ลืมรหัสผ่าน
 สมัครเข้าเรียน
ค้นหา
ดู: 996|ตอบกลับ: 4

สูตรกระทงทอง 4 สูตร เลิศ!!!!

[คัดลอกลิงก์]
 นักศึกษาภาคพิเศษ (M.D.A)
ปริญญากิตติมศักดิ์

สมาชิกจีโฟกาย 100%สมาชิกระดับแพลตตินั่มสมาชิกระดับทับทิมสมาชิกระดับไพลินสมาชิกระดับมรกตสมาชิกระดับเพชรสมาชิกระดับเพชรบริหารสมาชิกระดับเพชรคู่สมาชิกระดับตรีเพชรสมาชิกระดับมงกุฎ


กระทง ทอง สูตร 1
ส่วนผสมแป้งกระทงทอง แบบ 1
แป้ง สาลี 1 ถ้วย
แป้งข้าวเจ้า 1 ถ้วย
น้ำตาลทราย 2 ช้อนชา
เกลือป่น 1 ช้อนชา
น้ำปูนใส 1+1/2 ถ้วย
น้ำมัน 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำมันสำหรับทอด

วิธี ทำ
ผสมแป้งทั้งสองชนิดเข้าด้วยกัน แล้วร่อน จากนั้นเติมส่วนผสมที่เหลือลงไป
ใช้ตะกร้อมือคนหรือใช้มือขยำจนกระทั่ง แป้งไม่เป็นเม็ด แล้วกรองด้วยกระชอน
จากนั้นเทน้ำมันใส่กระทะก้นลึกหรือ หม้อ กะให้พอท่วมพิมพ์ ตั้งไฟกลาง
รอไว้ให้น้ำมันร้อนจัด ๆ นำพิมพ์ไปจุ่มในน้ำมัน จนพิมพ์ร้อนดี ยกพิมพ์ขึ้นมาสะเด็ดน้ำมันออก
จาก นั้นนำจุ่มพิมพ์พอติดแป้งแต่ภายนอก แล้วยกมาจุ่มในน้ำมัน พอแป้งเริ่มอยู่ตัว ให้กดก้นพิมพ์ลงก้นหม้อ
จะทำให้ก้นกระทงทองแบนดี แล้วยกขึ้นมาทอดจนเหลือง แป้งจะหลุดออกจากพิมพ์เอง
ช้อนขึ้นในใส่กระดาษ ซับน้ำมัน รอให้เย็นจึงนำไปใส่ไส้ตามใจชอบ

ส่วนผสมแป้งกระทงทอง แบบ 2
แป้งสาลี 1/2 ถ้วย
แป้งข้าวเจ้า 1/2 ถ้วย
กะทิ 1/4 ถ้วย
ไข่ไก่ 1/2 ฟอง
เกลือป่น 1/4 ช้อนชา
น้ำปูนใส 1/4 ถ้วย
น้ำ 1/2 ถ้วย
และน้ำมันสำหรับทอด

วิธีทำ
ผสมแป้งทั้งสอง ชนิดและเกลือเข้าด้วยกัน แล้วร่อน จากนั้นต่อยใส่ไข่ แล้วค่อย ๆ เติมกะทิ
นวด ให้เข้ากันจนหมดกะทิ ใส่น้ำ น้ำปูนใส คนให้ทั่ว แล้วกรองด้วยกระชอน
แล้ว นำพิมพ์มาชุบแป้งที่ทำเสร็จแล้ว จากนั้นนำไปทอด ตามวิธีที่บอกไว้ในแบบ 1

วิธี ทำไส้เจ
แช่โปรตีนเกษตร 1 ถ้วยในน้ำเปล่าจนนิ่ม แล้วนำมาสับหรือหั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ
จากนั้นนำแครอท และมันฝรั่งที่หั่นเป็นลูกเต๋าเล็ก ๆ อย่างละ 1/2 ถ้วยมาลวก
และถั่ว ฝักยาวหั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ อีก 1/2 ถ้วย ก็นำมาลวกเหมือนกัน แล้วนำแช่ในน้ำเย็นจัด ๆ ทันที
จากนั้นสงขึ้นพักไว้ให้สะเด็ดน้ำ จากนั้นเทน้ำมัน 1 ช้อนโต๊ะใส่กระทะนำไปตั้งไฟพอร้อน
เทโปรตีนเกษตรลงไป ผัด ปรุงรสด้วยซีอิ้วขาว 11/2 ช้อนโต๊ะ ซีอิ้วดำหวาน 1/2 ช้อนโต๊ะ
ซอส ปรุงรส 1 ช้อนโต๊ะ และน้ำตาลทราย 2 ช้อนชา ผัดจนโปรตีนเกษตรสุกดี แล้วยีให้กระจายเป็นชิ้นเล็ก ๆ
ใส่ผักทั้งหมดที่ลวกไว้แล้วลงไป ผัดให้เข้ากันดี ปิดไฟ ยกลง ทิ้งไว้พอเย็นจึงตักใส่กระทงทอง

วิธี ทำไส้เมี่ยงไก่
ใช้เนื้ออกไก่นึ่งสุก 1 ชิ้นนำมาหั่นเป็นชิ้นสี่เหลี่ยมเล็ก ๆ แล้วคลุกกับข่าโขลก 1 ช้อนชาพอทั่ว
ใส่ เกลือ 1/2 ช้อนชา น้ำตาล 1 ช้อนโต๊ะ น้ำมะนาว 1 ช้อนโต๊ะ เคล้าให้เข้ากันอีกครั้ง
แล้วตักเนื้อไก่ที่ปรุงรสเสร็จแล้วใส่ลงใน กระทงทองที่เตรียมไว้
แล้วจึงใส่ส้มซ่าหั่นเป็นชิ้นสี่เหลี่ยมเล็ก ๆ1 ลูก กระเทียมดองหั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ3 หัว
หอมแดงหั่นเป็น สี่เหลี่ยมเล็ก ๆ1/4 ถ้วย ขิงอ่อนหั่นเป็นสี่เหลี่ยมเล็ก1/4 ถ้วย  
ถั่ว ลิสงคั่ว1/2 ถ้วย ข้างบนไส้ แล้วโรยหน้าด้วยพริกชี้ฟ้าแดงหั่นฝอย1 เม็ด

Tip
ในการทำกระทงทอง มีเคล็ดลับอยู่นิดหน่อย คือ ก่อนที่จะเอาพิมพ์มาชุบกับส่วนผสมแป้งนั้น
จะต้องแช่พิมพ์ในน้ำมันที่ ร้อนจัด จนพิมพ์ร้อนดีเสียก่อน
แล้วจึงนำพิมพ์ขึ้นมาวางบนกระดาษซับ น้ำมันให้น้ำมันที่ติดอยู่ตรงก้นพิมพ์ออกไปเสียบ้าง
ก่อนจะนำพิมพ์ไป จุ่มในส่วนผสมแป้ง แป้งจึงจะติดดี ทุกครั้งที่มีการจุ่มพิมพ์ลงในแป้ง จะต้องคนแป้งก่อน
และเวลาที่เอาพิมพ์ลงไปจุ่มกับส่วนผสมแป้ง จะต้องจุ่มเพียงแค่ให้แป้งติดแค่รอบนอกของพิมพ์เท่านั้น
อย่าให้แป้งตก เข้าไปข้างในพิมพ์ แล้วจึงนำไปทอด พอแป้งอยู่ตัวดีแล้ว ให้กดก้นพิมพ์ลงกับกระทะสักครู่
วิธีนี้จะช่วยให้ก้นกระทงทองแบนตั้งได้ ส่วนไส้เราก็สามารถจะเลือกดัดแปลงได้หลายอย่างตามแต่จะชอบ
อาจจะเป็น ไส้ไก่กับครีมขาว ไส้ลาบ ไส้เขียวหวานผัดแห้ง ไส้ผัดขี้เมา ฯลฯ

กระทงทอง สูตร 2
กระทง ทองเป็นอาหารว่างของไทยที่หากินได้ค่อนข้างยาก ส่วนมากจะทำขายเฉพาะร้านที่จำหน่างอาหารไทย
ราคาต่อจานค่อนข้างแพง ประกอบไปด้วยส่วนที่เป็นกระทงทำจากแป้งและส่วนที่เป็นไส้
ไส้กระทงทอง สามารถดัดแปลงได้หลายชนิด แต่ที่นิยมคือ ไส้ข้าวโพด

สิ่งสำคัญ ของกระทงทองคือ ตัวกระทงที่ต้องทอดใหม่ๆ ถ้าทอดทิ้งไว้ไม่ควรเกิน 2 วัน
เพราะ จะมีกลิ่นเหม็นหืนไม่น่ากิน ไส้ของกระทงทองจะมีรสเค็ม หวาน หอมกลิ่นรากผักชี พริกไทย กระเทียม
จะไม่นิยมใส่ไส้แล้ววางทิ้งไว้นาน เพราะจะทำให้น้ำที่ตัวไส้ซึมลงกระทงทำให้ไม่กรอบ จะใส่ไส้แล้วเสิร์ฟทันที
ตัว ไส้ของกระทงทองต้องผัดให้แห้ง

ลักษณะของพิมพ์กระทงทองเป็นทองเหลือง แล้วขึ้นรูปเป็นกระทง มีรูปร่างกลมหรือสี่เหลี่ยมเป็นจีบๆ ด้ามทำด้วยไม้
วิธี การใช้คือ ต้องแช่พิมพ์ในน้ำมันให้พิมพ์ร้อนจัดเสียก่อน เมื่อพิมพ์ร้อนค่อยจุ่มลงในแป้งแป้งจึงจะเกาะพิมพ์
แล้วนำไปจุ่มใน น้ำมัน พอแป้งสุกก็ค่อยๆ แซะแป้งออกจากพิมพ์ แป้งก็จะหลุดโดยง่าย

ส่วนผสมแป้งกระทง
แป้ง สาลีอเนกประสงค์ 1/2 ถ้วยตวง +2 ช้อนโต๊ะ
แป้งข้าวเจ้า 3/4 ถ้วยตวง
ไข่ แดง 1 ฟอง
เกลือป่น 1/2 ช้อนชา
น้ำปูนใส 7 ช้อนโต๊ะ
น้ำมันพืช 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำเปล่า 7 ช้อนโต๊ะ
น้ำมันสำหรับทอด 4 ถ้วยตวง

ส่วน ผสมไส้ข้าวโพด
เนื้อไก่สับ 2 ขีดครึ่ง
เนื้อกุ้งสับ 2 ขีด
ข้าว โพดต้มแกะเม็ด 2 ขีดครึ่ง
รากผักชีหั่น 1 ช้อนชา
กระเทียมสับ 1 ช้อนชา
พริกไทยเม็ด 1/2 ช้อนชา
น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำปลา 2 ช้อนชา
น้ำมันพืช 2 ช้อนชา

วิธีทำตัวแป้ง
1. ผสมแป้งทั้ง 2 ชนิด เกลือป่นให้เข้ากันทำเป็นหลุมตรงกลาง ใส่ไข่แดง น้ำมันพืช น้ำปูนใส
ค่อยๆนวดผสมให้เข้ากัน แล้วค่อยๆใส่น้ำส่วนที่เหลือลงนวดทีละน้อยจนน้ำหมด คนให้แป้งละลาย
2. ใส่น้ำมันลงในกระทะก้นลึก จุ่มพิมพ์ลงไปให้พิมพ์ร้อน ซับก้นพิมพ์ ด้วยกระดาษซับน้ำมัน
แล้วจุ่มแป้งให้ได้ 3/4 ของพิมพ์ ระวังอย่าให้แป้งไหลเข้าไปในพิมพ์ด้านใน
3. นำพิมพ์ที่จุ่มแป้งแล้วลงทอดไฟปานกลาง พอแป้งสุกใช้ไม้ปลายแหลม แซะแป้งให้หลุดจากพิมพ์
ทอดต่อจนเหลือง ตักขึ้นให้สะเด็ดน้ำมันโดยคว่ำกระทงลง ทิ้งให้เย็น เก็บใส่ภาชนะปิดสนิท

วิธี ทำไส้
1. โขลกรากผักชี พริกไทย กระเทียม ให้ละเอียด
2. นำเครื่องที่โขลกแล้วลงผัดในน้ำมันให้หอม ใส่ไก่สับและกุ้งสับ ลงผัดพอสุก
ปรุง รสด้วยน้ำปลา น้ำตาลทราย ใส่ข้าวโพดผัดจนส่วนผสมแห้ง ตักใส่ภาชนะพักไว้
3. เมื่อจะกิน ตักไส้ใส่กระทง แต่งหน้าด้วยใบผักชีและพริกชี้ฟ้าแดงหั่นเป็นเส้นๆ

ถึงแม้ว่ากระทง ทองจะเป็นอาหารว่างที่มีวิธีการทำที่ค่อนข้างยากใช้เวลาค่อนข้างมาก
แต่ ก็เป็นอาหารว่างไทยที่ควรจะรักษาไว้ กระทงทองเป็นอาหารว่างที่จัดขึ้นโต๊ะได้อย่างไม่อายใคร
เนื่องจากมีรูป ร่างและสีสันที่น่ากิน ลักษณะพอดีคำ กินได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่เพราะมีรสชาติกลางๆ
ตัวไส้สามารถดัดแปลงนำผัก หลายๆ ชนิดมาใส่ได้ เช่น แครอตหั่นสี่เหลี่ยม ลูกเต๋าเล็กๆ หรือเม็ดถั่วลันเตา
ก็จะเพิ่มสีสันให้น่ากินยิ่งขึ้น

เคล็ด ลับ
1. ต้องคอยคนแป้งทุกครั้งก่อนนำพิมพ์ลงจุ่ม อย่าให้แป้งนอนก้น
2. ผัดไส้ให้แห้งจะทำให้กระทงกรอบนาน
3. จุ่มพิมพ์ให้ร้อนก่อนนำลงไปจุ่มในแป้งแป้งจึงจะติดพิมพ์

กระทงทอง สูตร 3

กระทง ทองเป็นอาหารว่างแบบไทยๆ เป็นที่นิยมกันมาก โดยเฉพาะงานเลี้ยงต่างๆ
เนื่อง จากมีรสชาดที่อร่อยรูปลักษณ์ที่สวยงาม มีประโยชน์ต่อร่างกาย เพราะมีส่วนผสมที่หลากหลาย เช่น
แป้ง เนื้อสัตว์ ผักต่างๆ ซึ่งมีคุณค่าทางโภชนาการ คือ คาร์โบไฮเดรต โปรตีน วิตามิน เกลือแร่
รวม ทั้งพลังงานจากไขมัน ส่วนประกอบของกระทงทอง มี 3 ส่วน คือ
1.ตัว กระทง มาจากส่วนผสมของแป้ง จากนั้นใช้พิมพ์กระทงรูปต่างๆ มาจุ่มลงในแป้ง จนมีสีเหลืองทอง
จึงเรียกว่า กระทงทอง พิมพ์กระทง มีทั้งแบบเดี่ยว แบบคู่ และแบบ 4 กระทง
2.ไส้กระทง สามารถดัดแปลงได้ทั้งไส้หวาน และไส้คาว เช่น ไส้ไก่ซอสขาว,ไส้ไก่ข้าวโพด,ไส้แหนมสด
เทคนิคการทำไส้ คือ ตัวไส้ควรมีลักษณะแห้ง เพื่อคงความกรอบของกระทง และวัตถุดิบที่ใช้ ควรหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ
3.ผักตกแต่ง ควรใช้ผักชีเด็ดเป็นใบ พริกชี้ฟ้าหั่น เป็นเส้น วางตกแต่งด้านบนให้สวยงาม
ส่วนผักเคียง ใช้ผักชี ผักกาดหอม

กระทงทอง
ส่วนผสมตัวกระทง
แป้งข้าว เจ้า 1/2 ถ้วย
แป้งสาลี 1/2 ถ้วย
น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา
เกลือ ป่น  1/2 ช้อนชา
ไข่แดงของไข่ไก่ 1 ฟอง
น้ำปูน ใส 2/3 ถ้วย
น้ำมันพืชน้ำ 1 ช้อนโต๊ะ

หมายเหตุ เพิ่มน้ำมันพืช และกะทิ เป็นอย่างละ 2 ช้อนโต๊ะ เพื่อเพิ่มรสชาดที่กลมกล่อมให้กับกระทงทอง
วิธี ทำ
1. ผสมแป้งทั้ง 2 ชนิดเข้าด้วยกัน
2. ใส่น้ำตาลทรายและเกลือลงในส่วนผสมแป้งเคล้าให้เข้ากัน
3. ผสมน้ำมันพืช น้ำปูนใส ไข่แดง คนรวมกัน เทใส่ในส่วนผสมแป้ง คนให้เข้ากัน
4. ใส่น้ำมันลงในกระทงทองเหลือง ¾ ของกระทะตั้งไฟ
เมื่อน้ำมันร้อน นำพิมพ์ กระทงทองจุ่มลงในน้ำมัน พอพิมพ์ร้อน
5. จุ่มพิมพ์ในส่วนผสมแป้งให้แป้งจับเกือบถึงขอบพิมพ์ นำไปทอดในน้ำมัน
พอ แป้งแข็งตัวให้ส้อมเขี่ยแป้งให้หลุดออกจากพิมพ์ ทอดต่อจนเหลือง
ตักขึ้น วางบนกระดาษซับน้ำมันปล่อยให้เย็น เก็บใส่ภาชนะที่มีฝาปิดมิดชิด

ส่วน ผสมไส้
ไก่หั่นชิ้นสี่เหลี่ยมลูกเต๋า 2 ถ้วย
หอมใหญ่หั่นสี่ เหลี่ยมลูกเต๋า 1 ถ้วย
เมล็ดถั่วลันเตาต้มสุก 1 ถ้วย
แครอทหั่นสี่ เหลี่ยมลูกเต๋าต้มสุก 1 ถ้วย
เนยสด 5 ช้อนโต๊ะ
แม็กกี้ 2-3 ช้อนโต๊ะ
แป้ง สาลี 4-5 ช้อนโต๊ะ
นมสด 1 1/4 ถ้วย
เกลือป่น 1 ช้อนชา
พริกไทยป่น 1 ช้อนชา
วิธีทำ
1. นำเนยสด 1 ช้อนโต๊ะผัดไก่ให้สุก ตักขึ้น
2. ใส่เนยสดที่เหลือในกระทะตั้งไฟพอละลาย ใส่หอมใหญ่ลงผัดจนสุกและเหลือง
3. แป้งสาลีละลายกับนมสด คนอย่าให้แป้งเป็นเม็ด ใส่ในส่วนผสม ข้อ 2
ปรุง รสด้วย เกลือป่น แม็กกี้ พริกไทยป่น น้ำตาลทราย ชิมรส ใส่ไก่ แครอท เมล็ดถั่วลันเตา ผัดจนเข้ากันดี ตักขึ้น
หมายเหตุ นมสดเตรียมได้จาก นมข้นจืดระเหย 1 ถ้วย เติมน้ำ 1 ส่วน
วิธีทำปูน ใส
ให้ใช้ปูนแดงที่กินกับหมาก ละลายกับน้ำสะอาด ตั้งทิ้งไว้ให้เป็นตะกอน แล้วเอาน้ำใสๆ มาใช้
น้ำปูนใสมีความสำคัญมาก เพราะจะช่วยตัวแป้งมีความกรอบ และคงรูป ไม่แตกออกจากพิมพ์
สัดส่วนที่ ใช้ คือ ปูน 1/2 ช้อนชา ต่อน้ำ 1/2 ถ้วย

วิธีทอด
1.ตั้ง น้ำมันให้ร้อนโดยใช้ไฟกลาง นำพิมพ์ลงไปแช่ในน้ำมันจนร้อน คนแป้งที่เตรียมไว้อย่าให้นอนก้น
2.เทน้ำมันออกจากพิมพ์ แล้วนำไปจุ่มลงในแป้งเฉพาะด้านนอก พอให้แป้งเกาะติดพิมพ์เท่านั้น
3.นำ พิมพ์ที่จุ่มแป้งแล้วลงทอดในน้ำมันจนร่อนออกจากพิมพ์จากนั้นนำพิมพ์ขึ้น แล้วทอดขนมต่อจนเหลืองอ่อน
4.แช่พิมพ์ในน้ำมันอีกครั้ง เพื่อเตรียมทอดต่อไป ทำจนหมด
5.เมื่อกระทงเย็นแล้ว เก็บใส่ภาชนะ ปิดฝามิดชิด
วิธีเสริฟมี 2 วิธี
1. แยกไส้ออกจากกระทง เวลารับประทานจึงตักไส้ใส่
2. นำกระทงที่ทอดแล้ว จัดเรียงใส่จาน ตักไส้ใส่กระทงให้เต็ม ตกแต่งให้สวยงาม
รับประทานทันที ถ้าทิ้งไว้นานขนมจะนิ่ม

กระทงทองข้าวโพด
ส่วน ผสมแป้ง
แป้งสาลี 1/2 ถ้วยตวง
ไข่ไก่ 1 ฟอง
แป้งข้าวเจ้า 1/2 ถ้วยตวง
น้ำมัน 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา
น้ำ 1/3 ถ้วยตวง
เกลือ ป่น 1/2 ช้อนชา
น้ำปูนใส 1/3 ถ้วยตวง

ส่วนผสมไส้
ข้าว โพดฝานบาง 2 ถ้วยตวง
ซีอิ๊วขาว 4 ช้อนโต๊ะ
เนื้อหมูหรือไก่หั่นสี่ เหลี่ยมเล็ก ๆ 1/2 ถ้วยตวง
น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำมัน 4 ข้อนโต๊ะ
พริก ไทย รากผักชี กระเทียมโขลก 1 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำแป้ง
1. ผสมแป้งทั้งสองเข้าด้วยกับใส่น้ำตาล เกลือ ไข่แดง น้ำมัน
คนให้ทั่วค่อย ๆ ใส่น้ำคนให้แป้งเข้ากับส่วนผสม แล้วจึงใส่น้ำปูนใส คนให้เข้าเป็นเนื้อเดียวกัน
2. ยกหม้อตั้งไฟใช้น้ำมัน 1 ขวด พอร้อนนำพิมพ์กระทงทอง จุ่มลงในน้ำมันพอร้อนยกขึ้นซับน้ำมันออก
จุ่ม พิมพ์ลงในแห้งที่ผสมไว้ ให้แห้งจับเกือบถึงขอบพิมพ์แล้วทอดในน้ำมันจนเหลือง
จึงตักขึ้นวางบนกระดาษซับน้ำมันพอเย็นเก็บใส่ภาชนะที่มีฝาปิดสนิท (เพื่อรักษาความกรอบของแป้ง)

วิธีทำไส้
1. ผัดรากผักชี กระเทียม พริกไทย พอเหลืองใส่หมูหรือไก่ลงผัด พอสุกใส่ข้าวโพดปรุงรสผัดต่อจนแห้ง ตักขึ้น
2. เวลารับประทาน หยิบกระทงเรียงในจาน ตักไส้ที่เตรียมไว้ใส่ในกระทง แต่งหน้าด้วยพริกแดง และใบผักชี

คะแนน

จำนวนผู้เข้าร่วม 1พลังน้ำใจ +20 Zenny +220 ย่อ เหตุผล
yellow2550 + 20 + 220 ค่าสูตรครับ

ดูบันทึกคะแนน

ชินกับการถูกลืมแต่กลับไม่เคยลืมว่าเคยรักมึง
 นักศึกษาภาคพิเศษ (M.D.A)
ปริญญากิตติมศักดิ์

สมาชิกจีโฟกาย 100%สมาชิกระดับเพชรคู่สมาชิกระดับแพลตตินั่มสมาชิกระดับทับทิมสมาชิกระดับไพลินสมาชิกระดับมรกตสมาชิกระดับเพชรสมาชิกระดับเพชรบริหารสมาชิกระดับตรีเพชรสมาชิกระดับมงกุฎ

โพสต์ 2011-9-27 21:15:58 | ดูโพสต์ทั้งหมด
 นักศึกษาภาคพิเศษ (M.D.A)
ปริญญากิตติมศักดิ์

สมาชิกจีโฟกาย 100%สมาชิกระดับเพชรคู่สมาชิกระดับแพลตตินั่มสมาชิกระดับทับทิมสมาชิกระดับไพลินสมาชิกระดับมรกตสมาชิกระดับเพชรสมาชิกระดับเพชรบริหารสมาชิกระดับตรีเพชรสมาชิกระดับมงกุฎ

โพสต์ 2011-9-28 19:50:40 | ดูโพสต์ทั้งหมด
มีโอกาสจะทำให้ทานนะครับ
ตามสูตรนี้เป๊ะครับ..คริคริ

แสดงความคิดเห็น

ขอบคุณคับ  โพสต์ 2011-9-30 02:57
 นักศึกษาภาคพิเศษ (M.D.A)
ปริญญากิตติมศักดิ์
โพสต์ 2011-9-29 04:24:03 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ขอบคุณครับ  เก็บสูตร ใกล้จะเปิดร้านได้แล้วนิ...อิอิ

แสดงความคิดเห็น

ด้วยความยินดีคับ  โพสต์ 2011-9-30 02:55
คิดถึงคนไกล นานนักรู้ไหมที่ไกลห่าง หัวใจดวงนี้ช่างอ้างว้าง รอคอยอย่า

นายกองค์การนักศึกษา

กระทู้
96
พลังน้ำใจ
10111
Zenny
1696
ออนไลน์
1083 ชั่วโมง

สมาชิกจีโฟกาย 100%สมาชิกระดับแพลตตินั่มสมาชิกระดับทับทิมสมาชิกระดับไพลิน

โพสต์ 2011-10-5 12:07:34 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ขอบคุณมากครับ

แสดงความคิดเห็น

ด้วยความยินดีคับ  โพสต์ 2011-10-5 19:24
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง เข้าสู่ระบบ | สมัครเข้าเรียน

รายละเอียดเครดิต

A Touch of Friendship: สังคมจะน่าอยู่ เมื่อมีผู้ให้แบ่งปัน ฝากไวเป็นข้อคิดด้วยนะคะชาวจีโฟกายทุกท่าน
!!!!!โปรดหยุด!!!!! : พฤติกรรมการโพสมั่วๆ / โพสแต่อีโมโดยไม่มีข้อความประกอบการโพส / โพสลากอักษรยาว เช่น ครับบบบบบบบบ, ชอบบบบบบบบ, thxxxxxxxx, และอื่นๆที่ดูแล้วน่ารำคาญสายตา เพราะถ้าท่านไม่หยุดทีมงานจะหยุดท่านเอง
ขอความร่วมมือสมาชิกทุกท่านโปรดโพสตอบอย่างอื่นนอกเหนือจากคำว่า ขอบคุณ, thanks, thank you, หรืออื่นๆที่สื่อความหมายว่าขอบคุณเพียงอย่างเดียวด้วยนะคะ เพื่อสื่อถึงความจริงใจในการโพสตอบกระทู้ และไม่ดูเป็นโพสขยะ
กระทู้ไหนที่ไม่ใช่กระทู้ในลักษณะที่ต้องโพสตอบโดยใช้คำว่าขอบคุณ เช่นกระทู้โพล, กระทู้ถามความเห็น, หรืออื่นๆที่ทีมงานอ่านแล้วเข้าข่ายว่า โพสขอบคุณไร้สาระ ทีมงานขอดำเนินการตัดคะแนน และ/หรือให้ใบเตือนสมาชิกที่โพสขอบคุณทันทีที่เจอนะคะ

รูปแบบข้อความล้วน|โทรศัพท์มือถือ|ติดต่อลงโฆษณา|จีโฟกายดอทคอม

ข้อความที่ท่านได้อ่านในเว็บจีโฟกายดอทคอมนี้ เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชน และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ หากท่านพบเห็นข้อความใดๆ ที่ขัดต่อกฎหมาย และศิลธรรม ไม่เหมาะสมที่จะเผยแพร่ ท่านสามารถแจ้งลบข้อความได้ที่ Link “แจ้งลบโพสนี้” ที่มีอยู่ใต้ข้อความทุกข้อความ หรือ ลืมพาสเวิดล๊อกอิน/ลืมชื่อที่ใช้สมัคร หรือข้อสงสัยใดๆแจ้งมาที่ G4GuysTeam[at]yahoo.com ขอขอบพระคุณที่ให้ความร่วมมือ

กรณีที่ข้อความ/รูปภาพในกระทู้นี้จัดสร้างโดยผู้ลงข้อมูลเอง ลิขสิทธิ์จะเป็นของผู้ลงข้อมูลโดยตรง หากจะทำการคัดลอก/เผยแพร่ ต้องได้รับอนุญาตจากผู้ลงข้อมูลก่อนนะคะ หรือลงที่มาไว้ด้วยค่ะ

©ขอสงวนสิทธิ์คอนเซ็ปต์,คำอธิบาย,หัวข้อ/หมวดหมู่เว็บ ห้ามลอกเลียนแบบ คิดเอาเองนะคะอย่าเอาแต่ลอก

GMT+7, 2024-9-20 16:14 , Processed in 0.104724 second(s), 27 queries .

Powered by Discuz! X3.5, Rev.8

© 2001-2024 Discuz! Team.

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้