จีโฟกาย.คอม

 ลืมรหัสผ่าน
 สมัครเข้าเรียน
ค้นหา
 
ดู: 2153|ตอบกลับ: 55
สั่งพิมพ์ ก่อนหน้า ถัดไป
ซ่อนแถบด้านข้าง

รักพ่อดินที่สุดในโลกเลย ♥ [12]

[คัดลอกลิงก์]

ประธานนักศึกษา

โพสต์
524
พลังน้ำใจ
3385
Zenny
10726
ออนไลน์
502 ชั่วโมง
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Vitamin25 เมื่อ 2022-11-20 13:48

ทันทีที่อากาศหนาวมาเยือนเราก็กลายเป็นคนที่ตื่นสายในไปเลย
จากปกติแทบทุกวันเราจะเป็นคนตื่นเช้าก่อนพ่อดินเขาเสมอ แล้วลุกมาหุงข้าวรอพ่อเขา

แต่พอเข้าหน้าหนาวเท่านั้นแหละ ไม่อยากลุกไปไหนเลยยยยคือหน้าหนาวที่ต่างจังหวัดสมัยนั้นมันหนาวจริงๆนะ

แบบหนาวเย็นเจี๊ยบแล้วแสงแดดก็คือแทบไม่มี เหมาะแก่การนอนขลุกใต้ผ้าเป็นที่สุด

พ่อดินเขาไปขนเอาพวกผ้านวมแล้วก็พวกเสื้อกันหนาวจากบ้านป้าปูมาให้เราไว้ใส่นอนตอนกลางคืน

คือหนาวขนาดที่ว่าถ้าเผลอยื่นแขนยื่นขาออกนอกผ้านวมตอนนอนนี่คือเย็นเฉียบเลยก็เลยต้องใส่เสื้อแขนยาวเผื่อเอาไว้ด้วย

แล้วสิ่งหนึ่งที่เป็นปัญหาอีกอย่างก็คือ ไม่รู้มีใครเป็นเหมือนเรามั้ยถ้าจะไปโรงเรียนไม่ว่ายังไงก็ต้องอาบน้ำก่อนแต่งตัวให้ได้

ถ้าไม่ได้อาบน้ำคือไม่อยากใส่ชุดนักเรียนเลย รู้สึกไม่มั่นใจ 55555

พ่อเขาก็เลยไปเอากะละมังอะลูมิเนียมใบใหญ่ๆมาไว้ให้เราอาบน้ำตอนเช้าก็คือพ่อเขาจะต้มน้ำให้
แล้วก็ผสมน้ำให้เราตักอาบตรงบริเวณนั้นเลย

แต่พอตอนหลังตกเย็นมาเราก็ย้ายกันมาอาบน้ำตรงนี้นะเพราะบางวันที่เย็นจัดพ่อดินเขาก็ต้องแย่งเราอาบน้ำอุ่นด้วยเหมือนกัน

ทีนี้ปัญหามันอยู่ตรงที่ตอนเช้าเนี่ยสิ...พี่เมฆกับพี่จอมชอบมานั่งเล่นที่บ้านพ่อดินเขาตอนเช้าๆ

ตั้งแต่เช้ามืดเลย มาก่อไฟผิง เอามันมาเผาแล้วนั่งคุยกัน


แล้วเวลาที่เราต้องอาบน้ำตอนเช้าก็ยืนอาบตรงนั้นคิดดูว่าน่าอายขนาดไหน
ถึงจะยังเป็นเด็กแต่เราค่อนข้างอายเรื่องแก้ผ้าต่อหน้าคนอื่นมากเลยนะ

ก็เลยต้องใส่กางเกงในแล้วรีบอาบให้เสร็จเร็วๆ แต่ก็ยังไม่วายโดนพี่เมฆแซวอยู่ดีว่า

‘ว้ายๆ หน้าไม่อาย คนอะไรแก้ผ้ายืนอาบน้ำโชว์คนอื่นอยู่ได้ ว้าย’ อะไรทำนองนี้... ซึ่งลำพังปกติเราก็อายมากพออยู่แล้ว นี่ยังโดนแซวอีก!!!

--------


บรรยากาศที่โรงเรียนดูเหมือนจะคึกคักเป็นพิเศษเพราะอากาศที่หนาวเย็นทำให้พวกเราได้วิ่งเล่นแบบไม่ต้องกลัวเหงื่อออกเลย

แถมยังได้ใส่เสื้อกันหนาวหลากสีสันมาโรงเรียนกันอีกด้วย

หลังจากนั้นผ่านมาสักพักใหญ่ เราเองก็ไม่ได้คุยกับสองอีกเลย

แต่เหมือนพอเวลาผ่านไปเราเองก็ไม่ได้คิดถึงเรื่องนั้นอีกแล้ว
พอไม่ได้สนใจและไม่ได้ใส่ใจก็เหมือนจะลืมๆมันไป

แต่ก็ยังมีบางครั้งคิดถึงที่ยังมีความรู้สึกติดค้างในใจอยู่ดีว่าเราเกิดมาจากวิธีแบบนั้นจริงหรอ?

สุดท้ายพอรู้สึกตัวเราก็จะพยายามสลัดความคิดพวกนั้นออกจากหัวทันที...

“มินไม่ไปเล่นกับเพื่อนหรอ?”รู้สึกตัวอีกที ก็ได้ยินเสียงของเสียงมันเดินเข้ามาแล้วนั่งลงข้างๆ

“อืมมมม...ไม่อ่ะ นั่งดูเขาเล่นกัน...ก็สนุกดี เราขี้เกียจวิ่ง”ทีแรกเราก็นั่งคิดอยู่เหมือนกันว่าจะตอบมันดีมั้ย?

แต่คิดไปคิดมาเห็นท่าทีของสองมันดูหงอยๆ เราก็สงสาร อีกอย่างเรื่องมันก็ผ่านมาสักพักแล้วถือว่าช่างมันละกัน...

“...คิดว่ามินจะไม่อยากคุยกับเราแล้วซะอีก…” พอสองมันพูดมาแบบนั้น ก็ทำเรานิ่งอึ้งและไม่รู้จะพูดตอบยังไงต่อเลย

“เออนี่ ตอนปิดเทอมมินไปเที่ยวกรุงเทพฯมาหรอ?เราก็ไปกรุงเทพฯมาเหมือนกัน...”

พอเห็นเราเงียบไป ไอ้สองมันก็เลยรีบพูดเปลี่ยนเรื่องทันทีพอชวนคุยเรื่องนี้ทำให้บทสนทนาเราดูราบรื่นขึ้นมานิดหน่อย

สุดท้ายพอเสียงออดดังเป็นสัญญาณเตือนว่าได้เวลาเข้าเรียนช่วงบ่ายแล้วก่อนที่จะลุกตามเพื่อนๆไป สองมันก็หันมาพูดกับเราว่า

“มิน หายโกรธเราแล้วใช่ป่ะ?...จากนี่เราก็จะคุยกันเหมือนเดิมได้ใช่มั้ย?”

“อืมมมมม...” เรานิ่งคิดอยู่ครู่หนึ่งใจจริงตอนนี้ก็ไม่ได้โกรธอะไรไอ้สองมันแล้วละแล้วยิ่งท่าทีของมันยิ่งทำให้เรารู้สึกสงสารเข้าไปอีก

ถ้าใครจำท่าทีของแม่สองก่อนหน้านี้ที่เราเคยเล่าไปนั่นคือสาเหตุหลักๆเลยที่เพื่อนในห้องจะไม่ค่อยอยากยุ่งกับสอง

เพราะเวลาแม่สองเห็นว่าพวกเราไปคลุกคลีอยู่กับลูกของเขาก็จะโดนต่อว่าทำนองว่าเดี๋ยวพาลูกเขาเสียคน...อะไรแบบนั้น
เด็กอ่ะเนอะพอโดนว่าแบบนั้นก็ไม่มีใครอยากยุ่งด้วยแล้วที่จริงก็มีคนเล่นกับสองมันเหมือนกันแหละ แต่ไม่ค่อยมีใครกล้าทำตัวสนิทสนมด้วย

“ก็คุยเล่นได้ปกตินะแต่ว่าเรื่องพวกหนังโป๊สองไม่ต้องมาคุยกับเราแล้ว เราไม่ได้อยากรู้...” หลังจากยืนคิดอยู่สักพัก

เราก็ตอบกลับไปให้สองรู้ตัวว่าเราไม่ได้สนใจที่จะฟังเรื่องพวกนี้จากสองมันนะ

“อ้อ...เรื่องนี้เองหรอที่มินโกรธเรา... อื้อ เราขอโทษ...เราจะไม่พูดเรื่องนี้กับมินแล้ว” สีหน้าของสองดูผ่อนคลายขึ้น

ตอนนั้นเราเองก็รู้สึกดีเหมือนกัน มันเหมือนได้ปลดปล่อย ได้พูดคุยปรับความเข้าใจกันเราเองก็จะได้เลิกทำท่าทีเฉยชาใส่สองมันเหมือนกัน

เพราะเราเองก็ไม่อยากทำตัวแบบนั้นเท่าไหร่ มันดูเหมือนคนนิสัยไม่ดี

---------


หลังจากที่พ่อดินได้ที่นาคืน จากการขอยกเลิกสัญญาเช่าที่ทำนากับลุงมั่นพอเลิกงานมาถ้ายังไม่เย็นมาก

พ่อดินก็จะพาเราไปที่นาของพ่อเขาทันทีเพื่อไปขุดคันนา ทำทางสำหรับให้รถเกี่ยวข้าววิ่งได้

แน่นอนว่าในสมัยนั้น นวัตกรรมรถเกี่ยวข้าวเป็นอะไรที่ค่อนข้างใหม่มากผู้คนส่วนใหญ่มักจะไม่ให้การยอมรับ

เพราะคิดว่ายังไงก็สู้วิธีการเกี่ยวข้าวแบบใช้แรงงานคนไม่ได้หนึ่งในนั้นก็คือลุงสิน ลุงสินเองก็ค้าน เพราะไม่อยากให้พ่อดินไปขุดที่คันนา


(คนที่นั่นจะค่อนข้างหวงคันนามาก ถ้าไปขุดไปทำอะไรที่ทำให้คันนาหายไป
เหมือนเขารู้สึกว่ากำลังทำลายที่ทางทำมาหากินของบรรพบุรุษที่ส่งต่อกันมา
อาจทำให้วิญญาณปู่ย่าตายายไม่พอใจ และอาจทำให้เกิดเรื่องร้ายตามมาได้)

ซึ่งแน่นอนว่าพ่อดินไม่ได้เชื่อ เพราะพ่อดินเขาก็บอกไปทำนองว่าไม่ได้ทำลายสักหน่อย

เดี๋ยวพอใช้รถเกี่ยวเสร็จก็เอาดินมากลบทำคันนาเหมือนเดิมแต่ลุงสินก็ยังไม่ยอม คนแก่อ่ะเนอะ
เขาก็อ้างไปว่ามันได้ผลผลิตไม่ดีเท่าเกี่ยวมือหรอก นู่นนี่นั่น

สุดท้ายพอความเห็นไม่ลงรอยกัน ก็เลยทำให้ลุงสินและพ่อดินทะเลาะกันแรงมาก

ลุงสินบอกว่าพ่อดินเขาชอบทำอะไรแปลกๆ ไม่เหมือนคนอื่นแล้วเหมือนจะยกประเด็นเรื่องที่พ่อดินชอบทำตัวเหมือนพี่เด่น
คิดอะไรแปลกแยกไม่เหมือนชาวบ้าน แต่ไม่รู้เหมือนกันว่าลุงสินพูดถึงพี่เด่นเขายังไง
ทำให้พ่อดินโกรธมาก และไม่คุยกับลุงสินเลย...

แล้วทีนี้บางวันที่วันไหนพ่อเขาไม่ได้ทำงาน ก็จะหอบเราไปนั่งที่นาด้วยถึงจะเสียดายที่ไม่ได้ไปวิ่งเล่นกับเพื่อนก็เถอะ

เพราะในช่วงเวลานี้มันบรรยากาศมันทำให้ตรงที่ทำบ้านต้นไม้ น่าวิ่งเล่นกันที่สุดป่านนี้ไอ้พวกนั้นมันยึดบ้านเราหมดแล้วมั้ง?!!

ทีนี้พอนั่งว่างๆ ดูพ่อเขาขุดคันนาพร้อมกับวิทยุสเตอริโอเครื่องใหญ่คู่ใจที่พ่อเขาเอามาเปิดเพลงฟังแก้เหงา

เราก็เลยถามพ่อเขาว่าทำไมถึงใช้รถเกี่ยวข้าวถึงเราจะรู้อยู่แล้วว่ามันสบายกว่าก็เถอะ แต่อยากรู้ว่ามีเหตุผลอื่นมั้ย?
เพราะการเลือกใช้วิธีนี้มันทำให้พ่อเขาต้องทะเลาะกับลุงสินเลยเชียวนะ

แต่คำตอบที่ได้กลับมาก็คือ ‘ก็มันสบายดีจะต้องมายืนหลังแข็งเกี่ยวเองทำไม ฮ่า’


เราถึงกับหน้าเหวอเลยเพราะไม่คิดว่าคำตอบที่ได้กลับมาจะดูง่ายๆสั้นๆแบบนี้

พ่อดินก็อธิบายเพิ่มเติมว่า ลองคำนวณดูแล้วค่าใช้จ่ายมันพอๆกันค่าจ้างรถเกี่ยวข้าวอาจจะแพงกว่านิดหน่อย

แต่สิ่งที่ได้คือมันจบในวันเดียวขั้นตอนมันไม่ได้เยอะยุ่งยากเหมือนมาเกี่ยวเอง แถมการใช้แรงงานคนเกี่ยวมือเนี่ย
ต่อให้เราจ้างเขามา ตัวเจ้าของนาก็ต้องลงไปเกี่ยวด้วยนะ จะมายืนดูเฉยๆ ไม่ได้... ไม่งั้นจะโดนติโดนว่าอีก

ซึ่งพอเป็นแบบนั้นพ่อเขาก็เลยคิดว่า ถ้างั้นก็จ้างรถเกี่ยวมาลงเลยดีกว่าวันเดียวจบ สบาย ‘เอาเวลาไปขี่รถมอเตอร์ไซค์เที่ยวกับไอ้ลูกหมามันดีกว่า’

พอพ่อเขาพูดมาเราก็เห็นภาพและเข้าใจเลย การใช้แรงงานคนมันขั้นตอนเยอะและยุ่งยากกว่าถ้าประเมินแบบมีเรื่องค่าใช้จ่ายมาเกี่ยวข้อง

บวกลบแล้วมันไม่ได้ห่างกันมาก ใช้รถเกี่ยวข้าวก็ถือว่าคุ้มค่ากว่าถ้าไม่มองเรื่องขนบธรรมเนียมอะไรต่างๆ ที่คนแถวนั้นเขายึดถือกันอ่ะนะ...

---------


ส่วนใหญ่เวลาที่พ่อเขาพาเราไปขุดคันนาเนี่ย พวกเราจะนอนค้างที่นั่นกันเลย

และไม่วายที่เราก็ยังคงลงเล่นน้ำเหมือนเดิม ถึงแม้สภาพอากาศจะหนาวเย็นแค่ไหนก็ตาม


ก็พ่อดินน่ะสิ มาชวนเราไปเล่น บอกว่าน้ำในคลองมันอุ่น ซึ่งก็จริง...แต่อันที่จริงน้ำมันไม่ได้อุ่นหรอก
แค่อุณหภูมิน้ำมันปกติ ไม่ได้เย็นตามสภาพอากาศพอเราเอาตัวลงไปในน้ำก็เลยรู้สึกว่ามันอุ่น
แต่แน่นอนว่าพอขึ้นมาเท่านั้นแหละ สั่นเป็นเจ้าเข้าเลย 555555


หลังจากที่เรากินข้าวเย็นกันเสร็จก็จะเปิดละครวิทยุฟังกัน ด้วยความที่พ่อเขาขุดคันนาจนเย็นมืด ก็เลยขี้เกียจกลับบ้าน
แต่ดูท่าทางพ่อเขาก็อยากค้างที่กระท่อมนี้ด้วยแหละ เราก็เลยไม่อยากขัดอะไรเพียงแต่รู้สึกว่างหน่อยๆ เพราะปกติเราจะนอนดูทีวีกันไปแล้วเวลาแบบนี้

พอนอนไปได้สักพัก ระหว่างที่นอนฟังอะไรกันไปเพลินๆ เราก็เลยถามพ่อเขาไปว่า...

“พ่อดินฮะ...ผมเกิดมาได้ยังไงหรอฮะ?”

“หือ?” พ่อดินถามพร้อมกับหันมามองหน้าเราด้วยสีหน้าสงสัย

“คือ...ผมอยากรู้ว่า...เกิดมาด้วยวิธีไหนหรอฮะ?” เราถามย้ำอีกครั้ง ก็ไม่รู้ทำไมเหมือนกันตอนนั้นจู่ๆถึงได้ถามเรื่องนี้ออกไป...

“เอ่อ...อืม...น้าอรไม่ได้บอกหนูเรื่องนี้เหรอ?”

“ไม่ฮะ...แม่บอกแค่ว่า ผมเกิดมาจากความรักของพ่อกับแม่”

“อ้าว...น้าอรก็บอกแล้วนิ แล้วจะให้พ่อตอบหนูว่ายังไงละหือออ ไอ้ลูกหมา!”

พอพ่อดินตอบกลับมาแบบนั้นทำเอาเราเงียบไปครู่หนึ่งเลยพ่อเขาจะไม่รู้ว่าเราหมายถึงอะไร?... หรืออันที่จริงตั้งใจเฉไฉเปลี่ยนเรื่องกันแน่

“คือ...ผมไม่ได้หมายถึงแบบนั้น...ผมหมายถึงว่า...ผมเกิดมาจากวิธีไหน...ต้องทำยังไงผมถึงได้เกิดมาแบบนี้ต่างหาก”

ภายใต้แสงเทียนที่ถูกจุดอยู่นอกมุ้ง หลังจากที่เราพูดจบเราเห็นพ่อดินยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์

ก่อนจะนอนตะแคงแล้วดึงตัวเราเข้าไปกอดก่อนจะก้มหน้าลงข้างใบหูเราแล้วพูดขึ้นว่า

“หึ...นี่หนูไปรู้อะไรมา...ไอ้ตัวแสบ”

“ปะ...เปล่าฮะ...ผมก็แค่สงสัยเฉยๆ”เราปฏิเสธพร้อมกับพยายามจะดันตัวออกมันเหมือนปฏิกิริยาโต้ตอบอัตโนมัติทันทีที่พ่อเขาพูดมาเหมือนรู้ทันเรา

“ไม่บอกใช่มั้ย? ได้”

พูดจบพ่อดินก็ดึงตัวเราเข้ากอดรัดแน่นตอนนี้สภาพร่างเราเหมือนกับคนที่โดนงูเหลือมรัดอยู่ก็ไม่ปาน ทั้งแขนทั้งขาจนเราหายใจเกือบไม่ออก

“พ่อดินนน ผมหายใจไม่ออก”

“งั้นก็บอกพ่อมาสิ ว่าหนูรู้อะไรมา หรือมีใครบอกอะไรหนูมา? หืมมม”

“ปะ เปล่าฮะ ไม่มี๊”

“ยัง... ยังไม่ยอมบอกอีก”พอพ่อดินพูดจบก็กอดรัดแน่นเข้าไปอีกพร้อมกับเอาหนวดมาถูไถเข้าตรงใบหูเวลาที่หนวดพ่อเขาแหย่โดนตรงแถวบริเวณรูหูนี่มันจั๊กจี้อย่างบอกไม่ถูก

แล้วนึกภาพตัวเราที่โดนกอดรัดแน่น แล้วยังโดนทำให้จั๊กจี้อีก มันไม่มีทางสู้จริงๆ

“ฮ่าๆ ผมยอมแล้ววว ผมยอมแล้วววว” เราหัวเราะร่วนออกมาด้วยความจั๊กจี้จนต้องร้องออกไปว่ายอมแล้ว

“ก็แค่เนี้ย!”

พ่อเขาพูดจบก็คลายตัวออกจากเราเราหันมานอนหงายพร้อมกับหายใจหอบเฮือกใหญ่

หลังจากนั้นเราก็เริ่มเล่าให้พ่อดินฟังเกี่ยวกับเรื่องที่ไอ้สองเคยคุยกับเราเมื่อตอนนั้น

“เพื่อนของหนูที่ชื่อสองนี่…พ่อว่าแปลกๆนะเนี่ย เขาไปรู้อะไรมารึเปล่า?”

“สองเคยบอกว่า เคยเห็นพี่ชายแอบดูหนังโป๊ฮะสองมันเลยสนใจว่าทำไมพวกผู้ใหญ่ถึงดูหนังโป๊” เราอธิบายให้พ่อดินฟังเพิ่มเติม

“อ้อ...เพราะงี้สินะ ถึงได้ชวนหนูดูหนังโป๊ด้วยร้ายไม่เบาแฮะ ไอ้เด็กคนนี้”

พูดจบพ่อดินก็ตัดบทไว้แต่เพียงแค่นั้น แล้วก็นอนฟังวิทยุต่อ...

“อ้าว...แล้วสรุปว่า...เรื่องที่ไอ้สองพูดมันจริงมั้ยฮะ?”พอเห็นพ่อเขาเงียบไปเราก็เลยเริ่มถามขึ้นเพราะรู้สึกว่ายังไงไม่ได้คำตอบที่ตัวเองต้องการ

“เอ้า! หืมมมม นี่หนูอยากรู้จริงๆเหรอ?” พ่อดินทำหน้าเจ้าเล่ห์อีกครั้งก่อนจะยื่นหน้ามาใกล้

จังหวะนั้นทำเอาเรากลืนน้ำลายดังอึกเลย เพราะกลัวจะโดนกอดรัดฟัดเหวี่ยงอีก

“ถ้าอยากรู้นัก...งั้นหนูก็รีบโตไวๆซี่ แล้วเดี๋ยว...พ่อจะบอกให้ทุกอย่างเลย” ว่าแล้วพ่อเขาก็เอามือมาบี้จมูกเรา

ก่อนจะกลับไปนอนหงายฟังวิทยุอย่างสบายใจเฉิบ

สุดท้ายแล้วเราก็ยังไม่ได้คำตอบที่แท้จริงอยู่ดี นี่ขนาดว่ามาถามพ่อดินแล้วนะเนี่ย!

---------


แล้วพอเข้าต้นฤดูหนาว เทศกาลแรกที่เด็กๆอย่างพวกเราตื่นเต้นดีใจที่จะได้เที่ยว ก็คือวันลอยกระทงนั่นเอง

แต่จำได้ว่าช่วงนั้นเทศกาลลอยกระทงมันไม่ได้ไวเหมือนตอนนี้เลยคุ้นๆว่ากว่าจะลอยกระทงก็นู้นช่วงปลายเดือนพฤศจิกายนไปแล้ว

ไม่เหมือนตอนนี้ที่ลอยกระทงมาอยู่ช่วงต้นเดือนซะส่วนใหญ่เลย 5555

พอไปโรงเรียนทุกคนต่างก็ตื่นเต้น แล้วพากันนัดเจอที่ในงานกันตอนเย็น

เนื่องจากพื้นที่ที่เราอยู่มันเป็นพื้นที่ชนบท งานเทศกาลแบบนี้ส่วนใหญ่จะถูกจัดขึ้นตามหมู่บ้านใหญ่ที่มีคนเยอะๆ

หรือหมู่บ้านที่มีบึงใหญ่ๆ ฉะนั้นที่หมู่บ้านเราก็เลยไม่มีงาน...ถ้าอยากไปเที่ยวงานเทศกาลก็ต้องขี่มอเตอร์ไซค์ไปอีกประมาณห้าถึงสิบกิโล
อย่างน้อยก็ใกล้กว่าไปเที่ยวที่ตัวอำเภอละนะ

เย็นวันนั้นพอเลิกเรียน เรารีบกลับบ้านทันที เพราะถ้าช่วงไหนพ่อดินรับงานจากที่หมู่บ้านหรือตำบลอื่นที่ไกลออกไป

พ่อเขาบอกเราไว้ว่า พ่อเขาจะไม่ได้มารับนะเลิกเรียนให้เรารีบกลับบ้านทันที

แต่นอนว่าวันนั้นที่เรารีบกลับบ้านไม่ใช่เพราะแค่เชื่อฟังพ่อเขาเพียงอย่างเดียวแต่รีบกลับมาอาบน้ำแต่งตัวรอพ่อเขาพาไปเที่ยวต่างหาก 555555

เราเฝ้ารอพ่อดินเลิกงานด้วยความรู้สึกตื่นเต้นเพราะนัดกับพวกเพื่อนๆไว้แล้วว่าจะไปลอยกระทงด้วยกัน

แต่ว่าวันนั้นพ่อเขากลับเลิกงานช้ากว่าทุกทีจนกระทั่งเวลาล่วงเลยไปจนพระอาทิตย์ตกดิน


เราก็เริ่มรู้สึกกังวลนิดหน่อยถึงจะรู้ว่าพ่อเขาไปทำงานที่หมู่บ้านอื่นแต่พอเห็นพ่อเขากลับบ้านช้าก็รู้สึกไม่ค่อยสบายใจ
จนกระทั่งได้ยินเสียงแว่วรถมอเตอร์ไซค์ของพ่อเขามาแต่ไกล เรานี่รีบวิ่งลงจากบ้านมานั่งรอตรงแคร่เลย

พอพ่อดินขี่มอเตอร์ไซค์มาถึงในบ้านสภาพของใบหน้าของพ่อเขาที่ยิ้มให้เราอย่างอ่อนล้า

บวกกับเสื้อแขนยาวที่พ่อเขาใส่ไปทำงานยังเปียกชุ่มด้วยเหงื่อเต็มไปหมด
อากาศที่เย็นขนาดนี้ พ่อเขายังเหงื่อออกจนชุ่มเลย แปลว่างานคงหนักมากแน่ๆ

พอเห็นแบบนั้นเราก็เลยรีบเอาขันไปตักน้ำฝนในโอ่งมาให้พ่อเขา พร้อมกับรีบบีบนวดให้

“ขอบคุณครับ ไอ้หมาน้อย...”

“ฟู่ว….” พ่อดินรับน้ำไปดื่มอึกใหญ่ก่อนจะหันมายิ้มให้ แล้วทิ้งตัวนอนลงแผ่หลาอยู่บนแคร่อย่างหมดแรง

พอเห็นแบบนั้นเราก็เลยนั่งบีบนวดแขน นวดไหล่ให้ พอเขาดูเหนื่อยมากเลย

งั้นวันนี้เราไม่กวนพ่อเขาดีกว่า เอาไว้ค่อยไปลอยปีหน้าก็ได้ เราได้แต่คิดในใจ

ผ่านไปสักพักใหญ่พี่เมฆก็ขี่รถมอเตอร์ไซค์เข้ามา


“เฮ้ย! หมดสภาพเลยไงมึง”พี่เมฆทักขึ้นเมื่อเห็นร่างของพ่อดินนอนแผ่หลาอยู่

“เออดิ ว่าแต่มึงยังมีแรงจะไปเที่ยวงานอีกนะ” พ่อดินผงกหัวขึ้นมาตอบ พร้อมกับเอาหัวมาหนุนตักเรา

“ว่าจะไปดูเขาประกวดนางนพมาศสักหน่อย สาวเยอะนะโว้ยไม่ไปไง๊?”


“มึงไปก่อนเลย...เดี๋ยวกูอาบน้ำก่อนถ้าไม่ขี้เกียจจะตามไป ฮ่า”

พอพ่อดินตอบไปแบบนั้น พี่เมฆก็โบกมือเหมือนประมาณว่าไว้เจอกันพร้อมกับสตาร์ทรถแล้วรีบขี่ออกไปทันที

“อ้อ...ก็ว่าทำไมวันนี้รีบอาบน้ำแต่งตัวปะแป้งหอมฉุยเชียวหนูอยากไปเที่ยวงานเหรอไอ้ตัวแสบ?”พ่อดินเงยหน้าขึ้นมาถามเรา

“กะ...ก็อยากไปฮะ แหะๆ”เรายิ้มแหยๆตอบกลับไป

“แต่ถ้าพ่อดินเหนื่อยก็ไม่เป็นไรนะฮะ เอาไว้เราค่อยปีหน้าก็ได้”เรารีบพูดตัดบท เพราะพ่อเขาดูเหนื่อยมากเลยนี่หน่า

“แล้วหนูอยากไปรึเปล่าล่ะ?” พ่อดินมองหน้าเราพร้อมกับถามซ้ำอีกครั้ง

“…”

“เอ่อ...จริงๆก็อยากไปฮะ”

“ก็แค่นั้น!...แต่ว่าก่อนจะไปอาบน้ำหนูต้องเติมพลังให้พ่อก่อน พ่อจะได้มีแรงพาหนูไปเที่ยว”

“ต้องทำยังไงหรอฮะ?!”พอพ่อเขาพูดมาแค่นั้นแหละ เรานี่ตาโตดีใจเลย

พูดจบพ่อดินก็ทำแก้มป่องๆ พร้อมกับเอานิ้วชี้โดยที่ไม่พูดอะไรซึ่งการที่พ่อเขาทำแบบนี้เป็นอันรู้กันว่าหมายถึงอะไร 5555

เรารีบก้มลงไปหอมแก้มพ่อเขาฟอดใหญ่อย่างไม่ลังเล

“อ่า...เริ่มมีแรงแล้วสิ... ถ้าอยากให้มีแรงเยอะๆต้องทำยังไงน้า?”

เราก็เลยหอมแก้มของพ่อเขาทั้งสองข้างรัวๆเลย เอาให้แก้มช้ำไปเลยจะได้มีแรงเยอะๆ

“ฮ่าๆ พอแล้วจ้า นี่หอมแก้มเหมือนโกรธกันเลยไอ้กะดอหมาเอ้ย”

เสร็จแล้วพ่อเขาก็ลุกขึ้นมาขยี้หัวเราเบาๆ ก่อนจะเดินไปอาบน้ำ

ไม่ได้โกรธสักหน่อย...ก็บอกว่าอยากได้เยอะๆ จะได้มีแรง ก็จัดให้ตามคำขอ อิอิ

---------


พอพวกเราขี่รถมาถึงที่งานกัน เราสังเกตุเห็นสีหน้าของพ่อดินดูไม่ค่อยดีเท่าไหร่คิ้วที่ขมวดจนชนกัน เหมือนพ่อเขากำลังเครียดอยู่อะไรอยู่เลย

“พ่อดิน...มีอะไรรึเปล่าฮะ?” เรากระตุกเสื้อพ่อเขาแล้วเงยหน้าขึ้นไปถาม

“อ่อ เอ่อ...เปล่าจ้ะ พอดีพ่อลืมเอากล้องมาคิดอยู่ว่าจะขี่กลับไปเอาดีมั้ย?”

โห ไอ้เราก็นึกว่าเรื่องอะไร ที่แท้ก็เรื่องนี้นี่เอง...

จะบอกว่าตั้งแต่เราไปเที่ยวที่กรุงเทพฯกันคราวก่อน พอกลับมาบ้านตอนพ่อดินเขาเอาฟิล์มไปล้างที่ตัวอำเภอ

ก็ซื้อกล้องมาด้วยตัวหนึ่งเพราะอันนั้นคืนพ่อเราไปแล้ว

แล้วทีนี้ก็ชอบเอามาถ่ายเราเล่นประจำ ทำอย่างกับว่าม้วนฟิล์มมันถูกอย่างนั้นแหละ...แล้วไม่ใช่ถ่ายแบบที่ให้เรายืนโพสต์ท่าอะไรแบบนั้นนะ

อยากถ่ายก็ยกขึ้นมาถ่ายเลย เช่นตอนเรานอนทำการบ้าน,หรือกำลังหลับอยู่อะไรแบบนั้น...
แน่นอนว่าเราไม่ยอมโดนแอบถ่ายคนเดียวหรอกถ้าจังหวะพ่อเขาเผลอเราก็ถ่ายคืนบ้างเหมือนกัน พูดถึงก็สนุกไปอีกแบบ 55555

“หุยยยย ไม่เป็นไรหรอกฮะ เอาไว้ถ่ายปีหน้าก็ได้” เราบอกพร้อมกับดันตัวพ่อเขาเข้าไปในงาน

ด้วยความที่เป็นงานต่างจังหวัดอ่ะ พอตกดึกนิดหน่อยเด็กๆก็หายไปหมดแล้วรวมถึงพวกเพื่อนเราด้วย...

เวลานั้นส่วนใหญ่ภายในงานก็จะเหลือแต่พวกวัยรุ่นหนุ่มสาวแล้วก็ผู้ใหญ่เลย
แต่ถึงจะมีเด็กเล็กปะปนอยู่ในงานบ้างประปราย แต่เราก็ไม่รู้จักเด็กพวกนั้นอยู่ดี

พ่อดินพาเราเดินเล่นซื้อขนมของกินต่างๆ เสร็จแล้วก็พาเดินไปที่เวทีประกวดนางนพมาศ

ในใจนี่เริ่มเต้นตึกตักเหมือนไม่ค่อยชอบใจเท่าไหร่ หึ...สรุปจะพาเรามาดูสาวประกวดนางนพมาศหรอกหรอเนี่ย?

พอเดินไปถึงก็เห็นพวกพี่เมฆกับพี่จอมแล้วก็น่าจะคนรู้จักพ่อเขาอีกสี่ห้าคนยืนอยู่แถวบริเวณการประกวด

พ่อดินก็เลยเดินเข้าไปคุยกับพวกพี่เมฆสักพักก็ขอตัวพาเราไปลอยกระทงก่อน

อ้อ! ไปหาพวกพี่เมฆนี่เอง นึกว่าจะไปดูสาวซะอีก แล้วไป...

หลังจากนั้นเราก็ไปลอยกระทงด้วยกัน ก็รู้สึกเขินๆนิดหน่อย ปกติจะลอยกับพ่อแม่ตอนที่นั่งลง

แล้วยกกระทงขึ้นแล้วอธิษฐานมือของพ่อเขาก็มาประกบมือเราถึงเราจะจับมือกันบ่อยแล้ว แต่ความรู้สึกในตอนนั้นมันก็ยังไงเขินอยู่ดี

พอลอยกระทงเสร็จแล้วพ่อดินก็พาเราเดินเที่ยวในงานต่อ แวะเล่นบิงโกด้วย

แต่พวกเราเล่นกันไปหลายรอบแล้วไม่ได้บิงโกสักตาเลยพ่อดินเลยบอกว่า ‘ไปปาลูกโป่งดีกว่า ต้องเอาคืน...’

ตอนเห็นพ่อเขาปาลูกโป่ง เรานี่ยืนตบมือเลยเพราะไม่คิดว่าพ่อเขาจะปาเข้าทุกดอกขนาดนั้น

เสียงลูกโป่งที่แตกดัง ‘โป๊ะ! โป๊ะ!!” มันสะใจมาก


พอรอบแรกจบคนขายลูกดอกก็บอกว่าจะเพิ่มลูกดอกมั้ย
ถ้าปาโดนทุกดอกรอบนี้จะได้ตัวใหญ่เลย พ่อดินก็เลยตกลง...เพราะพ่อเขาน่าจะรู้สึกเหมือนได้รับคำท้าอะไรแบบนี้มั้ง

แต่ก็นั่นแหละ สุดท้ายพ่อเขาก็ปาเข้าทุกดอกอยู่ดีเรานี่ยืนยิ้มแป้นหัวเราะชอบใจเลย ไม่คิดว่าพ่อเขาจะเก่งขนาดนี้เลยแหะ

สักพักคนขายก็มาอีก จะให้เพิ่มลูกดอก คราวนี้ให้เลือกตุ๊กตาตัวใหญ่ได้สองตัวเลย

แต่มีข้อแม้ว่าพ่อดินก็ต้องเขยิบห่างออกจากแผงประมาณสามก้าว พ่อเขาก็ตกลงอีก

ทีนี้แหละ คนมายืนมุงดูกันเยอะพอสมควรเลย อยู่ๆก็มีคนมาช่วยเชียร์เพิ่มซะงั้น พอปาเข้าเป้าหมดทุกดอกเท่านั้นแหละคนที่มาดูเฮลั่นเลย

จู่ๆก็มีลุงคนหนึ่งเดินมาเหมือนจะจ้างให้พ่อดินปาให้หน่อยเขาอยากได้ตุ๊กตาให้ลูกสาว

เพราะลุงแกปาไม่แม่นแต่คนขายลูกดอกไม่ให้พ่อดินเล่นแล้ว พร้อมกับบอกว่า
‘เดี๋ยวให้ตุ๊กตาตัวใหญ่สามตัวเลยแต่พี่ไม่ต้องมาปาลูกดอกที่แผงผมแล้วนะ’

พอเราเลือกตุ๊กตาเสร็จ พวกเราก็หิ้วตุ๊กตาแล้วเดินออกจากแผงนั้นไปเพื่อไปดูการละเล่นอื่นต่อ

แต่ว่า...สีหน้าของลุงที่เดินมาขอให้พ่อดินช่วยปาลูกโป่งให้มันรู้สึกติดค้างในใจเราเหมือนลุงเขาอยากได้ตุ๊กตาให้ลูกเขาจริงๆ

“พ่อดินฮะ...ผมขอแบ่งตุ๊กตาให้ลูกของลุงคนนั้นตัวนึงได้มั้ยฮะ?...” เราหยุดเดินพร้อมกับดึงแขนพ่อดินไว้

“หือ...ลุงคนไหนหว่า?”

“ลุงคนตะกี้อ่ะฮะที่มาขอให้พ่อดินปาลูกโป่งให้...ลูกเขาน่าจะอยากได้ตุ๊กตาจริงๆ…เราได้กันมาตั้งสามตัวแนะ แบ่งให้ลุงเขาตัวหนึ่งก็ได้มั้งฮะ...”

“โอ้โห ใจดีจริงจริ๊งพ่อคุณ เอ้า!เอาสิ หนูจะเอาตัวไหนไปให้เขาละ”พ่อดินย่อตัวนั่งลงพร้อมกับเอาตุ๊กตาสองตัวที่อยู่ในอ้อมแขนคนละข้างให้เราเลือก

ว่าจะเอาตัวไหนไปให้ลุงคนนั้น พอเราเลือกเสร็จพ่อดินก็ยกขึ้นมาลูบหัวเราเบาๆเราก็เลยยิ้มให้แบบเขินๆ ก่อนที่จะวิ่งเอาตุ๊กตาไปให้ลุง

ทีแรกลุงเขาจะให้เงินด้วยนะ แกบอกว่าแกไม่มีเงินซื้อตุ๊กตาให้ลูกหรอกเพราะตุ๊กตาตัวใหญ่น่าจะแพง

ก็เลยจะปาลูกโป่งเอา แต่แกปาไม่แม่น ก็เลยไม่ได้ก็เลยจะเอาเงินที่จะไปเล่นปาลูกโป่งมาให้เราแทน

เราก็ปฏิเสธไป เพราะเราอยากให้จริงๆ ไม่ได้อยากเอามาขาย แต่ลุงก็ยังยืนยันจะให้เงินจนพ่อดินต้องเดินตามมาแล้วมาบอกว่า

‘ไม่เป็นไรครับ ไอ้ตัวแสบผมเขาอยากให้’ ลุงได้ยินแบบนั้นก็ยกมือไหว้เลยบอกขอบคุณนะไอ้หนูเรานี่ยกมือไหว้คืนแทบไม่ทัน

ลุงอย่าไหว้สิ เดี๋ยวผมก็อายุสั้นกันพอดี!

--------


จากนั้นเราก็เดินเล่นกันต่อพอไปเจอร้านขายลูกชิ้นที่เป็นเพื่อนสมัยเรียนของพ่อเขา

พ่อเขาก็เลยแวะเข้าไปคุยเล่นด้วยทีนี้พ่อลูกของน้าคนขายลูกชิ้นเห็นตุ๊กตาที่พวกเราหอบหิ้วมา ก็ร้องอยากได้


น้าเขาก็เลยฝากร้านไว้กับพ่อดิน ก่อนจะพาลูกเขาไปที่แผงปาลูกโป่ง แต่สุดท้ายก็ได้มาแค่ตุ๊กตาพวงกุญแจตัวจิ๋ว
ลูกสาวน้าเขาร้องไห้โฮเลย บอกอยากได้ตัวใหญ่แบบนี้ พร้อมชี้มาที่ของเรา

พอเห็นแบบนั้นก็อดสงสารและขำไม่ได้ เราก็เลยมองหน้าพ่อดินแล้วยิ้มให้

“ทำไมอ่ะ หนูจะให้เขาอีกแล้วเหรอ? ฮ่า” พ่อเขาเอามือมาวางบนหัวเราพร้อมกับถามขึ้น

“ฮะ...สงสารเขาอ่ะอีกอย่างสองตัวเราน่าจะเอากลับบ้านลำบากด้วย ผมเอาตัวเดียวก็พอแล้วฮะ!”

“ใจดีจริงวุ้ย! พ่อพระเวสสันดร” พอพ่อเขาพูดจบ เราก็ได้แต่ยิ้มพร้อมกับเกาหัวงงๆนิดหน่อยเพราะตอนนั้นไม่เข้าใจว่าอะไรคือ พ่อพระเวสสันดร

พอเราแบ่งตุ๊กตาให้ลูกของน้าคนขายลูกชิ้นพ่อเขาก็ยังยืนคุยเล่นกับเพื่อนเขาต่ออีกสักพักใหญ่

กระทั่งพี่เมฆก็เดินมาตามจนเจอตัว จากนั้นพวกผู้ใหญ่เขาก็คุยกัน

คุยกันไม่นานพี่เมฆก็บอกว่าขอตัวก่อน พร้อมทิ้งท้ายกับพ่อดินว่า ‘ไม่ไปกับพวกกูแน่นะ?’

พ่อดินก็เหมือนปฏิเสธว่า “เออ ไม่ไปหรอก… เหนื่อยๆวะ จะกลับบ้านไปพักผ่อน”
เราที่ยืนฟังอยู่ก็งงๆว่าพวกพ่อเขาจะไปไหนกันต่อ แต่เห็นพ่อดินบอกจะกลับบ้านเราก็เลยไม่ได้ถาม

หลังจากที่พี่เมฆเดินจากไปไม่นาน พ่อดินก็เลยขอตัวแยกออกมาเช่นกันจากนั้นก็พาเราเดินเล่นในงานต่ออีกนิดหน่อย

แต่ที่เราชอบใจที่สุดคือพ่อเขาพาเราไปที่ร้านขายพลุขายพวกดอกไม้ไฟเนี่ยแหละ

หุยยยย คือจะบอกว่าถ้ามากับพ่อแม่เรา เขาไม่อยากให้แวะเลย

หรือเต็มที่ก็ซื้อดอกไม้ไฟหรือที่หลายคนเรียก ‘ไฟเย็น’ นั่นแหละ ซื้อให้เราเล่นแค่นั้น...

แถมพ่อดินบอกว่าอยากเล่นอะไรหยิบเลย แล้วเดี๋ยวเอาไปเล่นกัน เราก็หยิบไปเต็มที่เลย

อันไหนที่เคยอยากเล่นแล้วไม่ได้เล่น เสร็จแล้วพอจะจ่ายเงินพอดินก็ซื้ออันที่เป็นเหมือนโอ่งไปอีกสองอัน


ตอนนั้นเราไม่รู้หรอกว่ามันเล่นยังไงแต่พ่อดินบอกว่ามันสวยนะ ถ้าเราเห็นจะต้องร้องว้าวแน่ด้วยความที่เราไม่เคยเห็นก็ยิ่งตื่นเต้นเข้าไปใหญ่

คราวนี้แหละ ไม่แวะร้านไหนแล้วจูงมือพ่อเขาไปที่รถมอเตอร์ไซค์เพื่อจะได้รีบกลับบ้านไปเล่นพวกพลุที่เราซื้อมากันทันที

---------


แต่พอเดินไปถึงบริเวณที่รถของพวกเราจอดอยู่ เราเห็นเงาร่างคล้ายผู้หญิงคนหนึ่งยืนอยู่ตรงบริเวณรถมอเตอร์ไซค์ของพ่อเขา...
พอเดินเข้าไปใกล้บวกกับแสงไฟสลัวๆ ที่เปิดไว้บริเวณนั้น ถึงจะเห็นไม่ค่อยถนัดตา



เราค่อนข้างมั่นใจว่าคนนี้คือพี่กะเทยคนที่เราเคยเห็นตอนงานแต่งบ้านลุงพัน

“อ้าว... มีอะไรรึเปล่า?” พ่อดินทักขึ้นทันที่สังเกตุเห็นท่าทางของอีกฝ่ายเหมือนกับกำลังยืนรอพ่อเขาอยู่

“เห็นเมฆบอกว่าวันนี้ยักษ์ก็ไม่ไปหรอ? ทำไมอ่า...”

“เออ... ก็ตามนั้นแหละ... ทำงานมาเหนื่อยๆอยากกลับบ้านไปพักผ่อน” พ่อดินพูดจบก็พาเราเดินไปที่รถพร้อมกับจัดแจงข้าวของ

ที่พวกเราซื้อมาเยอะแยะเต็มไปหมดไม่ให้มันห้อยพะรุงพะรุง

“งั้นหรอ...แต่ว่าเธอ...เธอไปส่งฉันที่บ้านหน่อยสิฉันอุตส่าห์ยืนรอเธอนะเนี่ย เพื่อนฉันเขาก็ไปกันหมดแล้ว ฉันไม่รู้จะกลับยังไงเลย...”

พี่คนนั้นยื่นมือมาเกาะแขนพ่อเขาพร้อมทำท่าทีออดอ้อน

“โห ไกลวะ ทำไมไม่กลับกับเพื่อนตั้งแต่ทีแรกเล่า!” พ่อดินบ่นอุบพร้อมกับขึ้นมอเตอร์ไซค์แล้วมองหน้าอีกฝ่ายเหมือนหยั่งเชิง

“แหมมมมม ทำไมมากงมาไกลทีตอนเธอจะเอาฉันไม่เห็นเธอเคยบ่นว่าไกลเลยนะ...”

“เฮ้ยๆ! พูดดีดี น้องมันฟังอยู่… เออๆ ก็ได้!! จะให้ไปส่งก็รีบขึ้นมาไวๆเลย” พ่อเขามีสีหน้าไม่สบอารมณ์นิดหน่อย ก่อนจะหยิบหมวกกันน็อคขึ้นมาสวม



แต่ว่าดูท่าทีของพี่คนนั้นเขาไม่ได้กลัวพ่อดินสักนิด กลับยิ้มเยาะชอบใจเดินขึ้นมาซ้อนท้ายมอเตอร์ไซค์อีกต่างหาก


คือตอนนั้นด้วยความที่เรายังไม่รู้ที่มาที่ไป ก็เลยงงๆเพราะคนปกติทั่วไปเจอพ่อเขาพูดด้วยน้ำเสียงนี้ก็หน้าหงอกันหมดแล้ว
แต่พี่คนนี้เขาเหมือนไม่กลัวเลยสักนิดเดียว...

พอเห็นพี่เขาขึ้นไปซ้อนท้ายแบบนั้น เราก็เลยต้องขึ้นไปซ้อนข้างหน้าพ่อดินพร้อมกับกอดเจ้าตุ๊กตาตัวใหญ่แทน

พอขี่ไปได้สักพักระหว่างทางเรารู้สึกเหมือนกับนิ้วของพี่คนนั้นสะกิดโดนบริเวณหลังเรา

ด้วยความที่เล็บเขาค่อนข้างยาวด้วยละมั้งพอเอื้อมมือมาเกาะเอวพ่อดินก็เลยโดนหลังเราด้วย...

แต่...เราก็รู้สึกตะหงิดใจนิดนึง ถ้าเป็นบริเวณเอว มันไม่น่าจะต่ำขนาดนี้สิมันก็เลยเกิดเป็นความรู้สึกสงสัย

เราอ่ะไม่อยากหันไปมองก็เลยเอนหน้าซบกับตุ๊กตาแล้วแอบมองลอดใต้หว่างแขนของตัวเอง
ก็เห็นมือของพี่คนนั้นกำลังเหมือนบีบนวดอยู่ตรงเป้าของพ่อเขาจริงๆด้วย!

ใจงี้เต้นตึกตักเลย พี่คนนี้เป็นใคร? ทำไมถึงได้กล้าเล่นกับพ่อเขาขนาดนี้ มันรู้สึกไม่พอใจอย่างบอกไม่ถูก



เราก็ไม่กล้าพูดอะไร เพราะดูท่าทีของพ่อดินก็ยังคงปกติหรือว่าพ่อเขาไม่รู้สึกตัวที่โดนจับหรอ?
แต่คิดไปคิดมาก็ไม่น่าใช่แต่พอเขาดูนิ่งมาก ยังคงขี่รถใบหน้าพ่อเขายังมองไปที่ทางข้างหน้าตามปกติเลย

ทีนี้ไม่รู้ว่าพ่อดินสังเกตเห็นว่าเราแอบมองอยู่รึเปล่า พ่อเขาก็กระแอมออกมาทำให้พี่คนนั้นค่อยๆ ดึงมือกลับไป

เสร็จแล้วมือซ้ายของพ่อเขาก็ละจากแฮนด์มอเตอร์ไซค์ก่อนจะจับมาที่หัวเราแล้วล็อคให้หน้าเราหันไปทางตรงข้างหน้าตามทาง

แปลว่าพ่อเขาเห็นจริงๆด้วยว่าเราแอบดูอยู่ 55555555

ในหัวมันก็เกิดความสงสัยสิ แล้วพี่คนนี้เขาเป็นใคร ทำไมเขาถึงได้กล้าจับของพ่อดินเล่นขนาดนี้

แล้วพ่อดินก็ไม่ว่าอะไรอีก มันก็มีความหวงและไม่พอใจเล็กๆแหละ

แต่มันก็มีความสงสัยเกิดขึ้นว่าพ่อเขาโดนจับขนาดนี้มันจะแข็งตัวบ้างมั้ย เราก็เลยค่อยๆขยับก้นไปให้โดนตรงเป้า

คือเจตนาตั้งใจจะแค่ให้โดนดูว่าพ่อเขาแข็งรึเปล่า?

ปรากฏว่า...พอก้นเราไปโดนก็สัมผัสได้ว่าแข็งปั๊กเลยขนาดพ่อเขาใส่กางเกงยีนส์นะนั่น มันยังแข็งจนเราสัมผัสได้

ด้วยความที่เรากลัวว่าพี่คนนั้นจะเอามือมาล้วงของพ่อเขาเล่นอีกเราก็เลยเขยิบก้นไปใกล้ๆ แล้วเบียดกึ่งนั่งทับของพ่อเขาเอาไว้...


เพราะถ้าล้วงมาอีกก็จะจับไม่ได้แล้ว เพราะก้นเราทับไว้อยู่

ซึ่งแน่นอนว่าผ่านไปไม่นานพี่เขาก็ล้วงมือมาจะจับอีกจริงๆด้วย แต่ว่าโดนก้นเราพี่เขาก็เลยดึงมือกลับ 55555

หึ! รู้สึกภาคภูมิใจในความฉลาดของตัวเองนิดหน่อย มันเหมือนกับว่าเรารู้ทันความคิดของผู้ใหญ่แล้วอะไรประมาณนั้น

หลังจากที่พวกเราขี่รถมอเตอร์ไซค์ไปสักพักใหญ่ก็ไปถึงบ้านของพี่คนนั้น ทีแรกพี่เขาก็จะชวนให้พ่อดินเข้าไปในบ้านไปนั่งเล่นก่อน

เขาบอกว่าพ่อกับแม่ของเขาไปนอนที่นาไม่มีใครอยู่บ้านหรอก แต่พ่อดินก็ปฏิเสธก่อนจะขี่รถออกมาเลย...

ตอนนั้นในหัวเราก็ตีกันไปหมด เหมือนบางเวลาพ่อเขาก็ดูจะยอมพี่คนนั้น ถึงขนาดให้จับเจ้าปลิงทะเลเล่นได้

แต่บางทีก็ดูแข็งกร้าวเหมือนกับไม่ยอม สรุปเขาเป็นอะไรกัน รู้จักกันแบบไหนนะเราก็ได้แต่เก็บความสงสัยไว้ในใจ...
เพราะรู้ว่าถามไปพ่อเขาก็เฉไฉไม่ยอมตอบเหมือนตอนนั้นที่เคยถามไปแล้วอีกอยู่ดี!

---------


ระหว่างทางที่ขี่กลับบ้าน มันทั้งมืดและหนาว บรรยากาศรอบข้างก็เงียบแบบเงียบมาก

ได้ยินแต่เสียงจุดพลุจากที่ไกลๆ คราวนี้เรานี่ถอยตัวไปเบียดพ่อเขา คราวนี้ไม่ได้จะนั่งทับหรืออะไรนะแต่กลัว!!

พอกลับมาถึงบ้าน พ่อดินก็ถามว่าเราจะกินข้าวอีกมั้ย? เพราะตอนอยู่ที่งานเรายังไม่ได้กินข้าวกันเลยมีแต่ของกินเล่นทั่วไปพวกลูกชิ้น

เรานี่ส่ายหัวให้ไวเลย ตอนนี้ไม่สนใจอะไรแล้ว

“พ่อดินฮะ...ไฟแช็ค ผมขอไฟแช็คหน่อย”เราแบมือขอไฟแช็คก่อนเลยอันดับแรก เพราะอยากเล่นพลุจะแย่แล้ว

พ่อดินเดินไปเอาไฟแช็คที่สอดไว้ใต้ถุนบ้านออกมาให้ พร้อมกับยิ้มแล้วทุบหัวเราเบาๆก่อนจะเอาข้าวของไปเก็บบนห้อง

เราเริ่มจุดไฟเย็นเล่นก่อน จากนั้นก็เอาวี๊ดบู้มออกมาเล่น ด้วยความที่บ้านพ่อเขาไกลจากคนอื่นอยู่แล้ว

ก็เลยเล่นได้สบาย ไม่ต้องกลัวรบกวนชาวบ้าน แต่พูดถึงตอนกลางคืนดึกสงัด พอจุดไปเสียงมันก็ก้องอยู่นะ...

เราจุดมันด้วยความรู้สึกตื่นเต้น แล้วรีบวิ่งไปหลบก็เราไม่เคยได้เล่นอะไรแบบนี้นี่หน่า... มันกลัว ก็กลัวแหละ แต่อยากเล่นชอบดูเวลามันพุ่งขึ้นฟ้า

“สนุกใหญ่เลยนะไอ้ตัวแสบ” หลังจากที่พ่อดินเอาของขึ้นไปเก็บข้างบนเสร็จแล้วก็เดินลงมาพร้อมกับถือกล้องลงมาด้วย

“พ่อดินเอากล้องมาทำอะไรหรอฮะ” เราถามด้วยความสงสัยหรือพ่อเขาจะให้เราถ่ายรูปกับไฟเย็นละมั้ง

“เอามาถ่ายรูปหนูกับพลุโอ่งไง”

พูดจบพ่อเขาก็หยิบลูกพลุที่เหมือนโอ่งออกมาจากถุง แล้วก็เลือกพื้นที่เราก็เลยรีบไปยืนใกล้ๆ จะได้ดูว่ามันเป็นยังไง

พอพ่อเขาก็เริ่มจุด ทีแรกมันก็เป็นประกายไฟพุ่งขึ้นมา ก็ดูสวยดีแต่เสร็จแล้วพ่อดินก็รีบลากตัวเราออกมาแล้วพากันไปนั่งบนแคร่

พลุที่ออกจากโอ่งค่อยๆ พุ่งขึ้นสูงและกระจายวงกว้างใหญ่ขึ้นเรื่อย มันพุ่งสูงมากสูงจนถึงหลังคาเลยแหละ

เรานี่ตื่นตาตื่นใจมาก เพราะไม่เคยได้เล่นพลุแบบนี้มาก่อนเลย แต่ว่าหลังจากที่มันพุ่งขึ้นสูงไม่นานไฟก็ดับมอดลง...

ถึงจะรู้สึกเสียดายที่มันดับไวไปหน่อยเพราะราคาก็ถือว่าแพงนะไม่ใช่ถูกๆเลย แต่ความรู้สึกที่ได้เห็นในตอนนั้นมันสวยมากเลยแหละ

เสร็จแล้วพ่อดินก็เดินไปสำรวจบริเวณรอบๆ ว่าไฟมันกระจายกว้างแค่ไหน แล้วก็หาจุดให้เรายืนรอ

“อ่ะ หนูยืนรอตรงนี้นะ เดี๋ยวพ่อนับหนึ่ง สอง สามหนูฉีกยิ้มนะ เดี๋ยวพ่อถ่ายรูปให้”

“อ้าว...งั้นผมก็ไม่ได้ดูอีกลูกหนึ่งอ่ะสิ...”เรารู้สึกเสียดายนิดหน่อย เพราะถ้าจะถ่ายรูปก็หมายความว่าเราต้องยืนหันหลังให้พลุ

แบบนี้ก็ไม่เห็นตอนมันขึ้นสูงอ่ะสิ...

“อ่ะๆ งั้นหนูยืนอยู่ตรงนั้นแล้วดูก่อนก็ได้ พอได้ยินเสียงพ่อนับก็หันมายิ้มนะตกลงมั้ย?”

“ตกลงฮะ” เรายิ้มแป้นรับ ก่อนจะไปยืนรอตรงจุดที่พ่อดินบอก

พอพ่อดินจุดพลุเสร็จก็รีบวิ่งไป แต่สิ่งที่คาดไม่ถึงคือพ่อเขากดชัตเตอร์ใหญ่เลยเพราะเราสัมผัสได้ถึงแสงแฟลชที่กระทบมาจากข้างหลังเรา

นี่เรายืนหันหลังก็ถ่ายหรอเนี้ย?!

พอถึงจุดที่พลุเริ่มขึ้นสูง เราก็ได้ยินเสียงพ่อเขานับเลยหันไปยิ้มให้ ทีแรกเราคิดว่าพ่อเขาจะถ่ายแค่รูปเดียว ที่ไหนได้ถ่ายจนพลุมันไฟมอดหมดเลยT^T

อดหันไปเห็นตอนจบเลย...

แต่...พอได้เห็นรอยยิ้มของพ่อดินตอนกดชัตเตอร์แล้ว เราก็อดที่จะยิ้มตามไม่ได้ ไม่คิดว่าพ่อเขาจะชอบการถ่ายรูปขนาดนี้

แล้วอีกอย่างพ่อเขาก็อุตส่าห์พาไปเที่ยวนี่หน่า แล้วถ้านี่เป็นความสุขของพ่อเขาเราก็ควรทำตาม กะแค่พลุไฟอันเดียว ไว้ซื้อมาเล่นใหม่ก็ได้ เนอะ

...

แต่ตอนนั้น...เราเล่นพลุไฟจนลืมสงสัยไปเลย เรื่องของพี่คนนั้นสรุปเขาเป็นใครกันแน่นะ

ทำไมพี่เขาถึงได้กล้ารุกล้ำอาณาเขต กล้ามาจับปลิงทะเลของพ่อเขาเล่นกันขนาดนี้?!!!

ประธานนักศึกษา

โพสต์
524
พลังน้ำใจ
3385
Zenny
10726
ออนไลน์
502 ชั่วโมง
2#
 เจ้าของ| โพสต์ 2022-11-20 13:48:18 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
ต้องขอโทษเพื่อนๆด้วยนะ หลังจากที่เราเป็นโควิดรู้สึกว่าเราเหนื่อยและเพลียง่ายมาก

พอวันหยุดถ้าพี่เขาชวนไปไหน พอกลับมาถึงห้องส่วนใหญ่ก็จะหลับเลย ปกติเราจะยังนั่งเล่นคอมพ์อะไรได้อีกสักพักใหญ่ถึงง่วง

แต่นี่รู้สึกร่างกายจะเพลียง่ายมาก ก็เลยไม่ค่อยมีเวลาว่างพิมพ์เท่าที่ควร

ขอโทษเพื่อนทุกคนที่ติดตามอ่านด้วยนะ ยังไม่ได้หายไปไหน แต่อาจจะไม่ได้มาอาทิตย์ละครั้งเหมือนเดิมแล้ว

นี่ก็พยายามนั่งรวบรวมเหตุการณ์แล้วพิมพ์ออกมาทีเดียว ให้ได้อ่านกันยาวๆ...ยาวแล้วละมั้ง 5555

นายกองค์การนักศึกษา

โพสต์
1831
พลังน้ำใจ
14206
Zenny
1903
ออนไลน์
1452 ชั่วโมง
อ่านเพลินเรยนิ

แสดงความคิดเห็น

ขอบคุณจ้า  โพสต์ 2022-11-21 14:31

นายกองค์การนักศึกษา

โพสต์
3945
พลังน้ำใจ
25910
Zenny
16860
ออนไลน์
5890 ชั่วโมง
เยี่ยมครับ หายไว ๆ นะครับ แล้วมาต่อเร็ว ๆ นะ อิอิ เอาที่สะดวกนะครับ แต่ อย่าหายไปเลยพอ จะอาทิตย์ สองอาทิตย์ สามอาทิตย์ ก็ยังรออ่านอยู่น๊าาา

แสดงความคิดเห็น

ขอบคุณที่อุตส่าห์รอน้า^^  โพสต์ 2022-11-21 14:31

มาเฟียคุมคณะ

โพสต์
14902
พลังน้ำใจ
75917
Zenny
24542
ออนไลน์
11804 ชั่วโมง
ขอบคุณคับ

มาเฟียคุมคณะ

โพสต์
6736
พลังน้ำใจ
56675
Zenny
27115
ออนไลน์
12055 ชั่วโมง
ขอบคุณครับ/ขอให้สุขภาพแข็งแรงไวไวนะครับ

แสดงความคิดเห็น

ขอบคุณจ้า  โพสต์ 2022-11-21 14:31

นายกองค์การนักศึกษา

โพสต์
4949
พลังน้ำใจ
37090
Zenny
39099
ออนไลน์
4656 ชั่วโมง

ประธานนักศึกษา

โพสต์
1658
พลังน้ำใจ
8979
Zenny
13444
ออนไลน์
560 ชั่วโมง
อ่านเพลินครับ ตรงช่วงเทศกาลลอยกระทงด้วย
คุณมิน พักผ่อนเยอะๆนะครับ ขอให้เป็นปกติไวๆ

แสดงความคิดเห็น

ขอบคุณจ้า♥  โพสต์ 2022-11-21 14:31

ประธานนักศึกษา

โพสต์
379
พลังน้ำใจ
7069
Zenny
5211
ออนไลน์
931 ชั่วโมง
มาแล้วมาแล้วนึกว่าจะทิ้งกันละ กำลังจะไปพิมพ์ถามเลย
ขอบคุณครับ

นึกถึงหน้าหนาวเมื่อก่อนจริงๆๆ มันหนาวมากแต่ก็มีความสุข เวลาอาบน้ำก็ต้องต้มอาบ เพราะเป็นคนเดียวในบ้านที่ไม่ชอบอาบน้ำเย็น 5555555 ชอบอากาศหนาว แต่ชอบอาบน้ำอุ่น วิธีแก้ในปัจจุบันคือช่วงหน้าหนาวเราก็จะแพลนไปเที่ยวญี่ปุ่นแทน

แสดงความคิดเห็น

หุย อิจฉาเนอะได้ไปเที่ยวญี่ปุ่นด้วย นี่ไม่กล้าไปสักที พอคำนวณอะไรต่างๆแล้ว ค่าใช้จ่ายแพงมั๊ก 5555555  โพสต์ 2022-11-21 14:32

นายกองค์การนักศึกษา

โพสต์
356
พลังน้ำใจ
23377
Zenny
2598
ออนไลน์
22545 ชั่วโมง

มาเฟียคุมคณะ

โพสต์
18293
พลังน้ำใจ
89563
Zenny
49341
ออนไลน์
12700 ชั่วโมง
ขอบคุณครับ

นายกองค์การนักศึกษา

โพสต์
1533
พลังน้ำใจ
23005
Zenny
18393
ออนไลน์
3427 ชั่วโมง
ยังคงสนุกเหมือนเดิม

แสดงความคิดเห็น

ขอบคุณจ้า  โพสต์ 2022-11-21 14:32

มาเฟียคุมคณะ

โพสต์
7479
พลังน้ำใจ
53068
Zenny
292691
ออนไลน์
6362 ชั่วโมง

นายกองค์การนักศึกษา

โพสต์
4371
พลังน้ำใจ
25808
Zenny
291
ออนไลน์
3359 ชั่วโมง
ขอบคุณครับ หายไวๆ

แสดงความคิดเห็น

ขอบคุณจ้า  โพสต์ 2022-11-21 14:32

นายกองค์การนักศึกษา

โพสต์
5669
พลังน้ำใจ
39377
Zenny
25220
ออนไลน์
2800 ชั่วโมง
นึกถึงพลุที่สมัยเด็กเคยเล่นเหมือนกันนะ สวยดี ชอบพลุโอ่งมาก พอโตขึ้นมาถึงได้รู้ว่ามันเสี่ยงเกินนะสำหรับบ้านในกรุงเทพ บ้านติดๆกันถ้ามีไหม้นี่คงไม่เหลือ

แสดงความคิดเห็น

พลุโอ่งพุ่งสูงจริง คือเห็นตอนแรกนั้นว้าวมาก ไม่คิดว่ามันจะสูงขนาดนั้น สูงถึงหลังคาบ้านชั้นสองอ่ะ 555555  โพสต์ 2022-11-21 14:33

มาเฟียคุมคณะ

โพสต์
11613
พลังน้ำใจ
65793
Zenny
10284
ออนไลน์
14219 ชั่วโมง
ขอบคุณมากนะครับ

มาเฟียคุมคณะ

โพสต์
9259
พลังน้ำใจ
60017
Zenny
26686
ออนไลน์
9581 ชั่วโมง
สนุกดีครับ

แสดงความคิดเห็น

ขอบคุณจ้า  โพสต์ 2022-11-21 14:33

มาเฟียคุมคณะ

โพสต์
18030
พลังน้ำใจ
85214
Zenny
34379
ออนไลน์
3664 ชั่วโมง
ขอบคุณนะครับ

นายกองค์การนักศึกษา

โพสต์
3061
พลังน้ำใจ
30103
Zenny
3878
ออนไลน์
2167 ชั่วโมง
ตัวละครลับมาแล้ว ใครกันกะเทยคนนั้น

แสดงความคิดเห็น

อ๋อ พี่คนนั้น คนเดียวกันกับที่เคยเล่าไปใน พี่ยักษ์ 16.2 อ่ะจ้า คนเดียวกันเลย 55555  โพสต์ 2022-11-21 14:34

นายกองค์การนักศึกษา

โพสต์
126
พลังน้ำใจ
16740
Zenny
7448
ออนไลน์
2269 ชั่วโมง
รักษาสุขภาพด้วยน๊า  หายไปบ้างไม่เป็นไร แฟนๆ รอได้   /  มีตัวละครเพิ่มมาอีก  รออ่านต่อเลยนะเนี้ย

แสดงความคิดเห็น

ขอบคุณจ้า / ลองกลับไปอ่านพี่ยักษ์ตอนที่ 16.2จิ คนนั้นแหละ 555555  โพสต์ 2022-11-21 14:34
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ลงชื่อเข้าใช้ | สมัครเข้าเรียน

รายละเอียดเครดิต

A Touch of Friendship: สังคมจะน่าอยู่ เมื่อมีผู้ให้แบ่งปัน ฝากไวเป็นข้อคิดด้วยนะคะชาวจีโฟกายทุกท่าน
!!!!!โปรดหยุด!!!!! : พฤติกรรมการโพสมั่วๆ / โพสแต่อีโมโดยไม่มีข้อความประกอบการโพส / โพสลากอักษรยาว เช่น ครับบบบบบบบบ, ชอบบบบบบบบ, thxxxxxxxx, และอื่นๆที่ดูแล้วน่ารำคาญสายตา เพราะถ้าท่านไม่หยุดทีมงานจะหยุดท่านเอง
ขอความร่วมมือสมาชิกทุกท่านโปรดโพสตอบอย่างอื่นนอกเหนือจากคำว่า ขอบคุณ, thanks, thank you, หรืออื่นๆที่สื่อความหมายว่าขอบคุณเพียงอย่างเดียวด้วยนะคะ เพื่อสื่อถึงความจริงใจในการโพสตอบกระทู้ และไม่ดูเป็นโพสขยะ
กระทู้ไหนที่ไม่ใช่กระทู้ในลักษณะที่ต้องโพสตอบโดยใช้คำว่าขอบคุณ เช่นกระทู้โพล, กระทู้ถามความเห็น, หรืออื่นๆที่ทีมงานอ่านแล้วเข้าข่ายว่า โพสขอบคุณไร้สาระ ทีมงานขอดำเนินการตัดคะแนน และ/หรือให้ใบเตือนสมาชิกที่โพสขอบคุณทันทีที่เจอนะคะ

รูปแบบข้อความล้วน|โทรศัพท์มือถือ|ติดต่อลงโฆษณา|จีโฟกายดอทคอม


ข้อความที่ท่านได้อ่านในเว็บจีโฟกายดอทคอมนี้ เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชน และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ หากท่านพบเห็นข้อความใดๆ ที่ขัดต่อกฎหมาย และศิลธรรม ไม่เหมาะสมที่จะเผยแพร่ ท่านสามารถแจ้งลบข้อความได้ที่ Link “แจ้งลบโพสนี้” ที่มีอยู่ใต้ข้อความทุกข้อความ หรือ ลืมพาสเวิดล๊อกอิน/ลืมชื่อที่ใช้สมัคร หรือข้อสงสัยใดๆแจ้งมาที่ G4GuysTeam[at]yahoo.com ขอขอบพระคุณที่ให้ความร่วมมือ

กรณีที่ข้อความ/รูปภาพในกระทู้นี้จัดสร้างโดยผู้ลงข้อมูลเอง ลิขสิทธิ์จะเป็นของผู้ลงข้อมูลโดยตรง หากจะทำการคัดลอก/เผยแพร่ ต้องได้รับอนุญาตจากผู้ลงข้อมูลก่อนนะคะ หรือลงที่มาไว้ด้วยค่ะ

©ขอสงวนสิทธิ์คอนเซ็ปต์,คำอธิบาย,หัวข้อ/หมวดหมู่เว็บ ห้ามลอกเลียนแบบ คิดเอาเองนะคะอย่าเอาแต่ลอก

GMT+7, 2024-5-6 08:55 , Processed in 0.134340 second(s), 39 queries .

Powered by Discuz! X3.1 R20140301, Rev.31

© 2001-2013 Comsenz Inc.

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้