จีโฟกาย.คอม

 ลืมรหัสผ่าน
 สมัครเข้าเรียน
ค้นหา
 
ดู: 11556|ตอบกลับ: 53
สั่งพิมพ์ ก่อนหน้า ถัดไป
ซ่อนแถบด้านข้าง

หลงรักเด็กเทคโน

  [คัดลอกลิงก์]

นักศึกษา

โพสต์
88
พลังน้ำใจ
245
Zenny
1914
ออนไลน์
0 ชั่วโมง
ก่อนอื่นต้องบอกก่อนเลยว่าเรื่องที่ผมนำมานี้ไม่ไช่เรื่องของผมเองเเต่เป็นเรื่องของผู้ชายคนหนึ่งที่ชื่อ "เกมส์" ผมได้อ่านบทความทีเเรกก็รู้สึกว่าสนุกมาก เลยอยากนำมาเสนอต่อ หากท่านใดเคยอ่านก็ต้องขออภัยด้วยนะครับ ทนอ่านซักนิดเเล้วท่านจะรู้ว่ามันสนุก !!!


เรื่อง หลงรักเด็กเทคโน
เรื่องที่ผมจะเล่าต่อไปเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริงนะคับ เป็นเรื่องที่เกิดกับผม ผมเพิ่งเริ่มหัดเขียนนะคับ เรื่องนี้เป็นเรื่องแรก ถ้าผมเขียนเรื่องไม่สนุกก็ขอโทดด้วยนะคับ
เรื่องมีอยู่ว่า
ผมเป็นเด็กต่างจังหวัดคับ จบ ม.6 ก็สอบเข้าได้มหาลัยรัฐบาลแห่งหนึ่งทางภาคใต้ แต่ผมจองหอในไม่ทัน เลยต้องออกมาหาหอนอกคับ จนได้ห้องเช่าคับ เป็นห้องแถว ราคาก็ถือว่าเป็นที่น่าพอใจ เพราะไม่ไกลจากมหาลัยมากนัก แถมสงบมากคับ ผมชอบแบบเงียบสงบมากกว่า ในวันที่ผมขนของเข้ามาวันแรก ผมสังเกตุเห็นพี่คนหนึ่งที่อยู่ห้องติดกับผม บอกตามตรงเลยนะคับ ว่าพอผมเห็นพี่คนนั้น ผมมีความรู้สึกดีๆกับพี่เค้าเลยคับ ก็เป็นแบบผู้ชายในสเป็กผมเลยคับ แมนๆ ผิวเข้มหน้าเกลี้ยงเกลา หัวเกรียนๆ คิ้วดกหนา และที่สำคัญขนตางอนด้วย อิอิ แต่ไม่อยากไปยุ่งมาก เดี๋ยวพี่แกจะสงสัยเอา เพราะดูผมภายนอกเหมือนผู้ชายทั่วไป ไม่แสดงออกเลย ผมแน่ใจครับว่าไม่มีใครสงสัยผมแน่นอน เพราะที่บ้านก็ไม่รู้ว่าผมเป็น เพื่อนสมัยมัธยมก็ไม่มีใครรู้ และที่สำคัญที่ไม่อยากยุ่งกับพี่แกก็เพราะ กลัวว่าพี่แกจะตื้บผมเอาดิครับ เรื่องดีๆไม่ได้เกิดในเร็ววันหรอกคับ จนผมเรียนได้ประมาณสามอาทิตย์ได้ ผมก็เจอแกหน้าห้องตอนเย็นๆเกือบทุกวัน แต่ก็ได้แต่ยิ้มอย่างเดียวครับ ไม่กล้าคุย ไม่กล้าถามชื่อ ไม่รู้ทำไมว่าผมเขินอายพี่แก
คืนหนึ่งผมนอนหลับอยู่ในห้อง ก็ได้ยินเสียงเอะอะข้างห้องผม ฟังๆดูมาจากจากห้องพี่เค้านี่นา ผมเลยถือวิสาสะแอบดูทางช่องเล็กทางผนัง(เนื่องจากดูเหมือนว่าเมื่อก่อนผนังห้องผมกับห้องพี่เค้าก่อขึ้นด้วยอิฐลายดอก และเพิ่งโบกปูนปิดทีหลัง ทำให้ยังมีรูที่ปิดยังไม่หมด) แต่ไม่ได้ทำให้ความหล่อของพี่แกลดลงไปมากมายเลย และเมื่อผมเห็นแบบนั้นผมก็กลับมานอนต่อ ไม่อยากสนใจไรมากมาย สักพักก็มีเสียงเคาะประตู ทีแรกผมคิดว่าตัวผมฝันไป แต่ตกลงที่ไหนได้มีคนมาเคาะจริงๆด้วย ผมเลยลุกขึ้นไปเปิดประตูแบบงัวเงีย
“เอ่อ…น้องมีชุดทำแผลป่าว” พี่แกถามผม
“เอ่อออออออออออออ… มีคับ”ผมตอบแบบตะกุกตะกัก เพราะกำลังงงและตื่นเต้นกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้าอยู่อ่าคับ
“รอแปบเดียวนะคับ เดี๋ยวผมไปเอามาให้”ผมพูด พร้อมกับวิ่งเข้าห้องไปเอาชุดทำแผลมาให้พี่แก
“เดี๋ยวพรุ่งนี้พี่เอากลับมาให้นะ”พี่แกพูด ผมก็เอาแต่อึ้งอยู่เลยได้แต่ยิ้มๆ พี่แกยิ้มตอบ น่ารักฉิบหายเลยคับ ผมเนี้ยกลับมานอนแทบไม่หลับเลยคืนนั้น ตอนเช้าผมก็อาบน้ำเพื่อจะไปเรียน พอดีมีเรียนแปดโมง วิชาชีวะ1 เปิดประตูออกมา โอ้แม่เจ้าโว้ย นี่เค้ามีการประมูลรถมอเตอร์ไซต์กันหรอเนี้ย มีรถเต็มไปหมดหน้าห้องพี่เค้า พอดีเมื่อคืนไม่ได้มองรถเลย มัวแต่มองพี่เค้าอยู่ วันนั้นผมก็อยู่มหาลัยทั้งวัน พอดีตอนบ่ายมีเรียนแลบด้วยเลยไม่ได้กลับห้องเพราะปกติผมจะกลับมาห้องเพื่ออาบน้ำตอนเที่ยงหรือไม่ก็กลับมานอน(เรื่องนอน สำหรับผมเป็นเรื่องใหญ่มากๆ)กลับมาถึงห้องตอนเย็นรถเหล่านั้นก็อันตรธานไปหมดแล้ว กลับเข้าห้อง ถอดเสื้อเลย วันนั้นร้อนมากมาย เหม็นก็เหม็นตัวเอง อาบเส็ดก็ออกมาเปิดเอ็มเล่นๆ เปิดไปงั้นแระไม่ได้คุยกับใครหรอก(พอดีไม่มีใครมาทักอ่า เลยไม่ไปทักใคร) สักพักก็มีเสียงมาเคาะประตู ผมเลยลุกขึ้นไปเปิดประตู พี่เค้านั่นเอง ในมือถือชุดทำแผลอยุ่ พี่แกยิ้ม ผมก็ยิ้มดิครับ จะให้ทำไรอ่า(เขิลคับๆ)
“เอาครับ พี่เอามาคืน ขอบใจนะ”พี่แกพูด ผมก็ได้แต่พยักหน้าอีกแล้ว ทำไมคุณไม่พูดว่ะไอ้เกม ความกล้าคุณหายไปไหนหมด ผมก็รับกล่องมา
“เอ่อ… น้องชื่อไรครับ พี่ชื่อต้อมนะ”พี่แกพูด ออ…ชื่อต้อมนะชื่อต้อม
“ผม… เกมครับ”ผมพูดแบบตะกุกตะกัก คนมันตื่นเต้นอ่า ผมก็เอาหน้าชะโงกไปทางห้องพี่ต้อมแบบสอดรู้สอดเห็น
“ออ… พอดีเมื่อคืนเพื่อนพี่มีเรื่อง เลยตีกันนิดหน่อย”พี่ต้อมพูด ผมมองแผลบนหน้าผากแก อยากจะเอามือไปลูบจริงๆ (เป็นห่วงอ่า แกมๆอยากแต๊ะอั๋งด้วย อิอิ)
“แล้วพี่เป้นไงบ้างครับ”ผมถาม
“ออ ไม่เป็นไรหรอก เป็นนิดหน่อย แต่แค่นี้ถือว่าเบาแล้ว”พี่แกพูดผมก็ได้แต่พยักหน้า
“แล้วบ้านเกมอยู่ไหนหรอ”พี่ต้อมถามผม
“สุราษฎร์คับ อยู่แถวๆ …….อ่าพี่ๆ ละ”ผมถามมั่ง
“พี่เป็นเด็กพัทลุง แถวๆ……..”พี่ต้อมตอบ
“เกม… ตอนเย็นไปหาไรกินกันมั้ย”พี่ต้อมพูด ผมมองหน้าพี่ต้อมแบบงงๆอ่า
“คือ…พี่อยากจะเลี้ยงขอบคุณสำหรับของพวกนี้”พี่ต้อมพูดต่อ
“เอ่ออออพี่ของแค่นี้เนี้ยนะ ถึงกับต้องเลี้ยงผมเลยหรอ”ผมยังถามต่อ ทำเป็นเล่นตัวอีก
“อืม…มันจะเป็นไรไปละ ถ้าไม่ไปเพื่อตอบแทนก็ได้ แต่ไปแบบพี่ๆน้องๆกันก็ได้นี่ เดี๋ยวพี่เลี้ยงเอง”พี่ต้อมคะยั้นคะยอให้ผมไป ผมหรือจะปฏิเสธ ของฟรีคับๆ
“ก็ได้คับ ว่าแต่กี่โมงคับ”ผมถามพี่ต้อม
“เย็นๆแล้วกัน เดี๋ยวพี่มาเรียกก็แล้วกัน”พี่ต้อมพูด
“คับผม”ผมตอบไปยิ้มไป บ้าป่าวว่ะ แต่ดีที่แกไม่คิดไรมากมาย
“งั้นพี่กลับห้องก่อนนะ”พี่ต้อมพูด ผมก็ได้แต่พยักหน้า ผมก็เดินกลับเข้าห้อง เดินเข้าไปเล่นเอ็มต่อเรื่อยๆ ไม่มีใครมาทักเลยว้อยเซ็งว่ะ งั้นทักมันแล้วกัน
“เฮ้ย! นักเลง ทำไรว่ะ”ผมทักไอ้แจ้
“ป่าวว่ะ เรื่อยๆหนิ แล้วคุณละทำไรว่ะ” มันถามกลับ
“ป่าวๆ”ผมตอบแค่นั้น ไม่รู้จะพูดไรจริงๆนี่คับ
“งั้นกูไปอาบน้ำก่อนนะ” แล้วมันก็ออฟไลน์ไป ที่เหลืออยู่ก็มีแต่สาวๆ ผมเลยไม่ทักไป โอ้ย! ตื่นเต้นว่ะ นี่ผมจะได้ไปดินเนอร์กับพี่ต้อมสองต่อสองหรือเนี้ย ไม่อยากคิดอ่า ตื่นเต้นๆ อิอิ ผมเลยเปิดเวปไซต์โหลดคลิปดีกว่า อยุ่เบื่อๆ เปิดแล้วโหลดตั้งไว้ นี่ก็ใกล้เย็นแล้วนี่ ผมเลยลุกขึ้นไปแอบมองพี่ต้อมผ่านช่องทางผนัง ไหนพี่ต้อมว่ะ ผมเห็นแค่ห้องพี่ว่างเปล่า แต่ซักพักพี่ต้อมก็เดินออกมาทางห้องน้ำ นั่นไงมาแล้ว เดินนุ่งผ้าขนหนูมาแล้ว โห…ร่างล่ำๆ ผิวเข้ม ไอ้ตายเหอะ เซ็กซี่ฉิบหายเลย และแล้วพี่ต้อมก็ถอดผ้าขุนหนู เอามาเช็ดหัว ทำให้ส่วนท่อนล่างเปลือยเปล่า มันช่างย่วยวนสายตาและใจผมยิ่งนัก มังกรห้อยโตงเตงอยู่ตรงหว่างขาของพี่ต้อม มันไม่เล็กเลย หัว~ช้างน้อย~สีชมพู นี่ขนาดยังไม่ขึ้นนะเนี้ย มันยังใหญ๋ได้ขนาดนี้ แล้วถ้าไอ้ตอนที่มันแข็งละ จะใหญ่ขนาดไหน โอ้ย! ไม่อยากคิดเลย ยิ่งคิดยิ่งฟุ้งซ่าน ผมเลยต้องเข้าห้องน้ำเพื่อไปช่วยตัวเองต่อ(เพื่อนๆว่าผมโรคจิตป่าวคับ) ซักพักก็มีเสียงมาเคาะประตู ผมอาบน้ำเส็ดพอดี เลยเดินออกจากห้องน้ำไปเปิดประตู โดยลืมไปว่าตัวผมยังไม่มีอะไรห่อหุ้มตัวเองเลย ด้วยความรีบ ผมเลยไปเปิดประตูทันที ตอนนั้นแหละคับ พี่ต้อมทำหน้าอึ้งเลย ผมก็เลยนึกขึ้นได้ว่าเกิดไรขึ้น เลยรีบวิ่งไปหยิบผ้าเช็ดตัวมาห่อตัวเองแล้วเดินมาที่ประตูด้วยความอับอายขายขี้หน้า
“พี่ขอเข้าไปข้างในได้มั้ย”พี่ต้อมถาม ผมได้แต่พยักหน้า พูดไม่ออกอ่า อายมากมาย เพื่อนลองคิดดูดิคับ ว่าจะอายซักแค่ไหน
“แล้วนึกไง ถึงได้ไม่นุ่งไรมาเลย”พี่ต้อมพูด
“คือพอดีว่าผมลืมอ่าพี่ ปกติผมอยู่ห้องผมก็แก้ผ้าเดินโตงๆอยู่แล้ว เลยชินอ่า”ผมพูดพร้อมกันเกาหัวด้วยความอาย
“คิดว่าเป็นพวกชอบโชว์”พี่ต้อมแหย่ผมแล้วยิ้ม
“บ้าแล้วพี่ ผมยังไม่ถึงขั้นนั้น”ผมตอบไปแบบอายๆแกมเคือง
“เกมต่อยมวยด้วยหรอ”พี่ต้อมถาม ผมพยักหน้า
“ไมหรอ”ผมสงสัย
“ออ ป่าวหรอก พี่เห็นร่างเกมล่ำๆเลยคิดว่าเป็นนักมวย หรือ ไม่ก็เล่นฟิตเนส”พี่ต้อมตอบ
“งั้นพี่นั่งก่อนนะ หรือจะเล่นคอมผมมั้ย เดี๋ยวผมแต่งตัวแปบหนึ่ง”ผมบอกพี่ต้อม แล้วปลีกตัวไปแต่งตัว ก็แต่งตัวแปบเดียวจริงๆคับ แค่ยีนส์ดำกับเสื้อยืดแค่นั้นแระ และแน่นอน รองเท้าช้างดาวคู่ใจผมแน่นอน พี่ต้อมก็ถามโน่น ถามนี่ ถามนั่นเช่น เกมชอบสีฟ้าหรอ เห็นของใช้ต่างๆเป็นสีฟ้า จนแต่งตัวเส็ด แล้วผมก็นั่งคุยกับพี่ต้อมเรื่อยๆ ส่วนใหญ๋พี่ต้อมเป็นคนถาม และแน่นอนผมจะเงียบไม่ถามไรมาก เพราะคุยไม่ค่อยเก่งอ่า
“งั้นไป ได้เวลาแล้ว”พี่ต้อมพูด เพราะตอนนั้นเวลาประมาณหนึ่งทุ่มเห็นจะได้ เราเลยลุกออกจากห้อง
ผมเดินไปที่รถผม
“มา…ไปกับพี่นี่มา จะได้ไม่ต้องเอารถไปหลายคัน”พี่ต้อมพูดกับผม โดยที่ผมยังลังเลอยู่ ก็มันเกรงใจนี่ครับ
“ไม่เป้นไรหรอกคับพี่ ผมไปรถผมก็ได้” ผมตอบไป แต่พี่ต้อมเดินมาที่รถผมซึ่งกุญแจเสียบอยู่ แล้วพี่แกก็ดึงกุญแจไปเก็บไว้ที่มือแก แล้วแกก็เดินไปที่รถแกแล้วสต๊าทรถแกเฉยๆเลย ไม่ได้พูดไรเลย ผมเลยต้องตามแกไปโดยอัตโนมัติ ตลอดทางผมไม่พูดไรกับพี่ต้อมเลย พี่แกก็เช่นกัน จนมาถึงร้านๆหนึ่ง ชื่อว่า “ร้าน คอคน” อ่าคับ เป็นร้านนั่งกิน ดื่ม กันสบายๆ เป็นร้านแนวเพื่อชีวิตอ่าคับ ซึ่งผมชอบมาก เพราะตรงตามแนวผมเลย แล้วพี่ต้อมก็เดินนำหน้าผมไปเข้าในร้าน ซึ่งพี่ต้อมทำท่าเหมือนกวาดตาไปทั่วร้านเหมือนมองหาใครอยู่ และแล้วก็มีคนที่โต๊ะมุมหนึ่งของร้านโบกมืออยู่ อ้าว! นี่มีคนมาเยอะเลยเหรอว่ะเนี้ย โด่ว้อย คิดว่าจะได้มานั่งกินกับพี่ต้อมสองต่อสองเท่านั้น เซ็งเลยอ่าคับผม
“เฮ้ย…ไอ้ต้อมมาช้าจังนะคุณพวกกูมากันตั้งนานแล้ว”พี่คนหนึ่งในโต๊ะเอ็ดพี่ต้อม
“ก็เนี้ยไง กูก็มาแล้วนี่ว่ะ ออ นี่ น้องเกมที่กูเล่าให้พวกมึงฟัง”พี่ต้อมเริ่มแนะนำให้เพื่อนๆรู้จักผม
“และนี่ไอ้ตูน ไอ้ไผ่ ไอ้วัด ไอ้ปิ้ง และนี่ก้ไอ้ต้น”พี่ต้อมแนะนำชื่อเพื่อนแกแต่ละคน ผมก้ได้แต่ยกมือไหว้แทบไม่ทัน พี่ตูนนี่น่ารัก มาทางแบบเกาหลีๆหน่อย พี่ต้นกับพี่ปิ้ง จะมาแนวเดียวกับพี่ต้อมเพียงแต่พี่ไผ่ผิวแกจะเข้มกว่า ส่วนพี่ไผ่นี่ คือไม่ใช่จะว่านะคับ แต่ว่าหน้าตาแกโหดมากมายเลย นี่ถ้าพี่แกเรียนคณะผม แกคงลงสมัครเป็นว๊ากเกอร์ด้วยแน่เลย
“เอาๆๆนั่งเลยๆน้อง ไม่ต้องเกรงใจๆ”พี่ปิ้งพูดแบบเป็นกันเองมาก
“เกมกินเหล้ามั้ย”พี่ต้อมถาม
“ไม่คับ ผมไม่ชอบกินเหล้า ผมขอเป็นเบียร์แล้วกัน”ผมตอบไป
“มีด้วยหรอไม่กินเหล้า แต่กินแต่เบียร์ แปลกจัง”พี่ต้อมพูด
“แปลกตรงไหนอ่าพี่ เหล้ามันขม แต่เบียร์มันนุ่มลิ้นอ่า ผมเลยชอบมากกว่า”ผมอธิบาย แล้วพี่ต้อมก็เริ่มสั่งเบียร์และกับแกล้มเพิ่ม ผมก็ได้แต่เงียบดิคับ ไม่รู้จะคุยกับใคร
“เฮ้ยพวกคุณชวนน้องกูคุยหน่อยดิ เห็นนั่งเงียบเลย”พี่ไผ่คนที่นั่งใกล้ผมมากที่สุดพูดขึ้น พร้อมเอามือมาตบไหล่ผม ออลืมบอกไปว่า เสียงของพี่ไผ่หล่อมากเลยคับ เหมือนเสียงพระเอกหนังเก่าๆเลย (ซึ่งมันไม่เข้ากับหน้าตาของพี่แกเลย ดูไปว่าพี่เค้า)
“ว่าแต่ เกมมีแฟนยังเนี้ย”พี่ปิ้งซึ่งเป็นคนที่พูดกวนที่สุดถามผม
“ออ ยังคับ ผมยังโสด”ผมตอบไป
“แล้วเล็งสาวไหนไว้บ้างเนี้ย เอามั้ยเดี๋ยวพี่หาให้ เอาแบบน่ารักๆหรือจะเอาแบบเปรี้ยวจี๊ดจ๊าดดีละ”พี่ปิ้งกัดผมต่อแล้วหัวเราะ
“คุณก็อย่าไปเสือกเรื่องของน้องมันดิไอ้ปิ้ง เสือกได้ทุกเรื่องจริงๆนะคุณเนี้ย”พี่ต้นด่าพี่ปิ้ง
“ว่าไงเกมมีป่าว”พี่ปิ้งยังคงกัดผมต่อ
“ก็มีนะคับ แต่ผมคิดว่า ผมเก็บความรู้สึกดีๆที่ผมมีให้เค้าเก็บไว้กับตัวเองดีกว่า เพราะเราไม่รู้ว่าถ้าเราบอกให้เค้ารู้ ความสัมพันธ์มันจะเหมือนเดิมอีกหรือเปล่า”ผมพูดโดยที่ตาผมมองจ้องหน้าพี่ต้อมโดยไม่ละสายตา แต่พี่ต้อมไม่เห็นจะสนใจสายตาของผมเลย เอาแต่ก้มหน้าก้มตาอยู่กับตัวเอง
“เฮ้ยๆๆคุณ ไอ้ปิ้ง หุบปากเน่าๆของคุณไปเลย เห็นมั้ยเนี้ย น้องกูตาละห้อย หมดสนุกเลยมึง”พี่ไผ่ต่อว่าพี่ปิ้ง และทุกคนก็มองไปในทางเดียวกับผมคือ มองไปทางพี่ต้อม ที่เงียบเพื่ออยู่กับตัวเอง
“พอดีไอ้ต้อมมันโดนแฟนทิ้งมา เลยเป็นอย่างที่เห้นนี่แหละ น้องอย่าคิดมาก คนอย่างมันไม่นานก็หาใหม่ได้สบายๆ”พี่ไผ่บอกผม ผมก็ว่าอย่างนั้นแหละครับ พี่ต้อมหน้าตาหล่อเหลาเสียขนาดนี้ ขนาดผมยังตกหลุมรักพี่ต้อมเลยคับ แล้วสาวๆจะเหลือหรอ
“เฮ้ย….ไอ้ต้อม สนุกกันหน่อยดิว่ะคุณ ได้ไงว่ะเนี้ยชวนน้องเกมมาแล้วคุณมานั่งเศร้าอยู่เนี้ยนะ”พี่ต้นพูดขึ้น หลังจากนั้นทั้งวงก็เริ่มเฮฮากัน ผมก็คุยกับพี่ไผ่อย่างออกรสด้วยเรื่อง การเข้าป่าล่าสัตว์ ไปนอนในป่าหากล้วยไม้หาของป่า เพราะแกก็เด็กบ้านๆเหมือนผมเลย แต่ผมก็คุยไปพลางชำเลืองมองหน้าพี่ต้อมตลอด จนกระทั่งเบียร์หมดแล้วผมก็เริ่มเมาแล้วเหมือนกัน จนตอนนี้ทั้งเหล้าทั่งเบียร์ผมกินหมดแล้ว เพราะคิดว่าตัวเองไม่รู้สึกตัว และจำได้แค่นั้น แต่สิ่งสุดท้ายที่จำได้คือ ผมไปสบอยู่บนบ่าของพี่ตูนคับ
จนกระทั่งผมตื่นขึ้นมา เห็นเพดานห้อง แล้วเริ่มกวาดตามองไปทั่วห้อง นี่มันไม่ใช่ห้องผมนี่นา แล้วมันห้องใครกันเนี้ย ความรู้สึกตกใจเริ่มก่อตัวขึ้นในใจผม แต่สิ่งที่ทำให้ผมตกใจยิ่งขึ้นอีกคือ ผมไม่ได้ใส่เสื้อผ้าของตัวเอง ผมใส่เกงบอลตัวเดียวและไม่มีกางเกงในห่อหุ้มเกมน้อยเอาไว้ แล้วนี่มันเกิดไรขึ้นกับผม ใครทำแบบนี่กับผม ผมรู้สึกสับสนมาก หิวกระหายกับคำตอบที่จะเป็นไป ผมเริ่มคิดฟุ้งซ่านแกมงงๆนิดหน่อย แต่ยิ่งมองก็ยิ่งคุ้นตามากขึ้น จนกระทั่งประตูห้องถูกเปิดผมจึงรู้ว่านั่นพี่ต้อมเอง
+++++++++++++ชอบไม่ชอบก้อช่วยเม้นๆกันบ้างนะคราบผม+++++++++++++++++++++++++++++++++

“อ้าวเกม…ตื่นแล้วหรอ”พี่ต้อมพูด ผมก็ได้แต่นั่งงงๆกับสิ่งที่เกิดขึ้น
“เอ่อ…แล้วผมมาอยู่ห้องพี่ได้ไง”ผมถาม
“ก็เมื่อคืนเกมเมามาก พี่เลยคิดว่านอนที่ห้องพี่เนี้ยแหละ”พี่ต้อมตอบ
“แล้ว…”ผมพูดพร้อมกับเปิดผ้าห่มของและเอามือมาจับเสื้อผ้า
“อ๋อ… เกมเมามาก แล้วก็อ้วกใส่เสื้อผ้ากางเกงหมดเลย พี่เลยเปลี่ยนให้เกมเองแหละ ส่วนเสื้อผ้าเกมอยู่ในห้องน้ำโน้น”พี่ต้อมตอบมา ผมรู้สึกสำนึกบุญคุณพี่แกมากเลย
“ไงก็ขอบคุณมากนะคับ”ผมพูด ผมก็เอาแต่ก้มหน้าก้มตา อายว่ะ
“อายหรอ อายไรละคับ ทำยังกับเราไม่เคยเห็นของกันและกัน”พี่ต้อมพูดแบบอมยิ้ม
“หึ…พี่ว่าไรนะ”ผมถามเพราะงงกับคำพูดแก
“พี่พูดตามตรงนะ พี่รู้ว่าเกมแอบดูพี่ทางช่องผนัง เกมแอบดูพี่ทำไม”พี่ต้อมถาม น้ำเสียงเข้มขึ้น ส่วนตัวผมก็รุ้สึกว่าตัวเองหน้าแดงคับ รู้สึกอายเป็นอย่างมากเลย นี่ไอ้ครั้งที่แล้วที่เดินแก้ผ้ายังไม่อายพออีกหรอว่ะเนี้ย
“คือ…ผมไม่ได้ตั้งใจที่จะดูนะคับ ผมแค่เห็นมีช่องอยู่ที่ผนัง เลยแอบดู”ผมพูดโกหกไป
“งั้นพี่ไปอาบน้ำก่อนนะ”พี่ต้อมพูด แล้วเดินเข้าห้องน้ำไป ผมก็ได้แต่นั่งอายอยู่นั่นแหละ ขาก็แข้งไปหมด ทำอะไรก็ไม่ถูก จนคิดว่ากลับห้องดีกว่า อยู่สู้หน้าพี่ต้อมไม่ได้แล้วอ่าคับ มันอายอ่า
“พี่คับ ผมกลับห้องก่อนนะ ส่วนเสื้อผ้าพี่ผมค่อยเอามาคืนนะ”ผมตะโกนไปทางห้องน้ำ แล้วรีบมองหาพวงกุญแจผม มันอยู่นั่นเอง ก็พอดีกับมีเสียงตะโกนตามหลังผมมาหลังจากออกจากห้องก่อนปิดประตูว่า “เดี๋ยวก่อน เกม เดี๋ยวก่อน” ผมเข้าห้องก็ปิดประตู นั่งหน้าคอม เสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น ว่าทำไมมันเป็นแบบนี้นะ ต่อไปผมจะมองหน้าพี่ต้อมได้ไงเนี้ย และนึกถึงคำที่ผมพูดเมื่อ จู่ๆน้ำตามันก็ไหลออกมาเฉยๆเลย ทำไมผมต้องไปชอบพี่ต้อมด้วยนะ รู้ๆอยู่ว่ามันเป็นไปไม่ได้
“เกม…เป็นไรไป ถึงรีบกลับ เปิดประตูให้พี่หน่อยซิ”พี่ต้อมมาเคาะประตู ผมก็ไม่เปิดคับ ทำเป็นหูทวนลม พี่ต้อมเรียกผมอยู่พักใหญ่ แล้วเสียงก็เงียบไป แล้วได้ยินเสียงสตาทรถ สงสัยพี่ต้อมคงจะไปข้างนอก ผมก็เลยอาบน้ำ แล้วออกไปหาไรกินบ้าง เวลาผ่านไปสองสามวัน ผมก็ทำตัวตามปกติ แต่ไม่รู้ทำไมไม่เห็นพี่ต้อมเลยคับ จนวันหนึ่งผมคิดจะเอาเสื้อของพี่ต้อมกลับไปให้ แล้วผมก็เดินไปเคาะประตู
“พี่ต้อมครับ”ผมเรียกพี่ต้อม และแล้วก็มีคนมาเปิดประตู แต่แทนที่จะเป็นพี่ต้อมกลับเป็นหญิงสาวสวยน่ารักคนหนึ่ง ออกมาเปิดประตู หัวใจผมตกไปอยู่ที่ตาตุ่มเลยครับ สงสัยจะเป็นแฟนพี่ต้อมคนนั้นมังคับ เค้าคงคืนดีกันแล้ว
“นี่ครับ เสื้อกับกางเกงคับ ของพี่ต้อม พอดีวันก่อนผมยืมไปใช้ครับ”ผมพยายามพูดโดยใช้น้ำเสียงให้ราบเรียบที่สุด และสาวคนนั้นก็รับชุดไปจากผม แล้วยิ้มให้ผม น่ารักดีครับ ผมให้เสร็จก็เดินกลับเข้าห้องเลย อยากร้องไห้ ผมยังคงไปแอบมองยังที่สอดแนมเดิมของผมครับ
“ใครมาเรียกพี่”พี่ต้อมเดินออกมาจากห้องน้ำ
“คนข้างห้องเนี้ยแหละ เอาไอ้ชุดนี้มาคืน”หญิงสาวคนนั้น        บอก พร้อมกับยื่นชุดไปให้พี่ต้อม
“แล้วเค้าไปไหนแล้ว”พี่ต้อมถามพร้อมชะโงกมาออกมาทางประตู
“เค้ากลับห้องแล้วละ ไม่พูดไม่จาไรสักคำ ยื่นให้เส็ดแล้วก็กลับไปเลย”หญิงสาวคนนั้นพูด
“แล้วเค้าพูดอะไรบ้าง”พี่ต้อมถามสาวคนนั้น หญิงสาวส่ายหน้า พี่ต้อมมองข้ามมายังห้องผม
“แล้วแกโทหาแม่ยัง”พี่ต้อมพูดกับสาวคนนั้น เอ้ เมื่อกี้พี่ต้อมพูดว่า “โทหาแม่ยัง” ตกลงสาวคนนี้เป็นใครกันแน่
“โทรแล้ว แม่บอกว่า จะถึงแล้ว”สาวคนนั้นบอก
“แล้วทำไมแกไม่ไปกับแม่ด้วย แล้วยังจะมานั่งบ่นอยู่ได้ว่าแม่กลับมาช้า”พี่ต้อมพูด
“ก็แล้วทำไมต้องไปละ น่าเบื่อจะตาย สู้อยู่ที่นี่ดีกว่า”สาวคนนั้นพูด แล้วยิ้มแบบไร้เดียงสา
“อยู่ทำไมน้อ อยู่ดูแฟนพี่อ่าดิ”สาวน้อยพูดด้วยท่าทางสบายๆ
“แฟนที่ไหนแกหา… ไอ้แนน….”พี่ต้อมพูดพร้อมกับมีเสียงรถกระบะดังขึ้นนอกบ้าน
“แม่ๆดูไอ้ต้อมมันดิ แนนแค่ถามถึงแฟนมันๆมาทำเป็นอารมภ์เสีย”เด็กสาวฟ้องผู้เป็นแม่ พร้อมกับแลบลิ้นใส่ พี่ต้อมจะเดินเข้าไปเขกกระบาน
“แม่ๆๆดูมันดิแม่”สาวน้อยร้องขึ้น
“เอ้าๆๆเด็กพวกนี้เนี้ย เล่นกันอยู่ได้” ผู้เป็นแม่(ยายผม)กล่าว
“เอ้อ…พวกนี้เนี้ย ทะเลาะกันตั้งแต่เล็กยันโตเลยนะ จริงๆเล้ย…..”ชายอีกคนพูดขึ้น
“อายุทธก็ดูมันดิคับ เด็กอะไรแก่แดดแก่ลมเหลือเกินจริง”พี่ต้อมพูดกับชายคนนั้น
“แต่พี่ว่าแกเนี้ยก็มีเสน่ห์นะ ไอ้แนน”พี่ต้อมพูดต่อ
“มันแน่อยู่แล้วละย่ะ”สาวน้อยพูดพร้อมทำหน้ามั่นอกมั่นใจ
“หึ…เสน่ห์ที่จะไล่ทุกคนไปละซิ 5555555555”พี่ต้อมพุดพร้อมกับหัวเราะ สาวน้อยวิ่งมาตีๆพี่ต้อมๆก็ยืนให้สาวน้อยนั้นตีเฉยๆ
“เอ้าๆๆยังไม่หยุดอีก แนนเอาของไปเก็บในบ้านไป้”ผู้เป็นแม่พูดขึ้น
“นี่มันของพี่ต้อมหมดเลยหรอแม่”น้องแนนถาม
“อืม…แม่ซื้อให้ต้อมมัน”ผู้เป็นแม่ตอบ
“อ้อ…ลืมไปลูกชายหัวแก้วหัวแหวนเค้านี่”น้องแนนพูดแล้วทำหน้างอใส่ผู้เป็นแม่
“ไอ้แนนเอ้ย….โตเป็นสาวแล้วยังทำตัวเหมือนเด็กอนุบาลไปได้นะเอ็งเนี้ย”ชายผู้เป็นน้าพูด และทั้งหมดเค้าก็หัวเราะกัน ตกลงพี่ต้อมเป็นคนไปยกข้างของทั้งหมดมาเอง
“แม่ไปก่อนนะต้อม แล้วว่างๆแม่จะมาใหม่”ผู้เป็นแม่พูด
“หวัดดีแม่ หวัดดีน้า”พี่ต้อมพูดพร้อมกับเดินเข้าไปสวมกอดผู้เป็นแม่
“ส่วนแก ใยตัวแสบ หวังว่าคงมีหนุ่มๆตาถั่วมาจีบบ้างน่า”พี่ต้อมพูดพร้อมกับขยี้หัวผู้เป็นน้องสาว
“แน่นอนยะ พี่ชายสุดหล่อ”น้องแนนพูดแบบกัดฟันตรงคำว่า พี่ชายสุดหล่อ แล้วเดินไปขึ้นรถ ซักพักเสียงสตาทรถก็ดังขึ้น แล้วทุกอย่างกลับสู่ความเงียบ พี่ต้อมเดินเข้าห้องแล้วปิดประตู ส่วนผมก็ผละออกจากรูสอดแนม ตกลงว่าสาวคนนั้นไม่ได้เป็นแฟนพี่ต้อมนะซิ ผมรู้สึกโล่งอกไปที ซักพักโทรศัพท์ผมก็เข้า ใครโทมาตอนนี้ว่ะ ไม่ได้
เมมชื่อไว้ด้วยดิ
“ฮัลโล่ สวัสดีครับ”ผมพูดกับสายนิรนาม
“เกมคับ เกมอยู่ห้องป่าว”เสียงนั่นพูด
“เอ่อออออแล้วนี่ใครคับผม” ผมถามไป
“พี่ต้อมเอง เกมอยู่ไหน พี่มีไรจะคุยด้วย”พี่ต้อมหรอเนี้ย แล้วเอาเบอผมมาจากไหนกัน
“ผมไม่ได้อยู่ห้องคับ เอ่อออพอดีผมทำโครงงานอยู่ห้องเพื่อนอ่าคับ”ผมโกหกไป เก่งจริงๆเล้ย ผมเนี้ย
“แล้วเกมกลับมากี่โมงคับ”พี่ต้อมถาม
“เอ่ออผมก็ไม่ทราบคับ ทำรายงานเส็ดเมื่อไหร่ก็กลับเมื่อนั้นแหละ”ผมตอบไป มันอาจจะดูกวนๆนิดหนึ่ง แต่ผมก็ไม่รู้จะตอบไปอย่างไงดีนี่คับ
“อืมคับ กลับมาแล้วก็โทหาพี่ด้วยนะ”พีต้อมพูด
“ครับผม”ผมรับปากไปงั้นๆแหละคับ ไม่ได้คิดจะโทหรอกคับ แล้วผมก็วางสายไป ตกลงเย็นนั้นผมไม่กล้าออกไปกินข้าวข้างนอกเลยคับ กลัวจะเจอพี่ต้อม แม้แต่เปิดเพลงก็ยังไม่กล้า กลัวพี่ต้อมจะได้ยินจนประมาณสามทุ่ม ผมได้ยินเสียงรถพี่ต้อมออกไปข้างนอก ผมเลยอาบน้ำออกไปหาไรกิน ผมโทหาไอ้บัส ว่าจะชวนไปกินข้าว แต่มันก็อยู่กับเมียมันอก ผมเลยต้องไปกินข้าวคนเดียว แล้วผมก็ดันไปเจอกลุ่มพี่ต้อมและเพื่อนๆนั่งกินกันอยู่ ผมรีบหลบออกมา แต่รู้สึกว่าพี่ตูนจะเห็นผมแล้ว แต่ไม่รู้จะพูดไรกันบ้าง ผมก็เอาแต่รีบขับรถไปกินข้าวให้ไกลๆมอผมให้มากที่สุดจะได้ไม่เจอพี่ต้อม จนเกือบๆห้าทุ่ม พี่ต้อมยังไม่กลับมาห้องเลย ผมเลยรีบเข้าห้องไปนอน ผมจะต้องหลบหน้าพี่ต้อมไปอีกนานเท่าไหร่ และที่สำคัญผมหลบไปเพื่ออะไร แล้วซักพักผมก็ได้ยินเสียงรถพี่ต้อม พี่ต้อมคงกลับมาห้องแล้ว แล้วโทสับผมก็ดังขึ้น พี่ต้อมโทหาผมนั่นเอง
“ฮัลโลดีคับ พี่ต้อม”ผมรับโทสับ
“เกมกลับมาห้องยัง”พี่ต้อมถามผม
“ออ ยังเลยครับ พอดีรายงานเหลืออีกหลายหน้า คืนนี้ผมคงต้องนอนห้องเพื่อนคับ”ผมโกหกไป
“ออ หรอคับ งั้นไม่เป็นไรคับ เกมว่างเมื่อไหร่ก็โทมาหาพี่แล้วกัน”พี่ต้อมพูดแล้วก็สายไป และจากวันนั้นผมก็พยายามหลบหน้าพี่ต้อมมาตลอด ไปเรียนก็พยายามตื่นแต่เช้าๆ กลับมาก็ถ้าไม่ดึกก็ให้เร็วที่สุด จนวันหนึ่งผมลืมหนังสือแล็บไว้ที่ห้อง มันมีเรียนตอนบ่ายเลยกลับมาเอา แล้วตอนที่ขับรถออกมาจากห้องพักก็เกิดสวนทางกับพี่ต้อมพอดี พี่ต้อมก็เห้นผมแล้วหันเหลียวหลังมาดู แต่ผมไม่สน พยายามเร่งเครื่องให้เร็วที่สุด จนผมเห็นว่าพี่ต้อมไม่ตามมาแล้ว ผมนี่…นี่ผมกำลังทำไรของผมอยู่เนี้ย ซักพักพี่ต้อมก็โทมา แต่ผมก็ไม่รับสาย จนกระทั่งข้อความเข้าเขียนว่า “ทำไมเกมต้องหลบหน้าพี่ด้วย หรือเกมไม่อยากคุยกับพี่ ถ้าเป็นอย่างนั้นจริงๆ พี่ก็จะไม่กวนเกมอีกต่อไป แต่ถ้าวันไหนเกมอยากจะคุยกับพี่ว่ามันเกิดอะไรขึ้น ก็มาหาพี่แล้วกัน พี่ยังเหมือนเดิมทุกอย่าง ไม่เหมือนเกมที่เปลี่ยนไป” โหพี่ต้อมขยันพิมพ์มากเลยอ่า เพื่อนๆคิดดูดิคับ ส่งทางเมซเสจนะ เป็นผมขี้เกียดพิมพ์ตายเลย แต่พอผมอ่าน ผมเริ่มเสียใจกับการกระทำของตัวเองที่ทำอยู่ ผมเริ่มร้องไห้อีกครั้ง แต่เป็นที่คณะ ผมต้องเข้าไปนั่งสงบอารมภ์ในห้องน้ำ เหตุการณ์เป็นแบบนี้อยู่หลายอาทิตย์จนผมรู้สึกอึดอัดใจ ผมเลยคิดว่าถึงเวลาที่ผมต้องคุยกับพี่ต้อมแล้ว ในคืนหนึ่งผมเลยไปหาพี่ต้อมที่ห้อง ผมเคาะประตูห้อง ซักพักก็มีคนมาเปิด คนที่ผมเห็นอยู่ตรงหน้าผมนี่มันใครกัน พี่ต้อมหรอ ทำไมดูแย่ไปมากแบบนี้อ่า หนวดเคราก็ไม่โกน แววตาคู่เศร้าสร้อยนั้นมองมายังผมแบบไม่เชื่อสายตา ซักพักก็เผยรอยยิ้มขึ้นบนใบหน้าอันเป็นที่รักของผมเหลือเกิน
“เกม…มาหาพี่หรอ”พี่ต้อมถามผมด้วยความตื่นเต้น ผมพยักหน้า ผมก็ตื่นเต้นไม่น้อย แต่พยายามควบคุมอารมภ์และสีหน้าให้คงที่ๆสุด แล้วพี่ต้อมก็จับมือผมและลากผมเข้าไปในห้อง แล้วปิดประตู

“เกม…ทำไมเกมต้องหลบหน้าพี่ด้วย ทำไมเกม…”ก่อนที่พี่ต้อมจะพูดต่อผมก็เอามือไปปิดปากพี่ต้อม
“ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมผมต้องทำตัวแบบนั้น ผมไม่รู้จริงๆ”ผมตอบพี่ต้อมไป พลางก้มหน้าก้มตา แต่เพื่อนๆจะให้ผมบอกพี่ต้อมไปหรอคับ ว่าผมรู้สึกยังไง
“พี่คงเข้าใจผมนะ”ผมพูดด้วยน้ำเสียงเศร้าสร้อยแกมขอความเห็นใจ พี่ต้อมส่ายหน้า
“ เกมแอบดูพี่มานานแล้วใช่มั้ย เกมเป็นเกย์หรอ เกมแอบชอบพี่อยู่หรอ”พี่ต้อมถาม ผมอึ้งเลยคับ ไอ้ที่ถามว่าเกมเป็นเกย์อ่าไม่เท่าไร แต่ไอ้ที่ว่าเกมแอบชอบพี่หรอ คำนั้นทำให้ผมอึ้ง ผมเงียบเลยคับ
“ใช่มั้ย”พี่ต้อมย้ำ ผมก้มหน้าเงียบคับ
“ว่าไง เกมชอบพี่หรอ”พี่ต้อมยังรุกต่อ
“ใช่มั้ย” ยังไม่หยุดคับ ผมกัดกรามแน่นเลยคับ ส่วนมือก็กำหมัดแน่น พี่ต้อมบีบคั้นผมมากเกินไปแล้ว
“ใช่”จนในที่สุดผมก็ตะโกนใส่พี่ต้อม พร้อมกับน้ำตาเริ่มไหลอาบแก้มแล้ว มันเจ็บปวดมาก ไม่เข้าใจ ทำไมต้องมาบีบคั้นกันด้วย
“พอใจหรือยังละพี่ พอใจหรือยัง ผมเป็นเกย์และผมก็แอบชอบพี่มานานแล้ว แต่พี่จะให้ผมบอกพี่ตรงๆหรอ”ผมพูดพร้อมกับน้ำตาที่พรั่งพรูออกมามากกว่าเดิมเหมือนเขื่อนแตก
“พี่คิดถูกจริงๆด้วย ในคืนนั้นที่เกมพูดว่า เก็บความรู้สึกดีๆที่ผมมีให้เค้าเก็บไว้กับตัวเองดีกว่า เพราะเราไม่รู้ว่าถ้าเราบอกไปให้เค้ารู้ ความสัมพันธ์มันจะเหมือนเดิมอีกหรือเปล่า เกมหมายถึงพี่นี่เอง”พี่ต้อมพูด
“ตกลงว่าเกมเป็นเกย์จริงๆหรอ พี่ไม่อยากจะเชื่อเลย”พี่ต้อมยังถามต่อ
“ใช่แล้วคับ ผมเป็นเกย์ ทำไมหรอ ถ้าพี่รังเกียดผมๆก็ไม่ได้ว่าไรนี่คับ ถ้าพี่หมดคำถามแล้ว ผมขอตัวกลับห้องนะครับ”ผมพูดพร้อมกับหันหลังเดินตรงไปยังประตู แต่พี่ต้อมก็เดินเข้ามาโอบกอดผมทางด้านหลัง
“พี่ไม่ได้รังเกียดเกมนะ เพียงแต่ว่าๆ….”พี่ต้อมพูดแล้วชะงัก
“พี่รับไม่ได้ใช่มั้ย งั้นก็ปล่อยผมเหอะพี่ มันไม่เหมาะหรอกที่ผู้ชายจะมายืนกอดกันแบบนี้”ผมพูดไปแบบอยากเย็นมาก เพราะน้ำมูกน้ำตาเต็มไปหมด
“ไม่ใช่แบบนั้น แต่พี่หมายถึงพี่ไม่คิดว่าเกมจะเป็นเกย์ไง พี่คิดว่าเกมเป็นผู้ชาย พี่ดูไม่ออกเลยจริงๆว่าเกมเป็น”พี่ต้อมพูด
“แล้วผมจะต้องเที่ยวไปป่าวประกาศหรอคับว่า เฮ้ นี่คุณผมเป็นเกย์นะ”ผมพูดไปแบบประชด ถ้าอยู่ในสถานการณ์อื่นมันอาจจะตลกดี แต่ตอนนี้ไม่มีอารมภ์นั้นแน่
“พี่แค่…”พี่ต้อมจะพูดไรผมไม่รู้ แต่ผมก็ขัดพี่แกขึ้นมา
“พอเหอะคับพี่ ผมขอโทดพี่ด้วยกับเรื่องที่ผ่านมานะครับ ผมสัญญาว่าผมจะไม่วุ่นวายกับพี่อีกแล้ว ผมสัญญา”ผมพูดไปน้ำตาก็ไหลเหมือนเขื่อนแตกเลย พี่ต้อมเงียบ ผมพยายามดิ้นให้หลุดแต่ก็ไม่ยอมหลุดเสียที
“ปล่อยผมไปดิคับพี่ ผมรู้ว่าที่ผมคิดกับพี่แบบนั้นมันผิด แต่ผมก็ไม่ได้ไปทำให้พี่เจ็บปวดตรงไหนนี่ ผมไม่อยากจะพูดอะไรๆให้มันดูแย่มากไปกว่านี้อีก พี่เข้าใจผมมั้ย พี่เข้าใจมั้ยว่าการที่เราแอบชอบใครซักคนแต่เราไม่สามารถบอกเค้าให้รับรู้ได้มันเจ็บปวดแค่ไหน แค่นี้พี่ยังไม่พอใจอีกหรอ”ผมพล่ามออกมามากมายพร้อมกับร้องไห้เหมือนคนบ้าเลยคับ และแล้วพี่ต้อมก็จับให้ผมหันหน้ามาหาแก ผมยังคงร้องไห้ต่อ แกจ้องหน้าผม แต่ผมเอาแต่ก้มหน้าก้มตาอย่างเดียวพร้อมกับสะอื้น และแล้วสิ่งที่ผมไม่คาดคิดก็คือ พี่ต้อมจูบปากผมคับ จูบแบบนุ่มนวลมากเลยคับ ผมอึ้งเสียจนลืมสะอื้นเลยคับ อึ้งจิงๆนะคับ ผมเลยเผลอจูบตอบพี่ต้อมไปด้วย แล้วพี่ต้อมก็จูบผมแรงมากขึ้น เราจูบกันนานมากครับ มือไม้พี่ต้อมก็อยู่ไม่นิ่งครับ มือขวาจับหัวผมไว้ มือซ้ายก็เอามาจับคลึงที่ละโพกผม ตอนนั้นอารมภ์ผมกระเจิงไปแล้วครับ เลยจับตอบพี่ต้อมแต่จับตรงหง่าวขาพี่แก จนรู้สึกได้ถึงท่อน~ช้างน้อย~ที่พาดอยู่ภายในส่งความร้อนผ่าวๆออกมา เหมือนมันอยากจะออกมาสูดอากาศบริสุทธิ์ภายนอกแล้ว จนซักพักพี่ต้อมก็ผละออกจากผมแล้วถอกกางเกงบ๊อกเซอร์ แล้วนอนลงกับพื้นห้อง ผมได้แต่ยืนดูพี่ต้อมอยู่อย่างใจจดใจจ่อ
“ดูดให้พี่หน่อยดิ”พี่ต้อมพูดกับผม แต่ผมยังยืนเฉย พี่ต้อมเลยลุกขึ้นมาลากผมไปนอนกับแกด้วย และเริ่มจูบผมอย่างบ้าครั่งอีกครั้ง
“ปี้ๆๆๆ อ๋มอ๋ายใอไอ้ออก”ผมพูดพร้อมกับเคาะหลังพี่ต้อม
“เกมดูดให้พี่หน่อยดิ พี่ไม่ได้เอาออกมานานแล้ว”พี่ต้อมพูดกับผม พร้อมกับสายตาอ้อนวอน ผมเลยจัดการทันทีเลยครับ เรื่องลีลาผมไม่เก่งคับ แต่เรื่องการใช้ปาก ผมมั่นใจว่าผมไม่แพ้ใครแน่ๆ ผมดูดนมพี่ต้อม และกัดอย่างแรงแต่พี่ต้อมก็มีแต่เสียงซี๊ดซ๊าด(ไม่รู้ว่าเจ็บหรือว่าเสียวน้อ) แล้วไล่ลงมาถึงสะดือ ผมดูดดุนสะดืออย่างแรงจนพี่ต้อมต้องแอ่นตูดขึ้นมาเลยคับ
“ซี๊ด…….เกมครับ พี่เสียวจังเลย”พี่ต้อมเริ่มร้องคราง เดี๋ยวซิพี่ นี่มันแค่เริ่มต้น แล้วผมก็เริ่มถอดกางเกงในพี่ต้อม โอ้พระเจ้า นี่มันอะไรเนี้ย ทำไมมันใหญ่ยาวอย่างนี้เนี้ย หัวก็แดงน่าดูด มีน้ำใสๆเยิ้มย้อยออกมาตลอดเลย เหมือนกับลาวาเลยคับ(จริงๆนะคับเพื่อนๆ พราะขนาดของผมหรือของคนอื่นผมไม่เคยเห็นมันไหลออกมามากมายเลยคับ ไหลเหมือนน้ำว่าวอ่าคับแต่ไม่ข้นคับ) ผมเลยซุกหน้าลงไปดมดอมมันอย่างกระหายและเริ่มละเลงลิ้นลงบนหัวแดงๆน้ำเยิ้มหัวนั้นทันที ผมดูดขึ้น-ลงอย่างแรงมาก แล้วพยายามกระทอกให้ลึกที่สุด จนพี่ต้อมต้องเอามือมาช่วยกดไว้นานๆเลยละคับ แต่ผมนะซิ หายใจไม่ออก ก็หัว~ช้างน้อย~มันแหวกพ้นคอหอยเข้าไปอีก ผมน้ำตาไหลเลยคับ เกือบอ๊วกเลยคับ และผมก็ปล่อยให้เจ้างูยักษ์เป็นอิสระจากปากของผมอีกครั้ง แล้วผมก็ลากลิ้นจากหัว~ช้างน้อย~ลงไปตามความยาวของลำ ไปจนถึงลูกมะนาวสองลูก ผมดูดเข้าไปได้ทีละลูกเท่านั้น กะว่าจะดูดทีเดียวทั้งสองลูกเลยครับ แต่ไม่ไหว มันใหญ่ไป แล้วเลียเลยไปจนถึงรูตูดของพี่ต้อม มีกลิ่นตุๆนิดๆ แต่ในเวลานั้นผมไม่สนแล้ว และอีกอย่าง ผู้ชายคนนี้คือผู้ชายคนที่ผมรักด้วย ผมเลยทำให้โดยไม่รังเกียจครับ ผมเลียรูตูดและพยายามส่งลิ้นเข้าไปให้ลึกที่สุด ส่วนพี่ต้อมนั่นหรอคับ เอาแต่นอนหลับตาอ้าปากครางซี๊ดอย่างเดียว พร้อมกับช่วยผมยกตูดแกขึ้นให้ผมละเลงได้ง่ายขึ้น เมื่อผมเลียจนหนำใจแล้ว ผมก็ลากลิ้นขึ้นมาดูดดุนลูกบอลสองลูกนั้น แล้วลากลิ้นขึ้นไปตามความยาวของลำ~ช้างน้อย~พี่ต้อม ไปจนถึงหัว~ช้างน้อย~ และเริ่มดูดอย่างแรงอีกครั้ง ผมดูดแบบที่ว่าจะให้หลุดติดปากผมออกมาเลยคับ พี่ต้อมก็เอามือมาจับหัวผมพร้อมกับร้องครางตลอดเลย ผมเนี้ยดูดกันจนเหนื่อยเลยคับ คนบ้าอะไร แตกช้ามากเลย ผมดูดมาประมาณเกือบจะชั่วโมงแล้วมั้งเนี้ย จนผมเริ่มเร่งจังหวะขึ้น-ลงของปากพร้อมกับลิ้นในปากที่เลียวนหัว~ช้างน้อย~ไปด้วย จนซักพักพี่ต้อมก็กดหัวผมอย่างแรง แล้วตามมาด้วยจังหวะกระตุกส่งนมข้นหวานเข้าปากและลงคอผมจนหมดเลยคับ แล้วพี่ต้อมก็ปล่อยหัวผม ผมถึงกับไออย่างแรงเลยคับ สำลักน้ำว่าวก็ว่าได้ ไม่ต้องไปพูดถึงน้ำตานะคับเพราะตอนนี้มันเยอะมาก อย่างที่บอกว่า หัว~ช้างน้อย~พี่ต้อมเข้าไปลึกกว่าคอหอยเสียอีก พอผมไอ พี่ต้อมก็ทำท่าเหมือนกับรุ้สึกผิด
“พี่ขอโทดครับ พอดีพี่ลืมตัว”พี่ต้อมพูดแต่ไม่มองหน้าผม
“ไม่เป็นไรครับ ผมตั้งใจทำให้พี่คับ”ผมพูดไป และผมก็รู้สึกอย่างที่พูดไปจริงๆครับ
“เอ่อ…ถ้าพี่ไม่มีธุระอะไรแล้ว ผมขอตัวกลับห้องก่อนนะ”ผมพูดพร้อมกับลุกขึ้นเดิน ก่อนที่พี่ต้อมจะใส่บ๊อกเซอร์หรือพูดอะไร ผมกลับเข้ามาที่ห้องแล้วเดินเข้าห้องน้ำ แล้วมองหน้าตัวเองในกระจก แล้วนึกภาพตอนที่พี่ต้อมจับผมจูบ แล้วผมก็เอามือมาแตะที่ปากตัวเอง ไมปากผมแดงแบบนี้อ่า สงสัยดูดนานไปมั้ง มันเลยแดงเหมือนทาลิปส์ติกเลย ที่พี่ต้อมจูบผม แกคงจะเมาอยุ่พอดีมั้งคับ (คืนนั้นผมตัดสินใจว่าจะไม่แปรงฟันคับ อยากจะรับรู้รสจูบของพี่ต้อมนานๆ อาจคิดเหมือนคนบ้าน้อ แต่ผมก็ทำจริงๆคับ เพื่อนๆอย่าว่าผมซกมกนะคับ ปกติผมไม่ทำแบบนี้หรอกคับ แต่ครั้งนี้เป็นสิ่งที่ผมอยากจะเก็บไว้นานๆที่สุด) ผมเดินกลับมาที่เตียง แต่พยายามหลับเท่าไหร่ มันก็นอนไม่หลับซักที เห็นแต่ภาพตอนที่พี่ต้อมจูบ และคิดว่าพี่ต้อมทำไปเพราะเมาหรือเพราะตั้งใจกันแน่นะ จนผมเผลอหลับไป
ตื่นเช้ามา วันนี้เป็นวันที่ฝนตกตั้งแต่เช้าๆเลย ไม่รู้ว่าตกมาตั้งแต่ตอนรุ่งเช้าหรือยัง แต่เปิดประตูออกมาดูเหมือนตกมานานแล้ว และไม่ยอมหยุดเสียที ผมเดินไปยังรูสอดแนมของผมอีกครั้ง แล้วสำรวจดูว่ามีใครอยู่ในห้องข้างๆอีกบ้าง นั่นไงพี่ต้อมยังคงนอนอยู่ ผมเลยรีบอาบน้ำจะไปเรียน และรีบแต่งตัวให้เส็ด แล้วออกมาจากห้อง ฝนมันก้ยังไม่ยอมหยุดตก ทำไงดีหว่า ร่มก็ไม่มี เสื้อฝนก้ไม่มี ผมยืนคิดอยู่พักหนึ่ง แต่แล้วประตูห้องพี่ค้อมก็เปิดออก แล้วพี่ต้อมก็มองดูผม ผมก็จ้องหน้าพี่ต้อม ผมอึ้งเสียจนไม่รู้จะพูดไรดี คือแบบว่า เขิลๆมากกว่า เพราะเพิ่งผ่านไรกันมาเมื่อคืน มันเลยแปลกๆ
“เกมไปเรียนแล้วหรอ ไปยังไงละ มีเสื้อฝนป่าว”พี่ต้อมถามผม
“ออครับ ไม่มีครับ”ผมตอบไป
“เดี๋ยวรอแปบหนึ่งนะ พี่ไปเอาเสื้อฝนมาให้”พี่ต้อมพูดพร้อมกับจะเดินเข้าห้องไป

“ไม่ต้องหรอกพี่ ฝนตกแค่นี้เอง ไม่เป็นไรหรอกคงไม่เปียกมากหรอก”ผมพูด ที่จริงฝนตกหนักอยู่นะครับ แต่ด้วยความที่ผมไม่อยากต้องให้แกวุ่นวายละไม่อยากกวนแกผมเลยพูดไปงั้น
“เอาไปเหอะนะ กว่าจะถึงมอก็เปียกกันพอดี”พี่ต้อมพูด
“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณพี่มากนะ และเดี๋ยวถ้าผมเอาไป พี่จะใช้อะไรละ”ผมพูดไปพร้อมกับสตาร์ทรถ และขับออกไป เพราะด้วยความดึงดันของผม ทำให้ผมเปียกหมดเลย อันที่จริงกะว่าจะรออีกแปบหนึ่งให้ฝนซาลงกว่านี้นิดหนึ่งก็ได้ แต่ในเมื่อมีพี่เค้ามายืนคุยอยู่แบบนี้ผมก็รู้สึกว่าทำตัวไม่ถูก เลยต้องหาทางไปให้พ้นช่วงเวลานั้นไปก่อน พอไปถึงก็เห็นไอ้บัสวิ่งเข้ามาหาผม
“ไอ้เชี้ยเกม เมิงไปทำไรมาวะ ถึงได้เปียกแบบนี้”ไอ้บัสถามผม
“กูคงไปเดินซื้อของที่โลตัสมามั้ง ถึงได้เปียกขนาดนี้” ผมตอบมันไป และไม่นานมะเหง็กของไอ้บัสก็มาตกถึงหัวผม
“นี่แน่ ไปซื้อของมาหรอว่ะ กวนตีนนะคุณเนี้ย” ไอ้บัสตอบหลังจากที่ฝากของขวัญให้ผมไว้บนหัว
“ไปกินข้าวดีกว่า คุณละกินข้าวมายัง”ไอ้บัสพูด
“ยังวะ เออ ดีเหมือนกัน พอดีกูก็หิวอยู่เหมือนกันวะ”ผมพูด แล้วเราก็เดินไปโรงอาหารคณะ เราก้กินข้าวกันจนเส็ด แล้วก็เข้าเรียนกัน ตกลงวันนั้นผมเรียนไม่รู้เรื่องเลยมัวแต่คิดเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืน และเป้นอยู่อย่างนั้นไปหลายสัปดาห์ และผมก็พยายามหลบหน้าพี่ต้อม และดูเหมือนว่าพี่ต้อมจะไม่มาให้ผมเห็นหน้าเลย(นั่นไง คิดถึงเค้าละซี้….) และวันนั้นวันเสาร์ ผมกะว่าจะกลับบ้าน เริ่มจัดกระเป๋าไว้แล้ว แล้วประตูห้องผมก็โดนเคาะ ผมลุกขึ้นไปเปิดประตู เห็นพี่ไผ่ผู้มีน้ำเสียงดุจดั่งแตรสวรรค์ยืนยิ้มอยู่ที่ธรณีประตู
“อ้าวพี่ไผ่ สวัสดีครับ พี่มานานยังครับ” ผมพูดพร้อมยกมือไหว้แทบไม่ทัน
“ก็เพิ่งมาถึงนี่แหละไอ้(คอ)” พี่ไผ่พูดพร้อมกับตบหลังผม (ออ! ไอ้คอเนี้ย ผมไม่รู้มันหมายถึงไรอ่าคับ เห็นพี่ไผ่แกชอบเรียกผมแบบนั้นประจำ และผมก็ไม่เคยคิดจะถามแกเหมือนกัน หรือบางทีก็ลืมถาม)
“แล้วนั่นจะไปไหนกันละนั่น”พี่ไผ่พูดพร้อมกับมองมาทางกระเป๋าที่ผมจัดตั้งเอาไว้
“อ๋อ ผมจะกลับบ้านครับ เลยจัดตั้งไว้”ผมบอกไป
“อ้าวเหรอ….” พี่ไผ่พูดด้วยน้ำเสียงแปลกใจ(มั้ง)
“ครับ”ผมก็ตอบไปด้วยความซื่อบื้อ
“ค่อยกลับพรุ่งนี้ได้มั้ย พอดีวันนี้วันเกิดพี่ จะชวนเกมไปกินด้วยกัน”พี่ไผ่พูดด้วยน้ำเสียงเกรงใจ ผมก็เงียบดิคับ ทำไงดีหว่า พี่ไผ่มาชวนด้วยตัวเองเลย ผมถือว่าเป็นเกียรติมากเลยคับ ที่พี่เค้ามาชวนรุ่นน้องอย่างผม ผมจะทำไงได้ละ
“แต่เกมจะกลับก็ได้นะครับ พี่ไม่ว่าไรหรอก”พี่ไผ่พูด แต่ผมฟังจากน้ำเสียงแกแล้ว เหมือนจะผิดหวังนิดหน่อย
“ได้ไงพี่ วันเกิดพี่ทั้งที ผมจะพลาดได้ไงคับ แล้วเดี๋ยวผมค่อยโทรบอกแม่ก็ได้ว่าผมค่อยกลับบ้านพรุ่งนี้แล้วกัน ผมซึ้งน้ำใจมากเลยคับ ที่พี่มาชวนผมเนี้ย”ผมพูดพร้อมกับทำท่าเหมือนร้องไห้
“บ้าได้อีกนะไอ้คอ”พี่ไผ่พูด พร้อมกับหัวเราะ
“แล้วจะไปกันกี่โมงคับ”ผมถาม
“น่าจะเย็นๆละมั้ง เดี๋ยวให้ไอ้ต้อมมาบอกแล้วกัน”พอผมได้ยินชื่อพี่ต้อม ทำไมผมต้องตื่นเต้นด้วยนะ ทำไงดีหว่า ไม่อยากเจอหน้าพี่ต้อมอ่า
“เอางี้ดีกว่า เดี๋ยวพี่เอาเบอร์ผมไปแล้วกันนะคับ”ผมบอกพี่ไผ่ไป
“ไม่ต้องหรอก พี่รู้ว่าเรื่องแค่นี้มันไม่หนักหัวไอ้ต้อมมันหรอก”พี่ไปพูด ผมก็ได้แต่ผิดหวัง
“ครับๆ งั้นแล้วแต่พี่จะว่าแล้วกัน”ผมพูดไป
“งั้นพี่ไปก่อนนะไอ้คอ เดี๋ยวเจอกันตอนเย็น” พี่ไผ่บอกลา
“ครับๆ พี่บ่าว”ผมตอบกลับไป บ้าจริงๆเลยพี่ไผ่ ทำไมต้องให้พี่ต้อมมาตามด้วยนะ เวรกรำกรูอีกแล้ว ผมก็กลับเข้าห้องไปนั่งเขียนเรื่องให้เพื่อนๆอ่านกันพลางๆ แล้วออกไปกินข้าวเที่ยง แล้วกลับเข้ามา ทำโน่น นี่ นั่นจิปาฐะ
จนมีคนมาเคาะประตู ผมรู้สึกตื่นเต้นมากเลยครับ ต้องเป้นพี่ต้อมแน่นอนเลย ผมเลยเดินไปเปิดประตู ก็เป็นไปตามที่ผมคิดจริงๆด้วย พี่ต้อมนั่นเอง ผมก็ตะลึงดิครับ ไม่ได้ตะลึงเรื่องไรหรอก แต่รู้สึกเหมือนเขินๆ อายๆอ่าคับ คนมันไม่ได้คุย ไม่ได้เจอหน้ากันนาน
“ป๊ะ… ไปกันได้แล้ว ไอ้ไผ่โทมาแล้ว”พื่ต้อมพูดด้วยน้ำเสียงสบายๆ แต่ผมนี่ดิ ลิ้นแข็งเลยอ่า หัวใจก็เต้นระรัว ไม่รู้จะพูดอะไร ก็เลยได้แต่พยักหน้า
“เป็นไงบ้างเรา ไม่ได้เห็นหน้าเห็นตากันนานเลย ขนาดอยู่ห้องติดกันยัง ไม่ค่อยได้เจอกันเลยนะคับ”พี่ต้อมพูด
“อ่อ…..ครับ สบายดีครับผม พี่ละ เป็นไงบ้าง ไม่ได้คุยกันนานเลยนะคับ” ผมพูดไป
“อืม ก็สบายดี นี่คับ ไม่ได้เจ็บไข้ ไม่สบายนี่คับ”พี่ต้อมพูดกวนตีนว่ะ แล้วจะถามตูทำไมว่ะ คนเค้าถามดีๆดูมาตอบดิคับ ผมก็เอาแต่พยักหน้า แกก็มองจ้องหน้าผมอยู่นั่นแหละ จนผมรู้สึกอึดอัด
“โว้….หน้าแดงนี่หว่า ไรอ่า พี่จ้องแค่นี้ก็หน้าแดง นี่ขนาดตัวดำนะเนี้ย”พี่ต้อมล้อผม
“เอ้าๆๆๆๆ ยิ่งแดงเข้าไปใหญ่แล้ว”พี่ต้อมยิ่งหยอกผม ส่วนผมก็หลุดยิ้มออกมาดิคับ คนมันเขิล….อ่าคับ
“จะไปได้ยังอ่าพี่ เดี๋ยวพี่ไผ่รอนานนะคับ”ผมพูดพร้อมกับเดินไปที่รถมอไซด์ผม
“โว้…..เดี๋ยวๆๆไปกับพี่นี่มา”พี่ต้อมพูดตามหลังผม
“ไม่เป็นไรคับ ผมขับรถผมไปเองดีกว่า”ผมพูดพร้อมกับเสียบกุญแจรถ และจะเริ่มสตาร์ท แต่พี่ต้อมก็ดันมาดึงกุญแจรถผม แล้วไปเก็บไว้ในกระเป๋าเสื้อยีนส์ของแกซะงั้น
“อ้าวพี่ เอามานี่ ผมบอกแล้วไงว่าผมจะไปรถผม เผื่อผมจะไปทำธุระที่ไหนอีก”ผมโวยวาย ไม่พอใจ(แต่ที่จิงอ่า เล่นตัวไปงั้นแระคับ)
“จะไปไหน เดี๋ยวพี่พาไป”พี่ต้อมพูด พร้อมกับยิ้มอย่างมีชัย แต่ผมยังคงนั่งแช่อยู่ที่รถอยู่เหมือนเดิม ไม่ยอมลุกออกจากรถ แล้วพี่ต้อมก็จับมือผม แล้วลากมาที่รถของแก แล้วแกก็พะยักพะเหยิดไปทางเบาะ ผมเลยต้องขึ้นไปนั่ง(ด้วยความเต็มใจ แต่เล่นตัวนิดหน่อย )
“ก็แค่นี่…”พี่ต้อมพูด แล้วพี่ต้อมก็สตาร์ทรถมอไซด์
“เกมไปไหนหลายวัน ทำไมพี่ไม่เห็นเกมเลย”พี่ต้อมหันมาถามระหว่างที่ขับรถอยู่
“ก็เปล่านี่ครับ ผมไม่ได้ไปไหน ผมก็อยู่กับไอ้บัสเพื่อนสนิทผมดิคับ”ผมโกหกไป
“แฟนเกมหรอ”พี่ต้อมถาม
“บ้าแล้วพี่ มันเพื่อนผมคับ”ถามมาได้ทำยังกับรู้จักไอ้บัสมัน
“ครับ….”พี่ต้อมพูดแค่นั้น ไรว่ะ แล้วจะถามตูทำไมว่ะ ไอ้พี่ต้อม
“แล้ววันนี้จะไปนั่งร้านไหนคับ”ผมถามไป
“ร้านเดิม”พี่ต้อมตอบแบบขาดๆ ผมเลยเงียบเลยครับ นี่แกเป็นไรของแกว่ะ ประสาท….
“คับ”ผมตอบไปแค่นั้น พี่ต้อมขับไปได้ซักพักก็ถึงร้านคับ แล้วผมก็เดินนำหน้าไปโดยที่ไม่รอพี่ต้อมเลย งอนว่ะ คนเค้าถามดีๆ
“แล้วนั่นหาพบหรอ โต๊ะที่พวกนั้นนั่งอยู่”พี่ต้อมตะโกนมา
“ก็หาดิพี่”ผมพูด
“เออ…เก่งให้มันตลอดนะ”พี่ต้อมพูด อ้าวแล้วผมพูดไม่ถูกหรอ ก็หาดิคับ ไม่หามันจะเจอหรอ จนเดินเข้าไปในร้าน บรรยากาศก็เหมือนเดิมครับ แต่เหมือนว่าวันนี้คนจะเยอะไปหน่อย หันซ้ายหันขวาก็เห็นพี่ไผ่เจ้าของวันเกิดนั่งอยู่ และโบกมือมาตามผม ผมเข้าไปที่ตั้ง แล้วไหว้พี่ๆเค้า นักร้องกำลังร้องเพลงอยู่บนเวที เป็นเพลงที่ผมโคตรชอบเลยคับ
นั่นคือเพลง ด.ญ.ปราง ของพงศ์เทพ อยู่พอดี เพื่อนๆลองไปหาฟังกันดูนะครับ
ขยะในถังที่ตั้งริมทาง ด.ญ.ปรางค์กำลังคุ้ยเขี่ย
เป็นประจำหน้าบ้านผัวเมีย ที่นั่งดูเหมือนพลเมืองดี
ยังไม่รู้จะได้อะไร เปลือกลำไย หรือซองบุหรี่
อยากจะได้หุ่นยนต์ดีๆ หนูอยากจะมีน้องตุ๊กตา
ถ้าได้ดั่งฝันจะรีบเอาไป อวดวินัยลูกชายของป้า
ถ้าแขนไม่ครบ ไม่มีลูกตา จะให้ลูกมาช่วยเสริมแต่ง
*ขยะในถุง…… ตั้งอยู่ในใจ ที่ใสสะอาด…
วาดต่อเติม เพิ่มความฝัน ทุกวันเวลา
ตุ๊กตานำทางไปทั่ว ตามซอกซอยของเมืองมัวๆ มือน้อยๆ ค่อยๆคุ้ยเขี่ย

“เกม แล้วไหนไอ้หมาต้อมละ”พี่ปิ้งถามผม
“จอดรถอยู่ครับ ผมเลยเดินเข้ามาก่อน”
“งั้นก็นั่งๆๆ สั่งไรสั่งเลย อยากกินไรก็สั่งเลย”พี่ไผ่บอก
“น้องเกมมันกินเบียร์โน้นไอ้ไผ่ น้องมันไม่กินหรอกเหล้าอ่า ใช่มั้ยเกม”พี่ปิ้งพูดพร้อมกับมาถามผม
“ก็กินบ้างคับ แต่ผมชอบเบียร์มากกว่า”ผมพูด
“เออ เอาๆจะสั่งไรกินก็เอา”พี่ไผ่พูดแบบรำคาญ ผมเลยสั่งเบียร์ และข้าวผัดรวมมิตรไป เพราะหิวข้าวมากเลยครับและก็อีกหลายอย่าง จนพี่ต้อมมา
“โน่นไง ไอ้ต้อม กว่าจะเสด็จมาได้นะคุณ”พี่ปิ้งหันไปพูดทางพี่ต้อม พี่ต้อมไม่ว่าไร เหมือนจะชินกับพี่ปิ้งซะแล้ว และพี่ต้อมก็มานั่งข้างผม เพราะไม่มีที่นั่งเหลือแล้ว ผมละเกิดตื่นเต้นขึ้นมาอีกแล้ว
“เอาไอ้ต้อมคุณจะสั่งไรก็รีบสั่งซะ กูจะได้ให้น้องเค้าสักที”พี่วัดพูด
“เออ เอาเหอะสั่งไรก็สั่งเหอะ กูไม่สั่งแล้ว กินของพวกนี้ให้มันหมดก่อนเหอะไอ้ไผ่”พี่ต้อมพูด
“เอาๆ คุณไปกินรังแตนมาจากไหนอีกเนี้ย หรือว่า…..”พี่ไผ่พูดแล้วลากเสียง พร้อมกับหันไปทางกลุ่มเพื่อนๆทั้งหมด พี่ต้อมไม่พูดไร
“สงสัยจะจริงวะ จ๊ะจ๋าทำฤทธิ์อีกแล้ว”พี่ปิ้งกัดพี่ต้อม แล้วพี่ปิ้งก็ส่งรายการอาหารไป
“ไหนๆไอ้ต้อมคุณเล่ามาดิ ว่ามันเกิดไรอีกว่ะ”พี่ตูนพูด พี่ต้อมเงยหน้าขึ้น แล้วมองมาทางผม ผมเลยรู้สึกตัวว่าเป็นคนนอก
“งั้นผมขอไปโทรหาเพื่อนก่อนนะคับ”ผมพูดพร้อมลุกขึ้น แต่พี่ต้อมก็มารั้งมือผมไว้ และจ้องตาผมเชิงบอกว่า ผมอยู่ฟังได้
“ไม่เป็นไรครับ พี่ๆคุยกันไปเหอะ ผมมีธุระต้องปรึกษาเพื่อน เดี๋ยวผมกลับมานะคับ”ผมพูดพร้อมกับลุกขึ้นเดินออกไป ก็น้อยใจครับผม น้อยใจพี่ต้อม ว่าเห็นผมเป็นคนนอก แต่ก็ไม่เป็นไรครับ มันธรรมดาครับ ยังไงๆผมก็เป็นคนนอกอยู่ดีครับ ผมรู้ข้อนั้นดี แล้วผมก็โทหาไอ้บัสมันดีกว่า ไม่รู้มันทำไรอยู่ กินข้างยังนะ เป็นห่วงมันครับ
“ทำไรอยู่วะ ไอ้บัส”ผมถาม
“อยู่แถว….เนี้ย มากับอีฟ”มันพูด
“แล้วคุณกินไรยัง”ผมถาม
“อือ… ก็กินอยู่กับอีฟนี่แหละ คุณละกินไรยัง”มันถามผม แหมผมกับมันเนี้ย ถามกันยังกับเป็นแฟนกันแน่ะ
“ก็กำลังสั่งข้าวอยู่ พอดีมีพี่เค้ามาชวนไปกินเลี้ยงงานวันเกิดเค้าอ่า”ผมตอบไป
“ร้านไหนว่ะ”ไอ้บัสมันถามผม
“ร้านเดิมนั่นแหละคุณ ไงคุณก็อย่ากลับดึกนะโว้ย กูเป็นห่วง”น่าน ดูผมพูดเข้า ยังกับเป็นแฟนกัน แต่ผมไม่ได้คิดแบบอื่นคับ ผมเป็นห่วงมันแค่เพื่อนๆจริงๆ
“อืม คุณก็เหมือนกัน อย่าดื่มให้มันมากนักละ เดี๋ยวจะโดนข่มขืน”ไอ้บัสพูด
“คราบๆๆ เจ้านาย”ผมพูดแล้วยิ้มไปพลาง จนผมวางสาย
“โทหาแฟนหรอ โทหาน้องบัสหรอ”พี่ต้อมถาม บ้าป่าววะ มาให้ผมกับไอ้บัสเป็นแฟนกันสองครั้งแล้ว
“ผมโทหาไอ้บัสอ่า…ใช่ แต่ผมไม่ได้เป็นไรกับมัน เราเป็นแค่เพื่อนกันเท่านั้น มันก็มีแฟนอยู่แล้ว”ผมตอบไป
“เพื่อนเค้าพูดกันแบบนั้นหรอ”พี่ต้อมถามผม
“พูดกันแบบไหนหรอพี่ หรือว่า พี่มาแอบฟังตั้งนานแล้ว”ผมถามพี่ต้อมไป
“พี่ก็มานานพอที่จะได้ยินอะไรมากพอ”พี่ต้อมพูดต่อ
“บ้าแล้วพี่….”ผมพูดพร้อมกับหัวเราะ แต่พี่ต้อมไม่ได้หัวเราะกับผมด้วย แล้วผมก็เดินเข้าร้านไปเพื่อกลบเกลื่อน แต่พี่ต้อมก็ดึงผมเอาไว้ ผมเลยหันกลับมามองหน้าแก แบบไม่พอใจ แต่พอเห็นดวงหน้าที่เศร้าสร้อยนั่น ผมก็เกิดสงสารแกขึ้นมา สงสัยจะยังไม่หายจากการที่แฟนทิ้งมั้ง
“ไม่ต้องคิดไรมากพี่… ผู้ชายหล่อๆนิสัยดีๆอย่างพี่ยังหาผู้หญิงดีๆได้อีกเยอะแยะ”ผมพูดเชิงปลอบประโลม
“เกมไม่เข้าใจหรอก”พี่ต้อมพูด
“ใช่ครับ…ผมไม่เข้าใจพี่หรอก ไม่เคยเข้าใจเลย และคงไม่มีวันนั้น”ผมพูด เสียใจอยู่ลึกๆครับ ที่ผมพูดทั้งหมดคือหมายถึง การที่จะได้ใจพี่ต้อมมา แต่พี่แกคงจะไม่เข้าใจหรอกครับ แล้วผมก็เดินเข้าร้านไป ทิ้งพี่ต้อมไว้ตามลำพัง ซักพักแกก็ตามมา แล้วมานั่งเงียบอยู่ข้างผม
“ไปตามกันนานจัง”พี่ตูนพูด
“เกมคุยกับสาวคณะไหนหว่า บอกพี่ได้มั้ยไอ้น้องชาย”พี่ปิ้งพูด
“บอกรักแฟนก่อนนอนยัง”พี่วัดพูด ไปกันใหญ่แล้ว ก็นี่ไงแฟน(เพื่อน)ของผมนั่งอยู่ข้างๆผมเนี้ย ผมก็ได้แต่ยิ้มอย่างเดียว
“ใช่ๆ เกมบอกรักแฟนไปแล้วเมื่อกี้ กูไปได้ยินพอดี”ไอ้พี่ต้อมบ้าพูดขึ้นมา มันเป็นไรของมันอีกละ แล้วทั้งกลุ่มก็โห่ร้องกันใหญ๋ ผมก็ได้แต่ยิ้ม มีเคืองๆพี่ต้อมอยู่บ้าง แล้วเราก็เริ่มกิน และเริ่มเมากันแล้วแต่ไม่มาก ยกเว้นผมที่ เมาง่ายตามเดิม (ถ้ากินเหล้า)
จนมารู้สึกตัวอีกทีก็ตอนที่ปวดฉี่ หันไปเห็นนาฬิกาข้างฝาผนัง นี่มันตีสามแล้วนี่ หันไปหันมา ตกลงผมมาอยู่ห้องพี่ต้อมอีกแล้ว โดยมีพี่ต้อมนอนเอาขามาพาดขาผมอยู่ ก็ไม่อยากจะเอาออกหรอก อยากให้แกพาดแบบนี้นาน แต่ผมปวดฉี่อ่า เลยต้องยกออกแบบเบาที่สุด ลุกขึ้นไปฉี่ แล้วกลับมานอนให้ไกลพี่ต้อมที่สุด รู้สึกเขิลๆอายอยู่ จนเกือบจะนอนตกเบาะไปแล้ว ผมหลับเคลิ้มๆได้ซักพัก ก็มีคนมาพาดขาและกอดผมอีกแล้ว ผมหันไปดูพี่ต้อมนั่นเอง แต่ยังหลับตาอยู่ สงสัยจะละเมอ เห็นเรียกแต่คนชื่อ จ๋าๆๆอยู่ได้ กูไม่ใช่จ๋าโว้ย พอผมได้ยินคำว่าจ๋า ผมก็ผลักแกให้ไกลๆไปเลย และผมก็ลุกขึ้นไปนอนบนพื้นซีเมนต์เย็นๆ ไม่นอนให้พี่ละเมอเพ้อพกแต่คนชื่อจ๋า ให้ผมต้องทนฟังให้เจ็บใจอยู่หรอก จนผมนอนซักพักก็หลับไป และมารู้ตัวอีกทีตอนเช้าก็มีหมอนหนุนหัว มีผ้ามาห่มกาย มองดูพี่ต้อมบนเบาะก็ไม่มีคัย เหลือบไปมองดูนาฬิกา เวรกรรม เกือบเก้าโมงแล้ว ผมเลยรีบลุกขึ้นกลับห้อง โดยที่ไม่กล่าวลาผู้เป็นเจ้าของห้องเลย จะบอกทำไม งอนโว้ย สนใจอยู่แต่กับคนชื่อจ๋านั่นแหละ ทีกับตูไม่เห็นจะสนใจเลย (แล้วเค้าจะมาสนเราทำไมละน้อ ผมก็บ้าเหมือนกันนะเนี้ย แล้วยังจะมางอนพี่เค้าอีก)ผมรีบอาบน้ำแต่งตัว เสื้อผ้าก็จัดตั้งไว้ตั้งแต่เมื่อวานแล้ว แล้วผมก็ขับรถกลับบ้าน พอถึงบ้านซักพักพี่ต้อมก็โทมาหา โทมาเป็นสิบๆสายเลย แต่ผมก็ไม่ยอมรับ เอาเวลาไปโทหาคนชื่อจ๋าโน่นดิ ไอ้คนหน้าตาดีแต่ใจร้าย ไอ้พี่ต้อมใจดำ พอตอนเย็นก็โทมาอีก ผมก็ไม่รับอีก กลางคืนก็โทมาอีก ผมก็ไม่ยอมรับเหมือนเดิม ผมจะพยายามข่มใจให้ลืมพี่ต้อมเสียดีกว่า ลืมสิ่งที่มันเป็นไปไม่ได้ดีกว่า ผม+พี่ต้อม คงไม่มีวันนั้นแน่นอน เหตุการณเป็นแบบนี้อยู่หลายวัน เกือบๆสองอาทิตย์ เพราะผมก็เอาแต่หลบหน้าพี่ต้อมอีกแล้ว จนพี่ต้อมส่งข้อความมาถามว่า ผมเป็นอะไร ถึงไม่ยอมรับโทสับ ถามว่า แกทำอะไรให้ผมไม่พอใจหรือเปล่า(ก็ใช่นะซิ ไปเลย ไปง้อคนชื่อจ๋าโน้น)ผมเริ่มเหมือนคนบ้าเข้าไปทุกวันแล้วใช่มั้ยครับเพื่อนๆ แต่หลังๆนี้ที่ผมวุ่นวายอยู่กับปัญหาของตัวเองอยู่ ก็มีไอ้บัสนั่นแหละที่อยู่กับผมตลอด มันบอกว่าคุยกับอีฟไม่ค่อยรู้เรื่อง ไม่รู้ว่ามันหรืออีฟที่เปลี่ยนไป

“ไอ้เกม คุณคิดว่าปัญหาที่เกิดขึ้นเนี้ย กูหรืออีฟว่ะ ที่มีปัญหาหรือเปลี่ยนไป”ไอ้บัสถามผมด้วยน้ำเสียงเครียดๆ
“ไม่รู้ว่ะ ปัญหาอาจเกิดจากตัวคุณเองหรือเกิดจากอีฟก็ได้ ทุกครั้งที่คนเราเจอปัญหา ก็มักมองไม่เห็นปัญหาของตัวเองเสมอแหละ”ผมบอกมัน แหมนะผมก็ พูดอย่างกับตัวเองไม่มีปัญหาเลยนะ แล้วโทรศัพท์ผมก็ดังขึ้น พี่ต้อมนั่นเอง แต่ผมไม่รับสาย
“ใครโทมาว่ะ”ไอ้บัสถาม
“ป่าวว่ะ ไม่มีไรหรอก”ผมตอบไป
“ให้มันแน่”ไอ้บัสพูดแบบไม่พอใจ
“เออ……”ผมย้ำ แต่เห็นมันเงียบ
“ก็ได้โว้ย… พี่ต้อมโทหากู”ผมบอก
“ใครว่ะพี่ต้อมคุณเนี้ย”มันถาม ผมเลยเล่าเรื่องทั้งหมดให้มันฟัง
“สงสัยพี่เค้าคงจะชอบคุณว่ะ”ไอ้บัสพูด
“พูดบ้าไรของคุณ บ้าไปแล้ว เป็นไปไม่ได้ ทำเป็นมารู้มากนะคุณ”ผมตกใจจนพูดไม่ออก ไอ้บัสมันมาพุดตรงจุดอ่อนผมพอดี
“แล้วไมคุณต้องหน้าแดงด้วยว่ะ”ไอ้บัสล้อ แต่ผมเงียบ แล้วจู่ๆมันก็พูด
“ไอ้เกม ไปดูหนังกันมั้ย เดี๋ยวกูเลี้ยงเอง”ไอ้บัสพูด
“ไปก็ไปว่ะ แต่กูซื้อเอง ไม่ต้องมาอวดรวยเลย คุณชายบัส”ผมพูดไป พูดเล่นๆครับ
“อ้าวไอ้นี่”มันพูดเส็ดมันก็จับหัวผมขยี้ และแอบเขกกะบาลผม
“แล้วคุณจะไปได้ยัง”ผมถาม แล้วเราก็ไปกัน โดนผมต้องนั่งซ้อนท้ายมันไปเหมือนเดิม จนไปถึงโรงหนังที่ห้างลีการ์เด้น พลาซ่า แล้วเราก็เดินจะไปซื้อตั๋ว โทศัพท์ผมดังขึ้นอีก พี่ต้อมโทมาอีกแล้ว ผมเอาออกมาดู แล้วกดปิดเสียง แล้วเก็บใส่กระเป๋า ไอ้บัสมองผมอยู่ ผมคิดว่ามันไปซื้อตั๋วแล้ว แต่มันยังหยุดยืนอย่ พร้อมกับที่ผมเอาโทรศัพท์ออกมาดู แล้วผมก็เข้าไปหามัน แล้วมันก็เดินไปทางอื่น ไปไหนไม่รู้ แล้วมันจะไปไหนว่ะ
“ไอ้บัส คุณจะไปไหน ไมไม่ไปซื้อตั๋วว่ะ”ผมถามมัน
“กูไม่ดูแล้วหนังอ่า กูอยากร้องเพลง”มันพูดแบบอารมภ์เสีย แล้วมันเป็นบ้าอะไรของมันว่ะ จู่ๆก็อารมภ์เสียซะเฉยๆงั้น
“เออออออ เอาก็เอา ร้องเพลงก็ไปแหกปากกัน”ผมพูดเกือบจะตะคอก แล้วเดินนำหน้ามันไปทางตู้เพลงแบบเสียอารมภ์ยิ่งกว่ามันเสียอีก มันทำอย่างกับผมเป็นถังขยะของมันแน่ะ
“เอาไป อยากแหกปากไม่ใช่หรอว่ะเมื่อกี้ แล้วจะมานั่งทำบ้าไรคุณอยู่ละ”ผมพูดตามอารมภ์ที่เสียของผมเลย
“กูไม่อยากร้องเพลงแล้ว”อ้าวไอ้นี่ คุณเป็นบ้าไรคุณว่ะ
“คุณไม่พอใจที่กูมากับคุณ แล้วคุณจะชวนกูมาทำไม หือ…ไอ้บัส”ผมถึงกับตะคอกปนตะโกนใส่มันเลย อารมภ์เสียว่ะ ผมไม่เคยยอมที่จะเป็นถังขยะให้กับใครเลย ยกเว้นมันคนเดียว มาตลอด มันเอาแต่เงียบ
“งั้น…กูไปเองว่ะ รำคาญคุณว่ะ กูไม่ใช่อีฟนะโว้ยที่จะมารับอารมภ์ของคุณได้ เนี้ยแหละ คือปัญหาที่คุณบอกว่าหาไม่เจอ ปัญหาทั้งหมดมาจากตัวคุณไง ไอ้อาบัส” ผมเน้นย้ำชื่อเล่นเต็มๆมันเลย เซ็งว่ะ เห็นกูเป็นไรว่ะ ไอ้สัด ผมเปิดประตูและหันจะออกไป
“ไอ้เกม กูขอโทษมึงว่ะ”มันพูด แล้วดึงมือรั้งผมไว้ ผมจึงสงสารมันดิครับ เลยไปนั่งข้างมัน แล้วมันก็เริ่มร้องไห้ ผมเลยเอาแขนไปโอบคอมัน แล้วตบบ่าเบาๆ ปลอบมัน จู่ๆมันก็กอดผมอ่าครับ นี่ถ้าเป็นสถามนการณ์อื่น ผมคงคิดไปว่าไอ้บัสเป็นเกย์ไปแล้ว และคงจะอายผู้คนมาก แต่แบบนี้ผมสงสารเพื่อนมากกว่า
“ไม่เป็นไรนะบัส กูอยู่ข้างคุณเสมอ เราเป็นเพื่อนกันนี่ แต่คุณขอระงับอารมภ์ตัวเองเสียบ้าง กูก็คนนะโว้ย”ผมพูดแล้วมันก็กอดผมแน่นกว่าเดิม
“คุณไม่เข้าใจกูหรอก และ…”มันพูดแล้วมันก็หยุดเฉยๆ แต่ผมก็ไม่ถามต่อ จนมันเริ่มสะอื้น
“มาๆ มาร้องเพลงกันโว้ย”ผมพูด ให้น้ำเสียงกระตือรือร้นหน่อย แล้วผมก็ยื่นไมด์ให้มัน มันก้รับครับ แล้วมันก็ร้องเพลง แล้วไม่ยอมยกไมด์ให้ผมเลย มันร้องไปห้าเพลงแล้วยื่นให้ผม แต่ผมรู้ว่ามันแกล้งผม ผมเลยไม่ว่าไร
“เดี๋ยวกูร้องเพลงนี้แล้วกัน”ผมพูดแล้วคีย์เพลงลงไป เพลงนั้นคือเพลง “มากกว่ารัก” ของเดอะสตาร์
คนเคยเหงา เคยรู้สึกเหว่ว้า… เคยมองหาความรักนั้นมันอยู่ที่ใด
โลกใบใหญ่เหลือเกิน… มีผู้คนอยู่มากมาย แต่หัวใจมันกลับเหงาขึ้นทุกที
แต่เมื่อฉันได้พบกับเธอ… สิ่งที่เจอให้ฉันไม่รู้มันคืออะไร
โลกใบใหญ่ ใบเดิม กลับไม่เคยต้องเหงาใจ แค่ฉันนั้นยังมีเธออยู่ตรงนี้
*เธอเป็นมากกว่ารัก เพราะเธอนั้นคือครึ่งชีวิต
ฉันใช้เวลาทั้งชีวิต เพื่อตามหาแหละรอคอยเธอมาแสนนาน แต่สุดสุดท้ายก็เจอ
ว่าเธอคือทุกอย่าง ที่เติมเต็มหัวใจ จากนี้ทุกลมหายใจฉันคือเธอ
หากว่าเธอนั้นคือความรัก ก็แป็นรัก ที่ดีจนไม่มีคำบรรยาย
ฉันโชคดี เหลือ..เกิน ที่มีเธอเดินข้างกาย ชีวิตนั้นได้เติมเต็มสิ่งที่ขาดหาย
(*),(*)
พอจบเพลง ไอ้บัสก็เงียบ
“เกมกุมีไรจะถามคุณ”มันพูดหลังจากที่เงียบมานาน
“อือ มีไรก้ว่ามา อย่าเสียเวลา”ผมบอกด้วยความรำคาญ
“เออ่…ไอ้เกม คุณเป็นเกย์ป่าวว่ะ”ไอ้บัสมันถามมาจนได้ ผมอึ้งดิครับ เพื่อนสนิทถามแบบนี้ ใครมันจะไม่อึ้งหว่า
“อืม ใช่ กูเป็นเกย์ แล้วคุณจะทำไม คุณจะเลิกคบกับกูก็ได้ กูไม่ว่า กูเข้าใจคุณดี ถ้ากูเป็นคุณ กูก็คงจะ…”ผมพูดแล้วชะงัก
“เปล่า…กูยังไม่ได้พูดอะไรเลย”มันพูดตัดหน้าผมไป
“กูแค่สงสัยมานานแล้ว”มันพูด
“สงสัยมานานแล้ว ยังไง มีเพื่อนคนไหนรู้อีกเปล่าวะ และรู้ได้ยังไง” ผมถามด้วยความตกใจ ถ้าเพื่อนรู้นี่ เราคงต้องตายแน่ๆ
“ไม่มีใครบอกกูหรอก แต่กุสังเกตเห็นคุณไม่มีแฟนซักที และก็….ตั้งแต่ไม่กี่สัปดาห์มานี้ คุณดูแปลกๆว่ะ เหมือนคนที่มีไรอยู่ในใจ โดยเฉพาะตอนที่พี่คนนั้นโทมาหา กูเห็นคุณหวั่นไหวประจำ ทุกที คุณเป็นแฟนกันหรอว่ะ”มันพูดเสียยาว
“เปล่า…กูไม่ได้เป็นไรกับพี่เค้าเลย และคุณคงคิดไปเอง”ผมพูด ลิ้นจุกปากเลย
“งั้นกูว่า คุณคงชอบมันละซิ”มันพูด ผมเงียบ
“จริงๆด้วยโว้ย” มันพูดแล้วมันก็เหม่อลอย มาแนวไหนอีกเนี้ย
ผมเลยคีย์เพลงต่อ ผมเพลง “ปอดแหกไป” เป็นอีกเพลงที่ผมชอบ
แปลกใจ…ปอดแหกเกินไปหรือเปล่า อึดอัดจะตายแล้วเรา
ต้องมาเฝ้ามองเธอ มันนั่งละเมออย่างนี้
เป้นคนไม่มีน้ำยา ปากบอกกับเธอก็ไม่…
แล้วโทรศัพท์ก็ดังขึ้น อีก ว่าแล้วว่าต้องเป็นพี่ต้อมแน่เลย แต่คราวนี้ผมรับสาย และหันไปทางไอ้บัส แล้วชี้ไปที่โทรศัพท์ มันก็พยักหน้า ผมเลยเดินออกมานอกตู้
“ฮัลโหลครับ ผมเกมพูดครับ” เป็นครั้งแรกในรอบสหัสวรรษ ที่ผมรับสายพี่ต้อม
“เกมอยู่อยู่ไหนครับ อยู่กับใคร ทำอะไร” โห ถามมาได้ อย่างกับกูเป็นแฟนพี่นั่นแหละนะ เอาไปถามคนชื่อจ๋าโน้นไป้
“อยู่ลีการ์เด้น มาร้องเพลงกับไอ้บัสครับ”ผมตอบไป
“ไปกับแฟนหรอคับ”ดูไอ้พี่ต้อมมันถามเข้า
“เอ่อพี่ครับ ผมมากับเพื่อนครับ”เย็นไว้ไอ้เกม เย็นไว้
“อ้าว แล้วน้องบัสไม่ใช่แฟนเกมหรอกเหรอ พี่ก็ถามไปอย่างนั้น”ยังมีหน้ามาถามอีกนะ
“แล้วไม่ทราบว่าผมบอกกับพี่ไปตอนไหนครับว่าไอบัสมันเป็นแฟนผม”ผมก็เริ่มจะขึ้นแล้วครับ
“มีความสุขกันจังนะครับ ไปร้องเพลงกันด้วย”พี่ต้อมมันกวน
“นี่พี่…วันนี้พี่เป็นไรมากป่าว และถ้าจะโทรมาหาเรื่อง ผมว่าอย่าโทรมาดีนะครับ ผมไม่อยากทะเลาะด้วย”ผมโคตรอารมภ์เสียแล้วครับเพื่อนๆ นี่มันเป็นไรของมันเนี้ย
“พี่ขอโทษครับเกม พี่ขอโทษ พี่ก็แค่โทรมาถามดูแค่นั้นเอง ว่าเกมอยู่ที่ไหนกับใคร”พี่ต้อมพูดแล้วเงียบไป ผมขอรู้สึกสงสารแกอีกแล้วครับ
“งั้นผมก็ขอบคุณพี่มากนะครับ ที่พี่เป็นห่วงผม” เค้าบอกเมื่อไหร่ว่ะ ว่าเค้าเป็นห่วง ช่างกล้านะ ผมเนี้ย
“งั้นเอางี้ เพื่อเป็นการไถ่โทษ พี่พาเกมไปเลี้ยงนะ เอาร้านเดิมแล้วกันนะครับ นะครับ……”
“ครับผม” ผมพูดพร้อมกับรู้สึกว่าตัวเองก็ยิ้มไปด้วย
“ไอ้เกม คุณคุยโทรศัพท์เสร็จยังว่ะ ตกลงนี่จะมาคุยโทรศัพท์ หรือคุณจะมาร้องเพลงกับกูกันแน่ว่ะ ถ้าไม่ร้องกูจะได้ปิดแมร่งมันซะเลย” ไอ้บัสมาจากไหนว่ะ จู่ๆก็มาอารมภ์เสียใส่ผมซะงั้น มันเป็นไรของมันว่ะ
“เออๆ ไอ้บ้านี่ก็… ไปเหอะ เดี๋ยวกูตามไปเองแหละน่า”ผมพูดปัดไป รำคาญมันนี่ครับ กวนอยุ่ได้ แล้วมันก็เดินกลับเข้าไป และก่อนที่ผมจะได้พูดอะไร พี่ต้อมก็พูดขึ้นมาเสียก่อน
“โน้นไง แฟนมาตามแล้ว ไปเหอะครับ เดี๋ยวแฟนงอนน้า”นี่ยังเล่นไม่เลิกใช่มั้ยเนี้ย ได้ จัดให้
“นันนะซิครับพี่ คุยกับพี่นานๆเนี้ย แฟนผมต้องหึงแน่เลยอ่าครับ งั้นผมขอตัวไปง้อแฟนผมก่อนนะครับ”ผมพูด อยากให้กูเป็นแฟนไอ้บัสมากนักใช่มั้ย เงียบครับ เงียบครับ ไม่มีเสียงตอบรับเลย
“ครับผม งั้นเดี๋ยวพี่จะโทรหานะครับ ประมาณห้าโมงครึ่งนะครับ”พูดเสร็จพี่ต้อมก็วางไปเลยอ่าครับ เป็นไรของพี่แกว่ะ พอผมไม่เป็นแฟนไอ้บัส ก็มายัดเยียดให้เป็น แต่พอผมเป็นแกก็มาโกรธผม นี่ตกลงว่าพี่ต้อมจะเอายังไงกับผมเนี้ย เฮ้อ…. พอเดินเข้าไปในตู้เพลง ไอ้บัสก็ไม่ได้ร้องเพลง เอาแต่มองจ้องหน้าจอเพลง ผมละงงกับมันอีก นี่วันนี้คนมันเป็นอะไรกันไปหมดว่ะเนี้ย และมีผมอยู่เนี้ยแหละครับเพื่อนๆ ที่ต้องนั่งงงว่าผมทำไรผิดหรือเปล่าว่ะเนี้ย
“อ้าว ไอ้บัส เป็นไรไปว่ะ ไมไม่ร้องเพลงว่ะ”ผมถาม มันไม่พุด ผมเลยขยับเข้าไปเขย่าแขนมันเบาๆ มันเงียบ
“งั้นมา… กูร้องเอง งั้นคุณนั่งฟังกูก็แล้วกันนะ”แล้วผมก็คีย์เพลงต่อผมเลือกเพลง “ใจปลาซิว”ของ ศร
แต่ก่อนแต่ไร หัวใจฉันดั่งภูผา
จะพูดจะจา เสียงดังและฟังชัดเจน
ไม่กลัวใครแน่นอน เลือดมันร้อนถอยไม่เป็น
เจอกับเธอ ไม่รู้ฉันกลายเป็นใคร
แต่ลูกผู้ชาย ถือว่าเป็นความปวดร้าว
“ไอ้เกม กูมีไรจะบอก”ในที่สุดมันก็พูดออกมา ผมก็หยุดร้องเพลง ตั้งใจฟังมัน

“ไอ้เกม กูชอบคุณ กูชอบคุณมานานแล้ว”ผมอึ้งครับ
“แล้วชอบกูเมื่อไหร่”ผมถาม
“ตั้งแต่กูเจอคุณ วันที่มาสอบสัมภาษณ์”มันตอบผม
“แล้วทำไม คุณเพิ่งมาบอกกูตอนนี้ มันจะสายไปมั้ย”ผมถามมัน
“ก็กูกลัวคุณจะเกลียดกูที่กูเป็นแบบนี้”มันพูด
“เดี๋ยวๆๆ งั้นแสดงว่าคุณก็เป้นเกย์ละซิ”ผมเริ่มจะงงๆกับเรื่องทั้งหมด
“แล้วทำไมคุณถึงไปคบกับอีฟละ เพื่อปกปิดโดยเอาอีฟมาบังหน้าหรอ”ผมถาม ผมไม่ชอบเกย์ที่คบกับหญิงเพื่อเอามาบังหน้า ผมยอมไม่คบทั้งหญิงทั้งชายดีกว่า ผมสงสารผู้หญิง และรู้สึกว่าเราเอาเปรียบเค้ามากไป
“เปล่า พอกูเห็นว่าคุณไม่ได้เป็นเกย์ คือกูคิดว่าคุณไม่ได้เป็นเกย์ กูก็เลยตัดสินใจไม่บอกคุณดีกว่า ส่วนเรื่องอีฟอ่า กูก็ชอบอีฟจริงๆ คือกูเป็นไบอ่า คุณคงเข้าใจนะ กูตัดใจจากคุณมาคบกับอีฟแทน”มันพูด
“ไอ้สัดบัส คุณรู้มั้ยว่า กูก็ชอบคุณตั้งแต่กูเห็นหน้าคุณแล้ว แต่กูก็กลัวเหมือนที่คุณกลัวเนี้ยแหละ”ทั้งผมทั้งมันเงียบ
“ไอ้เกม ถ้ากูจะขอคุณเป็นแฟนได้ป่าวว่ะ”มันพูดโดยไม่มองหน้าผม
“ไม่ได้ คุณมีอีฟอยู่แล้ว อย่าได้ทำให้อีฟเสียใจ อย่านะคุณ กูไม่อยากเป็นเหมือนพวกที่ไปแย่งของคนอื่นมา”ผมพูด
“ยังไงกูกับอีฟก็จะเลิกกันอยุ่แล้ว”
“แต่ยังไม่เลิกกัน”ผมพูด
“คงอีกไม่นานแล้วมั้ง”มันพูด
“ไม่… มันต้องไม่ใช่แบบนี้นะไอ้บัส กูรักคุณนะ แต่คุณอย่าเป็นคนเห็นแก่ตัวเลย และถึงคุณจะเลิกกับอีฟ กูก็ไม่สามารถเป็นแฟนกับคุณได้หรอก ตอนนี้กูคิดกับคุณแค่เพื่อน”ผมบอกมัน มันเงียบ
“กูรู้แล้วว่าทำไมคุณถึงรักกูแบบนั้นไม่ได้แล้ว เพราะคุณมีคนที่คุณรักคุณชอบอยู่แล้ว”ผมรู้ว่ามันหมายถึงใคร
“เปล่า”ผมตอบ
“อย่าปิดบังกูเลย ทำไมกูจะไม่รู้ละ แต่ถึงคุณจะไม่รักกู แต่กูก็จะรักคุณเหมือนเดิม อย่างที่กูเป็นมาตลอดนั่นแหละ คุณคงไม่ว่าไรกูใช่มั้ย”มันถาม ผมพยักหน้า
“เผื่อซักวัน คุณจะเห็นค่ากูบ้าง”มันพูดจบ มันก็ร้องไห้ เอาอีกแล้ว ไอ้ลูกคุณหนูคนนี้เนี้ย ขี้งอแงจริงๆเลยโว้ย ผมก็เงียบอย่างเดียวคับ ผมก็สงสารมันนะครับ แต่ทำให้ได้ อย่าที่มันพูดนั่นแหละว่าผมรักพี่ต้อมอยู่แล้ว ถึงไอ้บัสมันจะอยู่หล่อ น่ารัก ตรงตามสเป็กผมเลย แต่ทำไมผมถึงไปรักพี่ต้อมได้ก็ไม่รู้ ผมจะปลอบก็ไม่รู้จะปลอบไรดี แล้วจู่ๆสิ่งที่ผมไม่คาดคิดคือ ไอ้บัสมันขยับมาหาผมแล้วจับผมเข้าไปจูบกับมัน ผมอึ้งมากๆ แต่เพราะรสจูบของไอ้บัสช่างนุ่มนวล หอมหวาน และปากนุ่มๆของมันทำให้ผมเคลิ้ม ไอ้บัสจูบได้นุ่มนวลมากๆ มากๆ มากกว่าพี่ต้อมอีก ผมไม่รู้ว่าเวลาผ่านไป เท่าไหร่ แต่คิดว่านานใช้ได้ เพราะผมก็ไม่ผละออกจากมันเลย นี่ถ้าเป็นข่าวคงจะดังนะครับ (สองหนุ่มนักฟุตบอลมหาลัยชื่อดัง นั่งจูบกันกลางห้างดังในเมืองหาดใหญ่) คงจะตลกดีนะครับ ผมว่า
“ไอ้เกม ๆ”มันเขย่าผม ผมตื่นขึ้นจากภวังค์ ฟังดูเหมือนน้ำเน่า แต่มันเป็นแบบนั้นจริงๆครับเพื่อนๆ
“เคลิ้มเชียวนะคุณ”มันพูด แล้วเอาแต่ยิ้ม มันยิ้มโคตรน่ารักเลย ถ้าไม่ติดกับพี่ต้อม ผมคงตอบรับมันไปแล้ว
“ทำไมต้องหน้าแดงด้วยว่ะคุณ”มันหยอกผม ผมหลบหน้า
“จูบนี้เป็นจูบมัดจำนะ ส่วนจูบมัดใจอ่า กูจะรอจากคุณนะ”โห มันเน่าอ่า คิดได้ไงว่ะ ผมเงียบอย่างเดียวครับ เขิลครับ แล้วโทรศัพท์ผมก็ดังขึ้น พี่ต้อมโทรมาแล้ว ผมหันไปมองไอ้บัส มันหน้าบึ้งอีกแล้วอ่า ผมเลยหอมแก้มมันไปทีหนึ่ง แล้วเดินออกจากตู้เพลง
“โหลครับพี่”ผมพูด
“เสร็จกันยังครับ น่าจะร้องเพลงไปพลางหอมแก้มกันไปพลางมังคับ”พี่ต้อมพูดแปลกว่ะ
“เสร็จแล้วครับ ออ มันแน่นอนอยู่แล้วครับพี่ คนเป็นแฟนกัน มันไม่แปลกใช่มั้ยครับ”ผมก็พูดไปงั้นแหละ
“อือ ใช่ ไม่แปลกหรอกครับ แล้วตกลงสวีตกันเสร็จยังเนี้ย”พี่ต้อมถาม
“งั้นผมจะรีบไปนะครับผม”ผมพูดเสร็จก็วางสายไป แล้วเดินกลับเข้าไปหาไอ้บัส
“ไอ้บัส กูว่ากลับกันได้แล้วแหละ พอดีเดี๋ยวกูมีนัดไปกินกับพี่ๆเค้า”ผมบอกมัน
“ออ อือ งั้นไป…”มันพูดโดยใช้น้ำเสียงไม่ค่อยพอใจ แล้วเดินไปที่ประตู
“เดี๋ยว บัส กูจะเอาคุณไปด้วย ได้ป่าว”ผมบอกมัน พอมันได้ยินจากหน้าบึ้งอยู่เมื่อกี้กลายเป็นรอยยิ้มสดใสทันทีเหมือนมันจะดีใจ
“เอ้ย กูไปได้ด้วยหรอว่ะ แต่กูไม่รู้จักใครซักคนนะโว้ย”ผมพูด
“ไม่เป็นไร พี่ๆเค้าใจดีทุกคนเลย เป็นกันเองมากๆ เดี๋ยวคุณก็สนิทเองแหละ”ผมบอกมัน แล้วเราก็ออกมาจากลีการ์เด้น โดยที่ผมรีบขับรถให้ถึงห้องเร็วที่สุด พอไปถึงห้องก็เห็นพี่ต้อมยืนอยู่ที่หน้าห้องผม
“หวัดดีครับพี่”ผมกล่าวทักทายพร้อมยกมือไหว้แก ไอ้บัสมันก็ยกมือไหว้ตามผม แต่เหมือนจะไม่ค่อยเต็มใจซักเท่าไหร่นัก พี่ต้อมรับไหว้
“แล้วไหนพี่ๆเค้าละครับ”ผมถาม แต่พี่ต้อมเอาแต่มองไอ้บัส ผมรู้แกว
“ออ ผมชวนบัสไปด้วยครับ ไปหลายคนจะได้สนุกครับ พี่ว่าป่าว”ผมพูดพร้อมกับยิ้มและเอาแขนไปกอดคอมัน
“ครับ ไปกันหลายๆคนสนุกดี “พี่ต้อมพูดแล้วเดินไปที่รถ ผมก็เริ่มสตาร์ทรถไอ้บัส
“ไม่ต้องเอารถไปหรอก ไปรถพี่เนี้ยมา”พี่ต้อมหันกลับมา เมื่อผมเริ่มสตาร์ทรถ
“ซ้อนสามเนี้ยนะพี่”ผมถามพี่ต้อม
“ใช่”น้ำเสียงพี่ต้อมเด็ดขาดมาก ผมมองหน้าไอ้บัส แล้วพยักหน้ากับมัน มันก็ไม่ว่าไร ผมเลยเอารถมันไปจอดในห้องผม แล้วรีบเดินไปซ้อนท้ายพี่ต้อมดีกว่า ก่อนที่แกจะอารมภ์เสียไปมากกว่านี้(คือผมไม่รู้หรอกว่าอารมภ์เสียเรื่องไร รู้แต่ว่าพี่แกอารมภ์เสียแน่นอน) พอพี่ต้อมออกรถแกก็ซิ่งตามแบบฉบับสายฟ้าแล็บของแกตามเคย ซึ่งผมก็ไม่ได้กลัวหรอกครับ แค่เสียวเอง ไอ้บัสก็เหมือนกัน กอดเอวผมเสียแน่นเลย แต่ผมไม่กล้าไปแตะต้องตัวพี่ต้อมเลย กลัวจะโดนด่าเอา เลยได้แต่พยุงตัวเพื่อให้ไอ้บัสเกาะผมได้ เผลอแปบเดียวก็ถึงแล้ว พอจอดรถมผลง ไอ้บัสลง พี่ต้อมก็เดินหน้าตั้งเข้าร้านไปเลยเวรกรรมแล้วกูจะรู้หรือเปล่าว่ะเนี้ยว่านั่งตรงไหน แต่ช่างเหอะ ร้านก็ไม่ได้ใหญ่มาก หาเองก็ได้โว้ย
“ไอ้บัส คุณว่าพี่ต้อมมันแปลกๆป่าวว่ะ อารมภ์เสียมาจากไหนไม่รู้ว่ะ”ผมถามมัน
“ไม่รู้โว้ย กูไม่สน ออ ถ้ามันจะไม่พอใจที่กูมาด้วย กูก็จะเล่นไอ้มันเจ็บใจเล่นๆดีกว่า”ไอ้บัสพูด
“อ้าว ไหงคุณเป็นงั้นไป คุณทำอย่างกับคุณมีเรื่องกับพี่เค้ามาก่อนนั่นแหละ”ผมพูด
“ไม่รู้ว่ะ กูไม่ชอบขี้หน้ามันว่ะ คอยดู แม่งจะเล่นซะ”มันพูดพร้อมกับทำหน้าแบบเคียดแค้น นี่ไอ้นี่มันมายังไงอีกเนี้ย
“นี่คุณ น้อยๆหน่อย มีเรื่องกับพวกพี่เค้านี่ กูว่าไม่ฉลาดนักนะ จะทำอะไรก็คิดเสียบ้าง”ผมพูด แต่มันเงียบ แล้วผมก็เดินเข้าไปในร้าน มันก็ตามผมมา หันซ้ายหันขวาก็เห็นพี่ไผ่โบกมืออยู่ทางขวามือของร้าน ผมเดินตรงไป
“ว่าปรือ(ว่าไง) ไอ้น้องบ่าว ไม่ได้เจอกันตั้งนาน”พี่ไผ่ทักตั้งแต่ผมยังไม่ได้นั่งเลย
“ครับผม สบายดีครับ ออ พี่ๆครับ นี่ไอ้บัสครับ เพื่อนผมครับ เรียนอยู่คณะเดียวกัน”ผมแนะนำไอ้บัสให้พี่ๆเค้ารู้จัก แล้วแนะนำพี่ๆเค้าไอ้มันรู้จัก
“น้องบัสจะกินไรสั่งเลยครับ เต็มที่ เหล้าหรือเบียร์ดีครับ”พี่ตูนถาม
“เอ่อ พี่ครับ ไอ้บัสมันเป็นมุสลิมครับพี่ มันไม่กินของแบบนั้นหรอก”ผมบอกพี่ตูน
“ไม่เป็นไรว่ะไอ้เกม กูก็อยากจะลองเหมือนกัน”ไอ้บัสมันบ้าแล้ว
“มันต้องอย่างนี้ซิน้องพี่”พี่ปิ้งซึ้งเงียบมาตลอดพูดขึ้น
“แล้วนั่นไอ้นั่นมันไปกินรังแตนมาจากไหนหรอเกม เห็นนั่งหน้ามุ่ยตั้งมาเข้ามาแล้ว”พี่ไผ่กระซฺบกับผม
“ผมก็ไม่ทราบครับ เห็นเป็นตั้งแต่รอผมอยู่หน้าห้องผมแล้ว พอดีผมกับไอ้บัสเพิ่งไปทำธุระ กลับมาช้ามั้ง สงสัยต้องโกรธผมแน่เลยมังคับ”ผมกระซิบกระซาบกับพี่ไผ่ กับพอดีที่สายตาผมหันไปทางพี่ต้อมที่ตอนนี้จ้องมองผมกับพี่ไผ่เหมือนจะฆ่าเราทั้งสองคนเลย จนทำใฟ้ผมกับพี่ไผ่ต้องวงแตกกระเจิงกันไปเลย
“เฮ้ย พวกคุณช่วยเอารังต่อรังแตนออกจากปากไอ้ต้อมมันหน่อยดิ พวกคุณดูมันทำหน้าดิ”พี่ไผ่พูดกับพี่ แล้วทุกคนก็หันไปทางพี่ต้อม แล้วก็หัวเราะกันพร้อมๆกัน พี่ต้อมยิ่งหน้ามุ่ยกว่าเดิมเข้าไปอีก ก็พอดีกับที่บนเวลาทีนักร้องกำลังเล่นเพลง เก้าอี้ไม้ ของ ตุด นาคอน อยุ่พอดี ซึ่งเป็นอีกเพลงหนึ่งที่ผมชอบ แล้วบรรยากาศก็เริ่มดีขึ้น
ไปไหน้อ่า……
เก้าอี้ไม้ตัวเก่าที่พ่อเฒ่าเฝ้าคอย คอยใครที่จากไป
ลับหายไกลตาเวลา แก่ลง ลูกหลานคงจากจร
ไกล… ไปไขว่คว้า… สร้างฐานะครอบครัว
หมาน้อยตัวเก่ากับหลานเจ้าเกิดมา ทิ้งให้ยายเลี้ยงดู
สองเฒ่าสองแก่ร่อแร่ ชรา นานๆพ่อกลับมา หาเจ้าลูกน้อย เกินใจผูกสายใย
จำเป็นต้องบีบบังคับ ตัวเองจากถิ่นฐาน
ทำงานจุนเจือทางบ้าน เมื่อลูกนั้น เติบโต
อดทนเอาหน่อย เก็บเงินนิดหน่อย ลำบากเอาหน่อย
สร้างฝันนิดหน่อย ไม่นานเกินคอยพ่อจะกลับมา ซื้อตุ๊กตา เสื้อผ้า มาฝาก….
เก้าอี้ไม้ตัวเก่าที่พ่อเฒ่านั่งคอย คอยจนใกล้ผุพัง
เข็มนาฬิกา เคลื่อนคลาบ่ายลง คงพลบค่ำไม่นาน นานคงตายจาก… หากยังไม่กลับมา
อดทนเอาหน่อย เก็บเงินนิดหน่อย ลำบากเอาหน่อย
สร้างฝันนิดหน่อย ไม่นานเกินคอย พ่อจะกลับมา
อดทนเอาหน่อย เก็บเงินนิดหน่อย ลำบากเอาหน่อย
สร้างฝันนิดหน่อย ไม่นานเกินคอย พ่อจะกลับมา
ซื้อตุ๊กตา เสื้อผ้า มาฝาก….
“พี่ครับ ถ้าผมจะขอเพลงได้หรือเปล่าครับ”ผมถามพี่ต้อม
“ได้ดิครับ”พี่ตูนถาม ผมเลยเขียนเพลงส่งให้เด็กเสิร์ฟ ผมขอเพลง ยามเย็น ของวง ดอกหญ้า ไป ซักพักบนเวลาทีก็บอกว่าเพลงนี้ พี่ๆเค้าเล่นไม่เป็น และช๊อดเด็ดที่สุดคือ พี่ต้อมอาสาขึ้นไปเล่นกีต้าเอง
“เฮ้ยไอ้ต้อมคุณเอาจริงหรอว่ะเนี้ย”พี่ปิ้งถาม
“ก็เอาจริงดิคุณ และเดี๋ยวให้เกมขึ้นไปร้องเพลงนี้แล้วกัน เดี๋ยวพี่เล่นกีต้าร์ให้”พี่ต้อมหันมาทางผม ผมหันไปทางไอ้บัสที่ตอนนี้ นั่งหน้ามุ่ยอยู่อีกแล้ว สงสัยมันหมั่นไส้ผมมั้ง
“ครับผม”ผมตอบรับ พร้อมกับยิ้ม ก็เป็นเพลงที่ผมรักเลยละครับ ทำไมจะไม่ได้ละครับ แล้วผมกับพี่ต้อมก็ขึ้นไปบนเวที ซึ่งครั้งนี้เป็นครั้งแรกของผมเลยครับ รู้สึกโคตรๆๆๆๆๆๆๆๆๆตื่นเต้น และแกมหนักใจอยู่เหมือนกันว่าคนเค้าจะฟังได้หรือเปล่านะ แต่คนส่วนใหญ่ก็ปรบมือให้ผมกับพี่ต้อมดังกันระงมเลยครับ ผมเพิ่งมารู้ทีหลังเองนี่ครับว่า ไม่เคยมีใครทำอย่างที่ผมกับพี่ต้อมทำมาก่อนเลย คือไปร้องเพลงบนเวทีเอง แล้วพี่ต้อมก็เริ่มบรรเลงดนตรี พี่ต้อมเล่นได้ไม่ติดขัดเลย แต่ผมกลัวว่าผมจะทำเสียมากกว่าเนี้ยแหละครับเพื่อนๆ
เพลง ยามเย็น
วง ดอกหญ้า
ยามย่างสู่ยามเย็น ลมเย็นพัดปลิวมา พัดยอดหญ้าใบไผ่ลอยปลิวไสว
นกบินคืนสู่รัง พากันบินเป็นคู่ บินหยอกเหย้าดูเจ้าช่างสุขสันต์
แต่ฉันนั่งซึมเหม่อลอยที่ริมนอกชานบ้าน สู่ยามเย็นคราวใดต้องเหงาใจ
* นั่งมองดาวโดดเดียวมานานวันคืนก็ผ่านๆไปทุกวันก็ยังเฝ้ามองอยู่ รอใครบางคนกลับ
คิดถึงวันคืนที่เป็นวันวาน วันนั้นที่มีเรากันและกัน เคยมีเธอเคียงข้าง จับมือยืนชมจันทร์
ก่อนสาวบ้านนารักสวยเข้าเมืองไปเรียนต่อ ลาแม่พ่อจากบ้านเกิดเมืองนอน
เธอเคยสัญญิ่งสัญญาจะกลับมาสิ้นปี แต่ผ่านไปแล้วเลยปีไม่เห็นกลับมา
** ไปอยู่ที่ไหนแม่ดาวข้างแรมไม่เห็นว่าเธอกลับคืนย้อนมา วันนี้ฉันรออยู่ รอเธอนั้นคืนกลับ
พ่อก็รอ แม่เจ้าก็รอ ทุกคนก็รอให้คืนกลับมา ไม่เห็นแม้เงาเธอ จะกลับคืนมาบ้าน
เธอลืมบ้านแล้ว……. อืม…..
ยามย่างสู่ราตรีคืนนี้มีแสงดาว เปล่งวับวาวจรัสทั่วท้องฟ้า
จึงฝากความคิดถึงรำพัน ฝากดาวถึงเธอหน่อย ว่ามีคนคอยยังรอให้เธอกลับมา
( **,** )
พอจบเพลงก็มีเสียงปรบมือดังกันอย่างเกรียวกราว ทำให้ผมหน้าบานเหมือนจานเลย แต่ผมก็ต้องขอบคุณพี่ต้อมด้วย ที่อาสามาเป็นคนเล่นกีต้าร์ให้ผม ผมกับพี่ต้อมก็เดินลงมาจากเวทีโดยที่มีคนมาขอจับมือ แล้วกล่าวคำเชยชมอย่างมากมาย เหมือนผมขึ้นประกวดร้องเพลงเลย และยังมีโต๊ะของพี่คนที่มาห้ามไอ้บัสมันไม่ให้ต่อยไอ้หนุ่มคนนั้น แต่ไอ้คนนั่นมันทำหน้าหมั่นไส้มายังผม ผมเลยไม่สนใจมัน แต่ก็ยิ้มขอบคุณให้กับพี่คนนั้น แล้วผมเดินผ่านเลยกลับที่โต๊ะของตัวเอง

“ไอ้บัส คุณว่ากูร้องเพลงเป็นไงบ้างว่ะ” ผมยังเห่อตัวเองอยู่
“ไม่รู้โว๊ย” มันพูดพร้อมทำหน้านิ่วใส่ผม แล้วนั่งลงไม่มองหน้าใคร เอ้าไอ้นี่ชักจะบ้าไปใหญ่แล้ว เห็นเมื่อกี้ยังดีๆอยู่เลย นี่มันผีเข้าผีออกหรอว่ะ
“เกมรู้ป่าวว่าทำไมพี่ให้เกมเป็นคนร้องเพลงนี้” พี่ต้อมหันมาถามผม
“ไม่ทราบคับ” ผมตอบไปพร้อมกับส่ายหน้า
“ก็พี่ได้ยินเกมร้องเพลงนี้ออกจะบ่อยไป พี่เลยคิดว่าเพลงนี้ เกมน่าจะอยากร้อง” พี่ต้อมพูดพร้อมกับยิ้ม
“แหม! ช่างรุ้ใจกันจิงๆนะครับ” ไอ้บัสพูดกระแทกแดกดัน
“ก็พี่อยู่ข้างห้องเกมนี่ครับ พี่เลยรู้ไงว่าเกมชอบร้องเพลงนี้ อ้าว! นี่บัสไม่รู้หรอกหรือครับ เห็นเป็นเพื่อนกัน พี่คิดว่าจะรู้เสียอีก” พี่ต้อมพูดไปแบบน้ำเสียงเรียบๆ ผมเลยเดาไม่ออกว่าพี่ต้อมพูดกระแทกไอ้บัสหรือป่าว หรือจะพูดไปแบบที่ไม่คิดอะไรตามแบบคนไม่ค่อยติดใจอะไรกับใครเค้าอยุ่แล้ว แต่อย่างน้อยมันก็ทำให้ไอ้บัสเถียงพี่ต้อมไม่ขึ้นเลย ได้แต่นั่งเงียบ
“ออ! ไอ้บัสมันไม่รู้หรอกคับพี่ ผมไม่ค่อยได้ไปไหนต่อไหนกับมันมากมายหรอก พอดีมันอยู่กับอีฟแฟนมันเสียมากกว่า” ผมบอกพี่ต้อมไป โดยไม่รู้ว่าคิดไร แต่พูดออกไปซะงั้น แต่ก้จิงนี่คับ ไอ้บัสมันอยู่กับอีฟเสียมากกว่า
“เออ กูไม่รู้หรอกว่าคัยรู้คัยไม่รู้ แต่ตอนนี้กูว่ามาดื่มกันต่อดีกว่าว่ะ” พี่ตูนพูดแทรกขึ้น พวกเราก้เลยนั่งกินกันต่อ ไอ้บัสกับพี่ต้อมก็หยุดกัดกันแล้วคับ เพาะดูท่าไอ้บัสมันจะเมาแล้ว แล้วไอ้บัสก็สะกดผมว่ามันอยากไปห้องน้ำ ผมเลยพามันไป ผมรู้ว่ามันยังไม่เมขนาดที่ไปไม่ไหวหรอก ผมรุ้ว่ามันทำสำออยของมันมากกว่า ผมเดินไปห้องน้ำกับมัน แล้วไอ้บัสมันก็เผลอไปเหยียบเท้าใครคนหนึ่งเข้า ไอ้คนนั้นมันหันมามองหน้า
“ผมขอโทษแทนเพื่อนผมด้วยครับ มันเมาแล้วครับ”ผมขอโทษของโพย
“ได้ไงว่ะ เหยียบตืนกูแล้วจะมาขอโทษแค่นี้เนี้ยนะ”มันไม่ยอมครับ ไรว่ะ หน้าตาก็ดีนะครับ แบบว่าตัวขาวๆคิ้วเข้มๆ จมูกนิด ปากหน่อย แต่ทำไมปากหมางี้ว่ะ ไอ้สัด….
“อ้าวพี่ ผมก็ขอโทษแล้วนะ เพื่อนผมมันไม่ได้ตั้งใจ พี่จะให้ผมทำยังไงอีกเนี้ย”ผมถามมัน หมั่นไส้โคตรอ่า ยิ่งหน้ามันกวนตีนอยู่ด้วย
“ให้เพื่อนมึงมากราบตีนกูดิ แน่จริงป่าวละ”ช่างกล้าขอนะไอ้ห่า
“มันจะมากไปแล้วมั้งพี่”ผมก็พูดเกือบจะตะโกนไปเลย แต่โชคดีที่เสียงเพลงมันดังมากกว่า เลยกลบเสียงผมซะ
“ถ้าเพื่อนมึง(ของใช้คำว่ามึงนะครับ เพราะมันพูดแบบนั้นจริงๆครับ)ไม่กล้ากราบตีนกู กูก็จะให้เพื่อนมามึงกินตีนแล้วกัน”มันพูด
“เข้ามาดิ อย่าคิดว่าผมทำไรพี่ไม่ได้ ผมไม่ยอมให้พี่ทำไรเพื่อนผมแน่”ผมพูดแบบสู้ตาย แต่ในใจลึกๆ ผมก็กลัวว่ามันจะทำผมจริงนะครับ จนไอ้บัสมันไม่รู้ตื่นเมื่อไหร่
“นี่พี่ รู้สึกว่าพี่นี่มันจะเหลือเกินนะ”ไอ้บัสกล้ากว่าผมอีก อย่าไปท้ามันนะคุณ นั่นมันคนบ้านะโว้ย
“ไม่เมานี่หว่า แสดงว่าตั้งใจเหยียบตีนกู” ไอ้นั่นพูด
“ใช่ กูตั้งใจ แล้วจะทำไม กูเห็นหน้ามึงแล้วโคตรเกลียดว่ะ”ไอ้บัสมันท้าทาย ไอ้นั่นเริ่มตั้งท่าจะต่อยไอ้บัส ผมก็เข้าไปขวาง แต่ก่อนนั้น มีหนุ่มคนหนึ่งเข้ามาห้ามมันซะ
“ไอ้ห่าโจ กูว่าแล้ว ทำไมคุณหายไปนานจัง ว่าแล้วต้องมาวางก้ามแถวนี้อีกแล้ว น้องครับ พี่ต้องขอโทษด้วยครับ มันก็อย่างงี้แหละ เวลาเมา มันจะชอบเที่ยวหาเรื่องเค้าไปทั่ว”พี่คนนั้นขอโทษผม ถึงแม้ผมจะอยู่ในอารมภ์เสียในตอนแรก แต่พอพี่คนนั้นมาขอโทษ ผมก็ใช่จะใจร้ายนี่ครับ
“ครับผม ไม่เป็นไรครับ”ผมพูดไป แต่ในใจยังตื่นเต้นอยู่เลย พอพี่เค้าไป ผมก็หันมาทางอ้บัส ที่ตอนนี้เพิ่งจะรู้ตัวว่าผมจ้องมันอยู่ มันเลยทำหน้าหงอยเหมือนคนมีความผิดที่ต้องได้รับการลงโทษ
“ตกลงว่า…คุณไม่ได้เมาใช่มั้ย”ผมถามมัน มันพยักหน้าอย่างรู้สึกผิด
“แล้ว…” แต่แทนที่ผมจะทันพูด
“ก็กูอยากอยู่กับคุณสองคนนี่”มันพูด แหวะ! น้ำเน่าโว้ย
“เว้อ…………………………แล้วคุณ”ผมพูดพร้อมกับมอบมะเหง็กกับมันไปหนึ่งดอก
“จะฉี่เปล่าคุณ ถ้าไม่กูจะได้ไปนั่งที่โต๊ะ”ผมถามมัน
“ฉี่คราบ….ท่าน”มันพูดแล้วยิ้มแบบอายๆ มันน่ารักอ่าครับ ไอ้ตายดิ แล้วผมกับมันก็เดินกลับไปที่โต๊ะ
“ไปนานจัง บัสอ้วกหรอครับ”พี่ตูนสุดหล่อถามผม
“เปล่าหรอกพี่ พอดีมีเรื่องนิดหน่อยครับ”ผมตอบไปแบบไม่ใส่ใจ แต่จู่พี่ต้อมก็ลุกขึ้น
“ไหนเกม โต๊ะไหนมัน….”พี่ต้อมถามแบบลุกลี้ลุกลน
“ช่างเหอะพี่ ผมไม่ติดใจ เคลียร์กันแล้วครับ”ผมตอบพี่ต้อม พี่ต้อมเลยนั่งลง แต่ยังคงมองไปรอบๆ
“เอาครับน้องบัส พี่ชงให้ใหม่”พี่ปิ้งชงเหล้าให้ไอ้บัส แล้วพี่ปิ้งก็ชงแล้ว ชงอีก ผมก็นั่งเคี้ยวกะโป๊ะเล่นๆไป (เพื่อนๆร็จักกะโป๊ะเปล่าครับ คือมันเป็นแท่งยาวๆใหญ่ ที่ทำจากปลาผสมแป้ง คล้ายๆกับข้าวเกรียบปลาอ่าครับ แต่เวลาเค้าจะมาทำ ก็จะหั่นเป็นแท่งเล็กคล้ายๆกับเฟรนฟรายอ่าครับ แล้วเอามาทอด เป็นกับแกล้มเหล้า เบียร์ได้ครับ ถ้าเป็นเพื่อนๆที่อยู่ทางใต้ผมว่าต้องรู้จักแน่ๆเลย) จนผมอดขำไม่ได้ ที่ตอนนี้ไอ้มันหน้าแดงหูแดงหมดแล้ว เพราะมันตัวขาว พอมีแอลกอฮอล์เข้าไปมากๆ มันก็เลยแดงไปทั้งตัว และแล้วมันก็เมาดิครับ
ผมเลยต้องเป็นคนพาไอ้บัสกลับเอง(โด่! มาขัดขวางกูจิ้งคุณเนี้ย ผมนึกในใจนะ ไม่ได้พูดออกมา) ที่จิงกะว่าจะกินให้เมานั่นแระ แต่มีไอ้บัสมาด้วย เกิดทั้งผมทั้งมันเมาแล้วคัยจะดูแลมันล่ะน้อ (ห่วงเพื่อนครับ ก็มันดันเกิดมาน่ารักนี่ครับ อิอิ พูดเล่นคับ )
“แล้วนี่พรุ่งนี้เรียนกี่โมงคับ” พี่ต้อมถามผม
“บ่ายโมงพี่ วิชาแล็บอ่า “ ผมตอบไป โดยมองหน้าพี่ต้อมที่มองมายังไอ้บัสแบบสมเพชมันอ่า (มั้ง! หรือจะคิดไปเองว่ะ) แล้วผมก็ต้องขับรถเองเลยอ่าคับ โดยมีไอ้บัสนอนคางซบหลังผมอยู่ แต่มีพี่ปิ้ง นั่งซ้อนท้ายด้วย กลัวว่าไอ้บัสมันจะหลุดจากรถไป กลายเป็นว่า ผมอดนั่งซ้อนท้ายพี่ต้อมกลับเลยอ่า เซ็งเป็นบ้าเลยอ่า ไอ้เพื่อนตัวขัดขวาง
“โห ไมตัวหนักงี้ว่ะ “ พี่ปิ้งบ่น หลังจากยกไอ้บัสลงจากรถ
“ไม่ไปส่งบัสที่หอหรอ” พี่ต้อมถาม
“ไม่ต้องหรอกพี่ แฟนมันไม่อยู่ เผื่อมันจะอ้วก เดี๋ยวให้นอนที่นี่แระ เดี๋ยวผมดูแลเอง” ผมบอกพี่ต้อมไป
“เอางั้นหรอ” พี่ต้อมถาม ผมพยักหน้า
“แล้วมันจะเป็นไรว่ะไอ้ต้อม น้องเค้าจัดการเองแหละ มึงนี่เสือกว่ะ” พี่ปิ้งพุดแบบกวนๆ
“งั้นฝากดูแลด้วยนะ เกม “ พี่ปิ้งพูด
“ครับผม…. โหพี่…. นี่เพื่อนผมนะ ผมไม่เอามันไปขายต่างด้าวหรอก”ผมพูดแบบติดตลก พี่ๆเค้าเริ่มแยกย้ายกลับกันแล้ว เหลือแต่พี่ต้อมที่ยังยืนอยู่
“อย่าทำไรเพื่อนนะเกม พี่หึงนะ” พี่ต้อมเดินเข้ามาพูด ผมตกใจมากเลยที่ได้ยินคำนั้น โชคดีนะคับ ที่พี่ต้อมพูดเบา ถ้าดังกว่านี้ ได้อายคนห้องอื่นไปแล้ว และไอ้บัสก็เมามันคงไม่ได้ยินหรอกมั้ง
“หง…หึง ไรของพี่อ่า” ผมถามออกมา
“หุ…หน้าแดงดัวะ” พี่ต้อมแหย่ผม ผมหลบหน้าพี่ต้อม
“พี่พูดไรอ่า ผมไปนอนแล้ว ทีหลังอย่าพูดบ้าๆนะพี่ ผมกับพี่ไม่ได้เป็นไรกัน”ผมพูดแบบกระซิบ แต่น้ำเสียงจริงจัง
“อะ… จิงง่ะ” พีต้อมยังแหย่ต่อ ไม่ได้เห็นพี่ต้อม ยิ้มแย้มหยอกเหย้าผมแบบนี้นานแล้วคับ เห็นแล้วอยากให้เป็นแบบนี้นานๆจัง
“มาๆ เดี๋ยวพี่ช่วยแบกบัสให้” ว่าแล้วพี่ต้อมก็มาแบกไอ้บัสไปนอน แล้วเดินออกมา ผมเดินตามออกมาส่ง
“พี่กลับห้องก่อนนะ แล้วเดี๋ยวมาหาพี่ด้วย พี่มีไรจะคุยด้วยนะคับ” พี่ต้อมพูดพร้อมกับยิ้มหวานๆมาแบบผิดปกติและพูดเพราะแบบผิดปกติเลยอ่า แล้วเดินกลับไปไขกุญแจห้องตัวเอง แล้วหันกลับมามองหน้าแล้วยิ้มอีกที ก่อนจะเดินเข้าห้องไป ผมเนี้ย ไม่รู้ดิ บอกความรู้สึกไม่ถูกอ่า เดาอารมภ์พี่ต้อมไม่ถูกเลยคับ ว่ามันจะเป็นไปในทางไหนกันแน่ แล้วพี่เค้าจะเรียกไปทำไมกันนะ(ตื่นเต้นๆ)
“ไอ้บัสเอ้ย เมาเหมือนหมา แล้วคุณจะไปทำไม๊ว่ะ” ผมพูดไปส่ายหน้าไป พร้อมถอดเสื้อมัน(ถอดเสื้ออย่างเดียวครับเพื่อนๆ ส่วนกางเกงมันยังอยุ่ครบครับ ถึงจะอยากถอดก็ไม่ถอดหรอกครับ มันใส่กางเกงขาเดฟรัดแน่นซะ นั่งมองหน้ามันๆ ก็น่ารักเหมือนเดิมแระคับ ถึงแม้ตอนนี้หน้ามันจะแดงมากกว่าปกติ คงเป็นเพราะฤทธิ์แอลกอร์ฮอล์ ผมนึกขึ้นได้ว่าพี่ต้อมให้ไปหาที่ห้อง แล้วผมก็ผมเคาะประตู
“เปิดเลยคับ พี่ไม่ได้ล๊อก” พี่ต้อมตะโกนมา ผมเลยเปิดเข้าไป โห…. นี่มันรังคนหรือรังหนูว่ะ ทำไมวันนั้นมันยังไม่รกแบบนี้อ่าเนี้ย
“เอ่อ…พี่มีไรจะคุยกับผมหรอคับ” ผมพูดไป พี่ต้อมได้แต่ยิ้ม แล้วนั่งเงียบ
“อ้าวพี่! ผมง่วงแล้วนะ จะพูดไรก็พูดมาดิครับ” ผมบอกไปแบบอารมภ์เสียอ่า พี่ต้อมลุกขึ้นเดินเข้ามาหาผม
“เกม มานี่มา” พี่ต้อมพูด พร้อมดึงผมไป แล้วปิดประตูห้อง

“ เกม พี่ไม่รู้นะว่านี่คืออะไร ว่าพี่รู้สึกยังไงกันแน่ แต่พี่ได้คิดมานานแล้ว พี่กลุ้มใจมาหลายวันแล้วคับ แต่พี่รู้อย่างเดียวว่าพี่จะต้องบอกเกมให้ได้ แต่พี่ไม่รู้ว่าเกมพร้อมที่จะฟังเรื่องของพี่ยัง” พี่ต้อมพูดแบบจิงจังมาก
“อือ….” ผมไม่พูดไร ได้แต่ทำหน้าเฉยเมยและมองหน้าพี่แก แต่ในใจหรอคับ ตื่นเต้นมากๆเลย อยากรุ้ๆ
“ เกม……………………มาเป็นแฟนพี่นะ ”
พี่ต้อมพูดออกมาจนได้ ส่วนผมหรอความรุ้สึกเหมือนติดปีกเลยอ่า เหมือนตัวลอยเลยคับ รู้สึกเหมือนหน้าผมจะร้อนบ้างเย็นบ้าง ทำตัวไม่ถูก อยู่ไม่เป็นสุข เหมือนภูเขาทั้งลูกตกมาทับอยู่บนอกแค่ฝ่ามือซะงั้น
“ว่าแต่เกมมีคัยยังอ่าตอนนี้ ถ้ามีพี่จะเป็นคนถอยเองนะคับ” ผมไม่ตอบ ยังอึ้งอยู่คับๆ
“ออ…หรือว่าจะเป็นน้องบัสหรอคับ” พี่ต้อมพูด พร้อมกับสายตาที่หมองลง ผมตื่นขึ้นจากฝันเลยพอได้ยินชื่อไอ้บัส
“ป่าวคับพี่ๆ ไอ้บัสเป็นเพื่อนผมคับ” ผมตอบไปแบบลุกลี้ลุกลน
“งั้นแปลว่าโสด” พี่ต้อมพูดพร้อมจ้องตาผม เหมือนจะต้องการคำตอบ ผมก็ได้แต่พยักหน้าคับ ปากผมมันชาไปหมด
“งั้นมาเป็นแฟนพี่นะครับ” พี่ต้อมพูดและยังคงจ้องตาเหมือนจะเค้นเอาคำตอบให้ได้ ผมพยักหน้าพร้อมกับยิ้มอย่างออกหน้าออกตา ก็ความฝันเราเป็นจิงแล้วเนี้ย
“ไม่เอาอ่า พูดออกมาเลย ว่าเป็นแฟนกันได้หรือเปล่า อย่าเอาแต่พยักหน้า” พี่ต้อมพูด แต่น้ำเสียงเข้มขึ้นกว่าเดิมหลายเท่า
“คับผม…” ผมพูดพร้อมกับโผเข้ากอดพี่ต้อมทันที แล้วน้ำตาผมก็พรั่งพรูออกมาอย่างมากมาย แต่เป็นน้ำตาแห่งความดีใจ ซึ่งต่างกับน้ำตาแห่งวันวานที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวด
“เกมรู้มั้ย ว่าพี่ดีใจแค่ไหนที่เกมรับคำขอจากพี่ กลัวว่าเกมจะปฎิเสธพี่ ” พี่ต้อมพูดพร้อมกับลูบหัวผมเบา มันรุ้สึกอบอุ่นมากๆเลยคับ เป็นอ้อมกอดที่ผมปรารถนามานานแสนนาน และไม่คิดว่าจะได้มันมา
“พี่ไม่ได้เป็นเกย์นะคับ แต่ไม่รู้ว่าพี่เริ่มคิดกับเกมแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่” พี่ต้อมพูดต่อ
“และพี่รู้ป่าวละคับ ว่าผมรอวันนี้มานานแค่ไหน หวังแบบลมๆแล้งๆอ่า และไม่เคยจะคิดว่ามันจะมีวันนี้ได้ ผมก็ดีใจคับที่วันนี้ได้มาถึงเสียที” ผมพูดออกไปจากใจจิง พร้อมกับเสียงสะอึกเพราะร้องไห้
“พี่ขอโทดนะคับที่พี่ใช้เวลาคิดนานเกินไป จนทำให้ใครบางคนต้องเจ็บปวด ต่อไปนี้เกมไม่ต้องรอแล้วนะคับ” พี่ต้อมพูดกับผมอย่างนุ่มนวล จนผมลืมพี่ต้อมคนที่ห้าวๆ ชอบไปมีเรื่องกับคนอื่นไปชั่วขณะ
“พี่ไม่รู้หรอก ว่าข้างหน้าจะเป็นยังไงต่อไป แต่พี่จะรักษาสิ่งๆนี้ไว้ให้ดีที่สุดและให้นานที่สุด ที่พี่พูดมันอาจจะฟังดูว่ามันเลี่ยน ไม่จิงใจ แต่นี่คือความรุ้สึกของพี่จิงๆ ที่อยากบอกให้เกมรู้ และให้เกมเชื่อใจที่จะมาเป็นแฟนพี่”
พี่ต้อมพูดต่อ
“คับผม..” ผมพูดแค่นั้น แล้วกอดพี่ต้อมแน่นกว่าเดิม
“ไม่มีอะไรจะพูดหรือบอกพี่บ้างเลยหรอ กับความรุ้สึกที่ผ่านมา” พี่ต้อมพูด เชิงตั้งคำถาม
“พี่ก็น่าจะรู้แล้วนี่คับ ว่าผมเป็นยังไง คิดยังไง กับความรู้สึกที่ผ่านมา” ผมตอบไป
“คับ..” พี่ต้อมพูดแค่นั้น
“เปล้ง……..” เสียงดังเหมือนอะไรแตกมาจากห้องผมนี่ ผมกับพี่ต้อมรีบวิ่งกลับไปดู เห็นไอ้บัสมันอาละวาดใหญ่เลย

“เฮ้ยๆ ไอ้บัส คุณทำ~ตัวเงินตัวทอง~ไรของคุณว่ะ เมาแล้วลายเคงเลยนะคุณ”ผมตะคอกใส่มันไปทั้งเมาๆนั่นแระ
(ลายเคง = สร้างเรื่องหรือทำตัวมีปัญหาอ่าคับ เป็นคำภาษาใต้ที่ใช้กันแต่ไม่รู้ว่าจะทั่วไปหรือป่าวคับ)
“กูจะเข้าห้องน้ำ” มันพูด ผมเลยพามันไปห้องน้ำ แล้วมันก็เริ่มบรรเลงเพลงอ้วกเลยคับ
“อ้วก……….”ไอ้บัสมันอ้วก ผมลูบหลังมัน แล้วผมก็บ่นไปเรื่อยของผมแระคับว่ามันกินเยอะบ้าง ไม่รู้สภาพตัวเองบ้าง
“แหม….สอนบัสจังนะ อย่างกับเกมรู้สภาพตัวเองนั่นแหละ ว่ากินไหวแค่ไหน” พี่ต้อมเริ่มกัดผม ผมเถียงไม่ขึ้นดิคับ อิอิ มันอ้วกไม่ตรงโถอ่า เต็มพื้นห้องน้ำเลย สัด ! มีทั้งเศษสรรพเพเหระ ตั้งแต่ปูอัดยันผักอะไรซักอย่าง ซึ่งผมคงไม่ต้องบรรยายให้เพื่อนๆฟังหรอกนะครับ ผมเชื่อว่าเพื่อนๆไม่อยากจะให้ผมบรรยายหรอกใช่มั้ยครับ
“พาไอ้บัสไปนอนหน่อยดิพี่ เดี๋ยวผมล้างพื้นห้องน้ำก่อน” ผมหันไปพูดกับพี่ต้อมหลังจากล้างปากมันแล้ว
“กูไปเองได้โว้ย” แหม ยังจะมาทำเป็นเก่ง หมั่นไส้ว่ะ
“เอาไปเลยคับพี่ เอามันไปทิ้งคลองเลย” ผมพูดไปงั้นแหละ แต่พี่ต้อมกลับมาเอามันไป แล้วพาไปนอน หลังจากล้างห้องน้ำเส็ด ไม่ใช่ดิต้องบอกว่า ล้างอ้วกไอ้บัสหมด ออกมาจากห้องน้ำ เห็นพี่ต้อมเดินดูโน่น นี่ นั่น
“โห… หนังสือเยอะแยะเลย ไม่นึกแฮะ ว่าจะอ่านหนังสือแนวนี้ด้วย” อ้าวตกลงว่าจะชมหรือว่าหลอกด่ากันแน่ ผมอ่านหนังสือแนวสืบสวนสอบสวนที่มีเรื่องศาสนามาเกี่ยวข้อง เช่น ปริศนาหอสมุดอเล็กซานเดรีย,ปริศนาขุมทรัพย์แห่งเทมปลาร์, เทวากับซาตาน,สาวกที่สิบสาม,สาส์นที่หายไป,เดอะฮิสทอเรียน ล่าตำนานเลือด
หรือไม่ก็แนวแฟนตาซี เช่น The lord of the ring, Harry Potter, เซปติมัส ฮีปส์ , เพอร์ซี่ แจ็กสัน ,นาร์เนียร์ ไรแบบนี้อ่าคับ หรือจะพูดให้ถูกคือ อ่านทุกอย่างที่ขวางหน้า
“อืม…แล้วพี่คิดว่าหน้าอย่างผมจะอ่านแนวไหนหรอ” ผมตอบไปแค่นั้น พี่ต้อมยืนอมยิ้มก่อนจะพูด
“ก็… หนังสือพวกทีวีพูลไง” พี่ต้อมพูดแล้วก็หัวเราะ
“หึ…ผมไม่อ่านหรอกคับพี่ ผมไม่ใช่พวกบ้าดารานะ” ผมพูดไปพร้อมกับหัวเราะไปด้วย
“มีหนังสือพวกแนวปฏิวัติด้วยหรอ… ไม่ยักนึกว่าจะชอบแนวคิดคอมมิวนิสต์ด้วยนะ แต่ก็…หน้าตาให้นะ พี่ว่า..”พี่ต้อมพูด อ้าวจะด่ากันก็ด่ากันตรงๆเลยดิ
“เกม! คืนนี้พี่ขอนอนด้วยนะคับ” เอ้า นึกไงล่ะนั่น จะมานอนด้วย ผมคิดอยู่พักหนี่งก่อนตอบพี่เค้าไป
“นอนก็นอนคับ ว่าแต่นึกไงล่ะ ถึงได้อยากนอนที่นี่” ผมสงสัยอ่า
“พี่กลัวแฟนพี่โดนปล้ำอ่า เอ้ย! ไม่ใช่ดิ พี่กลัวแฟนพี่ไปปล้ำคนอื่นอ่า เหอะๆๆ” พี่ต้อมพูดมาได้
“นี่ผมหน้าตาหื่นกามมากขนาดนั้นเลยหรอคับ”
“หึ หึ หึ ยังไงก็ไม่ไว้ใจอ่า” ยังพูดได้อีก พูดไม่พูดเปล่า กลับล้มตัวลงนอนข้างไอ้บัสมันเลย
“ไม่เอาพี่ ไปอาบน้ำก่อนคับ ไม่งั้นผมไม่ให้นอนด้วยนะ” ผมทำหน้าตาแบบจิงจัง
“ไหงงั้นล่ะ ทีน้องบัสยังไม่อาบเลยอ่า แล้วไม่อาบบ้างจะเป็นไรไป้……” โห…คิดได้ไงเนี้ย อุตส่าห์ไปเอาไอ้บัสมันมาเกี่ยวได้อีกน้อ แฟนผม
“ไม่ต้องมาเล่นลิ้นเลย ไปอาบ…น้ำ…ก่อน” ผมพูดพลางดึงเสื้อพี่ต้อมให้แกลุกขึ้น แต่แกยังนอนเฉยเมย
“งั้นผมไม่ให้นอนนะ พูดจิงๆนะพี่ ผมไม่ชอบคนซกมก” ผมพูดตรงไปป่าวอ่า
“ก็ได้คราบบบบบบบบบบ”พี่ต้อมลากเสียงยาว แล้วลุกขึ้น เดินออกไป แต่ก่อนจะถึงประตู ยังหันกลับมาพูดอีก
“ห้ามล๊อกประตูนะ ไม่งั้น เกมกับบัสไม่ได้หลับแน่คืนนี้” พี่ต้อมพูดย้ำผม
“แล้วพี่จะทำไรหรอ” ผมถามแบบกวนๆ
“พี่ก็จะเคาะประตูอยุ่ทั้งคืนเนี้ยแหละ ให้มันรู้ไป ว่าเกมจะเปิดให้พี่หรือป่าว” พี่ต้อมตอบมาแบบล้อเล่น แล้วเดินกลับห้องไป ผมเลยลุกขึ้นไปปิดประตู แล้วเดินไปอาบน้ำ พออาบเส็ดเดินออกมา เห็นพี่ต้อมนอนอยู่ แต่ไม่ได้นอนใกล้ไอ้บัสนะคับ นอนเสียไกลเลย แต่ผมไม่ได้ถามไร ผมเดินไปใส่เกงบอลกับเสื้อกล้ามตัวโปรดเพราะใส่นอนแล้วมันสบายเกมน้อยอ่า อิอิ
“มาๆ มาเร้ว มานอนข้างพี่นี่มา” พี่ต้อมพูดพร้อมกับขยับไปที่เบาะ พลางตบเบาะ
“เหอะ… พี่นอนไปเลยทางซ้าย เดี๋ยวผมจะนอนทางขวาแล้วกัน”ว่าแล้วผมก็ล้มตัวลงนอน แต่ลืมดูไปว่าพี่ต้อมแอบขยับเบาะให้ไอ้บัสนอนสุด เบาะเลย จนเหลือพื้นที่ไว้ได้ประมาณ สองคน
“อ้าว ไหนเบาะละพี่” ผมบ่น ยังจะมาเล่นตัวอีกนะผมเนี้ย ทั้งๆที่ในใจอยากจะไปนอนกอดพี่ต้อมจะตายอยู่แล้ว
“ก็มีเบาะแต่ไม่นอนเองนี่”พี่ต้อมพูดออกมาด้วยน้ำเสียงภาคภูมิใจกับผลงานที่ตัวเองทำไว้ ผมเลยต้องลุกขึ้นไปนอนข้างแกโดยดี (ไม่รู้ว่าโดยดีหรือว่าง่ายดายกันนะ) พอผมล้มตัวนอนพี่ต้อมก็
“มาๆ มาให้กอดเสียดีๆ กว่าจะได้กอดแบบเต็มๆก็ครั้งแรกเนี้ยแหละ” พี่ต้อมพูดพร้อมกับดึงร่างผมเข้ากอดในอ้อมอกแก อบอุ่นมากๆเลย
“ผมก็เหมือนกันครับพี่ ผมก็อยากกอดพี่ให้เต็มๆ คิดอยู่ทุกวี่ทุกวันเลย แต่ไม่มีโอกาสเสียที” ผมบอกพี่ต้อมไป
“ผมรักพี่นะ” ผมพูดออกไป พี่ต้อมได้แต่พยักหน้า
“พี่รู้ป่าวว่า สิ่งที่เกิดขึ้นวันนี้ มันทำให้ผมตะลึง อึ้ง แบบไม่ทันตั้งตัวเลย ว่าผมจะมีพี่ในอ้อมกอดแบบนี้จิงๆ และผมก็ไม่ได้หวังว่าพี่จะตอบรักกลับมาให้ผมหรือเปล่า เพราะแค่นี้ ผมมีพี่อยู่ตรงนี้แล้ว ถึงแม้ว่าพี่จะยังไม่แน่ใจว่าสิ่งที่พี่รู้สึกอยุ่ลึกๆ มันจะเป็นความรักหรือเปล่า แต่อย่างน้อย ผมก็มีพี่อยู่ตรงนี้จิงๆ” เพื่อนๆคับ อย่าเพิ่ง อ้วกแตกกันก่อนนะคับ ผมพูดไปตามความรู้สึกตอนนั้นจิงๆ และอยากจะบอกให้พี่เค้ารู้จิงๆด้วย ให้เค้าร็เสียบ้าง ว่าเรามีความหวังกับเค้าแค่ไหน
“เกม… ถึงพี่จะไม่บอกว่า รักเกม แต่ตอนนี้พี่รุ้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก เกมต้องเข้าใจพี่นะคับว่าพี่ กลัวๆ กับการโดนทิ้ง การต้องอยุ่คนเดียว มันทรมาณมาก แต่เกมไม่ต้องน้อยใจไปนะ อย่างน้อยพี่ก็รู้สึกดีๆกับเกม มากกว่าที่พี่เคยรู้สึกกับจ๋า(แฟนเก่าพี่ต้อมอ่าคับ จำได้ป่าว)” พูดเส็ดพี่ต้อมก็จูบปากผม ผมก็รับจูบอย่างเต็มใจ มันนุ่มนวลเหลือเกิน เป็นจูบที่ผมหวนหามานานแสนนาน พี่ต้อมขึ้นคร่อมผม แล้วระดมจูบผมอย่างรุนแรง แกเริ่มจะถอด
เกงบอลผมแล้ว แต่ผมจับมือแกเอาไว้แน่น
“ไม่นะพี่… ไอ้บัสนอนอยู่ เห็นมั้ย ไม่เอาๆ ผมอายมัน” ผมพูดแบบกระซิบ
“จะกลัวไรละ บัสมันเมา มันไม่รุ้เรื่องหรอก ไฟก็แค่สลัวเท่านั้น” ใช่คับไฟสลัว แต่ก็ยังเห็นว่าทำไรกัน
“ผมอายมันอ่าพะ….” พูดยังไม่จบพี่ต้อมก็ระดมดูดปากอีกครั้ง แต่ครั้งนี่รุนแรงกว่าเดิม เหมือนจะบังคับไม่ให้ผมต่อกรกับแก ผมจะทำไรได้ละคับ ตอนนั้น อารมภ์เตลิดไปไหนต่อไหนแล้ว พี่ต้อมถลกเสื้อกล้ามอันบางของผมขึ้น แล้วเริ่มดูดกัดหัวนม
“อ่า….” ผมเผลอครางออกมา แล้วพี่เค้าก็เริ่มเลียต่ำลงมาเรื่อยจวนจะถึงเกมน้อยของผม แต่พี่ต้อมไม่กล้าที่จะไปยุ่งวุ่นวายตรงนั้น แต่กลับลุกขึ้น ถอดกางเกงเลย์ตัวเองออก แล้วนอนลง สะกิดผมให้ไปจัดการกับอนาคอนด้าของแก มีกลิ่นสบู่ตรานกแก้วติดมาด้วย หอมน่าดูด (แหม ยังรู้ไปถึงยิ่ห้อสบู่อีกน้อ อิอิ) ผมเลยจัดการกับมักรยักษ์ที่ตอนนี้ผงาดขึ้นมาแล้ว
“ดูดแรงๆอีกคับ อย่างนั้นแหละคับ อ่า….” พี่ต้อมครางลั่น จนผมต้องเอามือไปปิดเป็นสัญญาณบอกว่าดังมากไปแล้ว ผมดูดอยู่อย่างนั้นนานมากๆ ดูดอย่างหิวกระหาย ผมชอบดูดหัว~ช้างน้อย~ของพี่ต้อมมากๆ มันรู้สึกเต็มปากเต็มคำดีแท้ จนพี่ต้อมบอกให้พอ แล้วดึงผมขึ้นไปนอนบนแขนแก
“เกมคับ คืนนี้เกมต้องเป็นเมียพี่อย่างเต็มตัวนะ” ว่าแล้วพี่ต้อมก็มาหอมแก้มผมทีหนึ่ง
“ผมเต็มใจให้พี่อยู่แล้วคับ เพราะสิ่งนั้นผมตั้งใจมอบให้พี่คนเดียว” พูดเส็ดพี่ต้อมก้เริ่มฉากรักใหม่ ดูดนมผมจนไล่ไปถึงสะดือแต่ยังไม่ยอมยุ่งกับเกมน้อยของผมเหมือนเดิม แต่พี่แกกลับจับตูดผมขึ้นแล้วเริ่มลงลิ้น ผมไม่อยากจะเชื่อว่าพี่ต้อมจะกล้าเลียตูดให้ผม พี่ต้อมเลียเก่งมากเลยคับ สงสัยคงทำกับแฟนเก่าบ่อย ส่งปลายลิ้นเข้าไปลึกมากจนผมอดที่จะครางอย่างเสียวออกมาไม่ได้เลย
“อือ…พี่….เบาๆ ผม สะ…เสียวมากกกกกเลย” ผมครางไม่เป็นภาษา พี่ต้อมเลียไปได้ซักพัก ก็ลุกขึ้นคร่อมปากผมโดยผมอยู่ข้างล่างแล้วส่งท่อน~ช้างน้อย~เข้าปากผม พี่ต้อมกระทอกลึกมากจนผมสำลัก แกชัก~ช้างน้อย~แกออกมา ผมรู้สึกว่าน้ำลายผมจะติด~ช้างน้อย~แกมาทั้งดุ้นเยอะมาก พี่ต้อมก็ยกก้นผมขึ้นแล้วจ่อหัว~ช้างน้อย~ที่รูตูดผมซึ่งตอนนี้เยิ้มไปด้วยน้ำลายพี่แก แกเอาหัว~ช้างน้อย~เขี่ยรูตูดผม ซึ่งตอนนี้เสียวมากเลย เมื่อโดนหัว~ช้างน้อย~เขี่ยเล่นแบบนี้ แล้วพี่ต้อมก็เริ่มกดลงช้าๆ
“เดี๋ยวพี่ ผมเจ็บอ่า” ผมร้องบอกแก เพราะตอนนี้เข้าได้แค่หัวเท่านั้น
“เกมเจ็บ เกมก็บอกพี่นะคับ พี่จะได้หยุด”พี่ต้อมพูดออกมาด้วยน้ำเสียงเห็นใจ ผมก็สงสารพี่ต้อม แต่ก็เห็นใจแก เพราะผมรู้ว่าตอนนี้อารมภ์แกรุนแรงแค่ไหน
“ผมทนได้เพียงแค่ค่อยๆทำนะคับ” ผมพูดพร้อมกับจับแขนพี่ต้อมไว้แน่น ระหว่างที่แกเริ่มทิ้งน้ำหนักตัวลงมาอีกครั้ง ผมกัดฟันกรอด เจ็บมาก แต่ก็ยอมทน เพื่อคนที่เรารัก ใช่ว่าผมไม่เคยมีไรกับใครมาก่อน แต่ผมไม่ได้มีกับใครมาระยะหนึ่งแล้ว และคนที่ผมเคยมีกับเค้า ก็ไม่ได้ใหญ่เท่าของพี่ต้อม ผมเลยทนได้ไม่มาก
“เจ็บก็บอกพี่นะคับ” พี่ต้อมพูดแต่แกกลับกด~ช้างน้อย~ลงไปเรื่อยๆพร้อมกับมาจูบปากกับผม พร้อมกับกดจน~ช้างน้อย~จมมิดด้าม
“ผมจุกอ่าพี่ เจ็บด้วย” ผมร้องออกมา พี่ต้อมเหมือนจะถอน~ช้างน้อย~ออก แต่ผมดึงบั้นเอวพี่ต้อมเอาไว้
“อ้าว… ทำไมล่ะ ไหนว่าเจ็บ พี่ไม่อยากฝืนใจเกมนะคับ” พี่ต้อมพูด
“ไม่ต้องหรอกพี่ ซักพักคงปรับตัวได้ แต่ต้องใช้เวลาหน่อยนะ” ผมพูดพลางกัดฟันพลาง พี่ต้อมแช่~ช้างน้อย~เอาไว้แบบนั้น แล้วนอนกอดผม ซักพักก็เริ่มซอยเบาๆ
“อือ……………….” กำ! ไอ้บัสมันลุกขึ้นมา ผมกับพี่ต้อมหัวใจตกลงไปอยุ่ตาตุ่ม กลัวมันจะตื่นมาเห็นว่า~ช้างน้อย~พี่ต้อมมุดอยู่ในตูดผมอ่าดิ แต่ตกลงว่ามันไม่ได้ตื่นขึ้นมาหรอกคับ พี่ต้อมเลยทำต่อ
“ยังเจ็บอยู่ป่าว” พี่ต้อมถาม พร้อมกับลูบหัวผมเบาๆ บ่งบอกถึงความเห็นใจ
“ก็นิดหน่อยคับ แต่ยังดีกว่าเมื่อกี้” ผมตอบไป หลังจากนั้นแระคับ พี่ต้อมซอยตุดผมอย่างเร็วและแรงมากจนผมไม่รู้สึกเจ็บ ไม่รู้ว่าตูดมันเสียว หรือชากันแน่ แต่ไม่เจ็บแล้วคับ ซอยอยู่ซักพัก
“เกม นั่งให้พี่หน่อย” ผมต้อมสั่ง ผมหรือจะปฏิเสธ ผมเลยลุกขึ้นนั่ง ทั้งๆที่~ช้างน้อย~ยังค้างอยุ่ในตูด ถ้าไอ้บัสตื่นขึ้นมาเห็นภาพตอนนี้คงตกใจแน่ แต่ผมไม่สนแล้ว ตอนนี้ผมได้พี่ต้อมมาเป็นของผมแล้ว เอ…ถ้าจะพูดให้ถูก ผมต่างหากที่เป็นของพี่ต้อม แต่ตอนนี้ผมไม่สนใครแล้ว
“อืม… อย่างนั้นคับ” พี่ต้อมร้องออกมา พร้อมกับจับตูดผมแล้วกระทอกมาจากข้างล่าง จมลึกมาก ไม่รู้ลำไส้ส่วน Rectumของผมจะพังหรือเปล่า ซักพักพี่แกจับผมนอนอีกครั้ง ตอนนี้ทั้งพี่แกและผมต่างโชกไปด้วยเหงื่อของกันและกัน พี่ต้อมจับผมพาดบ่าแล้วเริ่มซอยอย่างถี่มาก จนผมอดที่จะครางออกมาไม่ได้ เหงื่อพี่แกหยดลงบนหน้าผม ได้กลิ่นแล้วผมเสียวมากเลย (ไม่รู้ว่าคิดไปเองหรือป่าวว่ะ)
“เกม….พี่จะออกแล้วคับ เกมจะออกยัง” พี่ต้อมร้อง ผมเลยจับ~ช้างน้อย~ตัวเอง แล้วเริ่มชักอย่างเร็วจนผมแตกออกมาก่อนพี่ต้อม ซักพักแกก็ร้อง
“พี่จะออกแล้ว…. อ่า……….” ผมรุ้สึกได้ถึงความอุ่นที่ถูกฉีดเข้ามาในตูดผมอย่างไม่ขาดสาย รู้สึกได้ถึงความแรงของน้ำกามที่ถูกหลั่งออกมา ให้ผมได้เก็บเอาไว้ กระตุกอยู่ประมาณ สิบครั้งได้ จนพี่ต้อมนอนฟุบลงบนตัวผม ทั้งๆที่น้ำของผมยังเต็มหน้าท้องผมอยู่ และ~ช้างน้อย~ยังค้างอยุ่ในตูดผม พี่ต้อมหายใจอย่างเหนื่อยหอบและผงกหัวขึ้นมาหอมแก้มผม มันเนิ่นนานมาก และทุกอย่างตกอยู่ในความเงียบ มีแต่เสียงลมหายใจที่ระรัวของกันและกัน ต่างคนต่างก็ไม่พูด อาจจะเป็นเพราะความเหนื่อยล้าจากบทลีลาร่วมรักที่เพิ่งจบไป
“พี่ๆ อย่าเพิ่งหลับนะ ไปล้างตัวก่อน หรือถ้าให้ดีไปอาบน้ำเลยนะ” ผมไล่ไปอาบน้ำ
“งั้นก็มาอาบพร้อมกันนะ”ว่าแล้วพี่ต้อมก็ดึง~ช้างน้อย~ออกจากตุดผม เสียงดัง บล็อก! เลย ผมรู้สึกได้เลยว่าน้ำกามเริ่มจะไหลล้นออกมาและแสบๆด้วย ผมเลยขมิบตูดปิดกั้นไว้ กลัวเบาะจะสกปรก แล้วพี่ต้อมก็ดึงผมให้ลุกขึ้น ผมก็ลุกขึ้นไปอาบด้วยดีไม่มีเล่นตัว เอ้ย! ไม่มีการขัดขืน ไม่รุ้เหมือนกันว่าทำไม หลังจากที่พี่ต้อมขอผมเป้นแฟน ผมกล้าที่จะแสดงความรู้สึกของตัวเองมากขึ้นกว่าเดิมหลายเท่า โดยไม่รู้สึกว่าจะอายเลย
“เจ็บมั้ยคับ” พี่ต้อมถามพร้อมกับที่พี่ต้อมขยับเข้ามาแนบชิดกับตัวผมและกอดผม ผมเริ่มล้างตูดตัวเอง น้ำพี่ต้อมเยอะมากเหมือนกับไม่ได้เอาออกมานาน ผมเลยถาม
“พี่ๆ มีเลือดออกมาด้วย”ผมไม่รู้สึกตกใจเท่าไหร่คับ แต่พี่ต้อมโน่น ตาเหลือกตาหลุนเลย
“จิงหรอ เจ็บมากมั้ย พี่ขอโทดนะที่ทำแรงไป” พี่ต้อมพูดด้วยน้ำเสียงสำนึกผิด
“ไม่เป็นไรหรอกพี่ ผมแค่ตกใจนิดหน่อย” ผมบอกไป กลัวพี่ต้อมจะคิดมาก
“พี่…ทำไมน้ำพี่เยอะจังอ่า มันยังไหลออกมาไม่หยุดเลย”ผมถามแล้วหัวเราะ
“ก็หลังจากวันนั้น วันที่….หึๆๆ พี่ยังไม่ได้เอาออกเลย” พี่ต้อมพูดแบบอายๆ
“ของเรานี่ก็แน่นดีนะ” พี่ต้อมพูดพร้อมกับมาโอบกอดผม ผมอายคับเลยหันหลังให้
“อ่าแน่ นี่เมื่อกี้ยังไม่สะใจใช่มั้ย จะเอาอีกรอบหรอ” พี่ต้อมคงเห็นผมหันหลังให้ ไม่นึกว่าแกจะมีอารมภ์ทะลึ้ง
“อาบไปเลยเพ่ น้ำอ่า พูดมากอยู่ได้ นี่มันกี่โมงแล้ว ผมจะไปนอนแระ” ผมพูดตัดบท
“คราบๆๆ เมื่อกี้เห็นคราง แต่ตอนนี้กลับมาทำเป็นโหด มันต้องโดน…ก่อนใช่มั้ยถึงจะยอมอ่อน ” พี่ต้อมยังกัดผมต่อ แล้วเราก็รีบอาบน้ำ ผมล้างตูดตัวเอง รู้สึกแสบขึ้นมาทันทีที่แผลโดนน้ำ สงสัยตูดคงฉีกแน่เลย ผมอาบเส็ดก่อน แล้วมาใส่เสื้อผ้าที่กองอยุ่แล้วไปนอนข้างไอ้บัส ซักพักพี่ต้อมก็ตามออกมา แต่รู้แค่ว่าออกมาจากห้องน้ำแล้วเพราะเห็นแสงไฟ ซักพักพี่ต้อมล้มตัวลงนอนข้างผม แล้วจับผมไปกอด

“ขอนอนกอดแฟนพี่ทั้งคืนเลยได้ป่าว” พี่ต้อมพูดกระซิบ
“ไม่ได้พี่ เดี๋ยวไอ้บัสตื่นมาเห้นเราสองคนนอนกอดกัน มันจะน่าเกลียด” แหม ยังคิดได้นะเนี้ย ว่าน่าเกลียด แล้วไอ้ที่ทำกันเมื่อกี้อ่า ผมทำไปโดยไม่นึกถึงว่ายังมีอีกคนที่นอนอยู่ข้างผม แต่ก็ช่างเหอะมันไม่รู้ ผมก็ไม่บอก แค่นี้เรื่องก็จบ
“พี่ขอกอดแป๊บเดียวนะ… นะ” พี่ต้อมอ้อนผม รู้สึกแปลกๆอ่าที่พี่ต้อมอ่อนโยนขึ้นเหมือนจะเป้นคนละคน
“อืม” ผมรับคำ พี่ต้อมรีบสวมกอดผมทันที และหอมแก้มผมไปอีกฟอดหนึ่ง ผมยังรู้สึกอบอุ่นเหมือนเดิมแระคับ ก็นี่มันอ้อมกอดของคนที่เรารักนี่
“เกมรุ้มั้ย ว่าคืนนั้น พี่แอบหอมแก้มเกมด้วยนะ ตอนที่เกมเมา” อ้าว พี่ต้อมไหงมาแต๊ะอั๋งผมละ ไม่น่าเลย น่าจะขอกันดีๆก็ได้ แป่วววว
“จิงดิ แล้วมาแอบหอมแก้มผมทำไม ไหนว่าพี่ไม่ใช่เกย์” ผมถามไปเล่นๆแบบนั้นแระคับไม่ได้คิดจะเอาคำตอบ
“ก็พี่ไม่ได้รุ้สึกแบบนี้กับทุกคนนี่นา” พี่ต้อมตอบอย่างมั่นใจ
“ไม่รู้แหละคับ ชายที่ชอบชายด้วยกัน สำหรับผม มันก็เกย์นั่นแหละ หึหึหึ” ผมพูดพร้อมหัวเราะในลำคอ
“ไม่อ่าพี่ไม่ได้เป็นเกย์” พี่ต้อมยังยืนยันตัวเอง
“คับๆๆ ไม่เป็นก็ไม่เป็น ผมไม่สนหรอกว่าพี่เป็นหรือเปล่า ผมขอให้พี่รักผมก็พอ” ผมพูดเส็ดก็ ยื่นจมูกไปหอมแก้มพี่ต้อม
“หลับฝันดีนะคับ แล้วอย่าเผลอมากอดผมนะ เดี๋ยวไอ้บัสตื่นมามันจะตกใจเอา” ผมพูดกระซิบก่อนที่จะหลับไปข้างกายพี่ต้อม รุ้สึกว่ามีความสุขกว่าวันคืนที่ผ่านมา โอเกินบรรยายคับ ผมตื่นมาตอนเช้าหันไปข้างกาย ไม่เห็นใครซักคน ข้างซ้ายไอ้บัสไปไหน พี่ต้อมล่ะ ลุกขึ้นไปหากุญแจรถไอ้บัสก็ไม่มี รถก็ไม่มี เอ หรือว่ามันกลับไปแล้ว แล้วพี่ต้อมล่ะ ไปไหนหว่า เดินไปเดินมา เห็นกระดาษแผ่นหนึ่งตั้งอยู่บนโต๊ะญี่ปุ่น
“กูไปรับอีฟก่อนนะ โทดทีที่ไม่ได้บอก เห็นหลับอยุ่ สงสัยจะเพลีย (บัส)” ไอ้บัสมันเขียนตั้งไว้คับ แล้วไอ้คำว่า(เพลีย)ที่ลงท้ายเนี้ย มันหมายถึงอะไร หรือว่ามันจะรู้เรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนอ่า ผมไม่สบายใจคับ ระหว่างที่ผมยืนจ้องแผ่นกระดาษพลางครุ่นคิดอยู่นั้น….
“อ้าว เกม ล้างหน้าล้างตายังอ่า มากินข้าวกัน” เสียงพี่ต้อมดังมาแต่ไกลเลย ผมยังคงจ้องแผ่นกระดาษแผ่นนั้นอยู่
“แผ่นกระดาษอะไรหรอเกม ไหนพี่ขอดูหน่อย “พี่ต้อมถามพร้อมกับดึงกระดาษไปอ่าน
“พี่…. หรือไอ้บัสจะรุ้เห็นเรื่องของเราที่เกิดขึ้นเมื่อคืน” ผมถามพี่ต้อม
“เดี๋ยวพี่ ผมยังไม่ได้แปลงฟันเลย” ผมร้องค้าน
“อืม งั้นไปแปลงฟันก่อนไป เดี๋ยวพี่แกะตั้งไว้ให้” แหม.. น่ารักจัง แฟนผม ผมก็ปลีกตัวไปล้างหน้าแปลงฟัน แล้วรีบออกมากินข้าว
“มาดูเร็ว ว่าพี่ซื้ออะไรมาให้บ้าง” พี่ต้อมดึงผมลงไปนั่ง จะดึงทำไมว่ะ กูก็มาแล้วเนี้ย
“เอ… ไหนดูดิ ว่ามีไรกินมั้ง” ผมก็เล่นกับเค้าด้วย พูดไปพร้อมจับโน้นจับนี่ (จับถุงขนม ถุงข้าวคับ อย่าคิดลึก)
“เนี้ย มี กาแฟร้อน ข้าวหมกไก่ และก็ขนมจีบ และนี่อีกอย่างหนึ่ง หมูย่างยายสา” พี่ต้อมพูดพร้อมกับหยิบจานที่ใส่ของพวกนั้นมาให้ผม แต่เห้นผมคิดอยู่นาน เลยเปลี่ยนใหม่
“หรือจะเอา ข้าวเหนียวไก่ทอดดีอ่า” พูดพลางกับหยิบมันขึ้นมา
“ครับๆๆๆ ชอบหมดเลยคับ อะไรที่พี่ซื้อมาผมกินได้หมดแหละคับ” แหมผมก็ หวานตั้งแต่เช้าเลยคับ ผมหยิบข้าวหมกไก่ขึ้นมา กินอย่างเอาเป็นเอาตาย ก็ของฟรีนี่ อิอิ
“นี่เกมดูดิ พี่ซื้อไรมาด้วย” พี่ต้มพูดพร้อมหยิบถุงๆหนึ่งขึ้นมา
“ไข่ลวก แล้วไม” ผมถามกลับ ทั้งผมและพี่ต้อมมองหน้ากัน เหมือนจะรู้แล้วอมยิ้ม ซักพักทนไม่ไหวก็เริ่มหัวเราะออกมา ยังจะมาเล่นอีกนะพี่
“แหม แค่ยกเดียว ถึงกับต้องกินไข่ลวกเลยหรอ” ผมยื่นหน้าไปกระซิบ เหมือนจะกวนๆ
“มันก็ต้องบำรุงหน่อยดิคับ ก็พี่มีเมียแล้วนี่” พี่ต้อมตอบกลับมา แล้วทำตาแบบยั่วยวน จนผมอดที่จะหัวเราะไม่ได้ เวลาอยุ่กับกลุ่มเพื้อนพี่ต้อมจะเป็นคนอีกแบบหนึ่ง แต่พออย่กับผมก็กลายเป็นคนอีกแบบหนึ่ง
“พอเลยพี่ หยุดเลย” ผมรีบเก็บจาน แล้วลุกขึ้น ก็พอดีที่มีสายเข้า พี่ต้อมส่งสายตาเป็นสัญญาณมาทางผม
“รับให้หน่อยนะคับ” พี่ต้อมรีบวิ่งไปรับ
“สวัสดีครับ น้องบัส นี่พี่ต้อมนะครับ” แหม! พูดเสียเพราะเชียว
“ไอ้บัสโทมาหรอ มันมีไรอ่า” ผมถามไป
“พี่บอกว่า เกมไปล้างจาน มีไรฝากบอกพี่ได้ แต่บัสไม่พูดไร บอกแค่ว่าไม่เป็นไร ค่อยคุยกับเกมเองดีกว่า พี่ก็เลยไม่เซ้าวี้ไรมาก” พี่ต้อมอธิบาย น่ารักจัง แฟนผม
“อืม!” ผมพูดแค่นั้น แต่ผมคิดว่าไอ้บัสคงไม่พอใจที่พี่ต้อมรับโทรศัพท์ของผมแน่เลย ไอ้บัสคุณอย่าโกรธกูนะโว้ย กูรักคุณเหมือนกันนะ แล้วผมเดินไปเปิดคอม เปิดเฟซบุ๊ค ออนเอ็มดีกว่า ดึ่งดึ้ง! เสียงเอ็มเตือน มีคนทักมา ฟาร่า เด็กคณะพยาบาลคับ น่ารักมาก เป็นดาวคณะด้วยคับ
“คับผม ทำไรคับ แล้วนี่ฟาร่าไม่เรียนหรอ” ผมถามน้องเค้าไป พี่ต้อมมานั่งข้างผม แล้วมองผมเล่น
“คัยหรอ เกม น่ารักนะ” พี่ต้อมถาม ผมก็บอกไป
“คับ น่ารักมาก คนนี้อ่า แต่ผมไม่มีโอกาสไปเด็ดดอกฟ้าอย่างฟาร่าหรอก”ผมบอกพี่ต้อมไป
“นี่ถ้าไม่ติดกับพี่มีแฟนแล้ว พี่จะจีบคนนี้เลยนะ” พี่ต้อมพูด ผมหึงคับ หึงมาก ไม่ยอมหรอก ถึงจะเป็นฟาร่า แต่จะต้องไม่ใช่พี่ต้อมของผม แต่ผมก็เก้บอารมภ์เอาไว้ เพาะคิดว่า พี่ต้อมต้องแหย่ยั่วอารมภ์ผมแน่เลย
“เอาปะล่ะ เดี๋ยวผมติดต่อให้” น่าน ยังเล่นต่อไปอีก นี่ถ้าพี่ต้อมเอาขึ้นมาจิงๆ ผมจะทำไงกับคำพูดตัวเองดีอ่า
“บอกแล้วไง ว่าพี่ไม่สนใครหรอก พี่มีเกมคนเดียวนะ” พี่ต้อมพูดแล้วแอบมาหอมแก้มผม
“โห…พี่… แอบแต๊ะอั๋งกันนี่หว่า คราวหลังบอกกันตรงๆก็ได้” อ้าว ไม่จิงๆ ผมไม่ใช่คนแบบนั้น
“เหอะๆๆๆ หว่านเสน่ห์กับพี่คนเดียวนะ ห้ามไปหว่านกับใคร” พูดมาได้น้อพี่ต้อม
“โห…พี่ ไม่ต้องเป็นห่วงหรอก หน้าตาระดับพี่ว๊ากอย่างผม ไม่มีคัยกล้ามาจีบหรอก แค่เห็นผมก็ตกใจแล้ว” หุหุหุ ผมพูดล้อเลียนแก
“บอกแล้วไง พี่ไม่กลัวว่าคัยจะมาจีบหรอก พี่กลัวเกมจะไปจีบเค้าอ่าดิ เนี้ยดูดิ ตาแบบนี้เค้าว่า เป็นคนเจ้าชู้” พี่ต้อมชี้มาที่ตาผม
“ตาแบบไหนหรอพี่ เค้าสังเกตยังไงอ่า” ผมถามไป
“ไม่รุ อธิบายไม่ถูก แต่รู้สึกว่าพี่ดูออก ว่าเราเจ้าชู้…………………..” ใส่ความกันนี่หว่า
“ก็น่าจะจิงนะพี่ เค้าว่าคนที่เกิดวันอาทิตย์อ่า เป็นคนเจ้าชู้โดยสันดาน” หึหึหึ อ้าวนี่ผมด่าตัวเองหรอเนี้ย
“นั่นไงล่ะ เริ่มจะไว้ใจไม่ได้ซะแล้วนะ เอาดิ ถ้าเกมมีชู้ พี่ก็มีได้เหมือนกัน” โหพี่ (ชู้) เนี่ย แรงไปป่ะ
“พี่… ชู้อ่า แรงไปป่าว” ผมถามแบบไม่สบอารมภ์ ผมหน้าหงิกหน้างอเลย(ง้อดิพี่ รอให้ง้ออยู่นะ)
“อุ๊บส์… ขอโทดคับๆ” พี่ต้อมขอโทดผม พร้อมกับมาโอบหลังจับแขนแล้วบีบแขนเบาๆ มันต้องอย่างนั้น
“ไม่ให้อภัย พี่ดูถูกผมมากไปแล้วนะ” ดูถูกจิงๆคับ ก็ผมเจ้าชู้จิงๆเนี้ย ทำไงได้ แง่วววววว ในเมื่อผมไม่มีเสน่ห์ดึงดูดให้คนเค้ามารักมาหลง ผมก็ต้องเดินเข้าหาเค้าเองเลย ไม่นั้นเค้าจะบอกว่า อยากได้ลูกเสือแล้วไม่เข้าถ้ำเสือ มันจะได้ลูกเสือป่าวละคราบ อ้าว ไปกันใหญ่แล้วผม
“นา นะคับ แฟนพี่นี่ขี้งอนจังเลยอ่า อย่างงี้ รักตายเลย” น่าน ไม่ต้องมาทำพูดดีเลยไอ้พี่ต้อม เมื่อกี้ยังด่าผมอยุ่เลย ผมไม่พูดไร งอนว่ะ ๆ(ที่จิงแกล้งงอนคับ)
“หรือจะต้องให้พี่จับปล้ำก่อนจึงจะยกโทดให้พี่”ว่าแล้วพี่ต้อมก็ลุกขึ้นจับผมไซร้คอ จนผมจักจี้ ดิ้นไม่เป็นท่าเลย หัวเราะก๊ากเลย ก็ดันมาเล่นไซร้ตอนที่ผมไม่ทันตั้งตัวนี่
“หยุดเลย พี่นี่บ้ากามจิงๆอ่า” ผมพูดไปพี่ต้อมชะงัก คิดว่าแกโกดผม แต่ป่าวคับ แกกลับจูบผมอย่างรุนแรงมาก นี่มันแรงคนหรือว่าแรงควายว่ะ
“ปี้ๆ ผมหายใจไม่ออก” ผมสลัดจากปากพี่ต้อมแล้วละปากมารับอากาศเข้าไปเหมือนกับคนขาดออกซิเจน พี่ต้อมเลยไซร้นมผมดูดอย่างแรงดังจ้วบๆ ผมครางออกมา แต่จู่ๆพี่ต้อมก็หยุดเสียกลางคัน แล้วไปนอนแผ่หลาอยู่บนเบาะ

“อ้าวพี่ ผมค้างเลย” เซ็งว่ะ ไหงหยุดแบบนี้อ่า แล้วจะเริ่มทำไมว่ะ แต่ตกลงพี่ต้อมถอดเกงตัวเองออก ~ช้างน้อย~แข็งตั้งแต่เมื่อไหร่ว่ะ
“ดูดให้พี่หน่อย พี่ชอบจังเวลาเกมดูด เสียวมากเลย พี่ติดใจตั้งแต่ครั้งแรกที่ให้เกมดูดแล้ว” อ้าวนี่ตกลงว่าที่ชอบผมก็เพราะผมดูด~ช้างน้อย~เก่งหรอ คิดว่าชอบเราที่ใจเสียอีก
“นี่ถ้าผมดูดไม่เก่งพี่คงไม่สนผมใช่ปะ” ผมงอนคับ งอนโว้ย งอนๆๆๆๆๆ
“เอาอีกแล้ว เมียพี่ ขี้งอนจิงๆ” พี่ต้อมพูดคำว่า “เมีย” ผมละอายเลยคับ ว่าแล้วพี่ต้อมจับผมนอนหงายแล้วเอา~ช้างน้อย~ยัดปากผมเสียเอง นั่นไงล่ะ เล่นตัวนัก โดนกระแทกปากเลยมั้ยล่ะ ผมสำลักอ่า น้ำตาไหลเลย แต่ก็ทน ซักพักพี่ต้อมเร่งซอยอย่างเร็ว จน..
“อ้า…” และแล้วน้ำ~ช้างน้อย~พี่ต้อมก็ลงในคอผมจนเกลี้ยงอีกตามเคย นี่ขนาดเมื่อคืนเอาออกแล้วนะ ยังเยอะอีกอ่า แล้วพี่ต้อมก็นอนแผ่ไปอย่างหมดแรง
“เดี๋ยวพี่ ผมยังไม่เส็ด ลุกขึ้นมาทำให้ผมก่อน” ผมไม่ยอมคับ ผมไม่ยอม…
“ให้ทำไรอ่า พี่ไม่ดูดนะ พี่ไม่เคย” พี่ต้อมพูดกลับมา
“ไม่รู้แระ ทีพี่ทำผมทำได้ แต่ทีให้พี่รับผิดชอบกลับทำไม่ได้” ผมทำเสียงแบบผิดหวัง แต่เปล่าหรอกคับผมแค่อยากรุ้ว่าพี่ต้อมจะทำไงต่อไป
“พี่ชักให้แล้วกันนะคับ” พี่ต้อมลุกขึ้นมา แล้วมาหอมแก้มอ้อนผม
“อือ..” ผมพูดแค่นั้น พี่ต้อมเริ่มชักให้ผม เสียวดีแต่ไม่สะใจอ่า เหมือนตอนที่ผมเสียวจะแตกพี่แกกลับหยุดซะงั้น เป้นอยู่แบบนี้หลายคั้งจนผม ต้องชักเอง แล้วพี่ต้อมก็ลุกขึ้นมาดูดปากกับผม จนผมแตก
“เกม…รสชาติเลี่ยนๆเค็มๆ ในปากเกมเป็นน้ำว่าวพี่หรอ” พี่ต้อมถามอย่างอยากรู้อยากเห็น
“คับ เป้นไงบ้างพี่ของพี่หวานป่าว” อิอิ กินน้ำตัวเอง ผมพูดแล้วหัวเราะ
“ไม่รู้เหมือนกัน แต่ก็แปลกดี” อ้าว ตกลงว่าไงอ่า งงกับแฟนผมจิงๆ
“แปลกดีใช่ป่าว งั้นคราวหลังพี่ต้อมต้องกินของผมนะ” ผมพูดเล่นไปงั้นแระคับ ไม่ได้ต้องการคำตอบจิง พี่ต้อมเอาแต่ส่ายหน้า
“หึๆๆ ผมล้อเล่นคับ แต่ถ้าจะกินก็บอกนะ”ผมพูดทีเล่นทีจริง แล้วพี่ต้อมก็ชักจนของผมแตก พี่ต้อมเล่นเอามือมาลูบหัวผมเล่น ผมลุกขึ้นไปเล่นเอ็มต่อ น้องฟาร่าทักมาอีก เปล่าคับ ทักมาตั้งแต่ครั้งที่แล้วนั่นแหละ แต่ผมเอาแต่เล่นบทรักอยุ่ เลยไม่ได้ตอบกลับไป พอมาเปิดดู น้องเค้าล๊อกเอ้าไปแล้ว แง่ววว….. แต่ก็ช่างเหอะ ผมมีแฟนแล้ว จะไปหวงไรอีก
“เสียดายละซิ” พี่ต้อมพูดด้วยน้ำเสียงล้อเล่น
“ไม่อ่าพี่ ผมเสียดายน้องชายฟาร่ามากกว่า เด็กไรไม่รู้น่า…..”ผมพูดค้างเอาไว้แล้วลากเสียงยาว และทำตากลอกกลิ้งไปมา
“งั้นพี่ขอพี่สาวนะ ส่วนเกมก็เอาน้องชายแล้วกัน” ว่าแล้วผมกับพี่ต้อมก็หัวเราะพร้อมกันซะงั้น
“ผมไปอาบน้ำก่อนนะพี่ นี่ก็จะเก้าโมงแล้ว ออลืมไปเลย แล้วพี่ไม่มีเรียนหรอ ถึงได้มาขลุกอยุ่ห้องผมแบบนี้” ผมถามไป ผมก็ลืมถามพี่ต้อมไปเสียสนิทเลยอ่า
“ไม่เป็นไร พี่ให้ไอ้ตูนเช็คชื่อแทนแล้ว ไอ้ตูนมันเก่งนะ ไม่ว่าจะเมาแค่ไหน มันไม่เคยขาดเรียน ถึงจะขาดก็ยังรู้เรื่องทุกวิชา” พี่ต้อมพูดถึงพี่ตูน
“ออพี่… พี่ตูนอ่าผมว่าก็น่ารักดีเหมือนกันนะคับ”ผมพูดแล้วยิ้ม พี่ต้อมจะอ้าปากพูด แต่ผมชิงพูดตัดหน้าเสียก่อน
“ไม่ต้องคิดมากและเงียบไปเลย ผมไม่ได้คิดไรแบบนั้น” ผมพูด
“คิดไรหรอ พี่คิดไร”พี่ต้อมพูด พร้อมทำหน้าแบบไม่มีอะไรเกิดขึ้น เห็นแล้วหมั่นไส้ แต่ผมก็เลยไม่เซ้าซี้ไร
“ออพี่… ตอนเย็นไปเชียร์ผมแข่งบอลนะ วันนี้แข่งกับคณะเศรฐศาสตร์อ่า”ผมพูดคะยั้นคะยอ
“กี่โมง” พี่ต้อมถาม
“ห้าโมงเย็นคับ ไปให้ได้นะ ว่าแต่ว่างป่าวละ” ผมยังขอต่อ
“อืมว่างคับ แต่ประมาณ ทุ่มหนึ่ง พี่มีธุระ” พี่ต้อมตอบ
“อ้าว ทุ่มหนึ่งผมแข่งบอลเส็ดพอดี ว่าจะชวนไปกินข้าวด้วยกิน”ผมบอกอย่างผิดหวัง
“โทดทีนะ พี่มีธุระต้องจัดการให้เรียบร้อย”
“ธุระไรหรอพี่ บอกผมได้ป่าว” ผมถามด้วยความสงสัย
“ไม่มีอะไรสำคัญหรอก แต่พี่ต้องไปให้ได้”อ้าวไหนว่าไม่สำคัญ แต่ต้องไปให้ได้ นี่มันหมายความว่าไง
“อืมคับ ไม่บอกก็ไม่ว่าคับ งั้นผมไปอาบน้ำก่อนนะ” ผมพยายามกลบเกลื่อนความเคลือบแคลงใจเอาไว้ กลัวว่าถ้าพี่แกเห็นแล้วจะไม่สบายใจเอาเปล่าๆ และอีกอย่างไม่อยากทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่ แต่ผมจะต้องรุ้ให้ได้ว่า อะไรกันที่ทำให้พี่ต้อมปฏิเสธผม พี่ต้อมไปทำอะไร มีธุระอะไรอีกหรอที่สำคุญถึงบอกผมไม่ได้ ผมอาบน้ำอยู่นานมาก เพราะมัวแต่คิดเรื่องนี้อยุ่ และผมก็เริ่มร้องไห้ เพราะว่ากลัวและคิดไปต่างๆนาๆ ผมเนี้ยขี้แงจริงๆ จนพี่ต้อมเรียก
“เกม ทำไรอ่า เข้าไปนานแล้วนะ อย่าบอกนะว่า…”พี่ต้อมตะโกนมา ยังจะมาทะลึ่งอีก
“ผมร้อนอ่า อยากอาบน้ำนานๆ พี่กลับห้องไปก่อนก็ได้” ผมพูดโกหกไป และไม่ได้อยากให้พี่เค้ากลับไปหรอก ไม่มีเสียงโต้ตอบมา ผมเลยเงียบเหมือนกัน จนอาบเส็ด ออกมาจากห้องน้ำ พี่ต้อมนอนหลับอยู่ ว่าแล้วทำไมถึงเงียบไป ผมไม่ได้ปลุกแก ผมก็แต่งตัวเพื่อจะไปเรียนคาบบ่าย
“จะไปเรียนแล้วหรอ ยังไม่ถึงบ่ายโมงเลย” พี่ต้อมนั่นเอง ลุกขึ้นมากอดคอผมพลางหอมแก้มไปฟอดหนึ่ง ผมพยักหน้าอย่างเดียว
“เกมไม่ตาแดงอ่า” พี่ต้อมเห็นผมในกระจก
“เอ่ออออ ยาสระผมเข้าตาอ่าพี่”ผมโกหกไป พี่ต้อมก็เลยไม่สงสัยอะไรอีก ไอ้ที่ผมตาแดงอ่า ก็เพราะร้องไห้คับ ไอ้ตอนอาบน้ำอ่านานมาก แต่ตอนที่แต่งตัวผมแต่งตัวแปบเดียวเอง ไม่มีแม้น้ำหอมชโลมกาย ผมมีแต่โรลอออนกับโลชั่นแค่นั้นเอง และแล้ว
ดึ่ง ดึง ดึ้ง…..เสียงเอ็มผมดังเตือน

“เกม…โน่นหนุ่มทักมาในเอ็มโน้น” พี่ต้อมพูดหยอกผม แล้วพี่ต้อมก็ขอตัวกลับไปอาบน้ำที่ห้อง ผมก็ได้แต่พยักหน้า ไม่รู้ว่าคิดไร
“ไอ้เกม อยู่ไหน มาที่คณะยัง” ไอ้บัสนั่นเอง ที่มันถามแบบนั้นเพราะบางทีผมชอบไปเล่นคอมที่ห้องคอมของคณะเพราะไม่ต้องเปลืองไฟห้องตัวเองแต่ผมจะชอบไปเล่นที่หอสมุดของมหาลัยมากกว่า ใช้ให้คุ้มกับค่าเทอมที่จ่ายไป
“ยังอยุ่ห้องเลย เนี้ยเพิ่งอาบน้ำเส็ด”ผมตอบไป
“อยู่กี่คนอ่า กินข้าวยัง” ไอ้บัสถามกลับมา
“อยู่สองคนพี่ต้อมว่ะแต่ตอนนี้พี่เค้ากลับไปแล้ว เนี้ยกูจะออกไปกินข้าวด้วย คุณล่ะกินยัง”
“อ้าว นี่ไอ้พี่นั่นยังไม่กลับห้องตัวเองหรอว่ะ ” โชคดีที่พี่ต้อมไม่ได้อยุ่ตรงนี้
“กูบอกว่าเพิ่งกลับไปเมื่อกี้เนี้ย กูถามว่าคุณกินข้าวยัง” ผมพูดตัดบท
“ยังว่ะ”ไอ้บัสตอบมาแบบห้วนๆ
“งั้นเดี๋ยวคุณออกมาเลยนะ ไปกินข้าวกันที่โรงอาหารคณะ แล้วเจอกัน”
“อืม”ไอ้บัสตอบ
“อย่าช้านะคุณ กูกลัวคุณจะช้าเป็นชาติอีก”ผมเอ็ดมัน เพราะมันชอบเลดประจำ สงสัยแต่งหล่ออยุ่มั้ง พอดีแฟนมันซื้อเครื่องประทินผิวให้มันเยอะแยะหมด เหมือนกับคนที่คุณแม่ซื้อเครื่องสำอางให้ลูกชายอ่า ผมเลยชอบกัดมันเรื่องที่กลัวเมีย
“เออ……” จากนั้นมันก็วางสายไป ผมเลยขับรถไปคณะ ไอ้บัสมันมาถึงก่อนผมอ่า ไม่รุ้จะประชดผมหรือเปล่านะ
“แหม… กว่าจะเห็นตัวก็ปาเข้าไปครึ่งวันแล้ว…”ไอ้บัสมันพูดไรของมันว่ะ
“ไรของคุณ เจอหน้ากูแล้วจะกัด” ผมไม่รุ้จะเถียงไรกับมัน
“ไปๆกินข้าวดีกว่า กูหิวแล้วเนี้ย” ผมบ่น
“อ้าว คิดว่ากินกันมาแล้ว” คุณพูดไรของคุณว่ะ
“กินที่ไหน กูบอกคุณแล้วว่ายังไม่กินข้าว” ผมพุดเส็ดก็ลากมันเข้าโรงอาหารคณะเลย
“กินไรคุณ”มันหันมาถามผม
“กูกินหนมจีนว่ะ อยากกินว่ะ” ว่าแล้วผมก็ตรงไปร้านหนมจีนเลย ผมกินทุกวันเลยคับ มันก็ตามมาด้วย
“อ้าว กินด้วยหรอ” ผมถามมัน
“อืม ….” มาแปลกว่ะ ทุกคั้งมันไม่กินนะคับ มันชอบกินข้าวหมูกรอบหรือพวกอาหารตามสั่งมากกว่า
“เอาน้ำแกงไรดีคับ”พี่คนขายถามผม น่ารักอ่า ลูกคนจีน น่าจะแก่กว่าผมไม่กี่ปี ผมว่าน่ารักดีคับ หน้าตาคล้ายๆใครน้า ออ คล้ายกับพี่ตูนเพื่อนพี่ต้อมเลย
“แกงเขียวหวานคับ ออ…ผสมแกงไตปลาด้วยคับ” ผมตอบไปยิ้มไป
“จะเอาแกงใจคนด้วยป่าวคับ”พี่คนนั้นถามผม พร้อมกับยิ้ม เอ้ย มันชักจะแปกๆอยู่นะ เพื่อนๆว่าป่าว
“มันไม่เอาหรอกพี่ มันมีอยุ่แล้ว หลายคนด้วย” อ้าวสัด ไอ้บัสคุณพูดแบบนี้ได้ไง กูเสียชื่อหมด พี่แกยิ้มๆไม่พูดไร ส่วนผมหรอ ก็นะ ยิ้มเจื่อนๆ เคืองคุณว่ะไอ้บัส เพื่อนชั่ว ผมไปนั่งไม่พูดไรกับมัน
ปกติผมจะซื้อน้ำลำไยเป็นเหยือก แต่วันนี้ผมซื้อเป็นแก้วมาเฉพาะผมและไม่ซื้อเผื่อมันด้วย
“ไหนน้ำกูล่ะ ด่อ…. ใจร้ายว่ะ” ผมไม่ตอบ แต่แอบอมยิ้ม ( ด่อ….หมายถึง ดอ หรือ ~ช้างน้อย~ นั่นแหละคับ เป็นคำอุทานที่แสดงออกมาว่า เซ็ง รับไม่ได้ หรืออะไรทำนองเนี้ยอ่าคับ แต่ได้รับอิทธิพลมาจากเพื่อนเด็กชุมพรที่ชอบพูดคำนี้จนผมกับมันติดปากผมก็พูดเหมือนกัน เช่น ด่อเอ้ย…. แต่ทั้งผมและไอ้บัสไม่ได้เป็นเด็กชุมพรคับ
“พอดีมือไม่ว่างว่ะ”ผมพูดพร้อมทำหน้าแบบว่าสะใจว่ะ มันหันหลังเดินผุนผันตรงไปร้านน้ำโดยไม่พูดไร แล้วเดินกลับมา
“ไอ้บัส วันนี้แล็ปเรียนเรื่องไรว่ะ กูยังไม่ได้เปิดหนังสือแล็บดูเลยว่ะ”ผมถามไอ้บัส
“วิทยาอิมมูน” มันตอบกลับมาโดยไม่มองหน้าผม ได้แต่ก้มหน้าก้มตากินอย่างเดียว
“กูเบื่อและไม่ชอบว่ะ ไอ้ไบโอเคมเนี้ย” ผมบอกมัน ที่จริงมันเป็นวิชา ไบโอเคมี คับ แต่พวกผมชอบเรียกมันสั้นๆ เช่น วิชา Science Technology and Society ก็เรียกเป็น Sci-Tech-So หรือ Sci-So อะไรประมาณเนี้ย
“นี่ถ้าไม่ใช่แล็ป กูกะว่าจะไม่เข้าแล้วนะเนี้ย”ผมพูดแบบเบื่อๆเซ็งๆอ่าคับ
“ไมล่ะ จะอยุ่กับพี่คนนั้นหรอ” ไอ้บัสถามผม ผมชะงักเล็กน้อยก่อนจะตอบมันไป
“เกี่ยวไรกับพี่เค้าด้วย กูแค่ขี้เกียจ” ผมอ้างไป
“ขี้เกียจหรอ แปลกจัง กูเพิ่งได้ยินคำว่าขี้เกียจจากปากคุณก็วันนี้เนี้ยแหละ” ไอ้บัสพูดพร้อมกับมองหน้าผมแบบไม่เชื่อที่ผมพูด
“อืม แล้วไม กูก็ขี้เกียจมั้งดิว่ะ กูก็คนนะว้อย” ผมตอบมันไป
“อืม….ตามนั้นแหละ” มันไม่เชื่อผมอ่าคับเพื่อนๆ ทำไงดี
“เอ้ย…ไอ้บัส ไอ้เกม คุณมากันตั้งแต่เมื่อไหร่ว่ะ”ไอ้จอมคับเพื่อนต่างภาควิชา
“ก็มาเมื่อกี้นี่แหละ เป็นไรล่ะคุณ ดูหน้าตาแล้ว สงสัยเพิ่งตื่นล่ะซิ” ผมถามมัน
“เออ ว่ะ เมื่อคืนไปกินกันนิดหน่อย” ไอ้จอมตอบ
“กูโทไปชวนคุณแล้วทำไมไม่รับโทสับว่ะ ไอ้บัส” ไอ้จอมหันไปถามไอ้บัสต่อ
“จะรับได้ไงล่ะ เมื่อคืนมันเมาเหมือนหมาเลย ไอ้จอมเอ้ย….” ผมได้ทีกัดไอ้บัส
“อ้าว กินกันที่ไหนว่ะ” ไอ้จอมถาม ผมกะจะอ้าปากพูด แต่..
“แฟนไอ้เกมมันชวนไปว่ะ กูเลยขอติดไปด้วย” อ้าวกำ ไอ้เพื่อนเลว มาขายกูกันแบบนี้เลยหรอ
“อาแน่ ไอ้เกม คบสาวคณะไหนว่ะ ไม่เอามาโชว์หน้าโชว์ตาให้เพื่อนเห็นบ้างเลยนะคุณ” ไอ้จอมเริ่มกัดผมแล้ว
“เอ่อออออออออ” อออ่างยังยาวได้อีก
“เด็กนอกว่ะ อย่างมันไม่เอาเด็กวงในหร้อก” ไอ้บัสใช้น้ำเสียงแบบสะใจ ผมเริ่มรู้สึกอึดอัดแล้วละซิ
“วันหลังพามาอวดพวกกูบ้างนะว้อย”ไอ้จอมพูดพร้อมกับเอาแขนมาชนไหล่ผมเชิงหยอก
“ได้ข่าวว่าวันนี้พวกคุณแข่งบอลหรอว่ะ เจอคณะไหนว่ะวันนี้”ไอ้จอมถาม
“เสดสาดว่ะ”ผมตอบไป
“อืม เต็มที่นะว้อย”ไอ้จอมเชียร์ ผมได้แต่พยักหน้า แล้วมันก็เดินจากไป
“ไอ้บัส..คุณพูดบ้าไรว่ะ”ผมถามอย่างอารมภ์เสีย
“แล้วมันจิงปะล่ะ กูว่า คุณกับพี่เค้าชักจะยังไงๆอยู่นะ บอกกูมาเหอะว่าคุณชอบพี่เค้า” ไอ้บัสเล็งคำถามมาตรงเกินไปจนผมต้องเงียบ

“ว่าไง แสดงว่าคุณชอบพี่เค้าจิงๆด้วย” ไอ้บัสพูดด้วยน้ำสียงราบเรียบ ผมยังเงียบต่อคับ
“ถามหน่อยมันจะตายป่าว ถ้าบอกกูซักคำ กูไม่ได้ไปบอกใครที่ไหนนี่”มันเอ็ดผม
“ป่าว ไม่ได้ตาย” ผมตอบได้แค่นั้น
“กูว่าแล้ว ทำไมมันถึงเอาใจมึงจั้ง…..” ไอ้บัสลากเสียงคำสุดท้ายเสียยาวเลย
“กินๆๆ ไม่ต้องถามมาก” ผมตัดบท แล้วผมกับมันก็เงียบกันไปเลย จนกินเส็ด ผมยื่นมือจะไปเก็บจานมัน แต่มันรีบฉวยเสียก่อน
“ไม่เป็นไร กูเก็บเองได้” พูดแล้วมันก็ลุกขึ้นเอาจานกับแก้วน้ำไปเก็บ ผมเลยเก็บของตัวเองแล้วเดินตามหลังมันไป
“เอ้ยไอ้บัส คุณโกรธกูหรอว่ะ แค่กูไม่บอกเรื่องนี้กับคุณ” ผมถามมัน เพาะสงสัย ที่มันไม่ยอมพูดกับผมเลย
“กูจะโกรธคุณทำไม นั่นมันเรื่องของคุณ ไม่ใช่เรื่องของกู”ก็จิงคับ ไม่ใช่เรื่องของมัน แต่ทำไมผมรุ้สึกไม่สบายใจเลยที่ไม่บอกเรื่องนี้กับมันตั้งแต่แรก แถมพยายามปิดบังด้วย
“ไอ้บัส…คุณเป้นเพื่อนกูนะ อย่าทำแบบนี้ กูไม่สบายใจนะว้อย” ผมพูดพร้อมกับเดินออกจากโรงอาหารคณะ
“แล้วคิดว่ากูอยาก…”มันพูดแล้วชะงัก
“กุทำไรหรอ กูก็อยู่ของกูแบบนี้เนี้ยแหละ” มันพูดพร้อมกับเดินเข้าลิฟท์ ผมเดินตามเข้าไป
“ได้… กูจะคิดเสียว่าไม่มีไรเกิดขึ้นแล้วกันนะ” ผมพูด พร้อมกับพิงผนังลิฟต์ แล้วก้มหน้ามองพื้น
“ไอ้เกม” ไอ้บัสพุ่งมาหาผมตั้งแต่เมื่อไหร่แล้วไม่รู้ ผมเงยหน้าขึ้นก็สบตากับมันพอดี มันจ้องผม ผมจ้องมันตอบ จมูกผมกับมันห่างกันคืบกว่าๆเท่านั้น ทุกอย่างตกอยู่ในความเงียบ ความรู้สึกแปลกๆผุดขึ้นในใจผม ดวงตาคู่นี้ช่างมีเสน่ห์ที่เย้ายวนจิงๆ บวกกับริมฝีปากที่ได้รูปสีชมพูระเรื่อ ไม่นะเกม อย่า…คิดแบบนี้ แต่ไอ้บัสหันไปดูแสงสีส้มของหมายเลขสี่ในลิฟต์ บ่งบอกว่าถึงชั้นสี่แล้ว
“ปะ…ถึงแล้ว”มันพูดพร้อมกับจับข้อมือผมแล้วลากออกไป ซึ่งผมเพิ่งตื่นจากภวังค์ แล้วเดินตามมันไปตามแรงลาก พอเข้าห้องแล็บไปก็ไปเซ็นชื่อ แล้วมันกับผมก็แยกกันทำแล็ปเพราะว่าอยุ่กันคนละกลุ่ม เลยไม่ได้คุยกันต่อ แต่ความรู้สึกเมื่อกี้ยังค้างใจผมอยุ่ เหมือนกับสีที่ติดเสื้อแล้วยังล้างออกไม่หมด นั่งฟังอาจารย์ทอล์คแล็บก็ไม่รู้เรื่องเพราะจิตใจคิดอยู่แต่เรื่องนี้ เหลียวไปมองไอ้บัสบ้าง มองอาจารย์บ้าง ไอ้บัสมันก็คงเหมือนกับผมมั้ง เห็นมันหันมาสบตากับผมหลายครั้ง จนอาจารย์ทอล์คแล็บจนเส็ด แล้วให้แยกย้ายกันไปทำ
“เกม ทำแล็บข้อหนึ่งนะ ส่วนเราจะทำแล็บขอสาม”เบลล์คับ เบลล์ผู้น่ารัก อย่างน้อยก็ในสายตาผม
“อ้าวเบลล์ แล้วข้อสองอ่าไม่ทำหรอ”ผมถามเบลไปเพราะงง
“อ้าวเกม เมื่อกี้ จารย์บอกแล้วนี่ว่าไม่ต้องทำข้อสอง เพราะมันต้องใช้เวลานาน”เบลล์ตอบผม
“ออหรอ เอ่อ พอดีเราไม่ได้ฟังอ่า เมื่อตะกี้” แล้วผมก็หยิบหนังสือแล็บ แล้วเอาหลอดทดลองไปตักสารเคมี ทำแล็บไปเรื่อย จนเส็ด เบลล์ก็ทำหน้าที่คำนวณตัวเลขไป ส่วนผมหรอเอาหลอดทดลองทั้งหมดไปล้าง จนกระทั่ง
“เปล้ง…” เสียงหลอดทดลองแตก ซึ่งจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากผม แต่ผมก็ล้างไปจนเส็ด แล้วเดินไปที่เคาต์เตอร์เพื่อซื้อหลอดทดลองหลอดใหม่ชดเชย ผมเป้นไรเนี้ย ไมใจไม่อยุ่กับเนื้อกับตัวเลยอ่าคับ คิดทั้งเรื่องพี่ต้อมและคิดทั้งเรื่องไอ้บัส โอ้ย…ผมจะบ้าตาย
“เอาเบลล์ เราซื้อมาชดแล้ว”ผมพูดพร้อมยื่นหลอดทดลองให้เบลล์ไปเก็บในตะแกรง แล้วเก็บเข้าลิ้นชัก
“เออเกม วันนี้ลงแข่งบอลใช่ป่าว” เบลล์ถามผม
“อืม วันนี้แข่งกับเสดสาด เบลล์ไปเชียร์ด้วยนะ”ผมพูดไปยิ้มไป
“เบลล์ต้องไปอยู่แล้ว ก็เบลล์เป็นฝ่ายสวัสดิการนี่”เบลล์ตอบกลับมา
“หรอ แล้วไมเกมไม่เห็นเบลล์เลยอ่า สวัสดิการกีฬาไหนอ่า”ผมถามเบลล์คับ เพราะไม่เคยเห็นเบลล์เวลาซ้อมบอลเลย
“บาสจ้า”เบลล์ตอบพลางยิ้ม รู้แล้วว่าไมเบลล์เป้นสวัสดิการบาส เพราะแฟนเบลล์เล่นบาสคราบบบบ
“ว่าแล้ว เกมถึงไม่เคยเห็นเบลล์ แล้ววันนี้บาสไม่แข่งหรอ” ผมถามเบลล์
“อืม… บาสแข่งพรุ่งนี้”เบลล์ตอบผม
“งั้นอย่าลืมไปเชียร์เกมด้วยนะ งั้นเกมไปแล้วนะ”ผมลาเบลล์แล้วรีบเดินไปหาไอ้บัส
“ไอ้บัส คุณเส็ดยังว่ะ” ผมถามไอ้บัส เพราะตอนนี้บ่ายสามกว่าแล้ว
“ยัง”ไอ้บัสตอบแบบห้วนๆ
“ยังไม่เส็ดแล็บไหนว่ะ มา เดี๋ยวกูช่วย”ผมพูดพร้อมกับ หยิบแล็บมันขึ้นมา
“ไม่ต้องมายุ่ง อยู่นิ่งๆไป”อ้าว ไอ้สัดกูจะช่วย ดันมาด่ากูอีก มันพูดพร้อมกับปัดมือผมอย่างแรง เจ็บอ่า
“เออ… กุไม่ยุ่งก็ได้โว้ย ตกลงว่ากูเสือกใช่มั้ย งั้นทำไปเลย กูก้จะไม่สนคุณแล้วเหมือนกัน”ผมพูดเส็ดก็เดินออกจากห้องแล็บไปเลย อารมภ์โกรธของผมกำลังครอบงำผมแล้ว เคืองคุณว่ะไอ้บัส ไมมันต้องทำแรงๆกับผมด้วย ผมไม่เคยเห้นมันใช้นิสัยแบบนี้เลยนะ จำไว้นะ กูจะไม่พูดไม่คุยกับคุณอีกจำเอาไว้ ผมเข้าห้องน้ำคณะแล้วเปลี่ยนชุดบอลที่เตรียมมาพร้อมกับรองเท้าสตาร์ท แล้วรีบขับรถไปที่สนามบอลมหาลัย
“อ้าวเกม เพิ่งเรียนเส็ดหรอ แล้ว…..ไหนไอ้บัสอ่า”พี่ดิวถามผมพร้อมกับชะเง้อหาไอ้บัส
“มันยังเรียนแล็บไม่เส็ดอ่าพี่ ซักพักคงจะมา”ผมตอบพี่ดิวไป ไม่อยากพูดถึงมันเลยอ่า
“ งั้นลงสนามไปวอร์มร่างกายก่อนไป”พี่ดิวไล่ ผมพยักหน้า แล้ววิ่งเหยาะๆลงสนามไป เสียงกองเชียร์ทั้งสองคณะดังระงมไปทั้งสองฝั่งสนาม(สตรอร์เบอรี่ เบอรี่เม็ดใหญ่ หวานชื่นใจอร่อยถึงใจจิงๆ……………………….) ผมหันมองไปทั่ว เพื่อจะหาวี่แววพี่ต้อมแต่ก็ไม่มี หรือพี่ต้อมจะไม่มา
จนพอใกล้ถึงเวลาแข่ง พี่ดิวก้เรียกผมและเพื่อนคนอื่นๆไปรวมทีม แล้วไอ้บัสก็เดินเข้ามาเพราะเพิ่งมาถึงหลังสุด ผมสบตากับมันครั้งหนึ่งแล้วหันไปทางอื่น มันเหมือนกัน เออดี ต้องการแบบนี้ใช่มั้ย กูผิดใช่มั้ย พี่ดิวก็พุดๆๆๆๆๆจนพวกผมลงแข่ง เสียงนกหวีดของกรรมการ เริ่มส่งสัญญาณ ให้เริ่มแข่งได้ จนแข่งเส็ด ตกลง คณะผมกับคณะเศรษฐศาสตร์เสมอกัน 2-2 คับ (พออ่านมาถึงตรงนี้ เพื่อนๆคงจะคิดว่า อ้าว ไมแข่งเส็ดง่ายแบบนี้อ่า ไม่มีไรมากกว่านี้หรอ ไม่มีไรหวือหวาเลยคับ และอีกอย่างผมก็ขี้เกียดเล่าเหตุการณ์ตอนแข่งอ่า เพราะถ้าจะเล่ากันให้หมดก็คงพิมกันมือหงิกมืองอแน่ๆ คงไม่ว่ากันนะคับ และตกลงว่าวันนั้นพี่ต้อมไม่มาจิงๆด้วย ผมงอนคับ แต่ตอนนี้เปลี่ยนเป็นเสียใจอ่า เสียใจจิงๆคับ น้อยใจด้วย มาไม่ได้แล้วรับปากผมทำไม
“ไอ้เกม ไปหาไรกินกันดีกว่าว่ะ เอ้ยๆทุกคนไปหาไรกินกันป่าวว่ะ หิวฉิบหาย”ไอ้กันต์บ่น
“ตามสบายว่ะ กูยังไม่หิว”ผมพูดไปพลางมองหน้าไอ้บัส ที่จริงหิวแหละคับ แต่อยากรอกินพร้อมพี่ต้อม
“เอางั้นหรอ อืมๆ งั้นพวกกูไปก่อนว่ะ” แล้วพวกมันก็เดินจากไป แต่ผมไม่ได้สังเกตุไอ้บัส
ผมเดินคอตกมานั่งพิงใต้ต้นไม้ข้างสนามในที่ๆค่อนข้างจะลับตาคน นึกไปต่างๆนานๆว่าพี่ต้อมไปไหน กับใคร และเรื่องราวอีกมากมายที่ต้องครุ่นคิด ไหนจะเรื่องระหว่างผมกับไอ้บัสอีก จู่ๆก็มีน้องผู้ชายคนหนึ่งเดินเข้ามาหาผม
“ขอโทดนะคับพี่ พี่อยู่คณะ….ป่าวคับ แล้วร็จักพี่เชาว์ป่าวคับ” น้องนั่นถามผม

..............................................เดี๊ยวมาต่อคับ........................................
ดูบันทึกคะแนน
   pipi1 พลังน้ำใจ +10 Zenny +150 กระทู้นี้ยอดเยี่ยม!.

น้องใหม่เฟรชชี่

โพสต์
2
พลังน้ำใจ
22
Zenny
40
ออนไลน์
0 ชั่วโมง

หัวหน้าห้อง

โพสต์
1043
พลังน้ำใจ
1708
Zenny
1429
ออนไลน์
263 ชั่วโมง
ขอบคุณครับ

นักศึกษา

โพสต์
263
พลังน้ำใจ
212
Zenny
855
ออนไลน์
38 ชั่วโมง
   ขอบคุณ นะคับ มาต่อเร็วๆๆนะ
     

นักศึกษา

โพสต์
100
พลังน้ำใจ
120
Zenny
257
ออนไลน์
52 ชั่วโมง
ขอบคุณครับ

นายกองค์การนักศึกษา

โพสต์
8023
พลังน้ำใจ
41426
Zenny
22431
ออนไลน์
2438 ชั่วโมง
ขอบคุณครับ

มาเฟียคุมคณะ

โพสต์
8238
พลังน้ำใจ
53672
Zenny
16837
ออนไลน์
7671 ชั่วโมง

มาเฟียคุมคณะ

โพสต์
8238
พลังน้ำใจ
53672
Zenny
16837
ออนไลน์
7671 ชั่วโมง

นายกองค์การนักศึกษา

โพสต์
6340
พลังน้ำใจ
43314
Zenny
9470
ออนไลน์
3237 ชั่วโมง
ขอบคุณคาบ

มาเฟียคุมคณะ

โสด สุดดดด

โพสต์
11439
พลังน้ำใจ
66017
Zenny
23813
ออนไลน์
10652 ชั่วโมง
Every cloud has a silver l

นายกองค์การนักศึกษา

โพสต์
2081
พลังน้ำใจ
20058
Zenny
210
ออนไลน์
1200 ชั่วโมง
ขอบคุณมากๆน่ะครับ

มาเฟียคุมคณะ

โพสต์
8332
พลังน้ำใจ
59895
Zenny
33440
ออนไลน์
15370 ชั่วโมง
สนุกมากครับ

นายกองค์การนักศึกษา

โพสต์
5715
พลังน้ำใจ
37140
Zenny
3672
ออนไลน์
2159 ชั่วโมง

มาเฟียคุมคณะ

โพสต์
18295
พลังน้ำใจ
89563
Zenny
49341
ออนไลน์
12695 ชั่วโมง
ขอบคุณครับ

มาเฟียคุมคณะ

โพสต์
8238
พลังน้ำใจ
53672
Zenny
16837
ออนไลน์
7671 ชั่วโมง
ขอบคุนคราบ

นายกองค์การนักศึกษา

โพสต์
8273
พลังน้ำใจ
44562
Zenny
33130
ออนไลน์
2328 ชั่วโมง
รักสามเศร้า

มาเฟียคุมคณะ

โพสต์
11514
พลังน้ำใจ
55321
Zenny
50085
ออนไลน์
2025 ชั่วโมง
ขอบคุณครับ

นายกองค์การนักศึกษา

โพสต์
6360
พลังน้ำใจ
42817
Zenny
11749
ออนไลน์
2247 ชั่วโมง
ขอบคุณครับ

นายกองค์การนักศึกษา

โพสต์
6340
พลังน้ำใจ
43314
Zenny
9470
ออนไลน์
3237 ชั่วโมง
ขอบคุฯ

ประธานนักศึกษา

โพสต์
1697
พลังน้ำใจ
8525
Zenny
148
ออนไลน์
556 ชั่วโมง
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ลงชื่อเข้าใช้ | สมัครเข้าเรียน

รายละเอียดเครดิต

A Touch of Friendship: สังคมจะน่าอยู่ เมื่อมีผู้ให้แบ่งปัน ฝากไวเป็นข้อคิดด้วยนะคะชาวจีโฟกายทุกท่าน
!!!!!โปรดหยุด!!!!! : พฤติกรรมการโพสมั่วๆ / โพสแต่อีโมโดยไม่มีข้อความประกอบการโพส / โพสลากอักษรยาว เช่น ครับบบบบบบบบ, ชอบบบบบบบบ, thxxxxxxxx, และอื่นๆที่ดูแล้วน่ารำคาญสายตา เพราะถ้าท่านไม่หยุดทีมงานจะหยุดท่านเอง
ขอความร่วมมือสมาชิกทุกท่านโปรดโพสตอบอย่างอื่นนอกเหนือจากคำว่า ขอบคุณ, thanks, thank you, หรืออื่นๆที่สื่อความหมายว่าขอบคุณเพียงอย่างเดียวด้วยนะคะ เพื่อสื่อถึงความจริงใจในการโพสตอบกระทู้ และไม่ดูเป็นโพสขยะ
กระทู้ไหนที่ไม่ใช่กระทู้ในลักษณะที่ต้องโพสตอบโดยใช้คำว่าขอบคุณ เช่นกระทู้โพล, กระทู้ถามความเห็น, หรืออื่นๆที่ทีมงานอ่านแล้วเข้าข่ายว่า โพสขอบคุณไร้สาระ ทีมงานขอดำเนินการตัดคะแนน และ/หรือให้ใบเตือนสมาชิกที่โพสขอบคุณทันทีที่เจอนะคะ

รูปแบบข้อความล้วน|โทรศัพท์มือถือ|ติดต่อลงโฆษณา|จีโฟกายดอทคอม


ข้อความที่ท่านได้อ่านในเว็บจีโฟกายดอทคอมนี้ เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชน และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ หากท่านพบเห็นข้อความใดๆ ที่ขัดต่อกฎหมาย และศิลธรรม ไม่เหมาะสมที่จะเผยแพร่ ท่านสามารถแจ้งลบข้อความได้ที่ Link “แจ้งลบโพสนี้” ที่มีอยู่ใต้ข้อความทุกข้อความ หรือ ลืมพาสเวิดล๊อกอิน/ลืมชื่อที่ใช้สมัคร หรือข้อสงสัยใดๆแจ้งมาที่ G4GuysTeam[at]yahoo.com ขอขอบพระคุณที่ให้ความร่วมมือ

กรณีที่ข้อความ/รูปภาพในกระทู้นี้จัดสร้างโดยผู้ลงข้อมูลเอง ลิขสิทธิ์จะเป็นของผู้ลงข้อมูลโดยตรง หากจะทำการคัดลอก/เผยแพร่ ต้องได้รับอนุญาตจากผู้ลงข้อมูลก่อนนะคะ หรือลงที่มาไว้ด้วยค่ะ

©ขอสงวนสิทธิ์คอนเซ็ปต์,คำอธิบาย,หัวข้อ/หมวดหมู่เว็บ ห้ามลอกเลียนแบบ คิดเอาเองนะคะอย่าเอาแต่ลอก

GMT+7, 2024-5-5 09:25 , Processed in 0.152607 second(s), 25 queries .

Powered by Discuz! X3.1 R20140301, Rev.31

© 2001-2013 Comsenz Inc.

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้