากจะยิ้มเขิน หรือหัวเราะแก้ขวยแล้วออกปากต่อล้อต่อเถียงเช่นที่เคยเป็น ทว่าใจความบางอย่างของบทสนทนา แววตา หรืออะไรสักอย่างนั้นทำให้ผมชะงัก..แขนข้างที่ว่างซึ่งเกาะอยู่บนไหล่หนาย้ายลงมาที่สอดเข้ากับบั้นเอวพร้อมกับกอดไว้แน่น..
       " ชอบสิ " หัวเราะหึๆเมื่อพี่โตรั้งตัวให้นั่งลงบนตัก ตากวาดมองรอบๆเผื่อใครมาเห็น  แต่เมื่อห้องดนตรีปิดแล้ว
และไม่มีร่างของผู้คุมหรือสิ่งมีชีวิตชนิดใดอยู่จึงยอมนั่งลงและเอนกายพิงแผ่นหลังแกร่งอย่างว่าง่าย...รับไออุ่นจากตัวคนซึมซับและถ่ายทอดเข้าหากันอย่างรวดเร็ว..
       " ร้อนจัง..." ริมฝีปากชื้นแนบลงบนผิวเนื้ออ่อนตรงซอกคอ ฝ่ามือหนาสอดเข้าไปไล้บั้นเอวช้าๆ..เสียงกระซิบที่แฝงนัยย์ที่รู้กันดีเป็นของพี่โตคนเดิมไม่ผิดแน่ คนที่พลิกจากสถานการณ์หวานๆมาหื่นได้หน้าตาเฉย ..
        " ปล่อยสิ จะได้หายร้อน " ตอนนี้เวลาคงปาเข้าไปสามโมงกว่า แดดร้อนเปรี้ยงยังไม่หายไปไหนเลย มากอดรัดอะไรกันตรงนี้ก็สมควรจะร้อน และเพราะมันร้อน มันจึงไม่สมควรที่จะทำอะไรมากกว่ากอดด้วย
        " น่า....." ฝ่ามือยังรุกไล่ไม่ยอมแพ้..ริมฝีปากยังตามขบกัดไม่หยุด จนชัดจะเสียใจที่ตัวเองเลอซาบซึ้งกับบรรยากาศหวานๆเมื่อครู่ซะจริงๆ
        " ไม่เอา....ตอนกลางคืนเถอะ " ผมไม่ได้หื่นนะ บอกไว้ก่อน แต่ถ้าห้ามอย่างเดียวมีหรือพี่โตจะฟัง ต้องหลอกล่อถ่วงเวลาสิ อยู่กิน เอ๊ย อยู่กันมานานก็พอรู้นิสัยอยู่หรอก
        " เฮ้อ ก็ได้ " ที่สุดพี่โตก็ยอมละมือออกจนได้ ฝ่ามือนั้นเปลี่ยนจากสอดไล้บั้นเอวเป็นกอดไว้แทน พร้อมกับปลายคางพาดลงบนไหล่ผมโยกตัวกอด ออดอ้อนราวกับเด็กน้อยเสียอย่างนั้น
   เปลี่ยนอารมณ์เร็วจนตามไม่ทันจริงน้า... ไอ้เนมได้แต่บ่นอยู่ในใจ จำยอมให้พี่โตกอดไว้เหมือนตุ๊กตาแต่โดยดี..
          " ...เนม...."
         " หืม..." ตากำลังมองท้องฟ้าที่เปลี่ยนสีเงียบๆคิดอะไรเรื่อยเปื่อย พี่โตก็สงเสียงทัก ผมครางรับไปส่งๆก่อนจะหลับตาลงช้าๆ..
          "...ตอนที่...ถูกสอบสวน " ใจความเครียดเคร่งไม่น้อยทำให้นัยน์ตาต้องลืมขึ้นในที่สุด..ผมเม้มปากเข้าหากันช้าๆเมื่อคิดถึงโมงยามอันน่าหวาดหวั่น
" พัศดี..มันพูดอะไรเกี่ยวกับพวกป๋าไหม?"
         " เอ๋ ?" ผมชะงัก...เบิกคิ้วงงๆ
         " ...เมื่อวานไปหาป๋ามา..มันบอกว่ายังตกลงเรื่องสอบปากคำไม่ได้เลย "  นั่น...หมายความว่าผมอาจจะต้องถูกเรียกไปอีกหรือ?
        " ไม่เป็นไรหรอก.. " เหยียดยิ้มออกมาช้าๆ สบตาพี่โตพยายามให้ความมั่นใจคนที่ผมรักและคนที่รักผมอย่างหนักแน่น
" ต่อให้ถูกสอบกี่ครั้ง ผมก็จะไม่..บะ......"
        " ไม่ใช่เรื่องนั้น ! " พี่โตส่ายหน้า ร้องเสียงห้วนสวนคำพูดของผมขึ้นมาอย่างอัดอั้นใจ สีหน้าคนพูดเครียดขึ้งเมื่อคิดถึงเรื่องที่ผมต้องพบเจอ นัยน์ตาพี่โตสั่นไหว...ชวนน่าสงสารนัก..
        "....กูไม่อยากให้มึงไปไหนไกลๆตาอีกแล้ว " ผมชะงัก...นิ่งไป เมื่อได้ฟังคำสารภาพจากปากของผู้ชายที่กอดตัวเองไว้แน่น..
   นี่เหมือนเป็นคำตอบกรายๆของพฤติกรรมในช่วงนี้ สิ่งที่ผมคิดว่ามันแปลกประหลาดและเป็นผลมาจากคำบอกรัก
ของเราทั้งสองคน   มันก็อาจจะใช่ เพราะจะมีใครไม่ดีใจ เมื่อได้ฟังคำรัก...จากคนที่รอมาตลอดทว่า...อีกหนึ่งสาเหตุก็อาจมาจากสิ่งนี้.. เพราะความสุขของเรามันยังไม่ยั่งยืน เพราะไม่อาจวางใจได้ เพราะหวั่นกลัว...ว่าจะมีใครมาพรากจากกันอีก
    ผม...อาจจะต้องถูกสอบสวน ถูกทำร้าย โดยที่พี่โตช่วยอะไรไม่ได้...ในความรู้สึกของผม ผมอาจจะเจ็บ อาจจะหวาดกลัว ไม่เข้าใจต่างๆนาๆ
     แต่กับความรู้สึกของพี่โต คนที่รักและห่วงแทบบ้า คนที่ไม่สามารถทำอะไรเพื่อคนที่ตัวเองรักได้ และต้องคอยห่วงกังวล คิดอะไรร้ายๆสารพัดว่าผมจะต้องพบเจอกับอะไร..
     พี่โต คงไม่อาจจะทนกับเรื่องราวเหล่านี้ได้ ไม่อาจจะทนกับสภาพที่มีผมเป็นดั่งตัวประกัน จะถูกจับเชือดวันไหน
ก็ไม่รู้.. เพราะฉะนั้น เวลานี้ จึงอยากปกป้อง อยากดูแล อยากจะอยู่ใกล้ๆให้มากที่สุด
      " ผม....."
      "...อยากออกไปข้างนอกนั่นไหม? " จู่ๆพี่โตก็โพล่งขึ้นมาท่ามกลางความเงียบงันในบทสนทนา...ผมชะงักค้าง
ขมวดคิ้วแน่น..ออกไปข้างนอก...?ถามถึงความต้องการน่ะหรือ?
       " อยากสิ " ผมยิ้ม ยิ้มให้กับดวงตาสีดำสนิทที่จ้องมองมาไม่กระพริบของพี่โต ก่อนจะถอนหายใจเฮือก คิดถึงเรื่องราวที่วาดหวังไว้ยามได้ออกไปข้างนอก ที่พี่โตว่า นอกกรงขัง หนีจากเรื่องราวโหดร้ายทั้งหลาย..
    ...ถ้าออกไปแล้วผมจะไปอยู่กับแม่... อยากจะอยู่ดูแลแม่ให้ดีที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ อยากจะชดใช้หยดน้ำตาที่ผมทำให้ท่านเสียไป..   อยากจะกอดน้ำแน่นๆ อยากจะให้กำลังใจและดูแลน้องสาวที่ผมรักให้ดีที่สุด
...และ อาจจะได้พบกับพี่โต อาจจะได้พุดคุย บางที....เราอาจจะเป็นเหมือนในนี้ก็ได้ เราอาจจะได้รักกันข้างนอกนั่นก็ได้..
   จะดีสักแค่ไหนล่ะ ถ้าหากผมจะได้ยิ้มอยู่ภายใต้ท้องฟ้าที่ไร้ลวดหนามและกรงขังอีกครั้ง...
...อยาก...จะมีอิสระ....อยาก จะเล่นไวโอลินท่ามกลางทุ่งหญ้าหรือภูเขา อยากจะก้าวเดินบนผืนดินแห่งนี้อีกครั้ง...
ในฐานะของคน ที่กลับมาเป็นคนผู้เต็มเปี่ยมด้วยจิตวิญญาณอีกครั้ง  ใครๆในที่นี้ต่างก็มีความหวังแบบนี้ทั้งนั้น...
       โตมองใบหน้าของเจ้าคนบนตักที่กำลังยิ้ม...ยิ้มกว้างยามคิดและวาดฝันถึงสิ่งที่ยังมาไม่ถึง คิดถึงสิ่งที่เนิ่นนานเหลือเกินกว่าจะได้พบเจอ..
    ขาใหญ่แห่งแดนสิบสองมองท้องฟ้าที่สดใส เมฆสีขาวลอยไปตามสายลม นกตัวน้อยที่บินผ่านและดวงตาวันส่องแสงจ้า...ฝ่ามือค่อยกำแน่น..สุดหายใจลึก สบมองดวงตาสดใสของคนรัก...คนรักที่รักและสำคัญมากเหลือเกิน..
  วางฝ่ามือลงบนแก้มมันแล้วไล้เบาๆ อย่างสเน่หา..รัก....รักเหลือเกิน ห่วงใยและอาทรหนักหนา
    เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ทีหนักในหัวใจของมันมีมากขนาดนี้ รักจนใบหน้าและรอยยิ้มของแฟนสาวแทบจะหายไปจากความทรงจำ และยิ่งตระหนักรู้...รู้ชัด...ในยามที่มันถูกพาตัวไป หัวใจปวดร้าวทุรนทุรายแทบขาดใจ ทรมารแค่ไหนก็รู้ตัวเองดี..
     ริมฝีปากแตะลงบนผิวแก้มขาวไล้เบาๆเเล้วประทับรอยชื้นบนริมฝีปากบาง สอดปลายลิ้นเข้าลิ้มลองความหวาน
ของร่างในอ้อมแขน ฟังเสียงครางเครือในลำคอเหมือนแมวจนอดจะไล้ปลายนิ้วลงบนแผ่นหลังหยัดโค้งและลำคอขาวบางไม่ได้...รัก.... รัก.....รัก เพราะรัก...ถึงได้ปกป้อง เพราะสำคัญ...ถึงได้ยอมทำทุกสิ่ง...
      " นั่นสินะ....ใครๆก็อยากออกไปทั้งนั้น " เอ่ยคำพูดนั้นแล้วยิ้มให้เจ้าคนที่มีสีหน้างวยงงอยู่ครู่หนึ่ง มันพยักหน้ารับอย่างกระตือรือล้น เอ่ยปากเล่าถึงความฝันของตน..และที่ทำให้โตยิ่งดีใจ คือความฝันนั้น มันมีเขารวมอยู่ด้วย...
...ใครๆก็อยากออกไปใช่....ใครๆก็อยากไปจากนรกแห่งนี้
แต่มันทำไม่ได้..ไม่อาจจะทำได้ ไม่อาจจะหนีจากที่แห่งนี้ไปได้ จนกว่าโทษทัณฑ์ทั้งหลายที่ถูกตัดสินไว้จะชดใช้หมดสิ้น......แต่ใครก็ตามที่ทำไม่ได้....เขานี่แหละ จะทำให้มันเป็นไปได้เอง.. ด้วยอิทธิพลของสามคนนั้น ด้วยอำนาจ เม็ดเงิน กำลังคนที่มีอยู่ในมือ เขาจะทำให้มันเกิดขึ้น..
    การพบกันเมื่อวาน พวกมันบอกถึงกำหนดการที่กระชั้นชิดเข้ามา นัยย์นั้นยังคงแฝงแววข่มขู่และวาดฝัน โตเคยลังเลแต่บัดนี้ เขาแน่ใจแล้ว..
       จ้องมองใบหน้า...มองดวงตาพราวระยับ ความงดงามและสดใสในแววตาคู่นี้ไม่เคยหายไปแม้ผ่านไปนานแค่ไหน...นี่เป็นสิ่งเดียวที่ทำให้โตรู้สึก ว่าการตัดสินใจของตนเองไม่ได้ผิดพลาด เพราะมันเหมาะกับท้องฟ้ากว้าง มากกว่ากรงขังแคบๆมืดๆ เพราะมันทำให้เขามีความสุข เขาจึงต้องการให้มันมีความสุข..มากขึ้น...มากขึ้น....มากเท่าที่ตัวเองจะให้ได้..
ต่อให้ต้องตะกาย ป่ายบันไดไปคว้าให้ก็จะทำ..จะไม่ยอมให้ใครมาทำอะไรมันได้อีกแล้ว..
   หากอยู่ที่นี่แล้วไม่ปลอดภัย ก็ต้องออกไป แม้จะเสี่ยงเป็นเสี่ยงตายเท่ากันก็ตามที..ไม่ใช่ไม่มีทางเลือกอีกแล้ว..
แต่ตอนนี้เขาเลือกที่จะทำมันต่างหาก
..ถ้าหากหลับตาลงข้างหนึ่ง ไม่ยอมมองความจริง ไม่ยอมเห็นอีกด้านของสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น ก็จะมีความสุข
คำว่ารักก็ได้มาแล้ว การอยู่เคียงข้างกันก็ได้มาแล้ว กอดจูบความสัมพันธ์ทางกายก็ดำเนินมาอย่างแนบชิดทุกขั้นตอนเสียจนไม่อาจจะกล่าวอ้างอะไรได้อีก ถ้านี่คือความสุข...มันคือความสุขที่แฝงความขื่นขม แต่หากมันเป็นความทุกข์ระทม
นี่ก็คงเป็นความทุกข์ที่งดงามที่สุด..
       สายลมเย็นๆโชยพัดช่วยบรรเทาความร้อนจากแสงแดดที่แผดจ้าได้บ้าง ร่มไม้ใต้เงาต้นมะม่วงต้นโตออกผลดกได้
ทุกปีเป็นที่พักพิงชั้นดีสำหรับเหล่านักโทษที่ต้องการพักผ่อน หลับตาลงแล้วเอนตัวพิงโคนต้นไม้ให้เปลือกไม้แผ่ความเย็นมาสู่ร่างกายที่ร้อนผ่าวเพราะแสงแดดและหยาดเหงื่อ เงยหน้าขึ้นมองดวงตาวันที่ส่งแสงจ้ามือกำคอเสื้อขยับมันเข้าๆออกๆให้ลมสอดเข้าสัมผัสผิวกายใต้ร่มผ้า ไม่นานฝ่ามือที่เคยคุ้นก็วางลงบนกระหม่อมพร้อมกับผ้าขาวผืนบางชุบน้ำเย็นแนบลงบนผิวแก้ม...
     " เหนื่อยหน่อยนะ "
     " อือ...." เมฆรับคำเบาๆ สบตาคนพูดที่ค่อยทรุดตัวลงข้างกาย สอดปลายนิ้วมาแทรกประสานกับฝ่ามือทิ้งให้ความเงียบและความสงบของบรรยากาศยามบ่ายไหลลอยผ่านไปเรื่อยๆให้เข็มนาทีวิ่งช้าๆในยามที่มีกันและกัน..
          ....เอนกายลงพิงบ่า หนุนศรีษะเกยพาดไหล่หลับตาลงช้าๆ ล้า...เหนื่อย...เกินจะทน
     ร่างเจ้าตัวเล็กหลับตาลงด้วยสีหน้าเหนื่อยอ่อน ทำให้วิทย์ลอบถอนใจ เอื้อมมือไปหาใบหน้าที่หลับตาพริ้มลูบไล้มันแผ่วเบาอย่างนึกอาดูร..
   ....ริมฝีปากห่อเข้าหากันสูบลมหายใจจากปอดมาสู่ริมฝีปาก ให้สายลมนั้นปล่อยออกมาเป็นสำเนียงกรีดเบาๆของสายลม..
   เสียงผิวปากดังเบาๆใกล้ๆหูทำให้คิ้วที่ขมวดเข้าหากันค่อยคลายลงอย่างไม่รู้ตัว...เมฆยิ้มออกมาทั้งที่ยังหลับตาเขาเอื้อมมือกอดแขนชายหนุ่มข้างกายไว้ ฟังเสียงเพลงไร้ทำนองจากปากของคนรักแม้จะไม่อาจบอกได้ว่ามันคือบทเพลงไหน ทว่าท่วงทำนองที่มีให้กันเพียงสองคนก็พิเศษและน่าจดจำมากกว่าใคร...มันแผ่วเบา..แต่เต็มไปด้วยความสุข...






ประธานนักศึกษา

โพสต์
2126
พลังน้ำใจ
3272
Zenny
8039
ออนไลน์
439 ชั่วโมง

ลูกน้องหัวหน้าห้อง

โพสต์
463
พลังน้ำใจ
357
Zenny
1329
ออนไลน์
62 ชั่วโมง
ขอบคุณมากครับ

มาเฟียคุมคณะ

อยากเต้น..ก็เต้น ซิค่ะ!!

โพสต์
5613
พลังน้ำใจ
61062
Zenny
247102
ออนไลน์
3272 ชั่วโมง

สมาชิกจีโฟกาย 100%สมาชิกระดับแพลตตินั่มสมาชิกระดับทับทิมสมาชิกระดับไพลินสมาชิกระดับมรกตสมาชิกระดับเพชรสมาชิกระดับเพชรบริหารสมาชิกระดับเพชรคู่สมาชิกระดับตรีเพชรสมาชิกระดับมงกุฎ

ขอบคุณมากครับ

หัวหน้าห้อง

โพสต์
1430
พลังน้ำใจ
1430
Zenny
6827
ออนไลน์
291 ชั่วโมง
ขอบคุนครับ

หัวหน้าห้อง

โพสต์
1330
พลังน้ำใจ
1157
Zenny
2209
ออนไลน์
532 ชั่วโมง
สุดยอดเลยอ่ะคร๊าฟ

ลูกน้องหัวหน้าห้อง

โพสต์
689
พลังน้ำใจ
834
Zenny
2028
ออนไลน์
150 ชั่วโมง
ดวงตาค่อยปรือเปิดขึ้นมาอีกครั้งมองแสงสว่างวูบจากภายนอก และเงาวูบไหวของลูกกรงพาดเงายาวกับทบผิวหน้า..ขณะที่ฝ่ามือเกร็งแน่นขึ้นเล็กน้อย...พลาดครั้งที่หนึ่ง...ผ่านไป...แต่...พลาดครั้งที่สอง ตัดสินใจพลาดอีกครั้ง หมายความว่าอย่างไร?...กันย์คิดถึงอีกหนึ่งโอกาสที่เขามียามที่จรดมีดลงบนลำคอของมัน เขาถามตัวเอง ว่าทำไมถึงไม่ทำ..ทำไม...ถึงต้องการแค่ความสาใจ มากกว่าชีวิต...
เนื้อหาถูกซ่อนไว้

ทั้งที่ตอนนั้นโกรธแค้นชิงชังมากพอจะฆ่าให้ตาย หลังจากรู้แน่ว่าเมฆยังคงมีใจอยู่กับมัน...เพียงแค่นั้นก็มากพอแล้ว..
....ต้องการเหยียดหยาม ต้องการแก้แค้น ต้องการหลักหลัง...แต่....ทำไมถึงไม่ฆ่ามันให้ตายๆไปเสีย...?
กันย์ครุ่นคิดคำตอบของคำถามนี้อย่างว้าวุ่น หัวสมองปั่นป่วน..การฆ่าคนในเรือนจำนี้...มันจะยิ่งส่งผลเสีย เขาไม่อยากทำ...ใช่.... นี่คือคำตอบ...ใช่แล้ว..คำตอบเป็นเช่นนั้น ยังคงเป็นเช่นที่เขาตอบกับตัวเองไปครั้งแล้วครั้งเล่า...
เพราะความสาแก่ใจ....เหตุผลนี้มากพอที่จะอธิบายทุกสิ่ง...
...ไม่มีสักเสี้ยวหนึ่งของความรัก...ไม่มี..
น้ำตา เสียงอ้อนวอน หรือแววตารวดร้าวสั่นไหว..ไม่เคยทำให้ความตั้งใจและหัวใจนี้สั่นคลอนคนที่เขารัก มีเพียงเมฆคนเดียวเท่านั้น ไม่ใช่คนสองใจอย่างมัน...
.... กันยฺ์ยังคงเฝ้าบอกกับตัวเองเบาๆ...แม้กระทั่งตอนนี้...ตอนที่เขาเปิดดวงตาขึ้นมาอีกครั้งแล้วได้มองเห็นสีสันของเลือดเปรอะเปื้อนใบหน้าและดวงตาของตน...
จำได้ถึงแววตาเเข็งกร้าวของน้องรัก...และ....สีหน้ากระด้าง รอยยิ้มมุมปากหยามหยันของคนที่เขาเกลียดชัง ชัดเจนเสียจนลมหายใจกระตุกวูบอย่าลืมตัวและ...ได้ยินเสียงบางอย่างในสมองพังครืน...
....ความแค้นยิ่งทบทวี...มีเพียงความแค้น...และมีแต่ความแค้นเสมอมา..ไม่มีแม้แต่ความรัก...เขากระซิบบอกตัวเองอย่างหนักแน่น...ไม่มีมีเพียงความเกลียดชังและความโกรธแค้นเท่านั้น...
เขาเกลียดชังคนที่หลอกใช้คนอื่นด้วยความรัก...จึงหลอกลวงและตอบแทนมันด้วยสิ่งเดียวกัน...
มาถึงตอนนี้เขาถูกดัดหลังด้วยความรักเช่นกัน...แต่จะไม่มีวันหลงรักคนที่ตัวเองหลอกลวงมัน...กันย์แน่ใจ
...เขาไม่มีวัน...จะเสียใจภายหลัง...อีกแล้ว...
Improbable 22 : เดินหน้า
      ฝ่ามือวางทาบลงบนผิวแก้มขาวซีด ที่ปรากฏรอยช้ำสีม่วงเข้มเด่นชัด ค่อยแตะไล้...เกลี่ยผ่านผิวแก้มนั้นแผ่วเบาด้วยปลายนิ้วกร้านเเข็งที่รู้ดีว่ามันสั่น...สั่นระริกด้วยความห่วงหาปนหวาดหวั่นในจิตใจ
...คนสำคัญ ของสำคัญที่อาจจะหลุดหาย เจ็บปวดทุรนทุรายกับการเสียมันมากเพียงใด ตอนนี้....รู้ชัด...
    ชัดเจนเช่นเดียวกับความสมเพชเวทนาในใจตนที่ไม่อาจจะช่วยอะไรได้ ไม่อาจจะใช้อ้อมแขนปกป้อง ไม่อาจจะโอบกอดไว้และเป็นเกราะกำบังป้องกันมันจากทุกสิ่ง...โดยเฉพาะอันตรายที่เกิดขึ้นจากความใกล้ชิด อันตราย ที่เกิดขึ้นเพราะมันอยู่เคียงข้างและเป็นที่รัก ของตัวเขา..
     โตถอนหายใจเบาๆ ร่างที่นั่งอยู่บนเก้าอี๊พลาสติกสีสดค่อยๆขยับโน้มกายเข้าไปใกล้ ก้มตัวแนบชิดจับจ้องดูเเลเจ้าคนป่วยที่น่าสงสารนักบนเตียงอย่างห่วงหา สายลมจากด้านนอกโชยพัดมาด้านในของห้องพยาบาลจนผ้าม่านสีขาวสะบัดพลิ้วไหว เผยให้เห็นท้องฟ้าสดใสและแสงแดดที่เริ่มเจิดจ้าขึ้น บ่งบอกว่าเวลาล่วงเลยมาจนสาย ทว่า...เจ้าคนตัวเล็กที่มันเพิ่งกลับมาเมื่อเช้ามืดก็ยังนอนหลับตาพริ้ม..ไม่ขยับกาย
      ใบหน้าซีดเซียว ริมฝีปากแตกระแหง ร่องรอยฟกช้ำปรากฏชัดบนใบหน้าและผิวกายยิ่งทำให้เลือดในกายเดือดเร่าและทุรนทุรายด้วยความกังวลห่วงหา...พื้นที่ในใจ...ไม่รู้ว่ามันครอบครองได้มากมายเพียงใด มาบัดนี้ เด่นชัด...
    .....สำคัญ....สำคัญมากจนเสียไปไม่ได้...    ...ทั้งห่วงหาอาทรมากมายเสียจนทุรนทุรายแทบบ้า..
       เนื้อตัวพลันสั่นสะท้านอย่างลืมตัวเมื่อสมองจินตนาการถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อจากนี้ การสอบสวนครั้งต่อไป คนที่
ไม่อาจจะเล่นงานได้ และสิ่งที่มันต้องพบเจอ...
    ก้มมองปลายนิ้วสีขาวที่ปรากฏรอยดำและเล็บที่ฉีกขาด บ่งชัดว่ามันคงจะทรมารและหวาดผวา ...ครั้งเดียวก็มากพอแล้วสำหรับคนหนึ่งคน หากมันจะต้องพบเจออีก..แม้เจ้าตัวจนทานทนไหว แต่หัวใจของเขาคงแทบแตกสลาย คงต้องปวดร้าวแทบบ้า..
     ไอ้คนๆนั้น ไม่ว่ามันจะเป็นผู้คุมแสนดีพิทักษ์คุณธรรมมาจากไหน ไม่ว่ามันจะเป็นวีรบุรุษมากำจัดคนเลวอย่างพวกเขา ถึงมันจะดี แต่มันไม่มีวันจะได้รับการให้อภัย
      ความผิดที่มันใส่ร้าย ความผิดที่มันทำร้ายคนที่ไม่เกี่ยวข้องอะไรเลยด้วยอย่างไอ้เนม ต่อให้มันจะดีมาจากไหน มันก็เลวบรมในสายตาของเขา
     เล่นงานคนที่ไม่เกี่ยวข้องอะไรเพื่อขู่ เพื่อกลั่นแกล้งให้ทรมารและหมดความอดทน วิธีการแบบนี้มันแตกต่างจากวิธีการของคนเลว วิธีการของนักโทษ พวกเดนคนในสายตาของสังคมอย่างพวกเขาตรงไหน
     ในเมื่อกล้าทำขนาดนี้ กล้าท้าทาย กล้าท้าชนตรงๆ ตัวเขาก็จะตอบแทนมันอย่างสาสมไม่แพ้กัน !
         ".......อือ...." เสียงครางเบาๆในลำคอของคนป่วยทำให้โตค่อยละออกจากภวังค์ นัยน์ตาสีเข้มก้มลงมองใบหน้าที่
ซีดขาว หัวคิ้วที่คลายลงบ่งบอกสัญญาณของนิทราเริ่มขมวดมุ่น แพขนตาหนาขยับไหวระริกราวกับปีกผีเสื้อ บ่งชัดว่าเจ้าตัวกำลังจะตื่นจากการสลบไสลไปด้วยความเหนื่อยอ่อน..
       แสงแดดอ่อนพาดลงบนเสี้ยวหน้าขาว จากการไหวพะเยิบของผ้าม่านตามแรงลม โตชะงัก ลุกขึ้นหันรีหันขวาง ตั้งท่าจะไปปิดหน้าต่างไม่ให้แสงสาดกระทบดวงตาของคนป่วย แต่ก็อยากให้สายลมเย็นๆโชยชายให้มันสบายตัว ที่สุดจึงได้แต่ใช้ร่างกายบดบังแสงแดดอ่อน ให้เปลือกตาบางค่อยเผยอเปิดขึ้นโดยไร้อาการนิ่วหน้าเพราะแสงแดดที่จ้าจัดบาดตา
       "....พี่....." เสียงเรียกเบาๆในลำคอดังขึ้นเมื่อดวงตาสีดำสนิทสุกใสคู่นั้นค่อยเปิดขึ้นอย่างเชื่องช้า มันมีสีหน้างัวเงีย ปนกับงุนงงกับท่าทีแปลกประหลาดของเขาเล็กน้อย แต่โตไม่สนใจ ยังคงยืนบังแสงแดดจ้าพร้อมกับโน้มตัวเข้าไปหา
ฝ่ามือแตะลงบนผิวแก้มที่ปรากฏร่องรอยฟกช้ำอย่างอาทร..
         "...หิวน้ำไหม? " เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา...แฝงความสั่นไหวจนรู้สึกได้ ฝ่ามือที่แตะลงบนผิวขาวสั่นระริกไหว ด้วยความดีใจปนกับความหวาดหวั่น หลากหลายอารมณ์ที่ซัดเข้าหายามได้สบมองดวงตาคู่นี้...นัยน์ตา...ที่จำหลักฝังรอยความทรงจำแนบแน่นในหัวใจ  ดวงตาที่คิดถึงมากมายแม้ยามห่างไกลกันไม่กี่ชั่ววัน หากแต่ยาวนานนักในความรู้สึก
     ....และยิ่งนาน เนิ่นนานเมื่อรู้ ว่ามันต้องเจ็บปวด มันต้องทุกข์ทรมานและสับสนเพราะต้นเหตุคือเขา
          " ครับ...." เจ้าตัวเล็กพยักหน้ารับน้อยๆ นั่นทำให้โตยกมือลูบหัวมันเบาๆอย่างห่วงใยก่อนจะผละไปรินน้ำเปล่าจากแก้วใสหน้าเครื่องกรองน้ำในห้องพยาบาล  หันมาอีกครั้งคนที่เคยนอนแบ่บก็ยันตัวลุกขึ้น นั่งอยู่บนเตียงและจ้องมองมายังตัวเขาด้วยดวงตาซื่อๆ ท่ามกลางแสงแดดอ่อนและสายลมเย็นที่พัดมาจากเบื้องนอก..
     ..ไม่รู้ทำไม..ภาพนั้นทำให้โตรู้สึกตื้อในอกขึ้นมาอย่างกะทันหัน เขาปิดตาลงชั่วขณะหนึ่งอย่างรวดร้าว คำถามสั้นๆ
ดังขึ้นในอกเป็นครั้งที่เท่าไหร่ไม่รู้ ยามเมื่อคิดถึงคนที่นั่งอยู่ตรงหน้า
      ...คนอย่างมัน อย่างไรก็ไม่เหมาะกับที่แบบนี้...เจ้าคนที่มีแววตาซื่อๆใสๆ รอยยิ้มอ่อนๆและโกรธใครไม่เป็น ไม่เหมาะสมกับนรกแห่งนี้สักนิด..
     จะดีแค่ไหนนะ ถ้าหากวันนึง มันจะได้ไปยืนอยู่ข้างนอกกรง ได้ไปยิ้มและหัวเราะกับเขาข้างนอกนั่น..
      มันจะมีความสุขมากกว่านี้ มันจะยิ้มได้มากกว่านี้ มันจะได้เล่นไวโอลินที่ตัวเองชอบท่ามกลางท้องฟ้าสดใสและ
ทุ่งหญ้าสีเขียวสดด้วยรอยยิ้มที่เต็มเปี่ยมด้วยความสุข..
     ....ไม่ใช่คนที่ต้องใส่ชุดนักโทษ นั่งอยู่ในสภาพบอบช้ำ ดวงตาแฝงแววทุกข์ระทมเบื้องหน้า...
       " ขอบคุณครับ..." คำตอบรับนั้นดังขึ้นเบาๆ ยามเจ้าตัวยื่นมือมารับน้ำจากมือเขา โตก้มมองฝ่ามือที่มีรอยช้ำ
เขานิ่วหน้านิดๆ จากนั้นจึงส่ายหัวและดึงแก้วน้ำนั่นห่างจากมือที่ยื่นมาหา
       "...ค่อยๆกิน..." ยกแก้วน้ำจรดริมฝีปากบาง ท่ามกลางสีหน้างวยงงสงสัยของมัน ฝ่ามือข้างหนึ่งโอบแผ่นหลังไว้แล้วรั้งเข้าหาตัวเบาๆ อีกข้างค่อยๆป้อนน้ำใสลงสู่ริมฝีปากบางที่มีร่อยรอยบอบช้ำ จ้องมองการเคลื่อนไหวของลูกกระเดือกบนลำคอกระทั่งฝ่ามือของมันกระตุกเสื้อเขาเบาๆเป็นสัญญาณ โตจึงยอมวางแก้วนั้นลงบนกรอบหน้าต่างใกล้ตัว
        " เปื้อนหมด..." เจ้าคนป่วยยังมีหน้ามาบ่น มันงึมงัมแล้วยกมือเช็ดปลายคางที่เลอะไม่น้อยด้วยใบหน้าแดงก่ำ
ก้มหน้างุดๆกึ่งเขินกึ่งทำตัวไม่ถูก น่าเอ็นดีเสียจนต้องหัวเราะออกมาเบาๆ
        " อย่าขำสิ " มันหันมาทำหน้ามุ่ยใส่ โตส่ายหัวช้าๆ ฝ่ามือลูบหัวมันเบาๆก่อนจะไล้ระเรื่อยลงมายังขมับ ข้างแก้ม จรดปลายคางและลำคอ...
        " เจ็บมากไหม ? "น้ำเสียงถามแหบพร่า ทำให้คนฟังชะงัก...ก่อนจะผ่อนลมหายใจช้าๆ ยิ้มออกมาด้วยสีหน้าขื่นขมปนสังเวช...ในชะตากรรมของตัวเอง
         " เป็นนักโทษ ยังไงก็ต้องเจอแบบนี้สักครั้งอยู่แล้ว...ไม่เป็นไรหรอก " เนมออกปากตอบสั้นๆดวงตาจับจ้องสีหน้าและแววตาของขาใหญ่เบื้องหน้าอย่างพินิจพิเคราะห์
" ผม...บอกว่าไม่เป็นไร .."
   ..ผมหมายความแบบนั้นจริงๆ..ต่อให้ต้องถูกสอบสวน ต่อให้ต้องถูกทรมาร กักขังทำร้ายอีกกี่ครั้ง..ต่อกี่ครั้ง...
ผมก็ไม่มีวันอ้าปากใส่ร้ายใคร ผมก็ไม่มีวันจะออกปากพูดอะไรที่ตัวเองไม่รู้..
        "....กูขอโทษ.." เสียงกระซิบของพี่โต ..แววตาสั่นๆและสีหน้าขื่นขม ทำให้ผมค่อยๆหลับตาลงช้าๆ จมูกรู้สึกตื้อตันขึ้นมา ยามนึกถึงความเจ็บปวด ความกดดันที่ผ่านพ้น หากแต่มันสับสนปนเปกันกับความห่วงใยที่ผู้ชายคนนี้มีให้ผม..
         " ไม่เป็นไร...ผมไม่เป็นไรจริงๆ " เอนตัวพิงไหล่พี่โตไว้ หลับตาลงและกระซิบบอก ทั้งบอกตัวเองและบอกคนข้างๆ บอกคนที่กอดผมไว้ด้วยลมหายใจสั่นๆว่าไม่เป็นไร......ปลุกปลอบ..ทั้งตัวเองและพี่โต ..บอกให้"เรา"ไม่หวั่นไหวและมีกำลังใจสู้ต่อไป..
  ...เราที่ต่างกำลังหวาดหลัวว่าจะสูญเสียกันและกันไปทั้งคู่...
          " กูทำให้มึงเดือดร้อน..."น้ำเสียงพร่าแหบของพี่โตดังขึ้นเบาๆ
" เพราะมึงอยู่ใกล้กู..."
          " พี่อย่าโทษตัวเองเลย..." ผมบอกเบาๆพลางยกมือโอบตอบคนที่กอดผมไว้แน่น...ปลอบใจไม่ให้พี่โตรู้สึกผิด
และโทษตัวเองมากไปกว่านี้...
         " ....ไม่เป็นไรนะ กูจะช่วยมึงเอง.." พี่โตสูดหายใจลึก เอ่ยปากสัญญาด้วยน้ำเสียงที่มั่นคงขึ้น
" กูจะไม่ให้มึงเจอแบบนี้อีก.."
   คำสัญญานั้นทำให้ผมค่อยๆหลับตาลงอย่างเชื่องช้า เบียดกายซุกซบแผ่นอกแกร่ง..หลับตานิ่งอยู่ในอ้อมกอดของผู้ชาย
ที่คอยปกป้องมาตลอดเวลาที่ผ่านผัน..    ....คำพูดของพี่โต พูดอะไรออกมาแล้ว..ทุกอย่างก็จะเป็นไปตามนั้น..
   บอกว่าจะปกป้องคือปกป้อง บอกว่าจะดูแล มันก็คือแบบนั้น ..ไม่เคยผิดสัญญา ไม่เคยทำให้ผมผิดหวัง นับตั้งแต่วันนั้น..วันที่สัญญาว่าเราจะอยู่ข้างๆกัน วันที่นั่งมองสายฝนที่พร่างพรมและจับมือกันไว้ดั่งคำสัญญา..
         " ครับ...ผมเชื่อ "
      ...เชื่อมั่น และไว้ใจในตัวผู้ชายคนนี้ มากกว่าใคร ...
          " เนม....." เสียงคนพูดสั่นๆ...สั่นไหวและไม่มั่นใจเหมือนกำลังคิดอะไรบางอย่างอยู่...ผมชะงักค่อยๆเงยหน้าไปมองสบตาคู่นั้น แต่ทว่าพี่โตเบือนหน้าหนี...ราวกับมีอะไรบางอย่างในหัวใจ..
          "...ครับ....."
         "...จำได้ไหม...ที่....ที่กูบอกว่ามึงเป็นคนสำคัญ...มาก....พอๆกับ.....กิ้ง...." คำพูดนั้นทำให้ผมขมวดคิ้ว  งวยงงปน
ไม่เข้าใจ และ....นึกขุ่นใจว่าพี่โตจะพูดเรื่องนี้ออกมาทำไม?...จะพูดเรื่องคนที่พี่รักอีกคน...ในตอนนี้ทำไม?
        ".........." เสียงระบายลมหายใจยาวๆของผมและการนิ่งเงียบไม่ตอบคำ คงมากพอจะเป็นคำตอบของพี่โตแล้ว อ้อมกอดนั้นจึงค่อยรัดแน่นขึ้น ทว่าใบหน้าและแววตาของคนๆนี้ก็ยังเสมองไปทางอื่น ไม่ยอมสบตา..
        "...แต่....ตอนนี้....." เสียงกลืนน้ำลายลงคอ ทำให้ผมยิ่งต้องขมวดคิ้วมุ่น พี่โตหันกลับมามองหน้าผมอีกครั้ง สีหน้าเริ่มลังเล..ไม่แน่ใจ
        " ตอนนี้มึงเชื่อกูไหม? เชื่อคำพูดที่กูพูดไหม? "
        " พี่? "ผมเลิกคิ้ว สีหน้ายิ่งงวยงงหนักขึ้น...กับ....อาการลังเลและคำพูดที่ไม่ปะติดปะต่อของพี่โต...
        "ตอบสิ...." คำพูดเร่งเร้า ทำให้สีหน้าของผมยิ่งงวยงงและขัดข้องใจ ทว่าเพราะอ้อมกอดที่ยังคงแนบแน่นและแววตาสั่นๆ ทำให้ผมค่อยผ่อนลมหายใจช้าๆ...พี่โต อาจจะคิดถึงเรื่องที่ผมเคยบอก ว่าไม่เชื่อถือคำพูดของเขา ไม่เชื่อ..และไม่ไว้ใจ.......คำพูดที่เคยพูดเอาไว้เมื่อนานมาแล้ว แต่บางที มันอาจจะฝังใจ มันอาจจะมีความสำคัญมากกว่าที่คิด.
.  ...หรือพี่โตต้องการความมั่นใจ ต้องการให้ผมเชื่อ และต้องการให้ผมยืนยันว่าจะอยู่ข้างๆกันแบบนี้..
          "....เชื่อสิ....." ผมตอบสั้นๆ สบตาคนพูดเพื่อแสดงความจริงใจ พี่โตมองหน้าผม..และ.....ใบหน้าก็เริ่มลั่นเลิ่กเหลือบมองซ้ายขวาและปรากฏรอยแดงบวกกับท่าทีไม่มั่นใจ ดูแปลกตา และไม่เข้ากันสถานการณ์เอาเสียเลย
          "....พี่...." ผมร้องทักไปอย่างงๆ กึ่งขัน แต่อ้อมแขนของพี่โตก็รัดแน่นขึ้น พร้อมๆกับใบหน้าที่ซุกลงกับไหล่...
กอดแน่น...แนบแน่นมากกว่าครั้งไหน...


" ถ้าตอนนี้มึงเชื่อกูแล้ว...กูจะพูด.....พูดอีกครั้งนะ...."พี่โตกระซิบบอกเบาๆ พร้อมกันนั้นผมได้ยินเสียงสูดหายใจลึกและ...ลางสังหรณ์บางอย่างเริ่มตงิดๆ...

หัวหน้าห้อง

โพสต์
1484
พลังน้ำใจ
1541
Zenny
6736
ออนไลน์
824 ชั่วโมง

หัวหน้าห้อง

โพสต์
1466
พลังน้ำใจ
1861
Zenny
4470
ออนไลน์
416 ชั่วโมง
ขอบคุณครับ

ประธานนักศึกษา

โพสต์
1338
พลังน้ำใจ
4957
Zenny
173
ออนไลน์
713 ชั่วโมง

นายกองค์การนักศึกษา

โพสต์
8000
พลังน้ำใจ
38696
Zenny
11626
ออนไลน์
1810 ชั่วโมง
ขอบคุณครับ

นายกองค์การนักศึกษา

โพสต์
3228
พลังน้ำใจ
12918
Zenny
40554
ออนไลน์
1034 ชั่วโมง

สมาชิกระดับมรกตสมาชิกระดับแพลตตินั่มสมาชิกระดับทับทิมสมาชิกจีโฟกาย 100%สมาชิกระดับไพลินสมาชิกระดับเพชรสมาชิกระดับเพชรบริหารสมาชิกระดับเพชรคู่สมาชิกระดับตรีเพชร

อิจฉาทั้งสองคู่

ประธานนักศึกษา

โพสต์
871
พลังน้ำใจ
6661
Zenny
3799
ออนไลน์
309 ชั่วโมง
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ลงชื่อเข้าใช้ | สมัครเข้าเรียน

รายละเอียดเครดิต

A Touch of Friendship: สังคมจะน่าอยู่ เมื่อมีผู้ให้แบ่งปัน ฝากไวเป็นข้อคิดด้วยนะคะชาวจีโฟกายทุกท่าน
!!!!!โปรดหยุด!!!!! : พฤติกรรมการโพสมั่วๆ / โพสแต่อีโมโดยไม่มีข้อความประกอบการโพส / โพสลากอักษรยาว เช่น ครับบบบบบบบบ, ชอบบบบบบบบ, thxxxxxxxx, และอื่นๆที่ดูแล้วน่ารำคาญสายตา เพราะถ้าท่านไม่หยุดทีมงานจะหยุดท่านเอง
ขอความร่วมมือสมาชิกทุกท่านโปรดโพสตอบอย่างอื่นนอกเหนือจากคำว่า ขอบคุณ, thanks, thank you, หรืออื่นๆที่สื่อความหมายว่าขอบคุณเพียงอย่างเดียวด้วยนะคะ เพื่อสื่อถึงความจริงใจในการโพสตอบกระทู้ และไม่ดูเป็นโพสขยะ
กระทู้ไหนที่ไม่ใช่กระทู้ในลักษณะที่ต้องโพสตอบโดยใช้คำว่าขอบคุณ เช่นกระทู้โพล, กระทู้ถามความเห็น, หรืออื่นๆที่ทีมงานอ่านแล้วเข้าข่ายว่า โพสขอบคุณไร้สาระ ทีมงานขอดำเนินการตัดคะแนน และ/หรือให้ใบเตือนสมาชิกที่โพสขอบคุณทันทีที่เจอนะคะ

รูปแบบข้อความล้วน|โทรศัพท์มือถือ|ติดต่อลงโฆษณา|จีโฟกายดอทคอม


ข้อความที่ท่านได้อ่านในเว็บจีโฟกายดอทคอมนี้ เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชน และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ หากท่านพบเห็นข้อความใดๆ ที่ขัดต่อกฎหมาย และศิลธรรม ไม่เหมาะสมที่จะเผยแพร่ ท่านสามารถแจ้งลบข้อความได้ที่ Link “แจ้งลบโพสนี้” ที่มีอยู่ใต้ข้อความทุกข้อความ หรือ ลืมพาสเวิดล๊อกอิน/ลืมชื่อที่ใช้สมัคร หรือข้อสงสัยใดๆแจ้งมาที่ G4GuysTeam[at]yahoo.com ขอขอบพระคุณที่ให้ความร่วมมือ

กรณีที่ข้อความ/รูปภาพในกระทู้นี้จัดสร้างโดยผู้ลงข้อมูลเอง ลิขสิทธิ์จะเป็นของผู้ลงข้อมูลโดยตรง หากจะทำการคัดลอก/เผยแพร่ ต้องได้รับอนุญาตจากผู้ลงข้อมูลก่อนนะคะ หรือลงที่มาไว้ด้วยค่ะ

©ขอสงวนสิทธิ์คอนเซ็ปต์,คำอธิบาย,หัวข้อ/หมวดหมู่เว็บ ห้ามลอกเลียนแบบ คิดเอาเองนะคะอย่าเอาแต่ลอก

GMT+7, 2024-5-2 19:43 , Processed in 0.110334 second(s), 25 queries .

Powered by Discuz! X3.1 R20140301, Rev.31

© 2001-2013 Comsenz Inc.

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้