จีโฟกาย.คอม

 ลืมรหัสผ่าน
 สมัครเข้าเรียน
ค้นหา
 
ดู: 4165|ตอบกลับ: 54
สั่งพิมพ์ ก่อนหน้า ถัดไป
ซ่อนแถบด้านข้าง

กางเกงในสื่อรัก

  [คัดลอกลิงก์]

ประธานนักศึกษา

แฮปปี้กับความโสด

โพสต์
2329
พลังน้ำใจ
6471
Zenny
6446
ออนไลน์
1167 ชั่วโมง

สมาชิกจีโฟกาย 100%สมาชิกระดับแพลตตินั่มสมาชิกระดับทับทิม

“กรี๊ด พี่วิทย์ขา หันมาทางนี้หน่อยสิค้าาาาา!!!” อย่าเพิ่งตกใจไปคุณผู้อ่าน ไม่ใช่เสียงผมหรอกครับ...
โรงยิมตอนบ่ายนี่มันร้อนอบ อ้าวซาวน่าได้ที่จริงๆ ผมปาดเหงื่อที่ไหลเป็นน้ำตกบนหน้าพร้อมสะบัดทิ้งไป ใช้ความพยายามอย่างยิ่งยวดในการเขย่งปลายหัวแม่เท้าขึ้นราวกับนักบัลเล่ท์ ยืดคอให้ยาวเป็นกระเหรี่ยงเพื่อเป้าหมายเดียวที่หวังไว้...ร่างสูงใหญ่ที่ กำลังวาดลวดลายงามสง่าอยู่ในสนามบาสตอนนี้นั่นแหละครับ
ตั้งแต่เข้ามหา’ลัยมา นี่ก็ย่างปีที่สี่แล้ว เป็นเวลาพอๆกับที่ผมได้เจอวิทย์...



“ไก่ย่างตายแล้ว ไก่ย่างตายแล้ว มันจะถูกไม้เสียบ วู้~” เสียงเพลงสันทนาการสนุกสนานไม่ได้ปลุกใจที่นอนอุตุของผมให้รื่นเริงขึ้นเลย ไอ้พี่สาวมันด่าผมประจำแหละ ว่าผมมันพวกต่อต้านสังคม แต่ผมไม่ยอมรับหรอกนะ ผมก็แค่ไม่ชอบเสียงดังโหวกเหวกโวยวายเท่านั้นเอง แต่ในเมื่อคนส่วนใหญ่เขาเต้นกัน ผมก็คงต้องเต้นร่วมไปกับเขาด้วย ผมมองไอ้สูงที่อยู่ข้างๆเต้นอย่างเมามันราวกับชีวิตนี้ไม่มีโอกาสได้เต้นอีก แล้วพร้อมขยับแขนขาตาม…เหนื่อยครับเหนื่อย…สำหรับคนที่ไม่ค่อยจะได้ออกกำลัง กาย แค่ขยับแขนขาเท่านั้น หัวใจผมก็เหมือนจะล้มเหลวซะให้ได้ มันเต้นเร็วพอๆกับที่ผมหอบหายใจเร็วกว่าปกติเท่าตัว เมื่อคิดว่าไม่ไหวแล้ว แขนขามันก็หยุดทำงานซะดื้อๆ เวรกรรมจริงๆที่มันเป็น จังหวะเดียวกับที่วงสันทนาการกำลังเคลื่อนไปด้านข้างเพื่อเปลี่ยนที่ แขนไอ้คนข้างๆมันเลยโบ้ลงมาเต็มหัวน้อยๆของผมพอดี ส่งผลให้แว่นตาที่ใส่มาตั้งแต่ป.4 หลุดหล่นลงพื้น โลกพร่ามัวในพริบตา เพราะสายตาผมมันไม่ได้สั้นธรรมดา ถ้าถามว่าชีวิตนี้มีอะไรให้อวดกับชาวบ้านเขา ก็ไอ้สายตาสั้นพันกว่าๆให้คนร้องอู้หูเล่นนี่แหละครับ แต่เวลานี้มันไม่น่าภูมิใจเอาซะเลย เพราะโลกที่เคยใสปิ๊งมันกลายเป็นเหมือนมองผ่านกระจกฝ้ายังไงยังงั้น แล้วไอ้แว่นของผมนั่นมันก็กระเด็นไปไหนก็ไม่รู้ ไอ้พวกเต้นลืมตายนี่มันจะเหยียบพังไปรึเปล่า ด้วยความห่วงจัด ผมย่อตัวลงคุกเข่าในทันที ก่ายรอบตัวเพื่อความหาแว่นคู่ชีพ ส่งผลให้ไอ้สูงที่เต้นอยู่ข้างๆสะดุดหลังคุ้มๆจนล้มแอ้กลงมาทับ ทีนี้ก็มันส์ล่ะครับ ปรากฏการณ์ดอมิโนมันก็บังเกิดขึ้นตามติด ล้มเรียงรายตัวตามด้วยเสียงร้องเหวอเหวยน่าฟัง ผมก็ยังไม่สนใจ ควานหาแว่นอยู่อย่างนั้น ก็คิดดูสิครับ มองไม่เห็นอย่างนี้มันจะไปสนใจใครเขาได้ ก็มันมองไม่เห็นนี่หว่า

“น้องครับ คนเราอยู่ในสังคมหมู่มาก เราต้องรู้จักสนใจเหตุการณ์รอบตัว ต้องไม่เห็นแก่ตัว บลา บลา บลา”สุดท้ายผมก็ยังคงมองไม่เห็นอยู่อย่างนั้น ร้ายกว่านั้นยังต้องมาฟังรุ่นพี่ที่ออกลายว้ากตั้งแต่ยังไม่ทันเปิดห้อง เชียร์ยืนอบรมน้ำลายแตกฟอง ก็แว่นมันหล่นนี่หว่า...ผมได้แต่เถียงในใจเพราะไม่กล้าหือ

น้ำในตามันเริ่มคลอหน่อย พร้อมกับความรู้สึกร้อนผ่าวแถวกระบอกตา ผมก้มหน้ากลั้นเต็มที่ โทษตัวเองอยู่ในใจว่าถึงเป็นอุบัติเหตุยังไง การที่เพื่อนๆล้มระนาวแถมถูกอบรมอยู่ตอนนี้มันก็เพราะผมคนเดียว ไหลกลับเข้าไปสิวะ ไอ้น้ำตาบ้า!!! กำลังสะกดคำว่าลูกผู้ชายไม่หลั่งน้ำตาอยู่ดีๆ มืออบอุ่นจากที่ไหนก็ไม่รู้ก็ปาดน้ำที่คลอเบ้าทิ้งให้ ตามด้วยโลกสดใสที่ไม่ได้เห็นมาร่วมสิบนาที ผมเงยหน้าขึ้นมอง ก็ต้องเจอกับแสงสว่างบาดจ้าเป็นออร่าให้เทวดารูปหล่อตรงหน้า ด้วยสัดส่วนที่สูงจนผมต้องแหงนคอตั้งบ่า ไหล่กว้างสมชายชาตรี กล้ามเนื้อตึงแน่นที่เสื้อนักศึกษาไม่อาจบดบังได้ โอ พระเจ้า ผมตกหลุมรักครั้งแรกในวินาทีนั้นเอง:
...

“ไอ้เตี้ย เกะกะ หลบไปสิยะ!!” เสียงแหวแหวกโสดประสาททำลายการย้อนอดีตของผมในทันใด รู้ตัวอีกทีผมก็กำลังอยู่ในวงล้อมของเหล่าสาวๆทรงเล็กทรงใหญ่ ที่ยัยนั่นเรียกผมว่าไอ้เตี้ยก็คงไม่ผิด เพราะมองไปทางไหนก็เจอแต่คนตัวสูงกว่า...การถูกเพศที่อ่อนแอกว่าเรียกเราว่า ไอ้เตี้ยนี่มันน่าเศร้าจริงๆ...

“อี๋ เหงื่อเต็มไปหมด อย่าเข้ามาใกล้นะยะ น่าขยะแขยง” อากาศร้อนขนาดนี้ เหงื่อไม่ไหลก็หมาสิครับ(หมามันไม่มีต่อมเหงื่อไง)...ผมเถียงในใจ

“อย่าคิดว่าเป็นเพื่อนพี่ วิทย์แล้วจะเนียนมาหลอกแต๊ะอั๋งนะยะ เข้ามาทำไมเนี่ย!!!” สาวอีกนางที่ตอนนี้ผมอยากเรียกว่าชะนีมากกว่าแหวขึ้นมา ผมก็อยากตอกหน้าเจ้าหล่อนกลับเหลือเกินว่า ผมไม่ได้เข้ามาเพื่อหากำไรกับพวกหล่อนซะหน่อย ผมก็แค่อยากนั่งดูวิทย์เล่นบาสสบายๆเท่านั้น พวกหล่อนนั่นแหละ ดันมารุมกันอยู่ตรงที่นั่งผมพอดี เบียดซะจนผมร่นไปอยู่ด้านหลังจนต้องมาเสียแรงแหวกฝูงชะนีอยู่อย่างนี้!!!... แต่มันก็เป็นแค่คำเถียงในใจ

ผมยังคงแสดงความเป็นสุภาพ บุรุษ ก้มหน้านิ่งให้เจ้าหล่อนรุมขยะแขยงต่อไปอีกยกใหญ่ น้ำตาลูกผู้ชายเกือบจะไหลริน ก็รู้สึกถึงแขนแกร่งพาดโอบเข้ามาที่คอ เมื่อหันหน้าไปก็ต้องจ๊ะเอ๋กับอกแมนๆชื้นเหงื่ออยู่ในระยะประชิด ผมต้องใช้ความพยายามอย่างยิ่งยวดในการหักห้ามใจไม่ให้อ่อนระทวยซบลงไปตอนนี้

แต่มันก็ยากจะหักห้ามใจจริงๆ ไม่รู้เพราะว่าวงชะนีมันขาดแคลนออกซิเจนหรือว่าผมมันสำออย อยู่ดีๆก็หน้ามืดขึ้นมาอย่างห้ามไม่อยู่ สุดท้ายผมก็ซบลงไปบนอกนั่นอยู่ดี...ไหนๆก็ซบไปแล้ว แอบสูดกลิ่นเหงื่อให้เร้าใจนิดหน่อยคุณผู้อ่านคงไม่ว่ากันนะ...ผมซูดกลิ่น เต็มจมูก เสียงกรี๊ดจากฝูงชะนีตอนนี้ก็ปลุกผมจากสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ไม่ได้แล้ว  n

“มี เป็นอะไรรึเปล่า?” ผมได้ยินเสียงทุ้มนุ่มของวิทย์ถามอย่างร้อนรน แต่สมองมันมึนไปหมดเลยตอบกลับไม่ไหว สักพักก็รู้สึกถึงแขนล่ำๆพาดเข้าใต้หัวเข่าข้างหนึ่ง อีกข้างอ้อมเข้าด้านหลัง ยกผมลอยขึ้นจากพื้น กดใบหน้าให้ซบลงกับหน้าอกชื้นเหงื่อ ก่อนที่เสียงตวาดดังลั่นจะดังตามมา “ถอยไปนะ!!! คนเป็นลมไม่เห็นหรือไง รุมเข้ามาอยู่ได้!!!” ผมเบลอไปเองรึเปล่านะ...ก็ปกติวิทย์มักจะพูดกับผมอย่างนุ่มนวลทุกครั้งนี่นา สุภาพบุรุษอย่างวิทย์ ตวาดคนอื่นเป็นด้วยหรือ???

ผมคงจะเบลอไปเองมื่อออกจากโรงยิมมาได้ ลมเย็นๆก็พัดมาถึงตัวสักที ด้วยความสดชื่นผมจึงค่อยลืมตาขึ้น ภาพที่เห็นทำให้หัวใจเต้นผิดจังหวะจนแทบจะล้มลงไปละลายอยู่กับพื้น...อา... สายตาเจือความเป็นห่วงบนใบหน้าหล่อๆนี่มันทำให้ผมมีความสุขเหลือเกิน

“ไม่เป็นอะไรแล้วใช่มั้ย?” วิทย์ถามมา ผมก็ทำได้แค่พยักหน้าหงึกหงัก

อยากจะอยู่อย่างนี้ไปนานๆ แต่วิทย์คงจะรังเกียจเหงื่อเหนียวๆของผมเป็นแน่ เขาถึงวางตัวผมลงรวดเร็วราวกับโดนของร้อนอย่างนี้
  
“เดี๋ยวจะไปส่งนะ” เขาพูดทั้งๆที่ไม่มองหน้าผม...ก็หน้าผมมันสุดเชยไม่น่ามองนี่นา ผมคิดอย่างสมเพชตัวเองก่อนที่จะซอยเท้าสั้นๆวิ่งตามเขาไปที่รถยุโรปคันงาม

ใบหน้าที่สะท้อนในกระจกมอง ข้างรถยนต์นี่มันชวนให้คลื่นเหียนจริงๆด้วย ผิวก็ขาวซีดเหมือนคนขี้โรค ทรงผมเชยๆตอนนี้ยุ่งเป็นรังนกเต็มหัว แว่นตากรอบสีดำทรงสุดโบราณบังเกือบครึ่งหน้าขับให้ดูเหมือนโนบิตะรุ่นยังไม่ พัฒนา จมูกเรอะก็ออกจะแบนราบขนาดนี้...คงไม่ผิดที่ใครๆจะเรียกผมว่าไอ้เชย...เมื่อ มองลงดูเสื้อหลวมๆที่ซื้อเผื่อโตตั้งแต่ปีหนึ่ง ก็ยอมรับได้อีกอย่างว่า คนที่เรียกผมว่าไอ้เตี้ย ก็ไม่ผิดเหมือนกัน

วิทย์มีทุกอย่างที่ผมไม่มี ทั้งร่างกายสูงใหญ่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อสมส่วน ลูกกระเดือกยื่นๆนั่นก็ทำให้ยิ่งดูสมเป็นชายชาตรี เสียงทุ้มนุ่มน่าฟังจนใครได้ยินก็อ่อนระทวยกันหมด นิสัยก็สุภาพบุรุษจ๋า ทรีตไม้เว้นหน้าแม้แต่ผู้ชายอย่างผม ฐานะทางบ้านเรอะก็ร่ำรวยไม่ขาดแคลน

ผมได้แต่ถอนหายใจกับความต่างราวขาวกับดำนี้:

ผมคงได้แต่แอบรักอยู่ข้างๆ ไม่มีวันที่เขาจะหันมามองไอ้เตี้ยเชยอย่างผมแน่ๆเลย

“เดี๋ยวเราไปจ่ายเงินก่อนนะ” เสียงวิทย์ปลุกผมขึ้นจากโลกส่วนตัว เมื่อมองไปรอบๆก็พบว่ารถกำลังจอดอยู่ในปั๊มน้ำมัน วิทย์เปิดประตูเดินลงจากรถไป ผมก็มองตามร่างสูงๆที่เดินอ้อมหลังรถ มุ่งหน้าไปยังห้องกระจกเพื่อจัดการค่าน้ำมัน มองอยู่ดีๆก็รู้สึกเหมือนมีแสงอะไรแว้บเข้าตา เมื่อลดสายตาลงต่ำก็เจอกับเป้ที่ยัดเสื้อบาสชื้นเหงื่อวางแน่นิ่งอยู่ที่ เบาะหลัง

แล้วเมื่อกี้มันแสงอะไรกัน???

ผมตั้งใจมองพิจารณานิ่งๆอีก ครั้งหนึ่ง แสงมันมาจากข้างในเป้แน่ๆ หรือวิทย์จะลืมทิ้งมือถือไว้ข้างในนะ แต่ก็ไม่เห็นมีเสียงมีความรู้สึกสั่นๆนี่นา ผมเอื้อมมือถือวิสาสะเปิดกระเป๋าเป้ขึ้น ก็ต้องยิ่งแปลกใจกับภาพที่เห็นตรงหน้า

กางเกงในครับผู้อ่าน!!! กางเกงในสีขาวบริสุทธ์ที่ซุกอยู่ก้นเป้ตอนนี้มันกลับสาดแสงออร่าสีทองสวยงาม เปล่งประกายราวกับพระอาทิตย์ยามรุ่งอรุณ

ผมจะทำยังไงดีล่ะ???“เราไม่เข้าไปในบ้านนะ” วิทย์พูดขึ้นหลังจากที่รถจอดสนิทหน้าบ้าน ผมพยักหน้าหงึกๆก่อนจะค่อยเปิดประตูรถ ยังไม่ทันก้าวออกไปก็ต้องสะดุ้งกับมือใหญ่ๆที่คว้าต้นแขนผมหมับ ผมหันกลับไปมอง เหงื่อที่ขมับแตกซ่านด้วยความกลัวความผิด เมื่อฝ่ามือใหญ่ๆยื่นมาผมก็หลับตาปี๋ เตรียมรับแรงบีบที่คออย่างเต็มที่...แต่มันกลับไม่ใช่อย่างที่ผมคิด วิทย์ก็แค่ยื่นมือมาปาดเหงื่อให้ผม ผมคิดไปเองรึเปล่านะว่า ฝ่ามือใหญ่ของวิทย์มันไล้เชื่องช้าพิลึก ค่อยๆไล่จากขมับ หันมาขยี้ปลายจมูกบี้ๆของผมเล่นพักหนึ่ง ก่อนที่จะกลับไปให้ความสนใจกลับริมฝีปาก วิทย์ยกอีกมือขึ้นมาประคองหน้าผม ใบหน้าของเขายื่นเข้ามาใกล้จนรับรู้ถึงลมหายใจอุ่นๆเคลียอยู่ข้างแก้ม ผมหลับตาลงจินตนาการอะไรๆที่เคยหวังไว้ทั้งๆที่รู้ว่ามันคงเป็นไปไม่ได้ ผมคงคิดไปเองคนเดียว แล้วมันก็เป็นอย่างที่ผมคิดจริงๆ วิทย์เกร็งฝ่ามือชั่วขณะ ก่อนจะผลักไหล่ผมออกห่าง ไม่ยอมหันมามองหน้า ผมสะกดความผิดหวังของตัวเองไว้ในอกช้ำๆ ก่อนจะเปิดประตูรถเดินเข้าบ้านไป น้ำตามันจะไหลอีกแล้ว ผมล้วงกางเกงหวังจะหาผ้าเช็ด หน้าขึ้นมาซับน้ำตาที่วันหนึ่งมันจะไหลสักสิบยี่สิยรอบเพื่อแสดงความเป็นลูก ผู้ชาย พลันก็ต้องสะดุดกับม้วนผ้าที่มันหนาใหญ่เกินกว่าผ้าเช็ดหน้าของผม ทำให้รู้สึกตัวได้ว่าเมื่อกี้ผมทำอะไรลงไป

ผมวิ่งขึ้นบันไดด้วยความเร็วไม่น่าเชื่อ ไม่สนใจเสียงของแม่ที่ทักผมจากในครัวเลย

เมื่อเข้ามาในห้อง จัดการล็อคประตูปิดผ้าม่านหน้าต่างแน่นหนาแล้ว ผมก็กลับมาให้ความสนใจกับสิ่งที่ผมแอบหยิบติดมือมาจากรถของวิทย์

กางเกงในที่วิทย์ใส่เล่นบาสเมื่อกี้...วิทย์ใส่เมื่อกี้แน่นอน เพราะมันยังชื้นเหงื่ออยู่เลย

ผมคิดอะไรอยู่นะ ถึงได้หยิบมันมาโดยไม่ขออนุญาตอย่างนี้ วิทย์จะโกรธผมรึเปล่าถ้ารู้ว่าผมทำตัวเหมือนขโมยอย่างนี้

แต่...กางเกงในมันอยากให้ผมหยิบมานี่นา!!!

ผมยังจำแสงออร่าเรืองๆที่เห็นในรถได้ มันกระพริบเป็นรหัสมอสว่า “หยิบฉันไปๆ” นี่นา

แต่ตอนนี้มันไม่ยักมีแสงเหมือนตอนอยู่บนรถ ผมพิจารณาเจ้าผ้าซับในสีขาวพร้อมลงความเห็นว่า...มันก็แค่ผ้าธรรมดา

แต่ถึงมันจะเป็นผ้าธรรมดา มันก็เต็มไปด้วยพลังชีวิตของหนุ่มวัยฉกรรจ์นามวิทยา...คนที่ผมแอบรักมาได้สามปี สิบเดือน กับอีกสิบสามวัน

ผมยกมันขึ้นสูดดมกลิ่นที่แสน คิดถึงเข้าเต็มปอด ชักเข้าใจความรู้สึกของโยแล้ว ว่าทำไมถึงชอบขโมยกางเกงในพี่เนศมาดม ก็กลิ่นมันชวนจินตนาการถึงร่างกายเปลือยเปล่าชื้นเหงื่อซะขนาดนี้ โอย เลือดกำเดาผมจะไหลแล้วครับ ใครก็ได้ช่วยผมที

ผมหลับตา คิดถึงแผงอกที่เต็มไปด้วยมัดกล้าม ตอนนี้กำลังขยับขึ้นลงอยู่ต่อหน้า เมื่อมองไล่ไปด้านล่างก็ต้องพบกับ...อา...ผมเอื้อมอีกมือที่ว่างปลดเข็มขัด ถอดกางเกงให้ตัวเองเรียบร้อย เจ้ามีน้อยมันเริ่มแข็งสู้มือเพียงแค่นึกถึงวิทย์น้อยเท่านั้นเอง มันคงจะอยากรู้จักกัน อยากเป็นเพื่อนกันเหมือนอย่างที่ผมเป็นเพื่อนกับวิทย์ตอนนี้ ผมสนองความต้องการของลูกชายตัวน้อยโดยการใช้ผ้าซับในสีขาวบริสุทธิ์... กางเกงในของวิทย์เข้าพันรอบแก่นกายของตัวเอง ให้เจ้าลูกชายมันได้ทำความรู้จักกับเพื่อนใหม่ของมัน

สัมผัสชื้นๆกับเนื้อผ้านุ่มๆ บวกกับหน้าหล่อๆของคนที่อยู่ในใจผม ทำให้เจ้าลูกชายคึกคักอยากออกกำลัง ผมก็ไม่อาจขัดใจมันได้ อำนวยความสะดวกโดยการเสือกแก่นกายเข้าไปยังกางเกงในของวิทย์

...อา…

...อา…

...อา…

ผมหลับตาลง ครางอย่างรัญจวนใจ โดยไม่ทันได้สังเกตรอบกาย ในหูมันเกิดเสียงวิ้งๆๆจนเวียนไปหมด ผมหอบหายใจเอาอากาศเข้าไปเต็มที่ ถ้าใครอ่านละเอียดพอคงจะรู้ว่าผมไม่ชอบออกกำลังกาย ถูกต้องครับ ผมไม่ชอบออกกำลังกาย ดังนั้นตอนนี้ผมเลยเหนื่อยจนแทบขาดใจ หูผมหลอนตัวเองแล้ว เพราะตอนนี้มันเหมือนมีเสียงเล็กๆทักทายผมไม่ยอมหยุด

“เจ้านาย หยุดถูได้แล้ว ข้าออกมาแล้ว หยุดถูได้แล้ว” ถูอะไร ผมไม่เข้าใจ ผมยังคงกระชับอุ้งมือเข้ากับร่างกายของตัวเองแน่น ขยับเอวถี่ๆรู้สึกว่าความร้อนมันมารวมตัวอยู่ที่ท้องน้อย

“หยุดได้แล้ว ตัวข้าเปื้อนไปหมดแล้ว” ใครเปื้อนอะไร? ผมยังคงไม่สนใจเจ้าเสียงไม่รู้ที่มา ขยับเอวเข้าหาฝ่ามือเต็มที่ ก่อนที่จะรู้สึกถึงแสงสว่างจ้าหลังเปลือกตา ความร้อนจากท้องน้อยก็ฉีดพ่นถ่ายโอนเข้ามายังอุ้งมือแทน

ผมนั่งอ้าปากกว้างหอบเอาอากาศเข้าปอดยกใหญ่ จนเมื่อรู้สึกว่าเริ่มหายเหนื่อยแล้วจึงค่อยลืมตาขึ้น

“เหวอ!!!” เสียงผมเอง ไม่ใช่เสียงใครอื่น เมื่อลืมตาขึ้นมาดันเจอคนตัวเล็กแก้มป่องพุงกะปุ๊กลุ๊กยืนหน้าเบ้อยู่ต่อ หน้าต่อตา เขาตัวเล็กจริงๆนะครับ ถ้าให้ประมาณ ความสูงก็ประมาณฟุตกว่าๆเท่านั้นเอง แต่ถึงจะตัวเล็กอย่างนี้ ผมก็มองเห็นถึงความงามสง่าในตัวเขาได้ชัดเจน ผมสีดำสนิทยาวเคลียแก้ม ใบหูแหลมมีต่างหูระโยงระยาง ดวงตาสีทองสุกมองมาทางผมอย่างไม่ค่อยจะพอใจนัก จมูกเล็กๆเชิดขึ้น ปากแดงๆบุ้ยเบ้จนแก้มป่องพองลม เมื่อไล่ลงไปตามตัวก็ต้องแปลกใจกับเสื้อผ้าย้อนสมัยที่ตอนนี้เปื้อนน้ำขาว ขุ่นเต็มไปหมด

น้ำอะไร??

“ก็น้ำของเจ้านั่นแหละ บอกแล้วว่าให้หยุดได้แล้ว ก็ไม่ฟังกันบ้าง ถูอยู่ได้!!!”

ถูอะไร??

“ผ้าในมือนั่นไง ถูจนเปียกไปหมด ให้ตายสิ ไม่รู้จักลืมตาซะบ้าง ว่าข้าออกมาตั้งนานแล้ว ทำไมเจ้านายคนใหม่มันถึงได้โก๊ะอย่างนี้ว้า!!!” เจ้าตัวเล็กยังคงบ่นต่อไป ขาสั้นๆเดินกลับไปกลับมาให้ผมตาเหลือกมองตามอย่างอึ้งๆ

จนดวงตาสีทองหันกลับมาสบกับผม เจ้าตัวน้อยคงจะเพิ่งเข้าใจว่า ผมไม่เข้าใจอะไรเลย

“แนะนำตัวก่อนก็แล้วกัน” เจ้าตัวน้อยขยับปีกสีดำเล็กจิ๋วที่แปะอยู่ด้านหลัง ผมก็รู้สึกถึงลมเย็นๆพัดในห้องปิดสนิท พร้อมกับที่ตัวกะปุ๊กลุกลอยขึ้นจากพื้น

“ข้าชื่อจีน เป็นยักษ์ในกางเกงใน”

“หา???” ผมอ้าปากหวอจนจีนใช้มือเล็กๆตบแก้มดังแปะๆ ผมถึงค่อยหุบปากได้

“ไม่ต้องหา ข้าอยู่ข้างหน้าเจ้านี่ จะหาทำไม??” จีนบินวนรอบหัว ตอนนี้ผมก็รู้สึกหัวหมุนไปหมดแล้ว

“เมื่อกี้เรียกผมว่าเจ้านาย?” ผมถามออกไป

“ก็ใช่ เจ้าเป็นคนถูกางเกงใน เจ้าก็ต้องเป็นเจ้านายของข้าสิ”

ตั้งแต่เล็กแต่น้อย ผมเคยทั้งฟังทั้งอ่านหนังสือทั้งดูหนัง ผมไม่ปฏิเสธนะครับว่าเคยได้ยินเรื่อง จินนี่ ยักษ์ในตะเกียง...แต่ผมไม่ยักเคยได้ยินเรื่องจีน ยักษ์ในกางเกงในแฮะ

“ไม่เคยได้ยินก็ได้ยินซะ!” น่าน...อ่านความคิดผมได้อีก

“เอาล่ะ เพื่อไม่ให้เสียเวลานอน” จีนคงจะเหนื่อยเพราะปีกเล็กๆมันยกพุงอ้วนๆต่อไปไม่ไหวแล้ว จึงคิดได้ว่าควรเลิกบิน ลงมายืนจังก้าอยู่ที่พื้นด้านหน้าผมแทน “ขอพรมาหนึ่งข้อ”

“ข้อเดียวเองเหรอ” ผมถาม

“ก็ข้อเดียวน่ะซี่! โลภมากจริง เจ้านี่!!” ผมชักสงสัย ใครเป็นเจ้านายใครเป็นลูกน้อง มันด่าไม่เว้นแต่ละคำเลยครับ

“แต่ยักษ์ในตะเกียงให้พรได้สามข้อไม่ใช่เหรอ”

“นั่นก็เพราะว่า” จีนจิ๊ปาก ยกนิ้วชี้สั้นจุ๊ดขึ้นส่ายไปมาอย่างที่คิดว่าเท่ห์หนักหนา  “ข้าเป็นยักษ์ในกางเกงในน่ะสิ!!!”…ผมจะถือว่าผมเข้าใจละกันนะ...

“เอาล่ะ ทีนี้ก็บอกความปรารถนาของเจ้ามาซะ”

ผมนั่งคิดอยู่นาน...ที่จริงก็ไม่นานนักหรอกนะ เพราะความปรารถนาในใจผมมันมีอยู่ไม่กี่เรื่อง แล้วเรื่องที่สำคัญที่สุดก็คือ...

“ทำให้วิทย์รักผมได้มั้ย”

“ไม่เคยอ่านยักษ์ในตะเกียงเหรอฟะ ทำให้คนรักกันไม่ได้เฟ้ย ไอ้โง่” …อ้าว...ก็ไหนบอกว่าเป็นยักษ์ในกางเกงใน…

“งั้นก็ไม่รู้จะขออะไรแล้ว” ผมพูดอย่างหมดหวัง

“เฮ้ย อย่าเพิ่งเลิกขอเซ่ รีบๆขอมาซะ ข้าจะได้กลับไปนอนต่อ”

“ก็ไม่รู้จะขออะไรนี่นา”

“โง่จริง!! อยากให้เขารัก ก็ต้องปรับปรุงตัวเองก่อนเซ่!!!” …มันคิดพรให้เองอย่างนี้ แล้วมันจะมาเสียเวลาถามทำไมฟะ???...

“เออ อยากทำอะไรก็ทำเหอะ” ผมตอบอย่างเซ็งเป็ด พลิกตัวลงนอนหันหลังให้

“งั้นจัดการเลยนะ!” มีแสงวาบขึ้นแวบหนึ่ง ก่อนจะรู้สึกถึงอะไรซักอย่างกระแทกเข้าที่หน้าจนแว่นหลุดกระเด็น

“เฮ้ย!!!” แว่นนี้ผมหวงเท่าชีวิตเลยนะ ถ้าไม่มีมัน ผมจะมองหน้าวิทย์ชัดๆได้ยังไง อยู่ดีๆมาเตะแว่นผมทำไมวะ เดี๊ยะดีดพุงแตก!!

...อ้าว...

...อ้าวๆๆๆ...,
  
ถ้าไม่โดนจีนตบหัวผมคงจะอ้าวอีกหลายอ้าว เพราะตอนนี้ ผมมองแว่นตาตัวเองที่หล่นอยู่ที่พื้นชัดแจ๋วแหววไปถึงอะตอมผมมองกวาดไปรอบๆห้อง ตอนนี้ไม่ได้ใส่แว่น แต่ภาพรูปถ่ายวิทย์ที่หัวเตียงกลับชัดเจนซะจนน่าแปลกใจ ผมชักเข้าใจอารมณ์ของปีเตอร์หลังถูกแมงมุมกัดซะแล้วสิ ถ้าขอพรได้อีกข้อนะ ผมจะขอให้มีใยออกมาจากนิ้ว จะกระโดดข้ามตึกไปหาวิทย์ตอนนี้เลย!!

“กลับมาก่อน เจ้านาย” จีนตบหัวผมอีกครั้งให้กลับมามองความจริง

“เอาล่ะ ทีนี้ก็ยืนขึ้น” ผมยืนขึ้นตามคำสั่งของ ‘เจ้านาย’

เห? มุมมองมันสูงขึ้นยังไงก็ไม่รู้แฮะ... เมื่อส่องกระจกข้างเตียงดู ก็ต้องตกใจว่า เจ้าหนุ่มหน้าสวยตัวสูงชะลูดนี่มันมาอยู่ในห้องของผมได้ยังไง??? ผมยกมือขึ้นจับแก้มใสปิ๊งลื่นมือของตัวเอง เจ้าหนุ่มในกระจกก็ทำตาม เอ๊ะ นี่มันยังไงกัน???

“ก็นายนั่นแหละ โง่ไปได้!!” หา??? นี่ผมเหรอ

“ทีนี้ก็เอาร่างสวยๆนี่ไปบอกรักเขาซะสิ” จีนเสนอมาพร้อมหาวหวอดๆ

“แต่ว่า...” ผมยังไม่มีความมั่นใจพอ “ยังไงผมก็ยังเป็นผู้ชายอยู่”

“เป็นเพื่อนกันมายังไงตั้ง เกือบสี่ปี ไม่รู้ว่าเพื่อนตัวเองชอบผู้ชายน่ะ” จีนนอนตะแคง มือหนึ่งเท้าแก้มยุ้ยๆ มือหนึ่งเอานิ้วก้อยปั่นหูเล่น พูดอย่างเหยียดๆ

“แล้วนายรู้ได้ยังไง?” ผมชักไม่พอใจ เจ้านี่มันไม่เคยเจอวิทย์สักหน่อย รู้ได้ยังไงว่าวิทย์ชอบผู้ชาย

“ไอ้โง่... ” จีนเอานิ้วก้อยที่ปั่นหูเมื่อกี้มายกไว้หน้าตัวเอง หรี่ตาก่อนเป่าปลายนิ้วปุ้ดหนึ่ง...เท่ห์ตายโหง “ก็ข้าเป็นยักษ์ในกางเกงในของวิทย์น่ะสิ”

...เออ แฮะ...

“เอาล่ะ สมปรารถนาแล้ว ได้เวลานอนซักที ฮ้าว~” จีนหาวจนน้ำตาเล็ด ตัวค่อยๆจางลง

“เออ ลืมบอกไป จะให้รูปร่างคงอยู่อย่างนี้ได้ ต้องได้น้ำทิพย์สองวันครั้งนะ ไม่งั้นจะกลายสภาพเดิม”

“น้ำทิพย์??” ผมทวนคำอย่างสงสัย

“ไอ้โง่” จนจะหายไปแล้ว จีนก็ยังด่าผมไม่หยุด “ก็น้ำแบบที่นายรดฉันเมื่อกี้นั่นแหละ”

ผมหน้าร้อนผ่าวเมื่อคิดถึง ‘น้ำ’ ที่ผมรดจีนเมื่อกี้ “หมายความว่า...”

“เออ! นายต้องอะจึ๋ยๆกับผู้ชายอย่างน้อยสองวันครั้ง”

เฮ้ยยยยย!!!!!!ผมมีอะไรแปลกไปรึเปล่า ทุกคนถึงได้มองผมไม่วางตาอย่างนี้ หรือว่าการที่ผมไม่ได้ใส่แว่นเหมือนทุกๆวันมันจะทำให้ความอุบาทว์มันเฉิดฉาย ออกมาจนต้องมองกัน

“ปี๊ด!!!” เสียงนกหวีดเป่าดังลั่นจนผมต้องหันไปมอง พี่ยามบนสถานีรถไฟฟ้ามองมาทางผมพลางทำสัญญาณมือให้ถอยห่างจากเส้นเหลือง... ลืมไปเลยว่า ช่วงขาที่ยาวขึ้นมันทำให้ก้าวยาวขึ้นกว่าเดิม

พอมาถึงมหา’ลัย สิ่งแรกที่ผมจะทำก็คือ หาตัววิทย์ให้เจอ

นั่นไง เขาอยู่ตรงนั้น!!!

วิทย์ยังคงนั่งอยู่ที่โต๊ะ คณะใต้ตึกเรียน ห้อมล้อมไปด้วยสาวๆทรงเล็กทรงใหญ่มากหน้าหลายตา กลิ่นน้ำหอมฟุ้งไกลไปร้อยเมตรอย่างนี้ทนได้ยังไงนะ:

“วิทย์” ผมทักไป วิทย์เงยหน้าขึ้นมามองงงๆ

“มี ทำไมไม่ใส่แว่น?” ผมไม่เข้าใจเลย แทนที่วิทย์จะชมผมซักหน่อย ทำไมถึงพูดเจืออารมณ์บูดๆอย่างนี้นะ? หรือว่าผมจะกลับเป็นนายเตี้ยเชยคนเดิมแล้ว ไม่ใส่แว่นแล้วมันระคายตาขนาดนี้เลยเหรอ?

“ก็เรามองเห็นแล้วไง” ผมตอบกลับไปพร้อมกับใจที่เริ่มห่อเหี่ยว วิทย์มองไปรอบๆผมก็มองตามวิทย์ ใต้คณะเงียบเสียงไปตั้งแต่เมื่อไหร่นะ คนมากมายกำลังมองมาทางผมเป็นจุดเดียว ผมน่าเกลียดมากเหรอ??-

วิทย์ลุกขึ้นยืน จับมือผมลากออกจากวงล้อมของหมู่มหาชน เร็วจนผมไม่ทันตั้งตัวเกือบจะสะดุดล้ม ผู้ชายที่อยู่ข้างๆกำลังจะยื่นมือมาจับกันผมวัดพื้น วิทย์ก็หันกลับมาตวาดเสียงดังลั่น “ไม่ต้องมาจับ!!!”

ผมทำอะไรผิดกัน วิทย์โกรธอะไรผมนะ ผมไม่เข้าใจเลยสักนิด ผมลอบมองกระจกส่องข้างระหว่างที่นั่งมาในรถของวิทย์ หนุ่มน้อยตาโตก็มองผมกลับมาอย่างเศร้าสร้อย

เมื่อวิทย์พาผมมาถึงคอนโด ส่วนตัว ผลักผมเข้าไปในห้องได้ เขาก็ถามผมเสียงดัง “ถอดแว่นทำไม ก็เคยบอกแล้วนี่นาว่าห้ามถอด ใส่ไว้แต่แรกก็ดีอยู่แล้ว!!!”

ผมไม่เข้าใจจริงๆว่าวิทย์โกรธอะไร “แต่...เราคิดว่าถอดแล้วนายจะชอบ”

วิทย์นิ่งชะงักไป จนผมมานั่งคิดคำพูดที่ตัวเองพูดไปได้ หน้าก็ร้อนผะผ่าว...ผมบอกรักวิทย์ไปแล้วหรือยังนะ!!!"

ไม่เสียแรงที่คบกันมาสามปี สิบเดือนกับอีกสิบสี่วัน วิทย์เข้าใจผมด้วยคำพูดสั้นๆไม่กี่พยางค์ เขากอดผมไว้แน่น กระซิบเข้าที่ข้างหู “เราก็ชอบมี แต่เราไม่อยากให้มีถอดแว่น”

“ทำไมล่ะ เราถอดแล้วน่าเกลียดมากขนาดนั้นเลยเหรอ??” ผมถามพร้อมกับก้อนสะอื้นมันเริ่มมาจุกอยู่ที่คอ

วิทย์จูบซับน้ำตาที่คลอหน่วย ให้ ก่อนจะไล่ริมฝีปากมาที่ปากของผม ลิ้นของวิทย์รุกรานเข้ามาเกี่ยวพันกับลิ้นของผมจนแข้งขาอ่อนไปหมด ถ้าไม่ได้แขนแกร่งๆคอยพยุงอยู่ตอนนี้ ผมต้องล้มลงไปกองกับพื้นแน่ๆเลย “เปล่า มีสวยเกินไปต่างหาก เรารู้มาตั้งนานแล้วว่าถอดแว่นแล้วจะเป็นยังไง เราเลยไม่อยากให้มีถอดแว่น”

นี่แสดงว่า...วิทย์แอบชอบผมมาเหมือนที่ผมแอบชอบวิทย์เหรอเนี่ย!!!

ผมอ้าปากค้างด้วยความตกตะลึง วิทย์มองหน้าผมด้วยตาหวานเชื่อมก่อนจะก้มลงกัดซอกคอผมเบาๆอย่างมันเขี้ยว

“แล้วมีที่เดินไหล่ตรงขนาด นี้ มันก็ดูสง่าน่ามองซะจนไม่อยากให้ใครมองมาเลย” นี่แสดงว่าผมไม่ได้ตัวสูงขึ้นเหรอเนี่ย สรุปแล้วจีนก็แค่ช่วยให้ผมหายตาสั้นแค่นั้นเองน่ะนะ? ไอ้เจ้ายักษ์ขี้ตู่!!!

“เรากลัวจริงๆนะ ว่าถ้ามีเปลี่ยนไปอย่างนี้แล้ว คนอื่นนอกจากเราจะเห็นสิ่งที่เราเก็บไว้มองคนเดียวมาตั้งนาน” มือใหญ่ๆของวิทย์ปลดกระดุมผมออก ก่อนจะไล้เข้ามาที่แผ่นอกเปลือยเปล่าให้ขนอ่อนที่ท้ายทอยลุกชัน

ผมซุกหน้าลงกับซอกคอวิทย์อย่างเขินอาย ผมกำลังจะสารภาพสิ่งที่เก็บไว้ถึงสามปีสิบเดือนกับอีกสิบสี่วัน!

“แต่เราก็มองแต่วิทย์ ชอบแต่วิทย์คนเดียวมาตั้งนานแล้...อา...” ยังพูดไม่ทันจบก็ต้องตัวสั่นกับความร้อนที่หน้าอกตัวเอง เมื่อมองลงไปก็รู้สึกหน้าร้อนแทบไหม้กับภาพหน้าหล่อๆของวิทย์ที่กำลังไล้ เลียยอดอกของผมอยู่ มันรู้สึกดีเกินบรรยาย ผมขอตัวไม่บรรยายล่ะนะ เพราะตอนนี้ผมอยากครางมากกว่า

“อาาาาาาา~”

มือของวิทย์ยังคงซุกซน วุ่นอยู่กับการถอดกางเกงนักศึกษาหลวมโพรกของผม จนเมื่อร่างกายของผมไร้สิ่งปกปิด วิทย์ก็ถอยหลังไปดูผลงานของตัวเองอย่างภูมิใจ

“อย่ามอง...” ผมก้มหน้าอย่างเขินอาย วิทย์ก็เข้ามาจูบหน้าผากผม

“ไม่มองได้ยังไง สวยขนาดนี้”

ผมอุทานออกมาคำหนึ่งเมื่อ อยู่ๆตัวก็ถูกยกลอย วิทย์อุ้มผมพาดบ่า เดินจากหน้าประตูห้อง เปิดห้องนอน โยนผมลงบนเตียงเด้งดึ๋งก่อนจะตามมาทาบทับอย่างไม่ให้เสียเวลาสักวินาที นิ้วมือของเขาป้ายอะไรก็ไม่รู้เย็นเฉียบก่อนจะสอดใส่เข้ามาที่ช่องทางด้าน หลัง

ผมรู้สึกทั้งอึดอัดทั้ง จั๊กจี้จนต้องหลับตาปี๋ สะบัดหัวไปมาบนหมอนนุ่ม วิทย์ก็ตามมาขบใบหูผมก่อนจะเลียให้ยิ่งตัวสั่นมากกว่าเดิม เสียงนุ่มกระซิบที่ข้างหูน่าฟังเหลือเกิน “อย่างเกร็งนะคนดี”

แล้วผมก็รู้สึกถึงความร้อน จัดสอดแทรกเข้ามาจนอึดอัดไปหมด มันแน่นแบบที่ไม่เคยเจอมาก่อน ในขณะเดียวกันมันก็รู้สึกดีจนยากจะบรรยาย ผมครางออกมายาวๆจนต้องปิดปากตัวเองแน่นด้วยความเขินอาย วิทย์ก็ยิ้มกรุ้มกริ่มจับสองมือผมประสานไว้ข้างหัวไม่ให้ปิดปากได้ จากนั้นจึงเริ่มขยับตัว ผมกัดริมฝีปากแน่นขณะที่ความเสียวซ่านเบื้องล่างกำลังรบเร้าให้ต้องร้องออก มา จนสุดท้ายผมก็แพ้แรงกระตุ้นของวิทย์ หลุดเสียงน่าอายออกมาจนได้

“อ๊ะ..อ๊ะ..อ๊า!!” ผมร้องตามจังหวะขยับโยก สติที่รางเลือนได้ยินเสียงวิทย์ครางประสานอยู่ข้างๆหู วิทย์ขยับตัวเร็วขึ้นเรื่อยๆ ผมก็หายใจเร็วขึ้นเรื่อยๆตาม จนสุดท้ายวิทย์ครางเสียงดังยาว เสือกตัวเข้าหาผมจนสุดความยาว คาไว้นิ่ง ก่อนที่ของเหลวร้อนจัดจะฉีดพ่นเข้ามาในร่างกายของผม

วิทย์ทำผมอีกครั้ง อีกครั้ง เหมือนเทปที่เล่นย้อนไปมา จนเราทั้งคู่หมดแรง เสียงสุดท้ายก่อนที่ผมจะหลับไปคือประโยคที่อยู่ในใจผมมาสามปีสิบเดือนกับอีก สิบสี่วัน

“เรารักนาย”“นี่ๆ ตื่นเซ่ ไอ้โง่” เสียงเล็กๆดังข้างหูพร้อมกับอะไรเล็กๆเขี่ยอยู่ข้างแก้มของผม ผมค่อยๆลืมตาขึ้นมอง

“จีน นอนไปแล้วไม่ใช่เหรอ?” ผมถามอย่างงงๆ ก็เห็นหาวหวอดๆนอนหลับไปอย่างนั้น ทำไมแค่วันเดียวก็ตื่นซะแล้ว? จีนเอาเท้าเล็กๆขยี้แก้มผม

“ก็นายดันถูกางเกงใน ข้าก็ตื่นน่ะเซ่” ผมมองบนเตียง มีกางเกงในของวิทย์อยู่แถวๆขาผมจริงๆด้วย แต่มันคนละตัวกับเมื่อวานนี่นา

“ข้าเป็นยักษ์ในกางเกงในของวิทย์ นี่ก็กางเกงในของวิทย์ไม่ใช่เหรอ ไอ้โง่”

…ผมจะพยายามฉลาดทำตัวให้เข้าใจง่ายๆละกัน...

“ว่าแต่ เรียกข้าออกมาอย่างนี้ ก็ขอพรได้อีกหนึ่งข้อล่ะนะ” จีนพูดพลางเดินเตาะแตะ"

พอดีเลย ผมอยากจะขออะไรจีนอยู่พอดี:

“ทำให้ผมกลับเป็นเหมือนเดิมได้รึเปล่า?”

จีนถอนหายใจ “ไม่ได้หรอก”

“ทำไมล่ะ?” ถ้าผมเป็นอย่างนี้ต่อไป วิทย์คงจะไม่ชอบใจแน่ๆเลย

“ก็มันเป็นพรก่อนหน้า ยกเลิกไม่ได้ มีทางเดียวที่จะยกเลิกได้...”

“อะไรล่ะ?” ผมถามอย่างมีความหวัง

“ไอ้โง่ เคยบอกไว้ก่อนหน้านี้แล้วไง ถ้าไม่ได้น้ำทิพย์สองวันครั้ง จะกลับเป็นเหมือนเดิมเอง” นั่นสินะ ผมลืมไปเลยถ้าอย่างนี้ก็ไม่ยาก ผมก็แค่ไม่เจอหน้าวิทย์แค่สองวัน ผมคิดเพลินๆก็ต้องร้องเหวอเมื่อมีแขนแกร่งคว้าเอวผมให้นอนปุลงบนเตียงนุ่ม เหมือนเดิม

“ทำอย่างนั้นไม่ได้หรอก” วิทย์พูดกับจีน...ทำไมไม่ได้เล่า???...

“ไม่ได้กอดมีตั้งสองวัน ทนได้ยังไง” วิทย์เฉลยพร้อมกับหอมแก้มผมฟอดใหญ่จนผมหน้าแดงแป๊ด

“งั้นก็ไม่มีอะไรจะขอสินะ” จีนพูดพร้อมกับที่ตัวค่อยๆจางลง

“จะหนีไปไหน” เอ ผมเบลอจนหลอนรึเปล่า ทำไมมีอีกเสียงดังขึ้นในห้องด้วยล่ะ! เมื่อหันไปมองก็พบกับเทวดาปีกขาวผมทองตัวกะปุ๊กลุกน่ากอด กำลังบินพุ่งเข้าใส่จีน
  
“แหงะ!!! เรย์!!!” จีนหายตัววับไปทันที ไม่ค่อยๆจางอย่างเล่นท่าเหมือนเมื่อวานแล้ว ท่าทางเทวดาน้อยนี่จะทำให้จีนกลัวได้จริงๆแฮะ ไอ้ซ่าที่ด่าผมไอ้โง่ๆถึงได้หนีหางจุกตูดอย่างนี้.

“เชอะ!! หนีไปจนได้” เรย์แก้มป่อง ก่อนจะหันมายิ้มให้ผม แล้วหันไปพูดกับวิทย์ “สมปรารถนาแล้ว ข้าไปนอนก่อนล่ะนะ”
  
“อืม ขอบใจ” วิทย์ตอบทั้งๆที่ยังไม่ยอมปล่อยผมออกจากอ้อมกอด

จนทุกอย่างสงบลง ผมจึงค่อยหันกลับไปมองหน้าหล่อๆของวิทย์ ถามขึ้นอย่างงงๆ “นั่นใครน่ะ?”

“ยักษ์ใน...เอ่อ...ง่า...” ผมเริ่มเดาได้ลางๆ

“ยักษ์ในกางเกงใน?” อารมณ์เขินอายตอนนี้อันตรธานหายไปแล้ว ผมตั้งหน้าตั้งตาส่งสายตาบาดจิตคาดคั้นวิทย์คนปากหนักแทน วิทย์เหงื่อตกก้มหน้าสักพักจึงค่อยๆยอมพยักหน้าเบาๆ

“กางเกงในใคร?” ผมถามอย่างคุกคามมากขึ้น

“ง่า...” วิทย์กลายเป็นไอ้ง่าไปแล้ว

“เราถามว่ากางเกงในใคร”

“ของ...”

“หา?”
  
“ของ...”

“ไม่ได้ยิน”

วิทย์หลับตาปี๋ ตะโกนสารภาพเสียงดัง  “ของมีน่ะเซ่!! เราผิดเองที่แอบขโมยกางเกงในนาย แต่เราอดใจไม่ไหวนี่นา เรา... ”

“งั้นก็แล้วไป” ผมพูดตัดประโยค วิทย์เงยหน้าขึ้นมองงงๆ ผมเลยต่อให้อีก “อย่าให้รู้ว่าไปขโมยกางเกงในคนอื่นนอกจากของเราละกัน”

วิทย์หูตั้งหางกระดิก ยิ้มกว้างก่อนจะกระโจนใส่ผมทั้งตัว โอยหนัก...


“แล้วนายขอว่าอะไร” หลังจากเสร็จสมอารมณ์หมายกันอีกหลายๆรอบ เราก็ให้เวลากับการนอนคุยกันแทน

“ก็ขอให้นายรักเราไง” วิทย์ตอบพร้อมส่งสายตาหวานฉ่ำมาให้ผมหลบตาเล่น

“แต่ว่า...จีนบอกว่าทำให้คนรักกันไม่ได้” ผมแย้ง รู้สึกดีใจนิดหน่อยแฮะที่เราสองคนขอพรเหมือนกันเด๊ะ
  
“ไอ้โง่!” เสียงเล็กๆของจีนดังออกมาจากกางเกงในแทรกบทหวานๆของเรา “ก็เพราะเรย์เป็นยักษ์ในกางเกงในของนายไงเล่า!!!”

…ผมจะพยายามเข้าใจเหตุผลที่ไม่น่าเข้าใจนี่ก็แล้วกัน...

END


ดูบันทึกคะแนน
   love→_→←_← พลังน้ำใจ +30 Zenny +500 น่ารักจังเลย
   pipi1 พลังน้ำใจ +14 Zenny +166 กระทู้นี้ยอดเยี่ยม!
   H@D€§→€ พลังน้ำใจ +30 Zenny
   @^tikan__♥ พลังน้ำใจ +30 Zenny

ประธานนักศึกษา

โพสต์
3946
พลังน้ำใจ
6438
Zenny
39989
ออนไลน์
476 ชั่วโมง

ลูกน้องหัวหน้าห้อง

โพสต์
305
พลังน้ำใจ
914
Zenny
1212
ออนไลน์
253 ชั่วโมง
ขอบคุณครับ

ประธานนักศึกษา

โพสต์
1212
พลังน้ำใจ
3217
Zenny
644
ออนไลน์
456 ชั่วโมง
ขอบคุณคร้าบบบ  ๆ

ลูกน้องหัวหน้าห้อง

โพสต์
812
พลังน้ำใจ
786
Zenny
4462
ออนไลน์
128 ชั่วโมง
ขอบคุณมากๆครับ

มาเฟียคุมคณะ

โพสต์
17717
พลังน้ำใจ
55241
Zenny
54236
ออนไลน์
2087 ชั่วโมง
สนุกดี

นายกองค์การนักศึกษา

โพสต์
7337
พลังน้ำใจ
39106
Zenny
2582
ออนไลน์
7616 ชั่วโมง

ประธานนักศึกษา

โพสต์
978
พลังน้ำใจ
5147
Zenny
57
ออนไลน์
739 ชั่วโมง

นายกองค์การนักศึกษา

โพสต์
3928
พลังน้ำใจ
38440
Zenny
773
ออนไลน์
22104 ชั่วโมง
ขอบคุณมากๆครับ

ประธานนักศึกษา

โพสต์
1331
พลังน้ำใจ
9839
Zenny
4017
ออนไลน์
754 ชั่วโมง
ขอบคุนครับ

ลูกน้องหัวหน้าห้อง

โพสต์
263
พลังน้ำใจ
818
Zenny
723
ออนไลน์
53 ชั่วโมง
สนุกดีครับ

นายกองค์การนักศึกษา

มีแฟนแล้ว

โพสต์
1543
พลังน้ำใจ
14899
Zenny
19243
ออนไลน์
1802 ชั่วโมง
ชอบอ่ะ อ่านแล้วจิ้นดีครับ

มาเฟียคุมคณะ

โพสต์
16723
พลังน้ำใจ
79776
Zenny
197240
ออนไลน์
9900 ชั่วโมง

มาเฟียคุมคณะ

โพสต์
13246
พลังน้ำใจ
69979
Zenny
2725
ออนไลน์
4903 ชั่วโมง
ขอบคุณครับ

ประธานนักศึกษา

โพสต์
3884
พลังน้ำใจ
7836
Zenny
2320
ออนไลน์
2222 ชั่วโมง
ขอบคุณครับ

หัวหน้าห้อง

โพสต์
700
พลังน้ำใจ
2074
Zenny
2031
ออนไลน์
223 ชั่วโมง
สนุกมากครับ

นายกองค์การนักศึกษา

โพสต์
2552
พลังน้ำใจ
12122
Zenny
7877
ออนไลน์
586 ชั่วโมง
ขอบคุณครับ

นายกองค์การนักศึกษา

โพสต์
3349
พลังน้ำใจ
29607
Zenny
15823
ออนไลน์
3436 ชั่วโมง
ขอบคุณมากๆครับ

นายกองค์การนักศึกษา

โพสต์
3981
พลังน้ำใจ
35223
Zenny
18649
ออนไลน์
3848 ชั่วโมง
เยี่ยมมากกกกกกกกกกกกกกกกกก
ขอบคุณก๊าบบบบบบบบบบบบบบบ

นายกองค์การนักศึกษา

โพสต์
3503
พลังน้ำใจ
16568
Zenny
3241
ออนไลน์
1019 ชั่วโมง
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ลงชื่อเข้าใช้ | สมัครเข้าเรียน

รายละเอียดเครดิต

A Touch of Friendship: สังคมจะน่าอยู่ เมื่อมีผู้ให้แบ่งปัน ฝากไวเป็นข้อคิดด้วยนะคะชาวจีโฟกายทุกท่าน
!!!!!โปรดหยุด!!!!! : พฤติกรรมการโพสมั่วๆ / โพสแต่อีโมโดยไม่มีข้อความประกอบการโพส / โพสลากอักษรยาว เช่น ครับบบบบบบบบ, ชอบบบบบบบบ, thxxxxxxxx, และอื่นๆที่ดูแล้วน่ารำคาญสายตา เพราะถ้าท่านไม่หยุดทีมงานจะหยุดท่านเอง
ขอความร่วมมือสมาชิกทุกท่านโปรดโพสตอบอย่างอื่นนอกเหนือจากคำว่า ขอบคุณ, thanks, thank you, หรืออื่นๆที่สื่อความหมายว่าขอบคุณเพียงอย่างเดียวด้วยนะคะ เพื่อสื่อถึงความจริงใจในการโพสตอบกระทู้ และไม่ดูเป็นโพสขยะ
กระทู้ไหนที่ไม่ใช่กระทู้ในลักษณะที่ต้องโพสตอบโดยใช้คำว่าขอบคุณ เช่นกระทู้โพล, กระทู้ถามความเห็น, หรืออื่นๆที่ทีมงานอ่านแล้วเข้าข่ายว่า โพสขอบคุณไร้สาระ ทีมงานขอดำเนินการตัดคะแนน และ/หรือให้ใบเตือนสมาชิกที่โพสขอบคุณทันทีที่เจอนะคะ

รูปแบบข้อความล้วน|โทรศัพท์มือถือ|ติดต่อลงโฆษณา|จีโฟกายดอทคอม


ข้อความที่ท่านได้อ่านในเว็บจีโฟกายดอทคอมนี้ เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชน และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ หากท่านพบเห็นข้อความใดๆ ที่ขัดต่อกฎหมาย และศิลธรรม ไม่เหมาะสมที่จะเผยแพร่ ท่านสามารถแจ้งลบข้อความได้ที่ Link “แจ้งลบโพสนี้” ที่มีอยู่ใต้ข้อความทุกข้อความ หรือ ลืมพาสเวิดล๊อกอิน/ลืมชื่อที่ใช้สมัคร หรือข้อสงสัยใดๆแจ้งมาที่ G4GuysTeam[at]yahoo.com ขอขอบพระคุณที่ให้ความร่วมมือ

กรณีที่ข้อความ/รูปภาพในกระทู้นี้จัดสร้างโดยผู้ลงข้อมูลเอง ลิขสิทธิ์จะเป็นของผู้ลงข้อมูลโดยตรง หากจะทำการคัดลอก/เผยแพร่ ต้องได้รับอนุญาตจากผู้ลงข้อมูลก่อนนะคะ หรือลงที่มาไว้ด้วยค่ะ

©ขอสงวนสิทธิ์คอนเซ็ปต์,คำอธิบาย,หัวข้อ/หมวดหมู่เว็บ ห้ามลอกเลียนแบบ คิดเอาเองนะคะอย่าเอาแต่ลอก

GMT+7, 2024-4-26 07:45 , Processed in 0.135673 second(s), 26 queries .

Powered by Discuz! X3.1 R20140301, Rev.31

© 2001-2013 Comsenz Inc.

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้