จีโฟกาย.คอม

 ลืมรหัสผ่าน
 สมัครเข้าเรียน
ค้นหา
 
ดู: 1247|ตอบกลับ: 12
สั่งพิมพ์ ก่อนหน้า ถัดไป
ซ่อนแถบด้านข้าง

ความฝันกลางหมอกเหมย

[คัดลอกลิงก์]

ประธานนักศึกษา

โพสต์
459
พลังน้ำใจ
6125
Zenny
41293
ออนไลน์
18 ชั่วโมง
ปลายสะพายกระเป๋าขึ้นไหล่  กระเป๋าสีดำใบใหญ่ที่เดินทางไปกับปลายมาช้านาน  มันเป็นเหมือนเพื่อนที่ซื่อสัตย์และเป็นเพื่อนแก้เหงายามที่ต้องเดินทางไกล…
         “กระเป๋าเพื่อนรัก…พร้อมหรือยังที่จะเดินทางอีกครั้งหนึ่ง”  ปลายถามมันเงียบๆ  ในใจพร้อมกับก้าวเท้าไปข้างหน้า…ก้าวแล้วก้าวเล่า
         ความเหงา…ปลายเหงามันตามปลายไปทุกย่างก้าวทุกแห่งหน  ปลายกระชับกระเป๋าแนบตัวราวกับจะขับไล่ความรู้สึกเหงาๆ  และพอจะรู้สึกถึงความอบอุ่นที่มันมีอยู่เคียงข้าง  ปลายขอบใจมันอยู่ในใจอย่างรู้กัน
         “เพื่อนรัก  ขอบใจที่ยังมีเธอเป็นเพื่อน  เรากำลังจะไปเชียงใหม่  ไปเชียงใหม่อีกครั้งหนึ่ง”  ไม่ใช่ครั้งแรกที่ปลายเดินทางไกล  เป็นครั้งที่สองแล้วและลำพังกับกระเป๋าแสนรักใบนี้
         “หลับเถอะเพื่อนรัก  เจ้าคงเหนื่อยเพราะเสื้อผ้าและข้าวของอีกหลายอย่าง  หลับสักราตรีหนึ่งเพื่อพรุ่งนี้เราจะถึงเชียงใหม่  เราจะไปหาเขาอีกครั้ง  หลับเสียเถอะเพื่อนรัก”  ปลายวางมันอย่างทนุถนอมบนชั้นวาง
         รถแล่นลิ่วออกจากเมืองหลวงมุ่งสู่ทางเหนือ  กว่าจะถึงพรุ่งนี้หัวใจของปลายก็ถึงจุดหมายแล้ว  เขาคงไม่รู้ว่าปลายกำลังจะไปหาเขา  ครึ่งปีแล้วสิที่ปลายไม่ได้พบเจอเขาอีก  ปลายนับเวลา  วัน  เดือนที่ผ่านมาอย่างเปรมปรีดิ์  ปลื้มกับจดหมายฉบับแล้วฉบับเล่า  เขาเขียนถึงปลายบ่อย  และปลายก็ตอบเขาทันทีทุกครั้ง  จนสามเดือนที่ผ่านมา  ข่าวคราวก็เงียบหายไปและก็เป็นช่วงที่ปลายเรียนหนัก  ทั้งยังต้องฝึกงาน  งานแย่งเวลาของปลายไปหมด  แต่ปลายก็ยังเขียนไปถึงเขา  ปลายรอจดหมายจากเขา  วันแล้ววันเล่า  ทุกอย่างเงียบ  เงียบจนปลายใจหาย  แต่เขาบอกปลายในจดหมายฉบับสุดท้ายว่าเขาไม่ว่าง  งานมากต้องทำการค้า  ปลายรู้และเห็นใจ  ปลายเคยไปอยู่กับเขาเกือบอาทิตย์  ปลายดูเขาทำงาน  งานที่เขารักหนักหนา  ออกแบบสกรีนเสื้อผ้า  เขาขยันขันแข็งจนปลายนึกอาย  และเขานั่นแหละที่ทำให้ปลายได้คิด  ปลายขยันขึ้น  ตั้งใจเรียนและทำงานจนปลายนึกขอบคุณเขาในใจ  ที่ทำให้ปลายเป็นคนที่มีคุณค่าในครอบครัว
         พอปลายสอบเสร็จก็รีบเก็บเสื้อผ้าลงกระเป๋า  ปลายไม่ได้เขียนไปบอกเขาล่วงหน้า  อยากให้เขาตื่นเต้นและแปลกใจเมื่อพบปลาย  ก็เขาย้ำมาในจดหมายบ่อยๆ  ว่ายินดีต้อนรับปลายเสมอ
         พรุ่งนี้…ปลายจะได้พบเขาแล้ว  เขาจะเป็นอย่างไรบ้างนะ  ผอมไปบ้างหรือเปล่า  เขาจะเปลี่ยนไปบ้างไหมหนอ…ปลายอยากรู้
         ฝนสาดกระทบกระจกใสเสียงดังเปาะแปะ  หลายคนดึงผ้าม่านบังกระจกไว้  ปลายนั่งเฉยเพราะชอบมองดูสายฝนโปรยปรายมองอย่างไม่รู้เบื่อรู้หน่าย  ปลายมองที่สายฝนที่อยู่ข้างนอก  มองแล้วชวนให้คิดถึงวันเก่าๆ  ที่ผ่านมา
         วันนั้นฝนตกทั้งวัน  ไม่มีทีท่าว่าจะหยุดลงฝ่ายเขาก็สกรีนเสื้อเสร็จแล้วตั้งแต่เที่ยง  จนบ่ายฝนก็ยังตก…ตก…ตกราวฟ้ารั่วเขากับปลายหิวแล้ว  จึงตัดสินใจออกไปหาอะไรกินกัน  ปลายซ้อนท้ายรถมอเตอร์ไซค์ของเขาพร้อมกับกางร่มฝ่าสายฝนที่ตกพรำๆ  ปะทะกับสายลมแรงไม่อ่อนหวาน  ปลายรู้สึกหนาว  แต่ก็หนาวเพียงกายใจนั้นอบอุ่น  อุ่นอย่างประหลาดอย่างที่ปลายบอกไม่ถูก
         “ปลายหนาวมั๊ย”  เขาหันมาถามด้วยรอยยิ้มที่จุดให้โลกของปลายสว่างไสวและน่าอยู่
         “ไม่ครับ”  ปลายตอบตามความรู้สึก
         “แย่จัง  เนื้อตัวเปียกหมด” เขาหันมามองปลายแวบเดียว  แล้วเขาหันกลับไปมองหนทางข้างหน้าบังคับรถเลี้ยวไปตามโค้งของถนน
         “พี่ก็เปียก  ผมก็เปียก”
         “คบกับคนไม่มีรถยนต์ก็ลำบากอย่างนี้แหละ”
         “ไม่จริง”  ปลายแย้งทันที  “ไม่เห็นลำบากตรงไหน  สนุกดีเสียอีก”
         ปลายผล็อยหลับไปอย่างเป็นสุข  มารู้สึกตัวอีกครั้งเมื่อพนักงานต้อนรับประกาศแวะรับประทานอาหารราวๆ  เที่ยงคืน  ป่านนี้เขาคงเก็บร้านแล้ว  เขาขายเสื้อที่สกรีนเองในตอนกลางคืน  ปลายเคยไปนั่งที่ร้านเขาอยู่สองสามวัน  เขากลับบ้านแล้วคงเหงาเพราะอยู่คนเดียว
         “ผมเหงานะปลาย  และเป็นคนขี้เหงาด้วย”  เขาบอกปลายในค่ำคืนหนึ่ง  ปลายซบอยู่กับอ้อมกอดอันอบอุ่นของเขา  “รู้ไหมว่าเดี๋ยวนี้ผมตามหาความเหงาไม่พบแล้ว”  เขากระชับวงแขนแน่นยิ่งขึ้น
         “บ้านหลังนี้เงียบเหงามานานมันเริ่มมีชีวิตชีวาเมื่อปลายมาเยือน” เขาเปรย มือข้างหนึ่งวางไต่ไปตามใบหน้าของปลายอย่างนุ่มนวล
         “ให้ปลายเรียกมันว่าบ้านวังเวงได้ไหมครับ”
          “เอาสิ”  เขาตอบเสียงเบาแต่หนักแน่น
         ปลายมองเขา…เขามองปลายและขยับตัวพลางจุมพิตตรงหน้าผากปลายอย่างทนุถนอน เหมือนปลายเป็นสิ่งของที่แตกร้าวได้ง่าย
         ป่านนี้เขาคงฟังเพลงบรรเลงที่เขาชื่นชอบหรืออาจจะหลับไปแล้ว  บ้านวังเวงคงไม่เงียบเหงาอีกต่อไปเพราะเขาเคยบอกปลายมาในจดหมาย  ปลายคิดถึงบ้านหลังนั้น…บ้านวังเวง…ปลายเรียกมันเช่นนั้น
         ปลายมองอาหารรอบดึกที่อยู่บนโต๊ะ  ข้าวต้ม  ไข่เจียวและหมูแผ่น  ไม่มีอาหารที่เป็นผักเลย  ปลายนึกอยากกินผักขึ้นมา  ปกติปลายไม่ชอบผัก  แต่เดี๋ยวนี้หันมากินบ้างแล้วเพราะเขาอีกนั่นแหละที่เตือน
         “ปลายไม่กินผักรึ”  เขาถามงงๆ
         ปลายพยักหน้าเป็นเชิงตอบ  “ผิดกับพี่  พี่ชอบกินผักมาก  ปลายต้องหัดกินไว้บ้างรู้หรือเปล่า  ยิ่งตัวเล็กๆ  อย่างนี้  มองดูไม่แข็งแรง”  น้ำเสียงของเขาบอกความห่วงใย
         “ปลายพบพี่ครั้งนี้จะแข่งกินผักกับพี่”  ปลายนึกในใจพลางยิ้มให้กับข้าวต้มที่วางอยู่ข้างหน้า
         รถแล่นลิ่วอีกครั้ง  ปลายมองผู้ร่วมเดินทางข้างๆ  หลายคนนอนหลับไปแล้ว  ปลายคลี่ผ้าห่มคลุมตัวเพราะรู้สึกเย็นขึ้นทุกที  ปลายรู้ตัวว่านอนดิ้น  ผ้าห่มหลุดบ่อยๆ  ไม่มีใครช่วยคลุมให้เพราะปลายโตแล้ว  โตเกินกว่าแม่และใครๆ  จะสนใจ  แต่เขา…เขาเอาใจใส่และห่วงใยปลายแม้เพียงจะเป็นเวลาสั้นๆ  แต่ทุกวินาทีที่ผ่านไปนั้นมีความหมาย
         ปลายจำได้ในเช้าวันหนึ่งที่เขาห่มผ้าให้ปลายเพราะผ้าห่มคงหลุดกองอยู่ ข้างๆ  ปลายรู้สึกตัวจึงรีบตื่น  ปลายยอมรับว่ายังติดนิสัยนอนตื่นสาย  ผิดกับเขาที่ตื่นแต่เช้าทุกวัน  ตื่นขึ้นมาต่อสู้กับชีวิตทำงานจึงไม่แปลกใจที่มีสาวๆ  มารุมรักเขา  แม้กระทั่งผู้ใหญ่ยังอยากยกลูกสาวให้แต่เขาก็บอกปฏิเสธเรื่อยมา
         “พี่ควรแต่งงาน”  ปลายสนับสนุนให้เขามีครอบครับ
         “ไม่  พี่คิดว่าไม่”  เขามองปลายด้วยท่าทีจะชั่งใจ
         “ผมรู้ว่าพี่เหงา  พี่ควรจะมีใครอยู่เป็นเพื่อนช่วยทำงานบ้านพี่จะได้สบายขึ้นบ้าง”  ปลายตอบจากใจจริง  ดีใจที่เขาจะมีครอบครัวที่อบอุ่น  เขาจะต้องจากปลายไปปลายก็ยินดีและเต็มใจเพียงได้รู้ว่าเขามีความสุขเท่านั้น
         ปลายล้วงผ้าเช็ดหน้าสีขาวออกมาจากกระเป๋าเสื้อ  มันเคยขาวอย่างไร  เดี๋ยวนี้ก็ยังขาวอย่างนั้น  เพราะปลายไม่เคยนำออกมาใช้  แต่ก็ไม่เห็นเพราะความมืดแผ่คลุมไปทั่ว  ผ้าผืนนี้…เขาให้ปลาย
         “ให้ปลายทำไม  ปลายไม่ชอบผ้าเช็ดหน้า  เพราะไม่อยากซับน้ำตา”  ปลายตอบในใจแต่ก็รับไว้
         “ชอบหรือเปล่า”
         “ชอบ”  ปลายมองเม็ดเหงื่อที่เกาะตามหน้าผากและข้างแก้มของเขา  หลังจากทำงานเสร็จปลายอยากจะเช็ดให้แต่ไม่กล้า  รู้ตัวว่าเอาใจคนไม่เก่ง  มือไม้จึงวางอยู่กับที่ทั้งๆ  ที่ใจสั่งให้มันขยับไปเช็ด  แต่มันก็ทำดื้อกับใจตัวเอง
         “ชอบใส่เสื้อแบบไหน  พี่จะตัดให้”
         “ชอบเสื้อหลวมๆ  ตัวใหญ่ๆ  ผมซื้อกับพี่ก็ได้  ของซื้อของขาย”
         “แต่พี่จะตัดให้”
         “ผมจะซื้อ”  ปลายดื้อ  “ซื้อให้คนอื่นน่ะ  ก็ควรจะเก็บเงิน”
         “ใครล่ะคนอื่น”  เขาย้อนถาม
         ปลายยิ้ม…ไม่ตอบ  อยากยั่วเขาก่อน
         “คนอื่นคือใครที่ปลายจะซื้อเสื้อให้”  เขารุกถาม
         “คนสนิท”
         “อย่างนั้นพี่ไม่ขาย”  แล้วเขาก็ลุกขึ้นมาเขย่าหัวปลายไปมา  ป่านนี้เสื้อตัวหลวมที่ปลายอยากได้คงจะตัดเสร็จรอปลายอยู่แล้วกระมัง
         ปลายรู้สึกตัวอีกครั้งเพราะพนักงานต้อนรับเดินแจกกาแฟ  มองผ่านหน้าต่างออกไปเห็นแสงเรืองรองตรงขอบฟ้า  ฟ้าอีกฟากยังเป็นสีเทาอยู่เลย  ภูเขาสูงยืนตระหง่านอย่างท้าทาย  หมอกขาวทอดตัวเป็นสายยาวโยนพาดโค้งเขาลูกนั้นสลับกับลูกโน้น  ธรรมชาติต้อนรับอย่างอบอุ่น  ปลายอยากสัมผัสกับหมอกเป็นสายๆ  เหล่านั้นและก็เคยไขว่คว้าจับต้องมันมาแล้ว
         …บนดอยสุเทพ  เขาพาปลายเที่ยวที่นั่นเมื่อไปถึงในวันแรก  ข้างบนอากาศหนาว  สำหรับปลาย  ปลายตื่นเต้นที่เห็นหมอกอยู่เบื้องหน้าเพียงแค่เอื้อม…ปลายก็คว้าถึงมันและ รู้สึกถึงความชื้นเย็นเป็นละอองน้ำตามฝ่ามือและแขน
         “ตอนเป็นนักศึกษาผมขึ้นดอยสุเทพทุกปีเพื่อต้อนรับน้องใหม่  นานแล้วสิที่ผมไม่ได้ขึ้นมานอกจากจะมีเพื่อนมาเที่ยว”  เขายิ้มอย่างเขินๆ  ในวันแรกที่รู้จักกัน  “ผมคุยไม่เก่งนะ”
         “ผมคุยเก่ง  แต่ไม่มีสาระ”  ปลายตอบฉะฉาน
         เขาพาปลายไปรับประทานอาหารเที่ยงตรงเชิงดอยแห่งหนึ่ง  ต้นไม้ขึ้นเขียวครึ้ม  ร่มรื่น  ข้างๆ  เป็นแอ่งน้ำขนาดใหญ่  ลมเคลื่อนไล่ตามๆ  กันมาไม่ขาดสาย  ใบไม้ไหวระริกพลิกไปตามสายลม  ราวกับมันโบกมือให้พร้อมๆ  กัน
         เขาสั่งอาหารด้วยภาษาเหนือ  น้ำเสียงเพราะรื่นหูที่ปลายชอบฟัง  กับเด็กข้างบ้านเขาก็ทักทายเป็นภาษาคำเมือง  ปลายต้องมายืนฟังทุกครั้งที่ได้ยิน
         “ภาษาเหนือไม่ยากหรอก  พูดช้าด้วย”
         “ผมอยากหัดพูด”  ปลายบอก
         “ผมจะสอนให้”  เขารับอาสา
         “จะคิดค่าสอนอย่างไร”  ปลายถาม…เขายิ้มก่อนจะตอบ
         “ผมเรียกค่าสอนสูงมากนะ”
         “เท่าไหร่”  ปลายยิ้มสู้
         “มันมีค่ามากกว่าเงิน  หัวใจไงล่ะ”  เขาจ้องมองปลายทั้งยังรอคำตอบ
         “หัวใจของปลายไม่เคยขายให้ใครถ้ามอบให้ก็คือให้”  ปลายตอบจริงจัง
         “ผมจะไม่พาใครมาที่นี่อีก  ปลายเป็นคนสุดท้าย”  ใบไม้…สายลมและสายน้ำต่างรับรู้วาจาของเขาแล้ว  จากวันนั้นจนถึงวันนี้…เขาเคยพาใครไปที่นั่นอีกหรือเปล่าหนอ
         …และในวันที่ปลายจะกลับกรุงเทพฯ  เขาเดินเข้ามากอดปลายแน่นและจูบไปตามใบหน้า  “ผมไม่อยากให้วันนี้มาถึง”
         “ปลายรักพี่ครับ”
         “พี่สัญญาว่าไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงความรักที่พี่มีต่อปลาย  พี่รักปลาย  ขอให้ปลายคิดถึงพี่บ้าง”
         บ้านวังเวง…ปลายมาถึงแล้วพร้อมกับทักทายกับมันอย่างคุ้นเคย  ปลายตรงไปที่หน้าประตูมองตุ๊กตาไม้ที่ใช้สำหรับเคาะเรียก  ปลายจับมันเขย่าไปมา  เสียงดังต๊อก  ต๊อก  ต๊อก
         สักครู่มีหญิงสาวเดินออกมาเปิดประตู  ปลายรู้สึกแปลกใจเหลียวมองดูรอบๆ  บ้านอีกครั้ง  มันก็ยังเป็นบ้านวังเวงหลังเดิมที่ปลายเคยมาเยือน  ปลายมั่นใจว่ามาไม่ผิดบ้านอย่างแน่นอน
         “มาหาใครเจ๊า”  เธอถามด้วยน้ำเสียงอ่อนหวานแบบทางเหนือ
         ปลายนิ่งไป  หัวสมองเริ่มทำงานหนักก่อนที่จะถาม  “ที่นี่บ้านใครครับ”  ปลายตอบไม่ตรงคำถาม
         “บ้านคุณ…”  เธอเอ่ยชื่อของเขาชัดถ้อยชัดคำ
         “คุณเป็นอะไรกับเจ้าของบ้านครับ”  ปลายเสียมารยาทถาม
         “เป็นภรรยาค่ะ”
         เขาแต่งงานแล้ว…ปลายบอกกับตัวเอง  ปลายคงฟังไม่ผิด  แต่ปลายไม่อยากเชื่อที่เธอพูด  จะเป็นไปได้ยังไงเพราะเขาปฏิเสธที่จะมีครอบครัวตลอดมา  ถึงจะเป็นเรื่องจริงหรือไม่  คำพูดของเธอก็ทำให้ปลายหวั่นไหว  มันมีอิทธิพลมากถึงเพียงนี้เชียวหรือ  ปลายพยายามระงับสติอารมณ์ที่อยู่ลึกๆ  ให้มันสงบนิ่งให้มันปั่นป่วนอยู่แต่ภายใน
         “คุณมาหาใครคะ”  เธอถามเป็นภาษากลางอีกครั้ง
         “ผมคงจะมาผิดบ้าน  ขอโทษครับ”
         ปลายขยับตัวหันหลังก็ได้ยินเสียงรถมอเตอร์ไซค์แล่นเข้ามาในบ้าน  เขาเอง…เขาผอมไปนิด  เขาเปลี่ยนไปบ้างเล็กน้อย  ปลายดีใจที่ได้พบเขาอีกครั้งเขายิ้มให้ปลายแต่ไม่ใช่รอยยิ้มเหมือนแต่ก่อน  ปลายไม่ได้ยิ้มตอบ  เขามองปลายแล้วเลยไปมองภรรยาเขา
         ปลายตัดสินใจเดินจากมาทำเหมือนไม่เคยรู้จักกับเขา  ปลายมองเขาแวบสุดท้าย  นัยน์ตาเขาราวจะขอโทษปลายแต่ความรู้สึกของปลายนั้นเย็นชา  ไม่ยอมรับรู้อะไรทั้งสิ้น
         ปลายก้าวจากเขามาแล้ว…จากกันเมื่อวันที่ท้องฟ้าเป็นสีครามสดสวย  มันต่างจากหัวใจของปลายในตอนนี้ที่หม่นหมองเศร้ายิ่งนัก  ปลายพยายามกลั้นเสียงสะอื้น  แต่ก็ไม่อาจหยุดน้ำใสๆ  ที่ไหลรินอาบแก้ม
         หยุดเถอะ…ปลายบอกตัวเอง  แต่มันก็ไหลรินเป็นทางยาว  อย่างไม่ยอมหยุดราวเขื่อนพังทลาย
         ปลายกระชับกระเป๋าแนบตัวแน่นยิ่งขึ้น  มันมองน้ำตาของปลาย  ปลายไม่อายมันหรอก  เพราะมันเป็นเพื่อนรักที่ซื่อสัตย์  แม้กระทั่งวันนี้ก็ยังมีมันเป็นเพื่อนในยามเหงาๆ  และผิดหวังเช่นนี้
         ปลายควรจะดีใจไม่ใช่หรือที่เขามีใครสักคนเป็นเพื่อนและอยู่อย่างมีความสุข เหมือนที่ปลายสนับสนุน  แต่หัวใจของปลายนั้นเจ็บปวดลึกๆ  เป็นที่สุด
         “ดอกรักบานดอกหนึ่ง  ในวันซึ้งซึ้ง…วันก่อนเก่า  คือความเหงา…และความเศร้าในวันนี้”

- ปลายฟ้า -

นายกองค์การนักศึกษา

รักหมดจัย

โพสต์
513
พลังน้ำใจ
10098
Zenny
66804
ออนไลน์
208 ชั่วโมง
 นักศึกษาภาคพิเศษ (M.D.A)
ปริญญากิตติมศักดิ์

สมาชิกจีโฟกาย 100%สมาชิกระดับเพชรคู่สมาชิกระดับแพลตตินั่มสมาชิกระดับทับทิมสมาชิกระดับไพลินสมาชิกระดับตรีเพชรสมาชิกระดับเพชรสมาชิกระดับมรกตสมาชิกระดับเพชรบริหารสมาชิกระดับมงกุฎ

ขอบคุนคราบ ดีมากมายคราบ
การที่เราจะรักใครใช้เวลาเพียงชั่ววัน แต่การที่จะลืมใครนั้นต้องใช้เวลาชั่วชีวิต ...

หัวหน้าห้อง

โพสต์
2019
พลังน้ำใจ
1584
Zenny
981
ออนไลน์
306 ชั่วโมง
ขอขอบคุณมากๆนะครับผม

หัวหน้าห้อง

โพสต์
2019
พลังน้ำใจ
1584
Zenny
981
ออนไลน์
306 ชั่วโมง
ขอขอบคุณมากๆนะครับผม 55

ลูกน้องหัวหน้าห้อง

โพสต์
1016
พลังน้ำใจ
781
Zenny
8481
ออนไลน์
138 ชั่วโมง
ขอบคุณครับบ

มาเฟียคุมคณะ

โพสต์
7080
พลังน้ำใจ
51451
Zenny
53200
ออนไลน์
11370 ชั่วโมง

เจ้าพ่อมหาลัย

โพสต์
28001
พลังน้ำใจ
154391
Zenny
158284
ออนไลน์
26638 ชั่วโมง

นายกองค์การนักศึกษา

โพสต์
3731
พลังน้ำใจ
31544
Zenny
7478
ออนไลน์
2476 ชั่วโมง
สนุกมากครับ

นายกองค์การนักศึกษา

โพสต์
3254
พลังน้ำใจ
16600
Zenny
2856
ออนไลน์
1093 ชั่วโมง
ขอบคุณครับ

มาเฟียคุมคณะ

โพสต์
15360
พลังน้ำใจ
75695
Zenny
57287
ออนไลน์
4355 ชั่วโมง
ขอบคุณครับผม

ประธานนักศึกษา

โพสต์
711
พลังน้ำใจ
4309
Zenny
6958
ออนไลน์
57 ชั่วโมง
ขอบคุณครับ
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ลงชื่อเข้าใช้ | สมัครเข้าเรียน

รายละเอียดเครดิต

A Touch of Friendship: สังคมจะน่าอยู่ เมื่อมีผู้ให้แบ่งปัน ฝากไวเป็นข้อคิดด้วยนะคะชาวจีโฟกายทุกท่าน
!!!!!โปรดหยุด!!!!! : พฤติกรรมการโพสมั่วๆ / โพสแต่อีโมโดยไม่มีข้อความประกอบการโพส / โพสลากอักษรยาว เช่น ครับบบบบบบบบ, ชอบบบบบบบบ, thxxxxxxxx, และอื่นๆที่ดูแล้วน่ารำคาญสายตา เพราะถ้าท่านไม่หยุดทีมงานจะหยุดท่านเอง
ขอความร่วมมือสมาชิกทุกท่านโปรดโพสตอบอย่างอื่นนอกเหนือจากคำว่า ขอบคุณ, thanks, thank you, หรืออื่นๆที่สื่อความหมายว่าขอบคุณเพียงอย่างเดียวด้วยนะคะ เพื่อสื่อถึงความจริงใจในการโพสตอบกระทู้ และไม่ดูเป็นโพสขยะ
กระทู้ไหนที่ไม่ใช่กระทู้ในลักษณะที่ต้องโพสตอบโดยใช้คำว่าขอบคุณ เช่นกระทู้โพล, กระทู้ถามความเห็น, หรืออื่นๆที่ทีมงานอ่านแล้วเข้าข่ายว่า โพสขอบคุณไร้สาระ ทีมงานขอดำเนินการตัดคะแนน และ/หรือให้ใบเตือนสมาชิกที่โพสขอบคุณทันทีที่เจอนะคะ

รูปแบบข้อความล้วน|โทรศัพท์มือถือ|ติดต่อลงโฆษณา|จีโฟกายดอทคอม


ข้อความที่ท่านได้อ่านในเว็บจีโฟกายดอทคอมนี้ เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชน และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ หากท่านพบเห็นข้อความใดๆ ที่ขัดต่อกฎหมาย และศิลธรรม ไม่เหมาะสมที่จะเผยแพร่ ท่านสามารถแจ้งลบข้อความได้ที่ Link “แจ้งลบโพสนี้” ที่มีอยู่ใต้ข้อความทุกข้อความ หรือ ลืมพาสเวิดล๊อกอิน/ลืมชื่อที่ใช้สมัคร หรือข้อสงสัยใดๆแจ้งมาที่ G4GuysTeam[at]yahoo.com ขอขอบพระคุณที่ให้ความร่วมมือ

กรณีที่ข้อความ/รูปภาพในกระทู้นี้จัดสร้างโดยผู้ลงข้อมูลเอง ลิขสิทธิ์จะเป็นของผู้ลงข้อมูลโดยตรง หากจะทำการคัดลอก/เผยแพร่ ต้องได้รับอนุญาตจากผู้ลงข้อมูลก่อนนะคะ หรือลงที่มาไว้ด้วยค่ะ

©ขอสงวนสิทธิ์คอนเซ็ปต์,คำอธิบาย,หัวข้อ/หมวดหมู่เว็บ ห้ามลอกเลียนแบบ คิดเอาเองนะคะอย่าเอาแต่ลอก

GMT+7, 2024-5-10 16:55 , Processed in 0.174238 second(s), 25 queries .

Powered by Discuz! X3.1 R20140301, Rev.31

© 2001-2013 Comsenz Inc.

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้